ตู้เชื่อมไฟฟ้า foxus (สีแดง) รุ่น continental 215 GT ตู้เชื่อมfoxus อินเวอร์เตอร์ เครื่องเชื่อมระบบ Inverter แบบอาร์ค (Manual Metal Acr Welding) คุณภาพสูงกว่าเครื่องเชื่อมทั่วไป น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย กระแสไฟเชื่อมคงที่ กันไฟกระชาก มีระบบป้องกัน Over-voltage และ Over-current ทำให้ประหยัดไฟได้มากขึ้นเท่าตัว ด้วยการออกแบบและการผลิตที่ทันสมัย จอ LCD บอกค่าของกระแสไฟเชื่อม ความทนทาน และ สูญเสียพลังงานน้อย ทนต่อความไม่คงที่ของแรงดันไฟ สามารถเชื่อมเหล็ก สแตนเลส และ อลูมิเนียม ใช้ลวดเชื่อมทั่วไปได้เกือบทุกชนิดประหยัดไฟ มีความทนทานสูง ต้องตู้เชื่อมไฟฟ้าอินเวอร์เตอร์ เท่านั้น ปรับกระแสไฟเชื่อมได้ตามต้องการ ควบคุมแนวเชื่อมได้ง่าย ทำให้ได้แนวเชื่อมคุณภาพ ใช้ได้กับลวดเชื่อมทุกชนิด ใช้เชื่อมได้กับชิ้นงานหลากหลายชนิด เช่น เหล็ก เหล็กคาร์บอนต่ำ สแตนเลส เหล็กอัลลอยด์ และอื่นๆ เหมาะสำหรับงานทุกประเภท งานหนัก งานที่ต้องออกนอกสถานที่ งานซ่อมบำรุงทั่วไป งานเฟอร์นิเจอร์ อุตสาหกรรมรถยนต์ งานผลิตที่ต้องการทำงานต่อเนื่อง งานอุตสาหกรรมเคมี งานอุปกรณ์และอะไหล่ชิ้นส่วนรถยนต์หรือเครื่องจักรต่างๆ หม้อน้ำ อุตสาหกรรมงานก่อสร้าง งานโครงสร้าง
การเลือกซื้อตู้เชื่อมไฟฟ้า ระบบอินเวอร์เตอร์ คุณภาพจะทำให้ช่วยทุ่นแรงต่อเชื่อมหรือผู้ที่ต้องการใช้งานเป็นอย่างมาก โดยการเลือกซื้อตู้เชื่อมไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นชนิดใดก็ตาม ผู้ใช้งานควรเลือกให้เหมาะสมกับงานมากที่สุด ซึ่งถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้การทำชิ้นงานออกมามีคุณภาพที่สุด โดยการเลือกซื้อตู้เชื่อมไฟฟ้า ระบบอินเวอร์เตอร์ นั้นช่างหรือผู้ใช้งานควรจะต้องทราบข้อมูลของการนำไปใช้งานด้วย โดยเฉพาะขนาดของเครื่องเชื่อมไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ซึ่งแต่ละขนาดก็จะเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันไป และด้วยในยุคแห่งเทคโนโลยีนี้ยิ่งทำให้มีการพัฒนาตู้เชื่อมไฟฟ้าเพื่อให้สามารถนำใช้งานได้หลากหลายยิ่งขึ้น...มาดูแนวทางในการเลือกซื้อตู้เชื่อมไฟฟ้า สำหรับการใช้ประโยชน์ที่หลากหลายของงานเชื่อมกันดีกว่า!!
