แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Jessicas

หน้า: 1 ... 1002 1003 [1004] 1005 1006 ... 1011
18056


หลังจากไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่แม่ฮ่องสอนกลับมาแพร่ระบาดรุนแรงขึ้น จนมีผู้ป่วยทั้งที่พบในจังหวัดและเดินทางกลับจากต่างจังหวัดสะสมมากขึ้น รวมทั้งมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย

ล่าสุดวัดภูสมะณาราม ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นที่ตั้งของสะพานซูตองเป้ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของแม่ฮ่องสอน ต้องประกาศปิดทั้งพื้นที่วัดและสะพานตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย รวมถึงวัดปางหมู ซึ่งเป็นวัดของเจ้าคณะตำบลปางหมู ก็ประกาศงดออกบิณฑบาตเช่นกัน

ส่วนโรงเรียนชุมชนบ้านปางหมูและอีกหลายโรงเรียนในตัวเมืองแม่ฮ่องสอนก็ประกาศปิดและงดการเรียนการสอน On Site ออกไปก่อน โดยให้เป็นการเรียนแบบ On Hand ด้วยการให้ครูไปส่งใบงานให้นักเรียนแทน

สาเหตุหลักของการปิดพื้นที่หลายๆ แห่งนี้เป็นเพราะพบบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลปางมะผ้า อำเภอปางมะผ้า รายหนึ่งที่เป็นคนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในตำบลปางหมู ได้เดินทางเข้าไปยังพื้นที่เสี่ยงหลายแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อกลับมาก็มีอาการป่วยและตรวจพบติดเชื้อ

และจากไทม์ไลน์พบว่าก่อนจะตรวจพบอาการได้ไม่กี่วัน ผู้ป่วยรายนี้เดินทางไปหลายพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทั้งร้านเสริมสวย ร้านโชวห่วย รวมถึงห้างสรรพสินค้า ทำให้สถานที่ที่เกี่ยวข้องประกาศปิดบริการทำความสะอาดและเข้าตรวจหาเชื้อกันเป็นแถว

อย่างไรก็ตาม ทางวัดภูสมะณารามได้จัดพื้นที่พักรอหรือกักตัวสำหรับกลุ่มเสี่ยง/ผู้ป่วย ด้วยการเปิดวัดภูสมะณาราม สาขา 2 (ห้วยป๊อกจ่าน) ที่ตั้งอยู่ห่างจากชุมชนและมีอาคารที่พักพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ตามโครงการ “พระจะไม่ทิ้งโยม” ด้วย

18057
ห้องซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนของจิปาถะ / Hot Promotion!!!
« เมื่อ: สิงหาคม 04, 2021, 12:22:24 pm »
ราคาดีมากกก!!!!!!!!

18058


ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์วันนี้(3 ส.ค.)ดัชนีภาคเช้าปิดที่ระดับ1,536.21 จุด เพิ่มขึ้น 11.10 จุด (+0.73%) มูลค่าการซื้อขายราว 37,590 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยทำระดับสูงสุด 1,536.31 จุด และระดับต่ำสุด 1,524.37 จุด

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นมาได้ดีกว่าคาด ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ลบกัน โดยเฉพาะตลาดหุ้นญี่ปุ่น,เกาหลี,ฮ่องกง ต่างปรับลง ยกเว้นตลาดกลุ่ม TIP ปรับขึ้นมาได้ โดยนักลงทุนเวียนมาเล่นหุ้นขนาดใหญ่บางตัวหลังราคาลงไปมากแล้ว แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ยังหนักอยู่ โดยจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดวันนี้อยู่ที่กว่า 18,000 ราย แต่ผู้ป่วยหายกลับบ้านได้เพิ่มขึ้น 18,000 รายเช่นกัน ขณะที่ตลาดฯปรับตัวลงสะท้อนไปในระดับหนึ่งแล้ว ทำให้เกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์

ทั้งนี้แนะให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพรุ่งนี้ (4 ส.ค.) คาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับเดิม ส่วนปัจจัยนอกประเทศให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯศุกร์นี้ และอัตราว่างงานของสหรัฐฯ แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย ตลาดฯคงแกว่งตัวในกรอบสลับแรงขายเข้ามาบ้าง พร้อมให้แนวรับ 1,520 จุด ส่วนแนวต้าน 1,535-1,540 จุด

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ได้แก่ ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,928.08 ล้านบาท ปิดที่ 176.50 บาท ลดลง 4.00 บาท,KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,320.15 ล้านบาท ปิดที่ 105.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท,RCL มูลค่าการซื้อขาย 1,048.92 ล้านบาท ปิดที่ 56.75 บาท ลดลง2.25 บาท,DTAC มูลค่าการซื้อขาย 928.88 ล้านบาท ปิดที่ 36.75 บาท ลดลง 0.75 บาท,SCB มูลค่าการซื้อขาย 866.42 ล้านบาท ปิดที่ 96.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท

18060
ห้องซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนของจิปาถะ / Hot Promotion!!!
« เมื่อ: สิงหาคม 03, 2021, 02:28:13 pm »
ราคาดีมากกก!!!!!!!!

