24 Sep 2018
Review

รีวิว ViewSonic M1 โปรเจ็คเตอร์ ที่พกพาไปได้ทุกที่ พร้อมแบตเตอรี่ในตัว และ ลำโพงคุณภาพเยี่ยมจาก Harman Kardon


  • TopZaKo

ภาพ

ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง Watchmen

ViewSonic M1 เครื่องนี้แม้ว่าจะเป็นโปรเจ็คเตอร์แบบพกพาแต่ในเรื่อง คุณภาพเรื่องภาพก็อยู่ในระดับที่ดี ไม่ได้มาเล่นๆ ตามขนาดของตัวเครื่องเลย  

สเปกด้านภาพนั้นใช้หลอดภาพแบบ DLP LED ที่สามรถใช้งานได้สูงสด 30,000 ชั่วโมง อัตราส่วนภาพ 16:9 ความละเอียด WVGA 854 x 480 Pixel ความสว่างสูงสุด 250 LUMENS มี DYNAMIC CONTRAST อยู่ที่ 120,000:1 ในเรื่องระยะฉายสามารถฉายได้ตั้งแต่ขนาดหน้าจอ 24 นิ้ว ที่ระยะ 0.6 เมตร จนถึงขนาดใหญ่สุดที่ 100 นิ้ว ที่ระยะ 2.54 เมตร แต่ขนาดที่แนะนำและคมชัดที่สุดจะอยู่ที่ขนาดหน้าจอประมาณ 60 นิ้ว ที่ระยะฉาย 1.8 เมตรโดยประมาณครับ

เล่นเกมชิวๆ อย่าง Counter-Strike ก็เพิ่มความสนุกได้ดีทีเดียว

สำหรับเรื่องภาพและสีสันโดยรวมของ M1 เครื่องนี้นั้นถือว่าดีพอตัวเลย ให้สีสันสวยงาม โดยโหมดภาพที่ผม แนะนำคือโหมดโรงภาพยนตร์ (Cinema) เพราะให้ภาพได้ใกล้เคียงมาตรฐานอุตสาหกรรมภาพยนตร์มากที่สุด แต่หากอยากได้ความสว่างโดยรวมของภาพขึ้นมาอีกนิด โหมดมาตรฐาน (Standard) ก็สามารถใช้ได้ดีอยู่เช่นกัน ส่วน โหมดสว่างที่สุด (Brightest) แนะนำให้ใช้ในกรณีที่ต้องการความสว่างสูงสุดจริงๆ แล้วกันครับเพราะโหมดนี้จะให้ภาพที่ค่อนข้างโพลนรายละเอียดภาพหายไปเยอะพอสมควร

ค่าอุณหภูมิสีของแต่ละโหมด ค่อนข้างติดโทนเย็น
ภาพจากการ์ตูนแอนิเมชั่นเรื่อง Moana
โหมดภาพต่างๆ ของ M1

เรื่องความสว่างถึงแม้จะไม่เยอะมากแค่ 250 LUMENS แต่หากห้องหรือสถานที่ฉายสามารถคุมแสงได้ ภาพที่ได้ถือว่าชัดเจนดูได้แบบสบายๆ เลย โดยโหมดความสว่างที่ แนะนำ ให้ใช้จะเป็น โหมดเต็ม (Full) หรือ โหมดอีโค (ECO) ที่ความสว่างยังอยู่ในระดับที่พอดี สู้แสงได้อยู่บ้าง แต่หากใครต้องการจะประหยัดแบตเตอรี่แนะนำให้เลือกใช้ เอ็กซ์เทนเด็ดอีโค (Extended Eco) ที่ความสว่างจะลดจากโหมดเต็ม (Full) ไปประมาณ 35% เปอร์เซ็น ซึ่งการประหยัดรวมถึงภาพที่ได้ยังอยู่ระดับรับได้ ส่วน โหมดการประหยัดแบตเตอรี่ (Battery Saving) นี้ค่อนข้างให้แสงที่มืดมาก แนะนำว่าให้ใช้งานในกรณีที่อยู่ห้องที่มืดสนิท 100% หรือ ต้องการประหยัดแบตเตอรี่แบบจริงๆ ค่อยเลือกใช้โหมดนี้ครับ

