แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - PostDD

หน้า: 1 ... 232 233 [234] 235 236 ... 249
4195


นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่วันแรกที่เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้รับนโยบายจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ให้กำกับดูแลและติดตามการดำเนินงานของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เนื่องจากเป็นกรมฯ ที่มีภารกิจและบทบาทหน้าที่สำคัญเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการโดยตรง อีกทั้งยังเป็นคลังข้อมูลธุรกิจขนาดใหญ่ของประเทศ โดยเน้นย้ำให้หาแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจไทยให้สามารถประกอบธุรกิจได้อย่างคล่องตัว มีความสะดวก ควบคู่ไปกับการปลูกฝังให้ภาคธุรกิจมีธรรมาภิบาล และมีมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจตามหลักเกณฑ์ของสากล สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการสร้างประเทศไทยให้ใสสะอาด โดยที่ผ่านมาทราบว่ากรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้สนับสนุนและสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ภาคธุรกิจที่ประพฤติตนเป็นธุรกิจที่ดี มีการบริหารกิจการด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส ผ่านการจัดกิจกรรม “การรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ” อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา

“แม้ในปี 2564 นี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะคลี่คลายลงก็ตาม ทำให้การจัดกิจกรรมต่าง ๆ ไม่สามารถดำเนินได้ในรูปแบบปกติ แต่ภาคธุรกิจยิ่งต้องการขวัญและกำลังใจเพื่อให้สามารถเดินหน้านำพากิจการก้าวต่อไปได้ จึงได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเดินหน้า จัดกิจกรรมส่งเสริม ธรรมาภิบาลให้แก่ภาคธุรกิจในรูปแบบ New Normal โดยได้เปิดให้ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน หรือบริษัทจำกัด ที่จัดตั้งมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี สมัครเข้าร่วมกิจกรรม โดยมีหลักเกณฑ์การตรวจประเมินเพื่อขอรับหนังสือรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ 6 ข้อ ได้แก่ 1) หลักนิติธรรม ธุรกิจต้องปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ อย่างเคร่งครัด 2) หลักคุณธรรม ต้องมีการส่งเสริมคุณธรรมและจรรยาบรรณทางธุรกิจ 3) หลักความโปร่งใส มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องอย่างสม่ำเสมอ 4) หลักความมีส่วนร่วม ธุรกิจมีความใส่ใจเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ 5) หลักความรับผิดชอบ ผู้บริหารต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม และ 6) หลักความคุ้มค่า มีการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดและสร้างคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยมีธุรกิจสนใจสมัครเข้าร่วมทั้งหมดจำนวน 63 ราย และผ่านเกณฑ์การตรวจประเมินมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ จำนวน 38 ราย โดยกรมฯ ได้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1) ธุรกิจที่ได้รับการต่ออายุหนังสือรับรอง และก้าวเข้าสู่การเป็นธุรกิจธรรมาภิบาลต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 มีจำนวน 14 ราย และ 2) ธุรกิจรายใหม่ผ่านเกณฑ์การตรวจประเมินธรรมาภิบาล มีจำนวน 24 ราย”

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายสินิตย์ เลิศไกร) แสดงความยินดีกับธุรกิจที่ผ่านการประเมินมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ และกล่าวเพิ่มเติมว่า “ธุรกิจที่ผ่านการประเมินจะได้รับหนังสือรับรองและตราเครื่องหมายรับรอง “มาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ” จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายรับรอง เป็นระยะเวลา 3 ปี เครื่องหมายดังกล่าวนอกจากจะเป็นเครื่องยืนยันการปฏิบัติตามกฎหมายซึ่งเป็นมาตรฐานขั้นต่ำของการประกอบธุรกิจแล้ว ยังแสดงถึงการประกอบธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียอีกด้วย เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงออกถึงความดี และการดำเนินธุรกิจที่อยู่บนพื้นฐานของหลักคุณธรรม โดยธุรกิจสามารถนำเครื่องหมายนี้ไปใช้ร่วมกับเครื่องหมายการค้าในการโฆษณาเพื่อเป็นการการันตีการเป็นธุรกิจสีขาว นอกจากนี้ ยังจะได้รับสิทธิในการระบุข้อความรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจบนหนังสือรับรองนิติบุคคลด้วย ซึ่งจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและความน่าเชื่อถือให้กับคู่ค้า อีกทั้งยังเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ธุรกิจรายอื่น”

ขณะนี้ กรมฯ กำลังเร่งส่งเสริมให้ภาคธุรกิจนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจไทยมีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับทั้งในและนอกประเทศ รวมทั้งจะผลักดันให้เกิดการสร้างเครือข่ายธุรกิจสีขาว เพื่อร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนเป็นแบบอย่าง และพลังในการสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจไทยต่อไป

ธุรกิจที่สนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมสร้างธรรมาภิบาลธุรกิจในปีต่อ ๆ ไป สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่กองธรรมาภิบาลธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร. 0 2 547 4417 หรือ e-mail : [email protected] และติดตามรายละเอียดการเปิดรับสมัครได้ที่ www.dbd.go.th

4196
ข้าวกล้องปลอดสารตัวช่วยคุณแม่ตั้งท้อง
ข้าวกล้องอินทรีย์ตัวช่วยของคุณแม่ตั้งครรภ์ข้าวหอมมะลิแท้สุรินทร์    ข้าวออแกนิคสำหรับทารกส่งทั่วไทย การรับประทาน “#ข้าวกล้อง” (ข้าวสุขภาพสุรินทร์) นอกจาก   ปลูกข้าวกล้องหอมมะลินิลอินทรีย์ จะส่งผลดีโดยตรงต่อคุณแม่ตั้งครรภ์แล้วยังส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์อีกด้วย ข้าวกล้องออแกนิคถือเป็นหนึ่งในอาหารกลุ่มให้พลังงานต่อร่างกายในการใช้พลังงานต่อวันของเรา คุณแม่ตั้งครรภ์ยังมีความต้องการสารอาหารจาก ข้าวหอมมะลิออแกนิกที่มากกว่าคนปกติ เพราะต้องน้ำสารอาหารที่จำเป็นหลายๆส่วนไปใช้ในการสร้างพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์   ข้าวกล้องเกษตรอินทรีย์หอมมะลิถือเป็นตัวช่วยที่ดีมากๆ อีกตัวช่วยหนึ่ง เนื่องจาก ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี จึงยังคงไว้ด้วยคุณค่าสารอาหารมากกว่าขาวที่ถูกขัดสี มีจมูกข้าว มีเยื่อหุ้มข้าว มีกาบา ซึ่งมีและสารอาหารต่างๆครบ ทั้งโปรตีน วิตามิน เกลือแร่ ซึ่งมีอะไรบ้างมาดูกัน..




1. ปัญหาหลักของคุณแม่ตั้งครรภ์ คือ ภาวะท้องผูก ข้าวกล้องมีเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยในเรื่องของอาการท้องผูกและมะเร็งลำไส้ได้เป็นอย่างดี
ปัญหาต่อมา คุณแม่ตั้งครรภ์ชอบเป็นตะคริว เมื่อคุณแม่รับประทานข้าวกล้องเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันการเกิดปากนกกระจอก เนื่องจากมีวิตามินบี 2 บรรเทาอาการอ่อนเพลีย อาการปวดแสบและเสียวในขา ปวดน่อง ปวดกล้ามเนื้อ
2. นอกจากคุณแม่จะทานยาที่คุณหมอให้สริมธาตุเหล็กมา ข้าวกล้องยังมีธาตุเหล็กมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง จาก  ข้าวปะกาอำปึลออแกนิค
3. ในข้าวกล้อง   ข้าวหอมมะลินิลอินทรีย์ มีฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน และเส้นผมของลูกและคุณแม่ที่ผมร่วงบ่อย
4. ใน กลุ่มข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์ มีแคลเซียมจำเป็นที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังช่วยป้องกันการเกิดตะคริว ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์กว่า 90% ต้องเผชิญ ป้องการให้คุณแม่ไม่เป็นโรคกระดูกพรุนเมื่ออายุมากขึ้นอีกด้วย
5. ในข้าวกล้องมีไขมันที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย ในข้าวกล้องเป็นไขมันดีที่ไม่มีคอเลสเตอรอล (Cholesterol)
6. ในข้าวกล้องมีเกลือแร่ และวิตามินรวมกันกว่า 20ชนิด ซึ่งช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
7. ใน  กลุ่มข้าวกล้องหอมมะลินิลอินทรีย์ มีโปรตีนมากกว่า 20-30% ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่สึกหรอ
8. ในข้าวกล้องแป้งมีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน ส่วนคนที่ผอมก็แข็งแรงยิ่งขึ้น เนื่องจากได้รับสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น มีผลทำให้สุขภาพจิตใจของคุณแม่ตั้งครรภ์ดีขึ้น เพราะสุขภาพร่างกายแข็งแรง สดชื่น แจ่มใส

เห็นไหมว่าข้าวกล้อง เช่น   ข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์ มีคุณค่าและสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายคุณแม่และคุณลูกมากแค่ใหน เวลาเลือกซื้อข้าวกล้อง อย่าลืมเลือกซื้อข้าวกล้องอินทรีย์ เพราะทุกกระบวนการผลิตไม่มีการใช้สารเคมีดีต่อสุขภาพคุณแม่และคุณลูกอย่างปลอดภัย

เพื่อความมั่นใจถึงความเป็นข้าวออร์แกนิค  ข้าวไรซ์เบอรี่  ที่แท้จริงของเรา
ข้าวฮอร์ (HOR)   กลุ่มข้าวอินทรีย์สุรินทร์
ได้รับมาตรฐาน
1. ใบรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์ ( Organic Thailand)
2. ใบรับรองเครื่องหมาย "ข้าวพันธุ์แท้" จากกรมการข้าว จาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในประเภทของ
2.1 ข้าวขาวดอกมะลิ 105 (ข้าวขาว)
2.2 ข้าวขาวดอกมะลิ105 (ข้าวกล้อง)
2.3 ข้าวมะลินิลสุรินทร์

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   การปลูกข้าวอินทรีย์   ทำไมต้องเป็นข้าวอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :  ข้าวเกษตรอินทรีย์
Facebook : ข้าวออร์แกนิค
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique โครงการข้าวออร์แกนิค  เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ1.  ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิค
2.  ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลิ
3.  ปลูกข้าวปะกาอำปึลออแกนิค (#ข้าวพื้นถิ่นสุรินทร์)
4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์
5.   ข้าวหอมมะลิแดงเกษตรอินทรีย์ 
6. ข้าวกล้องมะลินิลอินทรีย์
7.  ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ออแกนิค

ข้าว Hor พร้อมขายแล้วที่ Shopee & Lazada
https://shopee.co.th/hor.boutique
https://www.lazada.co.th/shop/horboutique/

#ข้าวกล้องอินทรีย์ตัวช่วยของคุณแม่ตั้งครรภ์ #ข้าวกล้องสำหรับคนท้อง #ข้าวกล้องสำหรับคุณแม่ตั้งครภ์ #คนท้อง #ตั้งครรภ์ #ตั้งท้อง

