หลังจากเชต อยู่ 2-3 วัน เพราะไม่ค่อยจะมีเวลามากนัก ตอนนี้น่าจะได้สัก 80% ในระบบเหลือซับแค่ 2 ตัวแล้ว
สาเหตุที่ เปลี่ยนมาเป็น Martin logan dynamo 1000 ไม่ใช่ SVS SB 12 ไม่ดีนะครับ
แต่เหตุจากการเคยใช้ซับ 3 ตัว แนน่นมาก น้ำหนักดีมาก เบสคมกระชับ พอปล่อย polk ออกไป เหลือแค่ 2 แต่ถึงจะเหลือแค่ 2 ก็ยังสามารถตอบโจท์ได้ดีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า 3 ตัว เลย แต่เผอิญ สบโอกาสประจวบเหมาะ กับมีโอกาสได้ dynamo 1000 มาครอบครอง เลยอยากลองดูบ้างครับ
ร่ำลือกันนัก ลองดูซะเลย
ลักาณะการปรับซับของผม ผมจะไม่ให้เสียงซับมากวนคู่หน้าเลย เล่นหมุนกันทีละไม่ถึง มิล กันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะใช้ซับกี่ตัว
หากมีเสียงอื้ออึงหรือกลบรายละเอียดแม้แต่น้อย ต้องพยายามทำให้รายละเอียดนั้นกลับมาให้ได้และเสียงต้องดีขึ้นเท่านั้น แต่เบสต้องมาแน่นๆ กระชับ ไม่ขาดและคมเสมอ เสียงเบสต้องมาแบบมีเหตุผล ไม่ใช่ครางขู่ อยู่ตลอดเวลาอันนี้ไม่ไหว ฟังแล้วเครียดครับ
ตัวอย่าง
JBL LS120P
Volume ~~ 13.05
Freq~~ 60- 70 กว่าๆ จำไม่ได้แน่ชัด
Martin logan dynamo 1000
volume ~~ 8.30
Freq~~ 60-70 กว่าๆ
ผมเลยใช้เวลาเยอะมากในการปรับ ในการมั่วของผม 55555
พออายุมาก ก็หันมาใช้ซับที่เน้นกระชับๆ เอาคุณภาพเบสด้านฟังเพลงมากขึ้น
ผลออกมาดังที่คาดหวัง เมือ DYNAMO 1000 ตู้ปืด 500 watt ไปอยู่ด้านหลัง และ เริ่มเข้าที่เข้าทาง ฟังเพลง 2 chanel ตั้งให้ค่าให้ชับ หน้าหลังรวมเป็น 1 เดียว ใน mode Merge Sub ของ Yamaha ซึ่งทำให้ซับ หน้าหลังทั้ง 2 ตัวทำงานพร้อมกันและกลมกลืนกัน ซึ่งปกติ หากเราต่อซับ 2 ช่อง หน้าหลังแล้วเลือก
SUB FRONT + REAR เวลาเปิดเพลง 2ch ซับด้านหลังจะไม่ดัง แต่ Yamaha มี mode มาให้ใช้ค่อนข้างสะดวกดีมากๆ ครับ
แต่ในช่วงการเชตอับ ซับตัวหลัง ให้ใช้ mode merge sub นะครับ ปรับตัวหลัง และให้ปิดตัวหน้า ใว้ เมือได้แล้วค่อยมาเปิด ตัวหน้าฟังให้สัมพันธ์กันอีกครั้ง
ผลที่ได้ เสียงเบสทิ้งตัวมากขึ้น รายละเอียด เสียงดนตรีความถี่ต่ำทำได้อย่างสะอาด กระชับ มีการตอบสนอง เสียงกลองเสียงกระเดื่องได้เร็วมาก ทำให้ฟังดูรับรู้ได้ทันทีว่า ความถี่ต่ำมีรายละเอียดมากขึ้น นั่งฟังในจุดนั่งฟังจะไม่ได้ยินเสียงซับจากด้านหลังเลย แต่จะมารวมกองอยู่ด้านหน้า รวมเป็น 1 เดียว ทำให้การดูฟังเพลง ดูคอนเสริ์ตดีขึ้น ได้เสียงกระชับ น้ำหนักมากกว่าตอนใช้ 3 ตัว JBL+polk+svs คงเป็นเพราะ series ของ DYNAMO 1000 เป็นร่นที่สูงกว่า polk 110 และ SVS SB12 อยู่แล้ว กำลังมากกว่าเกือบเท่าตัว รวมถึงราคาก็เท่าตัวด้วยดิ อีกอย่างเป็นซับที่ทำขึ้นมาเน้นทางด้านฟังเพลง
