ผู้เขียน หัวข้อ: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Procella , SVS, Anthem, Parasound,Audyn  (อ่าน 330784 ครั้ง)

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #684 เมื่อ: มกราคม 10, 2015, 02:42:09 pm »
ลำโพงใหญ่ล้นห้อง  ?
ซับใหญ่กับห้องเล็ก ?
ความสัมพันธ์ของลำโพงคู่หน้ากับซับ ?





-------------------------------------------------------
อ่านบทความได้ที่นี่: https://goo.gl/yriy2F
-------------------------------------------------------

วันก่อนได้อ่านกระทู้ในสื่อแห่งนึง เค้าถามว่าห้องไซส์นี้ใช้ซับกี่นิ้วดี?
ความเข้าใจผิดของนักเล่นเครื่องเสียงอย่างนึงก็คือ ซับใหญ่ ห้องเล็กมันจะล้น และเสียงบวม
จริงๆแล้วการที่เสียงบวมเบลอนั้นไม่ได้เกี่ยวกับขนาดห้องเสียทีเดียว แต่เป็นเรื่องของอคูสติกและการก้องของห้อง ซึ่งส่วนใหญ่เสียงก้องนั้น เมื่อเอาเฟอร์เอาโซฟาเข้าไปในห้องจะอยู่ในระดับพอรับได้  คือก้องบ้างบางตำแหน่ง บางจุด หรือก้องพอฟังได้  และอาการก้องจะฟ้องชัดเจนกับเสียงทุ้มๆหรือเสียงเบสเพราะมันจะหึ่ง ครางและไม่กระชับมากวนเสียงอื่น (เสียงกลางแหลมอาการจะน้อยกว่า)
ทีนี้พอการใช้ซับตัวเล็กๆหรือไม่ใช้เลย อาการมันก็จะไม่ฟ้องออกมา แต่ห้องก็ยังก้อง และอคูสติกก็ไม่ดีอยู่เหมือนเดิม    การใช้ซับตัวเล็กๆหรือไม่ใช้เลยจึงเหมือนการเก็บและซ่อนอาการเอาไว้นั่นเอง  *เหมือนรถที่ช่วงล่างเสีย แต่แกโดยขับช้าๆ บนถนนดำ ไม่ไปวิ่งลงทางขรุขระหรือขึ้นลูกระนาด อาการช่วงล่างเสียมันก็จะไม่ฟ้องออกมาให้เห็นชัด แต่รถก็ยังมีอาการโช๊คเสียอยู่ หากวันนึงเอาไปลุยก็จะฟ้องอาการออกมาหมด)



และเมื่อไร่ที่เอาซับตัวใหญ่ๆ เบสเยอะๆ หนักๆ และไม่กระชับเข้าไป อาการก้องเพราะอคูสติกของห้องมันจะชัดและฟ้องออกมา เป็นที่มาของคำว่า ซับมันใหญ่ล้นห้อง เบสบวม เสียงเบลอ เปิดได้ไม่เท่าไร่ก็ต้องเบาเพราะมันครางหึ่งๆจนน่ารำคาญ

แท้จริงแล้ว คำกล่าวที่ว่า ไม่มีซับใหญ่ไปสำหรับระบบดูหนังนั้น อาจกล่าวได้ว่าไม่ได้กล่าวเกินเลยความจริงแต่อย่างใด บางห้องเล็ก 12 ตรม แต่ใช้ซับ 15 นิ้ว หรือ 18 นิ้ว ถามว่าทำไมเค้าไม่ล้น
เหตุผลก็เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องขนาดห้องและขนาดดอกของซับวูฟเฟอร์ แต่มันยังมีเรื่องคุณภาพของซับ และอคูสติกภายในห้อง และการจัดการเสียงก้อง เสียงสะท้อนในห้องที่ดี รวมไปถึงการเซ็ทอัพก็มีผลด้วยครับ



ถ้ามีใครถามผมว่าห้องขนาดนี้ ใช้ซับดอกขนาดเท่าไร่ดี ผมจะพิจารณาจาก

1. ห้อง เป็นห้องอะไร ห้องปิด ห้องนั่งเล่น ห้องนอน  ถ้าเป็นห้องปิดหรือห้องนอนนั้น การหวังผลจากเสียงเบสจะมีมากกว่าและมีโอกาสควบคุมความถี่ต่ำได้ดีกว่าห้องนั่งเล่นหรือห้องเปิด ดังนั้นสามารถที่จะใช้ซับเล็กมากกว่าหนึ่งตัวและได้ผลดี หรือหากมีงบก็สามารถลงทุนซับแพงๆได้เห็นผลชัดเจนและคุ้มค่ากว่าด้วย

2. ความต้องการ และแนวในการดูหนังของเจ้าของเป็นหลัก ถ้าเจ้าของเป็นแนวพ่อบ้านใจเย็น เกรงใจ ห้องติดข้างบ้าน มีเด็ก มีคนแก่ หรือเจ้าของเน้นโหดๆ หนักๆ สายพลังมาเลย  วิธีจะรู้ได้คือต้องคุยกับเจ้าของ ถามไปเรื่อย ฟังเพลงอะไร แนวไหน พูดถึงซิสเต็มคนนู้นคนนี้ว่า เออดีมั๊ย หรือให้เค้าหลุดออกมาว่าแบบไหนที่เค้าไม่ชอบ  เช่นบางคนก็จะหลุดออกมาว่า เสียงบางห้องหรือบางร้านที่ไปฟังมา นั้นไม่ดีเลย เราก็จะรู้ว่าลูกค้าไม่ชอบอะไร เป็นต้น

