แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - PostDD

หน้า: 1 ... 216 217 [218] 219 220 ... 249
3907
10 อันดับยอดขาย บริษัท ประกันวินาศภัย 2021 เป็นการรวบรวม ยอดขายของบริษัทประกันวินาศภัย ในด้านต่างๆ ในปี 2564 โดย ทีมงาน ตัวแทนสัมพันธ์วิริยะประกันภัยวันที 2 ตุลาคม 2564 คุณดลเดช สัจจวีระกุล  รองกรรมการผู้จัดการ ออกแถลงข่าวถึง ภาพรวม ของ อุตสาหกรรม ประกันวินาศภัย ในปี 2021 โดยข้อมูลภาพรวม เหล่านี้เป็น ตัวเลข 8 เดือนแรก ของปี 2564 (มกราคม ถึง สิงหาคม 2564)

รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก

10 อันดับ บริษัทประกันภัย ที่มี ยอดขายรวมทุกประเภทการประกันวินาศภัย ดีที่สุด ในปี 2021เป็นข้อมูลการรวมประกันวินาศประกันภัย ทุกประเภท 1วิริยะประกันภัย 21,767 ล้านบาท 14.3%2ทิพยประกันภัย 14,842 ล้านบาท 9.8%3กรุงเทพประกันภัย13,261 ล้านบาท 8.7%4คุ้มภัยโตเกียวมารีน ประกันภัย10,453 ล้านบาท 6.9%5เมืองไทย ประกันภัย9,300 ล้านบาท 6.1%6อาคเนย์ประกันภัย 6,893 ล้านบาท 4.5%7สินมั่นคงประกันภัย 6,351 ล้านบาท 4.2%8ชัปสามัคคีประกันภัย5,907 ล้านบาท 3.9%9ธนชาติประกันภัย4,763 ล้านบาท 3.1%10แอลเอ็มจี ประกันภัย4,755 ล้านบาท 3.1%

3908
“สนั่น” ประธานหอการค้า ยื่น “สมุดปกขาว” ถึงมือนายก แนะรัฐผลักดันข้อเสนอขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 5 ภาค ขจัดอุปสรรคการเข้าถึงแหล่งทุน และเร่งแก้กฎระเบียบให้เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศ ไดเป็นผู้แทนยื่น “สมุดปกขาว” ให้กับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รวบรวมรายละเอียดและข้อเสนอแนะ จากประชุมสัมมนาระดมความคิดเห็นหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 39

หอการค้าฯ ยื่นสมุดปกขาว 
หอการค้าฯ ยื่นสมุดปกขาว

โดยระบุว่า คณะกรรมการหอการค้าไทย ได้กำหนดนโยบาย Connect the Dots ในวาระประจำปี 2564-2565 โดยมุ่งเน้นให้หอการค้าไทย เป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน เพื่อยกระดับเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการขับเคลื่อนผ่าน 3 Value Chain ได้แก่ 1) การค้าและ การลงทุน 2) เกษตรและอาหาร และ 3) การท่องเที่ยวและบริการ

 

พร้อมยึดแนวทางที่หอการค้าไทยเคยดำเนินงานมาเป็นแนวทางการขับเคลื่อนภารกิจ “การฟื้นฟูเศรษฐกิจภายใน 99 วันแรก” เพื่อเร่งสร้างความเชื่อมั่น แก้ปัญหาระยะสั้น ทั้งการจ้างงานและปัญหาผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs และยกระดับเศรษฐกิจฐานรากไปสู่การฟื้นตัวอย่างยั่งยืน

 

ทั้งนี้ หอการค้าไทยได้จัดลำดับความสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายใต้ทรัพยากรที่จำกัดให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ภายใน 99 วัน โดยมี 3 ภารกิจสำคัญ คือ 1.เร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชน เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศ  2.เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ด้วย Digital Transformation เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และ 3.แก้ไขกฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการดำเนินธุรกิจได้สะดวก



สำหรับการประชุมหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 39 ได้ดำเนินการ ภายใต้กรอบสัมมนา “Connect The Dots Design The Future” โดยได้รวบรวมเป็นแนวทางและออกแบบภาพอนาคตของประเทศไทยให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน แบ่งออกเป็น 3 เรื่อง ได้แก่

 

เรื่องที่ 1  “CONNECT หอการค้า 5 ภาค เดินหน้าฝ่าวิกฤตเพื่อพลิกเศรษฐกิจไทย” โดยได้กำหนดยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ 5 ภาค และ Strategic Move ให้มีบริบทสอดคล้องกับร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 และแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580)

 

โดยสามารถกำหนดโครงการที่สำคัญเร่งด่วนต่อการยกระดับเศรษฐกิจภูมิภาค ดังนี้

ภาคใต้ ได้แก่ โครงการ ANDAMAN ECONOMIC TOURLISIM (เขตเศรษฐกิจเพื่อการท่องเที่ยวอันดามัน) โครงการ ANDAMAN GO GREEN การสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 (พ.ศ. 2568) การสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialized Expo 2028 ณ จังหวัดภูเก็ต

           

ภาคตะวันออก ได้แก่ โครงการพัฒนา SMEs ให้สามารถขายสินค้าไปยังต่างประเทศผ่านช่องทาง Cross Border e-Commerce (CBEC) โครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก (Eastern Fruit Corridor :EFC) และพัฒนาโครงการต่อเนื่องกับโครงการมหานครผลไม้ การเร่งรัดการก่อสร้างถนนเฉลิมบูรพาชลทิต ระยะที่ 2 การเพิ่มประสิทธิภาพระบบการผลิตสินค้าเกษตร โดยการพัฒนาระบบการผลิตสินค้าเกษตรที่มีประสิทธิภาพ หรือการทำเกษตรแม่นยำ (Precision Farming) การสร้างแต้มต่อให้กับธุรกิจ SMEs ในการเข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ โครงการสร้างสรรค์ศิลปะร่วมสมัยเพื่อต่อยอดทุนทางวัฒนธรรม (จ.ระยอง)

 


ภาคกลาง ได้แก่ การยกระดับเกษตรแนวใหม่มูลค่าสูงทั้งห่วงโซ่อุปทาน (Value Chain) โดยการสร้างผู้ประกอบการเกษตรรุ่นใหม่ (ปวช - ป ตรี , Short Course) / จัดตั้ง Value Creation Trader และ ขยายช่องทางการตลาดออนไลน์และออฟไลน์

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเปิดให้บริการรถไฟจีน - สปป.ลาว

 

ภาคเหนือ การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของชุมชน และ SMEs (ยกระดับมาตรฐาน) และการดำเนินการโครงการนำร่องเปิดด่านการค้าชายแดนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ ไทย-สปป.ลาว-เวียดนาม-จีน / ไทย-จีน และ ไทย-อินเดีย

 

ทั้งนี้ จากการเสวนาฯ ได้เปิดโอกาสให้สมาชิกได้ร่วมแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นสำคัญในการพัฒนาประเทศ โดย 3 อันดับแรกที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศมากที่สุด ได้แก่ 1) การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน 2) การปรับสมดุลและการพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ และ 3) การสร้างความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งหอการค้าไทย และเครือข่าย จะนำประเด็นที่ได้ไปขับเคลื่อน connect กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

 

เรื่องที่ 2  เรื่อง “CONNECT SMEs ไทย ด้วย Digital Transformation” โดยหอการค้าไทย ได้จัดเสวนา เรื่อง “CONNECT SMEs ไทย ด้วย Digital Transformation” โดยมี สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ร่วมเสวนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นสมาชิกหอการค้าทั่วประเทศ เพื่อนำมาขับเคลื่อนและยกระดับผู้ประกอบการ SMEs ไทยด้วยเครื่องมือ Digital Transformation

 

