[size="13pt"]
JL Audio e112 Subwoofer Official AVS Forum Review (บทความแปล)วันนี้เราเอารีวิว JL E112 จากเว็บชื่อดังอย่าง AVS Forum มาฝากกันครับ
มาดูว่าซับวูฟเฟอร์ไซส์คอมแพคขนาดดอก 12 นิ้วแบบตู้ปิด กำลังขับ 1500 วัตต์ตัวนี้จะมีประสิทธิภาพสมกับราคาค่าตัวของมันหรือเปล่า
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ต้นฉบับ: http://www.avsforum.com/forum/113-subwoofers-bass-transducers/2003042-jl-audio-e112-subwoofer-official-avs-forum-review.html----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ย้อนกลับไปในปี 2013 ที่เราได้ยินเสียงของซับ JL Audio ครั้งแรก ความรู้สึกแรกที่รับรู้ในวันนั้นคือพละกำลัง ไดนามิค ความสะอาดและเนื้อเบส
หลังจากนั้นอีกหนึ่งปีถัดมา ในที่สุดเราก็ได้มีโอกาสครอบครองและทำรีวิวเจ้าซับตัวนี้เสียทีกับเจ้า JL E112 ซึ่ง JL ส่งมาให้ถึงเราสองตัว เพราะความเข้าใจถึงสภาพการใช้ซับวูฟเฟอร์ในห้องทั่วๆไปดีว่า การใช้ซับตัวเดียว
นั้นมีโอกาศที่จะเกิดหลุม หรือจุดบอดของเสียงเบส และทำให้กราฟความถี่ต่ำไม่ราบเรียบอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งจะส่งผลถึงเสียงเบสที่ได้ไม่มีคุณภาพอย่างที่ควรจะเป็น
ดังนั้นหากมีโอกาศหรือเป็นไปได้ เราจึงยืนยันเสมอมาว่าให้ใช้ซับมากกว่าหนึ่งตัวเสมอ รวมไปถึงการฟังเพลงแบบ 2 channels ที่เราก็สามารถใช้ซับสองตัวได้เช่นกัน ไม่เป็นความจริงที่ว่า Audiophile ต้องฟังแบบสองแชนแนลเพียวๆ
ไม่มีเบส ไม่มีซับเสมอไป การใช้ซับสองตัวในตำแหน่งที่ถูกต้องนั้นยิ่งทำให้คุณภาพการฟังเพลงไม่ว่าจะเป็น Audiophile หรือไม่ก็ตามนั้นมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพขึ้นเสมอ
JL มีชื่อเสียงอย่างนานในการออกแบบและผลิตซับวูฟเฟอร์ชั้นดี โดยบริษัทมีความชำนาญในการสร้างดอกลำโพงที่มีพละกำลังสูงอีกด้วย และด้วยความชำนาญนี้เองก็ตกทอดลงมาใช้ใน E-Sub E112 ซึ่งทันที่ที่เราได้เห็นตัวตู้ซับ
ต้องบอกว่าเรารู้สึกถึงความแข๊งแกร่ง แข๊งแกร่งในเรื่องของงานประกอบ วัสดุที่ใช้ที่ดูแข๊งแรง จะเห็นว่าตัวตู้ตัวไม่ใหญ่ไปกว่าลำโพงซับวูฟเฟอร์ทั่วๆไปขนาด 12 นิ้วมากนัก ขนาดดูกำลังดี ไม่เทอะทะ ดูคอมแพค
ผิวลำโพงภายนอกของรุ่นนี้มี 3 แบบ
คือสีดำ Hi-gloss : ราคาประมาณ 2100 $
สีดำด้าน (Black Ash): ราคาประมาณ 1900 $
คือสีขาว Hi-gloss : ราคาประมาณ 2100 $ Inside the E112.ทีนี้มาดูสเปกและข้างในกันบ้าง E112 เป็น Active Subwoofer ที่มีแอมป์ภายในตัว สามารถเอาไปต่อกับ AVR หรือ Pre-Processor ได้เลยไม่ต้องหาแอมป์มาขับอีกแต่อย่างใด โดยกำลังขับของแอมป์ในตู้นั้นใช้แอมป์กำลังขับ
