เพิ่มเติม
หากจะบอกว่า ViewSonic X10-4K เครื่องนี้ว่าเป็น Best of Smart 4K Projector ในตอนนี้ก็คงไม่ผิดนัก เพราะตัวเครื่องมาพร้อมระบบ Smart ในรูปแบบของ Android ที่ถูกปรับแต่งมาแบบพิเศษโดยเฉพาะ โดยมาพร้อมศูนย์รวมแอปพลิเคชั่นอย่าง Apitoide ที่มีแอปให้เลือกดาวน์โหลดได้ เช่นแอปยอดฮิตอย่าง Netflix หรือ YouTube เป็นต้น หรือหากใครอยากจะนำแอปอื่นๆ ที่เป็นไฟล์ APK มาลงก็ทำได้เช่นเดียวกัน แถม X10-4K เครื่องนี้ยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกเยอะแยะมากมายจะมีอะไรบ้างเดี๋ยวผมจะไล่เรียงให้ดูครับ
Netflix แอปลิเคชั่นดูหนังดูซีรีส์ในรูปแบบสตรีมมิ่งสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่น แต่เป็นที่น่าเสียดายเล็กน้อยตรงที่ตัวแอปเป็นแอปลักษณะเดียวกันกับแอปบนมือถือ ทำให้หน้าตาแอปรวมถึงการแสดงปกต่างๆ อาจดูใหญ่ๆ รายละเอียดข้อมูลของหนังจะไม่ค่อยละเอียดมากนัก รวมถึงไม่สามารถรับชมตัวอย่างได้ และในการรับชมรองรับความละเอียดภาพสูงสุดเพียงแค่ 720p เท่านั้น แต่หากรับชมในระยะที่เหมาะสมภาพที่ได้ถือว่าโอเคอยู่ครับ
YouTube แอปรับชมวีดีโอคลิปยอดนิยมอันดับ 1 ของชาวไทยก็สามารถใช้งานได้อย่างราบรื่น รองรองรับความละเอียดภาพสูงสุดได้ถึง 4K HDR แต่จากการทดสอบการแสดงผลแบบ HDR ของ YouTube ยังมีความเพี้ยนของแสงสีอยู่บ้าง แนะนำให้รับชมเป็นแบบ 4K ปกติจะดูโอเคกว่า
เนื่องด้วยเป็นระบบปฏิบัติการ Android จึงทำให้เครื่องฉายเครื่องนี้รองรับการเชื่อมต่อกับ คีย์บอร์ดและเมาส์ไร้สาย แบบ USB ได้ จากการทดสอบสามารถช่วยให้การใช้งานราบรื่นขึ้น ทำให้สามารถใช้งานท่องเว็บผ่านแอป Google Chrome ได้สะดวก แต่ในส่วนของการพิมพ์ตอนนี้รองรับแค่ภาษาอังกฤษเท่านั้นยังไม่รองรับภาษาไทย
Screen Mirroring หรือ ฟีเจอร์การส่งภาพหน้าจอมือถือขึ้นมาแสดงบนจอเตอร์ได้เลย รองรับทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS ซึ่ง Android ต้องทำการโหลดแอปพลิเคชั่นมาก่อนถึงจะใช้งานได้ ส่วน iOS สามารถใช้งานได้เลย
File Management เป็นส่วนของการจัดการไฟล์ต่างๆ ทั้ง หน่วยความจำในเครื่อง ที่มีมาให้ในตัว 16GB หรือจะเป็นการเชื่อมต่อ แฟลชไดร์ฟ หรือเชื่อมต่อกับ HDD เพื่อเปิดไฟล์ภาพ, เสียง และวีดีโอต่างๆ ได้ จากการทดสอบเล่นไฟล์หนัง MKV แบบ 4K HDR โปรแกรมเล่นไฟล์ที่ติดมากับตัวเครื่องสามารถเล่นได้ แต่ไม่สามารถเลือกภาษาของเสียงและคำบรรยายได้ หากใครที่เน้นการใช้งานในจุดนี้แนะนำให้หาแอปพลิเคชั่นอื่นในรูปแบบ APK มาติดตั้งจะตอบโจทย์ได้ดีกว่าครับ
เนื่องจากเป็นโปรเจ็คเตอร์ใช้งานง่ายแบบ Life Style เน้นพร้อมใช้งานเพียงวางเครื่องในที่ที่เหมาะสมเสียบปลั๊กก็ต้องใช้งานได้เลย โปรเจ็คเตอร์เครื่องนี้เลยได้ใส่ฟีเจอร์ Auto Focus และ Auto Keystone มาให้ เพียงเปิดเครื่อง เคลื่อนย้ายตัวเครื่อง หรือจะกดดปุ่ม Auto Focus ที่รีโมท ระบบก็จะทำทุกอย่างแบบ Auto ให้ทันที เรียกว่าสะดวกสบายจริงๆ สำหรับจุดนี้ แต่หากใครที่อยากปรับทั้ง Focus และ Keystone เองก็สามารถเข้าไปปรับที่ตั้งค่าต่างๆ ได้เช่นกัน
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ไม่เหมือนใครและสร้างความประทับใจให้ผมแบบสุดๆ เลยก็คือฟีเจอร์ Bluetooth Speaker โดยสามารถเข้าโหมดนี้โดยการกดปุ่มรูป Blutooth ที่รีโมท ตัวเครื่องก็จะทำการปิดในส่วนของหลอดภาพไปแล้วทำหน้าที่เหมือน ลำโพง Bluetooth ปกติทั่วไปเลย ขอบอกคร่าวๆ ในจุดนี้เลยว่าเสียงดีมากครับ แต่จะดีแค่ไหนเดี๋ยวจะบอกอีกทีในส่วนของหมวดเสียงครับ