แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - Chanapot

หน้า: 1 ... 258 259 [260] 261 262 ... 265
4663


คลัสเตอร์โรงงาน”คำซ้ำที่ได้ยินได้ฟังบ่อยๆ เกี่ยวกับการระบาดโควิด-19  ซึ่งพบว่ามีส่วนที่เป็นความเข้าใจที่คาดเคลื่อนในการสื่อสารระดับท้องถิ่นที่มักจะระบุว่า จำนวนพนักงานทั้งหมดของโรงแปรรูปอาหารเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 ส่งผลให้เกิดความตระหนกตกใจให้สังคมไม่น้อย  ดังนั้นต้องร่วมด้วยช่วยกันไม่ใช่แค่ให้กระแสข่าวสงบลงแต่ต้องร่วมกันจัดการกับสถานการณ์ให้เกิดความปลอดภัยและอุ่นใจ ทั้งกับตัวโรงงานที่ดำเนินการโดยภาคธุรกิจเองและชุมชนโดยรอบ 

แนวทางดังกล่าวสามารถพิจารณาได้จากตัวอย่างของ โรงงานแปรรูปอาหารของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ซีพีเอฟ ที่มีการยกระดับความเข้มข้นของการเฝ้าระวัง และป้องกัน เพื่อควบคุมเชื้อและการปนเปื้อนต่างๆ โดยนำมาตรการบับเบิลแอนด์ซีล (Bubble and Seal) ที่สามารถปกป้องได้ทั้งพนักงาน และชุมชนให้ปลอดภัยมาใช้เป็นแกนหลัก

สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เข้าติดตามมาตรการบับเบิลแอนด์ซีลของโรงงานแปรรูปอาหาร อ.แกลง จ.ระยอง ระบุว่า ซีพีเอฟ มีมาตรการที่ถูกต้องตามระบบสาธารณสุข มีความครอบคลุมการจัดการคนงานทั้งระบบ รวมถึงสถานที่ และทำได้เหนือกว่ามาตรฐานในบางจุด โดยเฉพาะการทำบับเบิลแอนด์ซีลที่ทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ถือเป็นต้นแบบในการบริหารจัดการสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี

บับเบิลแอนด์ซีล เป็นการควบคุมกลุ่มแรงงานในโรงงาน โดยมีการจัดการในสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกัน ด้วยการแบ่งคนเป็นกลุ่มย่อยๆ เพื่อคัดแยกคนที่ไม่ติดเชื้อ และกลุ่มเสี่ยง ออกจากกัน นอกเหนือจากกลุ่มที่ติดเชื้อจะถูกนำตัวเข้ารักษา ที่สำคัญคือ จะไม่มีการทำงานข้ามกลุ่มกัน และไม่ให้มีกิจกรรมนอกสถานประกอบการหรือนอกที่พักอาศัยที่สถานประกอบการจัดไว้ให้ เพื่อให้การควบคุม สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว และลดการแพร่กระจาย การดำเนินการของสถานประกอบก็ยังดำเนินต่อไปได้ ซึ่งปัจจุบันหลายหน่วยงานต่างร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อให้อุตสาหกรรมยังคงเดินไลน์สายผลิตอย่างต่อเนื่อง

แนวทางการปฏิบัติสำหรับโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ในอุตสาหกรรมอาหารนั้น ผู้ประกอบการคุมเข้มกันตั้งแต่ในส่วนของพนักงานที่เข้าปฏิบัติงาน จะต้องผ่านการตรวจโควิด-19 ก่อนเข้าปฏิบัติงาน ในส่วนสถานที่ผลิต จะมีการรักษาความสะอาด และฆ่าเชื้อโรคอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต และทุกจุดสัมผัสในอาคารผลิตตามหลักสุขลักษณะที่ดีในการผลิต (GMP) ด้วยความปลอดภัยในอาหารเป็นสิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญอย่างยิ่ง

มาตรการบับเบิลแอนด์ซีล เป็นหนึ่งในมาตรการที่ภาครัฐสนับสนุนและมีประสิทธิภาพในการป้องกัน เต็มรูปแบบ ตามแนวทาง Factory Quarantine เป็นทำการตรวจเชิงรุกพนักงานทุกคน และคัดแยกพนักงานเป็น 2 กลุ่ม คือผู้ที่มีผลบวกส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม ส่วนผู้ที่ไม่ติดเชื้อหรือมีผลเป็นลบสถานประกอบการได้จัดรถรับส่งให้พนักงานที่ปลอดเชื้อทั้งหมด เข้าที่พักในโรงแรมที่จัดหาให้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสี่ยงจากการเดินทางของพนักงาน

“ เรียกว่าป้องกันทั้งพนักงานและชุมชนให้ปลอดภัยในทุกๆวันก่อนเข้าปฏิบัติงาน พนักงานทุกคนต้องตรวจวัดอุณหภูมิด้วยเทอร์โมมิเตอร์แบบปรอท หากพบว่ามีอุณหภูมิเกิน 37.30 C หรือมีอาการป่วยอย่างใดอย่างหนึ่ง จะถูกส่งเข้าสู่ระบบการกักตัวทันที”

 นอกจากนี้ จะต้องมีการสื่อสารให้พนักงานทั้งโรงงานได้ทราบถึงมาตรการป้องโควิดได้รับทราบอย่างต่อเนื่องและทวนสอบความเข้าใจอย่างสม่ำเสมอ ในส่วนของพื้นที่โรงงาน จะต้องทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคตามมาตรฐาน กระทรวงสาธารณสุข ควบคุมการดำเนินงานโดยกรมอนามัยในพื้นที่จังหวัด รวมถึง swab พื้นผิวสัมผัสที่เป็นจุดสัมผัสร่วมทุกจุดในโรงงานและสิ่งแวดล้อม เพื่อประเมินการคงค้างของเชื้อโควิด 19 ทุกสัปดาห์ในทุกจุดเสี่ยง ควบคู่ไปกับการตั้งการ์ดสูง เป็นสิ่งที่ยังต้องให้ความสำคัญ

แนวทางปฎิบัติเหล่านี้ เป็นหนทางที่จะช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายได้โดยเร็ว ควบคู่ไปกับการปฏิบัติหน้าที่ผลิตอาหารปลอดภัยเพื่อคนไทยอย่างต่อเนื่องบับเบิลแอนด์ซีล จึงเป็นอีกการจัดการที่มุ่งมั่นป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการผลิตที่มีผู้เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทาน ทำให้คนไทยสังคมไทยสามารถก้าวผ่านวิกฤติโควิด-19ไปด้วยกัน

4664


“เศรษฐา ทวีสิน” ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วิกฤติโควิดครั้งนี้รุนแรงกว่าครั้งต้มยำกุ้ง ปี 2540 ผลกระทบจากโควิดเดือดร้อนหนักหนาสาหัสถึงขั้นไม่มีงานทำ สูญเสียบ้าน รถยนต์ เพราะกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงัก! แม้จะมีวัคซีนป้องกันโควิด แต่การแจกจ่ายวัคซีนยังไม่ทั่วถึงและเป็นไปอย่างล่าช้า

“การนำเข้าวัคซีน ยังคงเป็นเรื่องแรกที่ทุกคนเรียกร้องมานานแล้ว ถือเป็นวาระเร่งด่วน ที่อยู่บนสมมติฐานว่า วัคซีนต้องมา และฉีดให้ครอบคลุมโดยเร็ว ภายใน 120 วัน 180 วัน หรือ 200 วัน ขึ้นอยู่กับรัฐบาล”

รวมถึงเตรียมการ “สั่งซื้อวัคซีนเข็มที่ 3” หรือเตรียมวัคซีน 2-3 เท่า ของจำนวนประชากร (ราว 200 ล้านโดส) ในปีหน้า เป็นสิ่งสำคัญที่รัฐบาลต้องทำ ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีใครแฮปปี้เรื่องวัคซีน ถึงขั้นบุคคลกรทางแพทย์ต้องจับฉลากเพื่อฉีดวัคซีน “ผมว่าโควิดทำให้คนตาสว่าง ว่า...สังคมไทยไม่มีความเท่าเทียมกัน”

อีกเรื่องสำคัญที่สุดคือต้องมองไปให้ไกล ไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เฉพาะเรื่องสุขภาพเท่านั้น แต่คือการขับเคลื่อนประเทศที่เข้าไปอยู่บนเวทีแข่งขันโลกที่เราจะแข่งขันได้อย่างมีคุณภาพ สามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งอย่างเวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย

“ไม่ใช่ว่าหลุดจากกับดักโควิดแล้วก้าวไปสู่ความหายนะทางเศรษฐกิจ เพราะสู้เขาไม่ได้ ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญ โฟกัสวันนี้ ไม่ได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปจากการหาวัคซีนมาฉีดให้ประชาชน แต่แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ประเทศไทยจะต้องเกิดขึ้น! เพราะโลกหยุดมา 2 ปีแล้ว มีคนบอบช้ำ มีคนเจ็บปวด มีธุรกิจที่โซซัดโซเซ ล้มหายตายจากไปเยอะมาก เราจะทำอย่างไรให้ตรงนี้กลับมาได้ ดังนั้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่จะต้องเกิดขึ้น”

เศรษฐา ย้ำว่า การเปิดประเทศ120 วัน นั้น ตามทฤษฎียังมีความเป็นไปได้ แต่นัั่นหมายความว่า ต้องฉีดให้ได้วันละ 6 แสนคน ที่ผ่านมามีบางวันสามารถฉีดได้แสดงว่าบุคคลากรทางการแพทย์มีศักยภาพในการฉีดเพียงแต่ว่า “วัคซีนไม่มา! แม้ความหวังหริบหรี่ แต่สุดท้ายวัคซีนก็มาอยู่ดี”


อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย เชื่อว่ายังคงเป็นภาพของ “K-Shaped” โดยที่กลุ่มคนรวยจะอยู่ในส่วนของ “K ขาขึ้น” คนรวย-รวยมากขึ้น ส่วน “K ขาลง” จะอยู่ในแรงงานระดับล่างที่ยังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สะท้อนช่องว่างของความเลื่อมล้ำ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ เกิดขึ้นทั่วโลกส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอย

