เว็บบอร์ด LCDTVTHAILAND

ห้องซื้อขายแลกเปลี่ยน => ห้องซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนของจิปาถะ => ข้อความที่เริ่มโดย: wm5398 ที่ กรกฎาคม 30, 2021, 12:22:19 pm

หัวข้อ: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ กรกฎาคม 30, 2021, 12:22:19 pm
ขายของออนไลน์ ด้วยเว็บไซต์ WordPress + SEO ยอดขายเกิน 15 ล้าน/ปี

“แชร์ประสบการณ์ผลลัพธ์ที่ได้ผลแล้ว ผู้อ่านควรนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเองครับ “
– นักรบ


หลังจากมีพื้นฐานการเป็น Freelance รับทำเว็บไซต์ด้วย WordPress และ เป็น Freelance รับทำ SEO จึงฟอร์มทีมเพื่อทำเว็บไซต์ขายของออนไลน์ด้วย พิสูจน์ว่าถ้าเว็บติดหน้า 1 Google Search จะช่วยให้ขายของออนไลน์ได้ยอดขายเกินล้านหรือไม่ครับ

ที่สามารถทำได้เพราะอาศัยหลักคิดเริ่มต้น คือ Good Product + Marketing เพราะมีสินค้าดีและมีการตลาดที่ดี ถึงจะสู้คู่แข่งได้ครับ ฉะนั้นถ้ายังไม่แน่ใจ ก็ขอให้ลงทุนที่ละน้อยๆค่อยทดสอบเรียนรู้ไป พอมียอดขายเพิ่มขึ้นค่อยลงทุนเพิ่มก็ได้ครับ จะได้ไม่เสี่ยงเกินไป

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2018/07/banner-warrior-ecommerce-business-online-1.jpg)

ทำการตลาดออนไลน์ แตะยอดขายหลัก 1,000,000 ฿
พิสูจน์ว่าเทคนิคการตลาดออนไลน์แบบนักรบ นั้นได้ผลจริงกับธุรกิจค้าขายออนไลน์ (E-Commerce) แน่นอน แต่กว่าจะทำได้ก็ต้องลองผิดถูกพอสมควร และพัฒนาปรับปรุงเสมอๆ โดยดูคู่แข่งเพื่อเรียนรู้ และดูตัวเองเพื่อหาจุดเด่นสร้างจุดขาย พัฒนาต่อเนื่องจนกว่าจะได้ผล

ทำไมเลือกทำการตลาดให้ธุรกิจขายของออนไลน์ แบบขายส่ง/ผลิตเอง
      - เพื่อสัมผัสการสร้างยอดขายเกิน 1 ล้านบาท จะได้มีประสบการณ์มาสอนได้
      - ต้องการให้ทีมงานคุยกับลูกค้าไม่กี่ราย ก็สร้างยอดขายสูงๆได้ และการขายส่งตอบโจทย์นี้มากกว่าการขายปลีก
      - ถนัดด้านเว็บไซต์ WordPress & Google Marketing ฉะนั้นการทำธุรกิจแบบขายส่ง จะอาศัยเว็บไซต์และการตลาดในกูเกิลที่ได้ผล ลูกค้าตรงกลุ่มมากกว่าใน Social Media
ด้วยเหตุผลหลักๆ 3 ข้อด้านบน ที่วิเคราะห์แล้วว่าพอสู้ได้ จึงเข้าสู่ขั้นตอนถัดไป

มองเห็นภาพรวมก่อนเริ่มต้นขายของ

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2017/06/important-thing-start-online-business-ecommerce-780x481.gif)

ก่อนเริ่มขายของออนไลน์ต้องมี
1. สินค้าหรือบริการ
2. หน้าเว็บหน้าร้าน ช่องทางการขาย
3. การตลาดออนไลน์ เช่น SEM,SEO,SMM เป็นต้น

หลังจากเห็นภาพรวมการทำธุรกิจค้าขายออนไลน์แล้ว ก็เข้าสู่การทดสอบเบื้องต้นก่อน เช่นทำเว็บไซต์พอใช้งานได้ เปิดแฟนเพจ เปิด Line@ เปิด Youtube ให้พอใช้งานได้ แล้วเริ่มพาคนเข้าเว็บเข้าเฟสด้วยการยิง Ads เช่น Google Ads, Facebook Ads

ใช้เงินโฆษณาเพียงเล็กน้อย แล้วทดสอบว่ามีคนซื้อสินค้าจริงหรือไม่ ดูค่า ROAS ว่าคุ้มค่าเป็นตัวเลขที่รับเราได้ไหม เพราะถ้าทำการตลาดแล้วไม่มีคนซื้อเลย จะได้กลับมารีเช็คสินค้า บริการ หรือหน้าเว็บไซต์ ว่าตรงจุดไหนที่มีปัญหา เช่น สินค้าราคาสูงไป หน้าเว็บไม่น่าเชื่อถือ ขาดคอนเทนต์อะไรไป จะได้มาปรับมาแก้กันให้ถูกจุด

ดูคู่แข่งเพื่อเรียนรู้ ดูตัวเองเพื่อหาจุดขาย
พยายามดูคู่แข่งที่ทำธุรกิจนี้มาก่อนเรา ดูว่าเขาทำอย่างไรแล้วขายได้ เขาขายยังไง ขายช่องทางไหน ทำคอนเทนต์แบบไหน และขายอะไรบ้าง แทบจะดูทุกอย่างเลยก็ว่าได้ เพื่อเรียนรู้จากผลลัพธ์ของเขา

จากนั้นเรียนรู้ดูตัวเอง ดูสินค้าและบริการตัวเอง ดูแนวทางการตลาดของตัวเองเพื่อหาจุดขาย นำมาพัฒนาให้ดีและทำการตลาดให้คนรู้จัก

มีสิ่งที่ดีกว่าหรือสิ่งที่แตกต่างที่ลูกค้าต้องการก็ขายได้
ลูกค้าจะซื้อของที่ดีกว่าเดิม หรือ แตกต่างกว่าเดิมในแบบที่เขาต้องการ ฉะนั้นเวลาเราขายของและทำการตลาด ก็ทำให้ดีกว่าคู่แข่งหรือแตกต่างกว่าคู่แข่งในแบบที่ลูกค้าต้องการด้วย เป็นหลักคิดทั่วไปที่ไม่ควรมองข้าม

ถ้าคู่แข่งทำการตลาดช่องทาง Search Engine หรือ Social Media อยู่แล้ว แต่เราทำได้ดีกว่า หรือ ถ้าคู่แข่งไม่มีสินค้านี้ เรามีดีกว่าคู่แข่ง ลูกค้าก็ซื้อของเรา

รู้เส้นทางลูกค้า (Customer Path) ก่อนจะทำการตลาด
เส้นทางลูกค้าแบ่งเป็น 5 Step ดังนี้
      1. เห็น : ทำให้ลูกค้าเห็นได้มาก ต้องใช้ SEM, SEO, SMM
      2. สนใจ : ทำให้ลูกค้าสนใจด้วยคอนเทนต์
      3. สอบถาม : ช่องทางติดต่อสะดวก มีข้อมูลติดต่อเห็นตลอด เช่น Tel, Chat, Inbox
      4. สั่งซื้อ : มีปุ่มสั่งซื้อ วิธีสั่งซื้อง่าย สะดวก ชำระเงินง่าย
      5. บอกต่อ สนับสนุน ซื้อซ้ำ : ถ้าสินค้าและบริการดีจะเกิดการบอกต่อ สนับสนุน ซื้อซ่ำ

เตรียมตัวทดสอบขายของออนไลน์ก่อนลุยเต็มที่
1) สินค้าหรือบริการ
ที่สามารถสู้กับคู่แข่งเดิมในตลาดได้ ทั้งคุณภาพและราคา หลังจากนั้นจึงเข้าสู่การเตรียมสร้างแบรนด์อย่างง่ายๆและเตรียมทีมงาน

2) รูปสินค้า สวยพอกับๆกับคู่แข่งเดิมในตลาด หรือทำให้ดีกว่า อีกทั้งเตรียมข้อมูลรายละเอียดสินค้าเพื่อรออับเดทในเว็บไซต์
วิธีค้นหาไอเดียเพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการให้ได้มาตรฐาน คือ การเสิร์ชเว็บต่างๆในต่างประเทศเพื่อดูแนวทางการถ่ายรูป และ เตรียมข้อมูลให้เยอะที่สุด เพื่อรออับเดทในเว็บไซต์

เครื่องมือแก้ไขรูป
         - กล้องถ่ายรูปมือใหม่ : กล้องมือความละเอียดคมชัด ราคาช่วง 5,000 บาท ขึ้นไป
         - กล้องถ่ายรูปสำหรับมืออาชีพ : กล้อง DSLR ราคาตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป
         - ฉากถ่ายรูปสินค้า
         - โปรแกรมตกแต่งภาพสำหรับมือใหม่ : Photoscape , Canva , Pixlr, Crello
         - โปรแกรมตกแต่งภาพสำหรับมืออาชีพ : Photoshop, Lightroom

3) เว็บไซต์ ที่ได้มาตรฐานระดับพรีเมี่ยม ปรับแต่งได้มากมายและรองรับมือถือ รองรับทำการตลาดใน Google และ Facebook ได้เป็นอย่างดี หลังจากนั้นจึงนำข้อมูลทั้งหมดขึ้นเว็บไซต์ที่นักรบเลือกใช้คือ WordPress

4) โฆษณา Google Ads ด้วยเงินจำนวนหนึ่ง นักรบใช้เพียง 1,500-3,000 บาท/เดือน เพื่อทดสอบว่ามีการติดต่อจากลูกค้า หรือมีการสั่งซื้อสินค้าหรือไม่ ถ้ามียอดขายดี ให้เพิ่มงบโฆษณาตามกำลัง

5) วัดผล หากยอดขายไม่คุ้มค่า ให้รีบประหยัดรายจ่ายส่วนที่ไม่จำเป็น และเช็คให้แน่ใจว่าข้อมูลในเว็บไซต์ทั้งภาพสินค้า ราคา เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับลูกค้าแล้วหรือยัง ? หากยอดขายดี ควรเพิ่มงบการลงโฆษณาและอับเดทผลงานลูกค้าสม่ำเสมอๆ

วัดผลคนเข้าเว็บด้วยเครื่องมือ Google Analytic

6) ธุรกิจเติบโต หรือมียอดขายแล้ว ควรเร่งเติมความแข็งแรงให้ธุรกิจ เพื่อทิ้งห่างคู่แข่งทั้งในปัจจุบันและอนาคต เช่น การทำธุรกิจที่ 2 เพิ่ม โดยเกื้อหนุนธุรกิจแรก, การเพิ่มเนื้อหาชนิดวีดีโอเพื่อสร้างแบรนด์ดิ้ง, การเพิ่มชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง, การออกสื่อสิ่งพิมพ์, วิทยุ, โทรทัศน์, หรือ การทำ SEO ให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกมากขึ้น เป็นต้น

ขั้นตอนเตรียม Website & Social Media
1. เลือกสินค้าที่ขายส่งได้ และเน้นทำการตลาดขายส่ง เพราะเท่าที่ศึกษามา คนทำยอดขายมากๆ มาจากขายส่งแทบทั้งนั้น
2. จดโดเมน 400 ฿/1y : เลือกชื่อโดเมนที่มีชื่อสินค้าไปด้วย จะได้ทำ SEO ได้ด้วย
3. ออกแบบโลโก้
4. Hosting 1,000  ฿/1y : เลือก  HostAtom เพราะรองรับ WordPress ดี
5. Facebook Fanpage : เปิดแฟนเพจ และออกแบบหน้าปกกับรูปโปรไฟล์
6. Line@ : จ่ายค่า Premium ID 200 ฿/1y
7. เบอร์โทร, Email , เลขที่บัญชีธนาคาร
8. YouTube Chanel : ไว้ลง Video ในเว็บและไว้ทำ SEO
9. ค้นหาเว็บไว้อ้างอิง สำหรับคุยกับทีมงานให้ดีไซน์เว็บไปในแนวทางเรียบหรูดูแพง

เตรียมเว็บไซต์ WordPress
1. ติดตั้ง Theme Flatsome
2. ใส่ Logo
3. ใส่ข้อมูลติดต่อ Email , เบอร์โทร , ไลน์
4. ติดแฟนเพจในเว็บ
5. ติด Line@

ทีมงานทำการตลาดออนไลน์
ทีมงานทั้งหมดอย่างน้อย 4 คน
        - ฝ่ายขาย 1 คน สำหรับติดต่อลูกค้าและปิดการขาย
        - ฝ่ายอัพเดทเนื้อหาภายในเว็บ 1 คน
        - ผ่ายการตลาดออนไลน์ 1 คน
        - ฝ่ายเว็บไซต์ 1 คน

ขายของออนไลน์อะไรดี
แนะนำให้เลือกสินค้าขายที่เราได้เปรียบทางธุรกิจและการตลาด เช่น
        - ได้เปรียบทรัพยากรการผลิต
        - ได้เปรียบคอนเนคชั่น
        - ได้เปรียบทางภาษา
        - ได้เรียบเรื่องคนที่มีทักษะเฉพาะด้าน เช่น การตลาด การผลิต การขาย
        - ได้เปรียบการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
        - อื่นๆอีกหลายข้อที่ทำให้แน่ใจว่าจะสู้กับคู่แข่งเดิมในท้องตลาดและคู่แข่งใหม่ในอนาคตได้

Mindset ก่อนเริ่มต้นธุรกิจขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์ จะลงทุนมากกว่างานบริการมาก และใช้คนทำงานเยอะกว่า โดยนักรบมี Mindset ง่ายๆ คือ
ธุรกิจขายของออนไลน์ : ใช้ทีมงานอย่างน้อย 2 คน แบ่งหน้าที่กัน
        - คนที่ 1 ดูแลสินค้า เช่น ถ่ายรูป, รีทัชรูป, โพสลงเว็บไซต์, ใส่รายละเอียดสินค้า, ใส่วิธีการสั่งซื้อ รวมทั้งข้อมูลต่างๆที่สำคัญภายในเว็บไซต์
        - คนที่ 2 ดูแลการตลาด เช่น Facebook Marketing , Google Marketing (SEO & AdWords) และ Content Marketing พวกบทความและวีดีโอ
มีทักษะความชำนาญด้าน Digital Marketing มาก ก็มีโอกาสสร้างยอดขายได้มาก

