เสียง
ดูภายนอกกันหนำใจไปแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลามาดูสรรพคุณทางเสียงกันบ้าง Senheiser RS-170 ตัวนี้ไม่ใช่ Wireless Headphone ขี้ๆ อย่างหูฟังไร้สายจีนแดงที่มีวางขายเกลื่อนคลองถมนะครับ เพราะเค้าใช้ระบบ Kleer Digital Wireless Headphone System ซึ่งโด่งดังมากในการส่งสัญญาณเสียงแบบไร้สาย โดยอัตราการรับส่งข้อมูลนั้นรวดเร็วในระดับที่เทียบเท่ากับการอ่านข้อมูลจากแผ่น CD เลยทีเดียว ทำให้สัญญาณเสียงที่ได้นั้นมาครบทุกเม็ดไม่มีตกหล่น
ว่าแล้วเราก็ทำการเสียบสายเพื่อตระเตรียมกับโดยการนำแจ็ค 3.5 mm เสียบเข้ากับอุปกรณ์ที่มีช่องต่อแบบเดียวกัน(หากไม่มีก็ให้ใช้หัวแปลง Analog to 3.5 mm ทดแทนได้ครับ) แล้วก็ทำการยกหูขึ้นมากดปุ่มเปิดก็สามารถฟังเสียงได้ทันทีครับ เบื้องต้นนั้นผมจะขอวอร์มหูของตัวผมเองคร่าวๆ ด้วยแทร็คจากแผ่น Bird 20th Memory ที่เป็นเพลงพี่เบิร์ดในเวอร์ชั่นอะคูสติกที่บันทึกมาได้ละเมียดละไมแผ่นนึงเลยทีเดียว
ระหว่างการทดสอบนี้ผมก็ได้ทำการเดินรอบบ้านเพื่อทำกิจกรรมทั่วไปอย่างการกวาดบ้าน,ถูบ้าน แม้กระทั่งไปซักผ้าก็ไม่พบการตกหล่นของสัญญาณแต่อย่างใด ซึ่งก็พอจะสันนิษฐานคร่าวๆ ได้ว่าสัญญาณที่ส่งออกมานั้นสามารถทะลวงผนังปูนที่มีความหนาในระดับนึงได้เป็นอย่างดีครับ นอกจากนี้ยังมีระยะทำการที่ค่อนข้างกว้างเลยทีเดียว 3-7 เมตรนี่ผมว่าสบายๆ ไม่ตะกุกตะกักกระอักกระอ่วมแน่นอน
หลังจากลองของเรื่องความแรงของสัญญาณได้สักพัก พอให้ไดร์เวอร์ได้อุ่นเครื่องกำลังดี ผมก็เริ่มหยิบแผ่นเพลงออดิไฟล์มาเปิดทดสอบกันเลย เริ่มด้วยแทร็คขาประจำ Guess you had to be there ของคุณป้า Janis Ian จากอัลบั้ม Breaking Silence มาฟังเสียงกลองกระเดื่องตึ๊บตั๊บกันสักหน่อย ซึ่งผลที่ออกมาก็พบว่า RS-170 ตัวนี้ให้เสียงที่ไม่ธรรมดาเลยนะครับสำหรับหูฟังแบบไร้สาย เบสกระชับมีความแรงกำลังดีติดฟุ้งนิดหน่อย แหลมไม่สว่างโร่ แต่ก็ไม่ได้หม่นหมอง ฟังเพลินพอสมควรเลยครับ
นอกเหนือจากเพลงแนวร็อคนิดๆ ของ Janis Ian แล้ว ผมยังได้ทดสอบกับแทร็คเพลงอื่นๆ หลากหลายแนวตั้งแต่เพลงร้องออดิโอไฟล์หวานซึ้ง ยันเมทั่ลหักดิบโหดเหี้ยมกระเทียมผัดไข่ ก็พบว่า RS-170 ตัวนี้ตอบสนองได้หลากหลายแนวเพลงจริงๆ ครับ ฟังสนุกไม่ขี้เหร่เลยทีเดียวกับหูฟังไร้สายตัวนี้ ทำได้ยอดเยี่ยมกว่าแบบมีสายของบางค่ายเสียอีก รายละเอียดของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้ราบรื่น ยังกับว่ามันมีสายยังไงอย่างนั้น นับว่าเป็นหูฟังที่สะดวกสบายตัวหนึ่งของวงการนี้เลยแหละครับ
