แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - nocturne

หน้า: 1 ... 13 14 [15]
253
ห้องพูดคุยเรื่อง HD Player / Re: รีวิว ViVO Cute และ Time Machine
« เมื่อ: สิงหาคม 28, 2010, 02:43:20 pm »
เฟิร์มแวร์ล่าสุดของ ViVO Time Machine รองรับ passthrough ได้ทั้ง Dolby True HD และ DTS-HD แล้วนะครับ

เฟิร์มแวร์ของ ViVO Cute จะตามออกมาในวันจันทร์นี้ครับ


อ้างถึง
เอารูปมาฝากกันครับ (เครดิตเว็บ htg2.net ครับ)

ผมเองยังไม่ได้ลองนะครับ เพราะตอนนี้ไม่มีเครื่องเสียงที่รองรับได้ครับ

^_^



254
ห้องพูดคุยเรื่อง HD Player / Re: รีวิว ViVO Cute และ Time Machine
« เมื่อ: สิงหาคม 27, 2010, 08:20:24 pm »
เอารูป Time Machine สีอื่นๆ มาฝากกันครับ





255
ห้องพูดคุยเรื่อง HD Player / Re: รีวิว ViVO Cute และ Time Machine
« เมื่อ: สิงหาคม 27, 2010, 08:13:38 pm »
มาดูกันต่อในส่วน UI ของเฟิร์มแวร์กันบ้าง เริ่มจากรุ่น Cute



เมื่อเปิดเครื่องขึ้นมา ก็จะต้องเห็นหน้านี้กันก่อนเลยครับ



การเซ็ตค่าต่างๆ ครั้งแรกที่เปิดเครื่อง รุ่น Cute ไม่มีอะไรยุ่งยากครับ ผมเองแค่ตั้งค่าเมนูให้แสดงผลเป็นภาษาไทย แล้วก็ลุยต่อกันเลย





จุดเด่นของเครื่องรุ่นนี้ ก็จะอยู่ที่การเชื่อมต่อ Harddisk ภายนอก ผ่านช่อง eSATA ที่ช่วยเรื่องการส่งผ่านข้อมูลที่ไหลลื่นกว่า USB ครับ (แต่เดี๋ยวเราค่อยมาว่ากันในส่วนนี้ภายหลังนะครับ)





จุดแตกต่างอีกอย่างของเครื่องในแบรนด์ ViVo ก็คือ การใส่ Contents ทั้ง RSS (ช่องข่าวต่างๆ) และ Internet Radio ที่เป็นสถานนีของเมืองไทย มาให้ในเฟิร์มแวร์เลย เรียกว่าพร้อมใช้งานตั้งแต่แกะกล่องกันเลยครับ





ลองดูข่าวจาก RSS ของไทยรัฐ ดูสักหน่อย (ในเฟิร์มแวร์เวอร์ชั่นนี้ ยังมีช่องข่าวให้มาแค่ 5 ช่องครับ - และการใช้งานก็ยังไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะช่อง RSS ของไทยเรา ที่ไม่ได้ทำเป็นรูปแบบ RSS สมบูรณ์แบบ ส่วนใหญ่ยังมีลักไก่ ทำลิงค์ในหน้าลึกๆ ให้ลิงค์ไปที่หน้าเว็บไซต์ หรือ Pop-up หน้าเว็บไซต์ขึ้นมาอยู่ดี ซึ่งถ้าเป็นการใช้งานผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ ก็จะไม่มีปัญหาอะไร แต่พอเป็นการเปิดอ่านจากเครื่อง HD-Player ก็จะไม่สามารถรองรับการแสดงผลในรูปแบบนี้ได้ครับ แต่ก็ถือว่าพอใช้งานได้อยู่ครับ)



ส่วนช่อง Internet Radio เฟิร์มแวร์ที่ผมได้มาลองเล่นนี้ ยังไม่ได้ทำการใส่ช่องรายการของไทยมาให้ครับ แต่ข้อมูลจากทางผู้ผลิต แจ้งมาว่า จะออกเป็นอัพเดตมาให้ต่อไปครับ (ขอแปะในส่วนนี้ไว้ก่อนนะครับ)