ทั้งนี้ การฟื้นเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายและลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำไปพร้อมๆ กัน ต้องเริ่มจากที่ รัฐบาล เตรียมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เหมือนสหรัฐ และยุโรปที่มีแผนงานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่าง “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ ออกมาชัดเจน

รัฐบาลต้องมีการพยุงราคาสินค้า หรือจะเรียกว่าประกันราคาสินค้า จำนำ หรือจ้างผลิต สำหรับสินค้าเกษตรที่สำคัญ อย่าง ข้าว ข้าวโพด ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง และอ้อย เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กลับไปสร้างผลิตผลทางการเกษตรพอที่เลี้ยงครอบครัว

รัฐบาลต้องปรับโครงสร้างการจัดเก็บภาษีใหม่ เรียกเก็บจากคนที่แข็งแรงอยู่บนยอดพีระมิด ไม่ว่าจะเป็นภาษีความมั่งคั่ง ภาษีมรดกเพื่อนำรายได้จากภาษีเหล่านี้มาชดเชยรายจ่ายที่ไปกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงวิกฤติโควิด

รัฐบาลต้องพิจารณากฏหมายเกี่ยวกับการกระตุ้นการลงทุนทั้งในและนอกประเทศ ให้อินเซนทีฟ และเอื้อนักลงทุน ดึงดูดให้มาลงทุนในประเทศไทย

"ไทยมีความได้เปรียบในเรื่องทำเลที่ตั้ง และโครงสร้างพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า ที่ผ่านมาบริหารจัดการเรื่องวัคซีนผิดพลาดเท่านั้น”

นอกจากนี้ รัฐบาลต้องเตรียมความพร้อมทางด้านเม็ดเงินที่ใช้ในการลงทุน เพื่อแข่งขันกับประเทศอื่นๆ จึงควรต้องขอขยายสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 60% เช่นเดียวกับหลายๆ ประเทศที่มีการปรับอัตราสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP สูงขึ้นเพื่ออัดฉีดเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจ สังคม ในประเทศ

อีกมาตรการเร่งด่วน รัฐบาลต้องช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอี เช่น พักหนี้ ให้เงินทุนหมุนเวียน เมื่อเศรษฐกิจกลับมา รวมทั้งธุรกิจสายการบิน หากไม่ช่วยเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวแล้วจะมีเครื่องบินที่ไหนไปรับนักท่องเที่ยวมาประเทศไทย

“ปัญหาการเมืองเป็นสิ่งไม่ควรมองข้าม เศรษฐกิจและการเมืองเป็นของคู่กันมาตลอด หากแก้ไขเศรษฐกิจได้แต่ถ้าการเมืองไม่ถูกแก้ไขก็จะเกิดการเมืองบนท้องถนน เกิดการประท้วง เกิดความรุนแรง มาฉุดรั้งเศรษฐกิจอยู่ดี หากรัฐบาลทำอย่างผมเสนอ เศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมา วันนี้ไม่ใช่เรื่องของเราแต่เป็นเรื่องประเทศ เมื่อไรที่ประเทศไปได้ ธุรกิจก็ไปต่อได้ ยกเว้นคนที่มีปัญหากระแสเงินสดเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ผมเชื่อว่าถ้าภาคเอกชนและองค์กรต่างๆ ช่วยกันช่วยเหลือสังคม คนตัวเล็ก พวกเราจะผ่านวิกฤติครั้งไปได้”

เช็คสถิติ 'ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล' ออกงวด 16 ส.ค. ย้อนหลัง 10 ปี 'หวย16/8/64'
ยอด 'โควิด-19' วันนี้ น่าห่วง! พบติดเชื้อเพิ่ม 21,157 ราย เสียชีวิต 182 ราย ไม่รวม ATK อีก 803 ราย
'โควิดติดเชื้อวันนี้' ชลบุรี 1,223 เสียชีวิตอีก 9 ราย จับตาสถานที่ทำงานยอดพุ่ง
สำหรับวิธีการแก้ปัญหาโควิดของแสนสิริ มองเรื่อง “วัคซีน” เป็นอันดับแรก เพื่อฉีดให้พนักงานและครอบครัว รวมถึงพันธมิตร พนักงานดูแลความสะอาดและความปลอดภัยในโครงการ โดยจองซื้อวัคซีนซิโนฟาร์ม 37,000 โดส ฉีดได้ราว 18,000 คน พร้อมบริจาคให้ราชวิทยาลัยฯ 1,000 โดส เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในสังคมของแสนสิริโดย 9,000 โดสฉีดให้พนักงานและครอบครัว อีก 9,000 โดสฉีดให้พันธมิตรและชุมชนรอบแสนสิริ รวมถึงกลุ่มที่มีโอกาสเข้าถึงวัคซีนน้อย เช่น รปภ. แม่บ้าน คนสวน ช่าง คนงานในแคมป์ก่อสร้าง ทำให้แรงงานแคมป์ของแสนสิริ มีภูมิคุ้มกันหมู่กว่า 70% บางไซต์ 100%

พร้อมกันนี้ได้หารือกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการสร้างโรงพยาบาลสนาม ในช่วงเกิดโควิดระลอก 2 ย่านนนทบุรี และสมุทรปราการ แต่ยังไม่ทันลงมือสร้าง สถานการณ์ดีขึ้นจึงไม่ได้ทำ พร้อมกันนี้ มีการบริจาครถตรวจโควิด และช่วงโควิดระลอก 3 ร่วมกับพาร์ทเนอร์ สร้างห้องอาบน้ำ 500 ห้องสำหรับผู้ป่วยโควิดในโรงพยาบาลบุษราคัม โรงพยาบาลสนามเมืองทองธานี ล่าสุดทำห้องไอซียู 17 ห้อง

กรณี หากมีลูกบ้านที่ติดเชื้อระดับสีเขียวและประสงค์ที่จะกักตัวและรักษาตัวแบบ Home Isolation จะมี “พลัส พร็อพเพอร์ตี้” ทำหน้าที่ประสานงานโรงพยาบาล ที่มีบริการเทเลเมดิซีน เข้ามาดูแล

“วันนี้เราอยากเชิญชวนภาคเอกชนและองค์กรต่างๆ ให้ความช่วยเหลือสังคมเพื่อให้เกิดการบูรณาการผู้ที่อ่อนแอให้แข็งแรง ตรงไหนรัฐบาลมองไม่เห็นหรือว่าไม่สามารถเข้าถึงได้ก็เข้าไปช่วยพยุง ไม่ว่าจะเป็นสตรีทฟู้ด โชว์ช้าง โชว์ลิง ลิเก หมอรำ ลำตัด ให้อยู่ได้จนถึงช่วงที่เศรษฐฟื้นตัว”

4665
บอกลามือเหี่ยวบอกอายุไปได้เลย มือนุ่ม กระจ่างใส  สารสกัด น้ำผึ้งเกสรกุหลาบ

259 บาท มือนุ่ม กระจ่างใส  สารสกัด น้ำผึ้งเกสรกุหลาบ  ป้องกันมือหยาบกร้านจาก แอลกกอฮอล์ มือกลับมาสวยใส นุ่มนวล 

เชตเปิดร้านค้าออนไลน์ 999 บาทพร้อมของลงร้านค้า  

สมัครได้ที่ line @marisglowthailand

เลือกสินค้าลงร้านค้าออนไลน์ค่ะ
https://shop.line.me/@marisglowthailand/product/320197801

Facebook :: https://www.facebook.com/Maris-glow-Thailand-110057554456679/





















4666


นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 20 ส.ค.2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกรทรวงพาณิชย์ มีกำหนดการเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยการเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจกับมณฑลไห่หนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อช่วยในการขยายการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจให้กับผู้ประกอบการของไทย ซึ่งจะถือเป็น Mini FTA ฉบับที่ 2 ที่จะมีการลงนามกัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้ลงนามทำ Mini FTA กับจังหวัดโคฟุ ญี่ปุ่นที่จะร่วมมือการค้าอัญมณีและเครื่องประดับไปแล้ว เมื่อวันที่ 12 ก.ค.2564 ที่ผ่านมา


สำหรับมณฑลไห่หนาน เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ใหญ่ที่สุดของจีน เป็นจุดสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจแบบเปิดในระดับสูงของจีน มีประชากรกว่า 10.8 ล้านคน ซึ่งจีนมีนโยบายพัฒนาให้ไห่หนานเป็นฟรีพอร์ต หรือฮ่องกง 2 การที่ไทยร่วมมือกับไห่หนาน จะก่อให้เกิดประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะความร่วมมือในการสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) การขยายการค้า ลงทุน การจัดกิจกรรมทางการค้า เช่น การจัดงานแสดงสินค้า การจัดคณะผู้แทนการค้า การเจรจาจับคู่ธุรกิจ และร่วมมือการค้าออนไลน์ เป็นต้น

          
นอกจากนี้ นายจุรินทร์ยังได้เร่งรัดให้มีการลงนามใน Mini FTA กับรัฐเตลังคานา ของอินเดีย ในระยะต่อไป ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจานัดหมาย โดยเตลังคานาถือเป็นรัฐจัดตั้งใหม่ ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจเป็นอันดับ 9 จาก 28 รัฐของอินเดีย มีประชากรกว่า 39 ล้านคน เป็นรัฐที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง และมีโอกาสทางการค้า ความร่วมมือทางเศรษฐกิจให้กับผู้ประกอบการของไทย   

ส่วนการทำ Mini FTA กับจังหวัดคยองกี สาธารณรัฐเกาหลี ได้ตั้งเป้าลงนาม MOU ประมาณเดือนก.ย.2564 โดยจังหวัดคยองกีเป็นเขตปกครองตนเองที่มีประชากรมากที่สุดของสาธารณรัฐเกาหลี จำนวน 13.55 ล้านคน เป็นจังหวัดที่มีรายได้ประชาชาติสูงเป็นอันดับ 1 ในสาธารณรัฐเกาหลี เป็นฐานการผลิตของบริษัทไอทีระดับโลกของสาธารณรัฐเกาหลี และยังมีคนเอเชีย คนอาเซียน อยู่เป็นจำนวนมาก มีความต้องการสินค้าไทย ซึ่งความร่วมมือที่เกิดขึ้น จะเน้นการอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างกัน การส่งเสริม SMEs สตาร์ทอัพ การเชื่อมโยงการค้าออนไลน์ การให้สิทธิประโยชน์ด้านการค้า การลงทุน สิทธิพิเศษทางภาษี เป็นต้น