18063


เจอตอเข้าให้แล้ว “ไวท์” และครอบครัว แถลงข่าวทั้งน้ำตา สุดแค้นใจโดนคู่กรณีลูกชายข้าราชการระดับสูงของกระบวนการยุติธรรม ทำร้ายร่างกาย หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ลั่นจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ไม่มียอมความ อย่ามาอ้างว่าป่วยจิต

เป็นเรื่องเลยทีเดียว หลังจากนักแสดงวัยรุ่น “ไวท์ ณวัชร์ พุ่มโพธิงาม” ออกมาโพสต์เดือด กรณีที่พ่อและแม่ของเจ้าตัวถูกคู่กรณีขับรถปาดหน้า และลงจากรถมาทำร้ายร่างกายกลางถนน โดยคุณพ่อโดนของแข็งตีที่หัว ส่วนคุณแม่ถูกตบหน้าจนหูอื้อ พร้อมกับโยนกระเป๋าของแม่ทิ้ง และโยนกุญแจรถทิ้ง ซึ่งหลังจากก่อเหตุคู่กรณีได้ขับรถหนีไปหน้าตาเฉย ทั้งยังออกมาโพสต์ปฏิเสธว่า ตนเองไม่ผิด ท้าให้ไปคุยกันที่ศาล พร้อมกับส่งข้อความไปข่มขู่หนุ่มไวท์ ด่าเป็นดาราอย่าโง่

ล่าสุด วันนี้ (1 ส.ค. 64) หนุ่มไวท์ และคุณพ่อสุระศักดิ์ พุ่มโพธิงาม, คุณแม่นฤมล อริยานุวัฒน์ พร้อมทนายความส่วนตัว “นายไพศาล เรืองฤทธิ์” และ “ทนายพิพัฒน์ รำจวน” ได้เปิดแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชน สุดงงโดนคู่กรณีทำร้ายร่างกาย ทั้งที่ไม่เคยรู้จักและไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน ยอมรับกลัวจะไม่ได้รับความยุติธรรม เพราะอีกฝ่ายเป็นลูกข้าราชการระดับสูง แต่ขอสู้ตายจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ซึ่งระหว่างแถลงข่าว ไวท์ พ่อและแม่ ถึงกับร้องไห้ออกมา

พ่อ : “ผมก็ไม่รู้ว่าไปทำอะไรเขาครับ ตอนผมออกมาจากปั๊มน้ำมันก็เห็นรถเขาออกมา แต่ตอนออกมาเราก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรกัน ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่พอออกมาตรงถนนเขาก็ขับมาจี้ตูดรถผม ผมก็ขับหนีเขา ตอนที่อยู่ในอุโมงค์เขาขับจี้รถท้ายผมแบบติดเลย จนภรรยาบอกว่าพอได้แล้วเดี๋ยวเกิดอุบัติเหตุ ก็ปล่อยให้เขาไป เขาก็ขับตบมาหารถผมเพื่อให้ผมชน ผมก็เลยเบรก”

“พอผมเบรก เขาก็ขับออกไปอีกรอบแล้วไปดักหน้ารถผม แล้วขับตบเข้ามาหารถผมอีกแล้วเบรกเพื่อให้ผมชน พอผมขับรถชนเขา ผมก็ลดกระจกเพื่อจะถามเขา แต่ไม่ทันจะได้ถามเขาเลย เขาก็ต่อยผม แล้วตรงขมับซ้ายของผมก็เหมือนโดนอะไรแข็งๆ แล้วผมก็ต่อยเขา จนเขาเลือดไหล”

“พอเห็นเขาเลือดไหลผมก็เลยถอยออกมา แล้วก็มีคนมาห้าม ผมก็เลยบอกว่าพอแล้วน้อง น้องเลือดไหลแล้ว ผมไม่ทำน้องแล้ว เขาก็เอะอะโวยวาย เอาเท้าถีบรถผม กระทืบ แล้วก็เอากระเป๋าของภรรยาผมเขวี้ยงทิ้ง แล้วปิดกุญแจแล้วตบหน้าภรรยาผม ตอนที่เขาต่อยหน้าผม ผมก็แค้นนะ แต่อย่าไปทำเขา (เสียงสั่น จนไวท์ลูกชายต้องยื่นมือมาจับขาพ่อเพื่อปลอบใจ ในขณะที่ไวท์และแม่ก็ร้องไห้ออกมาเช่นเดียวกัน) ผมก็กลัวไวท์เสียชื่อเสียงด้วย ผมก็เลยหยุดเพราะผมก็ไม่อยากทำเขาอีกแล้ว”

“ผมก็ไม่รู้ว่าเขามาทำผมทำไม ผมไม่ได้ปาดหน้าเขา ไม่ได้ไปทำอะไรเขาเลย เขามาทำแบบนี้กับผมทำไม ผมอยากถามเขาว่า มาทำผมทำไม ผมไม่ได้ไปทะเลาะอะไรกับเขาเลย ไม่ได้อะไรกับเขาสักอย่างเลยครับ พอเขาตบหน้าผมเขาก็ขับรถออกไป แล้วก็ถอยหลังมาชนรถผมอย่างแรง จนรถเลื่อนไปชนลูกน้องผมจนบริเวณเอวช้ำ แล้วเขาก็หนีเลย ผมก็เลยไปแจ้งความครับ”

“ตอนเขาลงมาจากรถ เขาไม่พูดอะไรเลย เขาต่อยอย่างเดียวเลย เหมือนเขาเป็นคนบ้า ตาเขา… แฟนเขายังบอกช่วยหนูด้วยๆ แฟนเขายังร้องไห้วิ่งหนีไปท้ายรถกระบะที่เห็นในคลิปเลยครับ พอจบแฟนเขาถึงวิ่งกลับมาพอเขาขึ้นรถไป”

พอไปแจ้งความตำรวจว่าไงบ้าง?
พ่อ : “เขาไม่ได้ว่าอะไรครับ เพราะว่าตอนแรกผมไม่รู้ทะเบียนรถเขาเพราะตกใจเลยจำไม่ได้ แต่ผมจำได้ว่าเจอเขาที่ปั๊มน้ำมันก็เลยขับรถกลับไปที่ปั๊ม เพื่อขอดูคลิปที่ปั๊มก็เลยรู้ทะเบียนรถเขา ตอนที่อยู่ที่ปั๊มผมก็ไม่เห็นหน้าเขาด้วยซ้ำ”

