เรื่องย่อ : เกรกอรี่ (รับบทโดย Jeff Bridges) อาจารย์หมอผีผู้มีชื่อเสียงโด่งดังต้องตามหาบุตรคนที่ 7 เพื่อมาเป็นผู้ช่วยในการปราบแม่มดร้าย ปิศาจต่างๆ ที่ต้องการทำลายล้างโลกมนุษย์ จนกระทั่งพบกับ ทอม วอร์ด (รับบทโดย Ben Barnes) บุตรคนที่ 7 ที่มีชีวิต และเติบโตอยู่ท่ามกลางทุ่งนา ป่าเขา ซึ่งทำอะไรไม่เป็นเลยนอกจากการเลี้ยงหมู ทอม วอร์ดต้องเผชิญกับการท้าทายครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกฝน การเผชิญกับปิศาจ และความรักกับแม่มดที่ยากให้ตัดสินใจ
ความจริงแล้วเนื้องเรื่องของ Seventh Son ดัดแปลงมาจากนิยายชุด The Spook’s ซึ่งถ้าใครเคยอ่านนิยายชุดนี้แล้วย่อมทำให้อยากดูภาพยนตร์เรื่องนี้ไปตามๆ กัน แต่ถ้าใครไม่เคยอ่านนิยายมาก่อนก็สามารถไปดูได้ครับ เพราะเนื้อเรื่องไม่มีอะไรสลับซับซ้อน มีความเป็นแฟนตาซีสูงมาก สำหรับใครที่เป็นขาแฟนตาซีน่าจะดูได้โดยไม่”หลับคาโรง”
วิจารณ์!! (ไม่สปอย) ด้วยความที่เรื่องนี้อิงมาจากนิยายสำหรับผู้ที่เคยอ่านมาก่อนก็อดไม่ได้ที่จะให้ไปเปรียบเทียบ ซึ่งก็แน่นอนชุดนิยาย The Spook’s นั้นมีมากกว่า 7 เล่ม ลองคิดดูสิครับการที่ผู้กำกับนำเนื้อหาทุกส่วน ทุกตอนมายำรวมกันให้จบภายใน 102 นาทีมันจะเละเทะขนาดไหน?? และด้วยความเละแบบนี้เองทำให้ผู้ชมอย่างตัวกระผมที่ไม่เคยอ่านนิยายชุดนี้มาก่อน ก็สามารถดูออกได้ไม่ยาก เพราะเนื้อหาต่างๆ ไม่มีที่มาที่ไปอะไรเลย อย่างจุดสำคัญเรื่อง “บุตรคนที่ 7” ในเนื้อเรื่องก็มีการเฉลยเพียงแค่ บุตรคนที่ 7 จะมีความแข็งแรงกว่าคนอื่นก็เท่านั้น ซึ่งถ้าพูดกันตามภาพยนตร์แฟนตาซีแล้ว ความสามารถพิเศษที่ ทอม วอร์ด แสดงออกมาแทบไม่มีอะไรดีกว่าคนทั่วไปเลย โดยเฉพาะถ้าเทียบความสามารถของฝั่งแม่มด กับตัวเอกที่เพิ่งจะเริ่มหัดเดินแล้วไม่มีอะไรมาอธิบายความเก่งกาจของ ทอม วอร์ดในช่วงหลังได้เลยจริงๆ
หากไม่ดูจากเนื้อเรื่องและตัวบทแล้ว ด้านอื่นๆ ของภาพยนตร์เรื่อง Seventh Son ก็นับว่าอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ ทั้งสเปเชี่ยลเอฟเฟกต์ หน้าตาของตัวละครที่สามารถดึงดูดผู้ชมได้ไม่ยาก การเนรมิตรฉาก ชุดคอสตูมต่างๆ ถือว่าเข้ากับยุคสมัย เมื่อนำข้อดีรวมกับข้อเสีย จึงถือว่าภาพยนตร์เรื่อง Seventh Son จัดอยู่ในทำเนียบดูก็ได้ ไม่ดูก็ไม่เป็นไร เพราะภายใต้แนวคิดของผู้กำกับก็ยังสามารถเล่าเรื่องให้ไปในทิศทางที่ต้องการจะสื่อได้ แม้ว่าหลายอย่างจะไม่มีเหตุผลมารองรับในการกระทำ รวมไปถึงความสามารถของตัวละครต่างๆ ก็ตาม
คะแนน 5/10