3. ขนาดห้อง
เราจะไม่ดูว่า ขนาดห้องแบบนี้ ต้องใช้ซับขนาดไหนถึงจะไม่ใหญ่ไป แต่เราจะมองกลับกัน คือ เราจะมองว่าซับขนาดเล็กสุดที่สามารถให้ปริมาณเสียงเบสได้พอเพียงในห้องนี้นั้นควรจะเป็นเท่าไร่ ไม่ใช่พิจารณาจากขนาดใหญ่ที่สุดที่ห้องจะรับได้  เหมือนที่คนอื่นๆคิด พอได้ขนาดเล็กสุดที่สามารถเอาอยู่แล้ว เราจะค่อยไปพิจารณาข้อ 1 และ 2 ด้านบนว่าลูกค้าต้องการแบบไหน ถ้าลูกค้าไม่ได้ต้องการเบสมากมาย เราจะแนะนำแค่ซับตัวที่แค่พอใช้ได้ในห้องนั้นพอ
แต่ถ้าเจ้าของห้องต้องการมากกว่านั้น เราจะเพิ่มทั้งขนาดและคุณภาพของซับเบิ้ลขึ้นไปเพื่อให้พอกับความต้องการ




และยืนยันอีกทีว่า "ในระบบดูหนัง ไม่มีคำว่าซับใหญ่ไป  มีแต่ซับที่เหมาะหรือไม่เหมาะกับห้องและความต้องการของคุณต่างหาก" อย่าลืมว่าส่วนใหญ่ซับที่ช้า หรือแผ่จะบริหารจัดการได้ยากกว่าซับที่เร็ว และกระชับเสมอ


ปิดท้าย บางคนอาจมองว่า เลือกใช้ซับขนาดเท่าไร่ให้ดูให้สัมพันธ์กับคู่หน้า
วิธีนี้คือวิธีของคนที่เป็นสาย 2 ch ครับ เพราะวิธีคิดของคนฟังเพลงจะไม่เหมือนกับวิธีคิดของคนเล่นระบบ multi channels นั้นคือ
คนฟังเพลงจะมองว่าการฟังเพลง 2.0 โดยไม่ใช้ซับนั้นคือความดีงาม เพราะปราศจากการรบกวนจากเสียงความถี่ต่ำของซับ ที่มีโอกาสที่จะสร้างเสียงรบกวน sound stage, image รวมไปถึงความไม่เข้ากันของเสียงเบสที่เกิดจากซับ ไม่เข้ากับเสียงกลางต่ำของลำโพงคู่หน้าด้วย
ดังนั้นคนฟังเพลงเค้าจะดูว่าลำโพงคู่หน้าขนาดเท่าไร่ ให้เสียงลงลึกได้แค่ไหน และให้ปริมาณเบสที่มีคุณภาพเพียงพอหรือยัง  ถ้ามันพอแล้วคนกลุ่มนี้เค้าจะไม่มองไม่แยแสซับวูฟเฟอร์เลยแม้แต่น้อยครับ เพราะมันอาจจะทำลายคุณค่าของเพลงและเสียงที่เกิดจากลำโพงคู่หน้าเค้าลงได้นั่นเอง


 
เราจะเห็นคนที่ชอบฟังเพลงเค้าจะเลือกซับที่เบาๆ  ให้เสียงสะอาดๆ ไม่กวนคู่หน้าเสมอ เช่น R...,  Mar...Dy...   และอีกหลายๆยี่ห้อ  ที่ถ้าเอามาเปิดในระบบมัลติแชนแนล เราจะเห็นว่าเบสมักจะไม่พอและขาดอิมแพคสำหรับคนดูหนัง

ดังนั้นซับตัวหนึ่งอาจจะดีในห้องและเหมาะสมกับคนคนหนึ่ง
แต่มันอาจจะไม่ดีสำหรับคนอีกคนหรืออีกห้องหนึ่งก็ได้
ดังนั้นการเลือกซับ ขนาดของซับ มันไม่มีจุดตายตัวว่าห้องขนาดนี้ต้องขนาดนี้เท่่านั้น ต้องยี่ห้อนี้จับคู่กับยี่ห้อนี้เท่านั้น   คุณจะจับอะไรกับอะไรก็ได้  ห้อง 12 ตรม จะเล่น 16 นิ้วสองตัวก็ได้ถ้าคุณบริหารจัดการอคูสติกและความถี่ต่ำได้
และที่สำคัญที่สุดคือ  จะเล่นซับขนาดไหน ยี่ห้ออะไร เสียงแบบไหน สิ่งที่ต้องคิดและพิจารณามาเป็นอันดับหนึ่งนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องห้อง หรือคำวิจารณ์ของร้านค้า ของเซลล์ ของพวกเด็กรักจ้างเชียแขก หรือสาวกที่มีอยู่เต็มโซเชี่ยล หรือกรุ๊ปไลน์  แต่สิ่งที่ต้องคำนึงก่อนคือ  "คุณชอบอะไร" เสียงแบบไหนที่คุณฟังแล้วมีความสุข  จ่ายเงินออกไปแล้วยกมาฟังในห้องแล้วมันใช่  ก็จบ ซื้อมาฟังเอง ไม่ได้ให้คนอื่นมาฟังหรือมาวิจารณ์ยกเว้นว่าคุณเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคมที่ซื้อมาแล้วมีหัวหนังสือมาขอถ่ายลงนิตยสาร หรือมีเพื่อนฝูงในแวดวงเยอะ แบบนั้นจะซื้อมาอวด มาประกาศศักดาก็ตามสะดวกเลยจ้าาาาา..

 ปล. เขียนมาขนาดนี้จะเชื่อ ไม่เชื่อก็แล้วแต่  ประสบการณ์คนเรา ความชอบ สไตล์คคนเราไม่เหมือนกัน...
แต่ส่วนใหญ่ที่เจอมา ขนาดของซับจะยิ่งลดลงตามอายุของผู้ฟัง...