แม่ : “เหตุการณ์ตอนนั้นเขาขับรถมาเบรกเพื่อให้สามีชนรถเขา พอเขาชนเสร็จก็เหมือนที่สามีเล่าเลยค่ะ พอชนเสร็จเขาก็ลงมาจากรถ แล้วสามีก็ลดกระจกรถลง แล้วสามีก็ลงไปจากรถ แต่เรายังอยู่ในรถกับลูกน้อง พอลูกน้องบอกสามีเราโดนต่อย เราก็เลยลงไปจากรถเพื่อไปห้าม ก็บอกให้สามีออกมาเพราะเขาไม่ได้ใส่แมสก์ แล้วเราก็กลัวด้วย เราก็ต้องป้องกันตัวเอง เราก็ดันสามีออกมา คือขวางเลย”

“ก็ถามเขาวว่าพี่ไปทำอะไรให้น้องเหรอ ทำไมถึงมาทำอะไรแบบนี้กับพี่ ถ้าเกิดแฟนพี่ทำอะไรไปพี่ขอโทษ แต่เขาไม่ฟังเราเลย เหมือนเขาทำสามีเราไม่ได้ เขาก็ไปคว้าเอากระเป๋าเราที่อยู่ในรถไปโยนทิ้ง พอโยนทิ้งเขาก็มาตบเราเลย เราพยายามบอกว่าพอได้แล้ว เราไม่อยากจะมีเรื่องแล้ว อยู่ดีๆ มาตบเรา ก็งงมากค่ะ ตบแรงจนเราหูอื้อเลยค่ะ อารมณ์เขารุนแรงมาก ตอนนั้นไม่มีการปะทะคารมอะไรกันเลยค่ะ”

พ่อ : “ไม่มีเลยครับ ผมยังงงเลยว่าไปทำอะไรเขา ถ้าผมไปทะเลาะกับเขา ผมยังจะเป็นคนผิด แล้วผมก็ไม่ได้ไปปาดหน้ารถเขา เพราะรถเขาอยู่หลังรถผม เขาขับมาจี้ท้ายรถผมจนเกิดเรื่องครับ ไม่มีชนวนเหตุอะไรเลย ฝากผ่านสื่อด้วยนะครับว่าผมไปทำอะไรให้เขา แล้วเขามาตบหน้าเมียผมทำไม (ร้องไห้) ถ้าคุณเป็นลูกผู้ชายคุณออกมาพูด”

พอได้ทราบเรื่องไวท์รู้สึกยังไง?
ไวท์ : “รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากครับ แต่ที่ผมเสียใจมากก็คือคู่กรณีตบแม่ผมครับ แล้วผมเพิ่งทราบครับว่าคู่กรณีคนนี้ได้เอาค้อนตีหัวพ่อผมครับ (ร้องไห้) ผมรู้สึกว่ามันไม่สมควรครับ และผมได้ทราบมาว่า คู่กรณีของพ่อเป็นข้าราชการระดับสูงในกระบวนการยุติธรรมครับ ผมกลัวว่าถ้าวันนั้นพ่อและแม่ของผมเป็นอะไรขึ้นมา ใครจะช่วยเหลือผม ผมไม่รู้ว่าผมต้องทำยังไงเพราะผมก็ทำอะไรไม่ได้เพราะผมไม่ได้อยู่ในจุดเกิดเหตุตรงนั้น”

“ผมรู้สึกเสียใจมากที่คู่กรณีคนนั้นทำแบบนี้กับครอบครัวผมครับ ผมอยากให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวผมด้วยครับ (เห็นไวท์บอกว่าขอให้ใครที่มีหลักฐานในวันนั้นส่งมาให้ด้วย?) ใช่ครับ ผมรู้สึกว่าตัวผมเองอยากที่จะโพสต์สิ่งที่พ่อและแม่ผมได้เจอเรื่องราวนั้นมาเพื่อออกสื่อ ในการที่ใครที่เห็นเหตุการณ์ในวันนั้นช่วยส่งคลิปหรือส่งหลักฐานสำคัญมาให้ผม ผมก็เลยตัดสินใจโพสต์ลงไปเพราะว่าผมเสียใจและไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องราวแบบนี้กับครอบครัวผมครับ”

คู่กรณีอ้างว่า รู้จักไวท์ด้วย
ไวท์ : “พูดตรงๆ เลยนะครับ ผมไม่รู้ครับ และผมก็ไม่เคยเจอและไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อนเลยครับ แล้วเขามาพูดว่าเขารู้จักเพื่อนผม อันนี้ผมรู้สึกว่า… คือเขาจะรู้จักหรือไม่รู้จัก เขาก็ไม่มีสิทธิ์มาทำกับครอบครัวใครก็ได้แบบนี้ครับ”

มีคนส่งหลักฐานมาให้บ้างรึยัง?
พ่อ : “มีคนส่งมาให้แล้วครับ แต่เราขอปิดไว้ก่อนครับ”

พอไวท์เห็นภาพหลักฐานที่คนส่งมาให้ ไวท์รู้สึกยังไงบ้าง?
ไวท์ : “ผมเข้าใจครับว่า คุณพ่อผมและคู่กรณีคนนี้เขาอาจจะรู้สึกว่าบนท้องถนน อาจจะผิดทั้งคู่ในการที่ขับรถประมาทในระดับนึง แต่อย่างที่คุณพ่อผมบอกว่าไม่ได้ไปหาเรื่องเขา แล้วในเหตุการณ์ที่คุณแม่ผมโดนตบ คุณแม่ผมแค่จะเข้าไปห้ามเขา แต่ไม่ได้จะเข้าไปทำร้ายคู่กรณี ผมคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่คุณแม่ผมจะต้องโดนตบครับ แล้วเขายังมาทำลายข้าวของในรถ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า และกุญแจรถด้วยครับ”