คำถามที่พบบ่อย
❓ จำเป็นไหมที่ทำธุรกิจขายของออนไลน์ ต้องลงทุนสูงขนาดหลักแสน
ไม่จำเป็นครับ เริ่มต้นขายของออนไลน์ลงทุนหลักร้อยหลักพันก็มี แต่ถ้าอยากทำยอดขายสูงมากๆถึงหลักล้าน ควรลงทุนอุปกรณ์เพิ่ม เช่น
        - กล้องถ่ายรูป DSLR ราคาประมาณ 15,000 บาท
        - ชุดไฟถ่ายรูป 8,000 บาท
        - ฉากหลัง 2,300 บาท
        - คอมพิวเตอร์ 20,000 บาท

วิธีหาสินค้าขายส่งจากโรงงาน
จริงแล้วเราไม่จำเป็นต้องรู้ทุกวิธีของการค้นหาสินค้าเพื่อขายของออนไลน์ก็ได้ครับ รู้เพียงไม่กี่วิธีก็พอ แต่ขอให้เลือกสินค้าที่เราได้เปรียบทางการค้าหรือการตลาด

วิธีค้นหาสินค้า
1. อ่านบทความต่างประเทศเพื่อได้ไอเดียการค้นหาสินค้า โดย Search คำว่า : Google Search : How to find niche products
2. ไล่เช็ครายการสินค้าใน Lazada แล้วมองหาโรงานที่ผลิตสินค้านั้นๆ แต่ยังไม่ได้ทำการตลาดขายส่งออนไลน์มากนัก หรือทำได้ไม่ดีพอ (เอาง่ายๆ คือเราทำได้ดีกว่า)
3. ค้นหาโรงงานที่อยู่ใกล้เคียงกับระแวกบ้านเรา จะได้สะดวกเดินทางและติดต่อเจรจา
4. ร่วมทำธุรกิจกับเพื่อนที่เป็นเจ้าของโรงงาน

หลักๆคือเท่านี้ หลังจากได้ Supplier แล้วก็เข้าสู่ขั้นตอนต่อไป คือ เตรียมเว็บไซต์, เตรียมสินค้าลงเว็บ และเตรียมทำการตลาดออนไลน์ครับ ส่วนนักรบเลือกขายส่งออนไลน์กับสินค้าอะไรนั้น นักรบจะมาบอกหลังจากเตรียมเว็บไซต์และทำการตลาดไปสักพักเสร็จแล้วครับ

5 ปัจจัยพื้นฐาน ที่ทำให้ขายของออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ได้
ก่อนสร้างเว็บไซต์ควร Search หาข้อมูลเว็บที่สวย มีมาตรฐานการสร้างคอนเทนต์ และการจัดวางคอนเทนต์ได้อย่างสวยงาม ช่วยฝ่ายขายปิดการขายได้ดี ซึ่งนักรบแนะนำให้ค้นหาเว็บไซต์จากต่างประเทศทั่วโลกเป็นหลัก ไม่ควรดูเพียงเว็บไซต์ในประเทศไทย หลังจากนั้นควรคำนึงปัจจัยต่างๆเหล่านี้
1. Website ระดับมาตรฐานมืออาชีพ ซึ่งนักรบเลือกสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress + WooCommerce โดยซื้อธีมที่ https://themeforest.net/
2. มีตัวอย่างเว็บไซต์ต่างประเทศอ้างอิง เพื่อพัฒนาเนื้อหาในเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย สวยและดูดีได้มาตรฐานในระดับเดียวกับคู่แข่งหรือมากกว่า
3. อัพเดทผลงานลูกค้า และสินค้าใหม่ๆเสมอๆในเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย
4. ทำการตลาดให้เหมาะกับสินค้าหรือบริการนั้นใน Google & Social Media เช่น Search Engine Marketing (SEM,SEO), Social Media Marketing (SMM), Video Marketing (Video, Live)
5. พัฒนาทีมงานฝ่ายการตลาดสม่ำเสมอ

อ่านเพิ่มเติมคลิกที่ลิ้งค์ได้เลยครับ   https://warrior.in.th/jobs/ecommerce/ (https://warrior.in.th/jobs/ecommerce/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ กรกฎาคม 30, 2021, 02:11:06 pm
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2021/01/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87-seo-agency-team.jpg)

วิธีสร้าง seo agency team
แชร์ประสบการณ์นักรบที่ทำได้แล้ว เพื่อให้คนรุ่นหลังได้หยิบบางส่วนไปใช้ต่อยอดในสายอาชีพตัวเอง และอย่าลืมที่จะแบ่งปันความรู้ให้กับคนรุ่นถัดๆไปนะครับ

วิธีคิดเริ่มต้นสร้าง SEO Agency Team
เหตุผลในการสร้างทีมเล็กๆในการรับทำ SEO ให้บริษัทต่างๆ(Small SEO Agency Team) เพื่อต่อยอดความสำเร็จจากการเป็น Freelancer SEO Specialistและ การขายของออนไลน์ด้วย WordPress & SEO ในปีที่ผ่านมา เพื่อก้าวสู่ขั้นตอนที่ยากขึ้นจากการทำงานเป็นทีมที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน SEO โดยเฉพาะ

วิธีคิดในการทำงานและการสร้าง Small SEO Agency Team ของนักรบ มีความเฉพาะตัวสูงและอาจขัดกับความคิดของใครหลายๆคนแน่นอน ฉะนั้นถ้ามีสิ่งไหนที่ไม่เห็นด้วย ขอให้ข้ามไปและหยิบเฉพาะส่วนที่มีประโยชน์ไปปรับใช้ตามสภาพแวดล้อมและกาลเวลาที่เหมาะสมของแต่ละคน

SEO Agency คือ ตัวแทนในการรับผิดชอบการทำ SEO ทั้งหมดให้บริษัทหรือองค์กรต่างๆ โดยลูกค้าที่พอจะมีงบจ้าง SEO Agency ได้ จะต้องมีขนาดของธุรกิจที่ใหญ่พอสมควร โดยนักรบจะรับทำ SEO ให้บริษัทขนาดกลางขึ้นไป ซึ่งจากสถิติธุรกิจขนาดกลางในประเทศไทยมีมากกว่า 4หมื่นธุรกิจเลยทีเดียว

สำหรับธุรกิจขนาดเล็กแนะนำให้เรียนรู้การทำ SEO ด้วยตัวเองแทนไปก่อนครับ หรืออาจจ้างเป็น SEO Audit 1 ครั้งต่อระยะเวลา 3-6 เดือนแทน จะช่วยลดต้นทุนได้

แนะนำอ่านเส้นทางอาชีพ Digital Marketing Freelancer
แชร์ประสบการณ์การสร้างอาชีพเกี่ยวกับ SEO & Digital Marketing แบบนักรบ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นจริงว่าความรู้ที่สอนนี้ใช้ได้ผลจริงกับนักรบ แต่ผู้เรียนควรนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับธุรกิจตัวเองครับ เช่น รับทำเว็บไซต์ WordPress, วิทยากรสร้างคอร์สออนไลน์, ขายของออนไลน์ด้วยเว็บไซต์, รับทำ SEO แบบฟรีแลนซ์ และ Small SEO Agency
https://warrior.in.th/jobs/small-seo-agency/ (https://warrior.in.th/jobs/small-seo-agency/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ กรกฎาคม 30, 2021, 02:16:40 pm
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2020/10/freelance-seo-specialist-at-huahin.jpg.webp)

แชร์เส้นทางการเป็น Freelance SEO Specialist เพื่อเป็นแนวทางให้กับรุ่นน้อง ได้อ่านกรณีศึกษาสัก 1 กรณี ที่แชร์เนื้อหากว่าจะเป็นฟรีแลนซ์ได้ต้องเจออุปสรรคอะไรบ้าง จะได้เป็นฟรีแลนซ์ได้ง่ายขึ้นและเร็วขึ้นครับ

คำแนะนำ : Best Practice และ Case Study นี้ อยู่บนพื้นฐานสิ่งแวดล้อมของนักรบ เนื่องจากแต่ละคนไม่เหมือนกัน ฉะนั้นหยิบไปปรับใช้ที่เหมาะกับตัวเองนะครับ / นักรบ

อาชีพ Freelance SEO SPecialist เหมาะกับใคร
จากที่บอกตอนต้น นี้เป็น Case Study ฉะนั้นจะอิงลักษณะที่นักรบคิดว่าเหมาะสำหรับอาชีพนี้นะครับ โดยลักษณะนิสัยที่ช่วยทำงาน SEO Freelance ได้ดีมีประมาณนี้ครับ
1. เป็นคนช่างสังเกตุ จดบันทึกและติดตามข่าว Google’s algorithms สม่ำเสมอ เพื่อปรับเปลี่ยนได้ทัน โดยแนะนำให้จดใน Note ต่างๆในโปรแกรมที่ใช้ทำ SEO ครับ
2. ชอบเรียนรู้วิธีทำ SEO จากทีมงาน Google Search Console โดยตรง จากเว็บ Developers.google.com/search/blog
3. ชอบเรียนรู้การทำ SEO จากคนชำนาญระดับโลกก่อนเป็นหลัก เช่น Brian dean, Ahefs Blog, SEMrush Blog
4. ชอบเรียนรู้การทำ SEO จาก Blog คนไทย (Thai Freelance SEO Specialist Blog) ที่ทำเอสอีโอเองและได้ผลดี โดยเน้นที่ Best practice และย้ำว่าต้องเป็นแนวทางปฏิบัติจริงจากผลงานจริงครับ
5. ชอบทดสอบ จดบันทึก วัดผลการทำ SEO และสนุกกับการไต่อันดับของคีย์เวิร์ดในกูเกิลเสิร์ชครับ
6. มีทัศนะคติที่ดีกับคู่แข่ง โดยเฉพาะคู่แข่งการทำเอสอีโอในกลุ่มคียเวิร์ดเดียวกัน มองว่าเป็นการพัฒนาร่วมกันในอุตสาหกรรมนี้
เท่าที่นึกได้และจำเป็น น่าจะประมาณด้านบนนั้นครับ เป็นข้อมูลจากประสบการณ์นักรบเอง

พื้นฐานและทักษะของ Freelance SEO Specialist ที่ดี
พื้นฐานนี้อิงตามประสบการณ์นักรบล้วนๆ เพราะอย่างที่บอกนี้คือ My best practice & case study ครับ
        - มีพื้นฐานการสร้างเว็บไซต์ต่างๆ เช่น Domain, Hosting, DNS, Security, Backup, CMS, Blog
        - มีพื้นฐาน HTML, CSS จะช่วยเรื่องการทำ Technical SEO ได้ดีขึ้นครับ
        - มีพื้นฐานการสร้างและผลิตคอนเทนต์ จะช่วยเรื่อง Content SEO ได้ดีขึ้นครับ
        - มีพื้นฐานในการประสานงานกับทีม Dev, writer, advertiser เพราะบ่อยครั้งต้องทำงานร่วมกันครับ
        - ศึกษาจากแหล่งความรู้ที่น่าเชื่อถืออยู่เสมอ ทั้งจาก Google Central blog, คนเก่งระดับต่างประเทศและในประเทศครับ
        - มีพื้นฐานด้าน Business เพื่อเข้าใจมุมมองของนักลงทุนและการตลาดด้านอื่นๆ โดยเฉพาะ Digital Marketing สาขาอื่นๆครับ
        - มีพื้นฐาน Google Ads, Facebook Ads, Remaketing, และการสร้าง Social Media Channel
        - เป็นนักสังเกตุ จดบันทึก ทดลองและวัดผลครับ เพราะใช้บ่อยกับอาชีพนี้เพื่อปรับ และหาสาเหตุต่างๆในการทำ SEO ครับ
        - เตรียม SEO Report และวิเคราะห์ Data ได้ครับ
        - มีความรู้ด้านการเงิน และการทำการตลาดให้ตัวเองเป็นที่รู้จักครับ
หลักๆน่าจะประมาณนี้ ที่เป็นพื้นฐานและทักษะที่สำคัญในการเริ่มต้นเป็น Freelance SEO Specialist ครับ โดยอาชีพนี้ทำคู่งานประจำก่อน เพื่อวางรากฐานกิจการให้มั่นคงก่อนคิดเรื่องทำเต็มตัวครับ

Freelance SEO Specialist Fulltime ดีอย่างไร
หลังจากทำ Freelance-Partime มาได้สักพัก การตลาดและฝีมือเริ่มอยู่ตัว พอจะออกมาทำเต็มเวลาได้ เพราะมี Blog ที่ช่วยเพิ่มทราฟฟิคอยู่เสมอ ทำให้มีลูกค้าแวะเวียนมาสอบถามอยู่ประจำ จึงตัดสินใจทำเต็มตัว เพราะคิดว่าจะทำได้เต็มที่กว่า

ข้อดีของการทำแบบเต็มเวลาคือ มีเวลาเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าและได้เลือกทำงานกับลูกค้าที่เข้ากับเราได้ดี ส่งผลให้งานออกมาดี และนั้นคือจุดเริ่มต้นของคำว่า ” ผลงานดี จะทำการตลาดบอกต่อให้เราเอง”

สิ่งที่ขาดไม่ได้หลังจากเป็น Freelance Fulltime คือ การหมั่นทำการตลาดให้ตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องการทำ SEO Blog คือ แนวทางที่เรียบง่าย มีประสิทธิภาพมาก เพราะใช้เวลาน้อยและตรงกลุ่มเป้าหมาย อย่าลืมว่าเราเริ่มต้นคนเดียว ฉะนั้นต้องบาลานซ์เวลาระหว่างทำ SEO ให้เว็บลูกค้าและทำ SEO ให้เวบตัวเองครับ