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 17, 2018, 08:30:20 am โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #685 เมื่อ: มกราคม 10, 2015, 08:25:37 pm »
Review FIBBR Ultra Pro



----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อ่านบทความได้ที่นี่: http://www.whatthatsound.com/article/396/review-fibbr-fiber-optic-hdmi-ultra-pro-series
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 
วันก่อนเรา review สาย HDMI FIBBR รุ่น Pure กันไปแล้ว
วันนี้เราแกะกล่องเอารุ่นประหยัด Ultra Pro มาลองรีวิวกันบ้างว่ารุ่นเล็กของค่ายนี้มีอะไรดีบ้าง โดยรุ่นที่เราลองเป็นรุ่นความยาว 15 เมตรครับ
 
อย่างแรกคือสาย Optic รุ่น Ultra pro นี่เป็นรุ่นเล็กสุด ประหยัด แต่ออกมาหลังรุ่น Pure ถ้าให้เปรียบก็เหมือนรุ่น Pure เป็นรุ่นรุ่นใหญ่แต่ออกมาก่อน ส่วน Ultra pro ออกมาทีหลัง แม้จะรุ่นเล็กกว่า แต่เทคโนโลยีก็ใหม่และปรับปรุงอะไรหลายๆอย่างให้ดีขึ้น จึงได้ความคุ้มค่าที่สูงขึ้นมากครับ




มีอะไรดีบ้าง

 
1. มีไฟ led บอกสถานะ ในรุ่น ultra pro นี้ตอนเราเสียบสายต้นทางแล้ว ถ้าปลายทางยังไม่ได้เสียบ ไฟแสดงสถานะจะกระพริบเป็นสีเขียวก่อน พอเราเสียบสายที่ปลายทางแล้วไฟสถานะจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีฟ้า แสดงถึงสถานะว่าพร้อมใช้งานแล้วนะ ซึ่งอันนี้รุ่น Pure ไม่มีครับ
 
2. แนวเสียง รุ่น ultra pro จะออกไปทางเฟี้ยวฟ้าว จัดจ้าน และมีรายละเอียดที่ไปทางกลางแหลมมากกว่ารุ่น Pure ที่ออกไปทาง flat และไม่มี color
จริงๆเสียงรุ่น ultra pro ผมว่าค่อนข้างละม้ายไปทางสาย hdmi พวกที่เป็น silver plate ครับ คือเบสไม่หนา แต่รายละเอียดดี แหลมทอดยาว กรุ๊งกริ้งๆ ถ้าซิสเต็มที่แหลมเยอะๆอยู่แล้วมาใช้อาจจะไม่ชอบ แต่ถ้าซิสเต็มที่ทึบๆ เสียงหนาๆ แหลมน้อยๆเช่นชุด home audio หรือลำโพงพวกฟังเพลงพวกนี้จะดีและเหมาะ
มากเพราะจะช่วยรายละเอียดและเพิ่มแหลมได้
(ส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบเสียงพวก hdmi silverpalte หรือพวกเคลือบเงินครับ เพราะผมใช้ klipsch แหลมดีอยู่แล้ว ไม่อยากไปเพิ่มแหลมมันอีก)


 
3. ภาพ อันนี้ถ้าจอไม่ใหญ่มากระดับ 120 นิ้วขึ้นไป ผมว่าภาพไม่ได้ทิ้งกับรุ่น Pure เท่าไร่เลย ถ้าไม่หยุดภาพมาดูก็มองไม่ค่อยออกแบบชัดเจนครับ เรียกว่า Pure ให้อะไร Ultra pro ก็ให้ได้แบบหายใจรดต้นคอ

4. วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ รุ่น Ultra pro จะใช้วัสดุเช่นหัว hdmi เป็นแบบด้าน ส่วนรุ่น Pure เป็นแบบเงา วัสดุข้างในที่เคลมเอาไว้ว่ารุ่น Pure ใช้ของที่ดีกว่า
เอาจริงๆผมกลับชอบวัสดุของรุ่น ultra pro มากกว่า มันดูทน และดูดีกว่า อาจจะเป็นเพราะรุ่นนี้ออกมาทีหลังก็ได้ครับ คล้ายๆซื้อรถครับ รุ่นเล็กแต่เพิ่งออก บางทีก็ได้ออฟชั่นและดทคโนโลยี และการดีไซน์ที่ได้อะไรมากกว่ารุ่นใหญ่ แต่รุ่นใหญ่ที่ออกมาก่อนก็จะได้เครื่องยนต์และมาตรฐาน และการใช้งานที่ดีแทน




ข้อเสีย

1. รุ่นนี้ใครซื้อรุ่น 15 เมตร
แล้วแกะกล่องออกมาแล้ว การจะเก็บยัดใส่กล่องกลับให้สภาพเหมือนเดิมยากมากและต้องใช้ความพยายามมาก เพราะสายแข๊ง ม้วนยาก และกล่องมันเล็ก ไม่ได้ทำช่องมาให้ม้วนสายเหมือนรุ่น Pure ที่แพ๊คเกจจิ้งจะดีกว่า (ผมรู้สึกว่าสายรุ่น ultra pro มันแข๊งกว่า pure หรือเปล่า)
 
2. เสียงมี color โดยเฉพาะกลางแหลมที่เด่นกว่าย่านอื่น ข้อดีคือให้รายละเอียดดี ปลายแหลมทอดยาวดี แต่บางทีก็กัดหูสำหรับคนที่ใช้ชุดเสียงจัดๆและจูนเสียงมาพอดีแล้วและก็ขาดความเป็นธรรมชาติไปนิด
 
สรุป เป็นสาย optic hdmi ที่เหมาะสำหรับคอภาพ คนใช้ pjt ใหญ่ๆ ที่มุ่งเน้นคุณภาพของภาพที่ดี ลากสายได้ยาวๆ
สายมีราคาไม่แพง และทนทานดี เป็นสายที่คุณภาพกับราคาเทียบกันแล้วมีความคุ้มค่าสูงมากครับ














« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 17, 2018, 08:34:44 am โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #686 เมื่อ: มกราคม 11, 2015, 09:26:42 am »


จัดส่ง Klipsch RP-150M สองคู่ให้ลูกค้าที่ชลบุรีครับ พร้อมแผ่นซับเสียง planet green
(ลูกค้าบุกมารับเอง) 
สองคู่นี้ลูกค้าเอาไปติดเป็นลำโพง Atmos เล่นเป็น 7.2.4 แชนแนล
ลำโพงหลักเป็น Klipsch THX Ultra2
และซับเป็น Klipsch THX KW120+ KA1000

สุดยอดแฟนพันธ์แท้ Klipsch ที่แท้ทรูต้องยกให้ท่านนี้เลยครับ อิอิ




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 22, 2018, 10:53:01 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #687 เมื่อ: มกราคม 11, 2015, 06:13:32 pm »
บรรยากาสจัดส่ง Emotiva XPA7 gen3 และ Pre Marantz AV7704 ที่ทองหล่อ