คู่กรณีไปคอมเมนต์ด้วยว่าเรื่องจริงไม่ใช่อย่างนั้นเลย มันหนังคนละม้วน เดี๋ยวไปเจอกันที่ศาล ด้านทนายยอมรับว่ารู้สึกกังวลเพราะพ่อของคู่กรณีเป็นข้าราชการระดับสูงในกระบวนการยุติธรรม
ทนายไพศาล : “เบื้องต้นทางทีมทนายเรากำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี ผมทราบจากข่าวว่าคู่กรณีเคยมีข่าวเรื่องการทำร้ายพนักงานร้านโทรศัพท์ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ทำผิดซ้ำซาก ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และทราบมาว่าเป็นลูกของข้าราชการระดับสูงในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งทีมทนายเราก็มีความกังวลในเรื่องของการทำคดี เริ่มต้นตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวน”

“แต่ยังไงก็อยากให้เป็นอุทาหรณ์บนท้องถนนครับ เพราะว่าพฤติการณ์และพฤติกรรมไม่ยำเกรงกฏหมายเลย มีการจงใจขับรถหวาดเสียว ปาดหน้า แล้วถอยหลังมาให้ชน ซึ่งพยานหลักฐานทั้งหมดเราจะไปพิสูจน์กันในศาล (หลักฐานที่เรามีเรามั่นใจมั้ยว่าจะชนะคดี?) ก็ให้ศาลเป็นผู้ตัดสินครับ ต้องอธิบายแบบนี้ว่า จากที่ทราบในข่าวทางคู่กรณีมีการกระทำผิดหลายครั้งแล้ว ก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่เขาจะมั่นใจ แต่ในทางเรากำลังรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ และเราเชื่อว่าเราเป็นผู้บริสุทธิ์แล้วเขาจะต้องได้รับการลงโทษ อันนี้ก็อยู่ในดุลพินิจของศาลตามพยานหลักฐาน ทางผู้เสียหายยืนยันแล้วว่าดำเนินคดีถึงที่สุดแน่นอน”

“เบื้องต้นเราได้ข้อมูลมาว่ามีการใช้ค้อนเป็นอาวุธในการทำร้ายด้วย ซึ่งสามารถเล็งเห็นได้ว่าเขาประสงค์ให้มีการบาดเจ็บสาหัส หรือประสบถึงชีวิต ซึ่งในข้อกว่าหาตรงนี้อยู่ในชั้นของพนักงานสอบสวนครับ แต่ข้อกล่าวหาหลักๆ เลยคือทำร้ายร่างกายคุณแม่ และการขับรถประมาทหวาดเสียว”

ข้อกล่าวหาทั้งหมดโทษหนักแค่ไหน?
ทนายไพศาล : “ข้อกล่าวหาที่คุณทนายแจ้งไปนั้นยังเป็นข้อกล่าวหาที่ยังไม่หนัก แต่ข้อกล่าวหาเบื้องต้นที่มีการใช้ค้อนในการตีไปที่อวัยวะสำคัญ มันเป็นข้อหาหนักแต่ขอยังไม่บอก เดี๋ยวขอรวบรวมพยานหลักฐานก่อน ซึ่งพฤติการณ์พฤติกรรมไม่ยำเกรงต่อกฏหมายบ้านเมือง คือไม่สำนึก แล้วทราบจากข่าวคู่กรณีเป็นลูกของข้าราชการระดับสูงของกระบวนการยุติธรรมด้วย ซึ่งผู้เสียหายก็มีความกังวลในเรื่องของคดีว่าเขาจะได้รับความยุติธรรมไหม”

คู่กรณีอ้างป่วย
“แล้วที่ผมทราบจากข่าวเขาอ้างตนว่าป่วย แต่ในตอนที่เกิดเหตุมีสติพูดรู้เรื่องหมดนะ ฉะนั้นมันอ้างไม่ได้ มันฟังงไม่ขึ้นนะครับ หลังเสร็จรูปคดีทางนี้จะแถลงข่าวอีกครั้งครับ แต่คดีนี้มีโทษหนักแน่นอน เพราะอาวุธที่ใช้ตีไปที่อวัยวะสำคัญด้วย ประสงค์ต่อผลเลยนะครับ อาจจะถึงชีวิตเลย แล้วทราบจากข่าวว่าเขาเคยก่อเหตุแบบนี้มาแล้ว และมีการยอมรับผิดแล้ว และมีการให้ข่าวไปแล้วว่าจะไม่ทำอีก แต่ก็ยังทำอีกนะครับ พฤติกรรมทำผิดซ้ำซาก ไม่สำนึกไม่ยำเกรงกฎหมาย แล้วยังเป็นลูกของข้าราชการระดับสูงด้วย เดี๋ยวต้องพิสูจน์กันในศาลครับ”

“ก็ต้องฝากสื่อให้ช่วยติดตามครับ ผมขอยกตัวอย่างไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้นะ ถ้ามีบุคคลยกตัวว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ เป็นผู้มีชื่อเสียง เป็นผู้มีอำนาจ เป็นคนรวย แล้วจะทำแบบนี้กับใครก็ได้ ผมถามกลับนักข่าวว่ามันทำได้หรือไม่ มันถูกต้องไหม สังคมจะอยู่ยังไง ความสงบเรียบร้อยในสังคมจะเกิดยังไง”