จึงทำให้ระบบโดยรวมด้านฟังเพลงและดูคอนเสริ์ตดีขึ้นผิดหูผิดตาเลยทีเดียว
มาทางด้าน การดูหนัง ด้วย ของ DYNAMO 1000 =500watt ที่เอามาแทน SVS SB12 NSD 300 WATT ด้านหลัง
ในการดูหนัง อาจใช้ mode merge sub หรือ SUB front+rear ก็ได้นะครับ ลองดู ชอบแบบไหนก็เอาแบบนั้น ที่าำคัญที่สุด ต้องจูนเสียงให้ซับทั้ง 2 ตัวทำงานเป็นหนึ่งเดียวเสียงรวมกันเป็น 1 ส่วนจะเลือก mode ไหนในการดูหนังก็ฟังเอานะครับ
ส่วนตัวผม เลือกแบบ Sub front+rear คือมีความรู้สึกว่า
ซับอยู่ด้านหลัง ก็เพื่อต้องการให้ทำงานความถี่ต่ำแทนคู่หลัง ส่วนด้านหน้ามีซับที่ทำหน้าอยู่แล้ว จากการทดลองทั้ง 2 mode เสียงไม่ต่างกันมากมายนัก แต่ดูเหมือนการตั้ง merge sub จะทำให้ซับด้านหลัง เกิดการกวน รายละเอียดคู่หน้ามากกว่า หากการเชตอับยังทำได้ไม่ดีนัก
ถ้าเชตได้ดีระดับหนึ่งตำแหน่งเสียง จากการเกิดเหตุไม่ว่าจะเสียงระเบิด เสียงปืน ผมว่ามันฟังดูสมจริงกว่า การ Merge เสียงซับทั้ง 2 ตัวไปใว้ด้านหน้ารวมกัน
ทดสอบจาก World War Z ฉากแรก ที่มีระเบิดจากด้านหลัง
เสียงเบิดขากด้านหลัง ดังแน่นๆ ปึ้ง เล่นเอาตกใจ มาแบบสะเทือนแน่นๆมาแต่มีน้ำหนักมาด้วย โซฟาเขย่ากว่าเดิม
หลังจากนั้นทดสอบหนังอีกหลายๆฉาก เช่นกังฟูแพนด้า และเรื่องอื่นๆ ที่มีเหตุการเสียงเอฟเฟคหนักๆ จากด้านหลัง
ผลที่ได้ แรงประทะจากด้านหลังทำได้ดีมากๆ เบสมาเป็นก้อน เป็นกลุ่มกว่าเดิม ในขณะที่การสั่นสะเทือนก็เพิ่มขึ้น ไม่มีอาการบวมเบลอให้ได้ยินเลย
น้ำหนักตกลงพื้นหนักขึ้นกว่าเดิมและ การโยนเสียงบ่งชี้ตำแหน่งได้ชัดเจนมากขึ้น ฉากเสียงระเบิดด้านบนอากาศดังแน่นๆ แบบตุ๊บ ๆ หาย แต่มีแผ่แรงสะเทือนลงมา จากแรงระเบิดด้านบน ทำให้รู้สึกเสมือนว่ามีระเบิดอยู่ด้านบนจริงๆ
สรุป ชอบครับ อนาคตหากจะเปลี่ยนซับจาก dynamo ก็คงเป็น JBL LS120 แทนแต่คงอีกนาน 5555 หรือไม่ถ้าถุกหวยก้อาจเป็น JL ก็ได้ 555
แต่ถ้าโดนจับได้ [ช็อค]ว่าหมดไปเท่าไหร่อาจต้องขายหมด
ท้ายนี้ ไม่ว่าจะใช้ซับกี่ตัว ยี่ห้ออะไร ราคาเท่าไหร่
ลงมือครับ ลงมือกะมัน ตบตี ขู่บังคับมัน ซ้อมมัน เอาให้น่วม
แล้วจะเข้าใจมัน ครับ