ไม่กี่วันที่ผ่านมา LG Display ได้ประกาศรายชื่อลูกค้ากลุ่ม automotive OLED ว่าแบรนด์รถยนต์ชั้นนำอาทิ General Motors, Volvo, Jaguar Land Rover, Porsche และ Lucid

จากการวิเคราะห์พบว่า Apple Watch แบบจอ microLED จะไม่เปิดภายในปี 2025 นี้ เพราะข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีในการผลิต ซึ่งการวิเคราะห์นี้อ้างอิงจากรายงานของ LG

ต้นทุนการผลิตพาเนล QD-OLED ขนาด 65 นิ้ว มีการคาดการณ์ว่าจะลดลง 30% ในปี 2023 นี้ เมื่อเทียบกับปี 2022 ที่ผ่านมา ส่วนต้นทุนของพาเนล WOLED ก็จะปรับลงอย่างมีนัยสำคัญเช่นกั

ในตอนนี้ทั้ง LG Display และ Samsung Display กำลังพิจารณา phosphorescent blue (PHOLED) ที่จะช่วยยกประสิทธิภาพให้กับการแสดงผลของจอ OLED ให้เพิ่มขึ้นได้

จากการรายงานของผู้บริหาร UBI ได้เปิดเผยว่า ผู้ผลิตพาเนลทีวีประเภท LCD-LED จากประเทศจีนเริ่มครอบงำตลาดทีวีกลุ่มนี้แทนที่ LG และ Samsung โดยปัจจัยสำคัญนั้นมาจากทาง

รู้กันเป็นอย่างดีว่า LG กับ Samsung นั้นเป็นคู่แข่งกันในเรื่องของจอแสดงผล และที่น่าสนใจคือโน๊ตบุ๊คของ LG รุ่นล่าสุด Gram Style ที่เป็นจอ OLED กลับใช้พาเนลของ Samsung Display

LG วางแผนขยายไลน์อัพจอแสดงผลแบบ OLED ขนาด 20″ ในช่วงปลายปี 2022 เพิ่มทางเลือกให้กับผู้ใช้มากขึ้น ซึ่งขนาด 20″ น่าเสียดายที่ LG ไม่ได้เปิดเผยว่าพาเนล OLED ขนาด 20″

LG Smart TV รุ่นที่รองรับระบบปฏิบัติการ webOS 4.0 – 6.0 หรือรุ่นที่วางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นไป สามารถสตรีมความบันเทิงจาก Disney+ Hotstar บริการสตรีมมิ่งที่นำเสนอเรื่องราวทั้งในระดับโลก เอเชียและไทยไว้ในที่เดียว โดยผู้ชมจะได้โลดแล่นสู่จินตนาการไม่รู้จบ

ปัจจุบันตลาด OLED TV มีผู้เล่นอยู่ประมาณ 20 แบรนด์ จากผลการวิเคราะห์ เทียบยอดขายระหว่างปี 2020 vs 2021 พบว่าตลาด OLED TV โตขึ้นถึง 80% มียอดขายกว่า 6.5ล้านเครื่อง

TrendForce เคยวิเคราะห์ไว้ว่าในปี 2022 นี้ ยอดขายของทีวีจะโตขึ้น 3.4% เป็น 217 ล้านเครื่อง โดยในยอดนี้ แบ่งเป็นทีวีขนาดต่ำกว่า 39″ จะมียอดขายราว 25%, ขนาด 40-59″ ราว 55″ และที่เหลือเป็นขนาดใหญ่กว่า 60″ ซึ่งทั้งหมดนี้แบรนด์หลักจะมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 20% ส่วนพาเนลที่ยังคงเติบโตในปีนี้ก็ยังคาดว่าเป็นพาเนล OLED เพราะในปีก่อนก็มียอดขายโตขึ้น 70% ยิ่งในปีนี้ OLED TV มีการขยายขนาดมากขึ้นก็ยิ่งเป็นปัจจัยบวกที่จะทำให้ยอดขายพาเนลเติบโตขึ้นด้วย ส่วนอีกหนึ่งพาเนลที่น่าจับตามองก็คือ miniLED เพียงแต่การเติบโจะไม่สูงมากนัก ที่มา : TrendForce

หลังจากที่ Philips เปิดตัว OLED TV ตัวท็อปอย่างรุ่น OLED936 ไป ก็ได้เปิดตัว OLED986 มาอีกรุ่น โดยทาง Philips ได้เปิดเผยว่า ทั้งรุ่น OLED936 และ OLED986 ในขนาด 55″ กับ 65″