รับทำ SEO เน้นลูกค้าบริษัทขนาดกลางขึ้นไป
เหตุผลที่เน้นรับทำ SEO กับบริษัทขนาดกลาง เพราะเขามีกำลังจ่ายครับ กลุ่มบริษัทขนาดกลาง จะมียอดขายหลายร้อยล้านต่อปี การจ้างฟรีแลนซ์รับทำ SEO ในราคา 6 หลักต่อปี ไม่ได้แพงเกินไปกว่าจะที่จะรับไหว ถ้าได้มืออาชีพมาทำ SEO ให้เลย จะคุ้มค่าการลงทุนและประหยัดเวลาได้มาก เรามีหน้าที่ทำให้ตัวเองมีความน่าเชื่อถือด้วยผลงานครับ

ส่วนบริษัทขนาดเล็ก เช่น Micro-sme, Small business นั้น ส่วนใหญ่นักรบจะแนะนำให้เรียนรู้การทำ SEO เองและทยอยจ้างเอาท์ซอสบ้างส่วนช่วยทำ SEO จะประหยัดเงินและมีความเสี่ยงในการลงทุนน้อยลงครับ

กิจการขนาดกลางมี 44,290 กิจการ มีมากเกินพอสำหรับ Freelance SEO Pro ในปัจจุบัน
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2020/10/%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%99-SME-1-1536x864.jpg.webp)

รายได้เพิ่ม 4 เท่าจากงานประจำ หลังทำฟรีแลนซ์
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2019/01/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%B5-2561-690x410.gif)

รายได้ปี 2561 อิงจากงบส่งสรรพากร กระจายรายได้เป็น 2 ทาง แล้วแต่ลูกค้าจะสะดวกชำระผ่านช่องทางไหนครับ

รายได้เพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่า จากงานประจำ 336,000 บ/ปี เป็น 1,212,564 บาท/ปี ซึ่งมากกว่าตอนรับเงินเดือนหลายเท่า เหตุผลการเป็นฟรีแลนซ์ได้เปิดโอกาสในการทำงานกับลูกค้าที่มากขึ้น และใช้ศักยภาพได้เต็มที่มากขึ้นด้วยครับ

ฟรีแลนซ์ควรทำการตลาดสร้างแบรนด์ตัวเอง
ฟรีแลนซ์มีความต่างกับพนักงานประจำ ตรงต้องแบ่งเวลาทำการตลาดให้แบรนด์ตัวเอง แต่ไม่ลงทุนหนักเท่ากับเจ้าของกิจการ นักรบใช้เครื่องทุ่นแรงในการทำการตลาด เช่น การทำ SEO Blog ให้ติด Google เพื่อให้มีคนมาเยี่ยมเยียนเว็บไซต์ได้บ่อยๆ , การผลิตและอับโหลดวีดีโอขึ้น YouTube และการแชร์ความรู้ต่างๆใน Facebook จนปัจจุบันมี Content ที่สร้างผู้ชมใหม่ๆได้ตลอด 24 ชม. จนเกิดเป็นคอนเทนต์ที่ดีที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเราได้ดังนี้
ณ ปัจจุบันค่อยๆสะสมมาเรื่อยจนมีประมาณ
Blog ในเว็บไซต์มีกว่า 100 บทความ
วีดีโอใน YouTube กว่า 200 วีดีโอ
คนติดตามใน Facebook Fanpage 30,000 like

เคล็ดลับนักรบ
การสร้างรายได้ที่ยั่งยืน นั้นมาจากพื้นฐานการสร้างความน่าเชื่อถือ, การเปิดเผยตรงไปตรงมาในเนื้องานทีทำ และการสร้างผลลัพธ์ที่ได้ผลจริง เลยสรุปเป็นทฤษฎีไว้ตามด้านล่างนี้ครับ

สรุปเป็นทฤษฎี เคล็ดลับสร้างลูกค้า และสร้างลักษณะนิสัย
สร้างความน่าเชื่อถือ ความไว้วางใจและความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นในตัวลูกค้า ด้วยการแชร์ประสบการณ์ตรง ผลลัพธ์การลงมือทำจริงจากนักรบ
1. สร้างความเชื่อถือ (Respect) ด้วยเว็บไซต์, ภาพการทำงานจริง, ข้อความที่สื่อถึงวิธีคิดในการทำงานดี, ใบรับประกัน อื่นๆ
2. เปิดเผย ตรงไปตรงมา (Reveal) ในเนื้องานที่ทำ ขั้นตอนการทำงาน ความคืบหน้าต่างๆ
3. สร้างผลลัพธ์ (Result) ผลงานมีพลังกว่าคำพูด ผลลัพธ์ที่ทำได้จริง จะก่อเกิดความเชื่อมั่นในตัวของลูกค้า


สร้างลักษณะนิสัย 5 ข้อ
ลักษณะนิสัยที่ดีจะทำให้ตัวเองพัฒนา วางแผนแก้ไขหรือรับมือปัญหาได้ล่วงหน้า ท้าชนลุยแก้ปัญหา และสนุกกับมันเหมือนเป็นเกม โดยจะวิเคราะห์ลักษณะนิสัยได้ใน 5 เรื่องนี้
1. Time – แบ่งเวลาชัดเจน และมากพอที่จะทำให้เกิดผลงาน
2. Vision – มีวิสัยทัศน์ในสายงานของตัวเอง ติดตาม Blog ผู้นำด้าน SEO เช่น Ahrefs, Backlinko รวมทั้งทิศทางด้าน Digital Marketing
3. Power – สร้างพลังจากภายในตัวเองได้ มีเวลาส่วนตัว จุดไฟในตัวได้เอง
4. Fast – ลงมือทำให้เร็ว สร้างผลงานให้ได้เร็ว แล้วปรับปรุงไปทำไปจนได้ผลระดับหนึ่ง
5. Tools – ใช้เครื่องทุนแรง หัดใช้ Data Tools เช่น Keyword Planner, Backlink Checker, SEO Analysis

พัฒนาตัวเองใน 4 ด้าน
1. Knowledge set : เรียนรู้จากคนเก่งระดับโลก เพื่อสู้กับคู่แข่งระดับในประเทศ
2. Tools Set : เรียนรู้ Digital Marketing Tools เพื่อประหยัดเวลา ลดขั้นตอนการทำงานและวางแผนเป็นระบบ
3. Skill Set : ฝึกฝนจนเกินความชำนาญ สร้างผลงานและคุณค่าออกสู่ตลาด
4. Mind Set : ฝึกฝนเกลาความคิดและจิตใจด้วยการเขียน Blog และลงมือทำจะได้ผลลัพธ์

วิธีเริ่มต้น Freelance SEO Specialist
การเริ่มต้นอาชีพนี้ ให้เน้นที่การพัฒนาตัวเองและสร้างผลงานเผยแพร่ใน Blog & Social Media ก่อนเป็นสำคัญเพื่อฝึกฝีมือและสร้าง Personal Brading ให้ตัวเองครับ

ในช่วงเริ่มต้น อย่าเน้นที่ตัวเงินหรือรายได้มากเกินไป จนละเลยซึ่งความมุ่งมั่นและพยายามลงมือทำต่อเนื่อง
ควรเข้าใจก่อนว่า SEO Freelancer ที่เก่งและมีชื่อเสียง จะมีคอนเนคชั่นมากมายจากผลงาน รวมทั้งได้ทำงานกับบริษัทใหญ่ที่จ่ายผลตอบแทนดีครับ

อาชีพนี้ต้องใช้ทักษะความสามารถที่หลากหลาย เน้น SEO เป็นหลักและมี Digital Marketing ด้านอื่นๆเป็นส่วนเสริม เช่น พื้นฐานการสร้างเว็บไซต์, ความรู้พื้นฐานด้าน HTML CSS, การเขียนบทความ, การลงโฆษณา Google Ads, Facebook Ads, Line@, YouTube และผลงานการทำ SEO ที่ได้ผล ฉะนั้นควรสนุกกับการพัฒนาตัวเองและสร้างผลงานครับ

ตัวอย่างระยะเวลาที่ใช้เรียนรู้ทักษะ
ตัวอย่างการประเมิณเวลาในการเรียนรู้ด้าน SEO และทักษะ Digital Marketing อื่นๆเสริมครับ
         - ทักษะสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress เรียนรู้ 6 เดือน – 1 ปี
         - ทักษะ HTML, CSS พื้นฐาน เรียนรู้ 1-3 เดือน
         - ทักษะการเขียนบทความ เรียนรู้ผ่านการเขียนมากกว่า 30 บทความขึ้นไป
         - ทักษะการลงโฆษณา Google Ads เรียนรู้ 6 เดือน – 1 ปี
         - ทักษะการลงโฆษณา Facebook Ads ขั้นพื้นฐาน-กลาง เรียนรู้ 6 เดือน – 1ปี
         - ทักษะการใช้งาน Line@, YouTube ขั้นพื้นฐาน-กลาง เรียนรู้ 3 – 6 เดือน
         - ทักษะการทำ SEO และสร้างผลงาน เรียนรู้และสร้างผลงาน 1-3 ปี
แต่ละคนจะใช้เวลาเรียนรู้แตกต่างกัน ด้านบนเป็นตัวอย่าง คร่าวๆที่นักรบประเมิณใช้ลงมือทำงานจริงครับ ส่วนแหล่งเรียนรู้หาได้จากกูเกิลหรือหนังสือได้เลย เริ่มต้นจากฟรี ราคาประหยัดก่อน แล้วค่อยลงทุนใช้เครื่องมือที่ราคาสูงขึ้นเพื่อนำมาประกอบการวิเคราะห์ SEO โดย SEO Tools ที่นักรบใช้จะมีตามรายละเอียดด้านล่างนี้ครับ

แหล่งเรียนรู้ SEO ระดับโลก ที่นักรบติดตาม
         - Google Guidelines แหล่งเรียนรู้การทำ SEO จาก Google เป็นพื้นฐานที่ดีที่สุดในการศึกษา White hat SEO การทำเอสอีโอสายขาวที่ถูกหลักตามคำแนะนำของกูเกิลครับ
         - Backlinko.com “Brian Dean is one of the world’s most sought-after SEO experts” บล็อกสอนการทำ SEO ระดับ Top ของโลก
         - Ahrefs.com/blog/ Blog & Backlink Tools Checker ที่ดีที่สุดครับ

ติดตามอ่านเพิ่มเติมคลิกลิ้งค์นี้ครับ  https://warrior.in.th/jobs/freelance-seo-specialist/ (https://warrior.in.th/jobs/freelance-seo-specialist/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ กรกฎาคม 30, 2021, 02:20:40 pm
สร้างคอร์สออนไลน์ รายได้ Passive Income

มนุษย์เงินเดือน ใช้ความชำนาญในงานประจำ 7 ชั่วโมง/วัน , 140 ชั่วโมง/เดือน เป็นต้นทุนทำธุรกิจส่วนตัว ทำอาชีพเสริม ลงทุนให้น้อย ใช้จุดเด่นจากงานประจำ เอาทักษะมาเป็นต้นทุนให้ความรู้ และขายความรู้ออนไลน์ ทำธุรกิจ(Info Business) ได้ จะมีกี่ธุรกิจ ธุรกิจน่าสนใจ ที่ทำเสริมคู่งานประจำ ลงทุนน้อย ไม่ต้องลงทุนสินค้า, ไม่มีหน้าร้าน, ไม่ต้องเช่าที่, ไม่ต้องจ้างคนงานให้ปวดหัว แต่ให้เราลองผิดลองถูกจนเก่งก่อน แล้วถ้าได้ดิบได้ดี จนตั้งบริษัทเล็กๆได้

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2018/06/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%8C-%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B8%95%E0%B9%8C-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%8C-Google-Marketing.webp)

ทำให้ ธุรกิจน่าสนใจ และยั่งยืนด้วยการสร้างแฟน
สร้างแฟนก่อนใน Facebook Fanpage รวมคนที่ชอบเหมือนกัน ชีวิตเหมือนกันมาอยู่ในแฟนเพจ  ใช้แฟนเพจแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ เรื่องราวดีๆ มอบให้เขา จะได้เอาไปใช้แล้วดีกับชีวิตเขามากยิ่งขึ้น มันจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ (trust), ความไว้วางใจ, ทำให้คนรู้จักความสามารถของตัวเรา สินค้าของเราคือความรู้ (Info Products) ที่ช่วยให้เขามีความรู้ เราแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ทั้งปัญหา, วิธีแก้ไข , หนทางในการสร้างโอกาส และ สร้าง Connection หากคนนำไปใช้ก็มีโอกาสมากยิ่งขี้นที่จะประสบความสำเร็จดังที่หวัง

ในช่วงแรก นักรบมีสมาชิกแฟนเพจเพียง 5,000 คน ก็สามารถสร้างรายได้ และเติบโตขึ้นได้ ขอเพียงแบ่งปันความรู้ และมอบสิ่งเป็นประโยชน์ให้เสมอๆ

ธุรกิจส่วนตัวเล็กๆ ของนักรบเมื่อ 3 ปีก่อนเป็นอย่างไร ?
นักรบทำธุรกิจเล็กๆ ธุรกิจออนไลน์ มาแล้ว 7 อย่างใน3ปี เจ๊งแล้วเจ๊งอีก เจ๊งจนชิน ทุกครั้งที่เจ๊งมันได้ประสบการณ์มาอย่างน้อย 1 ข้อ ทำไป 7 ตัว ได้มาอย่างน้อย 7 ข้อที่ไม่ควรทำ หรือถ้าแก้ไขมันได้ ธุรกิจก็รอด อยากรู้ว่าก่อนหน้านี้ นักรบทำธุรกิจอะไรบ้าง อ่านได้ที่ ประวัตินักรบ จนพบธุรกิจสุดท้าย ธุรกิจขายและให้ความรู้เป็นธุรกิจที่ดีที่สุดในชีวิต ธุรกิจเล็กๆรายได้ดี จนเก็บเงินมาตั้งบริษัทเล็กๆ และออกมาทำเต็มตัวได้