1500 วัตต์ Class D ออกแบบมาแบบตู้ปิด ดอกลำโพงขนาด 12 นิ้วแบบยิงหน้า โดยสเปกของบริษัทเคลมเอาไว้ว่าสามารถตอบสนองความถี่ได้ตั้งแต่ 22-118 Hz (+/- 1.5 dB) มีความแม่นยำสูงและเพี้ยนต่ำมากเพียง 1.5 dB
ซึ่งซับทั่วๆไปจะมีความเพี้ยนที่เคลมในสเปกประมาณ +/- 3 dB และที่ความถี่ 21 Hz และ 120 Hz มีความเพี้ยนที่เคลมไว้ที่ -3 dB และมีความเพี้ยน -10 dB ที่ความถี่ 17 Hz และ 153 Hz
ซึ่งถ้ามองดูสเปกลึกๆจะเห็นว่า E112 ลงลึกได้ถึง 17 Hz มากกว่าสเปกที่เคลมไว้แบบถ่อมตัวที่ 22 Hz ด้วยซ้ำ
น้ำหนักตัวของ E112 หนัก 73.5 ปอนด์ หรืออยู่ที่ 33.33 kg ขนาดตัวตู้กว้าง 15.5 นิ้ว สูง 16.23 นิ้ว และลึก 18.39 นิ้ว ขนาดกลางๆไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไปออกจะเกือบเป็นสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ด้วยซ้ำ
หน้าตาและการดีไซน์มีอะไรอยู่พอสมควร จากด้านบนมีปุ่มสำหรับปรับและหน้าจอ ด้านหลังมีฮีทซิ้งออกมาทำให้ตัวตู้ดูมีดีเทล มีอะไรให้เล่นพอสมควรไม่เรียบและ plain จนเกินไป
จะเห็นว่า E112 มาพร้อมกับหน้ากากปิดดอกลำโพง เท่าที่ดูเราว่าไม่ใส่หน้ากากจะดูสวยกว่าเพราะได้โชว์ดอก และโชว์ขอบลำโพงโดนัทหนานุ่มที่เป็นเอกลักษณ์ของ JL ด้วย
ด้านบนมีปุ่มปรับต่างๆให้ปรับพอสมควร ดูเรียบงาย ใช้งานง่าย ไม่รกจนเกินไป ซึ่งข้อดีก็คือปรับง่ายกว่าซับบางตัวที่มีตัวปรับต่างๆอยู่ด้านหลัง ซึ่งบางห้องวางซับติดผนังหลัง ซึ่งปรับกันทีก็ต้องดันซับออกมา
หรือเวลาจะปรับอะไรทีต้องปีนไปปรับ เอาไฟฉากไปส่อง บางทีปรับผิดปรับถูก เผลอๆทำซับเป็นรอยอีก
ช่องเชื่อมต่อของ E112 มีช่องต่อแบบ Highpass Stereo speaker level input ให้มาด้วย นอกเหนือจากช่องต่อปกติแบบ line level input โดยช่องเชื่อมต่อทั้งหมด
รวมถึงและมีสวิทซ์สำหรับปรับขั้วเฟสให้ยกไปไว้ด้านหลัง
Setupเราวางซับวูฟเฟอร์ทั้งสองตัวไว้ที่ด้านหน้า ด้านซ้ายและขวาของมุมห้อง สำหรับห้องเรานั้น จะไม่ได้หาจุดที่ดีที่สุดในห้อง แต่เราเลือกใช้จุดที่ใช้บ่อยเป็นประจำและคุ้นเคยกับซับตัวอื่นๆที่เคยใช้
ซึ่งจัดที่เรานั่งวัดความถี่ต่ำที่ได้จะมีค่า +/- 6 dB หลังจากนั้นก็ใช้ Minin DSP DDRC-88A ปรับก่อนอีกรอบนึง
----------------------------------------------------------
System ที่ใช้
Sources: PC (Windows 8) running Tidal and iTunes
Amplification and Processing:
Crestron Procise PSPHD pre/pro
Crestron Procise ProAmp 7x250
miniDSP DDRC-88A Dirac Live processor
Pioneer Elite SC-85 AVR
Cables:
Monoprice 12-gauge OFC speaker cables
Mediabridge Ultra Series subwoofer cable
Mediabridge Ultra Series HDMI cable
Additional Components:
Behringer B215XL PA-style speakers
