Digital Sound Projector Soundbar
Yamaha YSP-2700
ต้องยอมรับเลยว่ากระแสความนิยมของซาวด์บาร์นั้นพุ่งขึ้นสูงจนฉุดไม่อยู่จริงๆ ด้วยรูปร่างที่เพรียวบาง ขจัดปัญหาเรื่องพื้นที่การจัดวางให้หายไป ด้านคุณภาพเสียงก็ให้ความไพเราะยอดเยี่ยม แต่ยังมีอีกหนึ่งสิ่ง ที่หลายท่านย่อมรู้ดีว่า ซาวด์บาร์ไม่อาจให้เทียบเท่าเต็มระบบได้ นั่นคือ การสร้างความเซอร์ราวด์หรือเสียงรอบด้าน เนื่องจากรูปลักษณ์ที่จะพิชิตข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ ทำให้ความสามารถดังกล่าวถูกบั่นทอนลง
แต่ที่กล่าวมานั้น มันเป็นอดีตไปแล้ว นวัตกรรมใหม่ๆ ก้าวหน้าขึ้นไปทุกวัน จนปัจจุบันนี้ซาวด์บาร์เองก็ให้ความเซอร์ราวด์เพิ่มมิติการฟังได้เฉกเช่นเดียวกับซิสเต็มขนาด 7.1-Channel และ Yamaha เองเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างมาก ในเรื่องการสร้างมิติเสียงของซาวด์บาร์ โดยซาวด์บาร์ของแบรนด์นี้ จะแบ่งซีรี่ส์ตามเทคโนโลยีการทำเซอร์ราวด์ 2 นิด ใช้ชื่อย่อรหัสว่า YAS และ YSP
YAS ย่อมาจาก Yamaha Air Surround ในซีรี่ส์นี้จะใช้เทคโนโลยี Air Surround Xtreme ขับเสียงออกมาในรูปแบบสนามเสียงจำลองระบบ 7.1-Channel ครอบคลุมพื้นที่การฟังในลักษณะวงกลม แต่ซีรี่ส์ YSP ที่ย่อมาจาก Yamaha Digital Sound Projectors ให้เสียงได้สมจริงกว่าตระกูล YASตรงที่การทำเซอร์ราวด์ด้วยวิธียิงเสียงเข้ากำแพง เพื่อให้เสียงสะท้อนสู่ผู้ฟังรอบด้านแบบ 7.1-Channel
ซึ่งรีวิวครั้งนี้ กับซาวด์บาร์ Yamaha YSP-2700 ผมเองก็อยากรู้แล้วว่าจะให้ความสมจริงดั่งที่ร่ำลือกันหรือไม่ เพราะแม้แต่สื่อนอกอย่าง Trusted Reviews ต้องติดป้ายแนะนำ และ What Hi-Fi? ยังมอบคะแนนให้ถึง 5 ดาว!
Design – การออกแบบ
ซาวด์บาร์ YSP-2700 ไม่ได้มาแค่ตัวเครื่องซาวด์บาร์โดดๆ ยังพ่วงซับวูฟเฟอร์ไร้สายมาด้วย โดยรูปลักษณ์ภายนอกของ YSP-2700 นั้นหากเทียบกับรุ่นก่อนๆ หน้า ค่อนข้างแตกต่างพอสมควร เมื่อก่อนจะเน้นทรวดทรงหวือหวาโฉบเฉี่ยว แต่มาในรุ่นนี้ดูบึกบึนทรงพลัง ขนาดความยาวอยู่ที่ 94.4 ซม. ความสูง 5.1 ซม. ส่วนความลึกมีขนาด 15.4 ซม. ซึ่งถือว่าค่อนข้างใช้พื้นที่ในการติดตั้งพอสมควร
ตัวเครื่องของ YSP-2700 มีวัสดุเป็นอะลูมิเนียมให้ความแข็งแรงคงทนสูง ดีไซน์เป็นแบบปิด ไม่มีช่องคายอากาศ ด้านหน้าเป็นตะแกรงอะลูมิเนียมครอบแผงไดรเวอร์ที่เรียงรายอยู่ทั้ง 16 ดอก แต่ละดอกมีขนาด 1 นิ้วครึ่ง ใช้กำลังขับขนาด 2 วัตต์ สามารถถอดขาตั้งออกได้ ด้านหน้าเครื่องฝั่งขวาเป็นจอแสดงผล LCDโดยจะแสดงผลเป็นตัวหนังสือและมีดวงไฟเล็กๆ ไว้บอกสถานะการใช้งาน