 

 
 

4197


เมื่อวันที่ 1 ก.ย. นพ.พงษ์พจน์ ธีรานันตชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายศุภฤกษ์ ปักเขตานัง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) นายเชิดศักดิ์ นามทัศน์ ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และคณะผู้บริหารโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ร่วมพิธีเปิดโครงการจองวัคซีนโควิด 19 “หมอประจวบพร้อม เซเว่นอีเลฟเว่น” ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาประจวบซิตี้ อ.เมืองฯ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเพิ่มช่องทางให้ประชาชนชาวอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เข้าถึงระบบการจองคิวฉีดวัคซีนได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มประชาชนที่ไม่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ไม่มีอินเทอร์เน็ต หรือไม่สามารถดำเนินการด้วยตัวเองได้

นพ.พงษ์พจน์ กล่าวว่า โครงการนี้เกิดขึ้นจากการที่ซีพีออลล์ ต้องการช่วยเหลือประชาชนได้เข้าถึงบริการฉีดวัคซีนโควิดได้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น จึงหารือร่วมกับโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ พบว่าที่ผ่านมามีประชาชนหลายรายต้องการฉีดวัคซีนแต่ไม่สามารถเข้าถึงระบบการจองคิวได้เพราะไม่มีสมาร์ทโฟน บางรายเป็นผู้สูงอายุ ไม่สะดวกในการลงทะเบียนออนไลน์ จึงมีแนวคิดร่วมกันเพิ่มช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงการลงทะเบียนได้ง่ายขึ้น ผ่านร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น โดยประชาชนสามารถที่จะช่วยลงทะเบียนให้กับคนอื่นๆ ในบ้านได้ เพียงนำบัตรประชาชนของเจ้าของบัตรมาเท่านั้น ขณะนี้มีประชาชนลงทะเบียนในระบบหมอประจวบพร้อมแล้วกว่า 130,000 คน ได้รับวัคซีนไปแล้วกว่า 70,000 คน คาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดการลงทะเบียนได้จำนวนมาก ประชาชนในพื้นที่ได้รับวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ครอบคลุมร้อยละ 70 ของประชากรทั้งจังหวัดได้เร็วมากยิ่งขึ้น

นพ.พงษ์พจน์ ธีรานันตชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์
นพ.พงษ์พจน์ ธีรานันตชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์

ด้านนายศุภฤกษ์ กล่าวว่า การเปิดรับลงทะเบียนจองคิวฉีดวัคซีนโควิด 19 ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 10 สาขาในอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ถือเป็นพื้นที่นำร่องในการทำงานร่วมกันของภาครัฐและเอกชน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าถึงบริการจองคิวฉีดวัคซีนได้สะดวกและรวดเร็ว ใช้เวลาไม่นาน เพียงนำบัตรประชาชนมายื่นให้เจ้าหน้าที่ลงทะเบียนผ่านระบบ "หมอประจวบพร้อม" จะได้รับใบจองคิวฉีดวัคซีนของโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ที่ระบุข้อมูลวันที่จองคิว ลำดับการจองคิว จากนั้นสามารถติดตามข้อมูลวันและเวลาในการฉีดวัคซีนได้ที่เพจเฟซบุ๊ก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ https://www.facebook.com/ssjpcko และเฟซบุ๊ก โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ https://www.facebook.com/pkhos โดยทางร้านเซเว่นอีเลฟเว่นมีเจ้าหน้าที่เพียงพอที่จะรองรับการลงทะเบียน

"ในอนาคตอาจจะมีการขยายบริการไปยังร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในสาขาอำเภออื่นๆ หรือจังหวัดอื่นๆ เพิ่มเติม หากได้รับการประสานจากหน่วยงานภาครัฐ ทางบริษัทพร้อมยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่" นายศุภฤกษ์ ระบุ

4198
ข้าวดีปลอดสารแท้ 100% ข้าวปลอดสารพิษ  ข้าวสุขภาพส่งทั่วไทย #ข้าวออแกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิก หรือ "#ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (#OranicRice)
ข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก (#OranicFood) หรือเรียกง่ายๆเป็นภาษาไทยว่า "ข้าวเกษตรอินทรีย์" หรือ "ข้าวอินทรีย์" / ข้าวมะลินิลออแกนิคคือ คือ ข้าวที่ผ่านการผลิตทางการเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี หรือวัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น (รวมไปถึงเมล็ดพันธุ์ ข้าวที่ไม่ตัดต่อทางพันธุกรรม) กระบวนการผลิตข้าวไม่มีการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช ก่อนการปลูกข้าวจะต้องเตรียมหน้าดินก่อนด้วยวิธีธรรมชาติ ทุกขั้นตอนการผลิตข้าวจะไร้สารปนเปื้อนที่เกิดมนุษย์ จะไม่ผ่านการฉายรังสี ไม่เพิ่มเติมสิ่งปรุงแต่งลงไปในข้าว 




 ข้าวหอมมะลิออแกนิกข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก หรือ "ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (Oranic Rice) ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ คืออะไร?
1. ส่วนประกอบทุกอย่างล้วนมากจากธรรมชาติ โดยข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารสังเคราะห์ใด ๆ ในการเพาะปลูก  ข้าวปะกาอำปึลออแกนิกเลย ข้าวก็จะถูกปลูกและเจริญเติบโตมาด้วยอาหารจากธรรมชาติล้วน ๆ ส่วนข้าวก็จะเป็นการปลูกในนา ไม่ใส่วัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยวิทยาศาสตร์ และสารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ใช้แต่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกจากธรรมชาติในการเพาะปลูกข้าว ส่วนเมล็ดพันธุ์ข้าวที่นำมาเพาะปลูกจะต้องไม่มีตัดต่อพันธุกรรม และต้องมีการเตรียมหน้าดินก่อนการเพาะปลูกข้าวด้วยวิธีธรรมชาติ คือ จะต้องทำให้ปลอดสารพิษไม่น้อยกว่า 3 ปี เหล่านี้จึงเรียกได้ว่าเป็นการสร้างอาหารแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง 100% มีกลิ่นหอมตามแบบธรรมชาติ ทุกขั้นตอนในการปลูกข้าวและการแปรรูปข้าวจะต้องอยู่ในมาตรฐานที่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานต่าง ๆ ส่วนประกอบทุกอย่างจึงสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีสารพิษตกค้างหรือสารก่อมะเร็ง
2. ข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ เลย ส่วนประกอบทุกอย่างจะต้องมาจากธรรมชาติ เพราะถ้ามีการใช้สารเคมีก็จะไม่ถือว่าเป็นข้าวออแกนิค ซึ่งการไม่ใช้สารเคมีที่ว่านั้นหมายถึง การไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี 
3. ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในกระบวนการปลูก  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิค เพราะข้าวออแกนิคนั้น นอกจากจะมุ้งเน้นให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีแล้ว จุดประสงค์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการช่วยลดมลพิษให้กับธรรมชาติ เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการใช้สารเคมีต่าง ๆ เช่น ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี หรือสารเร่งการเจริญเติบโตต่าง ๆ นั้นจะก่อให้เกิดสารพิษตกค้างในดิน ในน้ำ และในอากาศ ซึ่งกว่าจะย่อยสลายไปได้บางทีก็อาจใช้ระยะเวลาเป็นสิบ ๆ ปี ซึ่งวิธีการปลูก  ข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิก แบบธรรมชาตินี้เองจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยฟื้นฟูธรรมชาติที่เสียไป เพราะนอกจากจะได้รับประทานข้าวที่ปลอดสารพิษแล้ว ยังช่วยลดมลพิษต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ข้าวกล้องหอมมะลิแดงปลอดสารพิษ
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://xn--12cbh7f2bxa6ba6b0a4lsdyb.net/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวหอมมะลิออร์แกนิค
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์
3.  ข้าวสุขภาพปะกาอำปึล
4.  ข้าวผสมหลายสายพันธุ์ออร์แกนิคจังหวัดสุรินทร์
5.ข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์6. ข้าวกล้องหอมมะลินิลเพื่อสุขภาพ7.  ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์


#ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์  #ข้าวออแกนิคสุรินทร์  #ข้าวออแกนิกสุรินทร์   #ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  #ข้าวสุขภาพสุรินทร์
 

 

 

 

 

 

 

 

 
 

4199


เป็นที่รู้มานานว่าโรงไฟฟ้าพลังความร้อนแม่เมาะ กฟผ. มีผลพลอยได้จากการผลิตไฟฟ้าเป็นเถ้าลอยที่นำไปขายต่อถึงปีละกว่า 9 แสนตัน แต่ก็มีเถ้าลอยอีกส่วนไม่สามารถสร้างประโยชน์ และต้องนำไปทิ้งซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายมากเพื่อฝังกลบ แต่ในวันนี้ กฟผ.มีวิธีนำเถ้าลอยที่ต้องทิ้ง ผลิตเป็นสินค้าสร้างประโยชน์ได้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง

โรงไฟฟ้าแม่เมาะ จ.ลำปาง ใช้ถ่านหินลิกไนต์เป็นเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า ซึ่ง กฟผ. มีมาตรฐานในการดูแล และควบคุมการปล่อยมลสารอย่างเข้มงวด และในกระบวนการผลิตไฟฟ้ายังมีผลพลอยได้ คือ ‘เถ้าลอย’ (Fly Ash) สามารถนำไปใช้เป็นส่วนผสมสำหรับงานก่อสร้าง เช่น คอนกรีต เสาเข็ม พื้นสำเร็จรูป กระเบื้อง ฯลฯ

แต่ไม่ใช่เถ้าลอยทั้งหมดที่สามารถนำไปใช้งานได้ ยังมีบางส่วนที่ถูกทิ้ง เพราะองค์ประกอบทางเคมีไม่ผ่านเกณฑ์ กฟผ. จึงร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) นำโดย รศ.ดร.สมิตร ส่งพิริยะกิจ คณบดีวิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม นำเถ้าลอยที่ไม่ได้มาตรฐานมาวิจัยเพื่อหาทางนำสิ่งไร้ค่ามาพัฒนาให้เกิดประโยชน์

"เถ้าลอยที่มีค่ามักถูกนำไปเป็นส่วนผสมเสริมเพื่อทดแทนปูนซีเมนต์ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง แต่จะมีโอกาสเป็นไปได้หรือไม่ที่จะถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมหลัก" ประเด็นคำถามนี้จุดประกายแนวคิด กฟผ. และอาจารย์สมิตร ร่วมกันหาแนวทางการผลิตคอนกรีตจากเถ้าลอยที่ต้องถูกทิ้ง (Activated Fly Ash)  ซึ่งในที่สุดก็พบว่า สภาพคอนกรีตจากเถ้าลอยที่ถูกทิ้งนั้นมีความแข็งแรงและคงทน ลักษณะทางกายภาพเหมือนกับการใช้ปูนซีเมนต์

โรงไฟฟ้าแม่เมาะ ที่่จ.ลำปาง ผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินลิกไนต์ ทำให้เกิดเถ้าลอย 
โรงไฟฟ้าแม่เมาะ ที่่จ.ลำปาง ผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินลิกไนต์ ทำให้เกิดเถ้าลอย