         
“การจัดทำ Mini FTA เป็นนโยบายที่นายจุรินทร์ต้องการผลักดันให้เกิดขึ้น เพราะเร็วกว่าการเจรจาทำ FTA ที่ต้องใช้ระยะเวลาการเจรจานาน แต่การทำ Mini FTA เป็นความร่วมมือเศรษฐกิจในสาขาที่ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการ และเห็นตรงกัน การเจรจาจัดทำ ก็ใช้เวลาไม่นาน และเมื่อทำแล้ว ก็จะช่วยเพิ่มความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน ความร่วมมือทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้การค้าขยายตัวมากขึ้น เป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย”นางมัลลิกากล่าว

4667


เออร์ลิง ฮาแลนด์ สุดฮอต เหมาคนเดียว 2 ประตู บวกแอสซิสต์อีก 3 ลูก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ประเดิมซีซันใหม่สุดหรู เปิดบ้านไล่ต้อน ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต ไปแบบขาดลอย 5-2

ศึกฟุต.บุนเดสลีกา เยอรมนี ฤดูกาล 2021/22 วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม 2564 เกมที่น่าสนใจ “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ลงสนามเกมแรก เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “อินทรีแดงดำ” ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต

“เสือเหลือง” ของกุนซือมาร์โก โรเซ ส่ง เออร์ลิง ฮาแลนด์ หัวหอกฟอร์มแรงลงเล่นเป็น 11 คนแรก ประสานงานเกมรุกร่วมกับ มาร์โก รอยส์ และตอร์กาน อาซาร์ ขณะที่ แฟรงค์เฟิร์ต นำทัพมาโดย ดาอิชิ คามาดะ, ราฟาเอล ซานโตส บอร์เร และ อายเมน บาร์ก๊อก

ปรากฏว่า เกมนี้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ออกสตาร์ทได้อย่างดุดัน นาทีที่ 23 ก็มาได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ เออร์ลิง ฮาแลนด์ จ่ายให้ มาร์โก รอยส์ ยิงผ่านมือนายทวารทีมเยือนเข้าไป

น.27 ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต มาตามตีเสมอ 1-1จากจังหวะที่แนวรับของทีมสกัด.กันไม่ดี ก่อนถูกทีมเยือนตัดไปได้ และจังหวะสุดท้ายเป็น เฟลิกซ์ พาสส์แลค สกัดเข้าประตูตัวเอง

อย่างไรก็ตาม “เสือเหลือง” มาได้ 2 ประตูรวด นำห่างเป็น 3-1 จากการยิงของ ตอร์กาน อาซาร์ น. 32 และเออร์ลิง ฮาแลนด์ น.34 ก่อนจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังแม้ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต จะโหมเกมบุกเพื่อทวงประตูคืนให้ได้ แต่กลายเป็น โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่อาศัยจังหวะโต้กลับ และมาหนีห่างเป็น 4-1 ในนาทีที่ 58 จากจังหวะที่ เออร์ลิง ฮาแลนด์ จ่ายให้ จิโอวานนี เรย์นา ซัดจ่อๆ เข้าไป ถือเป็นแอสซิสต์ครั้งที่ 3 ของ ฮาแลนด์ ในเกมนี้

น.71 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาได้ประตูขยับเป็น 5-1 จากจังหวะสวนกลับ มาร์โก รอยส์ จ่ายให้ เออร์ลิง ฮาแลนด์ หลุดกับดักล้ำหน้าตั้งแต่บริเวณกลางสนาม ก่อนหลุดเดี่ยวไปยิงผ่านมือ เควิน แทรปป์ ไม่เหลือ เป็นประตูที่สองของตัวเองในเกมนี้

น.85 ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต มาได้ประตูตีตื่นไล่มาเป็น 2-5 จากจังหวะลูกเตะมุม รักนาร์ อาเช โหม่งเช็ดให้ เยนส์ เฮาเก ยิงเข้าไปง่ายๆ

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เปิดบ้านเอาชนะ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต 5-2 ประเดิมสามคะแนนในฤดูกาลนี้

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ : เกรกอร์ โคเบล (GK), เฟลิกซ์ พาสส์แลค, มานูเอล อาคานยี, อาเซล วิตเซล, นิโก ชูลซ์, มาห์มูด ดาฮูด์, จูด เบลลิงแฮม, จิโอวานนี เรย์นา, มาร์โก รอยส์, ตอร์กาน อาซาร์, เออร์ลิง ฮาแลนด์

ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต : เควิน แทรปป์ (GK), สเตฟาน อิลซานเคอร์, มาร์ติน ฮินเตเรกเกอร์, อีวาน เอ็นดิคคา, แดนนี ดา คอสตา, ฌิบริล โซว์, มาโกโตะ ฮาเซเบะ, ฟิลิป คอสติก, ไดอิชิ คามาดะ, อายเมน บาร์ก๊อก, ราฟาเอล ซานโตส บอร์เร


ผลฟุต.บุนเดสลีกา เยอรมนี คู่อื่นๆ
อาร์มิเนีย บีเลเฟลด์ 0-0 ไฟร์บวร์ก
เอาก์สบวร์ก 0-4 ฮอฟเฟนไฮม์
สตุ๊ตการ์ต 5-1 กรอยเธอร์ เฟือธ
ยูนิโอน เบอร์ลิน 1-1 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน
โวล์ฟบวร์ก 1-0 โบคุม

4668


เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟสาวมือ 21 ของโลกชาวไทย ทำผลงานแจ่มเก็บสกอร์เป็น 9 อันเดอร์พาร์ ก่อนพาตัวเองขึ้นมานั่งเก้าอี้ผู้นำเดี่ยวของศึก เลดีส์ สกอตติช โอเพน รอบสอง เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ศึกกอล์ฟ แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการ เลดีส์ สกอตติช โอเพน ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 50 ล้านบาท) ณ สนาม ดุมบาร์นีย์ ลิงส์ ระยะ 6,584 หลา พาร์ 72 สกอตแลนด์ เข้าสู่การแข่งขันวันที่สอง

ปรากฏว่า "โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล สวิงสาวไทย โชว์ฟอร์มดีตี 7 เบอร์ดี เสีย 1 โบกี จบวันได้มา 6 อันเดอร์ รวมสกอร์เป็น 9 อันเดอร์พาร์ พุ่งจากอันดับ 15 ในรอบที่แล้ว ขึ้นมาเป็นผู้นำโดยมี "โปรจีน" อาฒยา ฐิติกุล อีกหนึ่งสาวไทย นั่งอันดับ 2 ร่วม ตามหลัง 1 สโตรก

จบรอบสอง เอรียา วัย 25 ปี เผยว่า "วันนี้ฉันพยายามทำตัวสบายๆ กับการลงเล่นคอร์สนี้ แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำให้ดีขึ้น และทุกสิ่งที่จะทำก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวเองเป็นหลักด้วย"

ผลงานของสาวไทยคนอื่น "โปรจูเนียร์" จัสมิน สุวัณณะปุระ หล่นมาอยู่อันดับ 13 ร่วม หลังตีเกิน 2 โอเวอร์ สกอร์หดเหลือ 3 อันเดอร์พาร์ รองมา "โปรพริม" พริมา ธรรมมารักษ์ อันดับ 20 ร่วม สกอร์ 2 อันเดอร์พาร์

"โปรเมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ รอบนี้เก็บได้ 1 อันเดอร์ แก้ไขสกอร์เป็นอีเวนพาร์ อันดับ 35 ร่วม ส่วน "โปรเหมียว" แพตตี้ ปภังกร ธวัชธนกิจ ตีเกิน 3 โอเวอร์ สกอร์อีเวนพาร์ อยู่อันดับ 35 ร่วมเช่นกัน
เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟสาวมือ 21 ของโลกชาวไทย ทำผลงานแจ่มเก็บสกอร์เป็น 9 อันเดอร์พาร์ ก่อนพาตัวเองขึ้นมานั่งเก้าอี้ผู้นำเดี่ยวของศึก เลดีส์ สกอตติช โอเพน รอบสอง เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ศึกกอล์ฟ แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการ เลดีส์ สกอตติช โอเพน ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 50 ล้านบาท) ณ สนาม ดุมบาร์นีย์ ลิงส์ ระยะ 6,584 หลา พาร์ 72 สกอตแลนด์ เข้าสู่การแข่งขันวันที่สอง

ปรากฏว่า "โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล สวิงสาวไทย โชว์ฟอร์มดีตี 7 เบอร์ดี เสีย 1 โบกี จบวันได้มา 6 อันเดอร์ รวมสกอร์เป็น 9 อันเดอร์พาร์ พุ่งจากอันดับ 15 ในรอบที่แล้ว ขึ้นมาเป็นผู้นำโดยมี "โปรจีน" อาฒยา ฐิติกุล อีกหนึ่งสาวไทย นั่งอันดับ 2 ร่วม ตามหลัง 1 สโตรก

จบรอบสอง เอรียา วัย 25 ปี เผยว่า "วันนี้ฉันพยายามทำตัวสบายๆ กับการลงเล่นคอร์สนี้ แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำให้ดีขึ้น และทุกสิ่งที่จะทำก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวเองเป็นหลักด้วย"

ผลงานของสาวไทยคนอื่น "โปรจูเนียร์" จัสมิน สุวัณณะปุระ หล่นมาอยู่อันดับ 13 ร่วม หลังตีเกิน 2 โอเวอร์ สกอร์หดเหลือ 3 อันเดอร์พาร์ รองมา "โปรพริม" พริมา ธรรมมารักษ์ อันดับ 20 ร่วม สกอร์ 2 อันเดอร์พาร์

"โปรเมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ รอบนี้เก็บได้ 1 อันเดอร์ แก้ไขสกอร์เป็นอีเวนพาร์ อันดับ 35 ร่วม ส่วน "โปรเหมียว" แพตตี้ ปภังกร ธวัชธนกิจ ตีเกิน 3 โอเวอร์ สกอร์อีเวนพาร์ อยู่อันดับ 35 ร่วมเช่นกัน