“อีกประเด็นนึง ถ้ามีการกล่าวอ้างว่าป่วย มีบัตรจิตเวช มีการได้รับการรักษา แล้วปล่อยปละให้ออกมาทำแบบนี้ในสังคม ไปทำคนอื่น แล้วเราจะอยู่กันยังไงครับ คนป่วยต้องได้รับการรักษานะครับ ต้องมีผู้ดูแลนะครับ ผมสมมตินะครับว่าถ้าเขาไปโดนคนอื่นทำร้ายจนถึงตาย โดนกระทืบตายข้างถนน แล้วผู้ดูแลเขาจะไม่เสียใจเหรอครับ ฉะนั้น ผมอยากให้ดูแลพาไปรักษาครับ แต่อันนี้มันเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นในส่วนของรูปคดี เพราะการกระทำมีสติ พูดรู้เรื่องทุกอย่างนะครับ”

หลังจากที่ไวท์โพสต์เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คู่กรณีก็ไดเรกแมสเสจมาหา
ไวท์ : “หลังจากที่ข่าวลงไป เขาได้ส่งไดเรกแมสเสจมาหาผม และได้เข้ามาโพสต์ไอจีผมต่างๆ นานา ผมก็กลัวครับ ยิ่งรู้ว่าเขาเป็นลูกข้าราชการระดับสูงก็ยิ่งกลัวครับ เขาก็ส่งข้อความมาว่า เป็นดาราอย่าโง่ คิดว่าพ่อแม่ถูกมากใช่ไหม ไปคุยกันในชั้นศาล เดี๋ยวคุณก็รู้ เขาก็ขู่ในทำนองนั้นครับ (ไวท์รู้สึกว่าข้อความที่เขาส่งมาส่วนตัวเป็นการข่มขู่เรา?) ใช่ครับ”

ทนายไพศาล : “ทางครอบครัวกลัวมากนะ เขาเป็นลูกข้าราชการระดับสูง หนึ่งกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม สองกลัวรูปคดีไม่เป็นข้อเท็จจริง วันนี้หลังจากแถลงข่าวเสร็จทางทีมทนายจะพาผู้เสียหายไปให้การเพิ่มเติมที่ สน.ท้องที่เกิดเหตุครับ อยากให้สื่อมวลชนสร้างบรรทัดฐานให้สังคมครับ ยอมรับว่าทางทีมทนายก็กังวล มันอาจจะมีผล แต่เหนืออื่นใดคือข้อเท็จจริงครับ ความจริงก็คือความจริงครับ อยากให้สังคมและสื่อมวลชนช่วยจับตาดูคดีนี้ว่าจะจบยังไง เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรก มันหลายครั้งแล้ว”

ไม่ขอไกล่เกลี่ย เอาเรื่องให้ถึงที่สุด
พ่อ : “ไม่ครับ ผมจะทำให้เขารู้ว่าอย่าไปทำกับคนอื่นอีก เพราะผมเห็นเขาทำกับคนอื่นมาหลายครั้งแล้ว ผมอยากจะฝากบอกเขาว่าออกมาพูดความจริง แล้วคุณทำผมเพื่ออะไร ผมไม่ได้ไปทำอะไรคุณเลย ผมอยากจะถามเขาว่าคุณมาทำผมทำไม แค่นี้เองครับ (ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด?) ครับ”

ไวท์ : “เขาทะเลาะกับพ่อผม ผมเข้าใจ แต่ที่ผมไม่เข้าใจก็คือเขาตบแม่ผม ผมเสียใจมากและผมจะดำเนินคดีเรื่องนี้ให้ถึงที่สุดครับ (อยากบอกอะไรเขา?) อย่างที่คุณบอกกับพี่นักข่าวเมื่อวานว่า ถ้าคุณรู้ว่าสองคนนี้คือพ่อแม่ของผมแล้วคุณจะไม่ทำ มันไม่ใช่หรอกครับ ถ้าเป็นพ่อแม่คนอื่น คุณก็ไม่สมควรทำครับ”
 

18064
ห้องซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนของจิปาถะ / Hot Promotion!!!
« เมื่อ: สิงหาคม 02, 2021, 02:09:18 pm »
ราคาดีมากกก!!!!!!!!

18065


นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการและใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่องและแข็งขัน ตลอด 7 ปีที่ผ่าน กว่าจะประสบผลสำเร็จดังกล่าว โดยเฉพาะล่าสุดในการเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ 44 (WHC 44) ของคณะผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ อย่างต่อเนื่องทุกวัน กว่า 2 สัปดาห์ ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างวันที่ 16 – 31 กรกฎาคม 2564

ที่ประชุม WHC 44 ได้พิจารณาการขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแหล่งใหม่ จำนวนทั้งสิ้น 34 แหล่ง พิจารณารายงานสถานภาพการอนุรักษ์ (SoC) จำนวน 256 แหล่ง และรับรองข้อตัดสินใจ จำนวน 332 ข้อ

เมื่อวันที่ 26 กรกฏาคม 2564 วาระการขึ้นทะเบียนกลุ่มป่าแก่งกระจาน (KKFC) ได้รับการพิจารณา และที่ประชุม WHC 44 มีมติเห็นชอบขึ้นทะเบียนกลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลก ภายใต้เกณฑ์ข้อ 10 ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ โดยได้ตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าความโดดเด่นอันเป็นสากล (Outstanding Universal Values – OUV) ของผืนป่ากลุ่มป่าแก่งกระจาน และเล็งเห็นความมุ่งมั่นของไทยในการส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และความพยายามผลักดันการขึ้นทะเบียนอย่างต่อเนื่องและแข็งขันในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งการปฏิบัติตามข้อมติและข้อแนะนำของที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกอย่างครบถ้วน ได้แก่ การส่งเสริมการรับรู้และการมีส่วนร่วมของชุมชนในการขึ้นทะเบียน และการปรับขอบเขตพื้นที่นำเสนอตามที่หารือกับเมียนมา

