03 Jul 2020
Review

รีวิว Sony 55X8000H 4K HDR Android TV รุ่นคุ้มค่า ภาพดี ลูกเล่นความบันเทิงเพียบ !!


  • tormoo

ภาพ

Sony TV ตั้งแต่รหัส G ปี 2019 เป็นต้นมา จะให้โหมดภาพมาทั้งหมด 7 โหมด ให้เลือกตามแต่รสนิยม แต่ถ้าเน้นโหมดภาพที่ให้ความเที่ยงตรงสูง สำหรับใครที่ต้องการรับชมภาพยนตร์เน้นสีสันใกล้เคียงมาตรฐานอ้างอิง แนะนำ Custom หรือ Cinema ระดับความสว่างประมาณ 420 nits ไม่ด้อยกว่าโหมดอื่น สามารถใช้งานในห้องรับแขกได้ความสว่างกำลังดี หากใช้งานในห้องมืดหรือห้องที่คุมแสงรบกวน อาจต้องปรับลดความสว่างลงตามความเหมาะสมเพื่อให้รับชมได้อย่างสบายตา หรือมีอีกทางเลือก คือ เปิดใช้ “Light Sensor” ให้ทีวีปรับความสว่างโดยอัตโนมัติอิงตามสภาพแสงแวดล้อม  

กรณีที่จะใช้ X8000H เล่นเกมคอนโซล หรือเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อทำงาน-เล่นเกมแทนจอมอนิเตอร์ แนะนำโหมด Game และ Graphics เนื่องจากมีระดับ “Input lag” ต่ำกว่า ในขณะที่ดุลสีเที่ยงตรงไม่ต่างกับโหมด Custom/Cinema 

หากต้องการให้ 55X8000H ถ่ายทอดภาพของภาพยนตร์-ซีรี่ส์สำหรับโหมด Custom และ Cinema ด้วยความเที่ยงตรงสูงสุด แนะนำให้ Off ตัวเลือก Adv. Contrast Enhancer ผลที่ได้ คือ การแสดงรายละเอียดส่วนมืดและสว่างจะใกล้เคียงกับภาพในสตูดิโอมากขึ้น เนื่องจากระดับ Gamma จะใกล้เคียงมาตรฐานอ้างอิงสำหรับการรับชมภาพยนตร์ SDR (ITU-R BT.1886) มากยิ่งขึ้น 

เมื่อ Off ตัวเลือก Adv. Contrast Enhancer และทำการตรวจวัดดู พบว่า โหมด Custom/Cinema ให้ความเที่ยงตรงของสมดุลสีได้ดีมาก ค่าความผิดเพี้ยน (Grayscale Avg dE) ต่ำเพียง 1.4 ขอบเขตสีก็ทำได้เที่ยงตรงและครอบคลุม >100% ของมาตรฐาน Rec.709/sRGB หากจะติงก็มีเพียงบางจุด คือ การแสดงรายละเอียดเงามืด (Shadow Details) จะดูจมไปสักนิดหนึ่งสำหรับค่า Default ที่ตั้งมา แต่ก็สามารถแก้ไขได้โดยการปรับตัวเลือก Gamma เพิ่มขึ้น 1 – 2 สเต็ป และในส่วนของ Black Level จะยังทำได้ไม่ดำลึกเท่าไหร่ เนื่องจากรุ่นนี้ยังไม่มีระบบควบคุม LED Backlight แบบ Local-Dimming แต่โดยรวมยังนับว่าให้ผลลัพธ์โดดเด่นสำหรับทีวีระดับราคานี้
X8000H รองรับการปรับภาพละเอียด 10-point White Balance แต่จะยังไม่รองรับการปรับ Color Management System (CMS) อย่างไรก็ดีหลังดำเนินการไฟน์จูนในส่วนของ 2-point White Balance และชดเชยระดับ Gamma แล้ว พบว่า ความเที่ยงตรงของภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก ค่าความผิดเพี้ยน (Grayscale Avg dE) ลดต่ำลงมาอยู่ที่ 0.5 เท่านั้น ! หากเป็นทีวีเจนเนอเรชั่นก่อน การจะได้ผลลัพธ์แบบนี้จะต้องเป็นทีวีรุ่นที่มีราคาสูงกว่าพอตัว
X8000H ยังมาพร้อมฟีเจอร์ Motionflow จากชิพประมวลผล X1 ซึ่งสามารถแทรกเฟรมภาพเคลื่อนไหวได้ หากปรับระดับ Smoothness อย่างเหมาะสม (1 – 2) จะช่วยให้ภาพเคลื่อนไหวของคอนเทนต์ที่มีอัตราเฟรมเรตต่ำดูมีความต่อเนื่องไหลลื่นขึ้นได้ ในขณะที่ไม่ทำลายความเป็นธรรมชาติของภาพยนตร์ต้นฉบับ
อีกหนึ่งความโดดเด่นของรุ่น X8000H คือ การแสดงผลฟอร์แม็ต Dynamic Metadata HDR ขั้นสูงอย่าง Dolby Vision นอกเหนือจาก Static Metadata HDR อย่าง HDR10 และ HLG ที่เดิมรองรับในรุ่น X8000G
ผล Lab Test พบว่า โหมดภาพ HDR ก็ให้ความเที่ยงตรงอยู่ในเกณฑ์ดีเช่นเดียวกัน ทดลองรับชมภาพยนตร์จาก Netflix แม้ X8000H ยังไม่มี “Netflix Calibrated Mode” (คุณสมบัตินี้จะมีเฉพาะ Sony TV รุ่นท็อปๆ) แต่การรับชมร่วมกับโหมดภาพ Custom/Cinema (SDR, HDR10) หรือ Dolby Vision Dark (Dolby Vision) ก็ให้ผลลัพธ์ที่ดี ใกล้เคียงมาตรฐานอ้างอิง
ทั้งนี้โหมดภาพ HDR ของ X8000H ที่ให้ระดับความสว่างสูงสุด คือ Game/Graphics โดยมีระดับ HDR Peak Brightness (10% Window) ที่ 580 nits (สูงกว่า Vivid ที่ 554 nits เสียอีก) ในขณะที่ Custom/Cinema ความสว่างจะเพลาลงมาอยู่ที่ 500 nits อันเป็นผลจากตัวเลือก Adv. Contrast enhancer ที่ค่าโรงงานตั้งไว้ที่ Low หาก Off ตัวเลือกนี้ ความสว่าง HDR Peak Brightness ก็จะทำได้ไม่ต่างกับโหมด Game/Graphics

X8000H ใช้เทคโนโลยีจอภาพแบบ Triluminos จึงให้ขอบเขตสีได้กว้าง โดย HDR Color Space ทำได้ครอบคลุม 87.86/93.97% ของมาตรฐาน DCI-P3 (xy/uv) หรือเท่ากับ 63.73/70.35% Rec2020 (xy/uv)

ข้อดีของ Sony TV หลายรุ่น คือ หลังจากดำเนินการปรับภาพโหมด SDR แล้ว จะพบว่า โหมดภาพ HDR ก็มีความเที่ยงตรงที่ดีขึ้นตามไปด้วย แนวทางนี้ใช้ได้กับรุ่น X8000H เช่นกัน ค่าความผิดเพี้ยน (dE) ต่ำลงทั้ง Grayscale และ Colorspace เป็นผลลัพธ์ที่น่าสนใจมากทีเดียวสำหรับทีวีระดับราคานี้