ดีไซน์ทั่วไปของ Sony MDR-DS7500 ค่อนข้างจะออกมาในแนวเรียบ ๆ นะครับไม่หวือหวาอะไรมาก ลองหยิบหูฟังมาครอบหูดูคร่าว ๆ พบว่าฟองน้ำนิ่มใช้ได้ โครงสร้างโดยรวมออกแบบมาให้ใส่สบายครับ ไม่บีบขมับจนปวดหู แต่ให้ความรู้สึกครอบล้อมอย่างนิ่มนวล ถือว่าไม่แน่นไม่หลวมจนเกินไป แต่ถ้าจะใส่แล้วโยกสะบัดไปตามเสียงดนตรีก็อาจจะต้องหาอะไรมามัดติดกับศีรษะซะก่อนนะครับ เพราะหลุดแน่(ฮา)
อย่างที่ทราบกันในหน้าแรกนะครับว่า MDR-DS7500 เป็นหูฟังเซอร์ราวด์ 7.1 แชนแนล ที่มีตัวถอดรหัส DTS-HD Master Audio และ Dolby TrueHD ภายในตัว เอาตรง ๆนะ ผมรู้สึกว้าวมาก ๆเลยทีเดียวกับหูฟังที่แถมฟีเจอร์ผิดธรรมชาติระดับนี้ หรือจะพูดว่ามันคือความหวังของชาวหอพักที่อยากชมโฮมเธียร์เตอร์ดังลั่น ๆ แต่กลัวจะมีปัญหากับห้องข้างเคียงเลยก็ว่าได้
การเชื่อมต่อซิสเต็มทั่วไปก็จะเป็นไปตามแผนภาพด้านบนเลยนะครับผม ราวกับว่าเรากำลังเชื่อมต่ออยู่กับ AVR ตัวนึงเลยก็ว่าได้ โดยนอกเหนือไปจากสาย HDMI แล้ว เรายังสามารถเลือกที่จะใช้รูปแบบอื่นอย่าง Optical หรือ Analog ได้อีกด้วย
สำหรับการทดสอบนั้นทีมงานได้ทำการต่อเข้ากับ Oppo BDP-95 ตัวเก่งประจำออฟฟิศเช่นเคย พร้อมกับลองฟังเสียง 7.1 กันแบบเน้น ๆ ด้วยภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง Toy Story 3 ที่ถูกบันทึกมาแบบ 7.1 แชนแนล ในฉากเปิดที่เป็นการไล่ล่าระหว่างนายอำเภอวู๊ดดี้กับเหล่าวายร้าย สิ่งแรกที่เราสัมผัสได้ก็คือเสียงที่มีการอ้อมหน้าหลังให้เห็นแบบที่เราไม่เคยได้รับมาก่อนกับการใส่หูฟัง เสียงระเบิดเสียงเบสถูกขับออกมาได้อย่างมีมิติ ทำได้ดีสมกับเป็นเซอรราวด์เฮดโฟนจริง ๆ
นอกเหนือจากฟีเจอร์การถอดรหัสเสียงแบบ HD ทั้งสองแบบแล้ว (DTS-HD Master Audio, Dolby TrueHD) หูฟังตัวนี้ยังมีเอฟเฟ็คเสียงให้เราเลือกใช้เพื่อสร้างอรรถรสในการฟังให้มากขึ้นไปอีกด้วย ซึ่งได้แก่ Cinema, Game และ Voice(Stereo) แต่ละแบบจะให้มิติที่แปลกต่างกันออกไป อย่างเช่น Cinema เมื่อเปิดแล้วจะเป็นการจำลองเสียงให้โอบล้อมมากขึ้น และดันย่านเบสให้อึกทึกขึ้นได้อารมณ์ไปอีกแบบ
อย่างไรก็ตามทีมงานอยากจะแนะนำให้เลือกทดลองฟังแบบไม่ใช้เอ็ฟเฟ็คก่อน เพื่อเป็นการฟังเสียงที่ถูกถ่ายทอดมาแบบเนื้อ ๆ เน้น ๆ ไม่ผ่านการปรุงแต่งใด ๆ ซึ่งจะให้ไดนามิกและโทนัลบาลานซ์ที่ดีกว่าการเปิดใช้งานเอ็ฟเฟ็คจำลองเสียง ถ้าฟังดูแล้วไม่ถูกใจก็ค่อยไปลองเปิดเอ็ฟเฟ็คดูครับ