15 Jul 2019
Review

รีวิว Sony 65A8G 4K HDR OLED TV คุ้มค่ายิ่งกว่าเดิม ด้วยราคาเปิดตัวต่ำกว่า A8F


  • ชานม

เสียง

ตั้งแต่ผลิตและจำหน่าย 4K OLED TV มาจนปัจจุบันเข้าสู่เจนเนอเรชั่นที่ 3 ทาง Sony ยังยึดมั่นใช้งานนวัตกรรมระบบเสียงที่เรียกว่า Acoustic Surface เสมอมา โดยอาศัยติดตั้งอุปกรณ์กำเนิดความถี่เสียงผ่านแรงสั่นสะเทือนพื้นผิวจอภาพที่เรียกว่า Actuator

โดยในรุ่น A8G ติดตั้งภาคขยาย 10 วัตต์ จำนวน 4 ชุด (รวม 40 วัตต์) โดยแยกสำหรับ Actuator 2 ชุด จัดวางฝั่งซ้ายและขวาของจอภาพ เพื่อให้สามารถถ่ายทอดมิติเสียงสเตริโอได้เช่นเดียวกับ A8F แต่จุดที่แตกต่าง คือ Woofer คู่ ที่ทำหน้าที่ถ่ายทอดเสียงย่านต่ำ ไม่ได้ติดตั้งในตำแหน่งที่หันออกทางด้านหลังที่ระดับความสูงเดียวกับ Actuator แบบในรุ่น A8F ผมเองก็ไม่มั่นใจว่าตำแหน่ง Woofer คู่ ของ A8G อยู่ที่ตำแหน่งไหน (เพราะมองไม่เห็นชัดๆ) แต่ที่แน่ๆ คือ ท่อ Bass-reflex คู่ อยู่ที่ด้านล่างจอ ซึ่งถ้าอ้างอิงการจัดวางกับขาตั้งแบบทีวีอยู่แนบกับพื้น ฟังดูเสียงเบสเหมือนจะออกมาจากส่วนล่าง

จากข้อสังเกตนี้ พบว่า เสียงย่านกลางสูงของ A8G แม้ว่าจะออกมาจากกลางจอ (ตามตำแหน่งของ Actuator) แต่เสียงย่านต่ำฟังกระจุกตัวอยู่ที่ส่วนล่างของจอภาพมากกว่า ในแง่ความกลมกลืนของย่านเสียง A8G จึงเป็นรอง A8F อยู่เล็กน้อย อย่างไรก็ดีประเด็นนี้อาจให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างไปตามลักษณะการติดตั้ง หากปรับขาตั้งที่เป็นรูปแบบยกทีวีขึ้นเล็กน้อย หรือนำทีวีขึ้นแขวนผนัง ผลลัพธ์ทางเสียงอาจจะต่างไปจากนี้

ในแง่ดุลเสียง เข้าใจว่าขนาดของ Woofer จะเล็กลง ปริมาณเบสจึงไม่มากเท่ากับรุ่น A8F แต่ยังถือว่าพอเพียงต่อการใช้รับชมภาพยนตร์และฟังเพลงได้ ไม่ถือว่าขาดแคลนสำหรับมาตรฐานลำโพงทีวี จุดเด่นของ Acoustic Surface คือ มิติสเตอริโอ การแยกแยะแชนเนลซ้าย-ขวาทำได้ดี เสียงร้อง-เสียงพูดชัดเจน ไม่คลุมเครือและออกมาจากจอภาพโดยตรง จึงให้ความกระจ่างชัดในแง่ของตำแหน่งทิศทางได้ดีกว่าลำโพงทีวีทั่วไป

ลูกเล่นอย่าง ClearAudio+ และ Sound Restoration (DSEE) ยังถือเป็นทางเลือกระบบชดเชยเสียงให้กับแหล่งโปรแกรมที่ผ่านการบีบอัดลดทอนแบนด์วิดธ์ ให้มีคุณภาพเสียงที่น่าฟังขึ้น
ทดสอบฟังก์ชั่น HDMI ARC (Audio Return Channel) โดยเชื่อมต่อกับ AV Receiver ผลลัพธ์ยืนยันได้ว่า A8G สามารถ Pass-through ระบบเสียง Dolby Digital+ และ Dolby Atmos เมื่อรับชม Netflix ได้

สรุป

คุณภาพของภาพเรียกว่าถอดแบบ A8F ของปีก่อน เช่นเดียวกับระบบปฏิบัติการ Android 7.0 ไม่ต่างกัน จุดที่ต่างคงเป็นเรื่องของดีไซน์ แม้วัสดุจะดูไม่พรีเมียมเท่า แต่ฐานตั้งของ A8G สามารถเลือกติดตั้งได้ 2 แบบ เอื้อต่อการใช้งานร่วมกับ Soundbar ได้ลงตัวกว่า ที่สำคัญด้วยราคาตั้งเมื่อเปิดตัว ต่ำกว่า A8F กล่าวได้ว่า A8G ยังคงเป็น OLED TV ของ Sony ที่ให้ความคุ้มค่าในระดับสูงไม่เสื่อมคลาย

ข้อดี Sony 65A8G

1) ฐานตั้งดีไซน์ใหม่ให้ความยืดหยุ่น สามารถสลับรูปแบบการติดตั้งเอื้อต่อการจัดวางใช้งานคู่กับ Soundbar

2) ภาพโดดเด่นดูเป็นธรรมชาติตามสไตล์ Sony ภาพเคลื่อนไหวดี รองรับ Dolby Vision, HDR10 และ HLG

3) Android TV ลูกเล่นหลากหลาย คาดว่าจะได้รับการอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่เร็วๆ นี้

4) ราคาเปิดตัวต่ำกว่า A8F พร้อมรับประกันถึง 3 ปี เช่นเดิม

ข้อเสีย Sony 65A8G

1) วัสดุตกแต่งเพื่อความสวยงามดูพรีเมียมน้อยกว่ารุ่นก่อน

2) ไม่รองรับการไฟน์จูน Color Management System (CMS) แบบละเอียด รวมถึง Auto Calibration ที่ทำได้ในรุ่น A9F

3) ระบบปฏิบัติการ Android ยังเป็นเวอร์ชั่นเก่า 7.0  *****10-07-2019 ได้อัพเดทเป็นเวอร์ชั่น 8.0*****

คะแนน

ดีไซน์ (Design)
8.50
ภาพ 2 มิติ ก่อนปรับภาพ (2D Picture Pre-Calibrated)
8.75
ภาพ 2 มิติ หลังปรับภาพ (2D Picture Post-Calibrated)
9.00
ภาพ 2 มิติ (HDR)
9.25
เสียง (Sound)
8.25
การเชื่อมต่อ (Connectivity)
8.50
ลูกเล่น (Features)
9.00
ความคุ้มค่า (Value)
8.75
คะแนนตัดสิน (Total)
8.7

Sony 65A8G 4K OLED TV

8.7