4669


สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. จัดงาน “ARDA Virtual Event : ต่อยอดงานวิจัยเกษตรไทย มิติใหม่แห่งการลงทุน” ในวันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม 2564 เวลา 10.00 – 13.00 น. บนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ผลงานวิจัยของ สวก. ให้เป็นที่รับรู้และรู้จักอย่างกว้างขวาง ส่งเสริมและผลักดันผลงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์เชิงนโยบาย สาธารณะ และพาณิชย์

โดยนำเสนอเทคโนโลยี “ต่อยอดงานวิจัยเกษตรไทย มิติใหม่แห่งการลงทุน” จำนวน 12 โครงการ ซึ่งพร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีสู่ภาครัฐและเอกชน รวมทั้งการนำเสนอตัวอย่างความสำเร็จของภาคเอกชนที่ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิผลงานวิจัยของ สวก. จำนวน 3 บริษัท ได้แก่ 1) บริษัท เอ็ม.วาย.อาร์.คอสเมติคส์ โซลูชั่น จำกัด 2) บริษัท ไบโอเมดอินโนเวชั่น จำกัด และ 3) บริษัท เจอาร์ แลบโบราทอรี่ จำกัด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของผลงานวิจัยที่สามารถนำไปใช้ได้จริง


ทั้งนี้ ยังมีการเสวนา เรื่อง “ศักยภาพของสมุนไพรไทยในการป้องกัน รักษา และฟื้นฟูโรคโควิด 19” เพื่อยกระดับงานวิจัยด้านสมุนไพรไทย นำไปต่อยอดและพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่ตลาดโลก

ภายในงาน จะสามารถให้ผู้ที่ร่วมลงทะเบียนเข้าชมนิทรรศการผลงานวิจัยของ สวก. ในรูปแบบ Virtual Event บนแพลตฟอร์มออนไลน์ จำนวนกว่า 60 ผลงาน ประกอบด้วย

โซนที่ 1 ผลิตภัณฑ์ผลงานวิจัยจาก “หิ้งสู่ห้าง” มากกว่า 20 ผลิตภัณฑ์ ที่มีการผลิตและจำหน่ายจริง อาทิ เครื่องสำอางชะลอความชราจากข้าว เครื่องดื่มข้าวสินเหล็ก ผลิตภัณฑ์ไล่ยุงและแมลง ผลิตภัณฑ์เส้นบุก เครื่องสำอางจากดอกไม้สีเหลือง และเครื่องสำอางจากน้ำมันปาล์มแดง เป็นต้น

โซนที่ 2 ต้นแบบผลงานวิจัยพร้อมใช้ “เชิงพาณิชย์” มากกว่า 20 ผลงาน อาทิ ตำรับยาเม็ดฟ้าทะลายโจร ตำรับยาจากพืชกระท่อม อาหารสุขภาพสำหรับโรคเรื้อรังจากสาหร่าย เป็นต้น


โซนที่ 3 ต้นแบบองค์ความรู้วิจัยพร้อมใช้ “เชิงสาธารณะ” มากกว่า 20 ผลงาน อาทิ คู่มือเทคโนโลยีการผลิตภัณฑ์ปลาช่อน Food loss เทคโนโลยีการให้น้ำด้วยการใช้อ่างน้ำจากยางรถยนต์เก่าและระบบไส้ตะเกียง และนวัตกรรม Cement ring แบบประหยัดน้ำ เป็นต้น

โซนที่ 4 การให้บริการข้อมูลของ สวก. (ARDA Contact) ได้แก่ การสนับสนุนทุนวิจัย ทุนพัฒนาบุคลากรวิจัย ระบบคลังข้อมูลการวิจัยการเกษตรไทย (TARR) ช่องทางสื่อประชาสัมพันธ์ และช่องทางการติดต่อ สวก.

ทั้งนี้ ท่านผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ตั้งแต่วันนี้ ได้ที่ http://www.ardavirtual2021.com/

หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักส่งเสริมการใช้ประโยชน์ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) โทร. 02-579-7435 และ Facebook : Agricultural Research Development Agency (ARDA)

4670


“กรุงเทพธุรกิจ” สัมภาษณ์พิเศษ “ปกาสิต วัฒนา” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบรนเนอร์จี้ จำกัด บริษัทที่ขับเคลื่อนด้วย "กลุ่มคนรุ่นใหม่" ที่เข้าใจและก้าวไปกับการเปลี่ยนแปลงของโลกเน้นคิด และดีไซน์ดิจิทัลโซลูชั่น เป็นบริษัทในเครือ เบญจจินดา โฮลดิ้ง

เบรนเนอร์จี้ (Brainergy) เป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วย "กลุ่มคนรุ่นใหม่" ที่เข้าใจและก้าวไปกับการเปลี่ยนแปลงของโลกเน้นคิด และดีไซน์ดิจิทัลโซลูชั่น ตอบโจทย์กลุ่มธุรกิจตั้งแต่ขนาดใหญ่จนถึงเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ เป็นบริษัทในเครือของบิ๊กคอร์ปชั้นนำของไทย ที่มีผลงานและชื่อเสียงเป็นที่ประจักษ์ในแวดวงธุรกิจมาอย่างยาวนานอย่าง “กลุ่มบริษัทเบญจจินดา โฮลดิ้ง จำกัด” 

นั่นทำให้ เบรนเนอร์จี้ มีโอกาสทำงานกับกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก ทำให้มีความเข้าใจภาพรวมของธุรกิจ และสามารถตอบโจทย์ได้หลายประเภทและหลายขนาดองค์กร เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้เกิดการพัฒนาโซลูชั่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง

 โดยเฉพาะห้วงวิกฤติและความท้าทายใหม่ ที่ธุรกิจต้อง “รอด” และมีหนทางเดินไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน การทรานส์ฟอร์มไปสู่สิ่งที่ดีกว่า มีนวัตกรรมเป็นหัวใจหลักจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจที่สุด “ดิจิทัล โซลูชั่น” เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่จะกรุยทางให้ทุกธุรกิจมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ 

“กรุงเทพธุรกิจ” สัมภาษณ์พิเศษ “ปกาสิต วัฒนา” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบรนเนอร์จี้ จำกัด หัวเรือใหญ่คนรุ่นใหม่ไฟแรง ที่พร้อมดัน 3 ดิจิทัลโซลูชั่นหลัก SmartTAX  SmartFLOW และ SmartSIGN ช่วยทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ดิจิทัลในชั่วข้ามคืน พร้อมเป้ารายได้ 100 ล้านบาท ท่ามกลางวิกฤติรอบด้าน

ปลุกดิจิทัลทรานส์ฟอร์ม-วางเป้า100ล.

“ดิจิทัล โซลูชั่น ของเบรนเนอร์จี้ ถูกพัฒนาขึ้นด้วยความมุ่งหวังให้ช่วยแก้ไข Pain Point ที่หลายองค์กรพบเจอให้หมดไป ไม่ว่าเป็นเรื่องการจัดการเอกสารที่มีความวุ่นวาย การทำข้อมูลภาษีที่มีความยุ่งยาก การลดขั้นตอนการทำงานที่มีความซ้ำซ้อน หรือ การลดสาเหตุต่างๆ ที่ทำให้การดำเนินการต่างๆ ในองค์กรเกิดความล่าช้า”

ปกาสิต บอกว่า เบรนเนอร์จี้ เน้นมาตรฐานการให้บริการที่ตอบโจทย์ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นแบบองค์กรขนาดใหญ่ นำองค์ความรู้ที่แตกต่างแต่ละสายธุรกิจ และความต้องการพื้นฐานที่เหมือนกันทุกธุรกิจมาประยุกต์ใช้เข้าด้วยกัน เพื่อลดจุดด้อยและเสริมจุดแข็งพัฒนาเป็นโซลูชั่น 

ขณะที่ ห้วงเวลาที่ทุกองค์กรเผชิญวิกฤติ เขายอมรับว่า เครือเบญจจินดาเป็นอีกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติที่ทุกคนเจอ ซึ่งทุกองค์กรล้วนได้รับผลกระทบมากน้อยที่ต่างกันไป  

"สำหรับเบรนเนอร์จี้ ผ่านเหตุการณ์มาตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปีนี้ เราต้องเรียนรู้ และสร้างโปรดักส์ ปีนี้เป้าหมายเราหวังไปแตะ 100 ล้าน แต่วันนี้จุดที่เรายืนอยู่ ยังเจอความท้าทาย ลูกค้าชะลอโปรเจคออกไป แต่ยังโชคดีที่มีลูกค้าหลายรายมากกว่า 10 โปรเจค ยังมองว่าการเกิดโควิดเป็นตัวกระตุ้นให้เขาต้องรีบทรานส์ฟอร์ม"



ปกาสิต ขยายความว่า เป้า 100 ล้านบาท หลักๆ มาจากกลุ่มลูกค้าเก่าที่เคย on board ไว้แล้ว และยังทำต่อในส่วนของเฟสถัดไป ซึ่งเบรนเนอร์จี้ พยายามสนับสนุนลูกค้าในทุกส่วนท่ามกลางวิกฤติ ให้ลูกค้าสามารถใช้งานดิจิทัลโซลูชั่นตอบโจทย์การทำงานในยุคนี้ได้จริง 

"ยอมรับว่าวันนี้กลุ่มลูกค้า มีทั้งต้องหยุดการทรานส์ฟอร์มเอาไว้ก่อน เพราะต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ด้วยเหตุผลวิกฤติ ต้องหยุดหรือปิดหน้าร้าน ธุรกิจดำเนินต่อไม่ได้ ขณะที่อีกกลุ่มที่เป็นกลุ่มพวกซัพพลาย กลุ่มนี้เป็นกลุ่มต้องการนำดิจิทัลโซลูชั่นเข้าไปใช้ และมองหาว่าอะไรที่ทำแล้วทำให้เขา Quick win ได้" 

ชู 3 ดิจิทัลโซลูชั่นบุกองค์กรทุกระดับ 

ปกาสิต มองว่า ทั้ง 3 ดิจิทัลโซลูชั่นหลัก ที่เป็นจะเป็นเรือธงของเบรนเนอร์จี้นับจากนี้ จะตอบโจทย์การทำงานในองค์กรต่างๆ ยุคนี้ได้ดี และช่วยลดต้นทุน ไม่ว่าจะเป็น โซลูชั่น SmartTAX ระบบจัดทำและนำส่งข้อมูลภาษีอิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรฐานที่กรมสรรพากรกำหนด SmartFLOW ระบบการจัดการและขออนุมัติเอกสารออนไลน์ และ SmartSIGN ระบบลงลายมือชื่อดิจิทัล ซึ่งทั้ง 3 โซลูชั่นยังเป็นไปตามกฏหมายด้านธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด 

"กลุ่มลูกค้าหลักของเรา มีทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม รีเทล ประกันภัย ธนาคาร พลังงาน และเร็วๆ นี้จะเข้าไปมากขึ้นในกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี ซึ่งเรามองว่า เขามีศักยภาพในแง่ของการพัฒนาโปรดักส์ แต่จะดีมากหากมีระบบหลังบ้านที่ดี ธุรกิจจะเดินไปเร็วขึ้นตรงนี้เป็นโรดแมพของเรา"

มอง“คลาวด์”โตสะพัด3หมื่นล. 