หน้าเซ็ตอัพ อื่นๆ ขอข้ามนะครับ เพราะน่าจะคุ้นตากันดีอยู่แล้ว

มาดูในส่วน UI ของ Time Machine กันบ้างครับ



แค่เริ่มมาก็มีค่าให้เซ็ตอัพตั้งแต่เปิดเครื่อง เพียบเลยครับ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นในส่วนของ Tuner TV และการตั้งค่านาฬิกาในเครื่อง เพื่อใช้อ้างอิงในฟังค์ชั่นของการตั้งเวลาบันทึกไฟล์ครับ



ในส่วนของ Digital TV Tuner กับการรับชมจากแหล่งสัญญาณ AV-Input จะอยู่แยกกันเป็น 2 เมนูครับ

ความพิเศษของการชมรายการทีวีทั้ง Digital และ Analog ผ่านเครื่อง Time Machine ก็คือระบบ Time Shift (จะมีปุ่มนี้ให้มาที่ตัวรีโมต) ที่ทำให้เราสามารถหยุดภาพรายการสดได้ในขณะรับชม โดยตังเครื่องจะแคชไฟล์ลงไปใน Harddisk ให้แทน (แคชได้สูงสุด 4 ชั่วโมงต่อเนื่องกัน) และเมื่อเรากด Play อีกครั้ง ตัวเครื่องก็จะไปเล่นไฟล์จากแคชใน Harddisk ขึ้นมาให้แทน ในขณะที่ยังแคชไฟล์ต่อเนื่องไปด้วยครับ





นอกจากฟังค์ชั่น Time Shift แล้ว ยังมีโหมด Time Record ที่ให้คุณตั้งเวลาอัดรายการทีวี ได้โดยตั้งเวลาอัดได้หลายๆ ชุดคำสั่ง โดยอ้างอิงตามวัน เวลาในเครื่องครับ - แต่ข้อจำกัดของทีวีบ้านเราที่ยังส่งสัญญาณเป็น Analog ก็คือ เรายังต้องเปิดกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์เอาไว้ในช่องที่เราต้องการบันทึกรายการครับ ส่วนตัว Time Machine จะเปิดเครื่องขึ้นมาอัดรายการ และปิดเครื่องให้เองเมื่อเสร็จงานแล้ว ตามวัน/เวลาที่เราได้ตั้งค่าเอาไว้ครับ



อีกสิ่งที่มีเพิ่มขึ้นในรุ่น Time Machine ก็คือฟังค์ชั่นการโหลดไฟล์ P2P (Bit Torrent) ผมขอไม่ลงในรายละเอียดปลีกย่อยนะครับ

เพราะในส่วนของ Time Shift / Time Recort และ Net Download นี้ ผมเองยังไม่ได้ลองใช้งานจริงดูครับ (เพราะข้อจำกัดของสถานที่ในการทดสอบเครื่องครับ)



นอกเหนือจาก Contents ช่อง RSS และ Internet Radio แล้ว ในรุ่น Time Machine ยังได้เพิ่มช่องข่าว CNN ในรูปแบบของ Pod Cast มาให้อีกหนึ่งไอค่อนครับ



ฟังค์ชั่น Parental ที่สามารถใส่รหัสล็อคเครื่อง สำหรับกันไม่ให้เด็กๆ ในบ้าน เปิดใช้งานเครื่องได้ครับ



การตั้งค่าอื่นๆ



การตั้งค่าเสียงในเครื่อง Time Machine ก็เป็นอีกส่วนที่แตกต่างไปจากในรุ่น Cute

คือมีการแยกการตั้งค่าออกเป็น HDMI กับ SPDIF ครับ ทำให้เราสามารถตั้งเสียงออก HDMI เอาไว้เป็น Stereo เพื่อที่เวลาเปิดดูรายการทีวีปกติ ก็สามารถทำได้เลย โดยไม่ต้องเปิด AVR ขึ้นมาด้วย - ในขณะที่ถ้าต้องการสลับไปชมไฟล์หนัง ก็ไม่ต้องมาเปลี่ยนค่าเซ็ตติ้งนี้กลับไปเป็น SPDIF แต่สามารถเปลี่ยน AVR ขึ้นใช้งานได้เลยครับ - ถือว่าสะดวกกว่ารุ่น Cute ในส่วนนี้ครับ



เอาการตั้งค่าเสียงในรุ่น Cute มาให้ดูเปรียบเทียบครับ






เท่าที่ลองใช้งานดู ทั้งไฟล์ .MVK และ Fullrip สามารถเล่นได้ดีไม่มีปัญหาอะไรครับ ลองดูไปคร่าวๆ 10 กว่าเรื่อง ก็แสดงผลได้ถูกต้องหมด ทั้งไฟล์ซับ นามสกุลต่างๆ ทั้งซับแยก ซับฝัง ซับจากไฟล์ Fullrip สามารถแสดงผลได้หมดครับ

