ขอบคุณครับ
อยากทราบเพิ่มเติมเป็นความรู้ความแตกต่างระหว่างการ set
1. การ setup ---> audio --> SPDIE out put ---> Raw
2. การ setup ---> audio --> SPDIE out put ---> LPCM DAUL CH
3. การ setup ---> audio --> SPDIE out put ---> LPCM Muti CH
RAW คือ ส่งสัญญาณเสียงจากต้นฉบับหนังออกไปแบบไม่ปรุงแต่ง ( passthrough) เพื่อให้ AVR หรือชุด HT ถอดรหัส ถ้ามี AVR ให้เลือกส่งสัญญาณแบบ RAW เพื่อไปถอดรหัสเสียง Dolby, DTS ที่ AVR ครับ เพื่อจะได้คุณภาพเสียงเต็มที่
การตั้งค่าแบบ LPCM ในที่นี้จะหมายถึง เสียงที่ถอดรหัสแล้วจากเครื่อง HD Player ถ้าเราไม่มี AVR ก็ตั้งเป็น LPCM เพื่อส่งสัญญาณเสียงไปที่ทีวีโดยตรงครับ
LPCM DAUL CH เสียงจะออกแบบสเตริโอ 2 channel (ลำโพงคู่หน้า)
LPCM Muti CH เสียงจะออกครบทุกลำโพง
LPCM ย่อมาจาก Linear Pulse Code Modulation เป็นวิธีการเข้ารหัสไฟล์เสียงแบบดิจิตอล หมายความรวมไปถึงฟอร์แม็ตหลายๆ ตัวที่ใช้วิธีนี้ในการเข้ารหัสหรือ encode บางครั้งก็เรียกย่อๆ กันว่า PCM (ซึ่งตัว PCM นี้จะเป็นตัวที่กว้างกว่า) การ encode แบบนี้ถึงจะแปลงไฟล์กี่ครั้งก็จะไม่มีการสูญเสียหรือผิดพลาดถ้าใช้ sample rate มากกว่าความถี่ของต้นฉบับอยู่สองเท่า เช่น ถ้าอยากอัดเสียงที่ความถี่ 20 kHz ก็ควรจะใช้ sample rate มากกว่า 40 kHz นิดหน่อยก็พอแล้ว บิตเรทของ LPCM นี้จะมีบิตเรทคงที่ และไม่มีการลดบิตเรทใดๆ เลย เรียกได้ว่าเสียงออกมาเหมือนกับต้นฉบับทุกอย่าง แต่ในแผ่นดีวีดี จะมีระบบเสียง PCM stereo ไม่เกิน 2 แชนแนล เพราะหากเกินจากนี้ขนาดไฟล์จะใหญ่จนเกินไป
LPCM Multi-channel จะให้คุณภาพเสียงได้ดีที่สุดเพราะเป็นการบันทึกจากเทปต้นแบบโดยตรงแบบไม่มี การบีบอัดจึงสามารถถ่ายทอดรายละเอียดของเสียงออกมาได้อย่างครบถ้วนไม่มีตก หล่น แต่ข้อกำหนดรายละเอียดจำเพาะของระบบเสียง LPCM Multi-channel ของแผ่นบลู-เรย์จะมีความแตกต่างกับระบบเสียง LPCM Multi-channel ของแผ่น DVD-Audio ตรงที่สามารถบันทึกเสียงรายละเอียดสูงสุดที่ระดับ 96 kHz/24 bit แบบไม่บีบอัดได้สูงสุดถึง 8 แชนแนลด้วยอัตราความเร็วบิทข้อมูลสูงสุด 18.5 แต่ถ้าแบบนี้ต้องผ่าน AVR ผ่านทางสาย HDMI
ขนาดมาตรฐานของแซมเปิลและแชนแนล
ขนาด แซมเปิลโดยปกติก็คือ 8, 16, 20 หรือ 24 บิตต่อหนึ่งแซมเปิล (แซมเปิลคือระดับความสูง-ต่ำของเสียงที่สุ่มมา ยิ่งขนาดแซมเปิลมากก็จะทำให้ระดับความสูง-ต่ำของเสียงที่ได้มีความกว้างมาก ขึ้น)
ระบบ 2 แชนแนล (stereo) เป็นระบบที่พบได้มากที่สุด แต่จริงๆ แล้วจะรองรับได้ถึง 8 แชนแนล (ระบบ 7.1 surround)
sample rate ปกติจะใช้ 48 kHz สำหรับไฟล์ของแผ่นดีวีดี หรือ 44.1 kHz สำหรับใช้กับแผ่นซีดีเพลง สำหรับความถี่ 96 kHz หรือ 192 kHz อาจจะเอาไว้สำหรับใช้ในอุปกรณ์ใหม่ๆ เหมือนกับบิตเรทที่มีค่าได้ถึง 6.144 mb/s (เมกะบิตต่อวินาที) ต่อหนึ่งแชนแนล
เรื่อง : กนก นามคันที E-mail :
[email protected]ที่มา
http://play3thai.com/forums/index.php?topic=23849.0