1.เลือกจากตู้เชื่อมกระแสสลับ/กระแสตรง
การเลือกซื้อตู้เชื่อมไฟฟ้า inverter จะมีทั้งตู้เชื่อมกระแสสลับและตู้เชื่อมกระแสตรง หากเป็นตู้เชื่อมกระแสสลับจะทำงานโดยการไหลของกระแสไฟฟ้าที่มีการสลับไป-มาระหว่างขั้วบวกและขั้วลบในวงจรไฟฟ้า มีทรานซ์ฟอร์เมอร์เป็นตัวกำเนิดไฟฟ้าโดยทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับการเชื่อมงาน ส่วนตู้เชื่อมกระแสตรง เป็นตู้เชื่อมไฟฟ้าที่มีกระแสไฟฟ้าไหลไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งซึ่งถูกออกแบบมาเพื่องานเชื่อมโลหะที่ต้องการแนวเชื่อมที่แนบสนิทและประณีต เพราะมันจะทำให้แนวเชื่อมที่เกิดขึ้นค่อนข้างที่จะมีความแข็งแรงและมีความเรียบสวย ทำให้ช่างไม่ต้องเสียเวลาไปกับการตกแต่งเพิ่มเติมและแม้ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หัดเชื่อม การเลือกซื้อตู้เชื่อมไฟฟ้าประเภทนี้อาจจะทำให้คุณดูเหมือนนักเชื่อมระดับมืออาชีพเลยล่ะ
2.เลือกตู้เชื่อมจากขนาดของเครื่อง
เชื่อว่ามีช่างเชื่อมอีกหลายๆ คนที่ต้องการเน้นความรวดเร็ว และสามารถลุยงานไปได้ในทุกสถานการณ์ ซึ่งการเลือกซื้อตู้เชื่อมไฟฟ้าที่มีขนาดกะทัดรัด เบา โดยมีขนาดที่ไม่ใหญ่มากจะทำให้สามารถนำขึ้นที่สูงได้ อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพสูงในการเชื่อมชิ้นงานได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งนอกจากจะทำการเลือกซื้อตู้เชื่อมไฟฟ้าจากขนาดของเครื่องแล้ว อาจจะต้องดูสายไฟด้วยว่ามีความยาวแค่ไหนเพราะจะได้ไม่ต้องลากสายไฟเชื่อมที่หนักหรือวุ่นวายอีก
3.เลือกตู้เชื่อมแบบประหยัดไฟ
บอกเลยว่าหากทำการเลือกซื้อตู้เชื่อมไฟฟ้าที่ไม่มีคุณภาพ หรือเป็นรุ่นเก่าๆ อาจจะทำให้กินไฟอย่างมาก แต่ก็ไม่เสมอไปเพราะความจริงแล้วการเลือกซื้อตู้เชื่อมไฟฟ้าสามารถเลือกได้จากรุ่นและยี่ห้อที่ใช้งาน โดยการเลือกซื้อตู้เชื่อมไฟฟ้าที่มีคุณภาพแบบรุ่นประหยัดไฟจะทำให้ผู้ใช้งานได้เห็นความแตกต่างของค่าไฟที่ลดลง ด้วยระบบการจ่ายกระแสไฟที่คงที่และมีคุณภาพนั่นเอง
4.เลือกตู้เชื่อมที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน
เชื่อว่าการเลือกซื้อตู้เชื่อมไฟฟ้าที่ไม่ได้คุณภาพของช่างหลายๆ คนอาจจะเคยประสบกับปัญหาเกี่ยวกับการถูกไฟดูดหรือไฟช็อตมาบ้าง หรือบางทีก็เจอแบบที่เชื่อมไปแล้วควันเยอะเกินไปทำให้ก่อเกิดโรคภัยต่างๆ ตามมา รวมทั้งประกายไฟที่กระเด็นถูกสายไฟทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร แต่หากมีการศึกษาการใช้งานของตู้เชื่อมไฟฟ้าแต่ละรุ่นและมีการรับรองต่างๆ ทั้งประกันความปลอดภัยและคุณภาพการใช้งาน ก็จะทำให้การเลือกซื้อตู้เชื่อมไฟฟ้าได้รับความปลอดภัยจากอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน ที่สำคัญตัวช่างเองก็ต้องมีอุปกรณ์สำหรับป้องกันตัวเองอย่างหน้ากากหรือแว่นด้วยเช่นกัน
5.เลือกตู้เชื่อมที่ง่ายต่อการซ่อมบำรุง
ไม่ว่าจะทำการเลือกซื้อตู้เชื่อมไฟฟ้าแบรนด์ใดก็ตาม นอกจากการเลือกตู้เชื่อมที่มีคุณภาพและมาตรฐานของการใช้งานล้ว อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ลองดูด้วยว่าตู้เชื่อมที่ซื้อไปมีศูนย์บริการแบบครบวงจรหรือไม่ เพราะจะทำให้สะดวกและง่ายต่อการหาอุปกรณ์หรืออะไหล่หากมีการซ่อมบำรุง ซึ่งจะส่งผลต่อการเชื่อมงานที่เป็นไปอย่างต่อเนื่องแบบไม่ติดขัดใดๆ โดยเฉพาะหากมีการใช้งานอยู่เป็นประจำก็อาจจะมีความเสื่อมโทรมแน่นอน
ประโยชน์ดีๆ ของการเลือกซื้อตู้เชื่อมไฟฟ้าที่จะทำให้คุณตัดสินใจให้ดีก่อนที่จะเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ไม่ว่ายี่ห้อไหนก็มีประโยชน์ของการใช้งานทั้งนั้นเพียงแต่มาตรฐานของการใช้งานอาจจะต่างกัน เพราะฉะนั้นคุณจึงทำการเลือกซื้อตู้เชื่อมไฟฟ้าให้ดีมีคุณภาพที่สุด เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด
ตู้เชื่อมไฟฟ้า foxus (สีแดง) รุ่น continental 215 GT
ราคา 3800 บาท
โทร 0952842611
ID Line : 0952842611
http://line.me/ti/p/~0952842611http://www.foxususa.comความเห็นของผู้ใช้งานจริง
http://www.foxususa.com/2019/08/foxus...
☎ Tel : 0952842611
ราคาโปรโมชั่น 3,800 บาท (ราคาปกติ 5,500 บาท) จัดส่งเก็บเงินปลายทาง..ส่งฟรี ภายใน 1-3 วัน
https://youtu.be/3RPakNjZrbs