นอกเหนือจากความสำเร็จในครั้งนี้แล้ว ที่ประชุม WHC 44 ยังมีมติเลือกไทยเป็นหนึ่งในรองประธานการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ 45 (WHC 45) ภายใต้การดำรงตำแหน่งประธานของรัสเซีย โดยการประชุม WHC 45 จะจัดขึ้น ณ เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย ซึ่งถือเป็นเกียรติยศและความมั่นใจที่ไทยได้รับจากเวทีการประชุมระดับชาติอีกด้วย

กระทรวงการต่างประเทศ โดยกรมองค์การระหว่างประเทศ ขอขอบคุณกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสถานเอกอัครราชทูตไทยที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส และนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทนไทยในคณะกรรมการมรดกโลก ที่ทำงานอย่างแข็งขัน "ในการหาเสียงสนับสนุนจากประเทศสมาชิกคณะกรรมการมรดกโลก 20 ประเทศ" 


นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทย ได้มีการจัดการดูแลความเป็นอยู่ของชนกลุ่มน้อยในพื้นที่เป็นอย่างดี และทุกคนก็มีความเป็นอยู่ดีขึ้นตามลำดับ โดยรัฐบาลไทยได้ดำเนินการทุกอย่างตามคำแนะนำที่ไอยูซีเอ็น และประเทศอื่นๆ ที่แสดงความเป็นห่วงติติง จากการประชุมครั้งที่ผ่านมาเป็นอย่างดีแล้ว

หลังจากนั้น ก็มีผู้แทนจากประเทศ อียิป เอธิโอเปีย และประเทศโอมานขึ้นกล่าวสนับสนับสนุนให้ป่าแก่งกระจานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยผู้แทนจากประเทศโอมานระบุว่า ประเทศไทย เป็น 1 ใน 5 ของโลกที่มีการจัดการพื้นที่ป่าเป็นอย่างดี และมีผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ โดยมีพืชและสัตว์ป่าที่มีความสำคัญมากกว่า 700 ชนิด

สื่อต่างประเทศ รายงานว่า ประเทศภาคีสมาชิกอื่นๆ ที่สนับสนุนให้กลุ่มป่าแก่งกระจานขึ้นเป็นมรดกโลก ได้แก่ จีน ซาอุดีอาระเบีย สเปน ออสเตรเลีย มาลี บราซิล ไนจีเรีย เมียนมา และกัวเตมาลา

อย่างไรก็ตาม ทีมประเทศไทยต้องขอขอบคุณมิตรประเทศสมาชิกคณะกรรมการมรดกโลกที่ให้การสนับสนุนการขึ้นทะเบียนกลุ่มป่าแก่งกระจานของไทย

นายธานี กล่าวย้ำว่า กระทรวงการต่างประเทศยืนยันความมุ่งมั่นของไทย ที่จะทำงานร่วมกับศูนย์มรดกโลกในการดูแลรักษาแหล่งมรดกโลก และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการบริหารและอนุรักษ์พื้นที่ พร้อมทั้งพัฒนาความเป็นอยู่ของชุมชนในพื้นที่ต่อไป ตลอดจนมุ่งส่งเสริมแนวคิด “Sustainability of Things” หรือการปรับกระบวนทัศน์ในการดำรงชีวิตให้มีความยั่งยืนมากขึ้น เสริมสร้างสังคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และส่งเสริมความสมดุลระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952233

18066


"แพตตี้" พิมพ์รดา จัตวาพรวนิช นักหวดสาวดาวรุ่งไทย วัย 17 ปี มืออันดับ 108 เยาวชนโลก สร้างผลงานชิ้นโบว์แดงในการลงเล่นบนแผ่นดินยุโรป ด้วยการคว้าแชมป์ประเภทหญิงเดี่ยว จากการแข่งขัน ไอทีเอฟ เวิลด์ เทนนิส ทัวร์ จูเนียร์ เก็บคะแนนสะสมอันดับเยาวชนโลก รายการ "เจ ทรี พอซนัน 2021" ศึกคอร์ตดิน ที่ประเทศโปแลนด์ เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2564

ประเภทหญิงเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ "แพตตี้" ในฐานะมือวางอันดับ 1 ของรายการ ต้องออกแรงดวลกับ ซอนย่า แมคอะเว มืออันดับ 290 เยาวชนโลก จากสหรัฐอเมริกา ถึง 3 เซต โดยในแมทช์นี้ พิมพ์รดา แสดงให้เห็นถึงจิตใจที่แข็งแกร่ง หลังพลิกสถานการณ์จากเป็นฝ่ายตามหลังคู่แข่ง 3-5 ในเซตตัดสิน ก่อนจะเป็นฝ่ายแซงและเอาชนะเหนือนักหวดดาวรุ่งชาวอเมริกัน ไปได้ 2-1 เซต 6-3, 4-6 และ 7-5 คว้าแชมป์ประเภทหญิงเดี่ยวมาครองได้สำเร็จ ซึ่งนับเป็นการได้แชมป์คอร์ตดินเป็นครั้งแรกของเจ้าตัวด้วย

นอกจากนี้ พิมพ์รดายังเก็บคะแนนสะสมอันดับโลกเยาวชนเพิ่มอีก 100 คะแนนจากการคว้าแชมป์หญิงเดี่ยว และอีก 27 แต้ม จากการผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศในประเภทหญิงคู่

