15 Aug 2021
Review

รีวิว Toshiba Z770 4K Android TV ตัว Top จัดเต็มสเปคทั้งภาพและเสียง !!!


  • TopZaKo

เสียง

ลำโพงทั้งหมดจะอยู่ที่บริเวณด้านล่างของตัวเครื่อง

เรื่องเสียงของทีวีเครื่องนี้ก็มีดีไม่แพ้เรื่องภาพเลย มาพร้อมลำโพงแบบ 2.1 Ch ให้กำลังขับสูงสุดที่ 80W โดยจะแบ่งเป็นทั้งหมด 3 ส่วนได้แก่ ลำโพงหลักยิงเสียงออกด้านหน้า ซ้าย-ขวา ข้างละ 2 ดอก รวมทั้งหมดเป็น 4 ดอก, ลำโพง Bass Woofer แบบยิงลงพื้น 2 ดอก และ ลำโพง Passive Radiators ด้านหน้า 2 ดอก ด้านหลัง 2 ดอก

มีโหมดเสียงให้เลือกใช้งานได้

คุณภาพของเสียงเรียกว่าเทียบเคียงลำโพง Soundbar รุ่นที่ไม่มี Sub เลยก็ว่าได้ ให้เสียงที่ชัดเจน มีมวลเสียงที่ดี เสียงพูดดูมีน้ำมีนวล เสียงเบสมีความกระหึ่มในระดับหนึ่ง สามารถใช้ดูหนังและฟังเพลงได้สบายๆ โดยโหมดเสียงที่ผม แนะนำ ให้เลือกใช้ก็คือ Standard เพราะให้เสียงที่เป็นกลางฟังดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด

สามารถเปิด/ปิด ฟีเจอร์ Dolby Atmos รวมถึงเพิ่มระดับความดังเสียงเบสตรง Bass Boost ได้

ตัวทีวียังมาพร้อมระบบจำลองเสียงแบบ Dolby Atmos ผ่านลำโพงทีวี ให้เราสามารถเลือกเปิดใช้งานได้ด้วย ซึ่งเมื่อเปิด เสียงที่ได้จะมีความกว้างโอบล้อมเรามากขึ้น เสียงในแนวตั้งฟังดูมีมิติมากขึ้น แถมยังได้ในเรื่องของเสียงเบสที่มีความหนักแน่นมากขึ้นอีกด้วย และถือว่าทำได้ดีพอสมควรสำหรับการจำลองเสียงแบบที่ไม่มีลำโพงสะท้อนขึ้นเพดานแบบแท้ๆ แต่ทว่าในบาง Content อาจมีอาการเสียงออกก้องๆ บ้างเล็กน้อย สามารถเลือกเปิดหรือปิดได้ตามความชอบ

ทดสอบฟีเจอร์ eARC ทำงานได้อย่างราบรื่น
ส่งเสียง Dolby Atmos แบบ Dolby Digital Plus จากแอปฯ ต่างๆ เข้าที่เครื่องเสียงได้

แต่ถ้าหากใครต้องการรับฟังเสียง Dolby Atmos แบบจริงจังผมแนะนำให้เชื่อมต่อกับชุดเครื่องเสียงหรือลำโพง Soundbar ที่รองรับ จะได้ประสบการณ์ด้านเสียงแบบ 3 มิติ Immersive Sound (รวมถึงระบบเสียงแบบ 5.1 และ 7.1 ปกติ) ที่ดีกว่า โดยสามารถต่อผ่านช่อง HDMI eARC ส่งเสียงจากทีวีย้อนกลับไปที่เครื่องเสียงของท่าน โดยจากการทดสอบสามารถส่งเสียงขั้นสูงอย่าง Dolby Atmos ได้ทั้งแบบ Dolby TrueHD จากแผ่น Blu-ray หรือแบบ Dolby Digital Plus จากแอปฯ สตรีมมิ่งอย่าง Netflix Apple TV ได้หมด รวมถึงระบบเสียงจากอีกค่ายอย่าง (IMAX) DTS : X ก็สามารถส่งผ่านได้อย่างสบายๆ