ปกาสิต ยังมองเทรนด์ของการใช้คลาวด์ในยุคนี้ด้วยว่า ถือเป็นอินฟราฯ สำคัญของดิจิทัลโซลูชั่นต่างๆ ว่ายังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในไทยน่าจะมีเม็ดเงินมากกว่า 30,000 ล้านบาท และมองว่าวิกฤติจะเป็นตัวเร่งให้เกิดการใช้คลาวด์เพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาลในภาคธุรกิจ 

"เราจะพบว่าการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยทำงานในองค์กร ทั้งรวดเร็ว สะดวก ปลอดภัย รวมถึงการ save cost และช่วยตอบโจทย์ pain point ทั้งในเรื่อง Process การทำงานรูปแบบเดิมและการทำงานในสถานการณ์โควิดแล้ว ในอนาคต หลังจากนี้ หากมีการเร่งให้เกิดดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น ได้ทุกภาคส่วน ก็น่าจะเกิด การทำงานที่คล่องตัวและฉับไว้ได้มากยิ่งขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชน-รัฐ เอกชน-เอกชน หรือรัฐ-รัฐ เพราะข้อมูลทุกอย่างจะถูกคุยกันบนแพลตฟอร์มดิจิทัล"

ขณะเดียวกัน เขาย้ำว่า สิ่งหนึ่งที่เบรนเนอร์จี้พยายามทำ คือ การดีไซน์โซลูชั่นที่จะเน้นการดีไซน์บายลอว์ ไม่ได้เน้นดีไซน์บายแพชชั่น ซึ่งอาจต่างจากสตาร์ทอัพ หรือบริษัทรายอื่น คือ มีแพชชั่นมาแล้วคิดว่าอยากจะทำ 

"เรามองว่าถ้าเราจะเสิร์ฟ และโฟกัสในส่วนของ document management ต่างๆ มันต้องปฏิบัติตามกฏหมาย ซึ่งไม่ใช่แต่กฏหมายในไทยแต่ต้องมองไปถึงกฏหมายในต่างประเทศด้วย” 

4671


นายสันติสุข  โฆษิอาภานันท์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) หรือ SONIC ผู้นำธุรกิจให้บริการการจัดการระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจรระดับภูมิภาค เปิดเผยว่า จากการประเมินภาพรวมการดำเนินงานของบริษัทตั้งแต่ต้นปี 2564 จนถึงปัจจุบัน พบว่า SONIC หวยออนไลน์  มีรายได้รวมเติบโตเกินเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทได้ปรับเป้าหมายรายได้ปี 2564 เพิ่มขึ้นเป็นเติบโต 60%จากเดิมที่ตั้งเป้าว่าจะเติบโต 20% 

สำหรับผลประกอบการของบริษัทใน 6 เดือนแรก  สิ้นสุด 30 มิ.ย. 2564  บริษัทมีกำไรสุทธิ  82.54 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 312.91% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 19.99 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 525.60 % เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/63 ที่มีกำไรสุทธิ  6.68 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 2.55% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/64 ที่มีกำไรสุทธิ 40.75 ล้านบาท

ขณะที่มีรายได้รวม 1,279.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 114.41 %  เทียบกับงวดเดียวกันของปี 2563 โดยเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/63  เท่ากับ 136.19 %  และเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 / 64  เท่ากับ 11.59%  


ทั้งนี้บริษัทมีรายได้จากการให้บริการขนส่งทางเรือ 997.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน  161.55%  โดยเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/63 เท่ากับ  189.97 %  และเพิ่มจากไตรมาส 1 ปี 64 เท่ากับ  14.11%   

รายได้จากบริการขนส่งทางบก 218.17 ล้านบาท เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า 24.11% โดยเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/63  เท่ากับ  32.78 %  และเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 /64  เท่ากับ  3.63% 

รายได้จากบริการขนส่งทางอากาศ 57.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า 68.03% โดยเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/63 เท่ากับ  69.07 % และลดลงเล็กน้อยจากไตรมาส 1 ปี 64  เท่ากับ 3.83%    รายได้จากการให้บริการอื่นๆ 6.32 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 19.25 % โดยเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/63  เท่ากับ 96.06 %  และเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 64  เท่ากับ 70.09%  

นายสันติสุข กล่าวต่อว่า  ผลประกอบการของบริษัท 6 เดือนแรก ของปี 64 เป็นไปตามที่ได้คาดการณ์ไว้  มีเติบโตอย่างก้าวกระโดดและโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรกของปีนี้   แม้จะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19ที่รุนแรงขึ้น แต่การให้บริการด้านขนส่งของบริษัทไม่ได้มีปัญหา  เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการให้บริการขนส่งสินค้าของลูกค้า  ตั้งแต่ช่วงสถานการณ์โควิด 19 ในระลอกแรก  และได้เตรียมความพร้อมมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการขนส่งสินค้าของลูกค้า จึงทำให้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้าเดิมและจากกลุ่มลูกค้ารายใหม่ที่มีเพิ่มมากขึ้น 


“SONIC ได้เตรียมความพร้อมรับมือกับการแพร่ระบาดโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การบริการขนส่งของเราไม่มีปัญหา  ลูกค้ายังให้ความเชื่อมั่นคุณภาพการให้บริการของ SONIC ลูกค้าเก่ายังเหนียวแน่น ขณะที่ลูกค้าใหม่ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้เราลุยขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ” นายสันติสุข กล่าว  

โดยกลุ่มลูกค้าหลัก ยังมาจากการให้บริการขนส่งทางทะเล ที่มีสัดส่วนรายได้ถึง  78 %  การบริการขนส่งทางบก  17 % การบริการทางอากาศ 4.5 % และสัดส่วนรายได้อื่น ๆ อีก 0.5%  นอกจากนี้ในไตรมาส 2/64 บริษัท ยังมีรายได้ดอกเบี้ยจากการให้เช่าซื้อรถหัวลาก 1.52  ล้านบาท จากไตรมาส 1 ปี 64 มีรายได้  0.78 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 94.87%

นอกจากนี้ในที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท เมื่อวันที่ 11 ส.ค.64  ได้มีมติอนุมัติการลงทุนเพื่อขยายพื้นที่ให้บริการด้านโลจิสติกส์   โดยลงทุนในที่ดินเพิ่มจำนวน  33 ไร่  ซึ่งเป็นที่ดินที่ติดกับแปลงเดิมใน อำเภอศรีราชา  จังหวัดชลบุรี  

4672


มิอุ โกโตะ นักกีฬาซอฟต์.หญิงทีมชาติญี่ปุ่น ได้รับเหรียญทองโอลิมปิกอันใหม่ หลังอันเก่าโดนนายกเทศมนตรีชาวญี่ปุ่นรายหนึ่งเอาไปกัดเข้าปากออกสื่อ จนโดนด่าเละเทะไม่เป็นชิ้นดี

ก่อนหน้านี้ โกโตะ ได้พบกับ ทาคาชิ คาวามูระ นายกเทศมนตรีเมืองนาโกย่า หลังคว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2020 ก่อนจะให้ คาวามูระ ได้ลองเอาเหรียญทองไปคล้องคอ แต่อีกฝ่ายกลับทำเกินกว่านั้นคือเปิดหน้ากากแล้วกัดเหรียญโชว์

แม้นักกีฬาจะมีประเพณีกัดเหรียญโชว์เวลาประสบความสำเร็จ แต่การกระทำของ คาวามูระ ส่งให้เกิดเสียงด่าทอสนั่นบนโลกออนไลน์กว่า 7,000 ครั้ง ทำนองว่าไม่ใช่เหรียญของตัวเองสักหน่อยอยู่ๆ เอาไปกัดทำไม แถมยังละเมิดกฏป้องกันการระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่างหาก

ภายหลัง คาวามูระ วัย 72 ปี ได้แสดงความขอโทษต่อ โกโตะ จากพฤติกรรมไม่เหมาะสมนั้น ส่วนฝ่ายจัดการแข่งขัน "โตเกียว 2020" ก็ส่งเหรียญทองอันใหม่ไปให้นักซอฟต์.สาว แทนของเก่าที่โดนกัดจนเปื้อนน้ำลายไปแล้ว

4673


“บจ.” เตรียมนำบริษัทลูกขายไอพีโอต่อเนื่อง ล่าสุด 7 บริษัทจ่อระดมทุนเบื้องต้นปี 64-65 “บล.เมย์แบงก์ฯ” ชี้ ช่วยลดภาระบริษัทแม่ เผย อยู่ระหว่างทำดีลสปินออฟธุรกิจสินเชื่อ คาดชัดเจนเร็วๆ นี้ “บล.บัวหลวง” ซุ่มทำดีล หลังส่ง OR เข้าเทรดต้นปีที่ผ่านมา