ไฟล์หนังก็ลื่นไหลดี ไม่ว่าจะเล่นจาก eSATA หรือ USB ในรุ่น Cute / และ ภายในเครื่อง (sata) กับ ภายนอกเครื่อง (USB) ในรุ่น Time Machine ครับ

ไม่มีอาการภาพกระตุก หรือซับ กับเสียงแสดงผลไม่ตรงเลยครับ





การเลื่อนตำแหน่งของตัวหนัง สามารถทำได้ทั้งแบบการ FF / RW หรือกดปุ่ม Go To แล้วพิมพ์ช่วงเวลาที่จะเลื่อนไปรับชม ก็สามารถทำได้ และตอบสนองได้รวดเร็วดีครับ ไม่มีอาการเอ๋อๆ หรือคิดไม่ทันแต่อย่างใด

ในส่วนของไฟล์ Fullrip ก็รองรับการใช้งานแบบ Chapter เช่นกันครับ - แต่เครื่องชิป Realtek ยังไม่รองรับการแสดงผลเมนูในไฟล์ Fullrip ครับ ก็จะเลือกได้ว่าจะเล่นไฟล์หนังขึ้นมาเลย หรือ Browse เข้าไปในโฟลเดอร์แล้วเลือกเล่นไฟล์อื่นๆ แทนครับ

(แก้ไข) เครื่อง Cute ใช้ชิปเซ็ต 1073DD+ (128MB of Ram) ส่วน Time Machine ใช้ชิปเซ็ต 1283DD+ (256MB of Ram) ของทาง Realtek ที่รองรับเสียงในรูปแบบ HD แล้ว แต่เฟิร์มแวร์ติดเครื่องมาขณะนี้ ยังรองรับเสียงแค่ DTS ธรรมดาอยู่ครับ แต่ทาง ไม่ได้รับอนุญาต Audio ก็การรับประกันว่า เฟิร์มแวร์ที่จะรองรับเสียง Dolby-True-HD จะออกมาให้ใช้งานกันภายในเดือนสิงหาคมนี้ครับ หากภายในเดือนสิงหาคม ยังไม่สามารถออกเฟิร์มแวร์ที่รองรับออกมาได้ ทาง ไม่ได้รับอนุญาต Audio ยินดีคืนเงินให้กับลูกค้าเต็มจำนวนครับ



มีข้อสังเกตอยู่อย่างหนึ่งว่า ไฟล์ Fullrip เรื่อง Dark Knight ที่ผมมีในรูปแบบของไฟล์ BD-Fullrip .ISO เวลาเล่นผ่านเครื่อง Cute แล้ว จะเจออาการภาพไม่ตรงกับเสียง ไม่ว่าจะต่อผ่าน eSATA หรือ USB แต่พอไปลองเปิดเล่นในรุ่น Time Machine กับสามารถเล่นได้ปกติทุกประการ ไม่ว่าจะต่อ Harddisk ภายในหรือผ่าน USB ครับ

ปัญหาน่าจะมาจากที่เครื่องรุ่น Cute มีบัฟเฟอร์มาให้เพียง 128MB ในขณะที่เครื่องรุ่น Time Machine มีบัฟเฟอร์มาให้ถึง 256MB เลยทำให้เล่นไฟล์ดังกล่าวได้ลื่นไหลกว่า

เจอปัญหาอยู่แค่กับไฟล์นี้ไฟล์เดียว ลองเล่นไฟล์ Fullrip อื่นๆ ทั้งรูปแบบ Folder Base และ .ISO อื่นๆ รวมไปถึงไฟล์ .MVK อื่นๆ ก็ยังไม่เจออาการเดียวกันนี้เลยครับ - เรียกว่าเจอไฟล์ปราบเซียนเข้าให้ครับ


*อัพเดตข้อมูล : เฟิร์มแวร์ล่าสุดของ Cute สามารถดูไฟล์ BD-Fullrip ที่เป็น .ISO ได้ปกติ ไม่เจอปัญหาภาพกับเสียงไม่ตรงกันแล้วนะครับ (ลองกับ Dark Knight ไฟล์เดียวกันนี้ เล่นได้แล้วครับ)


สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากลองใช้งานตัวเครื่องจริงดูทั้งรุ่น Cute และรุ่น Time Machine ก็สามารถเข้ามาลองกันได้นะครับ (รุ่น Cute ตอนนี้ในกรุงเทพฯ เท่าที่ทราบจะมีอยู่ที่ผมเพียงเครื่องเดียวครับ - ส่วนรุ่น Time Machine ได้รับแจ้งว่าที่ตัวแทนจำหน่ายบางแห่ง ก็จะมีเครื่องให้ลองเล่น และมีเครื่องสต็อคพอส่งมอบให้ลูกค้าได้บ้างแล้วครับ (เฉพาะสีดำนะครับ Time Machine สีอื่นๆ จะมีเข้ามาในล็อตต่อไปช่วงกลางเดือนหน้าเลยครับ)

^_^

256
ห้องพูดคุยเรื่อง HD Player / Re: รีวิว ViVO Cute และ Time Machine
« เมื่อ: สิงหาคม 27, 2010, 08:13:04 pm »
มาดูทางฝั่ง Time Machine กันบ้างครับ



อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง มีเพิ่มเติมมาจากรุ่น Cute อยู่หลายรายการเหมือนกันครับ ในกล่องที่ผมได้มานี้คู่มือภาษาไทย ยังมีมาให้แค่ Quick Start ครับ ส่วนคู่มือฉบับเต็มยังพิมพ์ไม่ทันครับ ก็เลยยังไม่มีมาในกล่องด้วย



ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ที่ Time Machine มีให้มาในกล่อง แตกต่างไปจากรุ่น Cute ก็จะมี

1. เสาอากาศแบบ Digital สำหรับเสียบกับ TV-Tuner แบบ Digital ที่ตัวเครื่อง Time Machine มีมาให้ด้วยครับ แต่ในไทยเราคงยังใช้งานได้แค่เพียงบางพื้นที่ และกับบางช่องสัญญาณที่ทดลองออกอากาศด้วยช่องสัญญาณ Digital เท่านั้นครับ

2. อแดปเตอร์ไฟขนาดใหญ่ขึ้น จ่ายไฟ 3A (เพราะ Time Machine สามารถใส่ Harddisk ไว้ภายในได้ เลยต้องการไฟเลี้ยงเพิ่มขึ้นกว่ารุ่น Cute ครับ)

3. รีโมต ที่มีการวางเลย์เอาท์ของปุ่มที่แตกต่างไปจากในรุ่น Cute



รีโมตสกรีนตำแหน่งปุ่มมาต่างกัน แต่ลองกดใช้งานดู ก็สามารถใช้งานแทนกันได้ทั้ง 2 รุ่นครับ (เพียงแต่ใช้ไม่ตรงรุ่น ก็ต้องเดากันหน่อย เพราะตำแหน่งปุ่มก็แตกต่างกันด้วยครับ)



หน้าตาเครื่อง ดูคุ้นตาเอามากๆ เพราะก็มีเครื่องที่ผลิตจากโรงงานเดียวกันนี้ จำหน่ายอยู่ในบ้านเราเหมือนกันครับ

แต่พอพลิกด้านหลังเครื่องมา จะเห็นความแตกต่างของรุ่น Time Machine ที่ชัดเจนที่สุดคือ เครื่องรุ่นนี้จะมี Digital TV-Tuner ให้มาด้วย (พร้อมเสารับสัญญาณไว้เสียบใช้งาน) และยังมีช่อง AV Input มาให้ด้วย เพื่อใช้ต่อกับกล่องรับสัญญาณ True หรือ Dreambox หรือแหล่งสัญญาณอื่นๆ ที่ปล่อยสัญญาณทางช่อง AV ได้ เพื่อใช้งานฟังค์ชั่น Time Shift และ Record เพื่อบันทึกไฟล์เก็บไว้ดูใน Harddisk ได้ครับ (และยังใช้เป็นสเกลเลอร์ อัพสัญญาณภาพ AV Input ไปแสดงผลบนจอผ่านทางช่อง HDMI ของเครื่องด้วยครับ)



ช่องใส่ Harddisk จะเป็นแบบขันน็อตเปิดฝาที่ด้านล่างของเครื่อง



เชื่อมต่อด้วยสาย SATA ภายในตัวเครื่อง สำหรับใช้งานฟังค์ชั่นการบันทึก ที่มีมาให้ในรุ่นนี้ครับ