SVS Sound Prime Satellite speakers
Thiel TT1 Tower speakers----------------------------------------------------------
Performanceหลังจากลองเปิด E112 ฟัง ต้องบอกว่า ซับคู่ JL E112 ที่เราใช้ทดสอบวันนี้ ให้เสียงเบสที่ค่อนข้างดี ฟังแล้วเพลิน เสียงดีใช้ได้เลยครับ ซึ่งคงต้องยกความดีให้ Amp ที่บรรจุอยู่ภายในตัวซับ ตัวดอก การเซ็ทอัพ
ทำให้ E112 สร้างความถี่ต่ำในระดับที่ต่ำกว่า -20 Hz ในห้องของเราได้อย่างน่าประทับใจและยังกลืนเข้ากับลำโพงในแชนแนลอื่นๆได้เป็นอย่างดี
และ Dual Sub E112 ตอนนี้เสียงเบสและคลื่นความถี่ต่ำทีได้นั้น ในขณะที่เร่ง volume สูงๆ เสียงก็ยังคงมีความแม่นยำ ความเพี้ยนต่ำ และสร้างแรงสะนสะเทือนในห้องได้เป็นอย่างดี โดยเสียงเบสมีความรุนแรง หนักหน่วง
ทั้งการดูหนังและฟังเพลง
ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ได้ JL E112 มาเทสร่วมๆ 4 เดือน เรามีการเปลี่ยนลำโพงหลักไม่ว่าจะเป็นลำโพงหน้าหรืออุปกรณ์ต่างๆไปหลายตัว ต้องบอกว่า E112 เข้ากันได้กับลำโพงเกือบทุกตัวและแทบจะไม่มีปัญหาเรื่อง
ความเข้ากันของแนวเสียงเลยก็ว่าได้ E112 ทำงานร่วมกับซิสเต็มต่างๆได้ค่อนข้างเนียนและดี ตั้งแต่ชุดเล็กๆราคาแค่หมื่นต้นๆอย่าง SVS Prime Satellites ไปจนถึงซิสเต็มอย่าง Thiel TT1 ราคาร่วมสองแสนบาท
ซึ่งเราชอบเกือบๆทุกซิสเต็มที่เราใช้ก็ว่าได้ E112 ทำงานเป็นส่วนหนึ่งกับซิสเต็ม และเติมเต็มพลังความถี่ต่ำได้ค่อนข้างดี
Dual E112 กับ Thiel TT1ตอนที่เอา E112 ไปจับกับ Thiel TT1 โดยใช้แบบ 2 แชนแนลในการฟังเพลง
ความเป็นดนตรีของการใช้ซับวูฟเฟอร์เข้าไปในซิสเต็มฟังเพลงนั้นต้องบอกว่าไม่ได้ทำลายความไพเราะ ความลื่นไหล และความเป็นธรรมชาติของดนตรีเลยแม้แต่น้อย ทว่า E112 ทั้งสองตัวทำหน้าที่รับผิดชอบเสียงความถี่ต่ำในช่วงความถี่
16 Hz อย่างเช่น Organ ท่อ และเสียงความถี่ต่ำๆในเพลงบางประเภทเช่น Dadt Punk's Tron Legacy (OST Tron Legacy)
รวมไปถึงแนวเพลงอื่นๆที่มีความถี่ต่ำๆ เช่น Classic, Jazz ก็ทำได้ดีเช่นกัน
จุดเด่นที่สุดของ Dual E112 คือความไว กระชับ สะอาดของเสียงความถี่ต่ำที่ได้จากซับทั้งสองตัว เห็นได้จากจากเพลง Dead Can Dance Album Anastasis ที่มีบีทเร็วและเบสที่ถ้าช้าหรือแผ่เนิบๆจะตามจังหวะของเพลงไม่ทัน
รวมไปถึงเพลงสมัยใหม่ๆทั้งหลายแหล่ ไม่ว่าจะเป็น Elcetronic, Drum & Bass ที่ล้วนแต่ต้องการเบสที่แน่น หนัก กระชับ ตัว E112 ก็ทำงานได้ดีในการฟังเพลง ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าซับเป็นตัวถ่วงหรือทำให้บรรยากาศในการฟังเสียไปแต่อย่างใด