ลูกเล่น
นอกเหนือจากความพิเศษไร้สายของ Senheiser RS-170 แล้ว หูฟังตัวนี้ยังมีฟีเจอร์เด็ด ไว้สร้างความประหลาดใจให้กับผมอีกสองอย่างตามที่ได้เกริ่นไว้ในหน้าที่แล้ว นั่นก็คือปุ่ม “SURR” และ “BASS” ที่อยู่บนไดร์เวอร์ข้างขวาของหูฟังตัวนี้นั่นเองครับโดยปุ่ม “SURR” จะทำหน้าที่ในการเปิด-ปิด ระบบจำลองเสียงแบบเซอร์ราวด์ และปุ่ม “BASS” จะเป็นการใช้งานฟีเจอร์เพิ่มพลังเสียงเบสให้ตึ่มตึ๊มสะใจมากยิ่งขึ้น ว่าแล้วก็มาลองกันก่อนเริ่มด้วยระบบจำลองเสียงเซอร์ราวด์ก่อนเลยครับ
แรกฟังหลังจากการกดใช้งานปุ่ม “SURR” แล้ว จะเป็นการสร้างบรรยากาศโอบล้อมเราเข้ามาครับ เสมือนเราถูกล้อมไว้ด้วยวงดนตรีและนักร้องจากทุกทิศทาง ฟังแล้วก็ได้ความรู้สึกแปลกใหม่ไปอีกแบบ กระนั้นแล้วผมจึงเกิดความคิดว่าถ้าลองนำไปใช้กับเกมส์จะเป็นอย่างไร ว่าแล้วก็ปิด Foobar2000 บนคอมพิวเตอร์ แล้วเปิด Battlefield 3 แทนเลยครับ ผลที่ได้รับนั้นน่าประทับใจเลยทีเดียว ได้บรรยากาศสนามรบขึ้นมาทันใด แม้จะไม่ถึงขนาดกระสุนวิ่งผ่านหัว แต่ก็เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมส์ให้เราได้เป็นอย่างดี
ว่าแล้วก็มาทดสอบปุ่ม “BASS” กันต่อเลยดีกว่า โดยหลังจากกดปั๊บ ปริมาณเบสมันเอ่อขึ้นมาปุ๊บ ! น้ำในหูสั่นสะเทือนเป็นจังหวะดนตรีเลยทีเดียว ถูกใจชาวประชาคมนิยมการถูกกระทุ้ง(หู) อย่างแน่นอน ฟังแล้วมันสนั่นสั่นไหวเป็น Beats ไปหมด ยิ่งไปกว่านั้นด้วยความพิเรนผมจึงเล่นเกมส์พร้อมกดทั้งสองปุ่ม “SURR” และ “BASS” พร้อมกันแน่นอนว่าสนามรบของผมมันได้ความสะใจเต็มๆ ระเบิดลูกใหญ่แบบน้ำตาจะไหล เอาเป็นว่าถ้าไม่ติดต้องมาเขียนรีวิว ผมคงยังอยู่ในโลกสงครามจำลองนั้นอีกหลายวันแน่นอน
อย่างไรก็ตามการเปิดใช้ฟีเจอร์เหล่านี้จะทำให้ความเป็นธรรมชาติเดิมๆ ของหูฟังถูกลดทอน หรือเติมแต่งจนเกินจินตนาการไป ดังนั้นเบื้องต้นสำหรับหลายๆ ท่านที่ฟังเพลงเป็นหลักนั้น ควรจะปิดไว้ก่อนจะดีกว่าครับ เพื่อให้ไดร์เวอร์ถ่ายทอดเสียงที่บริสุทธิ์ 100% ให้แก่ท่านโดยไม่ผิดเพี้ยนครับผม