ในช่วงปี 2564-2565 มีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ประกาศนำบริษัทลูกเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ (สปินออฟ) โดยยื่นแบบแสดงข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว 2 ราย ได้แก่ บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) ได้ส่งบมจ.ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ (TFM) ยื่นไฟลิ่งขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 109.3 ล้านหุ้น และ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) ยื่นไฟลิ่งเสนอขาย IPO ของบริษัท บริทาเนีย จำกัด (BRI) ไม่เกิน 252.65 ล้านหุ้น นอกจากนี้ ยังมีอีก บจ.อีก 5 แห่งที่เตรียมยื่นไฟลิ่งบริษัทลูก

นายประเสริฐ ตันตยาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์​แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บล.เมย์แบงก์ฯ มีลูกค้า บจ.ที่อยู่ระหว่างเตรียมตัวสปินออฟบริษัทลูกจำนวน 1 ราย ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อ โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในเร็วๆ นี้ เพราะระยะเวลาการทำดีลสั้นกว่าการเตรียมความพร้อมระดมทุน IPO เนื่องจากที่บริษัทลูกของ บจ.มีความพร้อมของข้อมูลอยู่แล้ว เช่น การจัดทำบัญชีที่ได้มาตรการเหมือนกับบริษัทแม่ เป็นต้น


โดยการนำบริษัทลูกไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยลดภาระทางการเงินของบริษัทแม่ โดยกระแสการสปินออฟไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงโควิด-19 เพราะมองว่าที่ผ่านมา บจ.ที่แยกลูกออกมาระดมทุนไม่ได้มีปัญหาเรื่องสภาพคล่องในช่วงวิกฤติ ขณะที่ บจ.ที่มีการประกาศเตรียมสปินออฟในช่วงที่ผ่านมา เช่น ORI ที่เตรียมนำ BRI ออกมาระดมทุน เป็นหนึ่งในแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อเป็นโฮลดิ้งส์อยู่แล้ว

ขณะที่ช่องทางการระดมทุน แม้บริษัทลูกของ บจ.ส่วนใหญ่จะสามารถกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน รวมถึงใช้เครื่องมือการออกหุ้นกู้เหมือนบริษัทแม่ได้ก็ตาม แต่ในส่วนของตลาดหุ้นกู้ที่มีต้นทุนต่ำกว่าเงินกู้ธนาคาร พบว่านักลงทุนสถาบันส่วนใหญ่ยังมีข้อจำกัดที่ต้องลงทุนหุ้นกู้ของ บจ.เท่านั้น นอกจากนี้ การแยกตัวออกมาระดมทุนด้วยตนเองช่วยลดความเสี่ยงที่บริษัทแม่จะต้องเพิ่มทุนเพื่อควบคุมอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ในกรณีที่ต้องการเงินทุนไปใช้ในการขยายธุรกิจของบริษัทลูกอีกด้วย

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บล.บัวหลวง กล่าวว่า การสปินออฟบริษัทลูกของ บจ.เพื่อให้นักลงทุนสามารถมองภาพธุรกิจได้ง่ายขึ้น และประเมินมูลค่าได้ง่ายขึ้น เช่น อัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) ในตลาดหุ้นซึ่งไม่เท่ากันในแต่ละอุตสาหกรรม ทั้งนี้ เทรนด์การสปินออฟเกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว เพราะบริษัทลูกของ บจ.เริ่มเติบโตและมีศักยภาพที่จะลงทุนได้ด้วยตนเองมากขึ้น

ปัจจุบัน บล.บัวหลวง อยู่ระหว่างจัดทำดีลในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน แต่คาดว่าจะใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าที่จะเห็นผล ภายหลังในช่วงต้นปี 2564 ที่ผ่านมาได้นำ บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บมจ.ปตท. (PTT) เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไปแล้ว และหากย้อนไปปี 2563 ได้นำ บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) เข้ามาระดมทุนด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC)

4674


การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกล่าสุด ทำให้จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในหลายพื้นที่ทางภาคใต้ของสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และมันกำลังเล่นงานอย่างหนักรัฐต่างๆ อย่างเช่น ฮาวายและออริกอน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยประสบความสำเร็จควบคุมโรคระบาดใหญ่และมีอัตราการฉีดวัคซีนสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไปประเทศ ส่งให้เวลานี้ค่าเฉลี่ยผู้ติดเชื้อใหม่รายวันทั่วประเทศแตะระดับราวๆ 123,000 คนต่อวัน และเสียชีวิต 500 คนต่อวัน

หลายเดือนหลังจากประสบความสำเร็จในการควบคุมเคสผู้ติดเชื้อและผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่ในระดับบริหารจัดการได้ เวลานี้หลายรัฐกำลังก้าวถอยหลัง ท่ามกลางจำนวนคนไข้ที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สร้างความอ่อนล้าแก่บุคลากรทางการแพทย์ที่งานล้นมือ

ออริกอน ก็เช่นเดียวกับฟลอริดา อาร์คันซอและลุยเซียนา ที่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล สูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด และสถานการณ์ในฮาวายก็ไม่ต่างกัน

สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นแม้ว่าออริกอนและฮาวาย มีระดับการฉีดวัคซีนสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วประเทศจนถึงสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนอาร์คันซอและลุยเซียนาต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอย่างมาก ขณะที่ฟลอริดามีอัตราการฉีดวัคซีนพอๆ กับค่าเฉลี่ยทั่วประเทศ

"มันใจสลาย ผู้คนเหนื่อยล้า คุณสามารถเห็นมันในดวงตาของพวกเขา" นายแพทย์เจวัน คูห์ล หัวหน้าเจ้าหน้าที่แพทย์แห่งศูนย์การแพทย์พรอวิเดนซ์ เมดฟอร์ด เมดิคอล เซ็นเตอร์ กล่าว และเล่าถึงสภาพที่คนไข้หลายคนถูกทิ้งไว้บนเตียงเคลื่อนที่บริเวณทางเดินของอาคาร และเครื่องมือสำหรับสังเกตอาคารของคนไข้เหล่านั้นส่งสัญญาณดังตลอดเวลา

ไวรัสกำลังถาโถมโจมตีสหรัฐฯ อีกรอบ ผลจากการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตาที่แพร่เชื้อได้ง่ายมากและอัตราการฉีดวัคซีนที่ล่าช้า โดยเฉพาะในแถบภาคใต้ของประเทศ พื้นที่ชนบทพื้นอื่นๆ และหลายพื้นที่ทั่วประเทศที่มีแนวคิดอนุรักษนิยม

ปัจจุบัน เคสผู้ติดเชื้อทั่วประเทศอยู่ที่ราวๆ 123,000 คนต่อวัน สูงสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกุมภพันธ์ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตค่าเฉลี่ยดีดตัวสู่ระดับ 500 คนต่อวัน ย้อนกลับสู่ระดับเดียวกับช่วงเดือนพฤษภาคมอีกครั้ง

ระหว่างการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่ที่ผ่านมา ฮาวายเป็นหนึ่งในรัฐที่มีอัตราการติดเชื้อและเสียชีวิตต่ำที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ แต่ช่วงไม่กี่วันมานี้ พวกเขารายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันมากกว่า 600 คน สูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด

ในช่วงเวลาเลวร้ายสุดของเมื่อปี 2020 ฮาวายมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 อาการหนักเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลสูงสุด 291 คน ทว่าในการแพร่ระบาดระลอกล่าสุด เจ้าหน้าที่คาดหมายว่าจำนวนผู้ติดเชื้ออาการหนักเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล น่าจะแตะระดับ 300 คนในสัปดาห์นี้

แม้ผู้คนในรัฐแห่งนี้มีความต้องการฉีดวัคซีนกันค่อนข้างมาก แต่มันใช้เวลาถึง 3 สัปดาห์ นานกว่าที่คาดหมายไว้ ในการเพิ่มจำนวนผู้ฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วจากระดับ 50% เป็น 60% และนับตั้งแต่นั้นระดับเข้ารับการฉีดวัคซีนก็คงที่ ในขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนประชากรวัยผู้ใหญ่ทั่วประเทศอยู่ที่ราวๆ 59%

โรงพยาบาลใหญ่ที่สุดบนเกาะบิ๊กไอส์แลนด์ของรัฐฮาวาย กำลังรู้สึกถึงแรงกดดัน โดยจากเตียงคนไข้ที่ใช้งานจริง 128 เตียงของศูนย์การแพทย์. เมดิคอล เซ็นเตอร์ มีผู้ป่วยครองเตียงแล้ว 116 เตียง และเตียงผู้ป่วยหนัก 11 เตียงของโรงพยาบาลเต็มอยู่เกือบตลอดเวลา จากการเปิดเผยของโฆษก

ฮิลตัน เรียเทล ประธานและซีดีโอของสมาคมดูแลสุขภาพแห่งรัฐฮาวาย กล่าวโทษการแพร่ระบาดหนักหน่วงขึ้นไปที่การฟื้นตัวในด้านการท่องเที่ยวของรัฐแห่งนี้ "นักท่องเที่ยวเป็นแหล่งต้นตอหนึ่งของการแพร่เชื้อ แต่พวกเขาไม่ได้เป็นแหล่งต้นตอหลักของการแพร่เชื้อ มีความกังวลมากมายเกี่ยวกับผู้คนจากฮาวายเอง พวกชาวบ้านที่เดินทางไปยังภาคใต้ ไปยังเวกัส ไปยังสถานที่อื่นๆ และพวกเขากลับมาแพร่กระจายเชื้อไวรัส"

ในออริกอน ผู้ว่าการรัฐเคท บราวน์ แถลงเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ว่า เกือบทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอีกครั้งยามอยู่ในพื้นที่สาธารณะในร่ม โดยไม่พิจารณาสถานะการฉีดวัคซีนของบุคคลนั้นๆ

เมื่อวันพุธ (11 ส.ค.) ถือเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันที่รัฐแห่งนี้รายงานมีคนไข้โควิด-19 เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดที่ 665 คน หลังจากเคยพุ่งสู่จุดพีกสุด 622 คน ระหว่างเผชิญการแพร่ระบาดระลอกพฤศจิกายนปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่วัคซีนจะเข้าถึงอย่างกว้างขวาง และเวลานี้เตียงไอซียูทั่วทั้งรัฐมีผู้ป่วยครองเตียงแล้วราวๆ 90%