จัดส่ง Pre-Processer รุ่นสุดคุ้ม Marantz AV7704 อันเลื่องลือ
และ Poweramp Emotiva XPA7 Gen3 ที่ให้กำลังถึง 200 วัตต์ ที่ 7 แชนแนล ให้ลูกค้าที่ทองหล่อครับ
 
ตัวนี้ลูกค้าสั่งจองเอาไว้ก่อนของมาร่วมเดือน พอของมาก็รีบจัดส่งให้ทันที
 
ชุดลูกค้าใช้ Klipsch RP-280F และ RC-64 II เป็น 5.1.2 แชนแนล
ลำโพง klipsch นั้นไม่มี power amp ตัวไหนที่ match และเข้าขาได้มากไปกว่า emotiva อีกแล้วครับ ที่อเมริกานั้นเป็นแอมป์และลำโพงคู่บุญ กิ่งทองใบหยกเลยก็ว่าได้ จับคู่กันยิ่งเสริมให้เสียงในระบบดูหนังไปได้อีกไกลครับ



ส่วน pre Marantz AV7704 นั้นเป็นปรีที่ผมคิดว่าให้ความคุ้มค่ามากที่สุดแล้วในราคาไม่เกิน 7 หมื่นบาท จะเอาดีกว่านี้มีครับ จะให้ดูหนังมันกว่านี้ก็มีครับ แต่ต้องจ่ายมากกว่านี้สองเท่า ไม่ว่าจะเป็น anthem avm60 ที่ให้เสียงนอนมาเลยว่าดีที่สุดในเรื่องดูหนัง ในงบแสนกลางๆ
หรือจะไปสายละมุนก็ไป AV8805 (ผมงงกับการไล่ลำดับรุ่นของ marantz มาก 8802, 8802a แล้วก็ข้ามไป 8805 แล้ว 8803 กับ 8804 หายไปไหน (ว่ะ) แต่ช่างมันเถอะ)
หรือจะรอปรี 16 แชนแนลอย่าง Emotiva RMC-1 ที่เชื่อแน่ว่ามีทีเด็ดมาอย่างแน่นอน (แต่ก็ยังไม่ออก)
ดังนั้นด้วยงบ 7 หมื่นบาทก็นึกไม่ออกแล้วว่าจะมีปรีตัวไหนทำได้ดีกว่านี้อีก
 
ราคา Emotiva XPA Gen3: http://www.whatthatsound.com/category/106/emotiva-gen3









« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 22, 2018, 11:15:44 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #688 เมื่อ: มกราคม 12, 2015, 11:19:50 am »


จัดส่ง Power amp Emotiva XPA5 gen3 ไปให้ลูกค้าที่ยโสธรครับ ตัวนี้จัดส่ง nim express  (ลูกค้าสั่งจองไว้ก่อนของมา ก่อนส่งก็แกะเทสให้ก่อนส่งด้วย) 

ตัวนี้ made in usa ทั้งตัว 
แนวเสียงละม้ายไปทาง anthem คือดุดัน
แต่แตกต่างกันที่เสียงกลางแหลมของ emotiva gen3 จะเปิดและให้รายละเอียดที่สดและชัดกว่า
ในขณะที่ anthem mca จะให้เสียงกลางติดไปทางหนา และท้วม ติดดาร์ก

ราคา Emotiva XPA5 gen3
: http://www.whatthatsound.com/product/630/emotiva-xpa-5













« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 22, 2018, 11:27:00 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #689 เมื่อ: มกราคม 12, 2015, 03:33:12 pm »


จัดส่งลำโพงเซอราวด์แบบไบโพล Klipsch R-14S ไปให้ลูกค้าที่ปทุมธานีครับ ตัวนี้เป็นลำโพงดอก 4 นิ้วหนึ่งดอก และใช้ทวีตเตอร์สองดอกหันหน้าออกจากกัน ช่วยกระจายเสียงให้คลุมห้อง

แนวคิดการใช้ลำโพงเซอราวด์แบบบุ๊กเชลฟและแนวคิดการใช้ลำโพงเซอราวด์แบบไบโพลนั้นมีมานาน ต่างฝ่ายก็ต่างบอกว่าอีกฝั่งไม่ดี ไม่ถูกต้อง   แต่จริงๆผมว่ามันมีข้อดีข้อเสียต่างกัน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ห้อง และความจริงจังในการเล่นและความพึงพอใจของเจ้าของเองด้วยครับ




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 23, 2018, 12:23:21 am โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #690 เมื่อ: มกราคม 12, 2015, 07:16:07 pm »


จัดส่ง SVS SB4000 ให้ลูกค้าท่านหนึ่ง (ด้วยจรรยาบรรณจึงไม่ประสงค์ออกนาม รูปหลังแกะใช้รูปแทน) เป็นซับรุ่นใหม่ที่ให้เสียงดีกว่า SB13 ultra ขึ้นไปอีก กำลังแรงพอสำหรับห้องทั่วๆไป ที่ใหญ่สัก 10 - 20 ตรม ด้วยความที่เป็นตู้ปิด จึงให้เสียงที่เร็ว หนัก พั็นซ์ ใครชอบเบสเร็วๆก็แนะนำเลยครับ
มีรีโมท หน้าจอบนซับ และแอปคอนโทรลบนมือถือมาให้ด้วย สะดวกสบายมากครับ






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 01, 2018, 06:36:39 am โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #691 เมื่อ: มกราคม 13, 2015, 08:44:03 am »


จัดส่ง Anthem P5 เพาเว่อร์แอมป์กำลัง 325 วัตต์ ที่ 5 แชนแนลไปให้ลูกค้าที่สมุทรสาครครับ
ลูกค้านำไปใช้กับลำโพง Procella  และเป็นแฟนพันธ์แท้ Anthem  ใช้ปรี AVM60 และ Power MCA525 อยู่แล้ว
เพราะชอบในน้ำเสียงอิ่มใหญ่ หนา หนักแน่นของ Anthem ครับ

anthem เป็น Poweramp สัญชาติแคนาดา made in Canada ที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมากในบ้านเราซื้อง่ายขายคล่อง
เพราะให้น้ำเสียงแบบที่คนไทยชอบคือ หนา แต่หนักแน่น และไม่บาดหูสามารถไปจับกับลำโพง cinema ได้แทบจะทุกรูปแบบ  โดยที่โทนเสียงยังดุดัน ดูหนังสนุกครับ













« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 01, 2018, 06:42:10 am โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #692 เมื่อ: มกราคม 13, 2015, 12:54:23 pm »
เลือก AVR แบบไหนดี



วันนี้พอมีเวลา ผมเลยอยากเขียนถึงวิธีการเลือก AVR หรืออีกชื่อคือ Audio Video Receiver หรือภาษาบ้านๆที่เราเรียกกันว่าเป็น AV multi channels หรือ AVR สำหรับดูหนังก็ได้ครับ
อย่างน้อยผมก็เคยลองผิดลองถูก ลองฟัง AVR รวมถึง Pre Processor มาหลายแบรนด์หลายรุ่น
 
วันนี้จะมาแชร์วิธีคิด วิธีเลือกในแบบที่ผมคิดว่าดี และน่าสนใจ เวลาจะเลือกหา AVR สักเครื่อง (แต่อาจจะถูกหรือเปล่าก็แล้วแต่วิจารณญาณของผู้ใช้งานแต่ละคน) หวังว่าจะมีประโยชน์
มาลองให้อ่านกันดูครับ
 
 
1. อันดับแรก เลือก AVR ให้มันมีแนวเสียงที่เราต้องการ
AVR แบรนด์ไหนเสียงยังไงก็ลองไปศึกษาดูกัน
แต่แนะนำว่า ถ้าลำโพงเสียงแหลมๆจัดๆก็พยายามอย่าไปเลือก avr ที่เสียงมันบางๆแหลมๆ และถ้าลำโพงขับยากอย่าพยายามไปเลือก avr ที่กำลังสำรองไม่ค่อยดี ยี่ห้อที่เสียงดุดันเหมาะกับการดูหนังได้ดี แนะนำให้พิจารณา onkyo RZ series เพราะรุ่นใหม่เสียงเฟี้ยวฟ้าวกำลังดี ไม่แสบหู และเบสหนัก เหมาะกับการดูหนังครับ
แต่ถ้าเสียงอยากได้โทนเสียงบาล้านมาหน่อย ไม่จัดมาก แต่ดูหนังดี กลมกล่อม คุ้มตัง กำลังสำรองก็ดีด้วย ก็ลองดู Marantz เป็นตัวเลือกแรกๆ
แต่ถ้างบสูงหน่อย อยากได้ดุดันสะใจ และบรรยากาศโอบล้อมดีด้วยให้ลองดู Anthem ครับ ได้ทุกอย่างที่คนดูหนังที่ต้องการความดุและดูหนังสนุกต้องการ
นอกเหนือจากนั้นถ้างบเยอะ ก็ยังมี AVR ระดับบนๆจากค่ายยุโรปให้เลือกเล่นอีก เช่น Storm, Arcam ซึ่งทั้งสองตัวก็ให้แนวเสียงต่างกันไปอีก ตัวนึงก็ดุดันดูหนังสนุก ส่วนอีกค่ายก็ตอบโจทย์ผู้ใหญ่ที่ต้องการเสียงเรียบๆสุภาพๆโทนติดแฟลทๆ
เลือกให้ถูกนะครับ พยายามเลือกแบรนด์ที่ให้จุดเด่นของเสียงของยี่ห้อนั้นๆตรงกับความชอบของเราไว้ก่อน
เพราะถ้าคุณชอบเสียงดุแต่เลือก AVR เสียงสุภาพ ผมบอกเลยว่าจะใช้ได้ไม่นาน
หลายคนบอกเซ็ทเสียงได้นี่ เอายี่ห้ออะไรก็ได้แล้วเซ็ทให้ถูกเสียงก็ดีทั้งนั้นแหละ ถูกครับ เซ็ทเสียงได้ แต่โทนเสียงเซ็ทให้ตายยังไงก็ไม่สามารถทำให้ยี่ห้อนึงเสียงเหมือนอีกยี่ห้อนึงได้เด็ดขาด เซ็ทให้ถูกต้องก็ให้คุณภาพและเสียงออกมาครบถ้วนตามที่เครื่องจะให้ได้ แต่โทนและสไตล์นั้นเป็นอีกเรื่องนึงที่ไม่สามารถ copy and parse กันได้




2. ดูจำนวนแชนแนลให้เพียงพอกับที่จะใช้เล่นในอนาคต ทั่วๆไปถ้าไม่เล่น atmos ก็ 7 แชนแนล ถ้าเล่น atmos ก็ 9 หรือ 11 แชนแนล
 
3. เลือกระบบเสียงที่รองรับให้เพียงพอกับปัจจุบัน ถ้าเลือกซื้อ AVR ในปัจจุบันก็ให้มองระบบเสียง Immersive Sound เช่น Dolby Atmos, DTS:X ไว้ก่อน
ส่วนพวกเสียง HD เช่น Dolby True HD, DTS HD นี่เป็นพื้นฐานทั่วๆไปแล้วครับ ไม่ต้องพูดถึง มีแต่แอมป์โบราณเท่านั้นที่ไม่รองรับพวกเสียง HD
 
4. AVR ทั่วๆไปที่ราคากลางๆ และคุ้ม ส่วนใหญ่จะมี 9 แชนแนล พอขึ้นไป 11 แชนแนลส่วนใหญ่แทบทั้งหมดจะเป็นตัวท๊อป ราคากระโดดทั้งสิ้น
ถ้าคิดจะเล่น 11 แชนแนลตัวเดียว อยากให้ลองเลือกตัวรอง 9 แชนแนลที่มี preout จะดีกว่า เพราะการ AVR ใช้ 11 แชนแนล นอกจากจะฝืนสังขาร AVR แล้วผลลัพธ์ก็ไม่ได้ดี โหลด ขับลำโพงได้ไม่ได้ดีหรอก