เฉลิมพล บุญส่ง หัวหน้าแผนกพัฒนาผลิตภัณฑ์ธุรกิจวัตถุพลอยได้ กองธุรกิจวัตถุพลอยได้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อธิบายถึงที่มาของเถ้าลอย และความมุ่งมั่นในการนำเถ้าลอยที่มีคุณสมบัติไม่ผ่านเกณฑ์การขายไปพัฒนาให้มีมูลค่าเพิ่มโดยนำไปใช้ประโยชน์ว่า

“ถ่านหินลิกไนต์ที่นำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า เมื่อใช้มาเป็นเวลานานก็ต้องยิ่งขุดลึกลงไปเรื่อยๆ เพื่อนำถ่านหินด้านล่างมาใช้ ยิ่งขุดถ่านหินลึกเท่าไหร่ ถ่านหินก็ยิ่งมีคุณสมบัติทางเคมีที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลต่อคุณภาพของเถ้าลอย โดยเฉพาะส่วนผสมของ Free CaO หรือ แคลเซียมออกไซด์อิสระที่มากเกิน 4.0% และ Sulfur Trioxide หรือ ซัลเฟอร์ไตรออกไซด์มากเกิน 5.0% ทำให้ไม่ผ่านเกณฑ์เถ้าลอยที่ขายในปัจจุบัน จึงต้องถูกกำจัดทิ้งไป”

เมื่อเผาเชื้อเพลิงถ่านหินลิกไนต์ เพื่อให้ความร้อนกับหม้อไอน้ำในการผลิตกระแสไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนแม่เมาะก็จะเกิดเถ้าถ่านหิน เถ้าขนาดใหญ่จะตกลงก้นเตา เรียกว่า เถ้าหนัก (Bottom ash) ใช้เป็นส่วนผสมทำบล็อกประสาน ก่อสร้างถนน หรือบดเพื่อลดขนาดของอนุภาคใช้ในงานคอนกรีต ส่วนเถ้าขนาดเล็กที่เหลือ คือ เถ้าลอย (Fly Ash) จะถูกดักจับโดยเครื่องดักจับฝุ่นไฟฟ้าสถิต และในปัจจุบันสามารถนำไปใช้เป็นส่วนผสมสำหรับงานก่อสร้าง เช่น คอนกรีต เสาเข็ม พื้นสำเร็จรูป กระเบื้อง ฯลฯ

รศ.ดร.สมิตร ส่งพิริยะกิจ 
รศ.ดร.สมิตร ส่งพิริยะกิจ

รศ.ดร.สมิตร ส่งพิริยะกิจ กล่าวว่า ปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงของการนำเถ้าลอยมาใช้เป็นส่วนผสมหลักทดแทนปูนซีเมนต์ จำเป็นต้องคำนึงถึงผลลัพธ์ด้านการใช้งานด้วย เพราะต้องมีคุณสมบัติที่ดี มีประสิทธิภาพ ไม่ต่างจากสินค้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน คือ กำลังรับแรงอัดของคอนกรีตที่เพียงพอต่อการก่อสร้างแต่ละงาน เช่น หากจะสร้างถนน ต้องมีกำลังคอนกรีตไม่น้อยกว่า 280 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร และเมื่อคอนกรีตผสมเสร็จมาถึงหน้างานต้องอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน ไม่แข็งตัวก่อนที่จะนำไปเท และสามารถก่อคอนกรีตได้รูปแบบตามต้องการ

กว่าจะคิดค้นสูตรคอนกรีตจากเถ้าลอยที่ไม่ผ่านเกณฑ์การขายได้นั้นมีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องคำนึงถึง เพราะยังไม่เคยมีงานวิจัยในลักษณะนี้ จึงนับว่าเป็นงานที่ท้าทายที่สุดเลยก็ว่าได้ แต่นั่นก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถ

ในที่สุดก็ได้สูตรสำเร็จในการทำคอนกรีตจากเถ้าลอยเป็นส่วนผสมหลัก แต่จะใช้งานได้จริงหรือไม่ ต้องทดลองในพื้นที่จริง เมื่อปีที่ผ่านมาได้ร่วมกับ กฟผ. เลือกพื้นที่บริเวณหน้าทางเข้าออกตาชั่งในโรงไฟฟ้าพลังความร้อนแม่เมาะ ที่มีรถบรรทุกน้ำหนัก 20-50 ตันวิ่งเข้าวิ่งออกวันละหลายๆ เที่ยวเพื่อทดสอบว่า คอนกรีตจากเถ้าลอยนั้นจะสามารถรับน้ำหนักได้ดีตามที่คิดไว้หรือไม่

การทดลองเริ่มต้นเมื่อเทคอนกรีตแล้ววัดค่ากำลังรับแรงอัดคอนกรีต พบว่า วัดได้ถึง 325 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร หลังจากเทในระยะเวลา 28 วัน นั่นหมายถึง กำลังคอนกรีตที่ได้มากกว่าค่าที่ออกแบบไว้ สภาพคอนกรีตมีความแข็งแรงและคงทน ลักษณะทางกายภาพเหมือนกับการใช้ปูนซีเมนต์ แต่มีสีที่เข้มกว่าเล็กน้อย สามารถใช้งานได้เมื่อถึงหน้างาน แข็งตัวได้ตามระยะเวลาที่กำหนด และเมื่อคำนวณต้นทุนแล้ว ยังพบว่ามีต้นทุนที่ถูกกว่าการใช้ปูนซีเมนต์อีกด้วย

ต่อมา กฟผ. ต่อยอดงานวิจัยชิ้นนี้ และพบว่าเถ้าลอยที่ต่ำกว่ามาตรฐานสามารถนำไปใช้เป็นส่วนผสมหลักในการทำคอนกรีต ซึ่งนอกจากจะได้คอนกรีตที่มีความแข็งแรงไม่ต่างจากการใช้ปูนซีเมนต์แล้ว ยังมีราคาต้นทุนถูก ส่งผลดีต่อผู้ใช้งาน ข้อสำคัญเมื่อผลิตคอนกรีตโดยใช้เถ้าลอยเป็นส่วนผสมหลักแล้วช่วยลดการใช้ปูนซีเมนต์ลง ส่งผลให้สามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ เพราะในกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์ 1 ตันจะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศมากถึง 1 ตันเช่นกัน

นั่นหมายถึง ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยคอนกรีตจากเถ้าลอย จึงเป็นคอนกรีตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและโลก สอดคล้องกับแนวทางใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน(Circular Economy)
จากของที่ต้องกำจัดทิ้ง เปลี่ยนสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่า ซ้ำยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการฝังกลบได้ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาทต่อปี จึงถือว่าเป็นมิติใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับวงการอุตสาหกรรมก่อสร้าง

หลายคนคงไม่รู้ว่า การก่อสร้างเขื่อนคลองท่าด่าน มีเถ้าลอยเป็นผสมอยู่ด้วย
หลายคนคงไม่รู้ว่า การก่อสร้างเขื่อนคลองท่าด่าน มีเถ้าลอยเป็นผสมอยู่ด้วย

ความนิยมใช้เถ้าลอยมากขึ้น

นอกจากสาเหตุด้านเศรษฐกิจยังมีเหตุผลทางเทคนิค ซึ่งเพิ่มคุณสมบัติหลายประการของคอนกรีตให้ดียิ่งขึ้น โดยมีการศึกษาวิจัยของนักวิชาการและคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ ยืนยันผลการทดสอบ ตัวอย่างเช่น ขนาดที่เล็กละเอียดและมีทรงกลมเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เถ้าลอยทำหน้าที่ในการลดช่องว่างที่เป็นโพรงอากาศ เพิ่มความแข็งแรงในระยะยาวให้คอนกรีต เพิ่มความสามารถในการเทและสูบดีขึ้น ไม่อุดตัน โดยที่ความต้องการน้ำในการผสมน้อยลง การเกิดปฏิกิริยากับน้ำไม่คายความร้อนรุนแรงเหมือนซีเมนต์ ซึ่งจะลดความเสี่ยงของการแตกร้าวในคอนกรีต ทำให้เหมาะแก่การใช้งานกับโครงสร้างที่มีความหนามากกว่า 1 เมตรขึ้นไป นอกจากนี้ คอนกรีตที่ผสมเถ้าลอยจะมีความทนทานต่อกรดและซัลเฟตเพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถยืดอายุของคอนกรีตที่อยู่ในบริเวณแหล่งน้ำทะเลได้นานขึ้น

ความสำเร็จของการนำเถ้าลอยมาใช้ในงานคอนกรีต พบเห็นได้ทั่วไปไม่ว่าจะเป็น การก่อสร้างผนังอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน, สะพานพระราม 8, แท่นจอดรถไฟฟ้า BTS, โครงการระบบบำบัดน้ำเสียที่หนองแขมและสมุทรปราการ, อาคารมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตบางนา เป็นต้น ซึ่งนอกเหนือจากงานก่อสร้างแล้ว ความสำเร็จยังรวมไปถึงการเปิดสอนหลักสูตรเทคโนโลยีวัสดุก่อสร้างงานคอนกรีตสมัยใหม่ เรื่อง การใช้เถ้าลอยจากถ่านหิน ผ่านทางอินเตอร์เน็ต (www.learn.in.th) รวมทั้งการพัฒนาโปรแกรมการออกแบบและคำนวณการใช้เถ้าลอยในงานคอนกรีตโดย รศ.ดร. สมนึก ตั้งเติมสิริกุล และคณะซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของ กฟผ. ซอฟท์แวร์ที่พัฒนาขึ้นนี้ได้รับความสนใจจากบริษัทผลิตไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนำไปสู่ความร่วมมือและให้ทุนในการวิจัยพัฒนาให้เหมาะสมกับเถ้าลอยของประเทศญี่ปุ่น

ส่วนโครงการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเห็นจะเป็นการก่อสร้างเขื่อนคลองท่าด่าน ที่บ้านท่าด่าน ตำบลหินตั้ง อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก อันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เพื่อบรรเทาความทุกข์ร้อนของชาวนครนายก เขื่อนคลองท่าด่านมีความยาว 2,720 เมตร ถือเป็นเขื่อนคอนกรีตที่ยาวที่สุดในโลก อยู่ในความรับผิดชอบของกรมชลประทาน ก่อสร้างด้วยระบบคอนกรีตบดอัด โดยใช้คอนกรีตผสมประมาณ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร ประกอบด้วยซีเมนต์ 90 กิโลกรัม และเถ้าลอย 100 กิโลกรัม/คอนกรีต 1 ลูกบาศก์เมตร

4200


รอยเตอร์ – ออสเตรเลียจะได้รับวัคซีนไฟเซอร์ 500,000 โดสจากสิงคโปร์ในสัปดาห์นี้เป็นข้อตกลงยืมวัคซีนที่ทำร่วมกับสิงคโปร์เพื่อเพิ่มจำนวนประชากรที่ได้รับวัคซีนในแดนจิงโจ้

