01 Jan 2014
Review

ส่งความบันเทิงลอยมาแบบเหนือเมฆ !! รีวิว Yamaha RX-V473


  • boom

Setup And Sound – การติดตั้ง และ เสียง

หลังจากทำความรู้จักกันได้คร่าวๆไปแล้ว เราก็มาเริ่มทดสอบระบบเสียงกันดีกว่าครับผม โดยก่อนหน้าที่จะเปิดฟังเราต้องมาทำการปรับจูนสภาพเสียงของลำโพง ให้เหมาะสมกับสภาพห้องกันเสียก่อน โดยการทำ Auto Calibration ผ่านระบบ YPAO โดยเสียบสายไมโครโฟนเข้าทางช่อง YPAO MIC ที่หน้าแอมป์ แล้วระบบก็จะขึ้นหน้าจอที่ทีวี ตามรูปด้านล่าง

หน้าตาเมนูแบบนี้ Simple สุดๆ ใช้งานได้รวดเร็วทันใจ

ก่อนอื่นต้องจัดวางลำโพงให้อิงตามรูปด้านล่างนะครับ สำหรับระบบเสียง 5.1 แชนแนล ซึ่งเป็นแนวทางสากลสำหรับการเซ็ตอัพ ในส่วนของระยะห่างระหว่างลำโพงถึงจุดนั่งฟังนั้นมักจะถูกบังคับโดยสภาพห้องเป็นหลัก ไม่มีระยะตายตัวสักเท่าไรนัก พยายามเน้นให้จุดนั่งฟังของเรานั้นบาลานซ์อยู่กึ่งกลางลำโพงซ้ายและขวาครับ

รูปแบบมาตรฐานการจัดวางลำโพงสำหรับซิสเต็ม 5.1 แชนแนลครับ

เมื่อจัดวางอุปกรณ์เรียบร้อยแล้วก็นำไมค์มาวางที่จุดฟัง ที่ความสูงระดับเดียวกับหู จากนั้นก็กด Start เพื่อเริ่มต้นการทำ Auto Calibration ปรับจูนเสียงของลำโพงให้รับกับสภาพห้องของเราได้มากที่สุด โดยระบบจะทะยอยปล่อยเสียงออกมาจากลำโพงทั้ง 6 ตัว(คู่หน้า 2, คู่หลัง 2, เซ็นเตอร์ และซับวูฟเฟอร์) แล้วปรับลดระดับเสียง และชดเชยระยะห่างให้กับเราอัตโนมัติ รวมไปถึงตั้งค่าขนาดของชุดลำโพงตามจริง เพื่อให้ลำโพงทำงานขับพลังเสียงออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดครับ

คำแนะนำการวางตำแหน่งของ YPAO Microphone

หลังจากระบบทำการคำนวณค่าต่างๆให้เสร็จสิ้น ผมก็ได้ตรวจสอบด้วย Sound Level Meter อีกครั้ง พบว่า YPAO จาก AVR รุ่นนี้ มีความแม่นยำขนาดไหน ปรากฏว่าค่าต่างๆ ใกล้เคียงกับมาตรฐานมากๆ ครับ ทั้งระดับเสียง และระยะห่างลำโพง คลาดเคลื่อนเพียงแค่หลักทศนิยมนิดหน่อยเท่านั้น สรุปว่า ฝากผีฝากไข้ใช้งานได้อย่างมั่นใจเลยกับ YPAO Automatic System Calibration

ซึ่งหลังจากได้ทำการปรับจูนแล้ว ระบบจะมี Equalizer มาให้เราเลือกในหน้าเมนู เพื่อปรับจูนโทนัลบาลานซ์ของระบบเสียงโดยรวมจากผลกระทบของห้อง จะเห็นว่ามีให้เลือกเป็น PEQ, GEQ และ OFF โดย PEQ ก็คือการเรียกใช้งานค่าปรับจูนที่ทางระบบ YPAO ได้คำนวณขึ้นมาให้เรา ถ้าเกิดใครไม่ชอบก็สามารถปรับชดเชยค่าเองได้ที่โหมด GEQ ครับ (แต่ระวังจะออกมาเละกว่าเดิม) แต่ถ้าเกิดใครคิดว่าชอบแบบเดิมๆ ไม่ใช้ EQ ก็เลือกปิดเป็น OFF ไปได้เลย

