สายยิ่งยาว ก็ควรเลือกใช้สายที่ตัวนำใหญ่ๆ หน่อยครับ เพราะยิ่งยาวก็ยิ่ง loss
ดูจากตารางของ Canare ก็ได้ ที่ระยะ 10เมตร ก็เห็นความแตกต่างแล้ว
ระหว่าง 4S6 เส้นเล็กสุดก็จะมี loss เยอะสุด ส่วน4S11 เส้นใหญ่สุด loss น้อยกว่ากันเยอะ
สำหรับสาย surround ผมใช้ยาวเส้นละ 10 เมตร เปลี่ยนมา 4 รอบแล้วครับ
เริ่มจากสายอมร Choseal เส้นเล็กๆ เมตรละ 16 บาท คุณภาพก็สมราคา ดีกว่าสายดำแดงทั่วไป
ใช้กับลำโพงเล็กๆ มานานหลายปี จนอัพลำโพงหลังมาเป็น Wharefedale Amber 20.1 ก็เริ่มหาสายอื่นๆ มาลองบ้าง
ก็เริ่มจากสาย XP เมตรละ 30 เส้นนี้ห่วยสุด เป็นสายอลูมิเนียมชุบทองแดง
แหลมหายไปเยอะ ใช้แค่ 2เดือน ก็ต้องถอดกองไว้ กลับไปใช้สายอมรตามเดิม แต่เบิ้ลสายเป็น 2เส้นคู่ ใช้ไปอีกร่วมๆ 2ปี
แล้วก็มาลองสายไฟเยอรมัน Lappkable เมตรละ 19 บาท เส้นนี้คุ้มค่าที่สุด ใช้อยู่ราวๆ 2ปี ยังเก็บสายไว้เผื่ออยากเล่น 7.1
เส้นล่าสุดก็ Canare 4S8 พึ่งใช้มาราวๆ 4เดือน เส้นนี้ก็เสียงถูกใจแล้ว คงจะใช้ยาวๆ เลยครับ
ป.ล. ถ้าลองฟังกับเพลง 5.1 ที่ mix มาแบบให้เสียงเครื่องดนตรี วนไปรอบตัว หรือแผ่นเทสมีเสียงต่อเนื่องรอบตัว
จะฟ้องถึงความต่อเนื่องในแต่ละ channel ชัดเจนเลยครับ