ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดลบ 4.47 จุด ดีกว่าตปท.รับแรงซื้อกลุ่มพลังงานช่วยพยุง  (อ่าน 88 ครั้ง)

ออฟไลน์ hs8jai

  • Hologram 3D TV member
  • ******
  • กระทู้: 16,469
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดลบ 4.47 จุด ดีกว่าตปท.รับแรงซื้อกลุ่มพลังงานช่วยพยุง จับตาเฟด-ยูเครน

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,689.81 จุด ลดลง 4.47 จุด (-0.26%) มูลค่าการซื้อขาย 107,131.20 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวลงหลังผู้นำสหรัฐประกาศยืนข้างยูเครนและอาจเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ขณะที่ยังมีการใช้กำลังทหารโจมตียูเครนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลหุ้นทั่วโลก Panic รวมตลาดหุ้นไทย แต่กลุ่มพลังงานยังช่วยพยุงไว้ได้ระดับหนึ่ง แต่ตลาดหุ้นยังไม่มีความแน่นอนสถานการณ์ยูเครน และการประชุมเฟด แนวโน้มวันพรุ่งนี้อาจพักฐานหรืออาจอ่อนตัวลงได้ แต่ให้แนวรับไว้ที่ 1,675 จุด แนวต้าน 1,700 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,689.81 จุด ลดลง 4.47 จุด (-0.26%) มูลค่าการซื้อขาย 107,131.20 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกช่วงต้นภาคเช้าหลังจากนั้นปรับตัวในแดนลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,699.58 จุด และลงไประดับต่ำสุดที่ 1,684.53 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 559 หลักทรัพย์ ลดลง 1,333 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 450 หลักทรัพย์

นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลกวิตกสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนหลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศยืนข้างยูเครน แม้จะไม่ใช่การช่วยเหลือด้านกำลังทหาร แต่อาจเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ขณะที่รัสเซียยังคงโจมตียูเครนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลก Panic ขณะเดียวกันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) ปรับลงหลังเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย เป็น Sentiment เชิงลบต่อสินทรัพย์เสี่ยงและตลาดหุ้นไทย

ในช่วง 1-2 วันนี้คาดตลาดจะให้ความสนใจกับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันที่ 2 มี.ค. และจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันที่ 3 มี.ค.รวมถึงติดตามการประชุมเฟด ซึ่งมีโอกาสที่เฟดจะหยิบยกสถานการณ์ดรัสเซียและยูเครนมาพิจารณาในกรปรับขึ้นดอกเบี้ยตามที่ตลาดเคยคาดการณ์ไว้ในระดับ 0.25-0.50%

จากความไม่แน่นอนต่อสถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครน และการประชุมเฟด ทำให้ตลาดแกว่งตัวออกด้านข้าง อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวลงน้อยกว่าตลาดอื่น ๆ เนื่องจากราคาน้ำมันพุ่งช่วยให้เกิดแรงซื้อกลุ่มพลังงานช่วยประคองตลาดไว้ได้ระดับหนึ่ง นำโดย PTTEP , BANPU แต่ sentiment เชิงลบทำให้ภาพรวมตลาดแกว่งตัว sideway-sideway down

แนวโน้มวันพรุ่งนี้ ตลาดจับตาถ้อยแถลงประธานเฟด และสถานการณ์ในยูเครน คาดว่าตลาดคงพักฐานและอาจอ่อนตัวลงไปทดสอบระดับแนวรับของสัปดาห์นี้ที่ 1,660-1,670 จุดได้แ แต่ยังให้แนวรับพรุ่งนี้ที่ 1,675 จุด แนวต้าน 1,700 จุด

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 8,955.05 ล้านบาท ปิดที่ 149.50 บาท เพิ่มขึ้น 12.00 บาท

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 7,090.56 ล้านบาท ปิดที่ 12.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,623.17 ล้านบาท ปิดที่ 160.50 บาท ลดลง 2.50 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,010.18 ล้านบาท ปิดที่ 39.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

BBL มูลค่าการซื้อขาย 3,528.07 ล้านบาท ปิดที่ 134.50 บาท ลดลง 2.50 บาท