หากพูดถึงลำโพงจากแบรดน์ Tannoy จากประเทศอังกฤษแล้วน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก เพราะว่าแบรนด์นี้เองถือว่าเป็นที่ขึ้นชื่อในกลุ่มของนักเล่นเครื่องเสียงเลยก็ว่าได้ ซึ่ง Tannoy เองก็มีลำโพงหลากหลายซีรีย์หลากหลายรุ่นให้ได้เลือกใช้งานตามความเหมาะสมและกำลังทรัพย์ของผู้เล่นแต่ละคน
Tannoy Eclipse เป็นลำโพงอีกหนึ่งซีรีย์ที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย เหมาะสำหรับท่านที่กำลังเริ่มต้นหรือกำลังมองหาลำโพงที่มีราคาไม่สูงมากนักมาใช้งานร่วมกับชุดเครื่องเสียงที่ตนมีอยู่ โดย Tannoy Eclipse จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 รุ่นคือ Eclipse One, Eclipse Two, Eclipse Three, Eclipse Mini และ Eclipse Center ซึ่งในวันนี้เราจะนำมารีวิวให้คุณผู้อ่านได้รู้จักกันคือรุ่น Eclipse Three, Eclipse One และ Eclipse Center ที่ค่อนข้างจะเหมาะที่สุดเมื่อนำมาจัดเข้ารวมเป็นชุดเดียวกัน
ราคาของ Tannoy Eclipse ทั้ง 3 รุ่นที่นำมารีวิวจะมีรายละเอียดดังนี้
Tannoy Eclipse Center (Black Oak) ราคา 9,900 บาท
Tannoy Eclipse One (Black Oak) ราคา 9,900 บาท/คู่
Tannoy Eclipse Three (Black Oak) ราคา 19,900 บาท/คู่
และในรีวิวนี้กระผมได้เลือกใช้ลำโพงของซับวูฟเฟอร์ Tannoy รุ่น TS2.10 Subwoofer มาเข้าเช็ตกับลำโพงชุดนี้ด้วย ซึ่งจะมีราคาอยู่ที่ 41,900 บาท
Design – การออกแบบ
หลังจากที่ได้พาคุณผู้อ่านไปทำความรู้จักกับลำโพงของ Tannoy ทั้ง 3 รุ่นในซีรีย์ Eclipse กันไปแล้ว ก่อนที่เราจะได้ไปทดสอบคุณภาพของเสียงกันต้องมาไล่ดูกันที่งานดีไซน์ของลำโพงแต่ละรุ่นกันเสียก่อนว่ามันจะมีหน้าตาดูดีสมกับความเป็น Tannoy หรือไม่? ซึ่งลำโพงในซีรีย์ Eclipse นี้จะมาพร้อมกับงานดีไซน์เรียบๆ สไตล์เมืองผู้ดีอังกฤษ แต่ภายใต้ความเรียบหรูนี้ทาง Tannoy เองย่อมต้องแฝงความตื่นเต้นอันเร้าใจของพลังเสียงไว้อย่างแน่นอน
สำหรับลำโพงคู่แรกที่เราจะมาเริ่มลงรายละเอียดของรูปร่างและหน้ากันก่อนนั้นจะเป็นลำโพงแบบตั้งพื้น (Floorstand Speaker) รุ่น Eclipse Three หรือจะเรียกว่าเป็นพระเอกรีวิวนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเจ้าลำโพงคู่นี้จะเป็นลำโพงคู่หลักที่จะคอยถ่ายทอดเสียงที่ถูกส่งผ่านออกมาจากเครื่อง AV Receiver และแผ่น CD หรือ Blu-ray ที่เราจะนำมาเปิดทดสอบกัน
Eclipse Three เป็นลำโพงแบบตั้งพื้นที่ได้รับการออกแบบให้มีความเคร่งครึมและไม่ได้เน้นความเว้อวังอลังการมากนัก แต่วัสดุที่นำมาประกอบเป็นลำโพงชุดนี้ก็ยังเต็มไปด้วยความพิถีพิถันในการเลือกใช้เนื้อไม้ทางวิศวกรรม หรือไฟเบอร์บอร์ด (Fibreboard) ที่ขึ้นรูปมาจากเส้นใยของเนื้อไม้ ซึ่งมีความละเอียดมากๆ นำมาอัดแน่นจนได้แผ่นไม้ที่มีความหนาแน่นสูงแล้วจึงนำมาประกอบเป็นตู้ลำโพงอย่างที่เราได้เห็นกันนี่แหละ
