จัดส่ง Klipsch Sound Bar R20B ไป ร้าน Nole เซ็นทรัลเวิรด์ครับ
กับ Sound Bar Klipsch ทั้ง 3 รุ่น ที่ให้แนวเสียงดุดัน หนักแน่นเหมาะกับการดูหนังฟังเพลง
Klipsch SB-120, Klipsch R10B และ Klipsch R20B ใช้งานง่ายมากๆ แค่ต่อสาย optical เพียงเส้นเดียวกับทีวี (มีสาย Optical แถมมาให้) ก็สามารถให้เสียงหนักแน่นพอๆกับชุดโฮมเธียร์เตอร์ขนาดย่อมๆชุดเล็กๆได้สบาย
แถมยังพ่วงด้วย Subwoofer แบบ wireless ไร้สายที่สามารถควบคุม volume ของเสียงเบสแยกต่างหากจากตัว Sound bar และสะดวกสบายด้วยการจัดวางไว้ที่ไหนก็ได้เพียงแค่หาที่วาง เสียบปลั๊ก เสียงก็จะ Sync มาที่ตัวซับวูฟเฟอร์เองโดยไม่ต้องทำอะไรหรือต่อสายให้วุ่นวาย
โดยที่สามารถปรับและคอนโทรลผ่านรีโมทที่แถมมาให้ได้อีกด้วย
และ sound bar ทั้งรุ่น R10B, R20B สามารถรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน Bluetooth กับโทรศัพท์หรืออุปกรณ์ต่างๆสำหรับดูหนังฟังเพลงได้แบบง่ายๆอีกด้วยครับ
โดยตัวนี้แถมสาย Optical และ Wall mount สำหรับติดผนังให้อีกสำหรับใครที่อยากติดกับผนังเพิ่มความเก๋ให้กับห้องได้มากยิ่งขึ้น
สำหรับใครที่สงสัยว่าตัวนี้จะ setup ยากมั๊ย เราบอกเลยครับว่าง่ายมากๆๆๆ ใครไม่เคยเล่นเครื่องเสียงก็สามารถต่อได้ง่ายๆด้วยตัวเองตามวิธีที่เราแนะนำตามด้านล่างนี้เลยครับ หรือจะตามไปดูวีดีโอของฝรั่งกันตามลิ้งค์นี้ก็ได้
https://www.youtube.com/watch?v=Z27WtBy4IUs------------------------------------------------------------------------------
1. ต่อกับทีวี: ใช้สาย Optical ที่เราแถมให้ หรือใครจะหาซื้อสาย Optical ยี่ห้อที่ชอบมาเองก็ได้ ต่อจากช่อง Audio out / Digital out / Optical put แล้วต่อมาที่ sound bar ตรงๆ วิธีนี้ง่ายที่สุดครับ ตอนนี้ไม่ว่าเสียงอะไรก็ตามที่วิ่งมาเข้าทีวีก็จะมาออกที่ Sound bar เราทั้งหมดไม่ว่าจะดูทีวี ดูละคร เล่น ps4, ดู dvd / bluray หรือเปิดคาราโอเกะก็ตาม
2. ต่อกับทีวี: ใช้สาย RCA (ขาว แดง) วิธีนี้สำหรับทีวีรุ่นเก่าๆที่มีช่อง Audio out แบบ RCA สองเส้น เราก็สามารถต่อจากช่อง Audio out แล้วต่อมาที่ sound bar ตรงๆ ได้เหมือนกันครับ ผลลัพธ์เหมือนกับวิธีแรกทุกประการครับ
3. ต่อกับอุปกรณ์เครื่องเล่นตรงๆ เช่น DVD / Bluray หรือกล่องจานดาวเทียม โดยเราจะเอาสายภาพ RCA / Hdmi ต่อจากเครื่องเล่นของเราเข้าทีวี และแยกสายเสียงไม่ว่าจะเป็น RCA / Optical มาต่อตรงเข้ากับ Sound Bar ครับ วิธีนี้จะต่อตรงเสียงมาที่ Sound bar โดยตรงโดยไม่ผ่านทีวีเลย ข้อดีคือมีการสูญเสียน้อยที่สุด แต่ข้อเสียคือ ถ้าเรามีอุปกรณ์เครื่องเล่นๆหลายอย่าง เราอาจจะต้องคอยสลับสายกันวุ่นวายนิดหน่อยครับ
4. สตรีมมิ่งผ่าน Bluetooth กับโทรศัพท์ Iphone /Ipad / Android หรืออุปกรณ์ที่รองรับ Bluetooth โดยสามราถ connect เพื่อเปิดเพลงฟังโดยโดยที่ไม่ต้องต่อสายใดๆครับ
============================================
และสุดท้ายตอนนี้เรามี Sound Bar ราคาพิเศษของ Klipsch ทั้งหมดสามรุ่นจำหน่ายได้แก่
- Klipsch SB120: ซาวด์บาร์ Subwoofer built-in และดีไซน์มาเพื่อใช้เป็นฐานรองทีวีได้
- Klipsch R10B: ซาวด์บาร์ที่มาพร้อม Wireless subwoofer 8 นิ้ว
- Klipsch R20B: ซาวด์บาร์ที่มาพร้อม Wireless subwoofer 10 นิ้ว
สินค้าทุกชิ้นนำเข้าและรับประกันถูกต้องจาก Sound Republic