อยากทําธุรกิจเล็กๆ ทำธุรกิจออนไลน์, IT ต้องได้ App ต้องเป็น
อยากมีธุรกิจเล็กๆเป็นของตัวเอง แนะนำ Online Tools ที่ดี เหมาะกับการ เริ่มต้นธุรกิจเล็กๆเป็นของตัวเอง ใช้ทำธุรกิจได้อีกนาน คือ Google Docs, Sheets, Slides, Forms เป็นเครื่องมือฟรี
      - Google Docs สำหรับพิมงานเอกสาร เหมือนกับ Words
      - Google Sheets สำหรับทำงานตารางคำนวน เหมือนกับ Excel
      - Google Slides สำหรับการนำเสนอข้อมูลและการ Present เหมือนกับ Power Point
      - Google Forms สำหรับการสร้าง Forms รับข้อมูล

นักรบสร้างเอกสารออนไลน์ Google Docs และแชร์กับเพื่อนร่วมงาน ทำงานที่ไหนก็ได้แม้ผ่านมือถือ

ธุรกิจน่าสนใจ ธุรกิจเล็กๆที่น่าลงทุน ที่เหมาะมนุษย์เงินเดือน
มนุษย์เงินเดือน มีความเชี่ยวชาญในงานประจำ 7 hr/วัน หรือ 140 hr/เดือน จะได้เปรียบหากเอาเอาจุดเด่นนี้ มาต่อยอดเพื่อเปิดธุรกิจให้ และขายความรู้ (Info Business) ธุรกิจให้และขายความรู้ (Info Business) เป็นธุรกิจส่วนตัว รายได้ดี ต้นทุนต่ำมากๆ หรือแทบจะเรียกได้ว่าไม่มีทุนทางวัตถุได้เลย แต่ใช้ต้นทุนทางความรู้ ความสามารถที่สูงแทน เหมาะกับการทำควบคู่งานประจํา เริ่มต้นได้ง่ายมาก ทำหลังงานประจำได้

นักรบ ทำธุรกิจให้และขายความรู้ (Infopreneur) สมัยเริ่มทำแรกๆ ทำควบคู่งานประจำไปก่อน ขายความรู้ผ่าน Video DVD เป็นหลัก ทำได้ 1 ปี ทำให้มีเงินเก็บมากพอและมีคนรู้จักระดับหนึง จนตัดสินใจออกมาทำเต็มตัว เปิดบริษัทเล็กๆของตัวเองได้

Note : Infopreneur เป็นอาชีพมาแรงในยุคนี้ เพราะข้อมูลความรู้ที่มีมากใน Internet สามารถเปลี่ยนคนธรรมดากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ และสร้างธุรกิจได้ อีกทั้งกำไรจากอาชีพ Infopreneur จะมีมากถึง 2,000 เท่าเลยทีเดียว ถ้าเทียบกับราคาต้นทุนทางวัตถุ

นักธุรกิจความรู้ (Infopreneur) คือ อะไร ?
นักธุรกิจความรู้ Infopreneur คือ อาชีพหนึง ที่ให้ความรู้และขายความรู้เป็นหลัก ในแต่ละวันจะสร้างเนื้อหาที่ดีให้คนอืนผ่าน Fanpage และ Website อีกทั้งยังจำหน่ายสินค้าเป็นความรู้ใน Package ต่างๆ เช่น DVD, คอร์สออนไลน์, สัมมนา, หนังสือ, eBook
นักรบเริ่มต้นให้ความรู้ฟรีบ่อยๆ  และจำหน่ายความรู้ในแบบ Video DVD

จุดเด่นของอาชีพ Infopreneur
ใช้ความเชี่ยวชาญที่ได้จากงานประจำเป็นต้นทุนหลัก 140 hr/เดือน คือเวลาที่มีค่ามาก ประสบการณ์ตรงส่วนนี้สามารถนำมาเผยแพร่ และให้ความรู้ผ่านช่องทางเหล่านี้ได้
        - Facebook Fanpage
        - Website
ยิ่งให้ความรู้ ยิ่งเพิ่มพูนความสามารถ ต่อยอดสู่รายได้เป็นธุรกิจส่วนตัวได้ – นักรบ

ความรู้ที่ให้ไป จะมี 2 ประเภทใหญ่
1. ความรู้ แบบฟรี ความรู้ทั่วไป เนื้อหากว้าง มีประเด็นสั้นๆและ 1 ใจความที่ดี
2. ความรู้ แบบเสียเงิน เช่น หนังสือ, eBook, Video DVD, Audio CD, คอร์สออนไลน์, สัมมนา, คลาสเรียน, หรือ ที่ปรึกษา

นักรบเริ่มต้นให้ความรู้ฟรีผ่าน เว็บไซต์ และ Youtube โดยแจกฟรีเกือบทุกวัน ผ่านไป 1 เดือน จะมีเนื้อหาที่ให้ความรู้ฟรี 20 วีดีโอ และมากขึ้นเป็น 50 วีดีโอใน 3 เดือน ส่งผลให้ Video DVD ขายดีและมีคนสั่งซื้อ จนมีรายได้ประมาณ 200,000 บาท ในปีแรกที่ทำ

อีกหนึ่งสิ่งทีสำคัญกว่า ที่มาพร้อมกับรายได้ คือ มีคนรู้จักนักรบมากยิ่งขึ้น ได้ถูกเชิญเป็นวิทยากร 4 ครั้งใน 1 ปี และเว็บไซต์มีคนเข้าสม่ำเสมอ 4,000 – 5,000 คนทุกเดือน (ปี 2557)

คนเข้าเว็บน้อย 1000 คน/เดือน แต่สินค้าดี ความรู้ดีก็ขายได้
ช่วงเริ่มต้น มีคนเข้าเว็บไซต์เพียง 1,000 – 2,000 คน/เดือน แต่เนื้องจากนักรบให้ความรู้เยอะเพียงพอ ก็ช่วยให้คนอ่านความรู้ฟรีของเรา ตัดสินใจซื้อสินค้า อาจจะสัปดาห์ล่ะ 2-3 คน แต่พอครบ 1 เดือน ก็สามารถทำยอดได้ 20,000-30,000 หมื่นบาทได้

ทำไมธุรกิจขายความรู้จึงเป็น ธุรกิจน่าสนใจ
ธุรกิจให้และขายความรู้ (Info Business) เป็นธุรกิจส่วนตัว ทําที่บ้านที่น่าสนใจตัวหนึง เพราะใช้ความรู้ในงานประจำที่ทำเป็นหลัก ไม่ต้องเข้า Office มีเวลาดูแลครอบครัว ใช้ชีวิตได้ยืดหยุ่นมากขึ้น และสามารถจัดเวลาตัวเอง วางแผนตัวเองได้อย่างมีอิสระได้

อาชีพ นักธุรกิจความรู้ ( Infopreneur )เริ่มต้นอย่างไร ?
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/05/business-online-infopreneur-start-21.jpg)

เริ่มต้นธุรกิจได้จากการสร้าง Fanpage ของตัวเองก่อน แล้วเขียนบทความ + ภาพประกอบดีๆ โพสลง Fanpage ให้ได้เกือบทุกวัน โดยควรทำโฆษณา Fanpage ด้วย เพื่อสร้างฐานลูกค้าในกลุ่มที่เราสนใจ เพื่อจะเปลี่ยนคนอ่านให้เป็นลูกค้าในอนาคตได้
1. สร้างแฟนเพจ : โดยตั้งชื่อให้สอดคล้องกับสิ่งที่จะขาย
2. ให้ความรู้บ่อยๆ : ทำ PartTime 2-3 ครั้ง/week , ทำ Full Time  4-6 ครั้ง/week
3. นำความรู้ลงเว็บไซต์ : นักรบแนะนำระบบเว็บไซต์ แนว Blog & Magazine ดีที่สุดกับ SEO ด้วย Content ดี

ทำไมต้องให้ความรู้บ่อยๆ
1. ความรู้บน Fanpage จะช่วยรวมกลุ่มคนในแฟนเพจที่ชอบ และมีนิสัยเหมือนๆกัน
2. ความรู้บน Website จะนำคนเข้าเว็บไซต์ผ่าน Google
3,. ความรู้ จะสร้าง Personal Brand ต่อยอดสู่ธุรกิจส่วนตัว ทั้ง วิทยากร, ที่ปรึกษา, เขียนหนังสือ,จัดคอร์สสัมมนา, ขายของออนไลน์ และอื่นๆตามมา
การให้ความรู้ฟรี คือการทำการตลาด พร้อมๆกับสร้าง Personal Brand  – นักรบ

ทักษะของ Infopreneur
ทักษะพื้นฐาน
1. การใช้งานโปรแกรมพื้นฐาน เช่น Word, Excel
2. การสร้าง Fanpage และการจัดการ Fanpage
3. การเขียนบทความ (Content Writer)
4. ทำโฆษณาผ่าน Facebook Ads
5. การตลาดผ่าน Google SEO

ทักษะระดับกลาง
1. อ่านเนื้อหาจากต่างประเทศ และเรียนรู้เพิ่มเติมได้
2. มีเว็บไซต์ รองรับ SEO และ Social Media ได้ดี
3. ใช้การตลาดผ่านเนื้อหา Content Marketing + Google SEO

ทักษะระดับสูง
1. เขียนหนังสือ, eBook, จัดสัมมนา หรือ สร้างคอร์สออนไลน์ ให้เข้าใจและเรียนรู้ง่าย
2. พัฒนาบุคลิคภาพ และการพูดต่อหน้าคน เพื่อฝึกเป็นวิทยากร
3. กลยุทธ์การตลาด : โปรโมทตัวเอง สร้าง Personal Brand และ Connection ผ่านสื่อต่างๆ

สร้างธุรกิจนานแค่ไหน ?
มนุษย์เงินเดือน สามารถทำธุรกิจนี้ควบคู่งานประจำได้ โดยใช้เวลา 3 ชั่งโมงหลังเลิกงาน และทำธุรกิจให้มั่นคงโดยใช้เวลาทดสอบรายได้ที่สม่ำเสมอตลอดระยะเวลา 6 เดือน เป็นอย่างน้อย

ธุรกิจเริ่มมีรายได้เมื่อไหร่ ?
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/05/business-online-infopreneur-start-5.jpg)

จะเริ่มมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ เมื่อนักธุรกิจความรู้ (Infopreneur) สร้าง Personal Brand เสร็จแล้ว และออกคอร์สออนไลน์, eBook, จัดสัมมนา อย่างใดอย่างหนึงจำหน่ายเรียบร้อยแล้ว

ทำไมต้องสร้างเว็บ (Blog) ให้ความรู้
เว็บไซต์ที่ติดอันดับการค้นหา Google หน้าแรก จะดึงคนอ่านเว็บไซต์ใหม่ๆทุกวัน และมีโอกาสเปลี่ยนเป็นลูกค้าในอนาคต
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/05/business-online-infopreneur-start-4.jpg)

เว็บไซต์ติดอันดับ Google แล้วส่งผลดีอย่างไร ? ผู้อ่านใหม่ๆ เข้าเว็บไซต์ทุกๆวัน ตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่น/เดือน โดยไม่ต้องใช้เงินจ่ายค่าโฆษณาเลย อีกทั้งยังสร้างความน่าเชื่อถือในระยะยาว

กรณีศึกษาจาก Pantip ” นักธุรกิจขายความรู้ Infopreneur “
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/05/infopreneur-case-study-business-online-pantip.jpeg)

แชร์ประสบการณ์ การทำธุรกิจ 7 ธุรกิจ ภายใน 3 ปี จนพบธุรกิจการสอนที่เหมาะกับตัวภายในแนวคิดทีว่า “คนจะยอมซื้อสินค้า หรือ บริการก็ต่อเมื่อเป็นประโยช์นกับเขาจริงๆ” และนี้คือ จุดเริ่มต้นของนักธุรกิจขายความรู้ (Infopreneur)

แนะนำอ่านเส้นทางอาชีพ Digital Marketing Freelancer
แชร์ประสบการณ์การสร้างอาชีพเกี่ยวกับ SEO & Digital Marketing แบบนักรบ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นจริงว่าความรู้ที่สอนนี้ใช้ได้ผลจริงกับนักรบ แต่ผู้เรียนควรนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับธุรกิจตัวเองครับ เช่น รับทำเว็บไซต์ WordPress, วิทยากรสร้างคอร์สออนไลน์, ขายของออนไลน์ด้วยเว็บไซต์, รับทำ SEO แบบฟรีแลนซ์ และ Small SEO Agency
https://warrior.in.th/jobs/infopreneur/ (https://warrior.in.th/jobs/infopreneur/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ กรกฎาคม 30, 2021, 02:33:53 pm
ฟรีแลนซ์ รับทําเว็บไซต์ WordPress สร้างรายได้เก็บเงินแสนใน 1 ปี

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2019/07/seo-freelance-black-monster-coffee-huahin.jpg)

เปลี่ยนชีวิตจาก Webmaster ใน Office สู่ Freelance Digital Marketer (SEO,SEM,WordPress)

สวัสดีครับ นี้เป็นบทความที่เขียนขึ้นจากประสบการณ์ของนักรบ เพื่อเป็นความรู้ให้กับคนรุ่นหลังที่สนใจอาชีพ ” รับทำเว็บไซต์ด้วย WordPress ” ดูแนวทางนักรบไปปรับใช้กับตัวเองครับ

สามารถสร้างรายได้หลังเลิกงาน จะทำแบบ Fulltime/Partime เป็นธุรกิจส่วนตัวเล็กๆ ไว้เก็บเงินหลักแสนได้ในเวลาไม่นานนัก อีกทั้งยังลงทุนไม่สูงมากด้วยครับ
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2014/11/course-tutorial-wordpress-portfolio-11.jpg)