รอยเตอร์รายงานวันนี้(31 ส.ค)ว่า นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย สกอตต์ มอร์ริสสัน แถลงวันอังคาร(31)ว่า ได้ทำข้อตกลงยืมวัคซีนไฟเซอร์ร่วมกับสิงคโปร์ก่อนหน้า และภายในสัปดาห์นี้จะมีการส่งวัคซีนไฟเซอร์จำนวน 500,000 โดสจากสิงคโปร์มายังออสเตรเลีย

ภายใต้ข้อตกลงแคนเบอร์ราจะส่งคืนวัคซีนจำนวน 500,000 โดสที่เท่ากันกลับไปให้กับสิงคโปร์ในเดือนธันวาคม เป็นข้อตกลงยืมวัคซีนที่จะเปิดโอกาสเร่งโครงการแจกวัคซีนโควิด-1 หลังจากที่เคสเพิ่มขึ้นสูงขึ้น

“จะมีวัคซีนเพิ่มขึ้นอีก 500,000 โดสที่จะเกิดขึ้นในเดือนกันยายนมิเช่นนั้นแล้วจะต้องรออีกไม่กี่เดือนจากนี้ เป็นการเร่งโครงการแจกวัคซีนของพวกเราในช่วงเวลาสำคัญนี้ที่เรากำลังเดินหน้าไปสู่เป้าหมาย 70% และ 80% พวกนี้” มอร์ริสสันกล่าวผ่านแถลงการณ์กับนักข่าวในกรุงแคนเบอร์รา

ออสเตรเลียประสบความสำเร็จในการควบคุมโควิด-19จากการล็อกดาวน์และมาตรการกักกันโรคอย่างเข้มงวด แต่ทว่าโครงการแจกวัคซีนที่มีความล่าช้าได้ทำให้ประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงต่อการระบาดของไวรัสเดลตาที่แพร่ระบาดง่าย

ทั้งนี้ผู้ได้รับวัคซีนโควิด-19ครบโดสในประเทศออสเตรเลียมีแค่เพียง 28% เท่านั้นในเวลานี้เทียบกับจำนวน 80% ของการได้รับวัคซีน 2 เข็มครบโดสของสิงคโปร์ที่ประสบความสำเร็จสามารถให้ภูมิคุ้มกันกับประชากรได้

ในวันอังคาร(31)กรุงแคนเบอร์ราขยายการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดออกไปอีก 2 สัปดาห์และที่รัฐวิกตอเรียซึ่งถือเป็นรัฐที่มีประชากรหนาแน่นเป็นอันดับ 2 คาดว่าจะทำตามอย่างหลังจากนั้น

ที่ผ่านมากรุงแคนเบอร์ราอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์นาน 3 สัปดาห์หลังเกิดเคสใหม่ที่เชื่อว่าจะมาจากรัฐนิวเซาท์เวลส์ซึ่งเป็นศูนย์กลางระบาดของโรคโควิด-19ในออสเตรเลีย

“เรากำลังทำให้เคิร์ฟต่ำลงและกำลังจะถึงจุดสุดยอดของการระบาด อย่างไรก็ตามกระบวนการนี้เกิดขึ้นอย่างล่าช้าและมันต้องใช้เวลา” มุขมนตรีเขตปกครองกรุงแคนเบอร์รา แอนดรูว์ บาร์( Andrew Barr) แถลง

ด้านนายกรัฐมนตรีรัฐวิกตอเรีย แดน แอนดรูว์ส( Dan Andrews) แสดงความเห็นว่า ยังมีคนเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการแจกวัคซีนโควิด-19 ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการผ่อนคลายมาตรการ แต่ทางรัฐจะวางกรอบในวันพุธ(1 ส.ค)เพื่อลดจำกัดเนื่องมาจากมีจำนวนผู้รับวัคซีนเพิ่มขึ้น

4201


    การเก็บสะสมของต่างๆ เป็นงานอดิเรก
    ที่ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมากนั่นเพราะของบางชนิดจะมีมูลค่าจะสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปนานๆ.ซึ่งหากเรารู้จักวิธีการเก็บรักษาให้คงสภาพดี"ของสะสม" นั้น จะสามารถแปรเป็นรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับผู้สะสมเลยทีเดียว.ของสะสมอะไรบ้างที่เค้านิยมกันและเมื่อเวลาผ่านไป จะมีมูลค่าสูงขึ้นมากอย่างไม่น่าเชื่อของที่ควรค่าแก่การเก็บ มีอะไรบ้างมาดูกันครับ.
    [list=1]
    • แสตมป์
    • พระเครื่อง
    • รถรุ่นเก่า รถโบราณ
    • ของแต่งบ้านที่เป็นของเก่า
    • เหล้าฝรั่ง / ไวน์
    • ธนบัตร
    • เหรียญกษาปณ์และเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก
    • หนังสือเก่า
    • โมเดลของเล่น โดยเฉพาะรุ่นลิมิเต็ด
    • โปสเตอร์ภาพยนตร์.

    เคล็ดลับการเก็บสะสมของเก่าเพื่อเพิ่มมูลค่าในอนาคต 
    คือ พยายามดูแลสิ่งของเหล่านี้ให้คงสภาพเดิมและเก็บรักษาอย่างดีที่สุดเพื่อป้องกันการชำรุด.โดยเฉพาะวัสดุประเภทกระดาษ ดิน ทองสัมฤทธิ์ ฯลฯที่เสียหายได้ง่ายจากการสัมผัสกับอากาศก็ควรหากรอบ ครอบแก้ว หรือ กล่องโชว์มาบรรจุให้เรียบร้อยจึงจะดี.

    **************************************
    9kla.com ศูนย์รวมงานอะคริลิค.
    สั่งซื้อ - สอบถามรายละเอียดได้ที่

    4202


    วันนี้ (31 ส.ค.) รายงานข่าวเปิดเผยว่า แพทย์แผนไทย ดร.อมรรัตน์ เรืองสกุล ประธานศูนย์ขับเคลื่อนนวัตกรรม คณะวิทยาการจัดการ (MSci Innovation Drive Center) [MIDC] มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวถึง การจัดตั้งศูนย์ขับเคลื่อนนวัตกรรม ว่า ด้วยนโยบาย “ทิศทางของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต: จิ๋ว แต่ แจ๋ว” (SDU Direction: SMALL but SMART) ที่มุ่งเน้นการบริหารจัดการแบบพลวัตเป็นแกนหลักขององค์กร คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ในฐานะหน่วยงานทางวิชาการที่ประกอบด้วยหลักสูตรตามศาสตร์วิชาชีพที่หลากหลาย มีภาระกิจในการบ่มเพาะความรู้ทางวิชาการมาอย่างยาวนาน ได้เล็งเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นพลวัตร จึงตั้งศูนย์ขับเคลื่อนวัตกรรม คณะวิทยาการจัดการขึ้น โดยมีคณบดีคณะวิทยาการจัดการ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปรียนันท์ ประยูรศักดิ์ เป็นประธานที่ปรึกษา และมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์การจัดการเรียนรู้ การสอน การอบรม การจัดโครงการ ที่บูรณาการศาสตร์หลากหลายสาขาวิชา เพื่อให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้ และค้นพบความสามารถพิเศษ ของตนเองทำให้เกิดการต่อยอดในองค์ความรู้และเกิดการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ที่สามารถเชื่อมโยงความรู้และประยุกต์ใช้ได้ทั้งในชีวิตการเรียน การทำงานและการดำเนินชีวิต โดยความร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรที่เข้มแข็งระดับชาติทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร เพื่ออุตสาหกรรมสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่ง ประเทศไทย และ บริษัท ดรีมทีม เน็ตเวิร์ค จำกัด

    แพทย์แผนไทย ดร.อมรรัตน์ กล่าวต่อว่า เพื่อให้เกิดเป็นโครงการนำร่อง ทางศูนย์ขับเคลื่อนนวัตกรรม คณะวิทยาการจัดการ จึงจัดอบรมบริการวิชาการ ผ่านระบบออนไลน์ “ การช่วยแก้ไขปัญหาสุขภาพด้วยการอบรมปฏิบัติการสร้างนวัตกรสื่อสารสุขภาวะด้านโรคให้กับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ต.หนองสาหร่าย อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ” โดยคุณศิวโรฒ จิตนิยม ประธานสถาบันการเงินในชุมชน และ อสม.ตำบลหนองสาหร่าย อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ได้เล็งเห็นศักยภาพของศูนย์ขับเคลื่อนนวัตกรรม จะสามารถถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพของประชาชนในชุมชนที่ป่วยเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคอ้วน รวมถึงหาแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 จึงจัดอบรมให้ความรู้แก่ผู้แทนอสม. จาก 9 หมู่บ้าน จำนวนทั้งหมด 18 คน เน้นให้ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพและสำรวจตัวเองในเบื้องต้น และถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการสื่อสาร อาทิ เทคนิคการสร้างสรรค์งานผ่านสื่อ youtube และการตัดต่อวิดีโอแบบง่ายด้วยโปรแกรม kineMaster จากโทรศัพท์มือถือ สร้างคอนเทนต์บน TikTok ให้เป็นไวรัลคลิปดังด้านสุขภาพ และสอนการโพส facebook ให้ปังด้วยเทคนิคง่าย ๆ รวมถึงถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทยในการสร้างนวัตกรด้านสุขภาพ เพื่อเป็นต้นแบบถ่ายทอดองค์ความรู้ ขยายพื้นที่ลงสู่ชุมชนใกล้เคียง ก่อเกิดเป็นการวางรากฐานในการพัฒนาคนและงานได้อย่างยั่งยืน

    4203


    หลังจาก “สมาคมสายการบินประเทศไทย” ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกสายการบิน 7 สาย ได้แก่ บางกอกแอร์เวย์ส ไทยแอร์เอเชีย ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ นกแอร์ ไทยสมายล์ ไทยไลอ้อนแอร์ และไทยเวียตเจ็ท ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา

    ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ออกคำสั่งเริ่มบังคับใช้ให้สายการบินยกเลิกทำการบินเส้นทางในประเทศเข้าออกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงและกินพื้นที่เป็นวงกว้างทั่วประเทศ โดยได้ขอติดตามความคืบหน้าเรื่องการจัดสรรสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำหรือ “ซอฟท์โลน” วงเงิน 5,000 ล้านบาทแก่สายการบินทั้ง 7 สาย

    พร้อมตอกย้ำถึงความจำเป็นของซอฟท์โลนเพื่อนำมารักษาสภาพการจ้างงานของพนักงานทั้ง 7 สายที่มีรวมกันกว่า 2 หมื่นคน ในสถานการณ์ที่ยากลำบากจากผลกระทบของคลื่นยักษ์โควิด-19 จนไม่สามารถทำการบินภายในประเทศเพื่อนำกระแสเงินสดมาหมุนเวียนธุรกิจ

    กระทั่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้ประกาศคลายล็อกการเดินทางภายในประเทศ ทาง กพท.จึงออกประกาศว่าสายการบินสามารถทำการบินเข้าออกพื้นที่สีแดงเข้มได้ เริ่มตั้งแต่วันนี้ (1 ก.ย.) เป็นต้นไป และผู้โดยสารต้องดำเนินการตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในเงื่อนไขการเดินทางเข้าออกของจังหวัดจุดหมายปลายทาง หลังจากต้องหยุดบินเป็นเวลากว่า 1 เดือน!