 
5. คุณภาพเสียงของการใช้ AVR 11 แชนแนล กับ AVR 7 หรือ 9 แชนแนล หลายคนมักจะคิดว่า AVR ตัวท๊อป 11 แชนแนล จะต้องดีกว่าแน่ๆ ซึ่งก็อาจจะจริงถ้าตัวท๊อปใช้วัสดุ ใช้ dac คนละเบอร์กัน
แต่ในความเป็นจริงส่วนใหญ่ผู้ผลิตมักจะไม่ได้ดีไซน์ AVR ตัวท๊อป 11 แชนแนลออกมาให้แตกต่างจากรุ่นรองๆ
คุณภาพเสียงที่ได้จึงไม่ได้ต่างจาก AVR ตัวรองๆมากเท่าไร่ๆ (คือต่าง แต่เทียบเป็น % และเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มแล้วมันไม่ได้เป็นสัดส่วนที่ผมมองว่าคุ้ม)
เงินส่วนต่างที่คุณจ่ายไป จะไปลงกับ Power ที่สามารถขับลำโพงได้เพิ่มขึ้นจาก 9 เป็น 11 และไอ้ 2 แชนแนลที่เพิ่มขึ้นมาเนี่ย มันยาก และต้องจ่ายแพงกว่าการเพิ่มจาก 5 เป็น 7 หรือจาก 7 เป็น 9 ครับ
 
6.ถ้าจะเล่น 11 แชนแนล และโจทย์คุณคือต้องการจะใช้ AVR เท่านั้น ไม่ต้องการก้าวข้ามไปใช้ Pre
และโจทย์ต้องการให้เสียงดีที่สุด คุ้มกับเงิน ถ้าเป็นผมจะเลือก AVR ตัวรองๆ ที่รองรับ 7 หรือ 9 แชนแนล ที่มี Preout
เพื่อใช้ AVR ต่อและขับลำโพงเซอราวด์ทั้งหมด รวมถึง atmos
และหา power มาขับ 3แชนแนลหน้า (Lcr) หรือ 5 แชนแนลหลัก
สมมติมีงบ 120,000 จ่ายเพื่อซื้อ avr ตัวท๊อป 11 แชนแนลหนึ่งเครื่อง
กับซื้อ avr รุ่นรองราคา 4-5 หมื่น ที่เหลือเอาไปซื้อ Power กลางๆ อีก 6-7 หมื่น
เชื่อมั๊ยครับว่าจ่ายเท่าๆกัน แต่อย่างหลังให้เสียงดีกว่า AVR อย่างเดียวมาก มากแบบกระโดดไปเป็น 50-100 % นะครับ
มากกว่าการใช้ AVR แล้วหาเปลี่ยน accessories หาสายสัญญาณ สาย hdmi สายไฟ สายลำโพงระดับเทพ ทุ่มไปเลยให้ค่าสายอีก 2 แสน ค่า AVR อีก 1 แสน เสียงก็สู้ AVR + Power ราคา 1.5 แสนที่ใช้สายแถม ราคาต่างกันครึ่งนึงยังไม่ได้เลยครับ และแถมชุดหลังพออัพสาย อัพ accessories ยังไปต่อได้อีกด้วย




7. ความจริงข้อนึงคือ AVR ไม่มีวันขับลำโพงได้เต็ม 100% เพราะสเปกที่ระบุไว้เว่อร์วังใน spec sheet ที่ว่าไว้กันระดับ 140-180 วัตต์ เอาจริงๆก็วัดแค่ 1-2 แชนแนล
แต่ AVR ใช้งายจริงเราต่อกันขั้นต่ำ 5 แชนแนล มากสุดก็ 11 แชนแนล ถ้าต่อครบทุกแชนแนล กำลังที่เคลมในสเปคจะลดลงต่ำกว่านั้นอย่างต่ำๆ 50 % ครับ และตอนดูหนังถ้าถึงช่วงพีคกำลังจะยิ่งถูกสูบและบริโภคจนเรารู้สึกว่าตอนดูหนังแอคชั่นแล้วเร่งดังๆ มันจะหนวกหู เจี็ยวจ๊าว ฟังไม่รู้เรื่อง อยากลด volume เร่งมากไปกว่านี้ต่อไม่ไหวแล้ว
 

8. ปัจจัยที่ต้องดูว่าควรใช้ AVR ขนาดไหน ตัวใหญ่แค่ไหน ควรเติม Power มั๊ย คือขนาดของห้อง และขนาดของลำโพงว่าขับยากแค่ไหน
หากห้องเล็กๆ 3*3.5 ห้องนอนปิด ลำโพงบุ๊คเชลฟ์ขับง่ายๆ แบบนี้การใช้ AVR เล็กๆอาจจะเพียงพอแล้ว การเพิ่มเงินไปใช้รุ่นใหญ่อาจจะเห็นความแตกต่างบ้างแต่ไม่คุ้มกับเงินที่จ่ายเพิ่ม รวมไปถึง Power ก็อาจจะเป็นสิ่งที่เกินความจำเป็น เพราะได้แค่โทนเสียงที่เปลี่ยนไปตาม Power ตัวนั้นเท่านั้น แต่การคุมลำโพงได้ดีขึ้นนั้นจะได้ใช้ประโยชน์ก็ต่อเมื่อเราเปิดเสียงดังขึ้นจนถึงระดับที่ avr มันให้ไม่ได้ขึ้นไปถึงจะเห็นความแตกต่างของ Power ครับ (แต่ก็ยังได้บุคลิคและโทนเสียงของ Power ตัวนั้นแถมมาให้)

 
9. สิ่งสำคัญที่สุดคือโทนเสียง เลือกให้ถูกใจไว้ก่อน เสียงถูกใจเซ็ทดีๆแล้วเสียงดีมากนะครับ
แต่ถ้าเสียงไม่ถูกใจ เซ็ทให้ตายเสียงมันก็ยังคาใจ
ไอ้เรื่องโอบล้อมพวกนี้สำหรับผมมันเซ็ทได้ครับ แต่โทนและสไตล์เสียงเซ็ทไม่ได้ครับ เราเซ็ทได้แค่ให้เสียงถ่ายถอดออกมาได้ครบ 100% ตามที่เครื่องและหนังให้ได้
 