ฟรีแลนซ์เริ่มต้น รับทําเว็บไซต์ด้วย WordPress  8,000-15,000 ฿

ช่วงเริ่มต้นถ้ายังใช้ WordPress ไม่คล่อง ให้ทำเว็บไซต์ให้คนรู้จักเพื่อฝึกฝีมือและรับทำเว็บไซต์ในราคาเพื่อนๆกัน ที่ 8,000-15,000 บาทก่อน เพื่อฝึกรับมือกับ Requirement ที่สามารถต่อรองได้ และควรเป็นเว็บไซต์ที่นำเสนอข้อมูลง่ายๆไม่มีระบบอะไรซับซ้อนครับ

ตัวอย่างผลงานด้านบนเป็นเว็บไซต์ที่สร้างด้วย WordPress ใช้เวลาทำงานประมาณ 15-20 วัน ต่อ 1 เว็บไซต์ โดยคิดราคาช่วงเริ่มต้น อยู่ในช่วง 8,000-15,000 ต่อเว็บไซต์ โดยผู้ที่จะสามารถทำได้ ควรรู้พื้นฐานของ WordPress ทั้งหมด และฝึกการใช้งาน Theme WordPress อีก 40-60 ชั่วโมง   โดยประมาณครับ
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2014/11/course-tutorial-wordpress-portfolio-21.jpg)

ฟรีแลนซ์มืออาชีพ รับทําเว็บไซต์ด้วย WordPress 25,000 – 50,000+ ฿
เมื่อเข้าใจและใช้ WordPress ได้อย่างคล่องแคล่ว ก็จะสามารถรับงานระดับมืออาชีพ ที่ราคา 25,000 – 50,000 บาทขั้นไปได้

ตัวอย่างนี้ใช้ Premium Theme ครับ โดยคนที่จะสามารถทำได้จะต้องมีพื้นฐานการใช้งาน WordPress ทั้งหมด รวมทั้งผ่านประสบการณ์การรับทำเว็บไซต์ด้วย WordPress แบบง่ายๆมาก่อน 2-3 เว็บ

รวมทั้งมีความสามารถในการจัดการ plugin ที่ตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าได้ โดยทักษะเหล่านี้ควรผ่านการทำงานจริงมาแล้ว มากกว่า 100+ ชั่วโมงครับ

Tips :  วิธีการทำการตลาดอาชีพรับทําเว็บไซต์ WordPress
อาชีพรับทำเว็บไซต์ด้วย WordPress สามารถหางานได้ง่าย หากมี Connection และมีผลงานสม่ำเสมอๆให้คนใกล้ๆชิด หรือคนรู้จักทราบในโลกออนไลน์ โดยวิธีการที่ดีที่สุด คือการให้ความรู้เกี่ยวกับเว็บไซต์ผ่าน Blog + Social Media นั้นเอง

อาชีพรับทำเว็บไซต์ จะต้องเจอกับคู่แข่งที่เป็นบริการ สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปซึ่งบริการเหล่านี้จะฟรี เรามาดูวิธีแก้ไขที่นักรบแนะนำครับ

คนทำรับทำเว็บไซต์หากต้องการความยั่งยืนและประสบความสำเร็จในระยะยาว ควรต่อยอดการรับทำเว็บไซต์แบบเฉพาะทาง  (Niche Market)

การรับทำเว็บไซต์แบบเฉพาะทาง  (Niche Market) เช่น รับทําเว็บไซต์ WordPress โรงแรมโดยเฉพาะ, รับทําเว็บไซต์ WordPress การขายของออนไลน์โดยเฉพาะ, รับทําเว็บไซต์ WordPress สำหรับนักเขียนโดยเฉพาะ เป็นต้นครับ

ซึ่งวิธีนี้จะช่วยเพิ่มทางเลือก และต่อกรกับผู้ให้บริการฟรีเว็บไซต์ได้ เพราะมีระบบเว็บที่เฉพาะกลุ่มลูกค้ามากกว่าครับ

ทําเว็บไซต์ WordPress ได้แล้ว ให้ต่อยอดเรียนรู้เรื่องการตลาดออนไลน์ด้วยล่ะ
เมื่อทำเว็บไซต์เป็นแล้ว ก็อย่าอยู่กับที่ ไม่พัฒนาฝีมือตามยุคตามสมัยล่ะ ก็เพราะเดี๊ยวนี้ เว็บมันทำง่ายขึ้น ระบบเปิดเว็บไซต์ฟรีก็มีมากมาย หากไม่ปรับตัวกัน มีหรือคนทำเว็บไซต์จะอยู่รอด ก็คงไม่พ้นหนีไปทำอาชีพอื่นอยู่ดี

แล้วจะมานั่งบ่นๆเรื่อยๆ ว่าอาชีพนี้ไม่ดีอย่างโง้น อย่างงี้ จริงๆ มันก็เป็นทุกอาชีพนะเหละครับ มันต้องปรับตัวและพัฒนากันทั้งนั้น ถ้าไม่พัฒนาตัวเอง มันก็เหมือนถอยหลังลงคลอง รายได้หดหาย ไม่ใช่เพราะอาชีพไม่ดี แต่ลืมดูตัวเองไป ว่าไม่พัฒนาเองขึ้นเลย ฉะนั้นควรพัฒนาตัวเองด้าน Digital Marketing เพื่อทำการตลาดให้ธุรกิจของตัวเอง หรือจะทำการตลาดให้ลูกค้าก็ยังได้ครับ

สอนสร้างเว็บไซต์ WordPress
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2020/10/howto-create-website-wordpress-courses-mini-1.jpg.webp)

วีดีโอสอนพื้นฐาน WordPress แบบจดโดเมนและเช่า Hosting เอง
       - ทำไมต้องใช้ WordPress สร้างเว็บไซต์
       - จดโดเมน & เช่า Hosting
       - ติดตั้ง WordPress ผ่าน Cpanel
       - ติดตั้ง Free Theme สำหรับ Web Blog
       - การตั้งค่า WordPress Setting
       - การตั้งค่าหน้าแรกของเว็บไซต์ และ หน้า Blog
       - สร้างเรื่อง (Post)
       - สร้างหน้า และเมนู (Page & Menu
       - ปรับแต่ง Theme WordPress
       - วิธีติดตั้ง Plugin & ตัวอย่างการติดตั้ง Facebook Fanpage Widget
       - ตัวอย่างเว็บไซต์ ที่ใส่ข้อมูลเรียบร้อยแล้ว

FAQ : คำถามที่พบบ่อย
อาชีพรับทำเว็บไซต์ เป็นธุรกิจที่ทำเสริมนอกเวลางานประจำได้ ไม่ต้องลงทุนสูงมาก ใช้เพียง Computer, อินเตอร์เนต และความรู้ที่สามารถเรียนได้จากโลกออนไลน์ หรือหนังสือ โดยคนที่ทำได้ต้องมีใจรักในงานนี้ด้วย ก็จะฟั่นฝ่าอุปสรรคไปได้ครับ

1. รับทำเว็บไซต์ด้วย WordPress เป็นอาชีพเสริมสร้าง[^_^]ที่ทําที่บ้าน ไม่ต้องลงทุนสูงได้อย่างไร ?
อาชีพรับทำเว็บไซต์ เป็นธุรกิจที่ทำเสริมนอกเวลางานประจำได้ ไม่ต้องลงทุนสูงมาก ใช้เพียง Computer, อินเตอร์เนต และความรู้ที่สามารถเรียนได้จากโลกออนไลน์ หรือหนังสือ โดยคนที่ทำได้ต้องมีใจรักในงานนี้ด้วย ก็จะฟั่นฝ่าอุปสรรคไปได้ครับ

2. ทําไงให้มีเงิน จากอาชีพรับทําเว็บไซต์ ?
รับทำเว็บไซต์ด้วย WordPress สิ ทำได้ง่ายหนังสือและคอร์สเรียนสอนฟรี มีเยอะมาก แต่พอทำได้แล้ว ต้องสร้าง Brand ให้ตัวเองผ่าน Blog ด้วยนะ จะได้มีลูกค้าใหม่แวะเวียนมาเสมอ มี Connection ใหม่ๆ ตลอด จะได้มีรายได้เรื่อยๆทุกเดือน

อาชีพรับทำเว็บไซต์ เป็น ” อาชีพอิสระ (freelance) ได้ แต่จะต้องเก่งและมีวิธีการทำการตลาดออนไลน์ให้ตัวเองจริงๆ ถึงจะทำได้ โดยมีประสบการณ์ และมี Connection ที่มาจาก Blog และเว็บไซต์ได้นั้นเอง

คนเพิ่งเริ่มทำเว็บไซต์ หากไม่มี Blog ไว้โปรโมทผลงานตัวเองที่ใช้หลัก SEO ด้วย อย่าออกไปทำ Freelance เร็วเกินไป เพราะจะหางานไม่ได้นะ

3. ทำช่วงแรกไม่มีงานทำ อยากมีงานทําเว็บไซต์ ทําไงดี ?
เริ่มแรกจากคนรู้จักก่อน โปรโมทตัวเอง Social Media ของตัวเองก่อน เวลาโปรโมทก็ทำให้ดูมืออาชีพนิดหนึง แนบผลงานสวยๆ ราคาและรายละเอียดเบื้องต้นให้ครบ อ๋ออย่างลืมข้อมูลติดต่อกลับด้วยล่ะ ทำเสร็จก็โพสใน Status Facebook ส่วนตัวให้คนรู้จักเห็น นี้เป็นวีธีง่ายๆในการโปรโมทตัวเองเลยนะ อีกวิธีหนึง ก็แวะเวียนไปตามกลุ่ม Facebook หรือ Webboard ที่มีลูกค้าเราอยู่บ้าง ไปอ่านไปตอบไปแชร์ความรู้ให้เขา เวลาแชร์ก็อย่าทำง่ายๆ แค่พิม Comment แต่ให้แชร์เป็น Blog เป็นบทความที่เราเขียนขึ้น หรือวีดีโอที่ทำขึ้นเลยดีกว่า มันเข้าใจง่ายกว่าเยอะ และเป็นการโปรโมทตัวเองไปในตัวด้วย ดีไหมล่ะ ^_^

4. รับทําเว็บไซต์ WordPress ทำนอกเวลางานประจำได้ไหม ?
รับทำเว็บไซต์สามารถนอกเวลางานประจำได้ เพราะติดต่อออนไลน์เป็นหลัก ทั้งรับงาน ส่งงาน อาจจะมีบ้างที่ต้องโทรศัพท์คุยรายละเอียด แต่คุยหลังเลิกงานได้นะ ถ้ารับทำเว็บไซต์งบไม่มาก ไม่ต้องไปพบคนว่าจ้างก็ได้ แต่ถ้าจ้างสูง มีถ่ายรูปสินค้าหน้าร้าน ก็อาจมีนัดคุยรายละเอียดกันไปตามเหมาะสม ตรงนี้ก็อยู่ที่ประสบการณ์ของแต่ละคนแล้วล่ะ ว่าจะจัดสรรเวลาอย่างไร แต่มั่นใจได้ระดับหนึงว่าทำงานเป็นธุรกิจเสริม นอกเหนืองานประจำได้นะ

5. วิธีสร้างรายได้จากการรับทําเว็บไซต์ WordPress นั้นทำอย่างไร ?
มันมีหลายขั้นตอนเหมือนหลายๆอาชีพนั้นเหละ ก่อนจะไปรับงานก็ต้องเล่น Theme WordPress ให้เก่งๆก่อน แนะนำ Theme ที่ Themeforest.net นะ เลือก Theme ดีๆหน่อย มีคนพัฒนาดีๆ และ Support ดีๆบ่อยๆ  พอเล่นคล่องแล้ว ค่อยหางาน และพูดคุยเกี่ยวกับการรับงานต่อไป มันหลายขั้นตอนหน่อย แต่ถ้าทำบ่อยมันจะเป็นอัตโนมัติ
          1. หางานให้ได้ก่อน ตรงนี้สำคัญ ถึงบอกว่าให้เขียน Blog หรือ ทำวีดีโอ แบ่งปันความรู้บ้าง จะได้ดึงดูดลูกค้ามาให้รู้จักเราสม่ำเสมอ
          2. พอมีลูกค้า ก็พูดคุยเนื้องานเว็บไซต์ ตรงนี้ก็สำคัญนะ ถ้าตรงไหนทำได้ก็บอกลูกค้าไปตรงๆ ตรงไหนทำไม่ได้ ก็บอก และให้ลูกค้าจ่ายเงินเฉพาะส่วนที่ทำได้ก็พอ ที่เหลือเก็บไว้พัฒนาต่อได้ ภายหลังจากที่มี Plugin ดีๆมาแล้ว
          3. คุยเสร็จ ต้องมัดจำเงินล่วงหน้าด้วยนะ ถ้าคนกันเอง หรือรับงานครั้งแรก ยังไม่กล้า ก็รับเงินหลังจากส่งงานครั้งแรกก็ได้ แต่ถ้าทำไปสักพัก เก่งแล้ว ก็รับล่วงหน้า 30% ก็ได้จ้า
          4. จบงานให้ได้ตามเนื้อหาที่คุยกับลูกค้าไว้ ตรงไหนทำไม่ได้ก็บอกตรงๆ ส่วนใหญ่เวลาจบงาน ถ้า Theme ที่เลือกมัน Support ความต้องการลูกค้าแล้วมันจะง่าย มันจะจบงานเร็ว แนะนำให้หา Theme ดีๆ มาเล่นก่อน ให้เวลากับมันนิด พอคล่องมันช่วยได้เยอะเวลาทำงาน
          5. เรื่องดูแลบริการหลังการขาย หรือการทำการตลาดออนไลน์ ก็ต้องมีนะ โดยคิดเป็นค่าดูแลรายปีหรือรายเดือนก็ได้ แล้วแต่ตกลง


