สืบเนื่องมาจาก ผมชื่นชอบ SONY มานานนม เรียกได้ว่าเป็นสาวกน้อยๆคนนึง มาตั้งแต่เด็ก ครั้นพอทำบ้านใหม่ เราก็อยากได้ทีวีจัดเต็มเป็นตัวหลักในบ้านไว้สักเครื่อง จึงตัดสินใจทุ่มทุนกับ SONY KD-55X9004a 55" มูลค่าแบบแสนนึง มีทอนนิดหน่อยมาเมื่อ ราวๆ 09/2014 ครับ

ส่วนตัวมีประสบการณ์ที่ดีมากๆ กับทีวีเครื่องนี้ ทั้งเรื่องภาพและเสียง มีการใช้งานเป็นประจำในช่วงเย็นทุกวัน โดยไม่มีปัญหาใดๆ

แต่หลังจากใช้งานมาได้ 2 ปีเท่านั้น!!! คือเมื่อราวๆ ปลายเดือน ตุลา 2016 ความหายนะก็บังเกิด TV ผมได้มีการแจ้งให้ update software ผมก็ได้ทำเป็นปกติ หลังจากนั้น ทีวีเริ่มเอ๋อ มีความหน่วงมากๆในการเปิดเครื่อง และเริ่มมีปัญหาคือ ภาพซ้อนกลับหัว เป็นๆหายๆ อยู่ 2-3 วัน และก็เป็นตลอด

ผมเลยได้ทำการเรียก Sony มายกไปตรวจสอบ.....หลังจากนั้น ทาง Sony แจ้งผมกลับมาว่า จอภาพเสีย!! และมีค่าซ่อม รวม 99,000 บาท!!

ผมโมโหมาก และได้อธิบายเหตุผลต่างๆไปว่ามันเกิดจากสาเหตุอะไร และผมควรจะจ่ายเท่านี้ไหม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็รับเรื่องไป และโทรติดต่อผมกลับมา โดยจะลดให้ 50% ในตอนแรก หรือราวๆ 50,000 บาท

ผมรู้สึกว่าราคามันสูงเกินไป ใช่อยู่ว่า TV ผมหมดประกัน แต่ส่วนตัวผมคิดว่า SONY น่าจะช่วยเหลือในเคสนี้ได้ดีกว่านี้ ก็เลยแจ้งไปว่า ถ้าผมจ่ายเท่านี้ คุณควรจะเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ผม ในรุ่นปัจจุบัน หรือ รุ่นเดิม และมีการรับประกันที่สมเหตุสมผล (SONY รับประกันงานซ่อม 90 วัน)

ทางเจ้าหน้าที่ขอกลับไปคุยกับหัวหน้าใหม่ ต่อรองกันไปมาแบบนิ กว่า 1 อาทิตย์ สรุปจบได้ว่า ยอมลดค่าซ่อมให้ผมเหลือ 31,000 บาท โดยไม่มีนโยบายเปลี่ยนเครื่อง

ส่วนตัวผมรู้สึกเสียดายเงินพอควร แต่ไม่รู้จะทำยังไง จะทิ้งไปก็เสียดาย เพราะชอบในหน้าตาของรุ่นนี้ เลยตัดสินใจซ่อม....

อีก2 วัน SONY โทรกลับมา บอกรุ่นผม ไม่มีอะไหล่!??!? (ตอนแรกบอกมี เปลี่ยนไม่ได้ ต้องซ่อมเท่านั้น) เลยเสนอรุ่น X9300D 55" ให้ผม ในราคา 31,000 บาท ซึ่งผมก็พอทำใจได้ แต่เดี๋ยวก่อน...SONY บอกว่า ต่อให้เป็นเครื่องใหม่ ก็ประกันแค่ 90 วัน เนื่องจากเป็น job ของงานซ่อม

รบกวนเพื่อนๆ ช่วยแนะนำทีว่า มันคุ้มค่าไหมครับ...ตอนนี้หมดพลังมากๆ กับเวลา 2 ปี ที่ต้องเสียเงินมากขนาดนี้ กับ TV 1 เครื่อง...ขอบคุณมากครับ