โดยปัจจุบันประเทศไทย มีจำนวน SMEs จำนวน 3,134,442 ราย สร้างการจ้างงาน 12 ล้านคน และสร้าง GDP คิดเป็น 5.38 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 34.2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศทั้งหมด อย่างไรก็ดี SMEs ของไทยยังประสบปัญหาขาดศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันหลายด้าน อาทิ ขาดเครื่องมือเทคโนโลยีดิจิทัล หนี้สินมาก ผลิตภาพต่ำ มีการส่งออกน้อย และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้

 

ทั้งนี้ จากการเสวนามีข้อเสนอต่อการส่งเสริมและสนับสนุน SMEs ด้วย Digital Transformation ดังนี้  

1) ขับเคลื่อน Thailand Trade Platform ในการช่วยเหลือ SMEs โดยเน้นการเชื่อมโยงข้อมูลและใช้เทคโนโลยี ให้สามารถเข้าถึงบริการภาครัฐได้อย่างทั่วถึง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม และสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

2) ปรับกฎหมายและระเบียบการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สามารถดูแลงบบูรณาการของ SMEs เพื่อช่วยขับเคลื่อนแผนส่งเสริม SMEs ให้มีประสิทธิภาพ

 

เรื่องที่ 3  “โอกาสและทิศทางอนาคตประเทศไทยจากมุมมองของคนรุ่นใหม่” หอการค้าไทย ร่วมกับสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และเครือข่าย จัดเวทีทิศทางอนาคตประเทศไทย ภายใต้หัวข้อ “โอกาสและทิศทางอนาคตประเทศไทยจากมุมมองของคนรุ่นใหม่” เน้นการเชื่อมโยงกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) และใช้แนวทาง Design Thinking โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ช่วยทำหน้าที่ระดมความเห็นจากคนรุ่นใหม่ ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ ซึ่งได้ข้อเสนอแนะที่เกี่ยวข้อง 5 ด้าน ดังนี้

 

1) ด้าน Product & Service for the Future การพัฒนาสินค้าและบริการ เน้นการเพิ่มมูลค่า การพัฒนาผู้ประกอบการของประเทศ และการออกแบบพัฒนา Digital Platform   เพื่ออำนวยความสะดวกในอนาคต

2) ด้าน People for the Future การมองทรัพยากรมนุษย์ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ควรจะต้องมีการเตรียมวางแผนการพัฒนา ทั้งในเรื่องการศึกษา การพัฒนาความสามารถ Reskill, Upskill รวมถึง Learn Unlearn Relearn การพัฒนาบุคลากรในองค์กร การส่งเสริมให้มีการเรียนรู้ตลอดชีวีต (Life-Long Learning) รวมถึงการพัฒนามนุษย์ถือเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศ

3) ด้านการ Connect to the World เพราะการเชื่อมโลกเป็นสิ่งที่จำเป็นในการพัฒนาประเทศให้เป็นที่รู้จักได้มากขึ้น ผ่านสิ่งที่เรามี เช่น การท่องเที่ยว ผลิตภัณฑ์ บริการ วัฒนธรรม รวมทั้ง การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีโอกาสเติบโตและก้าวเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ

4) ด้าน Social Issues in the Future จะต้องเร่งแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม การกระจายรายได้ ความยากจนข้ามรุ่น และความคุ้มครองทางสังคม

5) ด้าน Our Planet in the Future การพัฒนาเศรษฐกิจ ความเจริญปัจจุบัน จะต้องมีการพัฒนาและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป

 

พร้อมทั้ง ได้ดำเนินการจัดการประกวด YEC Pitching : YEC’s Business SPIN UP ซึ่งเป็นการจัดการประกวด YEC Pitching อย่างต่อเนื่องเป็น ปีที่ 6 โดยเป็นความร่วมมือระหว่างคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ YEC หอการค้าไทย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้นำเสนอไอเดียธุรกิจเพื่อการเปลี่ยนแปลง โดยจะเป็นไอเดียธุรกิจใหม่ (NEW IDEA) หรือต่อยอดจากธุรกิจหลัก (SPIN-OFF) เพื่อเปลี่ยนผ่านธุรกิจของตนเองและช่วยสนับสนุนและผลักดันให้ผู้ประกอบการสร้างแนวคิดใหม่ในการต่อยอดธุรกิจของตนเอง ในสภาวะวิกฤตโควิด-19 โดยปีนี้มี YEC จากทั่วประเทศ สมัครเข้าร่วมประกวด จำนวน 46 โครงการ และมีผู้ที่ได้รับรางวัล ได้แก่

รางวัลชนะเลิศ คือ โครงการ Cen Solution : YEC หอการค้าจังหวัดนนทบุรี

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 โครงการ Up Square TECH Platform : YEC หอการค้าจังหวัดสงขลา

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 โครงการ One Move ERP : YEC กรุงเทพฯ

รางวัล Popular Vote โครงการ สบายดีลำปาง : YEC หอการค้าจังหวัดลำปาง

 

ทั้งหมดนี้ คือ สรุปผลประชุมการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 39 Connect The Dots Design The Future : รวมพลัง สร้างสรรค์ อนาคต ซึ่งพวกเราหอการค้าไทย มุ่งหวังจะทำงานเชื่อมโยงกับรัฐบาล ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในทุกมิติ พร้อมทั้ง ร่วมกันออกแบบอนาคตเศรษฐกิจประเทศไทย ให้ไปสู่เป้าหมายร่วมกันในอนาคต ตามแนวคิด “Connect The Dots” เพื่อให้ประเทศไทยกลับมาฟื้นตัว เปิดประเทศได้อย่างรวดเร็ว และสร้างอนาคตประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป 

3910
ดูดวงรายวันประจำวันจันทร์ ที่ 22 พฤศจิกายน 2564 สำหรับท่านที่เกิดวันพุธ

การงาน          สร้างสรรค์ผลงานจนมีโอกาสได้เลื่อนตำแหน่ง

การเงิน          เข้าสู่ช่วงการประหยัด

ความรัก         การสนทนากับคนรักช่วงนี้จะน้อยลง

เคล็ดลับเสริมดวงประจำวันนี้

บูชาพระประจำวันเกิด

อัญมณีมงคล    วานาดิไนท์ บนแบไรท์

สีมงคล             สีเทา

เลขนำโชค        0, 2, 5, 7, 8

ฤกษ์ดีประจำสัปดาห์มีผลตั้งแต่วันที่  22 - 28 พฤศจิกายน 2564

ฤกษ์ดีในการทำบุญขึ้นบ้านใหม่เหมาะในช่วงเวลา                9:11  -  11:45

ฤกษ์ดีในการซื้อรถยนต์คันใหม่เหมาะในช่วงเวลา                 9:59  - 14:59

ฤกษ์ดีในการติดต่อเจรจางานต่างๆเหมาะในช่วงเวลา            9:09  -  11:19

ฤกษ์ดีในการเปิดร้านเริ่มธุรกิจใหม่เหมาะในช่วงเวลา             8:39  -  12:29

ฤกษ์ดีในการเดินทางทำบุญเหมาะในช่วงเวลา                     8:29  -  16:09

3911
ผอ.สำนักงบ รับรายได้ประเทศลด ขาดดุลงบสูง ส่งผลคาดเดางบฯรายจ่ายปี 66 ยาก ย้ำการจัดทำแผนใช้งบบูรณาการอีอีซี ปี 65 ยังต้องเข้มข้น โดยเฉพาะการใช้เงินนอกงบประมาณ

นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ  บรรยายพิเศษ “การจัดทำงบบูรณาการจากประสบการณ์ อีอีซี”  เปิดประสบการณ์งบบูรณาการ อีอีซี ปัจจัยความสำเร็จของแผนงาน บูรณาการเพื่อพัฒนาประเทศ  ในงาน เสวนา  “เปิดความสำเร็จการเป็นต้นแบบแผนงานบูรณาการ สู่การพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืน” ที่จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) และเนชั่นทีวี โดยกล่าวว่า ขณะนี้รายได้ของประเทศลดลง การขาดดุลสูง ทำให้ยังไม่สามารถคาดเดากรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 ได้ แต่ในปีงบประมาณรายจ่าย 2565 งบประมาณได้ถูกปรับลดลงเหลือ 3.1 ล้านล้านบาท หายไปจากปีงบฯ 64 ที่มีงบประมาณที่ 3.28 ล้านล้านบาท หรือหายไปประมาณ 1.8 แสนล้านบาท