10. สุดท้ายคืองบ เวลาเลือก AVR พยายามตั้งงบแล้วค่อยเลือก AVR ที่อยู่ในงบเราดูจำนวนแชนแนล preout รองรับระบบเสียงที่ต้องการมั๊ย หลักๆสมัยนี้อย่างน้อยก็ต้องมี dolby atmos, dts:x ไว้ก่อน
ส่วน Option รองๆอย่าง blutooth, streaming เช่น chormcast, playfi, zone2 ต่างๆ พวกนี้ อย่าไปให้ความสำคัญกับมันมากครับ พวกนี้เป็น cosmetic เอาเข้าจริงคนส่วนใหญ่ซื้อ AVR มาก็ใช้ดูหนัง ขับลำโพง พวกนี้แทบจะไม่ค่อยได้ใช้ครับ



เทคโนโลยี AV Receiver เป็นไปตามเทคโนโลยีระบบเสียงที่เมืองนอกคิด วันนี้ระบบเสียงมาถึงจุดนิ่งๆตรง Dolby Atmos, DTS:X, Auro 3D ช่วงนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่จะหาซื้อ AVR ดีๆสักตัวแล้วก็ใช้งานไปนานๆ
 
จบแล้วครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ และมีความสุขในการเลือกหา AV Receiver มาใช้กัน

 





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 03, 2018, 07:48:20 am โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #693 เมื่อ: มกราคม 13, 2015, 05:47:10 pm »
แนะนำลำโพงฝังฝ้า Inceiling Speakers สำหรับ Atmos รุ่นใหม่



แนะนำลำโพงฝังฝ้า Inceiling Speakers สำหรับ Atmos รุ่นใหม่ล่าสุดของ Klipsch ขนาดดอก 6.5 นิ้ว รุ่น PRO-160RPC ครับ ยังมีอีกรุ่น 8 นิ้วคือ PRO-180RPC
วันนี้มีโอกาสได้จัดส่งรุ่น Klipsch PRO-160RPC และ Marantz SR6012 ไปให้ลูกค้าที่สงขลาครับ
 
มีทริคนิดนึงในการเลือกซื้อ AVR เพราะมีหลายคนถามเข้ามาเยอะว่า เนี่ยจะซื้อ AVR รุ่นใหนดี อยากได้ตัวท๊อป Marantz 8012, Onkyo RZ3200 ดีมั๊ย
 
ปล. ช่วงนี้ Marantz, Onkyo ของขาด ไม่ค่อยมีของ ถึงมีก็มีลูกค้าและร้านจองไป ใครคิดจะอัพ AVR / Pre ต้องแพลนล่วงหน้ากันนิดนึงครับ

ราคา Klipsch Inceiling: http://www.whatthatsound.com/product/690/klipsch-pro-160rpc






















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 03, 2018, 07:52:15 am โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #694 เมื่อ: มกราคม 14, 2015, 08:45:04 am »


จัดส่ง Klipsch R-25C ลำโพงเซ็นเตอร์รุ่นเล็กสุด ในซีรี่ย์ล่างสุด รุ่นประหยัดให้ลูกค้าที่บางใหญ่ครับ
ตัวนี้เป็นลำโพงรุ่นเริ่มต้นที่เหมาะกับคนที่มีงบจำกัดแต่อยากได้เสียงที่คุ้มค่า ดูหนังดี ฟังเพลง ดูคอนเสิรต์ได้

เป็น fighter brand รุ่นนึงที่ klipsch ส่งมาสู้กับลำโพงหมูสับ (polk) ตรงๆนั่นแหละครับพูดกันง่ายๆ
ส่วนลำโพงแบรนด์อื่นที่นิยมกันในย่านราคานี้ ผมคิดว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้หรือไม่สามารถนำมาเปรียบได้ (เสียงนุ่มเกินไปที่จะนำมาใช้ดูหนัง)

ราคา klipsch reference series: http://www.whatthatsound.com/category/38/klipsch/klipsch-reference-series






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 09, 2018, 09:22:01 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #695 เมื่อ: มกราคม 14, 2015, 12:24:24 pm »


จัดส่งขาตั้ง Klipsch THX Ultra 2 ไปให้พี่เจ Season Five 
ผู้ที่เป็นสาวก Klipsch คนหนึ่ง
เคยไปเยี่ยมบ้านพี่เจครั้งหนึ่ง สมัยที่พี่เจเอาลำโพง Klipsch THX Ultra 2 เข้าไปประจำการ หลังจากนั้นพี่เจก็มีวิวัฒนาการไปเรื่อย นับตั้งแต่ปรี RZ5100 ไปจน SVS SB16 Ultra และล่าสุดก็ Emo XPA3 Gen3

ถ้าไม่นับว่าเป็นวงที่น่าติดตามวงหนึ่งของวงการเมืองไทย ก็ถือว่าพี่เจเป็นคนหูถึงเรื่องดูหนังมากครับ ฮาๆๆๆ อ่ะล้อเล่น

ราคาขาตั้ง Klipsch THX
: http://www.whatthatsound.com/product/506/lcr-for-klipsch-thx-ultra2-by-whats-that-sound



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 09, 2018, 09:50:59 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #696 เมื่อ: มกราคม 14, 2015, 05:20:38 pm »


จัดส่ง Klipsch Rc-64 III สี Natural Cherry สีโทนใหม่ ที่ไม่เหมือนสี cherry เดิมใน Rc-64 ii
ของเดิมจะติดแดงๆ สดๆ
แต่ของใหม่จะสีออกโทนธรรมชาติๆ ก็ตามชื่อนั่นแหละครับ Natural cherry
 
ลูกค้าที่สั่งตัวนี้ไปเป็นฝรั่ง นับเป็นลูกค้าคนแรกที่ได้ครอบครอง RC-64 III ตัวแรกในเมืองไทยก็ว่าได้
ลำโพงเดิมลูกค้าเป็น Wharfedale เรียบๆนุ่มๆ ลูกค้าเน้นดูหนัง 100% จึงเปลี่ยนเซ็นเตอร์ ตอนแรกจะใช้ RC-64 II แต่ได้ข่าวว่าจะมีรุ่นใหม่มา จึงตัดสินใจรอ (ประจวบเหมาะกับของเข้ามาพอดี) ก็เลยจัดซะเลย คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน
 
klipsch RC-64 III รุ่นใหม่มีสามสี Black / Natural Cherry / Walnut

ราคา: http://www.whatthatsound.com/product/707/klipsch-rc-64-iii-natural-cherry





















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 10, 2018, 07:40:50 am โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #697 เมื่อ: มกราคม 15, 2015, 08:46:00 am »