6. ปัญหาอาชีพรับทําเว็บไซต์ด้วย WordPress นี้มีไหม ?
มันก็มีปัญหากันทุกอาชีพเหละ มีอาชีพไหนบ้างไม่มีปัญหา ถ้าทำแล้วหาเงินงานไม่ได้ ก็ทำ Blog หรือ ทำวีดีโอโปรโมทผลงาน หรือ แบ่งปันความรู้สิ ต่างประเทศทำกันตั้งนานแล้ว ถ้าทำงานแล้วจบงานไม่ได้ ก็ดูสิว่าเพราะอะไร คุยเนื้องานไม่ละเอียดหรือปล่าว เราไปรับงานที่ทำไม่ได้หรือปล่าว ถ้าเอาแบบแนะนำง่ายๆ สำหรับมือใหม่เลยนะ ก็เล่นธีมเวิร์ดเพรสให้คล่องก่อน เลือกธีมดีๆแล้วไปรับงาน อย่าไปรับงานที่มีฟังชั่นเยอะๆอะไรมากมายนัก เอาแค่โชว์ข้อมูลที่ theme ทำได้ก่อน

7. ปัญหาของมืออาชีพ คือ มีงานมากเกินไป
คนที่รับทำเว็บไซต์เก่งๆจะมีงานล้นมือ และรับงานมากเกินไปจนทำไม่ได้ วิธีแก้ไขคือ รู้ลิมิตตัวเองว่า 1 เดือนทำได้กี่เว็บ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง 1-3 เว็บไซต์/เดือนเท่านั้น
ฉะนั้นถ้ามีงานเข้ามา ก็ให้แจ้งลูกค้าทันทีว่าจะเริ่มงานได้เดือนไหน ถ้าลูกค้ารอได้ก็ดีเลย อย่ารับงานซ้อนกันเพราะจะทำไม่ทันครับ (หรือบางคนอาจส่งงานต่อให้คนรู้จักและเก็บค่าหัวคิว แต่วิธีการนี้ไม่แนะนำเพราะอาจควบคุมคุณภาพไม่ได้ อีกอย่างลูกค้าอยากให้คุณทำเว็บ ไม่ได้อยากให้คนอื่นทำให้ครับ)

สรุป
เอาละครับถึงตรงนี้ก็พอจะได้ความรู้เกี่ยวกับอาชีพรับทำเว็บไซต์ด้วย WordPress ไปไม่มากก็น้อย หวังว่าบทความนี้จะช่วยเพิ่มมุมมองอะไรใหม่ๆ และพัฒนาความคิดให้คนรุ่นใหม่ได้ก้าวสู่เส้นทางนี้ได้ดีขึ้นนะครับ
นักรบ – ลุย !!!
https://warrior.in.th/jobs/wordpress/ (https://warrior.in.th/jobs/wordpress/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ กรกฎาคม 30, 2021, 03:29:59 pm
ทำ SEO เวบขายของออนไลน์
ประสบการณ์ทำ SEO ให้เวบไซต์ตัวเอง ส่งเสริมการขายของออนไลน์ ยอดขายเกินล้านใน 6 เดือนแรก โดยใช้เงินลงทุน Google Ads และ Facebook Ads เพียง 3,000 บาท / เดือน ลูกค้าส่วนใหญ่กว่า 60 % มาจากช่องทาง Organic Search ที่ทำ SEO ไว้
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2017/06/e-commerce-business-case-study-success.jpg)

ทำ SEO เว็บขายของของตัวเอง
ทำ SEO ให้เวบไซต์ตัวเอง ส่งเสริมการขายของออนไลน์ สร้างยอดขาย โดยใช้เงินลงทุน Google Ads และ Facebook Ads เพียง 3,000 บาทต่อเดือน เป็นตัวอย่างให้กับธุรกิจขนาดเล็ก
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2021/04/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B3-seo-%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%9F%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A1%E0%B8%9C%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87.jpg)

SEO Agency Team ให้กับบริษัทขนาดใหญ่
รับทำ SEO ให้บริษัทขนาดใหญ่ ดูแลครบวงจรในส่วนของ Search Marketing เช่น สร้างเว็บไซต์ Shopping Cart, Website Development, Content Marketing, Social Media , SEO, PPC และอื่นๆ
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2021/05/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B3-SEO-Agency-Team.jpg)

รับทำ SEO กับบริษัทนักรบ ดีอย่างไร ?
บริษัทรับทำ SEO ส่วนใหญ่กว่า 99% จะไม่สอนเจ้าของธุรกิจให้ดูแลต่อได้ ทำให้เจ้าของธุรกิจต้องจ่ายเงินค่าทำการตลาดตลอดไป ซึ่งต่างจากบริษัทนักรบ ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลกรในบริษัทของท่าน เพื่อที่จะดูแลการทำ SEO ได้เอง และสร้าง Content ที่รองรับการทำเอสอีโอได้ดี มีความมั่นคงในระยะยาว

บริษัทรับทำ SEO แบบนักรบ มีทีมที่ผ่านการฝึกฝนการทำ SEO มาเป็นอย่างดี ผลงานเว็บ E-Commerce กว่า 90% ล้วนมาจากกูเกิลเสิร์ช จึงมั่นใจได้ว่า ทีมเราคือผู้ช่วยที่มีประสิทธิภาพจริง

ผลลัพธ์การรับทำ SEO ให้ลูกค้า
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2020/05/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%98%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B3-SEO-%E0%B8%9B%E0%B8%B5-2563.jpg)

สนใจทำ SEO ขอคำปรึกษา  https://warrior.in.th/seo-services/ (https://warrior.in.th/seo-services/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ กรกฎาคม 30, 2021, 03:44:05 pm
SEO Agency vs In-House SEO Team แบบไหนดีกว่ากัน

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2021/06/seo-freelance-vs-agency.jpg)

สำหรับการทำธุรกิจในปัจจุบัน การทำตามตัวอย่างที่ได้ผลแล้ว มีส่วนช่วยเพิ่มความสำเร็จเป็นอย่างมาก เช่น การปรับแต่งเว็บไซต์เพื่อได้รับอันดับที่ดีในกูเกิลเสิร์ช การมีคีย์เวิร์ดสำคัญๆที่ติดหน้าแรกกูเกิล ส่งผลต่อจำนวนทราพฟิคที่เพิ่มมากขึ้น และทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นด้วย แต่ใครล่ะจะเป็นคนทำ SEO ได้ดี ระหว่างการสร้าง SEO In-house Team หรือจ้าง SEO agency มาช่วย

ในบทความนี้จะพูดถึงเรื่อง…
        - In-house SEO และ SEO Agency คือ อะไร ?
        - ความแตกต่างระหว่างทั้งสองและข้อดีข้อเสียต่างๆ
        - แบบไหนที่เหมาะกับเรา

SEO In-house Team คือ…
SEO in-house team คือ การสร้างทีมการตลาดเอสอีโอขึ้นมาเองภายในหน่วยงาน อาจจะคัดคนที่น่าสนใจ มีพื้นฐาน หรือมีหน่วยก้านดีพอที่จะฝึกฝนและพัฒนาต่อไปเป็นตำแหน่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
สมาชิกในทีม In-house SEO จะมีตำแหน่งเรียกเช่น
        - SEO Specialist
        - SEO Manager
        - SEO Director
จำนวนสมาชิกในทีมและชื่อเรียกตำแหน่ง จะขึ้นอยู่กับขนาดของบริษัทที่จัดตั้งทีม


ความแตกต่างระหว่าง In-house SEO และ SEO Agency
ความแตกต่างสามารถมองได้หลายแบบ เช่น ความรวดเร็วในการทำงาน ทักษะความถนัดในสายงาน ราคา และความคุ้มค่าการลงทุน
โดยทั่วไปแล้ว การจ้างทำจะได้มืออาชีพมาทำงาน ปรับเปลี่ยนเอเจนซี่หลังหมดสัญญาได้ง่ายกว่าการสร้างทีมเอง และเริ่มต้นทำงานได้เร็วกกว่าสร้างทีมเอง
ถึงจุดนี้คุณอาจจะเลือกไม่ถูกว่าจะสร้างทีมเองหรือจ้างเอเจนซี่ดี ลองมาดูข้อดีและข้อเสียของแต่ละแบบด้านล่างนี้ ไว้ประกอบการตัดสินใจครับ

ข้อดี-ข้อเสียของการสร้าง In-house SEO Team
ข้อดี :
        - สามารถมองเห็นเนื้องานที่คืบหน้าได้ชัดเจนกว่า และสามารถปรับเปลี่ยนได้เร็วกว่า
        - ทีมงานรับผิดชอบเกี่ยวกับเว็บไซต์ของบริษัทตัวเองเท่านั้น
        - ทีมงานภายในบริษัท มีความเข้าใจวัฒนธรรม คุณค่าและภาพรวมของกิจการได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว
        - ทีมงานจะประสานงานกับทีมอื่นได้ เพราะมีความคุ้นเคยกับทีมงานอื่นๆ เช่น ทีม PR, ทีม Web Dev, ทีมขาย และทีมโซเชียลมีเดีย
ข้อเสีย :
        - ใช้เวลาฝึกฝนทีมงานนาน เพราะอาจจะต้องเริ่มสอนตั้งแต่พื้นฐาน
        - แบกรับค่าใช้จ่ายของทีมงานประจำทั้งทีม และค่าชดเชยต่างๆกรณีให้ออกจากงาน
        - ทีมงานอาจไม่มีเวลาจัดการทำเอสอีโอเต็มที่ เพราะอาจมีงานเดิมที่ดูแลอยู่แล้ว
        - เนื้องานและผลงานการทำเอสอีโออาจช้าหรือน้อยเกินไป เพราะไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญของงานได้ เนื่องจากขาดประสบการณ์


ข้อดี-ข้อเสียของการจ้าง SEO Agency
ข้อดี :
        - การจ้าง SEO Agency จะสามารถมีคนทำงานที่มีประสบการณ์พร้อมทำงานได้เลย เร่ิมต้นได้เร็วกว่า
        - การปรับเปลี่ยนเอเจนซี่หลังหมดสัญญาได้ง่ายกว่าการเปลี่ยนทีมภายหน่วยงาน
        - โดยส่วนใหญ่ Agency จะมีการติดตามและอับเดทความรู้ในแวดวงเอสอีโอได้ดีกว่าทีมงานภายในหน่วยงาน
ข้อเสีย :
        - เอเจนซี่อาจรับงานมากเกินไป ทำให้ดูแลลูกค้าไม่เต็มที่
        - การติดต่อประสานงานกัน จะทำได้ช้ากว่า
        - การค้นหาเอเจซี่ที่เหมาะกับกิจการของตัวเองทำได้ยาก และต้องใช้เวลา
        - มีราคาสูงกว่าเพราะต้องจ่าย 2 ต่อ ให้กับทีมงานและส่วนต่างกำไรของเอเจนซี่

เลือกแบบไหนดี
การเลือก SEO Agency หรือ In-house team อยู่บนพื้นฐานของหลายปัจจัยที่แตกต่างกัน และปัจจัยหลักที่มีผลมาก คือขนาดของกิจการและการแข่งขัน

หากคุณเป็นเจ้าของกิจการเล็กๆ การเลือกตัวเองหรือหุ้นส่วนหลัก ดูแลการตลาดดิจิทัลก่อนเป็นเรื่องดีที่ และสามารถต่อยอดไปยังการสร้างทีม หรือจะประสานงานกับเอเจนซี่ก็สามารถทำได้ เพราะมีประสบการณ์อยู่บ้าง จะช่วยประหยัดและลดความเสี่ยงได้อย่างหลายด้าน

หากคุณเป็นเจ้าของกิจการขนาดกลาง-ใหญ่ การเลือกจ้างเอเจนซี่จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมมากกว่า เพราะการทำงานของมืออาชีพจะช่วยขัดเกลาทีมงานภายในองค์กรไปพร้อมๆกัน และเริ่มทำการตลาดได้ทันที หลังจากนั้นทีมภายในหน่วยงานได้เรียนรู้จากเอเจนซี่ ก็สามารถสร้างทีมภายในขึ้นมาทีหลังได้
https://warrior.in.th/entrepreneur/seo-agency-vs-inhouse-seo-team/ (https://warrior.in.th/entrepreneur/seo-agency-vs-inhouse-seo-team/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 02, 2021, 11:47:56 am
รวมนักทำ SEO ฟรีแลนซ์คนไทย (Thai Freelance Specialist)

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2021/05/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1-freelance-seo-specialist.jpg)

รวม Blog ของฟรีแลน์เอสอีโอชาวไทย (Thai Freelance Specialist) ที่นักรบอ่านผ่านตามาแล้วบ้าง และยอมรับว่าควรแนะนำบอกต่อ ** นักรบดูแต่ส่วนของ Free Knowledge นะครับ ฉะนั้นหากผู้อ่านสนใจ Paid Service ต่างๆของผู้สอนแต่ละท่าน ควรรีเช็คให้แน่ใจว่าเหมาะกับตัวเองไหม และสอบถามไปกับผู้สอนโดยตรงครับ

Thai Freelance SEO Specialist Blog ที่น่าติดตาม
นักรบรวมแต่ฟรีแลนซ์นะครับ เพราะส่วนตัวจะชอบอ่านบทความที่มีคาแรคเตอร์ชัดเจนในการทำเอสอีโอของฟรีแลนซ์ครับ
       - Padveewebschool.com (http://Padveewebschool.com) สอนการทำ SEO & WordPress ฉบับพัดวี
       - Chalakornberg.com (http://Chalakornberg.com) สอนการทำ SEO สไตล์โบ๊ะบ๊ะ ฉบับคุณเม
       - Funnel.in.th (http://Funnel.in.th) สอนการทำ SEO เน้นกลุ่ม Business ฉบับคุณเจ
       - Rungwat.com (http://Rungwat.com) สอนการทำ SEO เป็นภาษากันเองเข้าใจง่าย ฉบับคุณนิว
       - Papayiw.com (http://Papayiw.com) สอนการทำ SEO ประสบการณ์ Agency ต่างประเทศ ฉบับคุณยิว
       - Thewhitemarketing.com (http://Thewhitemarketing.com) สอนการทำ SEO และ Digital Marketing ด้านอื่นๆ