 

ดังนั้นในการจัดทำงบบูรณาการพัฒนาพื้นที่ EEC ในปีงบประมาณ 2566 จะยังคงมีความเข้มข้นมากเหมือนเดิม โดยเฉพาะการใช้เงินนอกงบประมาณ ซึ่งจะต้องเสนอรายละเอียดคำขอเบื้องต้นงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 แผนงานบุคลากรภาครัฐ มายังสำนักงบประมาณ ภายในวันที่ 24 ธันวาคม 2564

โดยหน่วยรับงบประมาณที่ขอรับการจัดสรรงบประมาณ จะต้องก่อหนี้ผูกพันงบประมาณมากกว่าหนึ่งปีงบประมาณสำหรับรายการที่มีวงเงินมากกว่า 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติภายในวันที่ 11 มกราคม 2565 ซึ่งหากงบที่ขอจัดสรรมีวงเงินตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป ให้ทำการประเมินความเสี่ยงการทุจริต ตามแผนบริหารความเสี่ยงการทุจริตด้วย รวมทั้งต้องมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ประกอบเอกสารที่ยื่นของบมาด้วย

 

ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวอีกว่า นับตั้งแต่ ปี 2561 เป็นต้นมา การจัดทำงบบูรณาการ EEC ทำให้การจัดทำงบประมาณและแผนในการพัฒนาพื้นที่ EEC มีความชัดเจนมากขึ้น ลดความซ้ำซ้อนของหน่วยงานและการใช้งบประมาณ และยังตอบโจทย์แผนเป้าหมาย ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ และที่สำคัญสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ด้านขีดความสามารถทางการแข่งขัน  และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 13

3912
22 พ.ย.2564- นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงกรณีนายธนพร สมศรี เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ยื่นหนังสือคัดค้านเกณฑ์การประเมินเลขาฯ สกสค.ที่ไม่เป็นธรรม ว่า เรื่องเกณฑ์ประเมินดังกล่าวเป็นไปตามตัวชี้วัดและตามแผนที่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการ สกสค. โดยเกณฑ์ที่ใช้ประเมินนั้นถือเป็นเกณฑ์การประเมินทั่วไป ซึ่งในที่ประชุมคณะกรรมการ สกสค.ก็ได้มีการหารือกันอย่างรอบด้านและกำหนดเกณฑ์การประเมินไว้ชัดเจนแล้ว ว่า จะต้องเป็นการประเมินผลงานจากที่ผ่านมาไม่ใช่ผลงานในปัจจุบัน อีกทั้งตนย้ำกับคณะกรรมการประเมินฯ ตลอดว่าขอให้การประเมินเป็นไปอย่างถูกต้องและเป็นธรรม

ด้านนายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร ประธานคณะกรรมการประเมินผลการปฏิบัติงานเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการประเมินผลงานเลขาฯ สกสค. เนื่องจากรับทราบ ว่า มีการร้องเรียนถึงหลักเกณฑ์การประเมินดังกล่าวว่าไม่มีความเป็นธรรมเกิดขึ้น ดังนั้นขณะนี้จึงต้องรอให้คณะกรรมการ สกสค.ที่มี รมว.ศธ. เป็นประธาน ว่า จะดำเนินการหรือข้อสั่งการเรื่องนี้อย่างไรต่อไป เพราะตามหลักปฏิบัติแล้วเมื่อคณะกรรมการประเมินแจ้งเกณฑ์การประเมินให้ผู้ถูกประเมินรับทราบจะต้องมีการตอบกลับข้อมูลมา แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการตอบกลับ ซึ่งตนก็เพิ่งจะรับทราบว่ามีการร้องเกณฑ์ประเมินผลงานเกิดขึ้น

3913
หุ้นไทยภาคเช้าปิดลบ 4.52 จุด รับแรงขายกลุ่มแบงก์ จากก่อนหน้านี้ราคาปรับขึ้นมากพอสมควร และงวลเฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด หลังเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น ท่ามกลางแรงซื้อจากคาดการณ์จีดีพีไทยและงบบจ. ผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 3 ปี 64 ไปแล้ว

ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 เคลื่อนไหวในแดนลบ รับแรงขายกลุ่มธนาคารพาณิชย์กดดัน หลังจากก่อนหน้านี้รทคาปรับขึ้นไปมากพอสมควร อีกทั้งมีความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าคาด จากอัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีแรงหนุนคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทย รวมถึงผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 3 ปี 2564 ไปแล้ว และคาดจะฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2564 เป็นต้นไป ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,646.50 จุด ลดลง 4.52 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 0.27% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 60,811.40 ล้านบาทขณะที่ ดัชนีสูงสุดอยู่ที่ 1,656.27 จุด และต่ำสุดอยู่ที่ 1,641.52 จุด



หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

SCB ปิดที่ 129.00 บาท ลดลง 5.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 7,506.10 ล้านบาท

KBANK ปิดที่ 146.50 บาท ลดลง 2.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,428.06 ล้านบาท

EA ปิดที่ 77.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,829.69 ล้านบาท

TRUE ปิดที่ 4.34 บาท ลดลง 0.04 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,291.48 ล้านบาท

BBL ปิดที่ 125.50 บาท ลดลง 2.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,710.96 ล้านบาท

 

หลักทรัพย์ที่กดดัชนีมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่

SCB ปิดที่ 129.00 บาท ลดลง 5.00 บาท มีผลต่อดัชนี -1.4467 จุด

KBANK ปิดที่ 146.50 บาท ลดลง 2.50 บาท มีผลต่อดัชนี -0.5047 จุด

BAY ปิดที่ 35.50 บาท ลดลง 0.75 บาท มีผลต่อดัชนี -0.4701 จุด

HMPRO ปิดที่ 14.70 บาท ลดลง 0.40 บาท มีผลต่อดัชนี -0.4482 จุด

DELTA ปิดที่ 428.00 บาท ลดลง 4.00 บาท มีผลต่อดัชนี -0.4251 จุด

3914


บอร์ดทรู ไฟเขียวควบรวบ ดีแทค ตั้งบริษัทร่วมทุน พร้อมทำคำเสนอซื้อหุ้น โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไข จัดสรรหุ้นในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 2.40072 หุ้นในบริษัทใหม่ และ 1 หุ้นเดิมในดีแทคต่อ 24.53775 หุ้นในบริษัทใหม่ พร้อมรับคำชื้อ ชิทริน เสนอซื้อทรู 5.09 บ/หุ้น - ดีแทค 47.76 บ./หุ้น

นางสาวยุภา วงศ์เจริญ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ TRUE แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเกี่ยวกับการศึกษาความเป็นไปได้ในการควบบริษัทระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE  และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC รับทราบความประสงค์ในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทฯ โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไขก่อนการทำคำเสนอซื้อ (Conditional Voluntary Tender Offer)

 

บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน)  ขอแจ้งให้ทราบว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 8/2564 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2564 ได้มีมติที่สำคัญ ดังต่อไปนี้

 

1 .อนุมัติให้บริษัทฯ ทำการศึกษาความเป็นไปได้ และ ดำเนินการตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการควบบริษัทระหว่างบริษัทฯ และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ( DTAC) ภายใต้บทบัญญัติของพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 (รวมทั้งที่ได้แก้ไขเพิ่มเติม) ('พ.ร.บ. บริษัทมหาชน') ('การควบบริษัท') และ อนุมัติให้บริษัทฯ เข้าทำบันทึกความตกลงเบื้องตันแบบไม่มีผลผูกพัน (Non-Binding Memorandum of Understanding) (MOU) กับ DTAC เพื่อบันทึกความประสงค์ของ
คู่สัญญาในการพิจารณาและศึกษาการรวมธุรกิจระหว่างบริษัทฯ และ DTAC เข้าด้วยกันด้วยวิธีการควบบริษัท(Amalgamation) รวมถึงกำหนดเงื่อนไขบังคับก่อนของการควบบริษัทซึ่งรวมถึง (แต่ไม่จำกัดเพียง)