257
อ้างถึง
รีวิวนี้เขียนขึ้นเมื่อวันที่ 20/07/10 ครับ

วันนี้ผมเพิ่งได้รับเครื่อง ViVo ทั้ง 2 รุ่น (Cute/Time Machine) จากคุณพงศ์ แห่ง ไม่ได้รับอนุญาต Audio มาครับ เลยได้มีโอกาสลองใช้งาน และมาเขียนรีวิวไว้เป็นข้อมูล ไว้ให้ครับ แต่เป็นแค่เพียงรีวิวโดยย่อนะครับ เพราะหลายฟังค์ชั่นการทำงานของเครื่อง ผมก็ยังไม่ได้มีโอกาสลองเล่นอย่างทั่วถึงครับ (ด้วยข้อจำกัดของสถานที่ของผมเอง) บางส่วนอาจต้องติดไว้เพิ่มเติมให้ในโอกาสต่อๆ ไปนะครับ

แกะกล่อง ViVo Cute กันก่อนเลย



ทันทีที่เปิดกล่องออกมา สิ่งที่สะดุดตาผมที่สุด คงเป็นคู่มือภาษาไทย ที่ทาง ViVo ให้มาทั้งคู่มือแบบ Quick Start และคู่มือฉบับเต็ม ในแบบภาษาไทยล้วนๆ น่าจะเหมาะกับมือใหม่ที่อยากอ่านทำความเข้าใจก่อนลงมือใช้งานครับ - นอกนั้นก็จะเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่มักจะมีมาให้อยู่แล้วครับ อย่าง ตัวเครื่อง(ไม่มีชิ้นนี้คงแปลกๆ), อแดปเตอร์ไฟขนาด 0.6A, รีโมต, ถ่าน AA x2 ก้อน, สายสัญญาณต่างๆ ที่ให้มาครบครัน ทั้งสาย Component/Composite และสาย HDMI แบบ Flex-Flat (สายแบน) 1.3b ไม่ให้เสียชื่อว่าเป็นเครื่องจากผู้ผลิต ไม่ได้รับอนุญาต Kable, และใบรับประกันสินค้า ตัวสินค้า HD-Player จาก ViVo ทุกรุ่น รับประกันสินค้า 2 ปี และภายใน 6 เดือนแรก หากสินค้ามีปัญหา เปลี่ยนเครื่องใหม่สถานเดียวครับ



รูปคู่มือ และใบรับประกันสินค้า แบบชัดๆ สักรูป



ขนาดตัวเครื่องรุ่นนี้ค่อนข้างเล็กครับ ลองวางเทียบกับ Harddisk ไซส์มาตรฐานดู (ก็ไม่แปลกใจที่ทำไม่ถึงไม่เหลือที่ยัด Harddisk ไว้ภายในได้แล้วครับ)



วัสดุตัวถังเครื่อง ใช้อลูมิเนียมขึ้่นรูปชิ้นเดียว เจาะช่องระบายความร้อนไว้ที่ด้านล่าง ด้านหน้าเป็นพลาสติกดำมัน มีเพียงปุ่ม เปิด/ปิดเครื่อง อยู่ตรงกลางเพียงปุ่มเดียว - ส่วนด้านหลัง อัดแน่นไปด้วยช่องเชื่อมต่อต่างๆ ครบครัน (Component/Composite/HDMI/Optical/USB x2/eSATA) ความแตกต่างกับเครื่องขนาดเล็กอื่นๆ ในตลาด คงจะเป็นในส่วนของช่อง eSATA ที่อยู่ภายนอก ทำให้ถึงไม่สามารถใส่ Harddisk ไว้ภายในได้ แต่ก็ยังสามารถเชื่อมต่อ Harddisk ภายนอกได้ในความเร็วเท่ากับ Harddisk ภายในอยู่ดีครับ



ปุ่ม เปิด/ปิดเครื่อง แสดงไฟสีแดงเมื่อเสียบหม้อแปลงไฟ และเปลี่ยนเป็นสีฟ้าเมื่อเปิดใช้งานเครื่องครับ



เปรียบเทียบสาย HDMI-1 Flex Flat ของ ไม่ได้รับอนุญาต Kable กับสาย HDMI 1.3b ที่แถมมากับตัวเครื่องครับ

หน้า: 1 ... 13 14 [15]