โหมดความสว่างของ M1

เนื่องจากในสเปกของ M1 เครื่องนี้บอกไว้ว่า รองรับภาพแบบ 3 มิติ ได้ด้วย แต่ในกล่องไม่ได้มีแว่น 3 มิติ แถมมาให้ ทางผู้เขียนจึงได้นำแว่น  3D DLP Projector ของตนเองมาทดสอบ เพราะแว่น 3D ชนิดนี้รองรับการใช้งานได้กับโปรเจ็คเตอร์ทุกรุ่นที่เป็น 3D DLP Projector

ในการทดสอบ ได้ทำการเล่นไฟล์ 3D แบบ Side by Side ผ่านตัวเครื่องฉายเองเลย ผลคือสามารถเล่นได้ไม่มีปัญหา ตัวเครื่องสามารถรวมภาพ ซ้าย-ขวา ให้เป็นภาพเดียวเพื่อแสดงผล 3 มิติ ออกมาได้ รวมถึงการรับสัญญาณภาพจากแผ่นหนัง 3 มิติ ผ่านเครื่องเล่น Blu-ray 3D ที่เป็นสัญญาณแบบ Full 3D ผ่านทาง HDMI ตัวเครื่อง M1 ก็สามารถแสดงผลภาพ 3 มิติออกมาได้ไม่มีปัญหา

ไฟล์ 3 มิติแบบ Side by Side ก่อนรวมภาพ
หลังรวมภาพแล้วจะแสดงเป็นภาพซ้อนกันแบบนี้

ภาพ 3 มิติ ที่ได้อยู่ในระดับพอใช้ได้ มิติภาพลอย และ ลึกในแบบพอดีๆ ซึ่งอาจเป็นเพราะความละเอียดของภาพไม่เยอะมากเลยทำให้ภาพโดยรวมดูไม่สวยงามสักเท่าไหร่ ถือว่าเป็นของแถมสำหรับโปรเจ็คเตอร์เครื่องนี้ก็แล้วกันครับ

*แว่นตา 3 มิติ ที่ผมใช้ทดสอบเป็นของ 3D DLP  Projector ที่ผู้เขียนมีอยู่แล้วนำมาทดสอบร่วมกันเอง ไม่ใช่แว่นจากทาง View Sonic แต่อย่างใด*

สรุปเรื่องภาพ

โดยรวม ViewSonic M1 เครื่องนี้ให้สีสันของ ภาพอยู่ในระดับที่ดี สีสันมีความอิ่ม อาจติดโทนเย็นไปบ้าง แต่โดยรวมต้องถูกใจผู้ใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน และหากเทียบกับขนาดตัวเครื่องกับราคาระดับนี้ถือว่าเยี่ยมเลยทีเดียว สามารถรับชมภาพยนตร์ วีดีโอ รูปภาพต่างๆ รวมถึงงานเอกสารได้เป็นอย่างดีเลยครับ

เสียง

ลำโพงคุณภาพเยี่ยมจาก Harman Kardon

ในส่วนของเสียง จากการที่เราเห็นโลโก้ Harman Kardon นั้นก็ช่วยให้เราอุ่นใจได้เลยว่าเสียงจากโปรเจ็คเตอร์ M1 เครื่องนี้ต้องออกมาดีในพอสมควร 

โหมดเสียงที่ตัวเครื่องให้มามี 3 แบบ ด้วยกัน คือ

Movie – ที่จะช่วยยกระดับเสียงในทุกๆ ย่านรวมถึงเสียงพูดให้มีความชัดจัดจ้าน

Bass Booster – จะเพิ่มปริมาณเสียงเบสขึ้นมาอีกระดับโดยรวมทำให้ฟังดูมีน้ำมีเนื้อในระดับหนึ่ง

Instrumental – โหมดนี้จะให้เสียงที่ออกเรียบๆ แบบไม่ปรุงแต่ง ฟังสบายๆ ได้ทุกๆ คอนเทนต์