 

(1 ) บริษัทฯ และ DTAC ทำการตรวจสอบกิจการ (Due Diligence) ของอีกฝ่ายหนึ่งแล้วเสร็จ เป็นที่พอใจ
(2) ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท และ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และ DTACได้พิจารณาและมีมติอนุมัติการควบบริษัท และ
(3) บริษัทฯ และ DTAC สามารถดำเนินการให้เงื่อนไขอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องสำเร็จครบถ้วนตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท และ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และ DTACจะได้พิจารณา 



กำหนดต่อไปในการพิจารณาอนุมัติการควบบริษัทและในการเข้าทำสัญญาควบรวมกิจการสำหรับการควบบริษัทระหว่างบริษัทฯ และ DTAC

 

บอร์ดทรู- ดีแทค ไฟเขียว'ควบรวมบริษัท' ตั้งบริษัทร่วมทุนยื่นซื้อหลักทรัพย์
บอร์ดทรู- ดีแทค ไฟเขียว'ควบรวมบริษัท' ตั้งบริษัทร่วมทุนยื่นซื้อหลักทรัพย์

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้พิจารณากำหนดอัตราการจัดสรรหุ้น (Swap Ratio) สำหรับการจัดสรรหุ้นใน บริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบบริษัท ('บริษัทใหม่' ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของ dtac ในอัตราส่วนดังนี้

1 หุ้นเดิมในบริษัทฯ ต่อ 2.40072 หุ้นในบริษัทใหม่ และ
1 หุ้นเดิมใน DTAC ต่อ 24.53775 หุ้นในบริษัทใหม่


อัตราการจัดสรรหุ้นข้างต้นกำหนดขึ้นจากสมมุติฐานว่า ภายหลังการควบบริษัท บริษัทใหม่จะมีหุ้น ที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมด จำนวน 1 38,208,403, 204 หุ้น โดยมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท

อย่างไรก็ตาม จำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดและมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นของบริษัทใหม่ภายหลังการควบบริษัทจะมีการเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วมของบริษัทฯ และ ( DTAC พิจารณาอนุมัติ ตามขั้นตอนของการควบบริษัทต่อไป

 

การควบบริษัทและการจัดสรรหุ้นในบริษัทใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และ ผู้ถือหุ้นของ DTAC ตามอัตราการจัดสรรหุ้นดังกล่าวข้างตัน จะเกิดขึ้นต่อเมื่อบริษัทฯ และ DTAC พิจารณาที่จะดำเนินการควบบริษัทต่อไปโดยได้รับการอนุมัติที่เกี่ยวข้องจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท และ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และ DTAC ตลอดจนสามารถดำเนินการให้เงื่อนไขและขั้นตอนตามกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการควบบริษัทตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.บริษัทมหาชน กฎหมาย และ กฎเกณฑ์อื่นๆ สำเร็จลงอย่างครบถ้วน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงกรได้รับอนุมัติและผ่อนผันจากหน่วยงานราชการ และหน่วยงานกำกับดูแลตามที่กฎหมายกำหนด หรือเพื่อวัตถุประสงค์ในการรักษาไว้ซึ่งสิทธิและผลประโยชน์ของบริษัทฯ และ การดำเนินการขออนุญาตในการนำหุ้นของบริษัทใหม่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ('ตลาดหลักทรัพย์ฯ') ได้สำเร็จ


 


2. รับทราบจากบริษัท ซิทริน โกล. จำกัด ('Citrine Global'หรือ 'ผู้ทำคำเสนอซื้อ') ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน (Joint Venture Company) ระหว่าง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และ Telenor Asia ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของ DTAC ว่า Citrine Global มีความประสงค์ ที่จะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทฯ โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไขก่อนการทำคำเสนอซื้อในราคาเสนอซื้อหุ้นละ 5.09 บาท ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ. 12/2554 เรื่อง หลักกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ (รวมทั้งที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม) ('การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจ' ในการนี้ ผู้ทำคำเสนอซื้ออาจดำเนินการจัดตั้งบริษัทย่อยที่ผู้ทำคำเสนอซื้อเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดเพื่อให้บริษัทดังกล่าวเข้าทำคำเสนอซื้อร่วมกัน ในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจด้วย อย่างไรก็ดี ผู้ทำคำเสนอชื่อสงวนสิทธิในการปรับลด ราคาเสนอซื้อในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจดังกล่าวในกรณีที่มีเหตุการณ์หรือ การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้เกิดขึ้น


(1) กรณีที่มีเหตุการณ์หรือการกระทำใด ๆ อันเป็นเหตุหรืออาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อฐานะหรือทรัพย์สินของบริษัทฯ

(2) กรณีที่บริษัทฯ มีการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น

(3) กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัทฯ อันเป็นผลให้จำนวนหุ้นของบริษัทฯเพิ่มขึ้นหรือลดลง

(4 ) กรณีที่มีการให้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนหรือใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้แก่ผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ถืออยู่เดิม หรือ

(5 )  กรณีอื่นใดภายใต้หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ซึ่งอนุญาตให้ปรับลดราคาเสนอซื้อได้
การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ที่ไม่ประสงค์จะถือหุ้นในบริษัทใหม่สามารถขายหุ้นของตนในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจได้

 

การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจดังกล่าว จะเกิดขึ้นต่อเมื่อเงื่อนไขก่อนการทำคำเสนอซื้อดังต่อไปนี้สำเร็จครบถ้วน (หรือได้รับการผ่อนผันโดยผู้ทำคำเสนอซื้อ) ('เงื่อนไขก่อนการทำคำเสนอซื้อ')

(1 ) ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท และ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ DTAC มีมติอนุมัติการควบบริษัท

(2) ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท และ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ มีมติอนุมัติการควบบริษัท

(3) DTACและ บริษัทฯ ได้เข้าทำสัญญาควบรวมกิจการสำหรับการควบบริษัท

(4 )บริษัทฯ และ DTAC ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับเอกสาร แผน นโยบาย และการแต่งตั้งบุคลากรต่าง ๆ ของบริษัทใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการควบบริษัท

(5 ) การได้รับอนุมัติ ความยินยอม การผ่อนผัน การยื่นเอกสาร และ การอนุญาตที่จำเป็นสำหรับการควบบริษัทจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องสำเร็จครบถ้วน และ มีข้อกำหนดและเงื่อนไขที่บริษัทฯ และ DTAC ยอมรับได้ และ ไม่ได้มีการเพิกถอนการยื่นเอกสาร การอนุมัติความยิมยอม การผ่อนผัน และ การอนุญาตดังกล่าว

(6) การได้รับความยินยอมและการผ่อนผันที่จำเป็นสำหรับการควบบริษัทจากบุคคลภายนอกสำเร็จครบถ้วน และ ไม่ได้มีการเพิกถอนความยินยอมและการผ่อนผันดังกล่าว และ/หรือได้มีการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจนเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งส่งผลให้ไม่มีความจำเป็นต้องได้รับความยินยอมหรือการผ่อนผันดังกล่าวอีก

(7)การไม่มีเจ้าหนี้คัดค้านการควบบริษัทตามมาตรา 147 แห่ง พ.ร.บ.บริษัทมหาชน หรือในกรณีที่มีการคัดค้าน ได้มีการดำเนินการชำระหนี้หรือให้ประกันเพื่อหนี้ดังกล่าวนั้นแล้ว และ