หากไม่มีเวบอื่นในนี้ แปลว่าผมยังไม่เห็นผลงานที่นานเพียงพอครับ ขอให้ทำสอนฟรีไปเรื่อยๆจนกว่าผมจะเห็นครับ
https://warrior.in.th/freelance-seo/thai-freelance-specialist/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/thai-freelance-specialist/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 02, 2021, 11:50:00 am
Google Algorithm Update : Product Reviews วันที่ 8 เมษายน 2564

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2021/04/google-algorithm-product-review-2.jpg.webp)


กูเกิล เสิร์ช มักจะแสดงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้อยู่เสมอๆผ่านการทดสอบ, ทดลองและกระบวนการทบทวนต่างๆ จากขั้นตอนเหล่านั้นทำให้เรารู้ว่าคนชื่นชอบรีวิวสินค้าที่ละเอียด หาข้อมูลเชิงลึก มากกว่าสรุปเนื้อสั้นๆในกลุ่มสินค้านั้นๆ นี้คือเหตุผลว่า ทำไมพวกเราถึงแชร์การปรับปรุง Ranking systems ที่เรียกกว่า Product review update มันถูกออกแบบมาเพื่อให้รางวัลกับคอนเทนต์ที่ดีเหล่านั้น
 
การอัพเดทครั้งนี้ได้ถูกใช้งานกับภาษาอังกฤษก่อนเท่านั้น พวกเราเชื่อว่านี้จะช่วยส่งเสริมให้การผลิตคอนเทนต์รีวิวสินค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
 
ถึงแม้ว่าการอัพเดทครั้งนี้จะแยกออกจาก Core update เราก็มีคำแนะนำในการผลิตคอนเทนต์ดีๆที่เกี่ยวข้องนี้ ให้โฟกัสไปที่ภาพรวมของการนำเสนอคอนเทนต์เชิงลึก มีการค้นหาและวิเคราะห์ข้อมูลเป็นอย่างดีกับผู้อ่าน และเนื้อหาต่างๆนั้นถูกเขียนโดยผู้ที่ชำนาญหรือผู้ที่ชื่นชอบประเด็นนี้อย่างดี
 
สำหรับการผลิตคอนเทนต์เหล่านั้น นี้เป็นคำถามเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์เพื่อพิจารณาในแบบของการรีวิวสินค้า
        - แสดงความรู้อย่างผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสินค้าอย่างเหมาะสมไหม ?
        - แสดงลักษณภายนอกสินค้า หรือวิธีใช้งาน มีคอนเทนต์ที่โดดเด่นไม่ซ้ำหรือมากว่าเนื้อหาเดิมที่จัดเตรียมจากผู้ผลิตไหม ?
        - นำเสนอการวัดเชิงปริมาณ เช่น ความกว้าง ยาว สูง น้ำหนัก เกี่ยวกับสินค้าในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพไหม ?
        - อธิบายได้ว่าจุดเด่นของสินค้าที่แตกต่างจากคู่แข่งคืออะไร ?
        - การแสดงข้อมูลเปรียบเทียบสินค้า หรืออธิบายว่าสินค้าไหน อาจจะดีที่สุดกับผู้ใช้หรือตามแต่สถาณการณ์ไหม ?
        - แสดงความคิดเห็นในข้อดีและข้อเสียของสินค้า โดยมีพื้นฐานจากข้อมูลที่ค้นหามาแล้วไหม ?
        - อธิบายได้ว่าสินค้านี้เกี่ยวข้องกับสินค้าเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้อย่างไร หรือเปิดเผยข้อมูลในการปรับปรุงประเด็นสำคัญ เพื่อส่งเสริมการตัดสินใจซื้อไหม ?
        - ระบุปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจสำหรับหมวดหมู่สินค้าต่างๆเหล่านั้น ตัวอย่างเช่น การรีวิวรถ ควรบอกอัตาการกินน้ำมัน, ความปลอดภัย, การควบคุมรถ เหล่านี้เป็นประเด็นสำคัญในการตัดสินใจในกลุ่มสินค้านี้ไหม ?
        - อธิบายถึงทางเลือกที่สำคัญในการออกแบบผลิตภัณฑ์และผลกระทบต่อผู้ใช้นอกเหนือจากที่ผู้ผลิตกล่าวไว้ไหม ?
 
พวกเราหวังว่าการนำเสนอข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์นะครับ
แปลและเรียบเรียงโดยนักรบ
ที่มา https://developers.google.com/search/blog/2021/04/product-reviews-update (https://developers.google.com/search/blog/2021/04/product-reviews-update)

https://warrior.in.th/freelance-seo/job/google-algorithm-update/search-algorithm-product-reviews/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/job/google-algorithm-update/search-algorithm-product-reviews/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 02, 2021, 04:06:22 pm
SEO พื้นฐาน สำหรับเจ้าของธุรกิจ SME

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/10/seo-online-marketing-training-wordpress-website.jpg)

เจ้าของธุรกิจออนไลน์จะมองว่า SEO เป็นการทำการตลาดที่ซับซ้อน และมีการพัฒนาปรับเปลี่ยนตลอดเวลา ทำให้การทำ SEO เป็นเรื่องยาก สำหรับเจ้าของธุรกิจเสมอๆ ไม่เพียงแต่เจ้าของธุรกิจเท่านั้นที่จะมึนงงไปกับเทคนิค SEO ที่มากมาย เหล่านักการตลาดออนไลน์ทั้งใหม่และเก่า ต่างก็ต้องใช้เวลาเรียนรู้หลายชั่วโมงเพื่อให้เข้าใจพื้นฐานการทำ SEO ได้ วันนี้

ผมนักรบจะช่วยไขปัญหาและอธิบายให้เข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้นสำหรับคนที่สนใจการตลาดออนไลน์ผ่าน Google SEO เป็นหลัก ผ่านบทความ ” สอน SEO : เรียนวิธีการทำ SEO พื้นฐาน และเทคนิคการตลาดออนไลน์ สำหรับเจ้าของธุรกิจ SME ” Tip : SEO สามารถต่อยอดสู่ Adwords ได้อย่างดีเยี่ยมในอนาคต แต่นักรบขอพูดถึงในโอกาสต่อไปครับ

SEO คืออะไร ?
SEO คือ การปรับปรุงเว็บไซต์ให้ปรากฏในตำแหน่งที่ดีที่สุด  ในหน้าผลการค้นหาของ Google (SERP) หลังจากที่คนพิมพ์คำค้นหา (Keyword) ในธุรกิจของท่านเรียบร้อยแล้ว การทำ SEO ที่ดีจะทำให้หน้าเว็บไซต์ของท่านอยู่ในหน้าแรกของ Google อันดับ 1-10 ท่านจะมีคนเข้าเว็บไซต์เฉลี่ย 10-30% โดยเฉลี่ยของจำนวนยอดการค้นหาในแต่ละเดือน

ตัวอย่างเช่น
คำค้นหา (keyword) = เริ่มต้นธุรกิจ จำนวนการค้นหา = 1600 ครั้ง/เดือน (จาก เครื่องมือวางแผนคำหลัก Google keyword planner tools )
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/10/seo-marketing-sme-business-traning-teach-640x144.gif)

หลังจากพิมพ์คำค้นหา ” เริ่มต้นธุรกิจ ” ใน Google แล้วเว็บไซต์ของท่านอยู่ในอันดับ 1-10 ท่านจะมียอดคนเข้าเว็บไซต์อย่างน้อย 160-480 ครั้ง/เดือน โดยไม่เสียเงินค่าโฆษณา Adwords (อัตราเข้าชมเฉลี่ย 10-30% X 1,600) จะช่วยประหยัดเงินโฆษณา Google Adwords ได้สูงถึง 800-2,400 บาท/เดือนทีเดียว (ขอกำหนดราคาต่อคลิ๊กโดยเฉลี่ยที่ 5 บาท/คลิ๊ก)

การทำ SEO นั้นมีวิธีหลากหลาย และมีบทความสอน SEO ฟรีมากมาย แต่หากว่าบทความเหล่านั้นไม่ได้อัพเดทตามยุคตามสมัยของ Google ละก็ แทนที่จะเป็นผลดีให้เว็บไซต์ อาจส่งผลร้ายกับอันดับเว็บไซต์ของท่านก็เป็นได้ ฉะนั้นหากท่านไม่ทราบแน่ชัดว่า เทคนิค SEO ที่ท่านอ่านและเรียนรู้มา จะส่งผลดีหรือผลร้ายกับเว็บไซต์ของท่านกันแน่ โปรดอย่าทำตามเทคนิค SEO ทันที

โปรดศึกษาเทคนิคที่เรียนรู้มาให้แน่ชัด หากเป็นเทคนิควิธีการทำ SEO แบบสายมึด (Black Hat SEO) ท่านโปรดอย่าทำเป็นเด็ดขาด เพราะจะส่งผลเสียกับเว็บไซต์ของท่านในระยะยาว แต่หากพบว่าเทคนิควิธีการทำ SEO นั้นเป็นสายคุณภาพ (White Hat SEO) ท่านสามารถเดินหน้าลุยต่อได้เต็มกำลังครับ

เกี่ยวกับ Black-hat และ White-hat SEO
        1. Black Hat จะเน้นที่การขึ้นอันดับเร็ว ด้วยการสร้าง Black Link จำนวนมาก, การสร้างเครือข่าย Blog ส่วนตัวไม่มีคุณภาพ, การ Spam Keyword เป็นต้น
        2. White Hat จะเน้นที่การสร้างเนื้อหาที่ดี และเกิดการบอกต่อเป็นธรรมชาติ มีสถิติผู้เข้าใช้งานเว็บไซต์ดี สม่ำเสมอ ทั้งในเว็บไซต์และสื่อออนไลน์อื่นๆ

ข้อแนะนำพิเศษ  โดยนักรบ
หากท่านไม่ทราบแน่ชัดถึงวิธีการทำ SEO ที่ได้ผลอย่างยั่งยืนในระยะยาว ขอให้ท่านมุ่งเน้นไปที่การสร้างเนื้อหาที่ดี และเป็นประโยชน์กับคนเข้าเว็บไซต์ (Quality Content) เป็นอันดับแรกก่อน  หลักจากศึกษาเทคนิคการทำ SEO จนค้นพบวิธีที่แน่ใจว่าได้ผล หลังจากนั้นค่อยนำมาใช้กับเนื้อหาดีอีกมากมายที่รอให้ท่านปรับแต่งได้อย่างเต็มกำลัง จนส่งผลดีกับเว็บไซต์ของท่านในระยะยาวครับ
https://warrior.in.th/entrepreneur/how-to-wordpress-seo/ (https://warrior.in.th/entrepreneur/how-to-wordpress-seo/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 02, 2021, 04:18:51 pm
9 ขั้นตอนการทำการตลาดออนไลน์

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/10/online-marketing-google-seo-training-step.jpg)

เจ้าของธุรกิจหลายคนจะรู้สึกเหมือนกันว่าการตลาดออนไลน์ (Online Marketing) เป็นเรื่องที่สลับซับซ้อน และเข้าใจยาก หลายต่อหลายครั้งที่เขาจ่ายเงินทำโฆษณาออนไลน์ไป แต่กลับไม่ได้ลูกค้ามากขึ้นดังที่ใจคิด อีกทางหนึ่งที่เจ้าของธุรกิจจะทำ คือ การจ้างนักการตลาดออนไลน์เป็นที่ปรึกษา ดูแลการตลาดออนไลน์ให้แทน แต่ถ้าหากยังไม่ได้ผล ทำไมเจ้าของธุรกิจถึงไม่ลองทดสอบและเรียนรู้ด้วยตัวเองบ้างล่ะ ? ซึ่งอาจจะพบวิธีทำการตลาดออนไลน์และได้ลูกค้าใหม่ๆมาก็เป็นได้ บทความนี้ ” 9 ขั้นตอนการทำการตลาดออนไลน์ ” จะเป็นการแนะนำ วิธีการทำการตลาดออนไลน์ด้วยตัวเอง ซึ่งนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด ที่จะลองลงทุนเรียนรู้ และหาหนทางในการทำการตลาดออนไลน์ด้วยมือของคุณเองครับ

1. เริ่มต้นที่ Social Media
Social Media คือ เครือข่ายผู้บริโภคขนาดใหญ่ สถานที่ที่สามารถสร้างการรับรู้ (Awareness) และการ PR เป็นอย่างดี เพราะด้วยความสามารถในการกดชอบ (like), แสดงความคิดเห็น (Comment) และการแชร์ (Share) ล้วนส่งผลดีแทบทั้งสิ้น สามารถสร้าง Facebook Fanpage ได้ที่ คลิ๊กสร้าง Fanpage

2. เริ่มต้นเขียนบล็อก (Blog)
อย่าเพิ่งปฏิเสธการเขียน Blog เพราะ การเขียนบทความ (Articles) ใน Blog นั้นมีคุณค่ากับธุรกิจเป็นอย่างยิ่ง เช่น การสร้างการรับรู้ (Awareness), ความน่าเชื่อถือ (Credibility) และ ความเป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจ (Authority) Tip : การเขียน Blog จะไม่เหมือนการเขียนงานเรียงความในมหาลัย (ซึ่งนั้นอาจเป็นสิ่งสุดท้ายที่ท่านเขียน) โปรดใช้เทคนิคการเขียนที่ง่ายต่อการอ่านแบบสแกน และย่อยข้อมูลให้เข้าใจง่าย โดยเนื้อหาใจความโดยรวมไม่หลุดประเด็นไปจากหัวข้อหลัก

3. สร้างความสำพันธ์ ผ่านช่องทางสื่อ
สื่อออนไลน์เป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มจำนวนการเข้าถึงของคนเข้าชมใหม่ๆ ถ้าที่ปรึกษาหรือทีมงาน ไม่ได้สร้างสายสำพันธ์กับนักเขียน หรือ Bloggers ไว้เลย มันคงน่าเสียดายมาก เพราะผู้เข้าชมส่วนใหญ่จะอยากติดต่อและพูดคุย สอบถามกับธุรกิจนั้นๆที่เขาสนใจ Tip : ติดตามนักเขียน ในช่องทางสื่อออนไลน์ต่างๆ เช่น Facebook, Twitter ในกลุ่มธุรกิจของท่าน เพื่อที่จะแบ่งปันเนื้อหา แสดงความคิดเห็น เพื่อทราบทิศทางร่วมกันในอนาคต เวลาที่จะต้องนำเสนอข่าวสารร่วมกัน

