21 Oct 2019
Review

รีวิว TCL 55P8S ทีวี Android 9.0 รุ่นคุ้มค่า ดีไซน์โดดเด่น มีขอบเขตสีกว้างด้วยการรองรับ WCG


  • lcdtvthailand
รีวิว TCL 55P8S ทีวี Android 9.0 รุ่นคุ้มค่า ดีไซน์โดดเด่น มีขอบเขตสีกว้างด้วยการรองรับ WCG

แฟนๆ เว็บไซต์ LCDTVTHAILAND คงได้เห็นรีวิวทีวี TCL รุ่น P8 ผ่านตากันมาบ้างแล้ว ทีวีรุ่นนี้ก็สร้างชื่อเสียงจากความเป็นทีวีรุ่นคุ้มค่าราคาประหยัดได้อย่างรวดเร็ว จากลูกเล่นด้านภาพและระบบสมาร์ททีวีที่เป็น Android ทาง TCL ก็ได้ส่งรุ่นต่อยอด “TCL P8S” ที่อัพเกรดความสามารถให้มีความทันสมัยขึ้น แต่ยังคงความคุ้มค่าได้อย่างเต็มเปี่ยม มาให้ทางทีมงานได้สัมผัสคุณภาพและทำการทดสอบกันแบบเข้มข้น

โดยจุดแตกต่างหลักๆ ไม่ใช่แค่ชื่อรุ่น อันดับแรกอยู่ที่ระบบ Android TV ที่รองรับเวอร์ชั่นล่าสุด 9.0 ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายและสะดวกสบายมากขึ้น เข้าถึงได้ทุกคอนเท็นต์ ถัดมาคือดีไซน์ที่แตกต่างแบบชัดเจน ใส่ใจในความเป็นศิลปะมากกว่าเดิม และสุดท้ายคือลูกเล่นด้านภาพ เพิ่มการรองรับ Wide Color Gamut กับ HDR10+ สร้างความน่าสนใจในราคาระดับรุ่นเริ่มต้นเลย

สเปคและฟีเจอร์คร่าวๆ ของ TCL 55P8S
– เป็นสมาร์ททีวี 4K HDR ระบบ Android 9.0 ในขนาด 55 นิ้ว

– รองรับ HDR10+ และ Wide Color Gamut

– มี Micro Dimming

– รับประกัน 3 ปีเต็ม

– ราคาเปิดตัว 19,990 บาท (ราคาขายที่ร้าน LCDTVTHAILANDSHOP.com ราคา 17,490 บาท)

ดีไซน์

การออกแบบรูปลักษณ์ของ TCL 55P8S เครื่องนี้ ค่อนข้างสร้างความแปลกตามากทีเดียว เนื่องจากขาตั้งที่มีการเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ ซึ่งรุ่น P8 จะเป็นทรงกิ่งไม้แบบทั่วไป แต่มาในรุ่นนี้ขาตั้งที่ฉีกออกไปอยู่ด้านข้าง และเพิ่มเติมมาอีก 1 ขาทางด้านหลังเครื่อง ให้อารมณ์คล้ายกรอบรูป เข้ากันกับกรอบที่บางเฉียบสไตล์ Frameless มีขอบเมทัลลิกสีเงินทางด้านล่าง มีความสวยงามดูเป็นศิลปะ เหมาะกับทุกสไตล์การตกแต่งบ้าน

ดีไซน์ไร้กรอบ สร้างความโปร่งสบายตา ให้ความรู้สึกเต็มตาในการรับชม
โลโก้ TCL บนขอบเมทัลลิกใต้จอ เพิ่มความสวยงามกว่าดีไซน์แบบก่อนๆ

ขนาดตามสเปคแล้วจะอยู่ที่ 1251 x 773 x 283 มม. (กว้าง x สูง x ลึก) น้ำหนักตัวรวมขาตั้งประมาณ 13.8 กก. ใช้ระบบปฏิบัติการณ์ Android เวอร์ชั่น 9.0 ทีวีมีความละเอียด 4K รองรับ HDR10+ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งฟอร์แมตระดับสูงในตอนนี้เลย ใต้เครื่องจะมีดอกลำโพงจำนวน 2 ดอก ให้กำลังขับรวมอยู่ที่ 20W

ด้านหลังตัวเครื่องจะมีขาตั้งอัน ดูคล้ายขาตั้งกรอบรูป
ส่วนขาตั้งด้านข้างนั้นจะกินเนื้อที่เล็กน้อย แนะนำให้เช็คพื้นที่สำหรับติดตั้งก่อน