จัดส่ง Emotiva XPA3 Gen3 ให้ลูกค้าที่รพ.กรุงเทพ
ลูกค้าสนใจ XPA2  แต่ไม่มีของ ด้วยความอดทนรอไม่ไหว จึงจัด XPA3 มาลอง
ชุดลูกค้าใช้ RZ810 ต่อกับ Pre-out  เพิ่มพลังแชนแนลละ 275 วัตต์ เรียกว่าถีบลำโพงได้แทบจะทุกตัวบนโลกใบนี้แล้ว
pre คู่บุญของ emo ก็คือ Emo RMC1 หรือ Anthem AVM60
ให้เสียงดีกว่า AVR ไปอีกหลายขุมครับ

ราคา Emotiva Gen3:
http://www.whatthatsound.com/category/106/emotiva-gen3






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 09, 2018, 10:29:21 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #698 เมื่อ: มกราคม 15, 2015, 03:44:54 pm »


จัดส่ง Elac Debut by Andrew Johns ไปให้ลูกค้าที่นครปฐมครับ
ประกอบด้วย F6, C5, B6, A4
เป็นลำโพงอีกตัวที่เสียงเรียบๆ ฟังสบายๆ นุ่มหู และที่สำคัญราคาเป็นมิตรมาก ไม่แพงเลย แต่อาจจะต้องลงทุนแอมป์ดีๆหน่อย เพราะแม่ตัวลำโพงจะราคาไม่แพง แต่ avr ทั่วๆไป ขับออกไม่หมด เพราะตัวลำโพงค่อนข้างขับยาก
แนะนำว่าเผื่องบ avr เยอะๆหน่อย หรือใส่ Power amp เข้าไปในระบบ จะเห็นถึงเนื้อแท้และศักยภาพของลำดพงครับ
 
ราคา Elac Debut : http://www.whatthatsound.com/category/74/elac/elac-debut-by-andrew-johns








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 16, 2018, 11:38:44 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #699 เมื่อ: มกราคม 15, 2015, 07:13:28 pm »


จัดส่งชุด Klipsch Reference Premier RP280F, RP450C, RP150M *2, R112SW*2 และแอมป์คู่บุญของลำโพง klipsch อย่าง Emotiva gen3 XPA3 (275 วัตต์ * 3) และ AVR Marantz SR6012 ไปให้ลูกค้าที่จังหวัดขอนแก่น

และทีมติดตั้งกำลังจะตามไปติดโปรเจคเตอร์ 140 นิ้ว + JVC X5900 และสาย HDMI FIBBR ความยาว 10 เมตร

ของเยอะจริงๆ แค่พิมพ์ยังเหนื่อย แล้วตอนติดตั้งจะเหนื่อยขนาดไหนเนี่ย ฮาๆ






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 17, 2018, 12:02:39 am โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #700 เมื่อ: มกราคม 16, 2015, 12:54:45 pm »


จัดส่ง Emotiva XPA7 Gen3 ไปให้ลูกค้าที่เชียงรายครับ
ตัวนี้เป็น Power amp 7 ch กำลังขับ 200 วัตต์ต่อแชนแนล
แนวเสียงเกิดมาเพื่อคู่กับลำโพงดูหนังโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น Klipsch, Procella, และรวมไปถึงลำโพง Home audio อีกมากมายที่จับกับ emotiva แล้วให้เสียงที่ดี

แอมป์บางตัวอาจให้รายละเอียดได้ดี แหลมที่ใสสะอาดแต่ขาดพลัง และเบสไม่มี
แอมป์บางค่ายก็ให้เสียงดุดันหนา แต่ติดทึบไปหน่อย
แต่ emotiva ให้เสียงที่สมดุลทุกย่าน มีรายละเอียดที่ดี ดูหนังสนุก ได้ทั้งน้ำเสียงที่ไม่ทึบเกินไป และไม่ bright เกินงาม และก็ไม่ผู้ดีจ๋าจนคอดูหนังรับไม่ได้ แต่ยังมีความสด และดุดันแบบที่แอมป์ดูหนังต้องมี

วันนี้ Emotiva สามารถเป็นเจ้าของได้แล้ว ตั้งแต่ XPA2,3,4,5,7 และรุ่นใหญ่อย่าง DR2, DR3






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 25, 2018, 10:26:39 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #701 เมื่อ: มกราคม 16, 2015, 11:07:58 pm »




ห้องลูกค้าที่ขอนแก่น ที่เราลงไปติดตั้งกันมาเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาครับ
 
ซิสเต็มลูกค้าประกอบด้วย Klipsch RP-280F, RP-450C, RP-150M * 2, R-110SW * 2, Marantz SR6012 และ power amp Emotiva XPA3
 
ระบบภาพใช้ JVC X5900 จอ 140 นิ้ว (รอจอ)
 
เป็นซิสเต็มดูหนังที่ดูหนังสนุกและเสียงดีอีกชุดนึงครับ
 
ปล. ทิ้งท้ายเอาไว้ให้คิดอย่างนึงว่า ซิสเต็มดูหนังที่ดีควรเป็นอย่างไร เสียงเราชอบแบบไหน
ถ้าเลือกลำโพงที่ให้เสียงมีมิติ เวที image soundstage ดี รายละเอียดดี นุ่มหู ย่อมขาดพลัง
แต่ถ้าเลือกลำโพงที่มีพลัง ย่อมขาดความนุ่มนวลสบายหู
 
เราอยากดูหนังที่ให้เสียงทรงพลังแบบดูหนัง หรืออยากดูหนังที่ให้เสียงนุ่มนวลแบบฟังเพลง เน้นฟังรายละเอียด ก็ต้องเลือกเองครับ .......
 
ซิสเต็มที่ให้เสียงดีทั้งสองแบบมีมั๊ย ตอบว่าไม่มีครับ
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 25, 2018, 10:37:04 pm โดย keamglad »