(8) นับแต่วันที่ประกาศเจตนาในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจ จนถึงวันที่เงื่อนไขก่อนการทำคำเสนอซื้ออื่น ๆ ข้างตันทั้งหมดได้สำเร็จลง ไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือเหตุการณ์ใดๆอันเป็นเหตุหรืออาจคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผลว่าจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อฐานะหรือทรัพย์สินของบริษัทฯ หรือ DTAC โดยการเปลี่ยนแปลงหรือเหตุการณ์ดังกล่าวมิได้เกิดจากการกระทำของผู้ทำคำเสนอซื้อ หรือการกระทำที่ผู้ทำคำเสนอซื้อต้องรับผิดชอบ


ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าประการใดเกี่ยวกับการควบบริษัทระหว่างบริษัทฯ และ dtac และการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจ ตามที่ได้กล่าวข้างต้น บริษัทฯ จะแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯทราบต่อไป

 

ด้านบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC แจ้งตลท. โดยมีสาระสำคัญ  รับทราบจาก Telenor Asia Pte Ltd ('Telenor Asia') ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ถึงความประสงค์ของ
Telenor Asia ในการสนับสนุนการที่บริษัทฯ พิจารณาดำเนินก ารศึกษาความเป็นไปได้และดำเนินการตา ขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการควบบริษัท

 

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทรับทราบจาก บริษัท ซิทริน โกล. จำกัด ('Citrine Global' หรือ 'ผู้ทำคำเสนอซื้อ' ซึ่งเป็นบริษัทร่วม
ทุน (Joint Venture Company) ระหว่าง Telenor Asia และ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของ True ว่า Citrine Global มีความประสงค์ที่จะทำคำเสนอซื้อหลักรัพย์ทั้งหมดของบริษัทฯ โดยสมัครใจแบบ
มีเงื่อนไขก่อนการทำคำเสนอซื้อ ในราคาเสนอซื้อหุ้นละ 47.76 บาท ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ. 12/2554 เรื่อง หลักกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ (รวมทั้งที่ได้
มีการแก้ไขเพิ่มเติม) ('การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจ' )

3915
หลังเกมพ่าย วัตฟอร์ด ย่อยยับ 1-4 ทำให้สถานการณ์ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ถูกซ้ำเติมยิ่งขึ้นไปอีก โดยสื่ออังกฤษ ได้เปิดเผยภาพของกุนซือนอร์วีเจี้ยน ระหว่างขับรถกลับบ้าน
    ฟางเส้นสุดท้ายระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ โซลชา ในฐานะผู้จัดการทีมกำลังจะขาดสะบั้น และทันทีที่ปราชัยแบบน่าอดสูที่ วิคาเรจ โร้ด รังเหย้าของ "แตนอาละวาด" บอร์ดบริหาร "ปีศาจแดง" นัดถกเรื่องอนาคตกับตัวผู้จัดการทีมเรียบร้อย 

    ซึ่งตามรายงานจาก เดอะ ซัน เผยว่า เหล่าบรรดาผู้เล่นได้รับรู้ได้ถึงว่าสโมสรจะปลดเจ้านายของพวกเขาเร็ว ๆ นี้ และสื่อเจ้าเดิมยังเผยภาพระหว่างที่ โซลชา กำลังขับรถกลับบ้าน ซึ่งใบหน้าของเจ้าตัวมัวหมอง เหมือนน้ำตานอง


    ทั้งนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าชัยในลีกได้แค่นัดเดียวจาก 7 เกมหลังสุด โดยมีแต้มห่างจาก เชลซี ทีมจ่าฝูงไปแล้วถึง 12 คะแนน พร้อมด้วยล่าสุด ฟาบริซิโอ โรมาโน่ นักข่าวคนดังโพสต์ข้อความว่า "ปีศาจแดง" เตรียมแถลงปลด โซลชา จากตำแหน่งในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้

3916
.com/มาร์เก็ตนิวส์-19-พฤศจิกา/]MAKRO เตรียมขายหุ้น PO ไม่เกิน 2,270 ล้านหุ้น หลัง ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่งแล้ว พร้อมจัดสรรหุ้นด้วยวิธี Small Lot First ชี้ Free Float ไม่ต่ำกว่า 15% ช่วยเสริมสภาพคล่อง และมีโอกาสถูกเลือกเข้าคำนวณในดัชนีที่สำคัญของตลท.

นางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจสยามแม็คโคร (ธุรกิจค้าส่ง) หรือ MAKRO เปิดเผยว่า ขณะนี้ บริษัทรับโอนกิจการทั้งหมดของกลุ่มโลตัสส์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ MAKRO มีธุรกิจแบบครบวงจร ครอบคลุมธุรกิจค้าส่ง ทั้ง การค้ากับผู้ประกอบการ (B2B), ธุรกิจค้าปลีกกับผู้บริโภคB2C และธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้าในประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย ช่วยเพิ่มโอกาสและศักยภาพการขยายตลาดต่างประเทศ สะท้อนจากผลการดำเนินงานปี 2563 ที่ผ่านมา MAKRO และกลุ่มโลตัสส์ มีรายได้รวมถึง 429,867 ล้านบาท

 

ขณะที่ ผลการดำเนินงานตามข้อมูลทางการเงินรวมเสมือนงวด 9 เดือนแรกปี 2564 รวมงบการเงินในอดีตของกลุ่มโลตัสส์หลังปรับปรุงรายการเกี่ยวกับการซื้อขายธุรกิจเทสโก้และธุรกรรมการจัดหาเงิน รวมถึงปรับปรุงรายการที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมการรับโอนกิจการทั้งหมด การจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้กับบุคคลในวงจำกัด และธุรกรรมการรีไฟแนนซ์ บริษัท มีรายได้รวม 319,563 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ5,344 ล้านบาท


นางสาววีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่าหลังจาก MAKRO ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนและหุ้นสามัญเดิมแก่ประชาชนทั่วไป (PO) จำนวนไม่เกิน 2,270 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท ปัจจุบันสำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งแบบไฟลิ่งเป็นที่เรียบร้อย

 

สำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญครั้งนี้ จะทำให้สามารถเพิ่มสัดส่วนการกระจายการถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free Float) เป็นไม่ต่ำกว่า 15% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ตามเกณฑ์ขั้นต่ำของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ส่งผลดีต่อการเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายหุ้นของบริษัท ทำให้หุ้นของบริษัทเป็นที่สนใจของนักลงทุนสถาบันทั้งในไทยและต่างประเทศ รวมถึงมีโอกาสได้รับเลือกเข้าสู่การคำนวณในดัชนีที่สำคัญต่าง ๆ โดย MAKRO จะนำเงินจากการระดมทุนไปใช้ขยายธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งทั้งในไทยและต่างประเทศ รวมถึงนำไปชำระเงินกู้ยืมสถาบันการเงินบางส่วน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการต่อไป

 

ทั้งนี้ การเสนอขายหุ้นสามัญดังกล่าวแก่ผู้จองซื้อรายย่อย จะจัดสรรหุ้นด้วยวิธี Small Lot First ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ของ บริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด (SETTRADE) โดยจองซื้อผ่านแอปพลิเคชันตัวแทนจำหน่ายหุ้น 3 ราย ได้แก่  SCB Easy, Bangkok Bank Mobile Banking และ TrueMoney Wallet โดยบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที และ MAKRO จะแจ้งช่วงราคาเสนอขายเบื้องต้นให้ทราบ หลังจากได้รับอนุมัติแบบคำขอเสนอขายหลักทรัพย์และแบบไฟลิ่งมีผลใช้บังคับแล้ว


นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บล.บัวหลวง ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า สำหรับผู้ถือหุ้นเดิมของ MAKRO บมจ.ซีพี ออลล์หรือ CPALL และบมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ CPF ที่จะได้รับการจัดสรรหุ้นบางส่วนจากหุ้นสามัญของบริษัทฯ ทั้งหมดที่จะเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป (PO) ได้กำหนดให้วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 เป็นวันที่ขึ้นเครื่องหมาย XB วันแรก ส่วนในวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ จะเป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเดิม(Record Date) 