ตรวจเช็คค่าความดังที่ถูกชดเชยจากระบบ ด้วย Sound Level Meter อีกรอบตามนี้เลยครับ
สำหรับซิสเต็มในห้องทดสอบ คือ ชุดลำโพง Canton Movie 130

ก็เสร็จสิ้นการปรับจูนกันไปครับผม ถึงเวลาสำหรับการเริ่มต้นทดสอบการใช้ฟังก์ชั่นต่างๆของตัวแอมป์แล้วนะครับ โดยคอนเทนต์ที่ใช้เปิดก็จะสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามสไตล์การรีวิวของเรา โดยภาพยนตร์ที่ใช้จะเป็นฟอร์แมต Blu-ray ที่เป็นระบบเสียงแบบ 5.1/7.1 แชนแนล ทั้งหมดครับ (กรณีที่เป็น 7.1 ระบบจะมิกซ์ลงมาเป็น 5.1 ให้เองโดยอัตโนมัติ) ทั้งในแบบ DTS-HD Master Audio และ Dolby TrueHD เพื่อให้แน่ใจไปเลยว่าแอมป์ตัวนี้สามารถทำงานกับสื่อ HD ในยุคปัจจุบันได้อย่างครบถ้วน และมีประสิทธิภาพ

เริ่มจากพี่ดอร์มคนคุ้นเคยของเราจากเรื่อง Fast Five ก่อนเลยครับ คอนเทนต์ยอดฮิตประจำออฟฟิศ
ฉากไล่ล่าปล้นเซฟกับระบบเสียงแบบฉวัดเฉวียนซ้ายขวา
ตัวแอมป์ก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างครบถ้วนมีประสิทธิภาพ
ต่อด้วย The Hunger Games ในแบบ 5.1 แชนแนลเช่นเดียวกันครับ
เรื่องนี้แม้จะค่อนข้างเก่าไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นแผ่นใหม่พอสมควรสำหรับออฟฟิศเรา(ฮา)
ฉากที่ใช้ทดสอบจะเป็นฉากที่นางเอกแคทนีส เอเวอร์ดีน ถูกกระสุนปืนใหญ่ไล่ต้อนให้กลับเข้าสู่เขตต่อสู้
ซึ่งเสียงปืนใหญ่ที่ระเบิดออกมาช่วยทดสอบการขับเสียงย่านความถี่ต่ำได้เป็นอย่างดีเลยครับ
นอกจากเสียงระเบิดในฉากแล้ว ยังมีเสียงของไฟที่ลุกไหม้กิ่งไม้โอบล้อมห้องรับฟังไว้
ซึ่ง Yamaha RX-V473 สามารถให้รายละเอียดในส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี
ระหว่างการรับชมภาพยนตร์ เราสามารถกดปุ่ม Option บนรีโมทเพื่อแสดงอ็อพชั่นเมนูขึ้นมา
โดยในเมนูนี้จะประกอบไปด้วยตัวเลือกต่างๆ ที่ไว้ใช้งานมากมาย
ตัวอย่างเช่น DSP/Surround ซึ่งเป็นเมนูสำหรับการปรับใช้งานระบบ Cinema DSP
หรือระบบจำลองสภาพบรรยากาศเสียงให้เหมือนฟังอยู่ในห้องหรือฮอลล์ต่างๆ

ระบบเสียงในการดูหนังของ Yamaha RX-V473 โดยรวมออกมาใช้ได้ไม่ขี้เหร่นะครับ การเปิดใช้งาน YPAO Equalizer ที่จะเปิดใช้ได้ก็ต่อเมื่อทำการ Auto Calibrate เรียบร้อยแล้ว ความแตกต่างที่ได้รับระหว่างเปิดกับปิดนั้นค่อนข้างจะจับจุดลำบากเสียหน่อยถ้าเดิมสภาพแวดล้อมไม่ได้สร้างผลกระทบใดๆ กับดุลเสียงของลำโพงอยู่ก่อน แต่ก็พอจะฟังออกได้ว่าเมื่อเปิด EQ เสียงจะสว่างชัดเจนกว่าเล็กน้อย ซึ่งในจุดนี้ถือว่านานาจิตตังแล้วแต่คนชอบกันไป รวมถึงสภาพแวดล้อมใช้งานด้วยครับ