Sony เปิดตัว VPL-FHZ85 และ VPL-FHZ80 โดยทั้งคู่มีจุดเด่นในเรื่องของความสว่างที่สูงมาก รุ่น VPL-FHZ80 มีความสว่าง 6,000 lumens ส่วน VPL-FHZ85 จะอยู่ที่ 7,300 lumens จุดนี้ช่วยให้โปรเจคเตอร์ทั้งสองสามารถฉายภาพได้แม้ว่าจะอยู่ในสภาวะที่มีแสงแวดล้อมเยอะ ทั้งสองรุ่น รองรับสัญญาณอินพุต 4K@60Hz และมีเทคโนโลยีวิเคราะห์ภาพแบบ Real time Signal ช่วยให้ภาพที่ฉายออกมาดีที่สุดเท่าที่ทำได้ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Text feature improved ที่จะช่วยเพิ่มความคมชัดให้กับตัวอักษรเมื่อใช้งานในรูปแบบพรีเซนเทชั่น อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ด้วย Sony VPL-FHZ85 และ VPL-FHZ80 มีการคาดเดาว่าจะเปิดตัวในช่วงเดือนมกราคม ปี 2022 ส่วนราคายังไม่ได้เปิดเผยออกมาครับ ที่มา : Theverge.com

ที่สุดของแหล่งกำเนิดแสงสำหรับโปรเจคเตอร์วันนี้ คงไม่มีอะไรดีไปกว่า Laser Diode จากศักยภาพที่ให้ทั้งความสว่างสูง และเสถียรภาพและคุณภาพแสงที่ดีกว่า ดังนี้ที่ผ่านมาเทคโนโลยีเลเซอร์จึงถูกนำมาใช้เฉพาะกับรุ่นโปรเฟสชันนัลราคาสูงเท่านั้น แต่บัดนี้ Epson นำเสนอ Laser Projector รุ่นใหม่ ที่ให้ความย่อมเยาลงทั้งขนาดและระดับราคา เพื่้อเปิดโอกาสให้ใช้งานในห้องประชุม เพิ่มความน่าสนใจให้กับธุรกิจห้างร้าน หรือแม้แต่สร้างความบันเทิงในบ้านพักอาศัย

ครั้งแรกของโปรเจคเตอร์ เพื่อใช้งานจัดแสดงกับการออกแบบรูปทรง Spotlight ของ Epson ซึ่งข้อดีที่ดูเหมือนสปอตไลท์จริงๆ นี้ ให้ความยืดหยุ่นในการติดตั้งได้มากกว่าที่คิด เมื่อผสานรวมกับฟีเจอร์อันโดดเด่นด้านการฉายภาพที่เป็นทั้งโปรเจคเตอร์และสปอตไลท์ในคราวเดียวกัน ย่อมจะช่วยให้การสร้างสรรค์งานเป็นไปอย่างไร้ขีดจำกัด ทีมงาน LCDTVTHAILAND จึงขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ Epson LightScene EV-100/105 Laser Projector เครื่องนี้กันครับ…

Epson ผู้ผลิตโปรเจ็คเตอร์อันดับหนึ่งสัญชาติญี่ปุ่น ปัจจุบันยังคงยึดมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานทุกกลุ่ม รวมถึงพัฒนาคุณสมบัติใหม่ๆ

เดิมทีเราอาจจะเห็นโปรเจ็คเตอร์ถูกใช้งานในโรงเรียน ห้องประชุมในออฟฟิศ หรือ ไม่ก็ห้องโฮมเธียเตอร์ภายในบ้านเสียส่วนใหญ่ แต่แท้จริงแล้วด้วยศักยภาพของโปรเจ็คเตอร์ในปัจจุบัน นับเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญที่ถูกนำไปใช้กับงานนำเสนอที่ต้องการความสร้างสรรค์ในรูปแบบที่แหวกแนวและน่าตื่นตาตืนใจได้มากมายกว่าที่คิด ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเพียงไม่กี่ชนิดที่รองรับได้ทั้งพื้นที่ให้ห้องเล็กๆ ไปจนถึงส่วนจัดแสดงขนาดใหญ่…

เราอาจคุ้นเคยกับการใช้งานโปรเจ็คเตอร์เพื่อความบันเทิงภายในบ้าน (Home Theater) หรือใช้นำเสนองานในออฟฟิศ (Presentation) ทว่าอันที่จริงศักยภาพของโปรเจ็คเตอร์นั้นสามารถทำอะไรได้มากมายกว่าที่เราคิด อาทิ ใช้กับงานป้าย (Digital Signage) แสดงเอฟเฟ็กต์ประกอบเข้ากับตัวสินค้าหรือสถานที่เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ หรือแม้กระทั้งนำไปดิสเพลย์หน้าร้าน เป็นต้น

ในวงการโปรเจ็คเตอร์เวลานี้คงไม่มีอะไรฮ็อตเท่ากับการนำ “เทคโนโลยีเลเซอร์” มาใช้เป็นแหล่งกำเนิดแสง ซึ่งในแง่คุณสมบัติถือว่าทดแทนหลอดไส้ที่ใช้งานกันมาก่อนหน้านี้ได้ดีกว่าในทุกๆ ด้าน

นับแต่ Apple ปฏิวัติโทรศัพท์มือถือด้วยการทำให้ปุ่มหายไปและใช้วิธีสัมผัสหน้าจอแทน จากนั้นโลกก็เปลี่ยนแปลงรูปแบบการควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไปเป็นแบบ “Touch Control”… และบัดนี้ การควบคุมแบบสัมผัสจะมิได้จำกัดบนจอมือถือ แท็บเล็ต หรือจอมอนิเตอร์เท่านั้น

ที่ผ่านมาเราได้ใช้เทคโนโลยีควบคุมระบบสัมผัสหน้าจอ (Touch Screen) บน Smart Phone ขนาดเล็ก ไปจนถึง Tablet และจอมอนิเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทว่าบัดนี้ “โปรเจ็กเตอร์” ก็รองรับระบบสัมผัสหน้าจอแล้วครับ!! แน่นอนเราจะได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่หน้าจอที่ใหญ่มากถึง 100 นิ้ว ได้อย่างคุ้มค่ายิ่งกว่าแต่ก่อนหลายเท่าเลยทีเดียว…