ภาพ
ViewSonic M1 เครื่องนี้แม้ว่าจะเป็นโปรเจ็คเตอร์แบบพกพาแต่ในเรื่อง คุณภาพเรื่องภาพก็อยู่ในระดับที่ดี ไม่ได้มาเล่นๆ ตามขนาดของตัวเครื่องเลย
สเปกด้านภาพนั้นใช้หลอดภาพแบบ DLP LED ที่สามรถใช้งานได้สูงสด 30,000 ชั่วโมง อัตราส่วนภาพ 16:9 ความละเอียด WVGA 854 x 480 Pixel ความสว่างสูงสุด 250 LUMENS มี DYNAMIC CONTRAST อยู่ที่ 120,000:1 ในเรื่องระยะฉายสามารถฉายได้ตั้งแต่ขนาดหน้าจอ 24 นิ้ว ที่ระยะ 0.6 เมตร จนถึงขนาดใหญ่สุดที่ 100 นิ้ว ที่ระยะ 2.54 เมตร แต่ขนาดที่แนะนำและคมชัดที่สุดจะอยู่ที่ขนาดหน้าจอประมาณ 60 นิ้ว ที่ระยะฉาย 1.8 เมตรโดยประมาณครับ
สำหรับเรื่องภาพและสีสันโดยรวมของ M1 เครื่องนี้นั้นถือว่าดีพอตัวเลย ให้สีสันสวยงาม โดยโหมดภาพที่ผม แนะนำคือโหมดโรงภาพยนตร์ (Cinema) เพราะให้ภาพได้ใกล้เคียงมาตรฐานอุตสาหกรรมภาพยนตร์มากที่สุด แต่หากอยากได้ความสว่างโดยรวมของภาพขึ้นมาอีกนิด โหมดมาตรฐาน (Standard) ก็สามารถใช้ได้ดีอยู่เช่นกัน ส่วน โหมดสว่างที่สุด (Brightest) แนะนำให้ใช้ในกรณีที่ต้องการความสว่างสูงสุดจริงๆ แล้วกันครับเพราะโหมดนี้จะให้ภาพที่ค่อนข้างโพลนรายละเอียดภาพหายไปเยอะพอสมควร
เรื่องความสว่างถึงแม้จะไม่เยอะมากแค่ 250 LUMENS แต่หากห้องหรือสถานที่ฉายสามารถคุมแสงได้ ภาพที่ได้ถือว่าชัดเจนดูได้แบบสบายๆ เลย โดยโหมดความสว่างที่ แนะนำ ให้ใช้จะเป็น โหมดเต็ม (Full) หรือ โหมดอีโค (ECO) ที่ความสว่างยังอยู่ในระดับที่พอดี สู้แสงได้อยู่บ้าง แต่หากใครต้องการจะประหยัดแบตเตอรี่แนะนำให้เลือกใช้ เอ็กซ์เทนเด็ดอีโค (Extended Eco) ที่ความสว่างจะลดจากโหมดเต็ม (Full) ไปประมาณ 35% เปอร์เซ็น ซึ่งการประหยัดรวมถึงภาพที่ได้ยังอยู่ระดับรับได้ ส่วน โหมดการประหยัดแบตเตอรี่ (Battery Saving) นี้ค่อนข้างให้แสงที่มืดมาก แนะนำว่าให้ใช้งานในกรณีที่อยู่ห้องที่มืดสนิท 100% หรือ ต้องการประหยัดแบตเตอรี่แบบจริงๆ ค่อยเลือกใช้โหมดนี้ครับ
เนื่องจากในสเปกของ M1 เครื่องนี้บอกไว้ว่า รองรับภาพแบบ 3 มิติ ได้ด้วย แต่ในกล่องไม่ได้มีแว่น 3 มิติ แถมมาให้ ทางผู้เขียนจึงได้นำแว่น 3D DLP Projector ของตนเองมาทดสอบ เพราะแว่น 3D ชนิดนี้รองรับการใช้งานได้กับโปรเจ็คเตอร์ทุกรุ่นที่เป็น 3D DLP Projector
ในการทดสอบ ได้ทำการเล่นไฟล์ 3D แบบ Side by Side ผ่านตัวเครื่องฉายเองเลย ผลคือสามารถเล่นได้ไม่มีปัญหา ตัวเครื่องสามารถรวมภาพ ซ้าย-ขวา ให้เป็นภาพเดียวเพื่อแสดงผล 3 มิติ ออกมาได้ รวมถึงการรับสัญญาณภาพจากแผ่นหนัง 3 มิติ ผ่านเครื่องเล่น Blu-ray 3D ที่เป็นสัญญาณแบบ Full 3D ผ่านทาง HDMI ตัวเครื่อง M1 ก็สามารถแสดงผลภาพ 3 มิติออกมาได้ไม่มีปัญหา
ภาพ 3 มิติ ที่ได้อยู่ในระดับพอใช้ได้ มิติภาพลอย และ ลึกในแบบพอดีๆ ซึ่งอาจเป็นเพราะความละเอียดของภาพไม่เยอะมากเลยทำให้ภาพโดยรวมดูไม่สวยงามสักเท่าไหร่ ถือว่าเป็นของแถมสำหรับโปรเจ็คเตอร์เครื่องนี้ก็แล้วกันครับ
*แว่นตา 3 มิติ ที่ผมใช้ทดสอบเป็นของ 3D DLP Projector ที่ผู้เขียนมีอยู่แล้วนำมาทดสอบร่วมกันเอง ไม่ใช่แว่นจากทาง View Sonic แต่อย่างใด*
สรุปเรื่องภาพ
โดยรวม ViewSonic M1 เครื่องนี้ให้สีสันของ ภาพอยู่ในระดับที่ดี สีสันมีความอิ่ม อาจติดโทนเย็นไปบ้าง แต่โดยรวมต้องถูกใจผู้ใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน และหากเทียบกับขนาดตัวเครื่องกับราคาระดับนี้ถือว่าเยี่ยมเลยทีเดียว สามารถรับชมภาพยนตร์ วีดีโอ รูปภาพต่างๆ รวมถึงงานเอกสารได้เป็นอย่างดีเลยครับ
เสียง
ในส่วนของเสียง จากการที่เราเห็นโลโก้ Harman Kardon นั้นก็ช่วยให้เราอุ่นใจได้เลยว่าเสียงจากโปรเจ็คเตอร์ M1 เครื่องนี้ต้องออกมาดีในพอสมควร
โหมดเสียงที่ตัวเครื่องให้มามี 3 แบบ ด้วยกัน คือ
Movie – ที่จะช่วยยกระดับเสียงในทุกๆ ย่านรวมถึงเสียงพูดให้มีความชัดจัดจ้าน
Bass Booster – จะเพิ่มปริมาณเสียงเบสขึ้นมาอีกระดับโดยรวมทำให้ฟังดูมีน้ำมีเนื้อในระดับหนึ่ง
Instrumental – โหมดนี้จะให้เสียงที่ออกเรียบๆ แบบไม่ปรุงแต่ง ฟังสบายๆ ได้ทุกๆ คอนเทนต์
ในการทดสอบเปิดภาพยนตร์รวมถึงเพลงต่างๆ เนื้อเสียงโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดีเลย เสียงที่ได้จะออกแนวเน้นชัดย่านกลาง เน้นเสียงพูด เสียงร้อง เสียงเอฟเฟกต์ต่างๆ ส่วนเรื่องเสียงเบสเนื่องจากตัวลำโพงมีขนาดเล็กเสียงเบสที่ได้อาจไม่ได้กระหึ่ม แต่เนื้อเสียงโดยรวมก็ฟังดูดีมีน้ำหนัก ฟังดูใหญ่เกินตัวระดับหนึ่งเลยครับ
โดยโหมดเสียงที่ แนะนำ ให้ใช้สำหรับการ ดูหนังหรือวีดีโอต่างๆ คือ โหมด ภาพยนตร์(Movie) เพราะจะช่วยยกระดับสียงพูด เสียงเอฟเฟกต์ต่างๆ ให้มีความชัดเจน ทำให้ดูหนังสนุกมากขึ้น ส่วนการ ฟังเพลงแนะนำ ให้ใช้เป็น โหมด เบสบูสเตอร์ (Bass Booster) เพราะเนื้อเสียงโดยรวมจะไม่ถูกปรับแต่งมาก จะเพิ่มแค่ย่านเสียงเบสขึ้นมาหน่อยทำให้โดยรวมฟังเพลงได้ดีครับ
สรุปเรื่องเสียง
โดยรวมเสียงของ M1 เครื่องนี้ อยู่ในระดับดี ให้เสียงชัดเจน เปิดดังได้ในระดับหนึ่ง โดยหากอยู่ในที่เงียบๆ อย่างในบ้านหรือห้องนอน เรื่องเสียงนี่เรียกว่าสอบผ่านเลยครับ
สรุป
โปรเจ็คเตอร์แบบพกพาจาก ViewSonic รุ่น M1 นี้ เป็นโปรเจ็คเตอร์ที่มีคุณสมบัติที่ครบครันพอตัวเลย ไม่ว่าจะเป็นขนาดที่เล็กเท่าฝ่ามือ ขาตั้งหมุนได้ 360 องศา แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 6 ชั่วโมง ช่องต่อต่างๆ ที่ครบครัน มีหน่วยความจำในตัว คุณภาพของภาพอยู่ในเกณฑ์ดี รวมถึงลำโพงจาก Harman Kardon ที่ให้เสียงดีเกินขนาดตัว ทำให้ M1 เครื่องนี้เป็นโปรเจ็คเตอร์แบบพกพา ที่สะดวกในการใช้งาน พร้อมนำไปสร้างความบันเทิงให้กับทุกคนได้ทุกที่ทุกเวลาอย่างแท้จริงครับ
ข้อดี
1.ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก และน้ำหนักเบา สะดวกในการพกพาไปใช้งานในที่ต่างๆ
2.มีแบตเตอรี่และหน่วยความจำในตัวทำให้สามารถใช้แบบ Stand Alone ได้
3.ลำโพง Harman Kardon ที่ให้เนื้อเสียงที่ดี ใหญ่เกินตัว
4.ขาตั้งแบบ 360 องศา ช่วยพลิกแพลงการติดตั้งได้หลากหลาย
5.มี USB-C ที่สาารถใช้รับสัญญาณภาพและเสียง พร้อมใช้ชาร์จแบตเตอรี่ได้
ข้อเสีย
1.ความสว่างของภาพอาจไม่สูงมากนัก แต่หากฉายในห้องที่คุมแสงได้ 100% ภาพที่ได้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเลย
2.ความละเอียดเป็นแบบ WVGA อาจไม่เท่ากับเครื่องฉายทั่วไป แต่หากฉายที่จอขนาดประมาณไม่เกิน 50 ถึง 60 นิ้วภาพที่ได้อยู่ในเกณฑ์ดี