โดยตัวของไดร์เวอร์ Mid Bass จะถูกติดตั้งมาบนลำโพงของ Tannoy ในซีรีย์ Eclipse นี้ทั้งหมดจะถูกถักทอขึ้นรูปมาจากเยื่อกระดาษอย่างพิถีพิถัน ส่วนตัวไดร์เวอร์ทวีตเตอร์จะถูกขึ้นรูปจากวัสดุที่เป็น Nitro-urethane และโพลีเอสเตอร์ที่ทำงานร่วมกับระบบแม่เหล็กแบบ Neodymium magnet
ทั้งนี้เจ้า Eclipse Three ยังสามารถให้กำลังขับได้สูงถึง 240 วัตต์ต่อคู่กันเลยทีเดียว ในส่วนของการรองรับความต้านทานจะอยู่ที่ 8 โอห์ม ด้วยโครงสร้างของไดร์เวอร์และตัวตู้ลำโพงทำให้รองรับการถ่ายทอดเสียงในย่านความถี่ตั้งแต่ 38 Hz ไปจนถึง 32 kHz กันเลยทีเดียว
Eclipse Center เป็นลำโพงเซ็นเตอร์ที่มีกำลังขับสูงสุดที่ 180 วัตต์ และสามารตอบสนองเสียงได้ตั้งแต่ย่านความถี่ 67 Hz ไปจนถึง 32 kHz เลยนะ ส่วนของการรองรับความต้านทานจะอยู่ที่ 8 โอห์ม ซึ่งหากนำมาใช้สำหรับรับชมภาพยนตร์ก็น่าจะให้เสียงสนทนาของตัวละครได้ชัดแจ๋วแน่ๆ
โดยวัสดุที่ใช้ประกอบตู้ลำโพงจนเป็นรูปเป็นร่างของเจ้า Eclipse One รวมทั้ง Eclipse Center และ Eclipse Three อย่างที่เราเห็นกันนี้ล้วนแล้วทำมาจากไฟเบอร์บอร์ด (Fibreboard) ที่ไม่ใช้ไม้อัดธรรมดาๆ เหมือนลำโพงทั่วไป แต่ว่ามันเป็นไม้ทางวิศวกรรมที่ถูกขึ้นรูปมาจากเส้นใยไม้ที่มีความละเอียดมากๆ จึงทำให้มีมวลของเนื้อไม้มีความแน่นและแข็งแรงเป็นพิเศษนั่นเอง ทั้งนี้ที่ด้านหลังของตู้ลำโพงยังเป็นแบบ Bass Reflex หรือมีท่อเปิดเพื่อใช้สำหรับคายเบสออกทางด้านหลังของตู้ลำโพง
ขุมพลังของ Eclipse One ทาง Tannoy ได้เลือกใช้ไดร์เวอร์แบบ Mid Bass ขนาด 5 นิ้วที่สามารถถ่ายทอดได้ทั้งเสียงกลางและเสียงในย่านความถี่ต่ำ พร้อมทั้งยังเสริมความเฟี้ยวฟ้าวในย่านของความถี่สูงด้วยไดร์เวอร์ทวีตเตอร์ขนาด 1.1 นิ้วที่มีลักษณะของไดร์เวอร์เป็นแบบโดม
ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถให้พละกำลังได้สูงถึง 140 วัตต์ต่อคู่ แถมยังรองรับความต้านทานได้สูงถึง 8 โอห์ม และยังให้การตอบสนองได้ตั้งแต่เสียงในย่านความถี่ระดับ 55 Hz ไปจนถึง 32 kHz
ซึ่งจะเห็นได้ว่างานดีไซน์ของลำโพง Tannoy ในซีรีย์ Eclipse แต่ละรุ่นนั้นจะมีแนวทางที่สอดคล้องกันด้วยการเลือกใช้วัสดุและสีสันของตัวตู้ลำโพงที่เหมือนกัน ซึ่งทำให้เมื่อเรานำลำโพงทั้งรุ่น Eclipse Three, Eclipse Center และ Eclipse One มาจัดเข้าชุดเป็นเซ็ตเดียวกันก็จะมีความกลมกลืนโดยที่ไม่มีลำโพงคู่ไหนโดดเด่งออกมาเลยแม้แต่น้อย