Safe T-Cut มีอยู่แล้วหรือกำลังจะซื้อครับ ถ้ายังไม่มี ลองดู Main Breaker ที่มีกันดูดในตัวเลย ไม่ต้องผ่านหลายอุปกรณ์ จุดเชื่อมต่อน้อย ทางเดินสัญญาณสั้นกว่า

Surge Arrester ที่ติดตั้งในระบบไฟฟ้า เป็นตัวป้องกันไฟกระชาก อาจจะรวมถึงป้องกันฟ้าผ่า (ที่ผ่าลงเสาไฟ - หม้อแปลง แต่จะไม่รวมถึงฟ้าผ่าที่ผ่าลงมาตามเสาอากาศทีวี-วิทยุ-สายโทรศัพท์) จำเป็นต้องใช้ Surge Arrester หรือไม่ก็อยู่ที่ว่าละแวกนั้นมีโอกาสเกิดไฟกระชาก/ฟ้าผ่า มากน้อยแค่ไหน

Surge Arrester จะไม่ช่วยเรื่องการลดทอนสัญญาณรบกวนใดๆ ซึ่งสัญญาณรบกวนหรือ Noise นี้ ท่านหนีไม่พ้น ตราบใดที่บ้านท่านยังมีสัญญาณโทรศัพท์มือถือ หรือรับสัญญาณวิทยุ AM/FM หรือ Wi-Fi ได้ ก็ย่อมต้องเจอ RFI ครับ แต่ว่าอุปกรณ์เครื่องเสียงบางตัวจะมาพร้อม Noise Filter-Built in และอุปกรณ์บางอย่างก็ไม่ได้รับผลกระทบจาก RFI มากนัก จะเพิ่มเติมเครื่องกรองไฟเพื่อผลด้านการลดทอน RFI หรือไม่ ก็สุดแท้แต่จะพิจารณา

อย่างไรก็ดีประโยชน์ของเครื่องกรองไฟยังรวมถึงการควบคุมระดับการรบกวนของ EMI ที่มักจะมาจากอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน ที่อยู่รอบข้างชุดเครื่องเสียงเองนั่นแหละ

กรองไฟบางรุ่น จะมีความสามารถเป็น Surge Arrester ในตัวด้วยครับ แต่ประสิทธิภาพจะดีกว่าอุปกรณ์ Surge Arrester โดยตรงหรือไม่ ก็แล้วแต่สเป็ก อย่างไรก็ดี Surge Arrester ที่ติดตั้งบริเวณเบรกเกอร์จะเป็นการป้องกันครอบคลุมทั้งบ้าน ในขณะที่ Surge Arrester ในเครื่องกรองไฟ จะปกป้องเฉพาะอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เสียบผ่านเท่านั้น

ระหว่างเสียบตรงกับเสียบผ่านกรองไฟ (หรือแม้แต่ Surge Arrester) ส่งผลกับคุณภาพของภาพและเสียงแน่นอน อธิบายง่ายๆ ก็เหมือนใช้เครื่องกรองน้ำ ท่านได้น้ำสะอาด แต่แรงดันย่อมลดลง การใช้งานจึงอยู่ที่วัตถุประสงค์ และไม่ใช่ทุกอุปกรณ์ที่เสียบผ่านกรองไฟ (หรือ Surge Arrester) แล้วดี ขณะเดียวกันถ้าสภาพแวดล้อมมีการรบกวนสูง การเสียบอุปกรณ์ฯ ตรง โดยไม่ผ่านกรองไฟ ก็อาจไม่ให้ผลดีเช่นกัน

Noise Filter หรือวงจรกรองสัญญาณรบกวนมีหลากหลาย บางรูปแบบอาจจะเน้นอุปกรณ์ด้านภาพ หรืออุปกรณ์ดิจิทัล (คอมพิวเตอร์) ที่ใช้งานภาคจ่ายไฟแบบสวิตชิ่ง ในขณะที่บางวงจรจะเหมาะกับอุปกรณ์อะนาล็อก หรือภาคขยาย

คร่าวๆ ก็ประมาณนี้ครับ

ตกลงราคาในงาน H7532BD 45,900 หรือ 3X,XXX ครับ

เท่าที่ทราบ ราคาพิเศษกว่า 3x,xxx ครับ เข้ามาดูในงานได้เลย

มาอัพเดทซิสเต็มเครื่องเสียงสำหรับงานบรรยายครั้งนี้ครับ

แน่นอนว่าพระเอกของงาน คือ โปรเจ็กเตอร์จาก Acer แต่ทีมงานเอง ก็ให้ความสำคัญกับระบบเสียงเช่นเดียวกัน เพื่อให้ทุกท่านได้ดำดิ่งถึง "อารมณ์" ของระบบโฮมเธียเตอร์อย่างแท้จริง...

สำหรับซิสเต็มเครื่องเสียงที่ใช้ในการบรรยายครั้งนี้ คงไม่แข่งที่คำว่าไฮเอ็นด์ เพราะเชื่อว่าในงานคงจะมีซิสเต็มที่ราคาสูงกว่านี้ แต่ทีมงานจะพยายามดึงศักยภาพที่มีอยู่ออกมาใช้ให้ได้มากที่สุด  ซึ่งหน้าที่ในการเติมเต็มเสียงในพื้นที่ห้องบรรยาย กว้างขวางถึงกว่าร้อยตารางเมตร ประกอบไปด้วย



ปรีโปรเซสเซอร์ พร้อม 9-แชนเนล เพาเวอร์แอมปลิฟายเออร์ รุ่นเรือธงจาก Onkyo PR-SC5509 + PA-MC5501

ระบบลำโพงรอบทิศทาง 7 แชนเนล ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกันทั้งหมด รับหน้าที่โดย Polk Audio RTi A7 ท่านที่สงสัยว่าเอาลำโพงตั้งพื้นมาทำเป็นเซ็นเตอร์ เสียงจะดีหรือ? ไปลองฟังได้ในงานครับ

และขาดไม่ได้กับลำโพงซับวูฟเฟอร์ จาก SVS คือ PB13-Ultra และ PC12-Plus โดยติดตั้งใช้งานในแบบ "Dual Subwoofer"

พร้อมสายสัญญาณ สายลำโพงจาก Velocita

ก็ขอทิ้งท้าย เรียนเชิญทุกท่านมาฟังบรรยายกัน นอกจากได้ความรู้แล้ว ท่านอาจจะได้ของรางวัล ซึ่งรางวัลใหญ่เป็นโปรเจ็กเตอร์ ติดไม้ติดมือกลับบ้านไปเชยชมด้วยครับ

พบกัน วันเสาร์ที่ 14 มิ.ย. นี้ @ รร.แลนด์มาร์ค สุขุมวิท (BTS นานา) 13.00 น. เป็นต้นไป

และขอขอบคุณตัวแทนจำหน่ายสินค้าทุกท่าน ที่เอื้อเฟื้ออุปกรณ์เพื่อใช้ประกอบการบรรยายครั้งนี้ครับ