    ล่าสุดแหล่งข่าวจากสมาคมสายการบินประเทศไทย ระบุว่า สมาคมฯจะเข้าหารือกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในวันที่ 7 ก.ย.นี้ เวลา 15.30 น. เพื่อขอหารือเพิ่มเติมถึงความเป็นไปได้ในการขอ “สินเชื่อเพื่อรักษาสภาพการจ้างงาน” วงเงิน 5,000 ล้านบาท สำหรับนำมาใช้จ่ายด้านการจ้างงานในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2564 ซึ่งเป็นสินเชื่อที่สมาคมฯยังต้องการ!

    แม้ว่าภาครัฐได้ผ่อนคลายมาตรการ อนุญาตให้ทำการบินเส้นทางบินภายในประเทศเข้าออกพื้นที่สีแดงเข้มแล้วก็ตาม แต่แนวโน้มในช่วงแรกของการคลายล็อก จะยังมีผู้โดยสารไม่มากนัก ส่วนใหญ่เดินทางเท่าที่จำเป็น และสายการบินยังประสบสถานการณ์ยากลำบากจากผลกระทบของโควิด-19 ระลอกล่าสุด ต้องรัดเข็มขัดประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง

    นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยเวียตเจ็ท กล่าวในฐานะอุปนายกสมาคมสายการบินประเทศไทยว่า จากการที่ นายอาคม รมว.คลัง ได้เรียกสมาคมฯให้เข้าพบเพื่อหารือในสัปดาห์หน้า หวังว่ากระทรวงการคลังจะมีแนวทางความช่วยเหลืออย่างชัดเจนและรวดเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้!

    “ตอนนี้สมาคมฯยังคงรอเงินกู้อยู่ รอด้วยความหวัง เพราะตอนนี้กระแสเงินสดของทุกสายการบินก็ตึงกันหมด แต่ยังไม่ถึงกับตาย ก่อนหน้านี้ผมเคยพูดในงานแถลงข่าวของสมาคมฯเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ว่า หากหยุดบินนาน 3 เดือน ทุกสายการบินตายกันหมด แม้ปัจจุบันรัฐจะประกาศคลายล็อกการเดินทางแล้ว แต่ทางสมาคมฯก็อยากจะขอความเห็นใจและความกรุณาจากกระทรวงการคลังว่าจะสามารถช่วยเหลือสมาคมฯอย่างไรได้บ้าง เพราะสายการบินเป็นธุรกิจต้นน้ำ เป็นหัวหอกในการขนคนเข้าประเทศ”

    โดยสถานการณ์การแข่งขันด้านท่องเที่ยวในตอนนี้เปลี่ยนไป! ไม่ใช่ธุรกิจกับธุรกิจอีกต่อไป แต่เป็นการแข่งขันระหว่างประเทศแล้ว! อย่างประเทศสิงคโปร์ก็มีมาตรการช่วยเหลือสิงคโปร์แอร์ไลน์ ประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางได้ผลักดันในสายการบินต่างๆ ดึงคนออกเดินทางระหว่างประเทศด้วยการแวะเปลี่ยนเครื่องหรือพำนักใช้จ่ายที่ฮับบินตะวันออกกลาง ขณะที่สายการบินในประเทศไทยยังไม่ได้รับความช่วยเหลือมากพอในเรื่องของการนำเงินสดมาหมุนเวียนธุรก


    ด้านความเคลื่อนไหวของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กล่าวว่า หลังจากประเมินสถานการณ์โควิด-19 ที่ขณะนี้มียอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันทยอยลดระดับลงต่อเนื่อง เบื้องต้นคาดว่าตลาดการเดินทางในประเทศจะกลับมาเริ่มต้นใหม่ได้อีกครั้งได้ในเดือน ต.ค.นี้ เพราะในเดือน ก.ย.จะเป็นช่วงที่มีวัคซีนเข้ามาเพิ่มอีกจำนวนมาก ถือเป็นเดือนแห่งการเร่งฉีดวัคซีนอย่างเต็มที่ โดยคาดว่าในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลจะสามารถฉีดวัคซีนให้แก่ประชากรได้ไม่ต่ำกว่า 70% ซึ่งสามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้

    หลังจากนั้นจะเดินหน้าตามแผน “การเปิดประเทศ” ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยในวันที่ 3 ก.ย.นี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะประชุมร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อหารือถึงแผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นในวันที่ 5 ก.ย.นี้ คาดว่าจะมีแผนดำเนินงานที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมออกมาเพิ่มเติม

    “วันนี้ (1 ก.ย.) รัฐบาลได้เริ่มผ่อนคลายให้หลายกิจการกลับมาดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยฟื้นบรรยากาศในภาพรวมให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการใช้จ่าย การเดินทาง แต่สิ่งที่ต้องทำร่วมกันคือการควบคุมการระบาดของโควิด-19 กดตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อให้ลดลงอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้กลับมาสูงขึ้นอีก และหลังจากผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ แล้ว หากภาพรวมออกมาดูดี เชื่อว่าจะสามารถเดินหน้าตามแผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ โดยเฉพาะในพื้นที่หรือจังหวัดที่มีความพร้อมสูงก่อน”

    นายพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนการเปิดพื้นที่นำร่องรับต่างชาติ จะเน้นพิจารณาพื้นที่เดิมที่กำหนดไว้ก่อน ซึ่งขณะนี้ยังเหลืออีก 5 พื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ประจวบคิรีขันธ์ (หัวหิน) เพชรบุรี (ชะอำ) และชลบุรี ตามแผนเดิมที่วางไว้ 10 พื้นที่หลัก หลังจากเปิดไปแล้ว 4 พื้นที่ ได้แก่ โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์, โครงการสมุย พลัส โมเดล รวมถึงโครงการกระบี่ อีเวน มอร์ อะเมซิ่ง และโครงการพังงา พร้อมต์ โดยได้ตัดจังหวัดบุรีรัมย์ ออกจากการเป็นพื้นที่นำร่องแล้ว เนื่องจากเดิมได้เลือกเป็นพื้นที่นำร่อง เพราะมีเงื่อนไขผูกกับการจัดการแข่งขัน “โมโตจีพี” เมื่อเลื่อนการจัดงานนี้ไปแล้ว ก็เท่ากับไม่มีเงื่อนไขผูกมัดเอาไว้

    ส่วนจังหวัดที่จะพิจารณามาแทนบุรีรัมย์นั้น เบื้องต้นเป็น จ.ระยอง จ.จันทบุรี และ จ.ตราด เน้นพื้นที่เกาะเป็นหลัก ง่ายต่อการดูแลและควบคุม และมีเกาะท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติสูง อาทิ เกาะช้าง ซึ่งขณะนี้ดำเนินการตามมาตรฐานแนวทางปฏิบัติ (SOP) เสร็จแล้ว คนในพื้นที่ได้รับวัคซีนเกือบครบ 70% รวมถึงเกาะกูด เกาะมันนอก เกาะเสม็ด ที่มีจำนวนประชากรในพื้นที่ไม่มาก สามารถฉีดวัคซีนได้ตามเกณฑ์สร้างภูมิคุ้มกันหมู่

    “เงื่อนไขหลักในการเปิดพื้นที่นำร่อง ยังเน้นเงื่อนไขสำคัญคือคนในพื้นที่ต้องได้รับวัคซีนไม่ต่ำกว่า 70% ของจำนวนประชากรรวม และคนในชุมชนจะต้องเห็นด้วยและยอมรับการเปิดพื้นที่ดังกล่าว หากทำได้จึงจะถือว่ามีความพร้อมในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจริงๆ”

    4204


    นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แถลงภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือนก.ค.2564ว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนดังกล่าว ได้รับผลกระทบมากขึ้นจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนลดลงตามกำลังซื้อที่อ่อนแอและมาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวดขึ้น​ ด้านการส่งออกสินค้าแผ่วลงจากอุปสงค์ประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัวตามการแพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้นในบางประเทศ

    ขณะที่ เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนและการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงตามภาวะอุปสงค์ โดยการผลิตบางส่วนได้รับผลกระทบจาก supply disruption ชัดเจนขึ้น สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากโครงการ Phuket sandbox ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐที่รวมเงินโอนยังมีบทบาทในการพยุงเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

    ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับลดลงจากผลของฐานต่ำในปีก่อนที่ทยอยหมดลงและมาตรการลดค่าไฟฟ้าและน้ำประปาในเดือนนี้ของภาครัฐ​ ด้านตลาดแรงงานเปราะบางมากขึ้นสำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลน้อยกว่าเดือนก่อนจากดุลบริการ รายได้และเงินโอนที่ขาดดุลลดลง

    ทั้งนี้ เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วลดลงจากเดือนก่อนในทุกหมวดการใช้จ่ายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงและมาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวดขึ้น ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม รายได้ครัวเรือนและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับลดลง โดยมาตรการภาครัฐช่วยพยุงกำลังซื้อได้เพียงบางส่วน

    มูลค่าการส่งออกสินค้าที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน
    โดยเป็นผลจาก 1.อุปสงค์ประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัวจากการแพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้นในบางประเทศที่รุนแรงขึ้น
    และ 2.การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งกระทบต่อการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้า และการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในโรงงาน ซึ่งกระทบต่อการส่งออกอาหารแปรรูป อย่างไรก็ดี
    การส่งออกสินค้าบางหมวดยังเพิ่มขึ้น อาทิ สินค้าเกษตร สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และโลหะ

    เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วลดลงจากเดือนก่อน
    จากทั้งในหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ และหมวดก่อสร้างสอดคล้องกับภาวะอุปสงค์และความเชื่อมั่นของธุรกิจที่อ่อนแอลง
    รวมทั้งผลกระทบเพิ่มเติมจากมาตรการควบคุมการระบาดในพื้นที่ก่อสร้างที่เข้มงวดขึ้น

    การผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วลดลงจากเดือนก่อน โดยเฉพาะหมวดยานยนต์ ปิโตรเลียมและวัสดุก่อสร้างที่แผ่วลงตามภาวะอุปสงค์ ขณะที่ ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และเซมิคอนดักเตอร์รวมทั้งการหยุดการผลิตชั่วคราวเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในโรงงานยังกดดันการผลิตในหลายหมวด

    เช็กที่นี่ ขั้นตอน เงื่อนไข รับ 'ATK' 8.5 ล้านชุด ฟรี จาก สปสช.
    WHO หนุนฉีด ‘บูสเตอร์โดส’ กลุ่มเปราะบาง ลดเสี่ยงโควิด
    'อีสเทิร์นฯ' หนุนนวัตกรรม-การลงทุน ขับเคลื่อนตลาดกัญชง
    มูลค่าการนำเข้าสินค้าไม่รวมทองคำที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วอยู่ในระดับใกล้เคียงกับเดือนก่อนโดยการนำเข้ายังเพิ่มขึ้นในบางหมวดสินค้าอาทิ เชื้อเพลิง และผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ขณะที่บางหมวดมีการนำเข้าลดลง
    โดยเฉพาะรถยนต์ สอดคล้องกับกำลังซื้อในประเทศที่อ่อนแอลง

    จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนจากโครงการ Phuket sandbox ที่เริ่มขึ้นในเดือนนี้ อย่างไรก็ดีจำนวนนักท่องเที่ยวยังเป็นสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับภาวะปกติ
    จากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศของไทยที่ยังมีอยู่

    การใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนแต่หากไม่รวมเงินโอน การใช้จ่ายภาครัฐทรงตัวโดยรายจ่ายประจำขยายตัวจากทั้งรายจ่ายค่าตอบแทนบุคลากร
    และรายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการ ขณะที่รายจ่ายลงทุนหดตัวโดยเฉพาะการเบิกจ่ายของรัฐบาลกลาง
    จากผลของฐานสูงที่มีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณในปีก่อน

    ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับลดลงจากผลของฐานต่ำในปีก่อนที่ทยอยหมดลงและมาตรการลดค่าไฟฟ้าและน้ำประปาในเดือนนี้ของภาครัฐด้านตลาดแรงงานเปราะบางมากขึ้น

    สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลน้อยกว่าเดือนก่อนตามดุลบริการ รายได้
    และเงินโอนที่ขาดดุลลดลง ขณะที่ดุลการค้าเกินดุลลดลงตามการส่งออกสินค้าที่แผ่วลงเป็นสำคัญ

    ด้านอัตราแลกเปลี่ยนบาทต่อดอลลาร์ สรอ.
    อ่อนค่าลงกว่าสกุลเงินคู่ค้าคู่แข่งส่วนใหญ่ จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในประเทศที่ยืดเยื้อ

    4205


    ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันจันทร์ (30 ส.ค.)ปรับตัวร่วงลงในกรอบแคบ 55 จุด ขณะที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพักฐาน หลังจากพุ่งขึ้นอย่างมากเมื่อวันศุกร์

    ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 55.96 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ 35,399.84 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 19.42 จุด หรือ 0.43% ปิดที่ 4,528.79 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 136.39 จุด หรือ 0.90% ปิดที่ 15,265.89 จุด

    ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อวันศุกร์(27สค.) ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 และแนสแด็กปิดทำนิวไฮเป็นวันที่ 4 ขานรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ยืนยันว่า เฟดจะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้จะมีการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ก่อนสิ้นปีนี้ก็ตาม

    หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงในวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นเมื่อวันศกุร์ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะน้ำมันตึงตัวจากการที่บริษัทน้ำมันหลายแห่งพากันยุติการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก ก่อนที่พายุเฮอริเคนไอดาจะพัดถล่มในช่วงสุดสัปดาห์

    การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้ขณะนี้ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้น 1.5% นับตั้งแต่ต้นเดือนนี้ ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 และแนสแด็กทะยานขึ้น 2.6% และ 3.1% ตามลำดับ

    ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า หลังจากการประชุมประจำปีของเฟดได้ผ่านพ้นไปแล้ว ขณะนี้นักลงทุนกำลังจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้


    นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 750,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 5.2%

    กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานก่อนหน้านี้ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 943,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 845,000 ตำแหน่ง จากระดับ 938,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย.

    ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 5.4% ในเดือนก.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.7% หลังจากแตะระดับ 5.9% ในเดือนมิ.ย.

    4206
    ทำไมข้าวปลอดสารถึงแพงกว่าข้าวธรรมดาที่ใช้เคมี

    ทำไมข้าวเกษตรอินทรีย์ (ข้าวออแกนิคคือ) ถึงแพงกว่าข้าวธรรมดา    ต้นข้าวอินทรีย์   เกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ปลูกข้าวอินทรีย์  ผู้บริโภคส่วนใหญ่ต่างก็ให้ความสนใจกับการดูแลรักษาสุขภาพกันมากขึ้น  อย่างยิ่งกับการเลือกซื้ออาหารที่ปลอดภัยซึ่งมีมากมายหลากหลายในปัจจุบัน  รวมถึงผลผลิตจากระบบเกษตรอินทรีย์ที่เป็นทางเลือกหนึ่งที่ผู้บริโภคทั้งหลายให้ความไว้วางใจ  แต่ก็ยังมีคำถาม ข้อสงสัย ติดอันดับยอดนิยมจากผูบริโภคว่า  “ทำไมข้าวเกษตรอินทรีย์ถึงราคาแพงกว่า ทั่วไป ทั้งที่ข้าวในนาผลิตตามธรรมชาติ ไม่ต้องมีต้นทุนปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง”    กลุ่มข้าวอินทรีย์สุรินทร์  ข้อมูลจากเวปไซด์ขององค์กรการอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) กล่าวถึงข้อเท็จจริงบางประการข้าวหอมมะลิปลอดสารพิษที่เป็นเหตุผลของราคาผลผลิตและสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่สูงกว่าเอาไว้  ดังนี้- ฟาร์มเกษตรอินทรีย์มีขนาดเล็ก ใช้แรงงานต่อหน่วยในการผลิตมากกว่าฟาร์มทั่วไป (สาเหตุหนึ่งที่ต้นทุนการผลิตสูง)
    - ค่าใช้จ่ายในขบวนการหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตเกษตรอินทรีย์ ข้าวหอมมะลิปลอดสารพิษ  สูงกว่าเพราะในการขนส่ง หรือแปรรูปจะต้องแยกออกจากผลผลิตทั่วไปอย่างชัดเจน
    - ปริมาณของข้าวเกษตรอินทรีย์ค่อนข้างน้อย ทำให้ค่าใช้จ่ายในการกระจายสินค้าต่อหน่วยของข้าวหอมมะลิแดงอินทรีย์ ออกสู่ตลาดนั้นสูงกว่าผลผลิตทั่วไป
    - ข้าวเกษตรอินทรีย์ทำให้เกษตรกรได้รายได้ที่เป็นธรรมและพอเพียง
    - ข้าวเกษตรอินทรีย์ปลูกข้าวอินทรีย์  มีการจัดการมาตรฐาน คุ้มครองสัตว์เลี้ยงในฟาร์มได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า
    - และสุกท้ายที่สำคัญที่สุด ข้าวเกษตรอินทรีย์มีจำนวนจำกัดเมื่อเทียบกับความต้องการของผู้บริโภค
    เพื่อความมั่นใจถึงความเป็นข้าวออร์แกนิคที่แท้จริงของเรา  




    ข้าวฮอร์ (HOR) ข้าวกล้องอินทรีย์  ได้รับมาตรฐาน 
    1. ใบรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์ ( Organic Thailand)
    2. ใบรับรองเครื่องหมาย "ข้าวพันธุ์แท้"  จากกรมการข้าว  จาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์   ในประเภทของ 
    2.1  ข้าวขาวดอกมะลิ 105 (ข้าวขาว)  
    2.2  ข้าวขาวดอกมะลิ105 (ข้าวกล้อง)  
    2.3  ข้าวมะลินิลสุรินทร์

    ข้าว Hor.Boutique ข้าวเกษตรอินทรีย์สุรินทร์  ข้าวออร์แกนิคส่งทั่วไทย   ข้าวกล้องออแกนิค
    277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
    โทร. 092-8245655
    website : xn--22c6bf3bcuv6dva2b1ntb.com/
    Facebook :   www.facebook.com/Rice.For.Mom/
    Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
    IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
    Line: @Hor.Boutique

    เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ  ข้าวสุรินทร์  ข้าวเพื่อสุขภาพส่งทั่วไทย
    1.  ข้าวอินทรีย์หอมมะลิ
    2.  ข้าวกล้องเกษตรอินทรีย์หอมมะลิ
    3. ข้าวกล้องปะกาอำปึลออแกนิค
    4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์
    5.  ปลูกข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์
    6.  ข้าวมะลินิลออแกนิค
    7. ข้าวไรซ์เบอรี่   ข้าวกล้องหอมมะลิแดงสุขภาพ

    ข้าว Hor พร้อมขายแล้วที่ Shopee & Lazada
    https://shopee.co.th/hor.boutique
    https://www.lazada.co.th/shop/horboutique/

    #ข้าวออร์แกนิก #ข้าวออแกนิค  #ข้าวออแกนิก #ข้าวอินทรีย์ 
    #ข้าววสุขภาพ  #ข้าวเกษตรอินทรีย์
     

     
     

    4207


    สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. (TCEB) จัดโครงการอบรมหลักสูตรการจัดการสถานที่ Venue Management Course (VMC) ภายใต้แนวคิด “Customers Insights & Experience Design จัดให้อย่างรู้ใจดีไซน์ไม่จำกัด”

    พบกับกูรูในแวดวงการตลาดและการออกแบบประสบการณ์ระดับประเทศ รวมถึงกูรูผู้คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมไมซ์ อีกมากกว่า 12 ท่าน ที่พร้อมถ่ายทอดเทคนิค ประสบการณ์ตรง ในการสร้างสรรค์งานออกมาให้โดนใจลูกค้ามากที่สุด ผ่านการอบรมในรูปแบบออนไลน์ (ZOOM Application) ในวันที่ 14-15 กันยายนนี้

    และขอเชิญผู้เข้าร่วมอบรมส่งผลงานคลิปวิดีโอเข้าร่วมประกวดภายใต้หัวข้อ “เปิดบ้านปล่อยของ” เพื่อประชาสัมพันธ์สถานที่จัดงานของคุณให้เป็นที่รู้จักแก่สาธารณชน "พาเราไปรู้จักสถานที่จัดงานของคุณ ผ่าน Vlog คลิปความยาวไม่เกิน 3 นาที พร้อมลุ้นรับของรางวัลสุดว้าวววว" ภายในวันที่ 10 กันยายน 2564 (สำหรับคลิปที่เข้ารอบจะได้เปิดเพื่อตัดสินรอบไฟนอลในการอบรม “Customers Insights & Experience Design จัดให้อย่างรู้ใจ ดีไซน์ไม่จำกัด” วันที่ 15 กันยายน 2564 พร้อมได้รับคำแนะนำจาก Blogger ชื่อดัง และคณะกรรมการมากประสบการณ์) คลิกเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม สอบถามข้อมูลและส่งผลงานได้ที่ https://forms.gle/f7cUVZKpPKersWjA7

    สำหรับบุคลากรไมซ์ที่สนใจ สามารถสมัครลงทะเบียนเข้าร่วมอบรมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย คลิกเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมจองที่นั่งก่อนใครได้ที่ https://forms.gle/vZbDEq56XGk1rhZ49 ด่วน! รับเพียง 250 ท่านเท่านั้น