ช่องต่อต่างๆ อยู่ทางด้านหลังฝั่งขวาของเครื่อง มี HDMI In จำนวน 3 ช่อง (HDMI ARC จำนวน 1 ช่อง), USB จำนวน 2 ช่อง และ Optical กับ Ethernet อย่างละ 1 ช่อง นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อสัญญาณ WiFi ได้ นับว่าเพียงพอต่อการใช้งานแบบทั่วไป 

ด้านหลังราบเรียบ ขาตั้งประกอบง่าย สามารถทำได้ด้วยตัวเอง
ช่องต่อมีให้ครบครันตามมาตรฐาน

รีโมทของรุ่นนี้ มีมาให้ถึง 2 แบบ แบบแรกเป็นรีโมทแบบทั่วไป มีปุ่มคำสั่งต่างๆ มาให้ครบครัน ขนาดกะทัดรัดจับถนัดมือ มีปุ่มลัดสำหรับรับชม Netflix อยู่บนรีโมทด้วย ส่วนรีโมทอีกอัน มีไว้สำหรับการใช้งานผ่านคำสั่งเสียงผ่าน Google Assistant โดยการกดปุ่มรูปสัญลักษณ์ Google Assistant บนรีโมทก็จะทำการเปิดใช้งานลูกเล่นนี้ทันที

รีโมทมีให้ถึง 2 แบบ เลือกใช้งานกันได้ตามความชอบ

เพิ่มเติม

สิ่งที่ทำให้ TCL 55P8S เป็นที่น่าสนใจอย่างมากคงหนีไม่พ้นระบบสมาร์ททีวีที่เป็น Android TV 9.0 ในราคาเปิดตัวที่จับต้องได้ ช่วยให้ตอบรับต่อการใช้งานที่หลากหลายและรวดเร็ว โดยเฉพาะใครที่ชื่นชอบการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant ตอนนี้สามารถรับคำสั่งได้ดีมากยิ่งขึ้น ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พูดผสมคำระหว่างภาษาก็ทำได้ด้วย ไม่ต้องเสียเวลาสลับเปลี่ยนภาษาของเครื่องแบบเวอร์ชั่นเก่า 

หน้าอินเทอร์เฟซของระบบสมาร์ททีวีเข้าใจได้ง่ายและมีความชัดเจน
สามารถแคสต์คลิปวิดิโอจากสมาร์ทโฟนขึ้นทีวีได้ผ่านแอพ T-Cast

TCL มีแอพสำหรับใช้งานทีวีร่วมกับสมาร์ทโฟนได้ มีชื่อว่า “T-Cast” สามารถดาวน์โหลดลงสมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบ iOS และ Android ซึ่งแอพนี้จะทำให้ผู้ใช้งานทำการแคสต์คลิปวีดิโอ รูปภาพ หรือเพลงจากสมาร์ทโฟนขึ้นไปยังทีวีได้แบบง่ายๆ นอกจากนี้ยังสามารถใช้สมาร์ทโฟนแทนรีโมท และแปลงเป็นคีย์บอร์ดสำหรับเสิร์ชค้นหา พิมพ์ได้ง่ายกว่าการใช้รีโมท

อีกหนึ่งลูกเล่นที่ทำให้ทีวีระบบ Android เป็นที่นิยมมาตลอด นั่นคือ Google Play Store คลังแอพที่มีแอพให้เลือกใช้มากมาย ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกดาวน์โหลดได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นแอพสำหรับรับชมภาพยนตร์ ซีรีส์ หรือรายการต่างๆ แบบสตรีมมิ่ง อย่าง Netflix, Amazon Prime, YouTube เป็นต้น หรือจะเป็นแอพสำหรับการเล่นไฟล์ก็มีเพียบ รวมถึงแอพสำหรับการใช้งานที่นอกเหนือจากการรับชมมีให้เลือกเฟ้นหาได้ไม่รู้จบ

สามารถดาวน์โหลดแอพเพิ่มเติมได้ที่ Google App Store
ดู Netflix แบบ 4K HDR ได้สบายๆ

ด้านภาพก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ด้วยลูกเล่นที่มักจะพบเห็นอยู่ในรุ่นที่มีราคาค่อนข้างสูงหน่อย กับการรองรับ Wide Color Gamut ช่วยขยายขอบเขตสีให้กว้างขึ้น ทำให้การไล่เฉดสีต่างๆ มีมิติสีที่ลุ่มลึก และยังรองรับ HDR10+ ฟอร์แมตสูงสุดของ HDR10 ที่ถูกกำหนดโดย UHD Alliance ซึ่งจะทำการเข้ารหัสแบบเฟรมต่อเฟรม ยกความสมจริงขึ้นมาอีกระดับ

YouTube เล่น 4K ได้ แต่ยังไม่แสดงผล HDR ต้องรอการอัพเดทต่อไป