หลังการแข่งขัน "แพตตี้" กล่าวว่า ดีใจมากที่ทำสำเร็จ ก่อนหน้านี้เคยได้แชมป์ระดับเยาวชนนานาชาติมาแล้ว แต่ไม่เคยได้ในยุโรป รายการนี้จึงเป็นแชมป์แรกในยุโรปและยังเป็นแชมป์คอร์ตดินรายการแรกนับตั้งแต่เล่นเทนนิสมาด้วย ภูมิใจมากที่ทำสำเร็จ หลังจากที่ไม่ได้ออกแข่งขันมานาน เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ต้องขอขอบคุณผู้สนับสนุน ปตท. หรือ พีทีที, สมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ, นายประเสริฐ พุ่งกุมาร ประธานกรรมการบริษัท ซีพีพีซี จำกัด (มหาชน) และนายธนกร ตั้งพูนผลวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อเวนโก้ซอฟต์ จำกัด ที่ให้การสนับสนุน รวมทั้งขอบคุณ นายเชษฐพันธ์ มากสัมพันธ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ที่ใจดีมาก ส่งอาหารมาให้ตลอด และคนไทยในโปแลนด์ที่ให้ความช่วยในเรื่องต่างๆ สำหรับรายการต่อไป จะอยู่แข่งต่อที่โปแลนด์อีก 2 รายการคือ "เจ ทรี โซบาต้า" ระหว่างวันที่ 4-8 ส.ค. และ "เจ ทรี คราคอฟ" ระหว่างวันที่ 11-15 ส.ค.

https:// m.mgronline.com/sport/detail/9640000075294

18067


ธนาคารยูโอบี ประเทศไทยรวมใจพนักงานและลูกค้าระดมเงินบริจาคกว่า 5 ล้านบาทในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาเพื่อมอบให้แก่สภากาชาดไทยนำไปซื้อชุดอุปกรณ์ยังชีพและของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน สำหรับมอบให้กับผู้ยากไร้ที่ต้องกักตัวที่บ้านตามมาตรการป้องกันโควิด-19

โดยในโครงการ #รวมใจสู้ไปพร้อมคุณ เพื่อสู้ภัยโควิต-19 นั้น ทุกเงินบริจาค 1 บาทจากพนักงาน ธนาคารจะสมทบอีก 1 บาท สูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท นอกจากนี้ ลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิตยูโอบียังร่วมบริจาคคะแนนสะสมบัตรเครดิตยูโอบี โดยคะแนนสะสมทุก 1,000 คะแนนเปลี่ยนเป็นเงินบริจาคได้ 120 บาท

มร. ตัน ชุน ฮิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “เรากำลังเผชิญกับโรคระบาดที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยบันทึกในประวัติศาสตร์ และชุมชนไม่เคยต้องการความช่วยเหลือและการดูแลมากเท่านี้มาก่อน ผมขอขอบคุณเพื่อนพนักงานและลูกค้าสำหรับน้ำใจที่มอบให้ในช่วงเวลาแห่งความท้าทายนี้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเงินบริจาคของเราที่ส่งมอบให้สภากาชาดไทยจะมีส่วนช่วยเพื่อนพี่น้องที่ตกทุกข์ได้ยากให้ก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปได้”

โครงการระดมเงินบริจาคนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการยูโอบี ฮาร์ทบีท เพื่อสู้ภัยโควิด-19 อันเป็นความคิดริเริ่มภายใต้โครงการ #รวมใจสู้ไปพร้อมคุณ ของกลุ่มธนาคารยูโอบีทั่วโลกที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โครงการนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือชุมชนในระยะยาวของกลุ่มธนาคารในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากนี้

18070



"เลขเด็ด" สถิติ "ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล" งวดวันที่ 1 สิงหาคม ย้อนหลัง 10 ปี "หวย1/8/64" ออกตัวไหนบ้างเช็คที่นี่!

ใกล้ถึงวันออก “ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล” งวดประจำวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ แล้ว “กรุงเทพธุรกิจออนไลน์” จึงได้รวบรวมผล “หวย” ที่เคยออกย้อนหลัง 10 ปี มาให้เป็นตัวเลือกสำหรับนักเสี่ยงโชค "หวย1/8/64" ได้เช็คกันดู ดังต่อไปนี้

งวดวันที่ 1 ส.ค. 63

รางวัลที่ 1 : 569391
เลขท้าย 2 ตัว : 92
เลขหน้า 3 ตัว : 931, 575
เลขท้าย 3 ตัว : 809, 578

งวดวันที่ 1 ส.ค. 62

รางวัลที่ 1 : 387006
เลขท้าย 2 ตัว : 58
เลขหน้า 3 ตัว : 135, 983
เลขท้าย 3 ตัว : 795, 562

งวดวันที่ 1 ส.ค.61

รางวัลที่ 1 : 386602
เลขท้าย 2 ตัว : 78
เลขหน้า 3 ตัว : 832, 903
เลขท้าย 3 ตัว : 549, 726


งวดวันที่ 1 ส.ค.60

รางวัลที่ 1 : 756519
เลขท้าย 2 ตัว : 36
เลขหน้า 3 ตัว : 386, 061
เลขท้าย 3 ตัว : 989, 787

งวดวันที่ 1 ส.ค.59

รางวัลที่ 1 : 272932
เลขท้าย 2 ตัว : 57
เลขหน้า 3 ตัว : 538, 983
เลขท้าย 3 ตัว : 871, 472