    4208


    นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า สสว. ได้นำแนวคิดการให้บริการสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจ (Business Development Service : BDS) ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในต่างประเทศ มาปรับใช้กับประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยได้ดำเนินโครงการนำร่องร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ภายใต้โครงการพัฒนาระบบให้เอกชนสามารถเป็นหน่วยงานส่งเสริม MSME เพื่อแก้ปัญหาการพัฒนาที่ผ่านมาที่ไม่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการ ดังนั้น BDS จึงเป็นกลไกการสนับสนุนให้ผู้ให้บริการทางธุรกิจภาคเอกชน สามารถมีบทบาทในการยกระดับศักยภาพการดำเนินธุรกิจของ MSME ให้ตรงความต้องการของผู้ประกอบการมากขึ้น และสร้างความมั่นใจแก่ผู้ประกอบการที่จะใช้บริการเนื่องจากได้รับการการันตีจากหน่วยงานกลางแล้ว โดยโครงการดังกล่าวยังสามารถตอบโจทย์ในการลดภาระค่าใช้จ่ายช่วยเหลือผู้ประกอบการในภาวะวิกฤติเช่นนี้ด้วย

    “สำหรับโครงการนำร่องที่ดำเนินการร่วมกับ ส.อ.ท. ในครั้งนี้ เป็นการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการรับบริการต่อผู้ประกอบการ MSME รายละ 100,000 บาท จ่ายจริงตามสัดส่วนการสนับสนุนที่ผู้ประกอบการเลือกรับบริการ วิสาหกิจรายย่อย (Micro) สนับสนุน 90% วิสาหกิจขนาดย่อม (Small) สนับสนุน 70% และวิสาหกิจขนาดกลาง (Medium) สนับสนุน 50%” นายวีระพงศ์ กล่าว

    ทั้งนี้ได้คัดเลือกผู้ให้บริการที่เหมาะสมกว่า 114 บริการ ให้ผู้ประกอบการเลือกใช้ ครอบคลุมด้านการเพิ่ม Productivity มาตรฐาน การบริหารจัดการ บัญชีภาษี และการตลาด ทั้งในรูปแบบของแพลตฟอร์มการตลาดออนไลน์ สื่อประชาสัมพันธ์ การวิจัยตลาด และการสร้างกลยุทธ์ทางการตลาด โดยได้ผู้ให้บริการที่มีคุณภาพรวบรวมไว้ในที่เดียวกัน อาทิ สถาบันอาหาร, สมาคมบัญชีคุณภาพ, บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย, บริษัท นิภาเทคโนโลยี จำกัด, บริษัท วีอาร์ทวินส์ จำกัด, บริษัท ทีค รีเสิร์ช จำกัด, บริษัท พี ยู ยู เอ็น อินเทลลิเจนท์ จํากัด, บริษัท สปริง บีนส์ จำกัด, บริษัท ที.เค.เอส.เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) เป็นต้น

    โดยสามารถสนับสนุนผู้ประกอบการได้แล้วกว่า 137 ราย สนับสนุนงบประมาณดำเนินงานไปแล้วกว่า 10 ล้านบาท เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 65 ล้านบาท โดยบริการที่ผู้ประกอบการนิยมและต้องการในลำดับต้นๆ ได้แก่ ช่องทางการขาย เครื่องมือในการประชาสัมพันธ์ และการตรวจมาตรฐานต่างๆ”

    “ความร่วมมือของ สสว.กับ ส.อ.ท. ในครั้งนี้ ถือว่า มีผลการตอบรับจากผู้ประกอบการรวมถึงผลลัพธ์ที่ออกมาค่อนข้างน่าพอใจ และในปี 2565 สสว. ยังจะเดินหน้าใช้แนวคิด BDS ในการสนับสนุนผู้ประกอบการต่อไป แต่อาจจะต้องปรับแก้ไขบางส่วนเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสามารถติดตามข่าวสารการช่วยเหลือผู้ประกอบการต่างๆ ของ สสว.ได้ที่ www.sme.go.th  หรือแอปลิเคชัน SMECONNEXT หรือ สสว. คอลเซ็นเตอร์ โทร. 1301” ผอ.สสว. กล่าว

    4209


    LH Bank ตอกย้ำบทบาทการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินแบบครบวงจร เปิดตัวผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัยใหม่ ภายใต้แคมเปญ LH Bank The Premium Lives’ Advisor คัดสรรทุกการคุ้มครอง ให้ครอบคลุมและตอบโจทย์ลูกค้าได้ในทุกมิติ นำร่อง 6 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ประกันภัยเชิร์ฟสเก็ต, ประกันภัยจักรยาน, ประกันภัยทิพยไซเบอร์, ประกันภัยสัตว์เลี้ยง, ประกันภัยบ้าน และประกันภัยคอนโด สอดคล้องกับทุกไลฟ์สไตล์กลุ่มเป้าหมาย พร้อมเตรียมแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ครบคลุมทุกความเสี่ยงทั้งประกันภัยรถยนต์และการเดินทางภายในปีนี้ กระตุ้นให้คนไทยตระหนักถึงการมีประกันภัยเพื่อคุ้มครองครอบคลุมทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

    นายวุฒิชัย กมลสันติสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ Retail Product and Marketing ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank เปิดเผยว่า “ธนาคารมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่ครบวงจร การออกผลิตภัณฑ์ของเราจะเกิดจากความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก เมื่อไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเปลี่ยนไปเราจึงต้องทำการคัดสรรผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าในทุกจังหวะของชีวิต จึงเกิดแคมเปญ LH Bank The Premium Lives’ Advisor เพื่อให้สามารถคุ้มครองครอบคลุมความเสี่ยงของเหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน โดยแคมเปญนี้ LH Bank จะเน้นการขายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลักเพื่อให้ลูกค้าสามารถศึกษารายละเอียดเปรียบเทียบความคุ้มครองได้จากเว็บไซต์และทำการชำระได้ทันที เพิ่มความสะดวกไม่ต้องติดต่อสาขา ซึ่งในแต่ละผลิตภัณฑ์ภายใต้แคมเปญนี้จะมีจุดเด่นของความคุ้มครองที่แตกต่างกันไป นำร่องด้วย 6 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ประกันภัยสัตว์เลี้ยงสำหรับคนรักสัตว์ที่ต้องการความคุ้มครอง เมื่อสัตว์เลี้ยงเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุต่างๆ สำหรับคนที่ชื่นชอบการเล่นกีฬาก็จะมีประกันภัยจักรยาน, ประกันภัยเชิร์ฟสเก็ต คุ้มครองทั้งผู้เอาประกันและอุปกรณ์ ที่เกิดจากอุบัติเหตุต่างๆ และจากแนวโน้มพฤติกรรมการชื้อสินค้าออนไลน์ที่มีเพิ่มขึ้น อาจเกิดความเสี่ยงจากการโจรกรรมมากขึ้น โดยปัจจุบันคนไม่สามารถออกไปเดินห้างสรรพสินค้าก็หันมาชอปปิงออนไลน์ ธนาคารจึงเลือกผลิตภัณฑ์ประกันภัยไซเบอร์เพื่อช่วยป้องกันความเสี่ยงจากการโจรกรรม อีกทั้งยังมีประกันภัยบ้าน, ประกันภัยคอนโดด้วย และพร้อมเตรียมแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ครบคลุมทุกความเสี่ยงทั้งประกันภัยรถยนต์และการเดินทางภายในปีนี้ เพราะภัยอันตรายรอบตัวเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ทาง LH Bank จึงอยากให้คนไทยได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมในราคาที่เข้าถึงได้ และปลอดภัยจากความเสี่ยงของทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

    รายละเอียดผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัย ทั้ง 6 ผลิตภัณฑ์มีดังนี้

    ประกันภัยเซิร์ฟสเก็ต : เพิ่มความอุ่นใจให้ผู้ชื่นชอบการเล่นเซิร์ฟสเก็ต คุ้มครองครอบคลุมทั้งผู้เล่นและอุปกรณ์การเล่น อาทิ คุ้มครองผู้เล่นกรณีกระดูกแตกหัก อวัยวะภายในบาดเจ็บ คุ้มครองอุปกรณ์เซิร์ฟสเก็ตพังเสียหายจนไม่สามารถใช้ต่อได้ หรือโดนโจรกรรม

    ประกันภัยจักรยาน: เพิ่มความมั่นใจให้นักปั่น ด้วยความคุ้มครองทั้งผู้เล่นและอุปกรณ์ คุ้มครองจักรยานได้สูงสุด 3 คัน ต่อ กรมธรรม์, เพิ่มความคุ้มครองการรักษาพยาบาลกระดูกแตกหัก เนื่องจากอุบัติเหตุขณะขับขี่จักรยาน พร้อมบริการพิเศษ ยก/ลากรถจักรยานฟรี

    ประกันภัยไซเบอร์: หมดกังวลหากต้องเผชิญกับภัยไซเบอร์ ด้วยความคุ้มครองความสูญเสียของผู้เอาประกันภัยจากการถูกโจรกรรมเงิน ผ่านการใช้บัตรหรือเข้าบัญชีธนาคาร หรือ E-Wallet จากสถาบันการเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต และคุ้มครองความสูญเสียของผู้เอาประกันภัยจากการซื้อสินค้า หรือบริการแต่ไม่ได้รับการจัดส่ง โดยการโจรกรรมเงินส่วนบุคคลผ่านการเชื่อมต่อทางเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์

    ประกันภัยสัตว์เลี้ยง: ตอบโจทย์คนรักสัตว์ช่วยแบ่งเบาภาระเมื่อสัตว์เลี้ยงเจ็บป่วยด้วยเบี้ยประกันราคาถูก รับความคุ้มครองง่าย ๆ อาทิ ค่ารักษาพยาบาลอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย ไม่ต้องตรวจสุขภาพ ไม่ต้องฝังไมโครชิฟต่ออายุได้สูงสุดถึง 9 ปี ค่าโฆษณาติดตามสัตว์เลี้ยงสูญหาย ค่าจัดพิธีศพ และ คุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินบุคคลภายนอก

    ประกันภัยบ้าน และประกันภัยคอนโด: ธนาคารพร้อมส่งมอบความคุ้มครองของที่อยู่อาศัย เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยลดภาระการซ่อมแซม โดยประกันภัยบ้าน จัดเต็มภัยธรรมชาติ (30% ของทุนประกันภัย) และราคาถูกกว่าปกติ (ราคาถูกกว่าแยกซื้อ) พร้อมประกันภัยคอนโดด้วยจุดเด่นคุ้มครองครอบคลุม ได้แก่ ค่าเช่าที่อยู่อาศัยชั่วคราว, การสูญเสียรายได้จากค่าเช่า และ Home Assistant

    สำหรับลูกค้าที่สนใจ 6 ผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัย สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมของแต่ละผลิตภัณฑ์ได้ที่

    Link : https:// www.lhbank.co.th/Person/Lists/ผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัย-LH_Bank_ประกันภัย_คัดสรรทุกการคุ้มครอง/2/133

    4210


    เจมี วาร์ดี กับ มาร์ค อัลไบรธ์ตัน สองตัวบุกของ เลสเตอร์ ซิตี จับมือกันยิงคนละตุงก่อนช่วยพา 'สุนัขจิ้งจอก' เฉือนหืด นอริช ซิตี 2-1 ศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา

    พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
    นอริช ซิตี 1-2 เลสเตอร์ ซิตี