 

ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นเดิมที่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญ MAKRO สามารถจองซื้อผ่านแอปพลิเคชันตัวแทนรับจองซื้อหุ้น 2 ราย ได้แก่  SCB Easy และ Bangkok Bank Mobile Banking หรือกรณีที่ไม่สะดวกจองซื้อผ่านช่องแอปพลิเคชัน สามารถจองซื้อได้ที่สาขาของธนาคารไทยพาณิชย์และธนาคารกรุงเทพ ทุกสาขาทั่วประเทศไทย โดยสามารถจองซื้อตามสิทธิที่ได้รับจัดสรร หรือเกินกว่าสิทธิที่ได้รับจัดสรร โดยไม่กำหนดจำนวนจองซื้อสูงสุดของการจองซื้อหุ้นเกินกว่าสิทธิที่ได้รับการจัดสรร) หรือน้อยกว่าสิทธิที่ได้รับจัดสรรก็ได้ การจัดสรรหุ้นจะจัดสรร

 

 

ทั้งนี้ ระบบของ SETTRADE จะจัดสรรหุ้นตามสิทธิที่ได้รับแก่ผู้ถือหุ้นเดิมทุกรายที่จองซื้อในรอบแรก โดยสิทธิในการได้รับจัดสรรหุ้นสามัญเกินกว่าสิทธิของผู้ถือหุ้นเดิมทั้ง 3 บริษัทแต่ละราย จะคำนวณจากการนำสิทธิของผู้ถือหุ้นเดิมของทั้ง 3 บริษัทที่แสดงความจำนงจองซื้อเกินกว่าสิทธิที่ยังได้รับการจัดสรรไม่ครบในแต่ละรอบมารวมกัน และจะจัดสรรเพิ่มแก่ผู้จองซื้อเกินกว่าสิทธิของผู้ถือหุ้นเดิมใน MAKRO CPALL และ CPF จนกว่าหุ้นจะหมดหรือครบตามจำนวนที่มีผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิจองซื้อ สำหรับผู้ถือหุ้นเดิมที่มีสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญ ตรวจสอบสิทธิที่ได้รับจัดสรรทาง www.settrade.com ได้ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป

3917

ธนชาตประกันภัย พร้อมดูแลลูกค้าเอเชียประกันภัย ให้ได้รับความคุ้มครองไม่สะดุด สามารถนำเบี้ยที่ได้รับคืนตามส่วนเวลาความคุ้มครองที่เหลืออยู่ มาใช้แทนเงินสดในการซื้อกรมธรรม์ประกันภัยฉบับใหม่กับธนชาตประกันภัยได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

นายพีระพัฒน์ เมฆสิงห์วี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด(มหาชน)เปิดเผยว่า ธนชาตประกันภัยได้เข้าร่วมโครงการ “บรรเทาผลกระทบต่อผู้เอาประกันภัยของบริษัท เอเชียประกันภัย 1950 จำกัด (มหาชน)” เพื่อมอบความช่วยเหลือลูกค้าให้ได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันภัยอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถนำเบี้ยประกันภัยที่ได้รับคืนตามส่วนระยะเวลาความคุ้มครองที่เหลืออยู่ มาใช้แทนเงินสดสำหรับการซื้อกรมธรรม์ประกันภัยฉบับใหม่กับธนชาตประกันภัยได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป 

นายพีระพัฒน์ เมฆสิงห์วี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด(มหาชน)
นายพีระพัฒน์ เมฆสิงห์วี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด(มหาชน)

ทั้งนี้ ลูกค้าเอเชียประกันภัยที่สนใจ สามารถลงทะเบียนสมัครง่ายๆใน 2 ขั้นตอนจาก 2 ช่องทางออนไลน์ที่สะดวกคือ เว็บไซต์ธนชาติประกันภัย หรือ ไลน์ออฟฟิเชียล ธนชาตประกันภัย จากนั้นกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนและแนบภาพถ่ายกรมธรรม์เดิมและเล่มทะเบียนรถยนต์ แล้วรอเจ้าหน้าที่ของบริษัทติดต่อกลับ 


ทั้งนี้เพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าเอเชียประกันภัย ที่กำลังมองหาบริษัทประกันภัยในการคุ้มครองดูแลกรมธรรม์ต่อเนื่อง 

 

"บริษัทฯขอยืนยันว่า เรามีความพร้อมในทุกๆด้าน ทั้งความมั่นคงทางการเงิน เพื่อรองรับกับการเติบโตของธุรกิจ โดยเป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่งทางการเงินสูงเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยไทย ด้วยเงินทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 4,930 ล้านบาทและอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2564 สูงถึง 1,318% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.)กำหนดไว้ที่ 140%"นายพีระพัฒน์กล่าว


อย่างไรก็ตาม จากวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมาเกือบจะ 2 ปี  ได้ส่งผลกระทบในหลายภาคส่วน ซึ่งรวมถึงธุรกิจประกันภัยที่ได้รับผลกระทบไปด้วย ทั้งในส่วนของบริษัทที่รับประกัน และประชาชนผู้เอาประกัน โดยธนชาตประกันภัย พร้อมให้การช่วยเหลือและดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อการมีส่วนร่วมในการบรรเทาผลกระทบดังกล่าวให้เบาบางลงและทุกฝ่ายสามารถผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

3918
ก.ล.ต.แจง สมเด็จคอยน์ หรือ Somdejcoin ไม่เข้าข่ายต้องขออนุญาตจากก.ล.ต. เผยอยู่ระหว่างขอข้อมูลเพิ่มเติมจากวัดป่ามหาญาณ เหตุต้องได้รับอนุญาตจากสำนักพุทธ หรือหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องง เตือนผู้สนใจใช้ความระวังในการตัดสินใจซื้อขาย

หลังจากมีกระแสข่าวสร้างความฮือฮาให้กับวงการพระเครื่อง ด้วยการจัดทำ Somdejcoin หรือ สมเด็จคอยน์ สกุลเงินพระเครื่องรุ่นแรกและเหรียญแรกของโลก ที่สร้างขึ้นจากบล็อกเชน เพื่อแจกให้กับคนไทยทุกคน เพราะต้องการให้คนไทยเข้าถึงเหรีญสมเด็จดิจิทัลเหรียญแรกของโลกที่แสดงออกถึงวัฒนธรรมของชาวไทย 

 

ทำให้เกิดคำถามว่า เหรียญดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานกำกับดูแลอย่างสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)แล้วหรือไม่  ซึ่งวันนี้ก.ล.ต.มีคำตอบดังกล่าว


1.ผู้พัฒนาเหรียญยื่นเรื่องมาที่ก.ล.ต.แล้วคืบหน้าอย่างไร
คำตอบ 
ผู้ประสานงานวัดป่ามหาญาณ มีหนังสือถึงก.ล.ต. 2 ฉบับเพื่อหารือว่า เหรียญดังกล่าวเข้าข่ายเป็นเหรียญสินทรัพย์ดิจิทัล 4 ประเภท ซึ่งห้ามไม่ให้ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนำมาให้บริการซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ตามข้อ 39/1 ของประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ กธ. 19/2561 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล หรือไม่ 

 

อย่างไรก็ดี ก.ล.ต. ได้มีหนังสือขอข้อมูลเพิ่มเติมจากวัดป่ามหาญาณแล้ว เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาให้ความเห็นต่อไป ในประเด็นเกี่ยวกับ