ปุ่มคำสั่งต่างๆ จะอยู่บริเวณขอบด้านบนฝั่งขวา ได้แก่ ปุ่ม Connect สำหรับเชื่อมต่อสัญญาณไร้สาย, ปุ่ม Input ไว้สลับช่องใช้งานตามการเชื่อมต่อ, ปุ่มMute สำหรับปิดเสียง, ปุ่ม Vol-/+ เพิ่มลดระดับความดัง และปุ่ม Power ปิด/เปิดซาวด์บาร์ สิ่งพิเศษอีกอย่างของ YSP-2700 นั้น อยู่ตรงกลางเครื่องเลย นั่นคือเสารับสัญญาณที่อยู่ภายนอกเครื่อง ช่วยให้รับสัญญาณได้ดีมากขึ้น
ด้านช่องต่อจัดว่าครบครันมาก อยู่ทางด้านหลังเครื่องตำแหน่งเดียวกับแถบปุ่มคำสั่ง เริ่มต้นที่ช่องต่อสายไมค์โครโฟน IntelliBeam (หลายท่านอาจสงสัยว่าคืออะไร เดี๋ยวมาทำความรู้จักกันต่อไป), ช่องต่อ System Connector เป็นช่องเสียบสายแจ๊ค 3.5 มม. จากซาวด์บาร์สู่ซับวูฟเฟอร์, ช่อง Subwoofer Outจะใช้งานแบบเดียวกับช่องก่อนหน้า, ถัดมาเป็นช่องต่ออะนาล็อก, Coaxial, Optical และช่องต่อ Ethernet
ช่องต่อ HDMI ให้มาเยอะมาก มีจำนวน 4 ช่อง แบ่งเป็นเอ๊าท์พุต 1 ช่อง และอินพุต 3 ช่อง เป็น HDMI เวอร์ชั่น 2.0 รองรับ HDCP 2.2 สามารถส่งผ่านสัญญาณภาพ 4K 60Hz และ HDR จากเครื่องเล่นสู่ทีวีได้อย่างไร้กังวล ซึ่งเอ๊าท์พุตรองรับ ARC แยกเสียงส่งไปยัง AVR ส่วนช่องเสียบ USB ที่ให้มานั้น ไม่รองรับการเชื่อมต่อ USB Drive สำหรับเล่นไฟล์ มีไว้เพื่ออัพเดตซอฟต์แวร์เพียงอย่างเดียว ซึ่งด้านหลังมีรูเล็กๆ สำหรับแขวนผนังด้วย
มาดูซับวูฟเฟอร์กันบ้าง หน้าตาของซับวูฟเฟอร์มีลักษณะเป็นลูกบาศก์สี่เหลี่ยม ใช้ไม้ MDF เป็นวัสดุหลัก ให้พื้นผิวลายไม้น่าสัมผัส มีน้ำหนักค่อนข้างสูง อยู่ที่ 9.1 กก. ด้านหน้ามีหน้ากากผ้าปิดทับดอกลำโพงเอาไว้ ไม่สามารถถอดออกได้ เป็นโคนวูฟเฟอร์แบบยิงเสียงทางด้านหน้าขนาด 5 นิ้วครึ่ง กำลังขับ 75 วัตต์ ตอบสนองความถี่ต่ำสุดถึง 40Hz แม้จะรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย แต่ซับวูฟเฟอร์นี้ก็ยังคงช่องต่อผ่านสายเอาไว้ด้วย
รีโมตที่ให้มานั้น ขนาดใหญ่พอๆ กับรีโมตทีวี ต่างจากซาวด์บาร์ทั่วไปที่มีขนาดเล็ก แต่ก็ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น เพราะแยกแต่ละโหมด แต่ละคำสั่งออกมาไว้บนรีโมต ไม่ต้องกดเลื่อนหาให้ยุ่งยาก หลักๆ จะแบ่งเป็นปุ่มคำสั่งเลือกช่องอินพุต, ช่องบันทึกการตั้งค่า, ปุ่มสำหรับตั้งค่าต่างๆ และโหมดเสียง ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายโหมดเลยทีเดียว