แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Shopd2

หน้า: 1 ... 875 876 [877] 878 879 ... 889
15769


ชลธิชา แสงพันธุ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ บริษัท แอนะลิติสต์ จำกัด ผู้สร้างแพลตฟอร์ม GROWTHai ระบุว่า อยากให้แพลตฟอร์ม GROWTHai ซึ่งเกิดจากบริษัทคนไทย 100% นี้เป็นตัวแทนของคนไทยที่จะไปเรียนรู้ แบ่งปัน และในทางกลับกันเป็นโอกาสไปรับความรู้จากสตาร์ทอัป CDP จากทั่วโลก และมุ่งเน้นสร้างความสัมพันธ์เพื่อขยายธุรกิจร่วมกันในอนาคตอีกด้วย 

“ธุรกิจไทยต้องมีเครื่องมือทางการตลาดที่ชาญฉลาด และเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยอย่างแท้จริง สังเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทันเวลา และที่สำคัญอยู่ในงบประมาณที่คุ้มการลงทุนได้ในระยะเวลาอันสั้น”



สำหรับ GROWTHai คือ CDP (Customer Data Platform) ซึ่งนับเป็น MarTech (Marketing Technology) ที่จะเข้ามายกระดับการตลาดไทยนำทุกธุรกิจมุ่งสู่ Growth Marketing อย่างแท้จริง หรือในเชิงเทคนิค GROWTHai คือ เครื่องมือการตลาดแบบอัตโนมัติ ขับเคลื่อนด้วยผลดาต้าที่มาจากการวิเคราะห์เชิงลึกในแบบเรียลไทม์

ภายในจะประกอบด้วย GROWTHai Predict ในการวิเคราะห์คอนซูเมอร์อินไซต์ เพื่อหาความต้องการใหม่ๆ จนถึงคาดการณ์ความต้องการแบบเรียลไทม์ GROWTHai Customer 360 รวมทุกข้อมูลจากทุกช่องทางเข้าด้วยกัน GROWTHai Segment ในการแบ่งกลุ่มลูกค้าแบบอัตโนมัติ

รวมถึง GROWTHai Lottovip Automation ในการสร้างประสบการณ์ใช้งานที่ดีที่สุดให้ลูกค้าในแต่ละกลุ่มมแบบอัตโนมัติ และที่สำคัญคือระบบรักษาความปลอดภัย GROWTHai Protection ที่มีการคำนึงถึงสิทธิในการใช้งานข้อมูล การบริหาร จัดเก็บแบบอัตโนมัติ

15770
6 วัน 6 วิชา ก้าวแรกของการขายของออนไลน์ จบรู้เรื่องในคอร์สเดียว เพียง 98 บาท

15771


เมื่อ ครม. เคาะเยียวยาประกันสังคม ม.33 ให้อีก 1 เดือน ทำให้ผู้ประกันตนทุกกลุ่ม (ม.33 ม.39 ม.40) ใน 13 จังหวัดสีแดงเข้ม มีสิทธิได้รับเงินเยียวยารวม 2 เดือน หลัง "เช็คสิทธิ" ประกันสังคมแล้ว ต้องรู้ไทม์ไลน์วันโอนเงิน รอบ 2 ว่าเงินจะเข้าวันไหน?

มาตรการเยียวยา "ประกันสังคม" ที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564 มาจนถึงวันนี้ รวมระยะเวลากว่า 2 เดือนแล้ว และยังคงดำเนินการต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เพื่อเยียวยาผู้ประกันตน ม.33 ม.39 ม.40 ในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมโควิด-19 ของภาครัฐ ในช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านมา

แต่รู้หรือไม่? ผู้ประกันตน ม.33 ม.39 ม.40 ในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัดจะได้ "เงินเยียวยา" ไม่เท่ากัน! บางจังหวัดจะได้เยียวยา 2 เดือน บางจังหวัดได้เยียวยาเพียงเดือนเดียว 

กลุ่มจังหวัดที่ได้เยียวยาเพิ่มเป็นสองเดือน และกำลังจะได้รับเงินในรอบ 2 นั้น มีจังหวัดไหนบ้าง? และจะได้รับโอนเงินวันไหน? เช็คคำตอบที่นี่! 

 

ม.33 ม.39 ม.40 จังหวัดไหนได้เงิน รอบ 2 บ้าง?
ผู้ประกันตนทั้ง ม.33 ม.39 ม.40 บางจังหวัดจะได้รับเงินเยียวยาเพิ่มอีก 1 เดือน รวม เป็น 2 เดือน โดยเงื่อนไขของผู้ที่จะได้เงินในรอบ 2 นั้น ต้องเป็นผู้ประกันตนที่อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัดเท่านั้น (10+3) ได้แก่ กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา

เนื่องจากทั้ง 13 จังหวัด ถูกสั่งปิดกิจการ/กิจกรรม หรือ ล็อกดาวน์ อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม

ส่วนผู้ประกันตน มาตรา 33 ในพื้นที่ 16 จังหวัดสีแดงเข้มที่เพิ่มมาใหม่ เป็นกลุ่มจังหวัดที่เพิ่งถูกสั่งปิดกิจการ/กิจกรรม ทีหลังในช่วงเดือนสิงหาคม จึงได้สิทธิเงินเยียวยาเพียง 1 เดือน (ไม่ได้สิทธิในรอบ 2)

 


 

กลุ่มที่ได้เงิน รอบ 2 เงินจะเข้าวันไหน?
สำหรับไทม์ไลน์วันโอนเงินเยียวยา รอบที่ 2 ให้แก่ผู้ประกันตนทั้ง ม.33 ม.39 ม.40 ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด มีรายละเอียด ดังนี้

ม.33 : หลังจากที่ ครม.ไฟเขียวให้เงินเยียวยา ผู้ประกันตน ม.33 ในพื้นที่ 13 จังหวัดสีแดงเข้ม เป็นรอบที่ 2 อีกคนละ 2,500 บาท เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการ โฆษกสำนักงานประกันสังคมคาดว่า ผู้ประกันตนกลุ่มนี้จะได้รับโอนเงินภายในเดือนกันยายน 2564 

ม.39-40 : ก่อนหน้านี้ในวันที่ 30 ส.ค. ที่ผ่านมา นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.กระทรวงแรงงาน เคยระบุไว้ว่า ครม. เห็นชอบให้ขยายการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกันตน ม.39-40 ในพื้นที่ 13 จังหวัดสีแดงเข้ม โดยจะได้รับสิทธิเยียวยาเพิ่ม 5,000 บาทต่อคน อีก 1 เดือน รวมเป็น 2 เดือน กลุ่มนี้ก็จะได้รับโอนเงินในรอบ 2 ภายในเดือนกันยายน 2564 นี้เช่นกัน

 


 

ถาม-ตอบ ประเด็นเงินเยียวยารอบ 2 จากประกันสังคม
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลจาก เพจแจ้งข่าวประกันสังคม ที่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีการโอนเงินเยียวยา รอบ 2 ให้แก่ผู้ประกันที่มีสิทธิในพื้นที่ 13 จังหวัดสีแดงเข้ม (ข้อมูล ณ 6 ก.ย. 64) โดยระบุไว้ดังนี้

ถาม : ม.39-40 ที่มีสิทธิได้เงินเยียวยา รอบ 2 โอนเงินวันไหน? 
ตอบ : ยังไม่ระบุวันที่ที่แน่ชัด แต่จะดำเนินการภายในเดือนกันยายน 2564 นี้
เช็คสิทธิ ‘ประกันสังคม’ ม.33 ม.39 ม.40 รอบ 2 โอนเงินวันไหน?

ถาม : ม.33 ที่มีสิทธิได้เงินเยียวยา รอบ 2 โอนเงินวันไหน? 
ตอบ : รอวันที่ 7 ก.ย. 64 เอาข้อเสนอเข้าที่ประชุม ครม. (ล่าสุด 7 ก.ย. 64 ครม. เคาะให้เงินเยียวยากลุ่ม ม.33 เพิ่มอีก 1 เดือนแล้ว คาดว่าจะโอนจ่ายได้ภายในเดือนกันยายน 2564)
 

ถาม : ผู้ประกันตน ม.40 ในพื้นที่ 19 จังหวัด (3+16) จ่ายเงินสมทบงวดแรกไปแล้วในวันที่ 1-24 ส.ค.64 แต่ยังไม่ได้สิทธิ?
ตอบ : ให้รอตรวจสอบสิทธิในระบบอีกครั้ง ภายในวันที่ 7-10 ก.ย. 64 ใครที่ยังไม่ขึ้นเป็นผู้กันตนในระบบสมาชิกประกันสังคม ให้ทยอยเช็คสิทธิเรื่อยๆ เพราะระบบจะทยอยอัพข้อมูลสิทธิขึ้นในระบบประกันตนอย่างต่อเนื่อง สามารถเช็คสถานะผู้ประกันตนได้ที่ : ระบบสมาชิกผู้ประกันตน 
ส่วนใครที่มีสถานะขึ้นเป็นผู้ประกันตนในระบบสมาชิกแล้ว ให้รอเช็คสิทธิรับเงินเยียวยา ในวันที่ 7 ก.ย. 64 เป็นต้นไป เช็คสิทธิได้ที่นี่ : ตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยาฯ (ผู้ประกันตน ม.40)

 

ถาม : ม.40 กลุ่ม 10 จังหวัด ที่สมัครเป็นผู้ประกันตนหลัง 31 ก.ค.64 และจ่ายเงินสมทบหลัง 10 ส.ค.64 จะได้รับสิทธิเงินเยียวยาหรือไม่?
ตอบ : ไม่ได้รับเงินเยียวยา (ไม่ต้องทบทวนสิทธิ)
 

ถาม : ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตน ม.40 มาก่อนแล้ว และจ่ายเงินสมทบมาตลอด แต่ไม่ได้สิทธิ?
ตอบ : ให้ตรวจสอบข้อมูลของท่านว่าถูกต้องหรือไม่ มีการเปลี่ยนชื่อ/คำนำหน้าหรือไม่ ถ้าชื่อถูกต้อง ให้นำสลิปการจ่ายเงินสมทบของเดือนกรกฎาคม 2564 ไปยื่นทบทวนสิทธิที่สำนักงานประกันสังคมในพื้นที่ที่อาศัยอยู่ได้เลย
 

ถาม : เป็น ม.40 ในพื้นที่ 13 จังหวัด (10+3) และจ่ายเงินสมทบแล้ววันที่ 2 ส.ค.64 แต่ไม่ได้รับสิทธิ?
ตอบ : ให้ยื่นทบทวนสิทธิได้เลย ไม่ต้องรอ สามารถโหลดแบบฟอร์มเพื่อยื่นทบทวนสิทธิโหลดได้ที่นี่ : แบบฟอร์มขอทบทวนสิทธิผู้ประกันตน มาตรา 39-40
 

ถาม : กรณีเปลี่ยนชื่อ หรือย้ายที่อยู่ จะได้เงินเยียวยาไหม?
ตอบ : ให้เช็คสถานะอีกครั้งในวันที่ 7-10 ก.ย. 64 หากยังพบว่าไม่ได้รับสิทธิ แต่เข้าเกณฑ์ว่าอยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด ให้เตรียมหลักฐานว่าทำงานพื้นที่นี้จริงๆ พร้อมเอกสารประจำตัวไปยื่นที่ ปกส. ณ ที่อยู่ปัจจุบัน พร้อมยื่นแบบขอทบทวนสิทธิด้วย

15772


SONIC มั่นใจรายได้ทั้งปีเติบโตทะลุเป้าหมาย หลังไตรมาส 2 กำไรพุ่งกว่า525% ประเมินครึ่งหลังปี 64 ยังสดใสต่อเนื่อง ชูกลุ่มให้บริการขนส่งทางเรือเป็นพระเอก

 ดร.สันติสุข  โฆษิอาภานันท์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) หรือ SONIC ผู้นำธุรกิจให้บริการการจัดการระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจรระดับภูมิภาค  ได้นำเสนอข้อมูลผลประกอบการไตรมาส2/2564และทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2564 ในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Lottovip Day)  โดยให้ความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนว่า ภาพรวมผลประกอบการทั้งปีรายได้จะเติบโตเกินเป้าหมายใหม่ที่บริษัทตั้งเป้าว่ารายได้จะขยายตัว 60%  


สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังปี 2564  ถือว่าเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจขนส่ง รวมทั้งธุรกิจของ SONIC  ซึ่งหากไม่มีสถานการณ์นอกเหนือความคาดหมายเกิดขึ้น บริษัทเชื่อว่า ผลการดำเนินงานยังเติบโตต่อเนื่องในทุกกลุ่มธุรกิจของ SONIC 

 โดยธุรกิจที่มีความโดดเด่นและมีการเติบโตสูงยังเป็นกลุ่มบริการขนส่งทางเรือซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้75-77% ของรายได้รวม ซึ่งกลุ่มลูกค้ายังกระจายอยู่ในทุกอุตสาหกรรม  โดยในไตรมาส2/64 กลุ่มบริการขนส่งทางทะเลมีสัดส่วนรายได้ถึง  78 %  การบริการขนส่งทางบก  17 % การบริการทางอากาศ 4.5 %


สำหรับธุรกิจการปล่อยสินเชื่อรถหัวลากให้กับพันธมิตรภายใต้โมเดล โลจิสซิ่งนั้น เชื่อว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมายปีนี้ที่ 200 ล้านบาท จากสิ้นสุดไตรมาส2/64  บริษัทสามารถปล่อยสินเชื่อรถหัวลากให้กับพันธมิตรได้แล้วประมาณ 150 ล้านบาท 


  “SONIC มั่นใจว่าภาพรวมผลงานทั้งปีจะเติบโตเกินเป้าหมาย  ที่บริษัทตั้งเป้าว่ารายได้จะเติบโต60%  เนื่องจากครึ่งหลังปีนี้ผลประกอบการมีแนวโน้มสดใสต่อเนื่อง  การขนส่งทางทะเลยังเป็นพระเอก  บริษัทยังรักษาฐานลูกค้าเก่าไว้อย่างเหนียวแน่น ขณะที่ลูกค้าใหม่ๆ ก็เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะลูกค้าเชื่อมั่นระบบการให้บริการขนส่งของSONIC ”ดร.สันติสุขกล่าว


ทั้งนี้ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 41.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.11 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 525.60% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่กำไรสุทธิ 6.68 ล้านบาท  ขณะที่งวด 6 เดือนแรกปี 2564  บริษัทมีกำไรสุทธิ 82.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62.55 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 312.91 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 19.99 ล้านบาท

15773


วันนี้ (9 ก.ย.) ณ ห้องปฏิบัติการรถไฟ ชั้น 3 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย และ น.ส.ไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล กรรมการบริษัท และรักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสอาร์ที เเอสเสท จำกัด ได้ทำพิธีลงนามร่วมกันในบันทึกข้อตกลงการบริหารจัดการทรัพย์สินระหว่าง รฟท.กับ บริษัท เอสอาร์ที เเอสเสท จำกัด โดยมีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร ประธานกรรมการรถไฟ นายอำนวย ปรีมนวงศ์ ประธานกรรมการ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด และคณะผู้บริหาร รฟท. และบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ร่วมเป็นสักขีพยาน

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าฯ รฟท. เปิดเผยว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงฯ ครั้งนี้ถือเป็นการปฏิรูปด้านการบริหารจัดการทรัพย์สินครั้งสำคัญของการรถไฟฯ และเป็นการดำเนินภารกิจตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2563 ที่เห็นชอบให้การรถไฟฯ ดำเนินการจัดตั้งบริษัทลูก บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ขึ้นเพื่อบริหารทรัพย์สินของการรถไฟฯ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยฟื้นฟู สร้างรายได้ให้แก่การรถไฟฯ ตามแผนฟื้นฟูกิจการฯ ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.)

ซึ่งการรถไฟฯ ได้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด แล้วเสร็จไปเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564 การลงนามความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการส่งมอบทรัพย์สินของการรถไฟฯ ให้แก่บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด เป็นผู้ดูแลบริหารจัดการแทน อย่างไรก็ดี กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินทั้งหมดนั้นยังคงเป็นของการรถไฟ ฯ เช่นเดิม

“ในช่วงแรกการรถไฟฯ จะเริ่มทยอยโอนทรัพย์สินโครงการขนาดใหญ่ที่มีการทำสัญญาไว้แล้วจำนวน 75 สัญญา มูลค่าทรัพย์สิน 1,645 ล้านบาท โดยใช้เวลาโอนเสร็จสิ้นภายในเวลา 2 เดือน ระหว่างเดือนกันยายน-ตุลาคม 2564 ซึ่งจะทำให้บริษัท เอสอาร์ที เเอสเสท จำกัด สามารถดำเนินการบริหารจัดการทรัพย์สินได้ทันที และหลังจากนั้นจะมีการทยอยโอนส่งมอบทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายดำเนินการโอนทรัพย์สินทั้งหมด 12,839 สัญญา มูลค่า 3,166 ล้านบาท แล้วเสร็จภายในปี 2565”

สำหรับ บริษัท เอสอาร์ที เเอสเสท จำกัด จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยบริหารจัดการและสร้างรายได้ให้การรถไฟฯ ทั้งด้านการบริหารสัญญาเช่าที่ได้รับมอบจากการรถไฟฯ การจัดหาผู้ลงทุนและการเช่าพื้นที่เพื่อพัฒนาโครงการบนที่ดินของการรถไฟฯ รวมทั้งการพัฒนาด้วยตนเอง การซื้อหรือเช่าที่ดินจากบุคคลภายนอกเพื่อพัฒนาหรือร่วมทุนเพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาวให้แก่การรถไฟฯ ซึ่งจะส่งผลให้การรถไฟฯ มีรายได้จากการบริหารทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น มีระบบบริหารจัดการที่มีมาตรฐานสากล และมีทางเลือกในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนอื่นๆ ตลอดจนยังส่งผลดีต่อภาพรวมในอีกหลายมิติ ทั้งมิติทางเศรษฐกิจในการช่วยกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ การจ้างงานการท่องเที่ยว ด้านสังคม ช่วยให้การบริหารพื้นที่ชุมชนที่บุกรุกสามารถดำเนินการให้มีประสิทธิภาพ ตลอดจนช่วยให้การบริหารจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมดีขึ้น

เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ถูกออกแบบมาให้เป็นอิสระและเป็นมืออาชีพด้านการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการรถไฟฯ คาดหวังว่าภายหลังการส่งมอบการบริหารทรัพย์สินแล้ว บริษัทฯ จะสามารถบริหารจัดการทรัพย์สินของการรถไฟฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อการรถไฟฯ สามารถสร้างรายได้แก่องค์กร และเป็นฟันเฟืองสำคัญในการช่วยพลิกฟื้นการรถไฟฯ ให้กลับมาเป็นองค์กรที่มีความเข้มแข็ง สามารถดูแลและให้บริการแก่พี่น้องประชาชนตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนยุทธศาสตร์กระทรวงคมนาคมได้อย่างยั่งยืน

15774


หลายประเทศเป็นสังคมอุดมปัญญา มีเสรีภาพแสดงความคิดเห็น แต่ก็เป็นเส้นขั้นบางๆ กับสังคมอุดมปัญหา เพราะมีข้อมูลข่าวสารชนิดตัดตอน บิดเบือนข้อเท็จจริง นำมาปั่นเป็นกระแส ซึ่งไม่รวมถึงเฟคนิวส์ที่ป่วนสังคมอยู่ โดยเฉพาะในช่วงระบาดโควิด-19

อินเดีย ประเทศที่จัดว่ามีการไหลเวียนของข้อมูลข่าวสารเหล่านี้เป็นอันดับต้นๆ ของโลก แล้วยิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19  อินเดียต้องเผชิญข้อกล่าวหาจากชาติตะวันตก ทั้งอังกฤษ และบราซิล ต่างมองว่า ประเทศนี้กำลังคลั่งไคล้ “ลัทธิชาตินิยมวัคซีน” 

เป็นที่รู้กันดีว่า อินเดีย ประเทศที่มีวิทยาการด้านการแพทย์และเวชภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก ขณะนี้รับหน้าที่เป็นศูนย์กลางการผลิตวัคซีนโควิด-19 ซึ่งมีผู้ผลิตวัคซีนหลัก 2 แห่ง คือสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย (ซึ่งผลิตวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าในประเทศและมีชื่อเรียกว่า โควิชีลด์) และภารัต ไบโอเทค (ซึ่งผลิตวัคซีนโควาซิน) สามารถผลิตวัคซีนรวมกันได้ประมาณ 90 ล้านโดสต่อเดือน ตามที่ระบุในรายงานของสำนักข่าวบีบีซี

การแพร่ระบาดโควิด-19 ในอินเดีย ถึงจุดพีคในเดือน พ.ค. และมีผู้ติดเชื้อสูงสุดกว่า 2 แสนรายต่อวัน มาจนถึงขณะนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันหลักหมื่น และมียอดสะสมรวม 33.1 ล้านราย 

เมื่อดูข้อมูลก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า การผลิตวัคซีนโควิด-19 ส่วนใหญ่จะจัดส่งเพื่อระดมฉีดให้ประชาชนในประเทศ ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 7 ก.ย. 2564 พบว่า มีการแจกจ่ายวัคซีนแล้ว 685 ล้านโดส และมีผู้ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว 159 ล้านคน

ขณะที่รัฐบาลอินเดีย ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า อินเดียไม่ได้ห้ามส่งออกวัคซีน และไม่ได้ปิดปากชาติตะวันตกที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์เรื่อง “ลัทธิชาตินิยมวัคซีน” ของอินเดียอยู่ตอนนี้ เช่นเดียวกับกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย กล่าวย้ำว่า การส่งออกวัคซีนจะดำเนินการโดยคำนึงถึงสถานการณ์ภายในประเทศ

ประเทศส่วนใหญ่ในโลกกำลังรับมือกับการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกสอง และระลอกสาม เนื่องจากสายพันธุ์เดลตาที่ร้ายแรงและหลบหลีกแอนติบอดีได้ดีเป็นตัวหนุนให้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น แต่ก็น่าสงสัยว่า รัฐบาลอินเดียได้บอกโลกในประเด็นนี้เหมาะสมเพียงใด เพราะขณะนี้หลายประเทศวิจารณ์อินเดียอย่างหนักในเรื่อง “การกักตุนวัคซีน”

สื่ออินเดีย ชี้ว่า “อังกฤษ” ประเทศที่ฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชนจนครบโดสแล้ว 43.5 ล้านคน และบราซิล ประเทศที่มีผู้ฉีดวัคซีนโดสแล้ว 66.7 ล้านคน และเพิ่งบอกยกเลิกวัคซีนซิโนแวคของจีนไป 12 ล้านโดส แต่กำลังเรียกร้องให้อินเดียส่งวัคซีนให้เพิ่ม โดยก่อนหน้านี้มีการจัดส่งวัคซีนให้แล้วตามกำหนด

กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า อินเดียได้จัดส่งวัคซีนไปแล้ว 64 ล้านโดสให้กับ 80 ประเทศ โดยในจำนวนนี้ 18 ล้านโดส ส่งผ่านโครงการโคแว็กซ์ของสหประชาชาติ

นี่เป็นเรื่องจริงที่อินเดียต้องเผชิญ และกระแสโซเชียลในประเทศก็ปั่นทับถมการดำเนินงานของรัฐบาลดูเละไม่เป็นท่า 

ขณะเดียวกัน ก็น่าแปลกใจกับกรณีสหรัฐทิ้งวัคซีนป้องกันโควิดไปแล้วอย่างน้อย 15.1 ล้านโดส มากกว่าที่เคยรับรู้กันและเป็นไปได้ว่ายังต่ำกว่าความเป็นจริง ขณะที่หลายประเทศยังไม่ได้ฉีด หรือถ้าฉีดก็น้อยมาก 

แต่บางคนก็แกล้งมองไม่เห็น แม้เรื่องนี้จะสุ่มเสี่ยงอยู่บนพื้นฐานกักตุนวัคซีนโควิด-19 ก็ตาม

15775


เอ็มม่า ราดูคานู นักเทนนิสสาวดาวรุ่งวัย 18 ปี เดินหน้าสร้างเซอร์ไพรส์ต่อเนื่อง หลังปราบ เบลินดา เบนซิช เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2020 ไป 2-0 เซต กลายเป็นนักหวดจากรอบควอลิฟายคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ผ่านเข้ารอบตัดเชือก ยูเอส โอเพ่น ได้สำเร็จ

ศึกเทนนิสแกรนด์สแลม รายการสุดท้ายของปี 'ยูเอส โอเพ่น 2021' ณ สังเวียนยูเอสทีเอ บิลลี ยีน คิง เนชั่นแนล เทนนิส เซ็นเตอร์ เมืองนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา วันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในรอบ 8 คนสุดท้าย

ประเภทหญิงเดี่ยว ที่อาเธอร์ แอช สเตเดียม เอ็มม่า ราดูคานู นักหวดสาวดาวรุ่งวัย 18 ปี มือ 150 ของโลกชาวสหราชอาณาจักร ยังเดินหน้าสร้างเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง ไล่ต้อนเอาชนะ เบลินดา เบนซิช มือ 12 ของโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ และเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่น ไป 2 เซตรวด 6-3, 6-4 ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 25 นาที ตบเท้าผ่านเข้าสู่รอบ 4 คนสุดท้ายไปพบ มาเรีย ซาคคารี จากกรีซ

'ฉันมีความสุขมากที่สามารถผ่านเข้าไปเล่นในรอบตัดเชือก สำหรับ เบลินดา เธอเป็นคู่ต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม และกำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี มีสปีดการตีที่หนักหน่วง และทำให้ฉันไม่ทันตั้งตัว ดังนั้นฉันต้องปรับตัวเยอะมากเวลาเล่นกับเธอ แต่ฉันก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และหลังจากนั้นฉันจะได้เดินทางต่อด้วยตัวเอง' ราดูคานู กล่าว

จากชัยชนะในแมตช์นี้ของหวดสาวดาวรุ่งจากสหราชอาณาจักร ทำให้เธอกลายเป็นนักเทนนิสจากรอบควอลิฟายที่สามารถผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศยูเอส โอเพ่น ได้เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์

โดย ราดูคานู ยังถือเป็นนักเทนนิสหญิง คนที่ 4 ที่มาจากรอบควอลิฟาย แต่สามารถผ่านเข้าไปตัดเชือกในรายการระดับแกรนด์สแลม ต่อจาก คริสติน โดเรย์ (ออสเตรเลียน โอเพ่น 1978), อเล็กซานดรา สตีเวนสัน (วิมเบิลดัน 1999) และนาเดีย โปดอรอสกา (เฟรนช์ โอเพ่น 2020)

นอกจากนี้เธอยังเป็นนักเทนนิสหญิงคนที่ 3 ที่แรงกิ้งอยู่นอกท็อป 100 แต่สามารถเข้าสู่รอบรองชนะเลิศยูเอส โอเพ่น ได้สำเร็จ ต่อจาก บิลลี ยีน คิง ในปี 1979 และคิม ไคลส์เตอร์ส ในปี 2009 ซึ่งในรายหลังเธอสามารถคว้าแชมป์ในปีนั้นไปครองได้อีกด้วย

15776
6 วัน 6 วิชา ก้าวแรกของการขายของออนไลน์ จบรู้เรื่องในคอร์สเดียว เพียง 98 บาท

15777


นางธารทิพย์ บัวสวัสดิ์ ตัวแทนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนพัฒนาไม้ผลเพิ่มพูนทรัพย์ (เงาะแปลงใหญ่) จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า “โควิดระลอกนี้หนักมาก ปีนี้เกษตรกรทุกคนต้องปรับตัว เราพบปัญหาเรื่องราคาตกต่ำ เพราะไม่มีนักท่องเที่ยว แถมผลผลิตในภาคตะวันออกและภาคใต้ยังออกมาไล่ๆ กัน ปกติจะเว้นช่วง เราโชคดีที่ปีนี้ได้ส่งเงาะให้กับแม็คโคร ทำให้ได้ระบายผลผลิตเงาะคุณภาพมีมาตรฐาน GAP ให้เกษตรกรเครือข่ายที่มีกว่า 114 ราย พื้นที่เพาะปลูกราว 606 ไร่ จำนวนรวมแล้วกว่า 70 ตันทำให้ชาวสวนมีรายได้ที่มั่นคง ไม่ถูกพ่อค้าคนกลางกดราคา”

ด้าน นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม็คโคร ตระหนักดีถึงผลกระทบที่เกษตรกรไทยได้รับจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาด และราคาตกต่ำ จึงมีนโยบายในการช่วยเหลือชาวสวนมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ร่วมกับ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จัดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายและบริโภคผลไม้ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ ช่วยระบายผลผลิตผลไม้ฤดูกาล ประกอบด้วย มังคุด ลองกอง ลำไย เงาะ ผ่านแม็คโครทุกสาขาตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2564

“ในช่วงสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 อย่างนี้ มีเกษตรกรอีกมากมายที่เดือดร้อน ผลผลิตล้นตลาด โดยเฉพาะผลไม้ฤดูกาลที่ระบายผลผลิตไม่ทัน ไม่มีช่องทางจำหน่าย กิจกรรมที่เกิดจากการบรูณาการความช่วยเหลือร่วมกับกรมการค้าภายใน ครั้งนี้ ทำให้เราได้ทำงานกับเกษตรกรกลุ่มใหม่ๆ เพิ่มขึ้น มีทั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และเกษตรกรรายย่อย ในหลายพื้นที่ อาทิ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มปลูกเงาะบ้านวังผา อำเภอทุ่งช้าง จ.น่าน, กลุ่มแปลงใหญ่ตำบลทอนหงส์ จ.นครศรีธรรมราช, กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลไม้คุณภาพเกษตรอินทรีย์ จ.ป.ร. จ.ระนอง, กลุ่มวิสาหกิจชุมชนพัฒนาไม้ผลเพิ่มพูนทรัพย์ (เงาะแปลงใหญ่) จ.สุราษฎร์ธานี โดยเกษตรกรเหล่านี้จะได้รับการพัฒนาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อวางแผนการรับซื้ออย่างต่อเนื่องในฤดูกาลต่อไป สร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับชาวสวนผลไม้ของไทยมากขึ้น”

ทั้งนี้ แม็คโคร ดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรไทยมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ ‘แม็คโครเคียงข้างเกษตรกรไทย สู้ภัยโควิด’ ซึ่งมีพันธมิตรสำคัญที่มาร่วมขับเคลื่อนความช่วยเหลือคือ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ รวมถึงภาคีอื่นๆ ทำให้เกิดพลังสำคัญในการช่วยเกษตรกรที่กำลังประสบปัญหาได้อย่างทันท่วงที ซึ่งปัจจุบัน แม็คโครรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรรายย่อย มากกว่า 7,500 ราย และในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ยังสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

15778


เมื่อเทคโนโลยียานยนต์เริ่มเข้าสู่ยุคของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี (EV) มากขึ้น เราก็เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลายๆ อย่าง รวมถึงการเกิดใหม่ของบรรดาผู้ที่โดดลงมาอยู่ในธุรกิจนี้

ทั้งนี้แต่เดิมต้องยอมรับว่า การเกิดใหม่ของผู้ผลิตรถยนต์ไม่ใช่เรื่องง่าย จากข้อจำกัดหลายอย่า งโดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านเครื่องยนต์ที่ต้องใช้สรรพกำลัง และประสบการณ์ที่สั่งสมมาจำนวนมาก การที่ใครซึ่งไม่เคยอยู่ในแวดวงนี้เลย จะลุกขึ้นมาพัฒนาเครื่องยนต์สักเครื่อง ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ แต่จะตามรายเดิมๆ ไม่ทัน

แต่พอเป็นพลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี (EV) การบ้านข้อยากนี้จึงหายไป การขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ไม่มีอะไรยุ่งยากซับซ้อน มีแค่มอเตอร์ไฟฟ้า กับ แบตเตอรี เท่านั้น

นั่นเป็นเหตุผลที่ทุกวันนี้มีผู้ประกอบการหน้าใหม่โดดเข้ามาเล่นในตลาดนี้จำนวนมาก

ที่เยอรมนี ประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์พรีเมียม สปอร์ต บรรดาผู้ผลิตต่างก็เร่งปรับตัวเช่นกัน อย่างเช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ประกาศชัดเจนว่าตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป รถใหม่ทุกรุ่นที่จะผลิตออกมา จะเป็น อีวี

ปอร์เช่ ก็ประสบความสำเร็จอย่างดีกับการทำตลาด ไทคานน์ และจะมีรุ่นใหม่ๆ ตามมาอย่างต่อเนื่อง อาวดี้ ก็ประกาศชัดเจนว่า Electric First หรือว่า บีเอ็มดับเบิลยู ก็ทยอยเปิดตัว อีวี อย่างต่อเนื่อง

แต่ขณะเดียวกันก็มีผู้ประกอบการรายใหม่เกิดขึ้นเช่นกัน อย่างเช่น Next.e.GO Mobile SE ที่เริ่มผลิตและจำหน่ายรถทั่วประเทศเยอรมนีไปแล้ว


Next.e.GO Mobile SE มีแนวทางการพัฒนาและทำตลาดที่ชัดเจน คือ เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในเมือง คันกะทัดรัด ราคาย่อมเยา ใช้งานง่าย

Next.e.GO อีวี เยอรมัน ผุดโชว์รูมแรก สานฝันบุกยุโรปรถที่จำหน่าย ใช้ชื่อว่า e.GO โครงสร้างผลิตจากอลูมิเนียม ชิ้นส่วนตัวถังภายนอกสร้างจากพอลิเมอร์แข็งแรงทนทานสูง

และสิ่งที่เพิ่มความสะดวกในการใช้งานคือ การเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาชาร์จไฟ
เปิดขายมาสักพัก ล่าสุด Next.e.GO Mobile SE ก็ถึงเวลาขยายกิจการ ด้วยการประกาศความพร้อมเปิดโชว์รูมทั่วทวีปยุโรป

ประเดิมแห่งแรกที่เมืองดึสเซลดอร์ฟ เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยโชว์รูมตั้งอยู่ใกล้กับถนน Königsallee ย่านแฟชั่นที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดในยุโรป โดยเป็นโชว์รูมเต็มรูปแบบ มีทั้งฝ่ายขาย และฝ่ายบริการ และยังมีบริการสำหรับลูกค้าที่ต้องการทดลองขับอีกด้วย


ส่วนเป้าหมายต่อไป ที่จะเปิดตัว คือ ฮัมบูร์ก มิวนิก มิลาน เอเธนส์ และยังกระโดดข้ามไปยังภูมิภาคตะวันออกกลาง แหล่งผลิตน้ำมันที่สำคัญของโลก อย่าง ดูไบ อีกด้วย

นอกจากเปิดโชว์รูมแห่งแรก ยังเปิดแคมเปญควบคู่กันไปด้วย เป็นแคมเปญระดับโลก ชื่อว่า "The Time Is Now" เพื่อกระตุ้นการเร่งพลิกโฉมการเดินทางในเมือง

Next.e.GO อีวี เยอรมัน ผุดโชว์รูมแรก สานฝันบุกยุโรป

"แคมเปญ The Time is Now สะท้อนให้เห็นว่า เรามีความเชื่อว่าทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบและต้องเร่งลงมือทำร่วมกันเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เราต้องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเดิม ๆ และการบริโภคอย่างไม่มีขีดจำกัด ยกระดับการเดินทางโดยมีเศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นหัวใจสำคัญ เพราะลูกหลานของเรามีโลกเพียงใบเดียวให้อยู่อาศัย" Ali Vezvaei ประธานคณะกรรมการบริษัท Next.e.GO Mobile SE กล่าว

15779
6 วัน 6 วิชา
ก้าวแรกของการขายของออนไลน์
จบรู้เรื่องในคอร์สเดียว
เพียง 98 บาท

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
https://smartonline.iconsalepage.com



15780


นายสวัสดิ์ นฤวรวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Life Operation Officer บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากนโยบายการเป็นทุกคำตอบของการประกันชีวิต หรือ Life Solutions ของบริษัทฯ ที่มุ่งดูแลชีวิตอย่างรอบด้าน เพื่อสร้างความมั่งคั่งทางการเงิน พร้อมสร้างความมั่นคงให้กับทุกครอบครัวไทย บริษัทฯ จึงได้พัฒนาแบบประกันกลุ่มมันนี่ ฟิต ทั้งในลักษณะสินค้าแบบมีส่วนร่วมในเงินปันผล หรือ Par Product ที่มีการให้ผลประโยชน์เพิ่มเติมในรูปแบบเงินปันผล และสินค้าสำหรับการวางแผนเกษียณ เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคในการออมเงินที่มั่นคงและให้ผลตอบแทนคุ้มค่า

โดยสินค้า Par Product ประกอบด้วย แบบประกัน “มันนี่ ฟิต เฟิร์ม 15/10” (มีเงินปันผล) ชำระเบี้ยประกันภัย 10 ปี ระยะเวลาคุ้มครอง 15 ปี ระหว่างสัญญารับเงินคืน 2% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ตั้งแต่สิ้นปีที่ 1-5 และรับเงินคืนเพิ่มเป็น 3% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ตั้งแต่สิ้นปีที่ 6-14 ครบกำหนดสัญญารับเงินก้อน 260% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย กรณีเสียชีวิตระหว่างสัญญาจะได้รับความคุ้มครองเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันไดตั้งแต่ 100% - 275% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย  และแบบประกัน “มันนี่ ฟิต เฟิร์ม 25/20 (มีเงินปันผล) ชำระเบี้ยประกันภัย 20 ปี ให้ความคุ้มครองชีวิตนาน 25 ปี รับเงินคืนระหว่างสัญญา 1% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ตั้งแต่สิ้นปีที่ 1-15 และรับเงินคืน 3% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ตั้งแต่สิ้นปีที่ 16-24 ครบกำหนดสัญญารับเงินก้อน 170% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย และหากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตระหว่างสัญญาจะได้รับความคุ้มครองเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันไดตั้งแต่ 100% - 190% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย  

ทั้งนี้ ผู้เอาประกันภัยที่ซื้อแบบประกันทั้ง 2 แบบดังกล่าวจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนในรูปแบบเงินปันผล หากการลงทุนกลุ่มสินทรัพย์ของกลุ่มผลิตภัณฑ์แบบมีส่วนร่วมในเงินปันผล หรือ Par Fund ในแต่ละปีมีผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนด โดยผลตอบแทนส่วนที่เกินจะถูกนำมาจัดสรรเป็นเงินปันผลให้แก่ผู้เอาประกันภัย ทั้งในรูปแบบของเงินปันผลระหว่างสัญญา และเงินปันผลเมื่อครบกำหนดสัญญา ซึ่งการพิจารณาจ่ายเงินปันผล จะขึ้นอยู่กับผลตอบแทนจากการลงทุน Par Lottovip Fund โดยบริษัทฯ จะพิจารณาจ่ายเงินปันผลทุกวันครบรอบปีกรมธรรม์ ตั้งแต่ปีกรมธรรม์ที่ 2 เป็นต้นไป รวมถึงยังได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันชีวิตสูงสุด 100,000 บาท ตามเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด

สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างหลักประกันรายได้ครอบครัว หรือวางแผนใช้ชีวิตที่มั่นคงในวัยเกษียณ บริษัทฯ ยังมีแบบประกัน “มันนี่ ฟิต เฟิร์ม 55/55” ชำระเบี้ยประกันภัยและให้ความคุ้มครองชีวิตถึงอายุ 55 ปี ครบกำหนดสัญญารับเงินก้อนสูงสุดถึง 200% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย พร้อมรับสิทธิลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันชีวิตสูงสุด 100,000 บาทเช่นเดียวกัน

“บริษัทฯ มุ่งส่งเสริมการออมอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างความมั่งคั่งมั่นคงให้กับชีวิตคนไทย โดยแบบประกันมันนี่ ฟิต เฟิร์ม ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์การดูแลชีวิตอย่างรอบด้าน ทั้งความคุ้มครองชีวิต การออมเงินเพื่อวางแผนอนาคต รวมถึงแผนการใช้ชีวิตในวัยเกษียณอย่างมีความสุข นอกจากนี้ ผู้เอาประกันภัยสามารถวางแผนเงินออมควบคู่กับการสร้างหลักประกันด้านการดูแลสุขภาพ ด้วยแผนความคุ้มครองสัญญาเพิ่มเติมต่างๆ อาทิ สัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ หรือสัญญาเพิ่มเติมประกันอุบัติเหตุ เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายด้านค่ารักษาพยาบาล กรณีเจ็บป่วยหรือเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน โดยผู้ที่สนใจสามารถติดต่อตัวแทนฯ ไทยประกันชีวิตทั่วประเทศ” นายสวัสดิ์กล่าว

ขณะเดียวกัน ไทยประกันชีวิตพร้อมมอบบริการที่มากกว่าการประกันชีวิตแก่ผู้เอาประกันภัย อาทิ ไทยประกันชีวิตฮอตไลน์ บริการช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกที่ ทั่วโลก ไทยประกันชีวิตแคร์เซ็นเตอร์ ศูนย์ดูแลสิทธิประโยชน์ผู้เอาประกันภัย โทร.1124 รวมถึงบริการตรวจสอบข้อมูลกรมธรรม์พร้อมทำธุรกรรมด้วยตนเองได้อย่างสะดวก ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านแอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต หรือไทยประกันชีวิต iService ผ่านเว็บไซต์ iservice.thailife.com

15781


นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก (GBS) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยเดือน ก.ย.64 มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในลักษณะ Sideway Up โดยได้แรงหนุนจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ชะละตัวต่อเนื่อง และมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์ของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รวมทั้งนายกรัฐมนตรียืนยันเดินหน้าเปิดประเทศใน 120 วัน แม้ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวช้าจากการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 โดยแผนเปิดประเทศเฟส 2 ในอีก 5 จังหวัดเริ่ม 1 ต.ค.นี้ ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และเชียงใหม่ และจับตาการทำ Window Lottovip Dressing ปลายงวดไตรมาส 3/64 จึงคาดการณ์การเคลื่อนไหวของดัชนีจะแกว่งตัวอยู่กรอบ 1,600-1,680 จุด

ปัจจัยต่างประเทศที่ส่งผลบวกต่อดัชนี อาทิ ราคาน้ำมันดิบ WTI ตลอดเดือน ส.ค.64 ร่วงลง 7% จากกลุ่มโอเปกพลัสบรรลุข้อตกลงปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันและการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาทำให้นักลงทุนกังวลว่าอุปสงค์การใช้น้ำมันจะชะลอตัว และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่าจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแม้เริ่มลด QE ภายในสิ้นปี รวมทั้งคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เปิดเผยว่า ประชาชนวัยผู้ใหญ่ในสหภาพยุโรป ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบสองโดสแล้ว 70% หรือราว 256 ล้านคน

ส่วนดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 59.9 ในเดือน ส.ค. สวนทางนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะปรับตัวลงสู่ระดับ 58.6 หลังจากแตะระดับ 59.5 ในเดือน ก.ค.และตัวเลขจ้างงานของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาดทำให้เกิดความไม่แน่ใจเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และนักลงทุนเชื่อว่า เฟดจะเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป ยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตาสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยเฉพาะการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่า "mu" ซึ่งทาง EU ได้ถอดสหรัฐออกจากรายชื่อประเทศที่ปลอดภัยด้านการเดินทาง เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

รวมทั้งการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่าเศรษฐกิจในเดือนส.ค.ยังได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากเดือนก.ค. จากกำลังซื้ออ่อนแอ ซึ่งคาดว่า ธปท.จะปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ปี 64 อีกครั้งในวันที่ 29 ก.ย.64 จากเดิมที่คาดไว้ว่าจะขยายตัว 0.7%

ด้านกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 64 (ต.ค.63-ก.ค.64) ต่ำกว่าประมาณการ 10.2% และทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า รวมทั้งทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) จะมีการรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง และต่างประเทศรายงานตัวเลขเศรษฐกิจในหมวดต่างๆออกมา

ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์ลงทุนในหุ้น Reopening Play เช่น หุ้นกลุ่มโรงแรม MINT, ERW, CENTEL, AWC และ SHR หุ้นกลุ่มขนส่ง BEM และ BTS หุ้นกลุ่มห้างสรรพสินค้า CPN, CRC และ MBK หุ้นกลุ่มร้านอาหาร AU, M และ ZEN และสุดท้ายหุ้นกลุ่มค้าปลีก CPALL, BJC และ MAKRO จากการแผนการทยอยเปิดเมืองในเดือนตุลาคมนี้

ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินกรอบทองคำในเดือนก.ย.64 ไว้ที่ระดับ 1,770-1,870 เหรียญ/ออนซ์ โดยแนะนำให้หาจังหวะ Short เมื่อทองคำปรับตัวขึ้นใกล้แนวต้าน เนื่องจากเฟดเตรียมปรับลดวงเงิน QE ลงภายในปลายปีนี้ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำในระยะกลาง โดยในปี 2013 ที่มีการปรับลดวงเงิน QE ราคาทองคำจะปรับตัวลงและแตะจุดต่ำสุด ณ เดือนที่เฟดมีการปรับลดวงเงิน QE

15782


เกาะติดพฤติกรรมผู้บริโภคยุคโควิด "ความเครียด" ครอบงำ กระทบการตัดสินใจซื้อสินค้า นายกสมาคมโฆษณาดิจิทัลฯ แนะนักการตลาด เอเยนซี พลิกสูตรสื่อสารตลาด ป้อนคอนเทนท์ "ย่อยง่าย" เจาะใจกลุ่มเป้าหมาย

แต่ละปีผู้ประกอบการ นักการตลาด คนทำงานต่างต้องเจอความท้าทาย โจทย์ยากแต่กต่างกันไป เพราะนอกจากปัจจัยภายใน(จุดอ่อน)ที่ต้องแก้ ยังมีปัจจัยภายนอก(อุปสรรค)ที่เหนือการควบคุมมาเป็นบททดสอบ

เกือบ 2 ปีที่โลกและไทยประจันหน้ากับวิกฤติโควิด-19 ทำให้บรยากาศต่างๆ ไม่เอื้อต่อการค้าขาย หลายธุรกิจต้องเจอยอดขาย “ลดลง” บ้าง “ขาดทุน” ผู้บริโภคกลุ่มใหญ่กำลังซื้อลดลง คนมีเงินรัดเข็มขัด ระมัดระวังการใช้จ่าย หากจะปั๊มยอดขายไม่เพียงแค่ “นักการตลาด” ต้องวางกลยุทธ์อันยอดเยี่ยม เอเยนซี่ นักโฆษณา ต้องเล่าเรื่อง สื่อสารการตลาดปูทางสร้างยอดขายด้วย

ในงาน“สัมมนาการสื่อสารการตลาดดิจิทัลโดยสมาคมโฆษณาดิจิทัล ประจำปี 2564” หรือ “DAAT DAY 2021 Winning Tomorrow Together” ศิวัตร เชาวรียวงษ์ นายกสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) หรือ DAAT และประธานกรรมการบริหาร กรุ๊ปเอ็ม ประเทศไทย ตอกย้ำการติดอาวุธให้นักการตลาด เอเยนซี นักโฆษณาปีนี้ ยังหนีไม่พ้นการใช้ “ข้อมูลขับเคลื่อนธุรกิจ” หรือ Data Driven Lottovip Marketing เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้แม่นยำ รวมถึงการเล่าเรื่องหรือ Storytelling ของแบรนด์ สินค้าและบริการให้โดนใจลูกค้า


ทั้งนี้ การจะตอบสนองลูกค้าเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ นักการตลาดต้องเข้าใจอินไซต์ของผู้บริโภค โดยเฉพาะการใช้ชีวิตท่ามกลางโรคระบาดมาราธอนข้ามปี ส่งผลให้ผู้คนเกิด “ความเครียด” เป็นตัวแปรต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการอย่างมาก

ศิวัตร วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เครียดเป็น 2 มิติ ดังนี้ เมื่อผู้บริโภคเครียดการตัดสินใจซื้อจะใช้ “อารมณ์” เหนือเหตุผล หากนักการตลาดจะสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย เนื้อหาสาระจึงมีความจำเป็นมากขึ้น เพื่อใช้สร้างเอ็นเกจเมนต์ เนื้อหาที่สื่อสารต้องเล่าเรื่องราวให้ “ย่อยง่าย” ดังนั้น นาทีนี้อย่าใช้เพียง “โปรโมชั่น” อย่างเดียวกระตุ้นการซื้อ

นอกจากนี้ ความเครียดทำให้ผู้บริโภค “จดจำ” สิ่งต่างๆ ได้น้อยลง สมองไม่ต้องการรับรู้เรื่องราวบางประการ ข้อความที่นักการตลาดจะสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายจึงต้องฟังเข้าใจง่าย ไม่ต้องใช้พื้นที่สมองจดจำมากนัก เมื่อผู้บริโภคไม่จำ ไม่เชื่อ หากต้องตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการ จึงต้องหาข้อมูลมากขึ้น การทำคอนเทนท์เจาะลูกค้าจึงต้องมีความน่าเชื่อถือ ข้อมูลสอดคล้องกับสถานการณ์ด้วย

นายกส.โฆษณาดิจิทัล แนะพลิกสูตรตลาด ซื้อใจผู้บริโภคยุคโควิด


"สิ่งที่นักการตลาดอาจไม่สังเกตหรือระวังคือ ผู้บริโภคมีความเครียดมากขึ้น จะจำสิ่งต่างๆน้อยลง นักการตลาดต้องสร้างสรรค์ข้อความ สตอรี่เทลลิ่งของแบรนด์สินค้าผ่านมิติอารมณ์อย่างง่าย ฟังง่าย ไม่ต้องจำมาก เพื่อเข้าถึงผู้บริโภค เวลาเครียดนอกเหนือจากไม่จดจำแล้ว สิ่งใหม่ที่วิ่งเข้าหากลุ่มเป้าหมายอาจไม่รับด้วย การสื่อสารตลาดจึงเป็นโจทย์ท้าทายมาก นอกจากให้ความสำคัญกับดาต้า ดริฟเวน ต้องไม่ลืมมองสภาวะจิตใจผู้บริโภคด้วย”

นอกจากนี้ ผลกระทบจากโรคโควิด-19 ยังทำให้แบรนด์สินค้าต้อง “ชะลอ” การใช้จ่ายระยะยาว โดยเฉพาะการสร้างการรับรู้แบรนด์ โฟกัสการทำโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายมากขึ้น ขณะที่ภาพรวมธุรกิจบางกลุ่มมีการเติบโตท่ามกลางวิกฤติ เช่น สินค้าเกี่ยวกับสุขอนามัย สินค้าเพื่อสุขภาพ บริการอาหารเดลิเวอรี และอีคอมเมิร์ซ ฯ จึงมีการใช้โฆษณาดิจิทัล กระตุ้นยอดขาย ส่งผลใหภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาดิจิทัลปี 2564 คาดเติบโต 11% มูลค่ารวม 22,800 ล้านบาท

“เกือบ 2 ปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้น ทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน และจำเป็นต้องเปลี่ยน ธุรกิจที่ไม่เคยทำอีคอมเมิร์ซ ต้องลุยปรับตัวอย่างรวดเร็ว ธุรกิจอาหารเกิดคู่แข่งใหม่จำนวนมาก ธุรกิจเดิมที่ปรับตัวไม่ได้ มีการพลิกโมเดลเพื่อสร้างการอยู่รอด ขณะที่เอเยนซี่ แวดวงโฆษณา สื่อปีนี้อาจโตทรงตัวหรือหดตัวลงมากกว่า ดังนั้น สื่อ นักการตลาด ลูกค้า เอเยนซี จึงต้องทำงานร่วมกันอย่างเข้าใจ บริหารซัพพลาย และดูแลโครงสร้างผลตอบแทนให้เหมาะสม เพื่อ win-win และผ่านวิกฤติไปด้วยกัน”

15783



รวมสุดยอดแบรนด์ “ขนมไหว้พระจันทร์” เพื่อสืบสานประเพณีไหว้พระจันทร์ "วันที่ 21 กันยายน" 2564  หาร้านโปรดที่ใช่..แบรนด์ที่ชอบ มีอาทิ

คาเฟ่ แคนทารี สาขาอยุธยา, บางแสน, เชียงใหม่, โคราช, ภูเก็ต, ปราจีนบุรี, ศรีราชา และระยอง ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น ชวนแบ่งปันความอร่อยจาก ขนมไหว้พระจันทร์ สูตรต้นตำรับสไตล์ “คาเฟ่ แคนทารี” มีหลากหลายไส้ เช่น ทุเรียนหมอนทองไข่แดง, ลูกบัวถั่วแดง เนื้อแป้งบางเนียนนุ่ม ราคาชิ้นละ 110 บาทสุทธิ สอบถาม Call Centre: 1627 หรือเว็บไซต์ www.cafekantary.com

  163093535793

       ขนมไหว้พระจันทร์ คาเฟ่ แคนทารี

163093546467

     ขนมไหว้พระจันทร์สูตรต้นตำรับฮ่องกง เชฟแมน

เชฟใหญ่ มาน ไว ยิน แห่งห้องอาหารจีน เชฟแมน  โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ แนะนำ ขนมไหว้พระจันทร์สูตรต้นตำรับ จากฮ่องกง เนื้อแป้งบางนุ่มสอดไส้ไข่แดงลูกโต บรรจุในกล่องหรูหราสวยงาม เหมาะแก่การมอบให้ผู้ที่เคารพรัก มีไส้ต่าง ๆ อาทิ ไส้ทุเรียนก้านยาวไข่คู่, ไส้ทุเรียนไข่คู่, ไส้ลูกบัวไข่คู่, ไส้ถั่วแดงไข่คู่ และโหงวยิ้ง ราคาเริ่มต้นชิ้นละ 230 บาท วางจำหน่ายแล้ววันนี้ถึงวันที่ 21 กันยายน 2564 สั่งจองโทร.0 2210 8100 ต่อ 7515 เว็บไซต์ www.eastingrandsathorn.com

  163093554242

     ขนมไหว้พระจันทร์ แบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์

โรงแรม แบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์ ชวนช็อป ขนมไหว้พระจันทร์ ต้นตำรับ จับคู่กับชารสเลิศ แพ็คมาในบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนใน “เข่งไม้ไผ่” ดีไซน์เก๋เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งแบบชิ้นเดี่ยวในกล่องกระดาษ ขนาด 170 กรัม ราคาชิ้นละ 158 บาท หรือขนาดชิ้นเล็ก 50 กรัม อร่อยพอดีคำ ราคาชิ้นละ 88 บาท

163093558270

     ขนมไหว้พระจนทร์ในเข่งไม้ไผ่ พร้อมชาอู่หลงมะลิ

หรือเลือกแบบเซตใน เข่งไม้ไผ่ 3 ชั้น ขนมไหว้พระจันทร์ขนาด 170 กรัม 2 ชิ้น พร้อมชาอู่หลงมะลิ ราคา 599 บาทต่อเซต เหมาะสำหรับเป็นของฝากหรือจัดชุดอาฟเตอร์นูนทีที่บ้าน มีหลายไส้ ได้แก่ ไส้ทุเรียนไข่เดี่ยว, เม็ดบัวไข่เดี่ยว, พุทราจีนไข่เดี่ยว, เกาลัด แมคคาเดเมีย, งาดำไข่เดียว, ทุเรียนจันทบุรีเม็ดบัวไข่เดี่ยว, ช็อกโกแลตโรเช่ ฯลฯ พร้อมโปรโมชั่นซื้อ 5 แถม 1 วางจำหน่ายถึงวันที่ 21 กันยายน 2564 สั่งซื้อได้ที่ไลน์ @MarriottSurawongse, โทร.0 2088 5666


163093572726

    ขนมไหว้พระจ้นทร์ เซ็นทาราแกรนด์ฯ ลาดพร้าว

โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ นำเสนอ ขนมไหว้พระจันทร์ 7 รสชาติ เช่น ไส้คัสตาร์ด, ทุเรียนไข่เค็ม, เม็ดบัวไข่เค็ม, โหงวยิ้งไข่เค็ม, ถั่วแดง, พุทราไข่เค็ม และไส้มันม่วงไข่เค็ม ราคาชิ้นละ 128 บาทสุทธิ และ ราคา 988 บาทสุทธิ สำหรับเซต 4 ชิ้น บรรจุในกล่องสีแดงมงคลลายดอกไม้ สามารถเลือกรสชาติได้ตามต้องการ โทร.0 2541 1234, อีเมล:  [email protected] ไลน์ @CentralGrandLadprao (click) และ FB: /CentaraGrandLadpraoBangkok

  163093579494

    ขนมไหว้พระจันทร์ แชงพาเลซ

ห้องอาหารจีน แชงพาเลซ แห่ง โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ ออกแบบกล่อง ขนมไหว้พระจันทร์ เป็นรูป “นกฟีนิกซ์” สัญลักษณ์แห่งความแข็งแกร่งและฟื้นตัวจากความยากลำบาก ในโทนสีเบอร์กันดี มีหลากหลายไส้ เช่น ไส้โหงวยิ้ง, ทุเรียน, เม็ดบัว, ถั่วแดงพร้อมไข่เค็มเดี่ยวขนาดปกติ อีกทั้งไส้ครีมล้วนขนาดเล็ก และไส้ครีมรังนกเปลือกหิมะขนาดเล็ก  ราคาเริ่มต้นกล่องละ 398 บาท – 2,198 บาทสุทธิ วางจำหน่ายที่โรงแรมฯ และตามห้างสรรพสินค้าชั้น สอบถามสายด่วนโทร.0 2206 8605 และ 0 2236 9952, อีเมล: [email protected]  เว็บไซต์ http://shangbkkmooncake.com ตั้งแต่วันนี้ - 23 กันยายน 2564

  163093587353

    ขนมไหว้พระจันทร์ โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพฯ

โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพฯ  ร่วมเฉลิมฉลอง เทศกาลไหว้พระจันทร์ ปีนี้ ด้วยขนมไหว้พระจันทร์โฮมเมดหลากรส ได้แก่ ทุเรียน (ไส้ที่ขายดีที่สุด), เม็ดบัว, โหงวยิ้ง, พุทราผสมวอลนัท, คัสตาร์ด  ราคาชิ้นละ 208 บาท และแบบบรรจุในแพ็คเกจสวยงาม (แบบกล่อง 2 ชิ้น, 4 ชิ้น, 8 ชิ้น) และกล่องหนังดีไซน์พิเศษ จำนวน 8 ชิ้น ราคา 1,888 บาท วางจำหน่ายที่โรงแรมฯ และตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สามารถสั่ง่านแอพฯ Robinhood https://bit.ly/BTTHBK_RobinhoodApp

สามารถแจ้งล่วงหน้า สำหรับการสั่งซื้อแบบพิมพ์ชื่อเฉพาะของบริษัทที่กล่อง (ยกเว้นแบบกล่องบรรจุขนมไหว้พระจันทร์ ขนาดเล็กไส้คัสตาร์ด จำนวน 8 ชิ้น) สอบถามโทร. +66 (0) 2679-1200


    ขนมไหว้พระจันทร์ ซัมเมอร์ พาเลซ

ห้องอาหารจีน ซัมเมอร์ พาเลซ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ นำเสนอ ขนมไหว้พระจันทร์ในกล่องของขวัญสวยงาม แบบ 4 ชิ้น และ 8 ชิ้น ราคากล่องละ 988 บาทสุทธิ และ 1,388 บาทสุทธิ แบบ 1 ชิ้น ราคา 180 บาทสุทธิ มี 4 รสชาติ ได้แก่ ทุเรียนไข่เดี่ยว, พุทราจีนไข่เดี่ยว, ลูกบัวไข่เดี่ยว และพิเศษไส้คัสตาร์ดไข่เดี่ยว วางจำหน่ายที่ร้านเดลี่ โซน ช็อปปิ้งอาเขต ตั้งแต่เวลา 8.00 – 19.00 น. โทร. (+66)0 2656 0444, อีเมล: [email protected], www.bangkok.intercontinental.com


     ขนมไหว้พระจันทร์ Starbucks มี 9 รสชาติ

สตาร์บัคส์ (Starbucks) ร่วมฉลองประเพณีไหว้พระจันทร์ ด้วย ขนมไหว้พระจันทร์ 9 รสชาติ ได้แก่ ไส้กาแฟสตาร์บัคส์, ชาเขียวสตาร์บัคส์และถั่วแดง, ทุเรียนหมอนทอง, ช็อกโกแลตมิ้นท์, โหงวยิ้ง, ชากุหลาบและเบอร์รี่, ไส้อาซาอิมิกซ์เบอร์รี่, บราวน์ชูการ์มิลค์ที และไส้ม็อคค่า บรรจุในกล่องสีน้ำเงินเข้มลายกระต่ายกับพระจันทร์ เลือกได้แบบบรรจุ 2 ชิ้น และ 4 ชิ้น  และเซตพรีเมี่ยม ในกล่องเบนโตะสีเขียวหรือสีขาว และกระเป๋าผ้าพร้อมสายสะพาย ใช้ใส่อาหาร ขนม หรือของว่าง สามารถซื้อผ่านบริการ Starbucks Delivers บนแอพฯ Starbucks Thailand

15784


หลายคนทำงานอยู่ที่บ้าน แต่ก็มีอีกกลุ่มหนึ่งที่ยังต้องออกไปเสี่ยงอย่างเลี่ยงไม่ได้ แถมช่วงนี้ยังเป็นฤดูฝนที่อากาศทั้งเย็นและชื้นมากกว่าปกติ อาจทำให้เกิดการเจ็บป่วยกันได้ง่าย ใครที่กำลังเจอสถานการณ์แบบนี้อยู่และกังวลเรื่องสุขภาพว่าควรเตรียมรับมืออย่างไร หากมีอาการเจ็บป่วย วันนี้อินเตอร์ ฟาร์มาผู้นำในการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์เพื่อสุขภาพ จะมาแนะนำยาสามัญประจำบ้านที่ควรมีติดเอาไว้เพิ่มความอุ่นใจ เรามาดูกันว่ายาตัวไหนบ้างที่เป็นตัวสำคัญและยาแต่ละประเภทมีสรรพคุณเป็นอย่างไรบ้าง พร้อมเช็คลิสต์ไปพร้อมๆ กันว่าคุณมีหรือยัง?



1. ไพรานา (Pyrana) หรือที่คุ้นหูกับชื่อ พาราเซตามอล (Paracetamol) เป็นยาที่ใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดและช่วยลดไข้ โดยนิยมใช้เพื่อรักษาอาการปวดทั่วไป อาการปวดศีรษะ หรือไข้หวัดใหญ่ โดยพาราเซตามอลสามารถใช้ได้โดยไม่ต้องได้รับใบสั่งยาจากแพทย์ แต่อย่าลืมว่าในการใช้ยาแต่ละครั้งควรเว้นระยะห่างกันทุกๆ 4-6 ชั่วโมง และปริมาณที่ควรใช้ต่อครั้งไม่ควรเกิน 500-1,000 มิลลิกรัม



2. มีโนเพน (Menopain) หนึ่งในกลุ่มยาแก้ปวด ยาลดไข้ และยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เรียกสั้นๆ ว่า ”ยาเอ็นเสด” ที่คุณผู้หญิงนิยมใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน ใช้บรรเทาอาการปวดและการอักเสบที่มีความรุนแรงเล็กน้อยไปจนถึงปานกลาง ทั้งอาการปวดจากโรคข้ออักเสบ ปวดหลังการผ่าตัด โดยตัวยานี้มีจุดเด่นในการออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ ไซโคลออกซีจีเนส ที่มีหน้าที่สังเคราะห์สารพรอสตาแกลนดิน (Prostaglandins) ในร่างกาย และสารพรอสตาแกลนดินบางส่วนจะถูกสร้างขึ้นในบริเวณที่เกิดบาดเจ็บหรือได้รับความเสียหาย ตัวยาจึงช่วยบรรเทาอาการปวดและอักเสบได้



3. เวนซิกซ์ (Vensix) เป็นยาใช้ป้องกันและรักษาอาการคลื่นไส้ อาเจียน และวิงเวียนศีรษะ หรือภาวะป่วยที่อาจเกิดจากการเดินทาง เช่น เมารถ เมาเรือ โดยจะส่งผลต่อการทำงานของสมองและช่วยลดอาการดังกล่าวได้



4. ไซริทีน (Zyritine) ยาประเภท Antihistamine กลุ่มสารต้านฮีสตามีน ที่ห้ามขาดเลยค่ะ โดยเฉพาะในช่วงนี้เพราะเป็นยาที่ใช้ในการลดอาการแพ้อากาศ ไข้ละอองฟาง ที่เกิดจากภูมิแพ้ ทั้งจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล คันตา ตาแดง น้ำตาไหล ลมพิษ และอาการคันอื่นๆ



5. ซูพีแนค (Supenac) เป็นยาขับเสมหะ หรือยาละลายเสมหะประกอบด้วย N-acetylcysteine (NAC) ใช้รักษาภาวะอาการที่เกิดมูกเหลวเหนียวข้นขึ้น จนเป็นปัญหาต่อการหายใจ จากภาวะหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะในระบบทางเดินหายใจ โดยซูพีแนคจะช่วยสลายมูกเหนียวข้นให้เจือจางลง เพื่อให้ระบบทางเดินหายใจขับมูกเสมหะเหล่านั้นออกมาได้ และช่วยให้ผู้ป่วยหายใจได้สะดวกมากขึ้นจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ฉบับหนึ่งเรื่อง ‘N-acetylcysteine to Combat COVID-19:An Evidence Review’ ของ Therapeutics and Clinical Risk ได้เปิดเผยว่า Acetylcysteine สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ทำงานดีขึ้น เตรียมร่างกายให้พร้อมรับมือกับไวรัสได้



6. แคลไบรอน แคปซูล (Calbiron Capsules) เมื่อมียาป้องกันแล้ว อย่าลืมที่จะเสริมภูมิคุ้มกัน ด้วยวิตามินรวม B1, B6, B12 และธาตุเหล็ก ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง พร้อมกับบำรุงโลหิตไปด้วยกัน



7. อินโดวิท (Indovit) เหมาะที่สุดสำหรับช่วงนี้ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในช่วงที่อากาศแปรปรวน วิตามินซีแบบเคี้ยว เป็นวิตามินซีรูปแบบใหม่ที่ถูกผลิตมาเพื่อให้ง่ายต่อการรับประทานเหมาะสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยจะมีลักษณะเป็นเม็ดอมที่สามารถเคี้ยวทานได้แบบไม่ติดรสขมเลยค่ะ การบริโภควิตามินซีเป็น[^_^] ก็เพื่อป้องกันและรักษาการขาดวิตามินซี หรือรักษาระดับของวิตามินซีในร่างกาย นอกจากนั้นวิตามินซียังมีหน้าที่สำคัญต่อร่างกาย เช่น ช่วยในการสมานบาดแผล รักษาสุขภาพของเนื้อเยื้อต่าง ๆ ในร่างกาย และยังเป็นตัวช่วยในการปกป้องเซลล์ในร่างกายของเราอีกด้วย



8. ยาใส่แผลโพวิโดน-ไอโอดีน ตราพระเจดีย์ เป็นยาสามัญประจำบ้านที่ขาดไม่ได้ ควรมีติดไว้ตลอด เนื่องจากเป็นยาทาภายนอกที่ช่วยป้องกันเชื้อโรคและเชื้อไวรัสได้ เพราะเป็นยาฆ่าเชื้อที่ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อได้กว้างทั้งแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา ในช่วงนี้ที่ยังมีไวรัสระบาดก็สามารถทำน้ำยาฆ่าเชื้อด้วยตนเอง ด้วยการนำยามาผสมกับน้ำเปล่า แล้วนำมาใช้เป็นสเปรย์ฆ่าเชื้อโรคหรือเชื้อไวรัสได้เลย หากใครที่กลัวว่าจะแสบแผลหรือเปล่านะ ขอตอบเลยว่าไม่เลยค่ะ และไม่เป็นอันตรายต่อผิวด้วย



9. บี-เดิร์ม (b-derm) เป็นยาทารูปแบบครีมในกลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ มีฤทธิ์รักษาภาวะต่างๆ จากการอักเสบ บรรเทาอาการแพ้ของผิวหนัง ผื่นและผิวหนังอักเสบเรื้อรัง ลดอาการคันจากภาวะผื่นแพ้



10. ครีมนวดบรรเทาปวด ดราก้อน (Dragon muscle rub) เหมือนเป็นไอเทมสำคัญอีกชิ้นหนึ่ง ที่ต้องพกติดตัวตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงที่ต้องใช้ร่างกายหนักๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรืออาการปวดเมื่อยจากออฟฟิศซินโดรม ไม่ว่าจะปวดหลัง ปวดคอ หรือปวดขา สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไหร่ กล้ามเนื้อไม่ได้แข็งแรงเหมือนสมัยที่เราอายุยังน้อย ทำให้หลายๆ คนเกิดอาการปวดตามจุดต่างๆ ของร่างกาย บางคนมีอาการปวดมากจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ต้องใช้ตัวช่วยโดยยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อ ถือเป็นการช่วยบรรเทาอาการปวดและเป็นการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ครีมนวดบรรเทาปวด ดราก้อน สามารถใช้นวดเฉพาะที่สำหรับบรรเทาอาการปวดต่างๆ ที่ไม่รุนแรง เช่น ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อจากภาวะตึงหรือเคล็ด ข้อต่ออักเสบ ช้ำ หรือปวดหลัง เป็นต้น โดยยานี้จะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกเย็นบริเวณผิวหนังในตอนแรก จากนั้นจะค่อยๆ อุ่นขึ้น ซึ่งช่วยเบี่ยงเบนความสนใจจากการรู้สึกถึงอาการปวด



และนี่ก็เป็นประโยชน์และความสำคัญของยาสามัญประจำบ้านที่แนะนำ เป็นยังไงกันบ้างคะ เช็คลิสต์กันดูหรือยังว่า 10 ยาสามัญประจำบ้านที่ควรมีติดไว้ คุณมีครบหรือไม่ และถ้าหากใครกำลังมองหายาสามัญประจำบ้านที่คุณภาพดี ราคาคุ้มค่า สะดวกต่อการซื้อสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.interpharma.co.th หรือโทร 094-956-9536,
Facebook : Interpharma
IG : @interpharmaofficial
Line : @Interpharma

อย่าลืมก่อนการใช้ยา ควรศึกษาตัวยาข้อมูลอื่นๆให้รอบด้านก่อนการใช้รักษาและหากมีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์

15785


นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ชี้ วัคซีนทุกชนิดไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิดได้ ทำได้เพียงแต่ลดความรุนแรงของโรค แม้ประเทศที่ฉีดวัคซีนได้สูงแล้ว ก็ยังพบการระบาดของโรคได้

วันนี้ (5 ก.ย.) เฟซบุ๊ก “Yong Poovorawan” หรือ นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ระบุข้อมูล “โควิด-19 ภูมิคุ้มกันหมู่ (herd immunity) ยงภู่วรวรรณ 4 กันยายน 2564 เมื่อเกิดโรคติดต่อ เราจะได้ยินคำว่าภูมิคุ้มกันหมู่ เพื่อลดการระบาดของโรคและยุติการระบาด ภูมิคุ้มกันหมู่ จะได้ผลในการป้องกันการระบาด ภูมิคุ้มกันนั้นจะต้องป้องกันการติดโรคได้ และเมื่อมีภูมิคุ้มกันในกลุ่มประชากรมากจำนวนหนึ่ง ก็จะช่วยป้องกันคนที่ไม่มีภูมิไปด้วย เช่น โรคหัด โปลิโอ ประชากรส่วนใหญ่ใด้วัคซีนในการป้องกันโรค โรคก็จะเบาบาง และในที่สุดก็จะยุติการระบาด

เมื่อมาดู covid-19 จุดมุ่งหมายการให้วัคซีนในระยะแรก ต้องการให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ แต่ในปัจจุบันเห็นได้ชัดแล้วว่า วัคซีนทุกชนิดไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนจากประเทศตะวันตก หรือตะวันออก เพียงแต่ลดความรุนแรงของโรค ลดอัตราการตาย และยังพบว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วกับผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน เมื่อติดเชื้อปริมาณไวรัสที่อยู่ในตัว สามารถแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่นได้ ดังนั้นวัคซีนที่ใช้ในขณะนี้จึงไม่สามารถที่จะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้ เพราะถึงแม้มีภูมิคุ้มกัน ก็ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ เนื่องจากภูมิคุ้มกันลดลงตลอดเวลา และขณะเดียวกัน ระยะฟักตัวของโรค covid-19 สั้นมาก จึงทำให้ระบบภูมิคุ้มกันไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ แต่ลดความรุนแรงของโรคได้

เมื่อไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นในแต่ละคน ก็ไม่สามารถจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ในการลดการติดเชื้อในประชากรหมู่มากได้ จะเห็นได้ว่าทั้งประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศอิสราเอล ที่มีการฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมากก็ยังพบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน แต่ความรุนแรงเมื่อเปรียบเทียบกับการระบาดในระลอกก่อนมีวัคซีนลดลง อัตราตายและอัตราการป่วยนอนโรงพยาบาลลดลง ดังนั้น การฉีดวัคซีนเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ใน covid-19 จึงไม่สามารถนำมาใช้ได้ในขณะนี้ ทั้งที่แต่เดิมคิดว่าถ้าประชากรส่วนใหญ่ได้วัคซีนถึง 70% แล้วโรคจะทุเลาลง แต่ความเป็นจริง ประเทศที่ฉีดวัคซีนได้สูงแล้ว ก็ยังพบการระบาดของโรค

ทางออกของ covid-19 ทุกคนจะต้องได้รับวัคซีน หรือเคยติดเชื้อ และให้มีภูมิพื้นฐานอยู่ และเมื่อติดเชื้อ อาการของโรคก็จะน้อยลง หรือไม่มีอาการ แล้วจะกระตุ้นภูมิต้านทานให้สูงขึ้น และการติดเชื้อครั้งต่อๆไปอาการจะน้อยลงไปเรื่อยๆจนไม่มีอาการ การติดเชื้อครั้งแรกเมื่อยังไม่มีภูมิต้านทานเลย อาการจะรุนแรงได้ และเมื่อมีภูมิต้านทานเกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะจากวัคซีนหรือการติดเชื้อครั้งแรก การติดเชื้อครั้งต่อไปอาการก็จะน้อยลงและในที่สุดก็จะเป็นแบบไม่มีอาการ และโรคนี่ก็จะอยู่กับเรา โดยที่ติดเชื้อแล้วอาการไม่รุนแรง หรืออัตราการเสียชีวิตน้อยมาก อย่างเช่น โรคทางเดินหายใจทั่วไปเป้าหมายการฉีดวัคซีนเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ใน covid-19 ภูมิคุ้มกันไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ แต่ป้องกันความรุนแรงของโรคได้ ภูมิคุ้มกันหมู่ที่ตั้งเป้าไว้จึงไม่สามารถที่จะนำมาใช้ได้ ทุกคนจะต้องสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาจากการฉีดวัคซีน หรือติดโรค แล้วเมื่อเป็นซ้ำก็จะไม่มีอาการหรืออาการน้อยลง

เมื่อเป็นเช่นนี้ ปริมาณการฉีดวัคซีนที่คาดไว้แต่เดิมในการลดการระบาดของโรค เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่จึงไม่สามารถนำมาใช้ได้ หรือกล่าวว่าต่อไปนี้ทุกคนจะต้องสร้างภูมิขึ้นมาเพื่อลดความรุนแรงของโรคที่จะเกิดในกรณีที่เป็นซ้ำ และในอนาคตเด็กเล็กที่เกิดมา ยังไม่มีภูมิก็จะมีการติดโรคโดยธรรมชาติ ซึ่งโรคนี้ไม่รุนแรงสำหรับเด็ก และก็จะเกิดภูมิคุ้มกันขึ้นมาหลังจากการติดเชื้อในวัยเด็ก แบบโรคทางเดินหายใจทั่วไปที่เราพบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ เพราะผู้ใหญ่เคยติดเชื้อในวัยเด็กและมีภูมิอยู่แล้วโรคนี้จะอยู่กับเราตลอดไป จำนวนวัคซีนที่จะใช้ จึงต้องใช้สำหรับประชากรทุกคนในประเทศไทยทุกคน ในการสร้างภูมิคุ้มกันพื้นฐาน เพื่อลดความรุนแรงของโรคในกรณีที่มีการติดเชื้อ หรือให้เป็นแบบไม่มีอาการ ในครั้งต่อไป”

15786


แม็กซ์ เวอร์สแตพเพน นักขับรถสูตรหนึ่งชาวดัตช์ เถลิงแชมป์ต่อหน้ากองเชียร์ในบ้านของตัวเองอย่างยิ่งใหญ่ หลังเหยียบคันเร่งซิ่งม้วนเดียวจบคว้าแชมป์ ดัตช์ กรังด์ ปรีซ์ ที่กลับมาจัดในเนเธอร์แลนด์สครั้งแรกในรอบ 36 ปี

ศึกรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก สนามที่ 13 ของปี รายการ ดัตช์ กรังด์ ปรีซ์ ณ สนาม แซนด์ฟอร์ด ประเทศเนเธอร์แลนด์ส โดยวันที่ 5 กันยายน ที่ผ่านมา เป็นรอบชิงชนะเลิศ ดวลความเร็วกันทั้งหมด 72 รอบสนาม และมีคนดูแน่นขนัดถึง 70,000 ที่นั่ง

ปรากฏว่าตลอดเรซไม่มีใครสู้ แม็กซ์ เวอร์สแตพเพน นักขับหนุ่มค่าย เรด บูลล์ หลังออกสตาร์ทจาก โพล โพซิชัน ก่อนควบรถคู่ใจนำแบบม้วนเดียวจบ ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที 5.395 วินาที และเป็นนักขับชาวดัตช์คนแรกในประวัติศาสตร์ที่เถลิงแชมป์ในโฮมเรซของตัวเอง

ตามด้วย ลูอิส แฮมิลตัน กับ วอล์ตเตรี บ็อตทาส สองนักแข่งจากค่าย เมอร์เซเดส เอเอ็มจี วิ่งเข้ามาอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับ ซึ่งผลงานนี้ทำให้ เวอร์สแตพเพน เก็บเพิ่มเป็น 224.5 แต้ม แซง แฮมิลตัน ขึ้นไปนั่งจ่าฝูงตารางชิงแชมป์โลกประเภทนักขับแล้ว แบบเหนือกว่า 3.5 แต้ม

'คุณคงได้ยินแล้วใช่ไหม เสียงเชียร์นั่น มันน่าทึ่งมากๆเลย' เวอร์สแตพเพน พูดถึงเสียงเชียร์จากกองเชียร์เจ้าบ้านที่มากันแน่น 'มันมีความหวังสูงมากในสัปดาห์นี้ แต่ผมก็มีความสุขมากที่ได้เป็นผู้ชนะที่นี่ มันเป็นวันที่ยอดเยี่ยม และคนดูก็สุดยอดมากๆ'

สำหรับการแข่งขันรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลกเรซถัดไป จะแข่งกันต่อเลยกับสนามที่ 14 ของปี รายการ อิตาเลียน กรังด์ ปรีซ์ ณ สนาม มอนซา เซอร์กิต ประเทศอิตาลี จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 กันยายน 2021

หน้า: 1 ... 875 876 [877] 878 879 ... 889