    คู่ถัดมาที่ คาร์โรว โรด นอริช ซิตี รองบ๊วยไม่มีแต้ม เจอ เลสเตอร์ ซิตี อันดับ 12 มี 3 แต้ม เกมนี้ 'นกขมิ้น' วางตัว ตีมู ปุกกี กับ ท็อดด์ แคนท์เวล ลงยิง ส่วน 'จิ้งจอก' วางคู่หน้าเป็น เจมส์ แมดดิสัน กับ เจมี วาร์ดี

    เริ่มเกม 7 นาที เลสเตอร์ ขึ้นนำก่อนเลย ริคาร์โด เปเรย์ร่า แย่ง.หลุดมาทางซ้ายแล้วตบให้ เจมี วาร์ดี แปตุงตาข่าย 1-0 ขณะที่ นาที 16 นอริช ตอบโต้ แม็กซ์ อารอน จ่ายยัดมา เคนนี แม็คลีน ตั้งป้อมยิงแต่ตรงตัว แคสเปอร์ ชไมเคิล

    นอริช หาทางเจาะ นาที 26 มิโลต์ ราชิซ่า เก็บ.หน้าประตูแล้วพลิกหาช่องยิงแต่ แคสเปอร์ ชไมเคิล ล้มตัวเซฟทัน ทว่า นาที 42 นอริช ได้จุดโทษหลัง มิโลต์ ราชิซ่า โดน คาลาร์ โซยุนชู สไลด์กลิ้งลงไปแล้ว ตีมู ปุกกี ยิงไม่พลาดและจบครึ่งแรกที่ 1-1

    ครึ่งหลัง นาที 55 นอริช คึกจะเอาลูกสอง แม็กซ์ อารอนส์ เปิดมาให้ ตีมู ปุกกี โหม่งแต่.เบาเกินเข้ามือ แคสเปอร์ ชไมเคิล ด้านของ เลสเตอร์ เอาบ้าง ยูริ ตีเลอมองส์ เก็บ.แถวสองแล้วตั้งป้อมซัดไกลแต่ข้ามคาน

    กระทั่ง นาที 76 เลสเตอร์ เฮลั่น เจมี วาร์ดี จ่ายตัดเข้าขวาให้ มาร์ค อัลไบรธ์ตัน วิ่งมาซัดพุ่งเข้าเสาไกล 2-1 ด้าน นอริช เฮเก้อ นาที 80 เคนนี แม็คลีน พุ่งมาโหม่ง.จากเตะมุมเข้าไปแล้ว แต่ถูกเป่ายกเลิกเพราะ ท็อดด์ แคนท์เวล์ ไปยืนบังหน้า แคสเปอร์ ชไมเคิล เป็นเจตนาบดบังวิสัยทัศน์คู่แข่ง และเวลาที่หลือก็ยิงไม่ได้แล้ว จบเกม เลสเตอร์ ชนะเป็นเกมที่ 2 ของซีซั่น ส่วน นอริช แพ้ 3 นัดรวด

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
    นอริช ซิตี - ทิม ครูล, เบน กิบสัน, แกรนท์ ฮันลีย์, แบรนดอน วิลเลียมส์, แม็กซ์ อารอนส์, บิลลี กิลมัวร์, เคนนี แม็คลีน, ปิแอร์ ลีส์-เมลู, มิโลต์ ราชิซ่า, ท็อดด์ แคนท์เวล, ตีมู ปุกกี
    เลสเตอร์ ซิตี - แคสเปอร์ ชไมเคิล, คาลาร์ โซยุนชู, ดาเนียล อามาร์ตี, ลุค โธมัส, ริคาร์โด เปเรย์ร่า, เจมส์ แมดดิสัน, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี, ยูริ ตีเลอมองส์, ฮาร์วีย์ บาร์นส, มาร์ค อัลไบรธ์ตัน, เจมี วาร์ดี

    4211


    เดินสายทำการกุศลต่อเนื่องสำหรับ "กายศิวกร เลิศชูโชติ" นักแสดงสังกัดจีเอ็มเอ็มทีวี ที่ร่วมส่งต่อสิ่งดี ๆ ให้กับสังคม ล่าสุดจัดฉลองวันเกิดร่วมกับแฟนคลับ ด้วยการส่งมอบสิ่งดีๆ ให้กับบุคลากรด่านหน้าเพื่อเป็นกำลังใจสู้ภัยโควิด-19 ต่อไป

    โดยการจัดงานวันเกิดครั้งนี้ “กาย” ศิวกร ได้จัดงานด้วยการไล์ฟสด ให้บรรดาแฟนคลับได้ร่วมฉลองอวยพรวันเกิด หลังจากที่มีการรณรงค์ให้อยู่บ้านหยุดเชื้อ เพื่อเป็นการเว้นระยะห่างทางสังคม อีกทั้งยังได้มีการร่วมทำบุญบริจาคเงินเพื่อจัดซื้อสิ่งของต่างๆ ให้กับบุคลากรด่านหน้า  

    โดยหนุ่ม “กาย” ศิวกร ยังได้จัดทำเครื่องดนตรีเบสเอง  เพื่อการประมูลหาเงินทำบุญในครั้งนี้ ซึ่งหลังจากการจัดงานได้รวบรวมเงินทำบุญและการประมูลได้จำนวน  59,999 บาท โดยหนุ่มกาย ได้ร่วมมอบให้กับ ศูนย์ข้าวเพื่อหมอ Food for Fighters ณ สมาคมทำโปรเจคนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมเหมารถเข็น 3 คัน ร่วมแจกข้าวกล่อง 200 กล่อง แกง 200 ถุง และน้ำสมุนไพร จำนวน 200 ขวด แจกตามจุดต่าง ๆ อาทิ ศูนย์พักคอยวัดปทุมคงคา, ชุมชนคนไร้ญาติหัวลำโพง อีกด้วย

    นอกจากนี้บรรดาแฟนคลับยังได้จัดฉลองวันเกิดให้กับหนุ่มกาย ศิวกร ด้วยการทำโปรเจคต์รถตุ๊กๆ โปรเจคต์หน้าลิฟท์ และ ขึ้น LED ที่บริเวณ ลอบบี้ หน้า GMM TV อีกด้วย งานนี้เรียกได้ว่าหนุ่มกายได้ทั้งอิ่มบุญ อิ่มใจ กันไปเลยทีเดียว

    4212


    ช่วงบ่ายของวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมชั้น 5 ห้องว่าการแขวงผ้งสาลี ได้มีพิธีเซ็นบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างแผนกแผนการและการลงทุน ในฐานะตัวแทนแขวงผ้งสาลี กับบริษัทยู่เจิง ลงทุน จากจีน ผู้ลงนามในสัญญา ได้แก่ ทองสุก เปาสุลี หัวหน้าแผนกแผนการและการลงทุนแขวง สมหวัง สุมวิไล เจ้าเมืองยอดอู และเซินปิ่ง ประธานบริษัทยู่เจิง ลงทุน โดยมีคำผอย วันนะสาน เจ้าแขวงผ้งสาลี เป็นสักขีพยาน

    เนื้อหาของ MOU อนุญาตให้บริษัทยู่เจิง ลงทุน สำรวจพื้นที่ 250 ตารางกิโลเมตร ในเมืองยอดอู เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยม ลาว จีน เวียดนาม รวมถึงจัดทำแผนโดยละเอียดของโครงการ และทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสังคม มานำเสนอต่อแขวง

    ยังไม่มีรายละเอียดของเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยม ลาว จีน เวียดนาม ถูกเปิดเผยออกมา แต่ในเบื้องต้น เนื้อที่สำหรับสร้างเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษฯ แบ่งเป็นเขตอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรม 150 ตารางกิโลเมตร เขตบริการและท่องเที่ยวอีก 100 ตารางกิโลเมตร รวมถึงสร้างถนนจากบ้านใหญ่อูเหนือ ในเมืองยอดอู ไปถึงสามเหลี่ยมจุดบรรจบชายแดน 3 ประเทศ ลาว จีน เวียดนาม

    เจ้าหน้าที่ในแขวงผ้งสาลีผู้หนึ่ง บอกกับสถานีวิทยุเอเซียเสรี ภาคภาษาลาว ว่า แขวงผ้งสาลีได้วางแผนสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งนี้ไว้นานแล้ว แต่เพิ่งได้เซ็น MOU ให้บริษัทยู่เจิง ลงทุน เข้ามาสำรวจศึกษาความเป็นไปได้

    ข้อมูลที่ถูกเปิดเผยในพิธีเซ็น MOU ไม่ได้ให้รายละเอียดของบริษัทยู่เจิง ลงทุน เพียงระบุว่า MOU ฉบับนี้มีอายุ 18 เดือน กำหนดให้บริษัทต้องเริ่มลงสำรวจพื้นที่ภายใน 30 วัน นับจากวันลงนาม และบริษัทยู่เจิง ลงทุน ได้วางเงินค้ำประกันไว้ที่แขวง 80 ล้านกีบ หรือประมาณ 2.4 แสนบาท ตลอดอายุ MOU

    “ยอดอู”เป็นเมืองที่อยู่เหนือสุดของลาว มีพื้นที่ติดกับเขตปกครองตนเองชนชาติฮาหนี และอี๋ เจียงเฉิง จังหวัดผูเอ่อร์ มณฑลยูนนาน ของจีน และอำเภอเหมืองแญ้ จังหวัดเดี่ยนเบียน เวียดนาม เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำอู ความยาว 448 กิโลเมตร ที่ไหลไปลงแม่น้ำโขงที่แขวงหลวงพระบาง โดยตลอดลำน้ำสายนี้ มีเขื่อนผลิตไฟฟ้าน้ำอู ที่เป็นการลงทุนของบริษัท Sinohydro Corporation จากจีน ตั้งอยู่ถึง 7 แห่ง ลดหลั่นลงไปตามลำดับความสูงของพื้นที่


    ปัจจุบัน ลาวมีเขตเศรษฐกิจพิเศษซึ่งตั้งอยู่ตรงจุดรอยต่อชายแดน 3 ประเทศแล้ว 1 แห่ง คือเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งเป็นการลงทุนของจีน ที่เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว อยู่ริมแม่น้ำโขง ตรงข้ามกับอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย และเมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน เมียนมา

    นอกจากนี้ ยังมีเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ตั้งอยู่ชายแดน ได้แก่ เขตเศรษฐกิจเฉพาะบ่อเต็นแดนงาม ซึ่งเป็นการลงทุนจากจีนอีกเช่นกัน ตั้งอยู่ที่เมืองบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา ตรงข้ามกับเมืองบ่อหาน เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน , เขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน-เซโน อยู่ที่เมืองเซโน แขวงสะหวันนะเขต ตรงข้ามกับจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างรัฐบาลลาวและนักลงทุนมาเลเซีย และเขตเศรษฐกิจพิเศษวังเต่า-โพนทอง ของนักลงทุนลาว ตั้งอยู่ในบริเวณด่านสากลวังเต่า ตรงข้ามกับด่านช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี

    หน้า: 1 ... 232 233 [234] 235 236 ... 249