ตัวทีวีรองรับเสียงในรูปแบบ DTS-HD ในตัวด้วย
เมื่อทีวีเล่นเสียงจากฝั่งของ DTS จะมีฟีเจอร์เสียงบางอย่างที่เปลี่ยนไป

สรุป

Toshiba Z770 เครื่องนี้ถือเป็นทีวีอีกหนึ่งรุ่นที่ให้คุณภาพด้านภาพและเสียงแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี Quantum Dot ที่ให้สีสันสดใส, ใช้หลอดไฟ Backlight แบบ Full Array Local Dimming, รองรับ HDR ขั้นท็อปจากทั้งสองฝั่งอย่าง Dolby Vision กับ HDR 10+, มีฟีเจอร์สำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะอย่าง 4K HDR 120Hz VRR ALLM, ลำโพงแบบ 2.1 Ch กำลังขับสูงสุด 80W ที่ให้คุณภาพเสียงที่ดี, ใช้ระบบปฏิบัติการ Android TV ที่มีแอปฯ ยอดนิยมแบบครบครัน แถมยังรองรับการใช้งานคำสั่งเสียงอย่าง Google Assistant อีกด้วย ทำให้ Toshiba Z770 เครื่องนี้เป็นทีวีที่น่าจับจองเป็นเจ้าของมากที่สุดรุ่นหนึ่งในเวลานี้เลยครับ

This image has an empty alt attribute; its file name is Toshiba_55Z770-Review-13-1024x682.jpg

ข้อดี

  • ให้สเปคด้านภาพแบบจัดเต็มไม่ว่าจะเป็น Dolby Vision IQ, HDR 10+  หรือ Imax Enhanced (IMAX Mode)
  • ความสว่างสูงสุดและคุณภาพของภาพตรงตามมาตรฐาน Ultra HD Premium
  • ใช้หลอดไฟ Backlight แบบ Full Array Local Dimming
  • รองรับฟีเจอร์ด้านการเล่นเกม อย่าง 4K HDR 120Hz VRR และ ALLM
  • ใช้ระบบปฏิบัติการเป็น Android TV 10 มีแอปยอดนิยมให้ใช้งาน พร้อมฟีเจอร์คำสั่งเสียง Google Assistant
  • ลำโพงในตัวแบบ 2.1 Ch ให้กำลังขับสูงสุดที่ 80W ให้เสียงที่ดีกว่าลำโพงทั่วไปพอสมควร

ข้อจำกัด

  • การอัปสเกลจากภาพความละความละเอียดต่ำอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง แต่ถ้าหากรับชมภาพแบบ 4K HDR หรือ Dolby Vision ภาพที่ได้จะสวยงามมาก
  • ตัวเครื่องอาจดูหนาในระดับนึงจากการที่ใช้ หลอดไฟ Backlight แบบ Full Array Local Dimming แต่แลกกับคุณภาพของภาพที่ได้ถือว่าคุ้มค่า
  • เนื่องจากใช้จอภาพแบบ VA เมื่อมองภาพในมุมเฉียงมากๆ สีสันของภาพอาจลดลงไปบ้าง แต่หากรับชมในมุมมองปกติไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

คะแนน

ดีไซน์ (Design)
8.25
ภาพ 2 มิติ ก่อนปรับภาพ (2D Picture Pre-Calibrated)
8.25
ภาพ 2 มิติ หลังปรับภาพ (2D Picture Post-Calibrated)
8.75
ภาพ 2 มิติ (HDR)
8.75
เสียง (Sound)
8.50
การเชื่อมต่อ (Connectivity)
8.75
ลูกเล่น (Features)
8.75
ความคุ้มค่า (Value)
8.50
คะแนนตัดสิน (Total)
8.5

Toshiba Z770

8.5

อ่านประกาศรางวัล Best of The Best TV Award ทีวีที่ดีที่สุดประจำปี 2021-2022 คลิกที่ภาพด้านบนได้เลย