โหมดเสียงต่างๆ

ในการทดสอบเปิดภาพยนตร์รวมถึงเพลงต่างๆ เนื้อเสียงโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดีเลย เสียงที่ได้จะออกแนวเน้นชัดย่านกลาง เน้นเสียงพูด เสียงร้อง เสียงเอฟเฟกต์ต่างๆ ส่วนเรื่องเสียงเบสเนื่องจากตัวลำโพงมีขนาดเล็กเสียงเบสที่ได้อาจไม่ได้กระหึ่ม แต่เนื้อเสียงโดยรวมก็ฟังดูดีมีน้ำหนัก ฟังดูใหญ่เกินตัวระดับหนึ่งเลยครับ 

โดยโหมดเสียงที่ แนะนำ ให้ใช้สำหรับการ ดูหนังหรือวีดีโอต่างๆ คือ โหมด ภาพยนตร์(Movie) เพราะจะช่วยยกระดับสียงพูด เสียงเอฟเฟกต์ต่างๆ ให้มีความชัดเจน ทำให้ดูหนังสนุกมากขึ้น ส่วนการ ฟังเพลงแนะนำ ให้ใช้เป็น โหมด เบสบูสเตอร์ (Bass Booster) เพราะเนื้อเสียงโดยรวมจะไม่ถูกปรับแต่งมาก จะเพิ่มแค่ย่านเสียงเบสขึ้นมาหน่อยทำให้โดยรวมฟังเพลงได้ดีครับ

สรุปเรื่องเสียง

โดยรวมเสียงของ M1 เครื่องนี้ อยู่ในระดับดี ให้เสียงชัดเจน เปิดดังได้ในระดับหนึ่ง โดยหากอยู่ในที่เงียบๆ อย่างในบ้านหรือห้องนอน เรื่องเสียงนี่เรียกว่าสอบผ่านเลยครับ

สรุป

โปรเจ็คเตอร์แบบพกพาจาก ViewSonic รุ่น M1 นี้ เป็นโปรเจ็คเตอร์ที่มีคุณสมบัติที่ครบครันพอตัวเลย ไม่ว่าจะเป็นขนาดที่เล็กเท่าฝ่ามือ ขาตั้งหมุนได้ 360 องศา แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 6 ชั่วโมง ช่องต่อต่างๆ ที่ครบครัน มีหน่วยความจำในตัว คุณภาพของภาพอยู่ในเกณฑ์ดี รวมถึงลำโพงจาก Harman Kardon ที่ให้เสียงดีเกินขนาดตัว ทำให้ M1 เครื่องนี้เป็นโปรเจ็คเตอร์แบบพกพา ที่สะดวกในการใช้งาน พร้อมนำไปสร้างความบันเทิงให้กับทุกคนได้ทุกที่ทุกเวลาอย่างแท้จริงครับ

ข้อดี

1.ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก และน้ำหนักเบา สะดวกในการพกพาไปใช้งานในที่ต่างๆ

2.มีแบตเตอรี่และหน่วยความจำในตัวทำให้สามารถใช้แบบ Stand Alone ได้

3.ลำโพง Harman Kardon ที่ให้เนื้อเสียงที่ดี ใหญ่เกินตัว

4.ขาตั้งแบบ 360 องศา ช่วยพลิกแพลงการติดตั้งได้หลากหลาย

5.มี USB-C ที่สาารถใช้รับสัญญาณภาพและเสียง พร้อมใช้ชาร์จแบตเตอรี่ได้

ข้อเสีย

1.ความสว่างของภาพอาจไม่สูงมากนัก แต่หากฉายในห้องที่คุมแสงได้ 100% ภาพที่ได้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเลย

2.ความละเอียดเป็นแบบ WVGA อาจไม่เท่ากับเครื่องฉายทั่วไป แต่หากฉายที่จอขนาดประมาณไม่เกิน 50 ถึง 60 นิ้วภาพที่ได้อยู่ในเกณฑ์ดี

คะแนน

ดีไซน์ (Design)
9
ภาพ 2 มิติ ก่อนปรับภาพ (2D Picture Pre-Calibrated)
7.5
เสียง (Sound)
9
การเชื่อมต่อ (Connectivity)
7.5
ลูกเล่น (Features)
8
ความคุ้มค่า (Value)
8
คะแนนตัดสิน (Total)
8.1

ViewSomic M1

8.1