ที่รัฐฟลอริดา ซึ่งผู้ว่าการรัฐรอน เดอซานติส คัดค้านการบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากาก คนไข้ล้นห้องฉุกเฉินบางแห่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้แพทย์ต้องตัดสินใจส่งคนไข้หลายคนกลับบ้านไปพร้อมกับออกซิเจนและอุปกรณ์สังเกตระดับออกซิเจนแบบพกพา เพื่อเปิดทางให้เตียงว่างสำหรับรองรับผู้ป่วยที่มีอาการหนักกว่า

(ที่มา : เอพี)

4675


เมื่อวันที่ 11 ส.ค.64 ติดตามความคืบหน้า ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ประกาศผ่าน เฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูลราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ แจ้งว่า เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2564

ขอเชิญคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ลงทะเบียนเข้ารับวัคซีนซิโนฟาร์ม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 12-16 สิงหาคม 2564 ผ่านทาง LINE Official รพ.จุฬาภรณ์ >> https://bit.ly/MomForm

ทั้งนี้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จะส่งข้อความ SMS ถึงคุณแม่ที่ลงทะเบียนเข้ามาทุกท่านให้เข้ามาดำเนินการทำแบบคัดกรองและใบยินยอม และนัดหมายการเข้ารับวัคซีนต่อไป

คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องมีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป
เข้ารับบริการที่ศูนย์ฉีดวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์ม บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) อาคาร 9 (ทีโอทีเดิม) ถนนแจ้งวัฒนะ เท่านั้น
ในวันฉีดวัคซีนกรุณานำเอกสารการฝากครรภ์ และบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อแสดงเป็นหลักฐานในการเข้ารับบริการฉีดวัคซีน

4676


นายสุเทพ สุวรรณรัตน์ นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้ เปิดเผยว่า ปัจจุบันผลผลิตไข่ไก่ที่มีอยู่ในระบบยังมีปริมาณตามปกติ ที่  41-42 ล้านฟองต่อวัน และจากมาตรการรัฐที่ให้ยืดอายุแม่ไก่ยืนกรง จะทำให้ปริมาณไข่ไก่เพิ่มอีก 3 ล้านฟองต่อวัน รวมเป็น 44-45 ล้านฟองต่อวันในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ เป็นปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการบริโภคในประเทศอย่างแน่นอน  ที่สำคัญคือราคาขายหน้าฟาร์มเกษตรกรยังอยู่ในระดับเดิมตามที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ขอความร่วมมือไว้ จึงแปลกใจว่าทำไมราคาไข่ไก่ในหลายพื้นที่มีการปรับสูงขึ้น

 

“ต้องยอมรับว่าในสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ที่มีหลายจังหวัดในพื้นที่สีแดงเข้มถูกล็อกดาวน์ การขนส่งผลผลิตไข่ไก่ให้กับห้างต่างๆ  จึงทำได้ไม่สะดวกนัก  ส่งได้เพียงวันละหนึ่งเที่ยว  หากว่ามีคนซื้อมากกว่าปกติ ก็จะทำให้เติมไม่ทัน  ยืนยันว่าผลผลิตไข่ไก่ที่มีอยู่ขณะนี้เพียงพอกับความต้องการบริโภคในประเทศอย่างแน่นอน  ความต้องการที่ดูเหมือนว่ามีเพิ่มขึ้นช่วงนี้น่าจะเป็นเพราะผู้บริโภคซื้อตุนไว้ เพื่อลดความถี่ในการออกนอกบ้าน จากปกติซื้อที่ 10 ฟอง ก็เพิ่มเป็น 90-120 ฟอง   เราเองก็เห็นใจผู้บริโภค ก็ต้องประคับประคองกันไป เพื่อก้าวผ่านโควิด-19 ไปด้วยกัน” นายสุเทพ กล่าว

 

นายสุเทพ กล่าวว่า ปัญหาราคาไข่ที่สูงขึ้นช่วงนี้ อยู่ที่พ่อค้าคนกลางเป็นสำคัญ  ซึ่งทางสมาคมฯได้ย้ำให้เกษตรกรระมัดระวังไม่ขายผลผลิตไข่ให้คนแปลกหน้า แต่จะขายให้เฉพาะลูกค้าประจำ สำหรับต้นทุนการเลี้ยง  ขณะนี้มีต้นทุนการผลิตเฉลี่ยพุ่งขึ้นมาใกล้เคียงเกือบเท่าราคาที่ขายหน้าฟาร์มแล้ว จากช่วงไตรมาสที่สองต้นทุนอยู่ที่ฟองละ 2.76 บาท และมีแนวโน้มต้นทุนสูงขึ้นอีกจากวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ปรับราคาสูงขึ้นต่อเนื่อง ทั้งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และกากถั่วเหลือง ทำให้ตอนนี้ผู้เลี้ยงแทบไม่มีกำไรเลย


ทางด้านนายสุวัฒน์ แพร่งสุวรรณ์ ประธานชมรมไข่ไก่ภาคอีสาน เปิดเผยว่า การที่ราคาไข่ในขณะนี้ดีดตัวขึ้น มาจากความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผลผลิตส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้สำหรับผู้กักตัวที่โรงพยาบาลสนามต่างๆ ซึ่งเป็นผู้ป่วยจากกทม.ที่กลับมารักษาตัวที่ภูมิลำเนาของตนเองมากขึ้น   เพราะไข่ไก่เป็นสินค้าที่นำมาประกอบอาหารได้ง่าย และเก็บรักษาไม่ยาก   ขณะที่ราคาขายหน้าฟาร์มอยู่ในระดับที่กรมการค้าภายในขอความร่วมมือ  โดยปกติไข่ไก่ในภาคอีสาน ส่วนใหญ่จะเป็นผลผลิตส่วนเกินของภาคอื่น ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณที่ลดลงบ้างจากช่วงปกติ จากที่ภาคอื่นๆมีความต้องการเพิ่มขึ้นดังกล่าว

 

ส่วนนายอุ่นเรือน ต้นสัก ประธานสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่เชียงใหม่-ลำพูน จำกัด กล่าวว่า ปริมาณไข่ไก่ในพื้นที่ทางภาคเหนือมีเพียงพอกับความต้องการบริโภค ไม่มีปัญหาขาดแคลน และจำหน่ายตามราคาที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด พร้อมขอให้ภาครัฐช่วยดูแลให้ราคาไข่ไก่มีเสถียรภาพ รวมทั้งวัตถุดิบอาหารสัตว์ ทั้งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และกากถั่วเหลืองให้อยู่ในระดับที่เกษตรกรผู้เลี้ยงพอจะสามารถลืมตาอ้าปากได้

4677


ขึ้นแท่นพระเอกเต็มตัวเรื่องแรกทั้งที หนุ่ม  “ริว-วชิรวิชญ์ วัฒนภักดีไพศาล” เลยถูกผู้จัด-ผู้กำกับ “โดนัท มนัสนันท์” จับเข้าห้องอัด โชว์ความสามารถร้องเพลงประกอบละคร “พฤษภา-ธันวา รักแท้แค่เกิดก่อน” ทาง ช่อง 3 ในเพลง “Summer Rain” คำร้อง โดย หนึ่ง-ณรงค์วิทย์ เตชะธนะวัฒน์ ทำนอง และเรียบเรียง โดย ปรเมศวร์ เหมือนสนิท ทำเอาเจ้าตัวแอบเครียด แต่พอได้รู้ถึงที่มา บอกเลยว่าละเอียด ละมุน อบอุ่นหัวใจ



“เพลงนี้ต้องยกให้ในความละเอียด และใส่ใจทุกชิ้นงานของพี่โดนัทจริงๆ และขอบคุณที่ให้โอกาสผมได้มาร้องเพลงประกอบละครครั้งแรกในชีวิต ก็มีความกดดัน แอบเครียดครับ ซึ่งเพลงนี้พี่โดนัท รีเควสขอกับพี่หนึ่งว่า อยากได้เนื้อเพลง ดนตรี ที่มีกลิ่นไอช่วงยุค 90 และเปรียบเรื่องราวของเนื้อหาเพลง ถึงคำที่คนสูงวัยชอบพูดถึงฝนฤดูร้อนว่า ‘ฝนชะยอดมะม่วง’ ซึ่งเปรียบความรักเหมือนหน้าร้อน และฝนที่กำลังจะมา ช่วยเติมหัวใจที่แห้งแล้ง ให้ชุ่มฉ่ำ 

ก็เหมือนกับ ซิสอร (แยม) ที่โดนคนรักเก่าทิ้ง จนหัวใจพัง ห่อเหี่ยว แต่พอมาเจอกับผม ที่รับบท ตั้ม เด็กหนุ่มสดใส ที่มาพร้อมกับความหวังดี ความจริงใจ ก็คล้ายกับฝนมาทำให้หัวใจกลับมาเป็นสีชมพูอีกครั้ง หลังจากที่ผมรู้ที่มาที่ไป อารมณ์ ความรู้สึกทุกอย่างออกมาเองอัตโนมัติ ก็หวังว่าทุกคนจะชอบ สามารถตามฟังได้ที่ JOOX แล้วครับ ส่วนละครก็เตรียมจะออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น.ทางช่อง 3 กด 33 เริ่มตอนแรก พฤหัสบดีที่ 2 กันยายน นี้ ครับ”

4678


รายงานข่าวจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า หลังจากเปิดโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” รับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเดินทางเข้ามาเที่ยวภูเก็ตแบบไม่กักตัว พบว่าในช่วง 40 วันแรก ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-9 ส.ค.2564 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าร่วมโครงการฯสะสม 18,654 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อ 18,602 คน คัดกรองพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 52 คน เฉพาะจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าโครงการฯวานนี้ (9 ส.ค.) มี 387 คนจากจำนวนเที่ยวบิน 4 เที่ยวบิน ไม่พบผู้ติดเชื้อ

ด้านยอดจองห้องพักโรงแรมที่ได้มาตรฐาน SHA+ พบว่าตลอดไตรมาส 3/2564 มีจำนวน 353,529 คืน แบ่งเป็นเดือน ก.ค. 190,843 คืน เดือน ส.ค. 143,566 คืน และเดือน ก.ย. 19,120 คืน ส่วนยอดการจองในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่นตั้งแต่เดือน ต.ค.2564-ก.พ.2565 มีจำนวน 9,797 คืน