งวดวันที่ 1 ส.ค.58

รางวัลที่ 1 : 518677
เลขท้าย 2 ตัว : 53
เลขท้าย 3 ตัว : 333, 598, 648, 889

งวดวันที่ 1 ส.ค.57

รางวัลที่ 1 : 766391
เลขท้าย 2 ตัว : 82
เลขท้าย 3 ตัว : 349, 576, 623, 637

งวดวันที่ 1 ส.ค.56

รางวัลที่ 1 : 356435
เลขท้าย 2 ตัว : 82
เลขท้าย 3 ตัว : 880, 451, 718, 329

งวดวันที่ 1 ส.ค.55

รางวัลที่ 1 : 895590
เลขท้าย 2 ตัว : 50
เลขท้าย 3 ตัว : 820, 599, 796, 745


งวดวันที่ 1 ส.ค.54

รางวัลที่ 1 : 218756
เลขท้าย 2 ตัว : 12
เลขท้าย 3 ตัว : 221, 583, 660, 703

18071


โอเอช ลูเวิน ลงสนามในเกมจูปิแลร์ โปรลีก นัดที่ 2 ของฤดูกาลบุกไปเสมอกับ เซอร์เคิ่ล บรูจ 1-1 เก็บเพิ่มอีกหนึ่งแต้ม เป็นการเสมอติดต่อกัน 2 นัด ในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลนี้

มาร์ค บรีส์ เปลี่ยนผู้เล่นแค่คนเดียวจากเกมเปิดบ้านเสมอ ซูลเต้ วาเรเก็ม โดยส่ง ทูน เรแมเคอร์ส ลงเล่นแทน หลุยส์ พาทริส ในตำแหน่งกองหลัง

เริ่มเกมเจ้าบ้าน ที่ชนะ ลูเวิน มารวดในการพบกัน 2 นัดหลังสุดเป็นฝ่ายที่ทำได้ดีกว่า แต่เป็น ลูเวิน ที่ออกนำไปก่อนจากจังหวะที่ ซาเวียร์ แมร์ซิเอร์ จ่ายทะลุช่องให้ โธมัส อองรี หลุดเข้าในเขตโทษยิงขึ้นนำ 1-0 เป็นการยิง 2 ประตูจาก 2 นัดแรกของ อองรี ด้วย

ครึ่งหลังแม้ ลูเวิน จะเป็นฝ่ายครอง.ได้มากกว่า หาโอกาสทำประตูได้มากกว่า แต่กลับเป็น เซอร์เคิ่ล บรูจ ที่มาได้ประตูตีเสมอ จากการขึ้น.ทางขวาของ วิตินโญ่ แบ็กจอมลุยชาวบราซิล ที่เปิด.เข้ากลาง และแนวรับ ลูเวิน เคลียร์.ไม่ขาด .ไปเข้าทาง วัลโด รูบิโอ มาร์ติน ตวัดยิงเข้าไป เสมอกันที่ 1-1

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่านัดนี้ยังคงไม่มีรายชื่อของ "ตอง" กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นายทวารทีมชาติไทย ทั้งตำแหน่งตัวจริง และตัวสำรองเป็นนัดที่ 2 ติดต่อกัน แม้จะมีรายงานว่าเจ้าตัวยังพร้อมจะอยู่แย่งชิงตำแหน่งต่อไปก็ตาม

สำหรับ โอเอช ลูเวิน เก็บได้ 2 คะแนนจาก 2 นัดยังอยู่อันดับที่ 10 ของตาราง ส่วนเซอร์เคิ่ล บรูจ มี 4 คะแนนจาก 2 นัดขึ้นไปเป็นรองจ่าฝูง

ขณะที่นัดต่อไป ลูเวิน จะกลับมาเล่นในบ้านพบกับ สปอร์ติ้ง ชาร์เลอรัว วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม 2564 เวลา 21.00 น.

18072



นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานการเตรียมส่งออกข้าวไทยจำนวน 44,000 ตัน ไปยังอิรักเป็นครั้งแรก ในรอบ 7 ปี เรียกคืนความเชื่อมั่นข้าวไทยในตลาดอิรัก โดยรัฐบาลพร้อมผลักดันภาคเอกชน และผู้ส่งออกไทย เปิดตลาดข้าวไทยในประเทศใหม่ๆ เพิ่มเติมจาก 3 ตลาดหลัก ได้แก่ ตลาดพรีเมียม ตลาดทั่วไป และตลาดเฉพาะ ซึ่งการส่งออกข้าวไปอิรักครั้งนี้ ยังจะส่งผลดีแก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวอีกด้วย

โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ข้าวขาว 100% ของไทยจำนวน 44,000 ตัน ซึ่งจะส่งออกไปในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ ถือเป็นข้าวไทยล็อตแรกที่ถูกส่งออกไปยังตลาดอิรักในรอบ 7 ปี หลังจากที่อิรักได้ระงับการนำเข้าข้าวจากไทย ซึ่งคาดว่าหลังจากนี้ ผู้ส่งออกไทยจะสามารถส่งออกข้าวไทยไปยังอิรักได้ต่อเนื่อง รวมทั้งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนให้ผู้ส่งออกไทยทำการตลาดสินค้าเกษตรไทยในประเทศเอเชีย ตะวันออกกลาง และภูมิภาคอื่นๆอย่างต่อเนื่อง 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กำชับให้กระทรวงพาณิชย์เร่งประชาสัมพันธ์ข้าวและสินค้าเกษตรไทย เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดโลก ทดแทนความต้องการบริโภคภายในประเทศที่ชะลอตัวจากภาวะเศรษฐกิจและวิกฤตโควิด-19

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952147

หน้า: 1 ... 1002 1003 [1004] 1005 1006 ... 1011