21 Sep 2014
Review

รีวิวหนัง : The Maze Runner – ฝ่าวงกตมฤตยู


  • Dear_Sir

เรื่องย่อ : เด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งถูกจับมาอยู่ในเขาวงกตปริศนา ทุกๆ เดือนจะมีเด็กใหม่หนึ่งคนส่งเข้ามายังเขาวงกตปริศนาแห่งนี้ ทุกอย่างดำเนินมาอย่างสงบจนกระทั่ง โธมัส (รับบทโดย Dylan O’Brien) ปรากฏตัวขึ้นมา โธมัสแม้จะเป็นเด็กใหม่ แต่เขาเป็นคนอยากรู้อยากเห็น ขี้สงสัย จึงทำให้มีปัญากับพวกพ้องในกลุ่มบ่อยครั้ง และหลังจากนั้นไม่นาน เทเรซ่า (รับบทโดย Kaya Scodelario) ก็ปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกับกระดาษในมือที่เขียนข้อความเอาไว้ว่า “เธอคือคนสุดท้าย”

The Maze Runner เป็นเพียงแค่ชื่อของหนังสือเล่มแรกในหนังสือชุด “เกมล่าปริศนา” ซึ่งเป็นผลงานเขียนของ James Dasher นักแสดงนำของหนังเรื่องนี้หลายคนอาจไม่คุ้นหน้าคุ้นตา เพราะส่วนใหญ่เป็นนักแสดงหนังเกรด B และซีรีย์เสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้าหากใครเคยดู Teen Wolf หรือ Games of Thrones คงจะพอคุ้นหน้าคุ้นตากันบ้าง โดยส่วนตัวแล้วผมเองก็ไม่เคยอ่านนิยายมาก่อน ซึ่งก็น่าคิดตามเป็นอย่างมากว่าผู้กำกับ Wes Ball จะสามารถนำเนื้อหาของนิยายมาทำเป็นหนังได้ดีแค่ไหน เพราะส่วนใหญ่ที่ผมเจอมาหนังที่สร้างมาจากนิยาย หรือหนังที่สร้างมาจากการ์ตูน มักจะ “แป่ก” มากกว่าดี

วิจารณ์ : (Spoil เล็กน้อยไม่เสียอรรถรสในการชม) :  The Maze Runner  ไม่ได้เป็นเพียงแค่หนังแนวเอาชีวิตรอด แต่ยังสอดแทรกถึงแนวคิดของวัยรุ่นที่หลากหลาย มีทั้งคนที่กล้าคิด กล้าทำ, คนที่คล้อยตามคนอื่น, คนที่อยู่นิ่งๆ รอดูเหตุการณ์ และคนที่มีความเสียสละเพื่อพวกพ้อง ซึ่งเหล่าตัวละครหลักของเรื่องก็คือตัวแทนของกลุ่มเด็กๆ ที่มีความคิดเหล่านี้เอง เช่น

     โธมัส – เป็นตัวแทนของเด็กที่มีความกล้าคิด กล้าทำ ช่างสงสัย
     ลีมินโฮ – เป็นตัวแทนของเด็กที่เสียสละ
     กอลลี่ – เป็นตัวแทนของเด็กที่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับความจริง

การเล่าเรื่องของ Wes Ball นั้นค่อนข้างทำได้ดี ไม่ได้เล่าไวเกินไป และช้าจนเกินไป แถมยังสามารถกระจายบทได้อย่างทั่วถึง ถึงแม้ว่าโธมัสจะเป็นพระเอกแต่ก็ไม่ได้ให้บทเด่นมาก (บางช่วงถึงกับโดนลีมินโฮแย่งบทเด่นไป) และด้วยความที่เนื้อเรื่องหลักเป็นการเน้นเอาชีวิตรอด แต่ละตัวละครจึงไม่ต้องแสดงซีนอารมณ์มากนัก มีฉากชวนลุ้นพอให้ตื่นเต้นกันอยู่บ้าง แต่สิ่งที่คิดเท่าไหร่ก็ไม่เข้าใจก็คือในเนื้อเรื่องมีฉาก Flash Back (ความทรงจำ) ของพระเอกอยู่เล็กน้อย ซึ่งฉากตรงนี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นวิทยาศาสตร์ที่ก้าวล้ำหน้ามาเกี่ยวข้อง ทว่าในหนังกลับมีหลายช่วงที่ดูแล้วไม่สมกับเป็นวิทยาศาสตร์เอาเสียเลย

ด้วยความที่ The Maze Runner เพิ่งเป็นภาคแรก ในเนื้อเรื่องจึงมีการทิ้งปริศนาเอาไว้ด้วยกันหลายอย่าง เฉลยในเรื่องบ้าง ไปรอเฉลยในภาคถัดไปบ้าง หากแต่ก็ยังมีปริศนาบางอย่างที่ผมคิดว่าคงไม่มีการเฉลยอย่างแน่นอน เช่น กอลลี่ออกมาได้อย่างไร? ทำไมโศกาจึงหยุดโจมตี? (โศกา คือ สิ่งมีชีวิตเครื่องจักรทำหน้าที่เฝ้าประตูทางออก) และยังมีเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย ผู้ชมที่ขี้สงสัยคงต้องคิดหรือไปหาอ่านเฉลยในหนังสือเอาเอง ซึ่งจุดนี้ผมมองแล้วไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่

สรุป : The Maze Runner เป็นหนังดีอีกเรื่องที่น่าดู และถ้าหากกระแสทั้งในประเทศ กับนอกประเทศดี ผู้ชมก็คงไม่ต้องรอภาคต่อไปนาน การเล่าเรื่องของผู้กำกับค่อนข้างดีแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ภาคแรก แต่เนื้อเรื่องหลักก็ยังคงเน้นการหนีออกจากเขาวงกต ระหว่างการหลบหนีมีฉากตื่นเต้น ระทึกเร้าใจให้เห็นบ้าง ส่วนปริศนาที่สำคัญก็ยิงมาตูมเดียวตอนช่วงท้าย สุดท้ายนี้ก็ขอบอกสั้นๆ เลยครับว่า ใครที่กำลังมองหาหนังภาคต่อสนุกๆ ดูเพลินๆ ก็ไม่ควรพลาดหนังเรื่องนี้

คะแนน : 7/10