ขณะที่เช้าวันนี้ (10 ส.ค.2564) เวลา 11.00 น. สายการบิน “คาเธ่ย์ แปซิฟิค” เริ่มทำการบินเส้นทาง ฮ่องกง-ภูเก็ต ให้บริการไฟลต์ปฐมฤกษ์ เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตวันนี้เป็นวันแรก โดยทำการบินทุกวันอังคาร และวันอาทิตย์ วันละหนึ่งเที่ยวบิน สำหรับไฟลต์ปฐมฤกษ์มีผู้โดยสารเดินทางมาทั้งสิ้น 134 คน มาจากตลาดฮ่องกง 56 คน นอกจากนั้นเป็นผู้โดยสารจากตลาดสหรัฐอเมริกา แคนาดา และจีน

4679


ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า คณะกรรมการพิจารณาความผิดทางวินัย ที่มีนายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน กรณีเจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) 3 คน ที่อคส.ได้แจ้งข้อกล่าวหาจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท โดยมิชอบด้วยกฎหมายนั้น ได้พิจารณาความผิดทางวินัยเสร็จแล้ว หลังจากใช้เวลานานถึง 5 เดือน โดยชี้ว่า ทั้ง 3 คน มีความผิดวินัยร้ายแรง และได้ออกหนังสือลงวันที่ 30 ก.ค.64 ให้มารับทราบข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน หรือภายในวันที่ 15 ส.ค.นี้

โดยหลังจากครบกำหนดแล้ว คณะกรรมการ จะสรุปการรับทราบข้อกล่าวหา และเสนอความเห็นเรื่องการลงโทษไปให้นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการอคส.พิจารณาลงโทษตามที่เสนอ คาดว่า น่าจะลงโทษสถานเดียว คือ ไล่ออกส่งผลให้ทั้ง 3 คนไม่ได้รับเงินบำเน็จ หรือบำนาญใดๆ นอกจากนี้ อคส.จะฟ้องร้องเรียกเงินเดือนกลับจากทั้ง 3 คนนับตั้งแต่ที่ความผิดเกิดขึ้น หรือตั้งแต่เดือนส.ค.63 เป็นต้นมา

สำหรับทั้ง 3 รายที่ถูกสอบวินัยร้ายแรง ได้แก่ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตรักษาการผู้อำนวยการอคส. มีอัตราเงินเดือนกว่า 80,000 บาทและเจ้าหน้าที่บริหาร ระดับ 8 คือ นายเกียรติขจร แซ่ไต่ เงินเดือนกว่า 30,000 บาท และนายมูรธาธร คำบุศย์เงินเดือนกว่า 20,000 บาท อย่างไรก็ตาม จนถึงวันที่ 10 ส.ค.64 มีเพียงนายเกียรติขจร คนเดียวที่รับทราบข้อกล่าว และให้การปฏิเสธ ยืนยันว่า ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บริหาร 1 ในคณะกรรมการ (บอร์ด) อคส.

ส่วนการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิด ที่มีนายวันชัย วราวิทย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานนั้น ล่าสุด ได้ทยอยเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ปากคำแล้ว คาดว่า จะพิจารณาแล้วเสร็จ และทำคำวินิจฉัยได้อย่างช้าไม่เกินกลางเดือนก.ย.64 เพื่อเสนอต่อผู้อำนวยการอคส. จากนั้นอคส. จะเสนอคำวินิจฉัยไปให้คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิด กระทรวงการคลังพิจารณาอีกครั้ง

หากมีความเห็นตรงกัน อคส.จะออกคำบังคับ แจ้งให้เจ้าหน้าที่อคส. รวมถึงกรรมการในบอร์ดอคส.ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ชดใช้ความเสียหายให้อคส. เบื้องต้นราว 2,000 ล้านบาท ยังไม่รวมดอกเบี้ย และค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ แต่หากไม่ชดใช้ให้ อคส.สามารถฟ้องร้องต่อศาลปกครอง หรือถ้าไม่มีเงินชดใช้ ต้องบังคับคดีและยึดทรัพย์

           
ทั้งนี้ คาดว่า ผู้ที่จะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้อคส.นอกจากเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ราย และ 1 ในบอร์ดอคส.ที่เป็นผู้สั่งการแล้ว ยังจะมีเจ้าหน้าที่อคส.รายอื่นอีก เช่น เจ้าหน้าที่การเงิน ที่ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการทุจริต แต่มีความประมาทเลินเล่อในหน้าที่จนทำให้อคส.เสียหาย รวมถึงกรรมการในบอร์ดอคส.ชุดปัจจุบันทุกคน ที่อาจทราบเรื่องการจัดซื้อถุงมือยาง และมีอำนาจ หน้าที่ควบคุมแลกิจการของอคส. ตามมาตรา 17 พระราชกษฎีกาจัดตั้งอคส.พ.ษ.2498 แต่กลับไม่ยับยั้ง หรือไม่สั่งการให้พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ รายงานบอร์ด

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อถึงการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า หลังจากป.ป.ช.ได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด และให้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ทั้งหมดได้ทยอยรับทราบข้อกล่าวหา และแก้ข้อกล่าวหา คาดว่า ป.ป.ช.จะสรุปผลการไต่วน และชี้มูลความผิดได้ในเร็วๆ นี้ ก่อนส่งให้อัยการส่งฟ้องดำเนินคดีอาญา ขณะเดียวกันสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) จะดำเนินคดีแพ่ง และยึดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องชดใช้ความเสียหายให้อคส.

4680


โฆษกรัฐบาล เผย ครม.ปรับโครงการเยียวยา ม.33 เพิ่มกรอบวงเงินจำนวนทั้งสิ้น 17,050 ล้านบาท ครอบคลุม 29 จังหวัดแดงเข้ม อนุมัติวงเงิน 33,471 ล้านบาท เยียวยาผู้ประกันตน ม.39 และ ม.40 ในพื้นที่ 29 จังหวัดสีแดงเข้ม

วันนี้ (10 ส.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้สำนักงานประกันสังคม ปรับปรุงรายละเอียดสาระสำคัญของโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนี้

(1) เปลี่ยนชื่อโครงการ เป็น โครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จากเดิม โครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดและพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง

(2) ขยายพื้นที่ดำเนินการจาก 13 จังหวัด เป็น 29 จังหวัด โดยเพิ่มเติม 16 จังหวัด (กาญจนบุรี ตาก นครนายก นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง)

(3) กรอบวงเงินโครงการ จากเดิม 15,027.6860 ล้านบาท เป็น 17,050.4145 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2,022.7285 ล้านบาท
(4) ขยายระยะเวลาให้นายจ้างในพื้นที่ 3 จังหวัด (ข้อกำหนดฯ ฉบับที่ 28) และ 16 จังหวัด (ข้อกำหนดฯ ฉบับที่ 30) สามารถขึ้นทะเบียนประกันสังคมรายใหม่ได้ โดยสำนักงานประกันสังคมจะตรวจสอบและยืนยันข้อมูลจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จนถึงวันที่ 24 สิงหาคม 2564 นี้

นายอนุชา ยังเปิดเผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้เห็นชอบกรอบวงเงิน 33,471.0050 ล้านบาท เยียวยาผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ในพื้นที่ 29 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐตามข้อกำหนดฯ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยช่วยเหลือค่าครองชีพคนละ 5,000 บาท รวมทั้งสิ้น 6,694,201 คน โดยมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังนี้

1. พื้นที่ดำเนินการ 29 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา ระยอง ราชบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ลพบุรี เพชรบูรณ์ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี ตาก อ่างทอง นครนายก สมุทรสงคราม และสิงห์บุรี

2. กลุ่มเป้าหมายรวมประมาณ 6,694,201 คน ประกอบด้วย กลุ่มผู้ประกันตนตามมาตรา 39 จำนวน 1,436,171 คน และมาตรา 40 จำนวน 5,258,030 คน

3. คุณสมบัติของกลุ่มเป้าหมาย เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ที่มีสัญชาติไทย สถานะเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ในฐานทะเบียนประกันสังคมที่มีสถานะ A (Active) ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2564 (พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด) หรือ ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2564 (พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 16 จังหวัด) กรณีเป็นผู้สมัครเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ในฐานทะเบียนประกันสังคมที่มีสถานะรอชำระเงิน W (Wait) ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2564 ทั้งนี้ ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ต้องไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือมาตรา 39 และผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ต้องไม่เป็นข้าราชการหรือผู้รับบำนาญของกรมบัญชีกลาง

4. วิธีการจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 จะโอนเงินให้กับผู้ประกันตนผ่านบัญชีพร้อมเพย์ (PromptPay) เฉพาะที่ผูกบัญชีกับเลขประจำตัวประชาชน

โฆษกรัฐบาลยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ครม.ยังให้กระทรวงแรงงาน เร่งตรวจสอบยืนยันตัวตนของผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือตามเป้าหมายเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน รวมทั้งขอให้โอนเงินให้ความช่วยเหลือผู้ประกันตนตาม ม.39 และ ม.40 ที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดใน 10 จังหวัด ก่อนระยะเวลาที่กำหนด ภายในวันที่ 24 สิงหาคม 2564 เนื่องจากเป็นกลุ่มที่อยู่ในพื้นที่ที่มีสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงและได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติตามข้อกำหนดฯ ก่อนพื้นที่อื่นๆ อีกทั้งกำหนดให้ผู้ที่ลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 เพิ่มเติมในพื้นที่ 10 จังหวัด ต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนและจ่ายเงินสมทบงวดแรกภายในวันที่ 10 สิงหาคม 2564 และในพื้นที่ 19 จังหวัดต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนและจ่ายเงินสมทบงวดแรกภายในวันที่ 24 สิงหาคม 2564

นอกจากนี้ ได้ให้กระทรวงแรงงานจัดทำข้อเสนอขยายระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มเป้าหมายที่รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ 13 จังหวัดเพิ่มเติม อีกจำนวน 1 เดือน ซึ่งจะช่วยให้การให้ความช่วยเหลือนายจ้างและผู้ประกันตนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

หน้า: 1 ... 258 259 [260] 261 262 ... 265