การใช้ชื่อสมเด็จมาเป็นชื่อเหรียญ รวมทั้งมีแผนจะนำเหรียญดังกล่าวไปซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งโดยทั่วไปมีลักษณะเก็งกำไรนั้น การดำเนินการดังกล่าวมีความเหมาะสมที่อาจกระทบต่อพระพุทธศาสนา จึงให้ผู้ออกหารือและนำหนังสือความเห็นจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติหรือหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ มาเพื่อประกอบการพิจารณาว่า เหรียญดังกล่าว ไม่ขัดต่อกฎหมาย
ข้อมูลเกี่ยวกับเหรียญเพื่อให้เกิดความชัดเจนขึ้น เช่น กลไกในการใช้สิทธิประโยชน์ของเหรียญมีลักษณะการดำเนินการอย่างไร อัตราในการนำเหรียญเพื่อใช้ในการแลกสิทธิประโยชน์เป็นอย่างไร รวมทั้งแผนที่จะเพิ่มเติม เปลี่ยนแปลงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ในอนาคต จะมีหรือไม่ และหากมีการเปลี่ยนแปลงจะดำเนินการอย่างไร 
การเปิดให้มีการซื้อขายเหรียญโดยหักภาษีในอัตรา 9% ในทุกครั้งที่มีการแลกเปลี่ยนซื้อขาย ซึ่งแบ่งเป็น 3 ส่วนที่เท่ากันคือ 3% สำหรับนำไปทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและช่วยเหลือสังคม  3% สำหรับการไปเสริมสภาพคล่องในระบบ และอีก 3% สำหรับการนำไปเพิ่มเหรียญให้แก่ผู้ถือเหรียญ
 

การหักภาษีดังกล่าว เพื่อนำไปทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและช่วยเหลือสังคม นำไปเสริมสภาพคล่องในระบบ และนำไปเพิ่มเหรียญให้แก่ผู้ถือเหรียญ อันอาจมีลักษณะเป็นการสร้างแรงจูงใจให้มีการถือครองเหรียญเพื่อการลงทุนมากกว่าการทำบุญ จึงมีข้อสังเกตว่า มีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของเหรียญในการทำนุบำรุงศาสนาและช่วยเหลือสังคม รวมทั้งถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับวัดหรือไม่

 

ทั้งนี้ เหรียญ 4 ประเภทตามประกาศข้างต้น ได้แก่ 

เหรียญที่ออกโดยไม่มีวัตถุประสงค์หรือสาระชัดเจนหรือไม่มีสิ่งใดรองรับโดยมีราคาขึ้นอยู่กับกระแสในโลกโซเชียล (Meme Token) 
เหรียญที่ออกโดยมีลักษณะเกิดจากกระแสความชื่นชอบส่วนบุคคล (Fan Token) 
โทเคนดิจิทัลที่เกิดจากการนำเทคโนโลยีมาใช้แสดงความเป็นเจ้าของหรือให้สิทธิในสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือที่เฉพาะเจาะจง โดยไม่สามารถใช้โทเคนดิจิทัลประเภทและชนิดเดียวกันและจำนวนเท่ากันแทนกันได้ (Non-Fungible Token) หรือ
โทเคนดิจิทัลที่ออกโดยผู้ประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลเองหรือบุคคลซึ่งมีความเกี่ยวข้องเพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้ประโยชน์สำหรับธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนบล็อกเชน 
2.มีการแจกคนละ 1 เหรียญ และ มีเทรดด้วย ทำได้หรือไม่
คำตอบ 
การจัดสรรเหรียญให้แก่ผู้ถือด้วยการแจกสามารถทำได้ (เป็นการให้ฟรี ไม่มีการเสนอขาย)  ในส่วนของการเทรดปัจจุบัน ยังไม่มีการเทรดกับผู้ประกอบการสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย 

 

อย่างไรก็ดี หากผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต้องการนำเหรียญดังกล่าวเข้ามาซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล จะต้องพิจารณาว่า เป็นไปตามข้อกำหนด listing rule ของศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. และต้องเป็นเหรียญที่ถูกกฎหมายด้วย  ซึ่ง listing rules ของแต่ละศูนย์จะกำหนดเอง เพราะพ.ร.ก สินทรัพย์ดิจิทัล ปี 2561 กำหนดแบบ principle rules 

3. มีข้อควรระวัง หรือ ก.ล.ต. มีความเห็นอย่างไรกับเหรียญดังกล่าว
คำตอบ 
เนื่องจากจากข้อมูลในเบื้องต้นลักษณะของเหรียญไม่เข้าข่ายเป็นเหรียญที่ต้องได้รับอนุญาตให้เสนอขายจาก ก.ล.ต. และข้อมูลยังมีความไม่ชัดเจนในบางเรื่อง ดังนั้น จึงขอให้ผู้สนใจศึกษาข้อมูลและใช้ความระมัดระวังในการตัดสินใจซื้อขาย

ทั้งนี้ เนื่องจากเหรียญดังกล่าวใช้ชื่อสมเด็จและเป็นกิจกรรมของวัด จึงอาจมีความเกี่ยวข้องและต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ด้วยโดย ก.ล.ต.ได้แจ้งผู้พัฒนาไปแล้ว 


ดังน้ันจากข้อมูลเบื้องต้น ลักษณะของเหรียญไม่เข้าข่ายเป็นเหรียญที่ต้องได้รับอนุญาตให้เสนอขายจาก ก.ล.ต.

 

อย่างไรก็ดี ก.ล.ต. อยู่ระหว่างขอข้อมูลเพิ่มเติมจากวัดป่ามหาญาณ เนื่องจากอาจมีความเกี่ยวข้องและต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ รวมทั้ง เพื่อประกอบการพิจารณาของ ก.ล.ต. เช่น เป็นเหรียญที่ไม่เข้าข่าย 4 เหรียญซึ่งห้ามไม่ให้ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนำมาให้บริการซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่ 

3919
เซี้ยมพีวีซี เซี้ยม หรือ เซี้ยมพีวีซี
เซี้ยม (เซี้ยมพีวีซี) เป็นวัสดุก่อสร้างที่ทำจากผงพีวีซีเกรดเอ  มีความเหนียว ยืดหยุ่น ไม่แตกหักง่าย สามารถใช้สำหรับงานก่อสร้างหรือเข้าโครงการก่อสร้างต่างๆได้ ตัดต่อได้ตามขนาดความยาวของเซี้ยมปูน สีของเซี้ยมมีทั้งหมด สีดำ สีเทา หรือสีตามสั่ง ขนาดความยาวมาตราฐาน 2.00 , 2.50 , 2.70 เมตร หรือความยาวตามสั่ง
ประโยชน์ของ เซี้ยมพีวีซีสำเร็จรูป ได้แก่
– ช่วยลดค่าใช้จ่ายและลดเวลาในการก่อสร้าง
– ทำให้มีความคมชัดของมุมเหลี่ยมเสา-คาน
– สามารถยึดเกาะปูนได้ดี เพราะมีรูเจาะไว้ยึดเกาะทั้งสองด้าน
– สีของเซี้ยมพีวีซี สีเทา สีดำ

Line : Lakkana99 , 0812079977
เบอร์ติดต่อ : 081-6428557 (คุณสมนึก) , 081-6428556 (คุณลักขณา)
เรียบเรียงบทความโดย : https://www.cctgroup.co.th 

3920
กระเบื้องยาง หรือ กระเบื้องยางไวนิลลายไม้

กระเบื้องยางลายไม้ หรือ กระเบื้องยางไวนิล เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตมาจากโพลิเมอร์ หรือ ยาง นั้นเอง นำเข้าจากประเทศเยอรมัน และ ประเทศจีน มีความเสมือนจริง ดูและรักษาง่าย กันน้ำ ทนต่อความชื้น มีความสวยงามดู เรียบแต่หรูหรา อายุการใช้งานของกระเบื้องยางอยู่ที่ประมาณ 10-15 ปี เจาะลึกกระเบื้องยาง นั้นถูกออกแบบมาให้ติดตั้งภายในอาคาร อาทิเช่น ออฟฟิต โรงพยาบาล อาคาร และตึกต่างๆ ด้วยคุณสมบัติของ กระเบื้องยาง นั้นมีความยึดเกาะกับพื้นเป็นอย่างดี และสามารถทนน้ำได้ถึงแม้ว่าจะเผลอทำน้ำหกใส่ กระเบื้องยาง กระเบื้องยางลายไม้ของทางบริษัทนั้นยังสามารถเลือกลายได้อีกมากมาย ลายไม้ก็จะแบ่งเป็นหลายชนิด เช่น ลายขรุขระ และ ลายไม้แบบเรียบๆ ทำให้ได้ผิวสัมผัสในแบบต่างๆ การติดตั้งกระเบื้องยางลายไม้นั้นเราสามารถติดตั้งทับไปบนกระเบื้องเดิมได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องลื้ออันเก่าทิ้งใหม่หมด ทั้งยังสามารถปูทับไม้พื้นอันเดิมได้ด้วย อาทิเช่น ไม้ปาเก้ หินขัด ปูนเปลือย หรือพื้นเดิมที่มีผิวเรียบ