สรุป (Conclusion)ปฏิเสธไม่ได้ว่า JL Audio E112 เป็นซับอีกตัวที่ราคาค่อนข้างสูง เรียกว่าเทียบกับซับยี่ห้ออื่นๆที่ขายในตลาดก็ราคาสูงกว่าเค้า แต่เมื่อมองดีๆ เทียบกับซับของ JL เองในรุ่นที่สูงกว่า (เช่น JL Fthom F112) หรือแม้แต่เทียบกับซับที่มีดีไซน์และให้อะไรมาเหมือนกันๆ
เช่น ตู้ปิด กำลังขับของแอมป์ และดอกลำโพง งานประกอบแบบนี้ ก็ต้องบอกว่าสมราคาและไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าซับยี่ห้ออื่นๆ ที่นอกเหนือจากนั้นก็อาจจะเป็นเรื่องของแบรนด์ที่สั่งสมมานานและการันตีในเรื่องของคุณภาพเสียงเบสของ JL ได้เป็นอย่างดี
เราทราบดีว่าการจ่ายเงินซื้อ E112 สองตัว ไม่ใช่เรื่องเล็กๆหรือตัดสินใจกันได้ง่ายๆ ในยุคนี้สมัยนี้ที่เศรษฐกิจอาจจะไม่เอื้ออำนวยมากนัก แต่เราแนะนำว่าถ้าคุณจ่ายได้ จ่ายไหว เล่นไปเถอะครับ E112 สองตัว เพราะคุณภาพที่ได้
เสียงเบส ความแน่น และยามเมื่อมันทำงานร่วมกันแล้ว คุณจะรู้ว่าคุณภาพของมันไม่ใช่แค่ซับสองตัว หรือเสียงดังขึ้นอย่างเดียว แต่มันได้มากขึ้นทุกอย่าง และยังสามารถกำจัดหรือลดจุดบอดในเรื่องความถี่ต่ำในห้องฟังให้ลดน้อยลงได้มากกว่าใช้ซับแค่ตัวเดียวด้วยครับ
ในช่วงราคา 2000 เหรียญหรือช่วง 5-7 หมื่น อาจจะมีซับตู้ปิดหลายแบรนด์ให้เลือก แต่ JL E112 เป็นอีกตัวนึงที่ยืนยันว่ามันทำงานได้ดี ให้เบสที่ดี กระชับ หนักแน่นสมราคาครับ
Compare JL E112 VS Other Subแถมด้วยแนวเสียง E112 เทียบกับซับตัวอื่นสั้นๆ เพื่อจะได้พอนึกออกว่าแนวเสียงแต่ละตัวเป็นยังไง เผื่อใครที่ไม่เคยรู้จัก JL หรือไม่เคยลองฟังจะได้รู้ว่าเสียงมันจะสไตล์ไหน
--------------------------------------------------------------------------
SVS PB-2000 VS E112 : E112 ชนะทุกยก
GoldenEar ForceField 5 VS E112: แน่นพอๆกัน ปึ๊กกระชับพอๆกัน ใช้ฟังเพลงได้ดีพอๆกัน...... แต่ๆๆๆๆ JL E112 เบสหนักกว่า...แต่ราคามันก็ต่างกันสองเท่า
Klipsch R115SW VS E112: ความโหด ความหนัก พอๆกัน แต่ JL E112 แน่นกว่าปึ๊กกว่า... ก็แหงละราคาต่างกันตั้งสองเท่าแนะ และเปรียบเทียบกันที่หนังโหดๆแบบ Tron Legacy ฉากปาแผ่นดิสสู้กันกับฉากบิดมอเตอร์ไซต์ JL ทำได้ดีกว่าแน่นกว่า ส่วน R115 ที่ความถี่ลึกๆยังตอบสนองได้ไม่เท่า E112
สรุป ซับคนละคลาส ออกแบบตู้คนละแบบ ราคาต่างกัน แนวเสียง JL E112 และ Klipsch R115 ให้เสียงเบสที่มีความคล้ายคลึงกัน แต่ JL แน่นกว่าและไวกว่าแม่นยำกว่า
สรุป2: JL E112 ไม่ใช่ซับที่ดีที่สุด โดยเฉพาะในคลาสเดียวกับตัวมัน และในราคา 60,000 +- ยังมีซับที่ทำได้ดีและใกล้เคียงนี้อีกหลายตัว.... แต่เมื่อเทียบกับคุณภาพและราคา แบรนด์ชื่อเสียง ก็ถือว่าเป็นซับอีกตัวที่เสียงดีมาก.... น่าเล่น ถ้างบประมาณไปถึง
โดยเฉพาะถ้าเล่น Dual Subwoofer[/size]