ติดต่อ : 
Email : [email protected]
เบอร์โทรศัพท์ : 0816428556-7
Line ID : Lakkana99
Website : https://www.cctgroup.co.th
facebook : https://www.facebook.com/CCTGROUPCompany/ กระเบื้องยางลายไม้

3922
ซีอีโอ"พจน์ หะริณสุต" มองเทรนด์ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ยังเป็นโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงในปีหน้า ชี้ธีมลงทุน เทคโนโลยี่ การเงิน กลุ่มหุ้นยั่งยืน พร้อมแนะกระจายพอร์ต 50% ในตลาดหุ้นโลก

นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ และบริษัทในเครือ กล่าวในงานสัมมนา ลงทุนอย่างไรให้รวย ในหัวข้อเสวนา เจาะลึกการลงทุนปี 2022 จัดโดย หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจและกรุงเทพธุรกิจ ว่าจากปัจจัยเสี่ยงทั้งในเรื่องเงินเฟ้อ แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้น และการที่สหรัฐปรับลด QE ( วงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ) เริ่มเดือนนี้  ปัญหาหนี้สาธารณะในหลายประเทศที่ปรับสูงขึ้นรวมทั้งประเทศไทย ดังนั้นปีหน้า ตนมองว่ายังเป็นโอกาสการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนดี  แม้จะยากขึ้นก็ตาม 

 

นายพจน์ ชี้ถึงเทรนด์และการจัดพอร์ตการลงทุนในปี 2565 โดยให้ความสำคัญในเรื่องการกระจายพอร์ตลงทุน เพื่อสร้างความมั่นคงของพอร์ต และผลตอบแทนที่สูง โดยแนะ  4 ธีมหุ้นลงทุน ว่า  กระแสโลกกำลังเข้าสู่ช่วงการเปลี่ยนแปลง  โดยเฉพาะวิกฤติโควิด-10 ซึ่งเป็นคันเร่ง  ดังนั้นมองว่าหุ้นในธีมกระแสโลกใหม่ เช่นเรื่องเทคโนโลยี่ใหม่ ๆ  ยังเป็นขาขึ้นในระยะต่อไป จึงต้องมีเก็บไว้ในพอร์ต
 


หุ้นในธีมที่ยังมีโอกาสเติบโตและได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยช่วงขาขึ้น  ได้แก่กลุ่มการเงิน  ไฟแนนซ์ รวมถึงนอนแบงก์ และกลุ่มฟินเทค ที่สามารถขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้สูงขึ้น  

 

หุ้นธีม  sustainable  ธุรกิจที่เน้นการกำกับดูแล   ESG  การเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ,สังคม เรื่องบรรษัทภิบาล  เป็นเทรนด์หุ้นที่จะมาใน 10 ปีข้างหน้าที่จะได้รับความสนใจมากขึ้น

 

ธีมลงทุนในทรัพย์สินทางเลือก  หรือ Alternative Assets อาทิ คริปโทเคอร์เรนซี่ ,  NFT  ( Non-Fungible Token ) ทองคำ น้ำมัน อสังหาริมทรัพย์  

 

"ในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น การลงทุนในสินทรัพย์ที่ควรมีในพอร์ตติดไว้ ต้องเป็นสิ่งที่สามารถสร้างรายได้ขึ้นมาพร้อมกับเงินเฟ้อ เช่น การเก็บดอกเบี้ย การเก็บค่าเช่า ทองคำหรือน้ำมัน  " 
 

ซีอีโอ บลจ.วรรณ ยังแนะการกระจายพอร์ตลงทุน  โดยน้ำหนัก  50% แบ่งเป็นการลงทุนในหุ้นที่เป็น Core Port ของโลก 30% เช่นหุ้นอาลีบาบา อเมซอน  เฟซบุ๊ก  หรือหุ้นที่สามารถขยับตัวด้านการลงทุน  เช่นลงทุนในสกุลเงินคริปโต  และอีก 20% เป็นการลงทุนในหุ้นจีน ญี่ปุ่น หรืออเมริกา โดยยกตัวอย่าง  บลจ. วรรณ  "กองทุน ONE-UGG " ที่ลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ สามารถสร้างผลตอบแทน 5 ปี เฉลี่ยปีละ  28%
 


นอกจากนี้ในพอร์ต 10% ควรมีหุ้นไทย  หุ้นไทยหากมองค่า PE ในปี 65 ที่ 16 เท่า แม้จะสูงกว่า PE ในภูมิภาคอยู่ที่ 14 เท่า แต่การที่ไทยจะเปิดประเทศและดัชนี SET ที่โอกาสขยับขึ้นอยู่ระดับสูงกว่า 1,700 จุด จึงควรมีหุ้นไทยติดไว้ในพอร์ต  รวมทั้งเพิ่มการลงทุนหุ้นในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ในตลาดหุ้นเวียดนามและอินเดีย  ด้วยจำนวนประชากร และศักยภาพของคนในวัยทำงานโดยในรอบปีนี้ดัชนีหุ้นทั้ง 2 ตลาดปรับขึ้นราว 20% และ 28% ตามลำดับ

 

ส่วนที่เหลืออีก 10-15 % แนะลงในทรัพย์สินทางเลือก Alternative Assets  เช่น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนประกันชีวิต ทองคำ  ฯลฯ

 

ซีอีโอ บลจ.วรรณ  กล่าวว่า ด้วยปัจจัยเสี่ยงดังที่กล่าว เงินเฟ้อขยับขึ้นสูง เมื่อเทียบกับฐานที่ต่ำในปีที่แล้วและจะอยู่ไปอีกนาน ดังนั้นการลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่เสี่ยงเลย จะยิ่งเพิ่มโอกาสเสี่ยงในปีหน้า 

3923
เครื่องบดพลาสติก เครื่องบดผงพีวีซี หรือ เครื่องบดผงพลาสติก ขนาด 5.5kw – 30kw มาตราฐานอุตสาหกรรม ผลิตและนำเข้าจากต่างประเทศ

เครื่องบดผงพีวีซี หรือ เครื่องบดผงพลาสติก ถูกออกแบบมาพิเศษเพื่อการบดผงพลาสติกโดยเฉพาะ ประหยัดไฟ สามารถบดผงพลาสติกได้หลายชนิด เช่น PE, PVC, PPR, PA, PC, PS, ABS, PET, POM ผงพลาสติกที่ถูกบดมานั้นจะไม่มีเสียคุณภาพ สีไม่เปลี่ยน และที่สำคัญในระหว่างการทำงานนั้นเสียงจะไม่ดังมากและฝุ่นจะไม่กระจายออกมาข้างนอก เครื่องจักรถูกผลิตโดยใช้เหล็กอย่างดี คุณภาพสูงผลิต และใบมีดในการบดถูกออกแบบมาเฉพาะทางและทำมาจากวัสดุอย่างดี เครื่องจักรถูกผลิตจากต่างประเทศรวมถึงเทคโนโลยีต่างๆก็นำเข้าจากต่างประเทศเช่นกัน

ติดต่อ :
Email : [email protected]
เบอร์โทรศัพท์ : 0816428557, 0812079977 (คุณสมนึก)
Website : https://www.cctgroup.co.th 

หน้า: 1 ... 216 217 [218] 219 220 ... 249