4. นำเสนอเนื้อหาที่คนเข้าชมต้องการ
เชื่อมกับลูกค้าคนสำคัญได้ง่ายดายผ่านเนื้อหาที่ปรับแต่งเพื่อให้ใช้งานง่าย ในทางข้อมูล 61% ของลูกค้าส่วนใหญ่จะซื้อสินค้าจาก Brand ที่นำเสนอเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกัน Tip : ใส่ใจปัญหาผู้ฟังเป็นหัวข้อสำคัญในการทำเนื้อหาที่จะนำเสนอ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดเนื้อหา และพัฒนารายงาน, eBooks, คู่มือ และ โพสบล็อก ที่ให้คุณค่ากับลูกค้าของท่าน

5. ใส่ใจการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติ (Analytics)
มันง่ายดายที่จะรู้ว่าช่องทางสื่อออนไลน์ไหน ที่สร้างจำนวนคนเข้าชมได้มากมายผ่านเครื่องมือสถิติ เช่น Google Analytics เป็นต้น ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ท่านไม่ควรทิ้งมัน หากแต่จะช่วยทำให้โฟกัสการทำงานได้มากยิ่งขึ้นในสื่อนั้นๆ Tip : ติดตั้ง Google Analytics ในเว็บไซต์ของคุณ เพื่อที่จะเช็คว่า กลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์ ผ่านช่องทางไหนที่ได้ผลที่สุด

6. เช็คให้แน่ใจว่า E-Mail Marketing ยังสื่อสารถึงคนอ่านอยู่เสมอ
หากพูดถึงทุกวิธีทำการตลาด E-Mail Marketing ยังคงใช้ได้ผลอยู่เสมอ เป็นหนทางที่จะส่งเนื้อหาไปถึงผู้อ่านได้โดยตรง เพื่อเปลี่ยนให้เป็นลูกค้าที่จะซื้อของจากท่าน และยิ่งท่านมีฐานสมาชิก E-Mail List มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งประสบความสำเร็จในการเข้าถึงมากขึ้นเท่านั้น Tip : โปรดใช้เวลาและใส่ใจกับหัวข้อใน E-Mail ให้มากหน่อย เพราะ 64% ของผู้รับจะเปิด eMail หลังจากที่เขาอ่านหัวข้อแล้วสนใจ เวลาที่ท่านใช้ไปกับการสร้างสรรค์หัวข้อ E-Mail จะช่วยการันตีถึงจำนวนการเปิดอ่านได้มากยิ่งขึ้น

7. ปรับแต่งเว็บไซต์ (SEO) ให้ดีเยี่ยม
เช็คให้แน่ใจว่า Keywords บทเว็บไซต์ของท่าน เป็นสิ่งที่คนอ่านกำลังค้นหาอยู่จริงๆ ด้วยเครื่องมือวางแผนคำหลัก (Keyword Planner Tools) ของ Google ใน Adwords หากในเว็บไซต์ของท่านไม่มีเนื้อหา หรือ Keywords ที่เกี่ยวข้อง จะเป็นไปได้สูงที่คนจะออกจากเว็บไซต์ของท่านทันที ส่งผลให้อัตราการออก (Bounce rate) ใน Google Analytics สูงขึ้น และ การตอบสนองจากผู้อ่านจะลดน้อยลงไป Tip : หากธุรกิจของท่านมีคำค้นหา (keywords) ที่หลากหลาย โปรดอย่ามองข้ามคำค้นหาที่เป็นภาษาพูด เพราะคำเหล่านี้ผู้อ่านมักจะใช้พิมพ์คําค้นหาใน Google ท่านสามารถใส่คำภาษาพูดที่เข้าใจง่ายในหน้า Blog ของท่านได้ครับ

8. จัดเวลาเป็น นักเขียน Blog รับเชิญบ้าง (Guest Blogging)
ท่านสามารถเข้าถึงคนอ่านได้มากมายผ่าน Blog ของท่าน แต่ท่านก็สามารถเพิ่มจำนวนคนอ่านใน Blog อื่นๆที่มีชื่อเสียงได้ผ่านการเป็นนักเขียน Blog รับเชิญ ซึ่งมีหลายๆ Blog ก็ยินดีต้อนรับ Guest Blogging Tip: การเขียน Guest Blogging ควรเขียนในเนื้อหาที่มีเป็นประโยชน์กับคนอ่านของเจ้าของ Blog เป็นสำคัญ เพื่อที่เนื้อหาที่เขียนนั้น สอดคล้องกับเนื้อหาเดิมใน Blog ก่อนหน้านี้

9. เช็คให้แน่ใจว่า ขั้นตอนการทำงานทั้งหมด รวมกันเป็นหนึ่งเดียว และสอดคล้องกันเป็นอย่างดี
ทุกขั้นตอนสามารถทำได้สำเร็จได้ แต่ควรเช็คให้แน่ใจว่าทุกขั้นตอนนั้นทำงานสอดคล้องกันเพื่อให้ถึงเป้าหมายหลัก (Goal) ที่วางไว้ของธุรกิจของท่าน Tip : ก่อนที่จะทำการตลาดออนไลน์ ควรกำหนดเป้าหมายไว้เรียบร้อยแล้วว่าคืออะไร ? เช่น ต้องการเพิ่มจำนวนคนเข้าเว็บไซต์ (Website Traffic), เพิ่มยอดขาย 200% หรือต้องการจะโปรโมทสินค้าตัวใหม่ โดยทุกๆขั้นตอนควรพุ่งประเด็นไปที่เป้าหมายของท่าน

การลงมือทำ ขั้นตอนการทำการตลาดออนไลน์  จะได้ผลลัพธ์ที่วิเศษ
ถ้าท่านต้องการเงินในระยะสั้น การจ้างนักการตลาดออนไลน์เพื่อเป็นที่ปรึกษา อาจจะช่วยให้ท่านได้ผลลัพธ์ที่ต้องการได้ แต่ในธุรกิจขนาดเล็ก (SME) การขับเคลื่อนกลยุทธ์การตลาด โดยการลงมือทำด้วยตัวเอง จะทำให้เข้าใจลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นอันส่งผลต่อผลลัพธ์ทางการตลาดที่ดีที่สุด แบ่งเวลาที่ท่านมี เพื่อศึกษาขั้นตอนการทำการตลาดออนไลน์บ้าง และเทคนิคที่เผยแพร่ในบทความนี้ก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่ท่านสามารถทดลอง เรียนรู้ และลงมือทำได้ทันที

พื้นฐานที่ควรมี (จาก Wikipedia)
การตลาดออนไลน์ ((Online Marketing) หรือ การตลาดบนอินเทอร์เน็ต ( Internet marketing)  คือ อะไร ? หรืออาจใช้ว่า i-marketing, web-marketing, Digital Marketing, การตลาดออนไลน์ (online-marketing) หรือ การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e-Marketing) หมายถึง การดำเนินกิจกรรมทางการตลาดโดยใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อกลาง และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มาผสมผสานกับวิธีการทางการตลาด การดำเนินกิจกรรมทางการตลาด อย่างลงตัวกับลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย เพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายขององค์กรอย่างแท้จริง ซึ่งในรายละเอียดของการทำการตลาด E-Marketing จะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
         1. เป็นการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายในลักษณะเฉพาะเจาะจง (Niche Market)
         2. เป็นลักษณะเป็นการสื่อสารแบบ 2 ทาง (2 Way Communication)
         3. เป็นรูปแบบการตลาดแบบตัวต่อตัว (One to One Marketing หรือ Personalize Marketing) ที่ลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายสามารถกำหนดรูปแบบ  สินค้าและบริการได้ตามความต้อง การของตนเอง
         4. มีการกระจายไปยังกลุ่มผู้บริโภค (Dispersion of Consumer)
         5. เป็นกิจกรรมที่นักการตลาดสามารถสื่อสารไปยังทั่วทุกมุมโลก ตลอด 24 ชั่วโมง (24 Business Hours)
         6. สามารถติดต่อสื่อสาร โต้ตอบ ปฏิสัมพันธ์ได้อย่างรวดเร็ว (Quick Response)
         7. มีต้นทุนต่ำแต่ได้ประสิทธิผล สามารถวัดผลได้ทันที (Low Cost and Efficiency)
         8. มีความสัมพันธ์กับกิจกรรมการตลาดแบบดั้งเดิม (Relate to Traditional Marketing)
         9. มีการตัดสินใจในการซื้อจากข้อมูลข่าวสารที่ได้รับ (Purchase by Information)

บทความนี้เป็นการฝึกแปลบทความจาก Ref : https://marketingland.com/9-steps-implementing-online-marketing-campaign-98393 (https://marketingland.com/9-steps-implementing-online-marketing-campaign-98393) Ref : https://th.wikipedia.org/wiki/ (https://th.wikipedia.org/wiki/)การตลาดบนอินเทอร์เน็ต เรียบเรียงโดย นักรบสอนการตลาดออนไลน์
https://warrior.in.th/freelance-seo/nine-step-online-marketing/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/nine-step-online-marketing/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 03, 2021, 03:50:06 pm
3 เส้นทางทำเงินธุรกิจการสอนออนไลน์ SEO&Training

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/09/3-way-to-make-money-for-infopreneur.jpg)

ก่อนจะทำธุรกิจการสอน SEO และให้คำปรึกษา เริ่มต้นต้องมี Website และ Facebook  ในการโปรโมทก่อนครับ ในต่างประเทศเรียกธุรกิจการสอนว่าเป็นอาชีพ Infopreneur ขายสินค้าความรู้อยู่ในรูปแบบ Digital Products

วิธีการโปรโมทธุรกิจการสอนออนไลน์ที่ดีที่สุดวิธีหนึง คือการเขียน Blog และให้ความรู้ฟรีเบื้องต้นสม่ำเสมอ อย่างน้อย 10 เนื้อหา/เดือนหรือมากกว่า ทั้งในเว็บไซต์ และ  Fanpage หลังจากมี Blog Website และ Facebook  Fanpage ที่มีการให้ความรู้ฟรีอย่างต่อเนื่องแล้ว จึงสร้าง 3 ช่องทางทำเงินธุรกิจการสอน SEO

เส้นทางที่ 1 : ขายสินค้าที่คนเข้าถึงได้ง่าย ราคาไม่สูง
สินค้าราคาไม่สูง สินค้าที่คนเข้าถึงได้ง่าย ไม่ได้แปลว่าเป็นของไม่ดีนะครับ เพียงแต่ว่านี้คือ ด่านแรกที่คุณสามารถหยิบยื่นให้ลูกค้าได้ง่าย และลูกค้าก็เข้าถึงคุณได้ง่ายเช่นกัน เสมือนว่า ถ้าสินค้านี้ดี และเป็นประโยชน์กับเขาจริง เขาจะยินดีซื้อสินค้าที่ราคาสูงขึ้น เพื่อได้ประโยชน์สูงขึ้นนั่นเอง สินค้าประเภทนี้ คือ : E-Book และ Audio CD ครับ

ในเมืองไทยมีหลายท่านที่ขายเพียง E-Book อย่างเดียว โดยฝากขายกับ Ookbee, Se-ed, Naiin ก็สามารถทำเป็น[^_^]สร้างเงินให้แบบ กึ่ง Passive Income ได้ตลอดทั้งเดือน จนมองเห็นโอกาสในการทำ Infopreneur เต็มตัวในเวลาต่อมา

ทำไมต้องเป็น E-Book
ข้อดีของ E-Book
         1. ลูกค้าซื้อได้ง่าย ไม่แพง และใช้อ่านเพื่อเรียนรู้เบื้องต้นด้วย
         2. E-Book ดาวน์โหลดได้เร็ว เพราะ File จะเล็กมากเมื่อเทียบกับ DVD Video หรือ คอร์สออนไลน์
         3. E-Book เข้าถึงได้ง่าย และ ฝากขายผ่านตัวแทนได้ง่าย เช่น Ookbee, Se-ed, Naiin หรือ ผ่านนายหน้าออนไลน์ (Affiliate)
         4. E-Book ต่อยอดสู่การทำหนังสือเล่ม สร้าง Personal Brand ได้
         5. สามารถหยิบเนื้อหาใน Blog ทีเขียนฟรีมาปรับแต่ง เป็นหัวข้อ และเติมรายละเอียดให้เข้าใจง่าย และลึกมากขึ้น แล้วนำมาเขียน E-Book ได้
         6. เมื่อเขียน E-Book จะได้ไอเดียใหม่ๆ ที่ต่อยอดไปเขียนใน Blog สร้างเนื้อหาใหม่ๆได้ ไม่มีวันหมด และสร้างฐานผู้อ่านใหม่ได้ผ่าน Google และ Facebook
         7. E-Book เป็นสินค้าแบบ กึ่ง Passive Income ทำเสร็จ ฝากขายได้หลายเดือนและหลายปี มีเวลาเหลือไปเขียน E-Book เล่มใหม่ต่อ

ข้อเด่นชัด คือ การเขียน E-Book มีผลต่อทักษะการเขียน Blog และ Google SEO โดยตรง ช่วยการตลาดได้ดีเยี่ยม ตัวอย่างราคา :  E-BOOK จะอยู่ในช่วง 100-500 บาท อุปกรณ์ที่ต้องมี
         1. โปรแกรมพิมพ์งาน เช่น Word, Google Doc
         2. ภาพประกอบ E-Book

นักรบแชร์
นักรบเคยทำ E-Book อยู่ครั้งหนึงแต่ผลลัพธ์ไม่ดีมากพอ อาจเป็นเพราะเราไม่สะดวกในการขายอะไรยาวๆ ดูมันใช้เวลามากเกินไป ไม่คุ้มการทำ จึงเน้นทำวีดีโอคอร์สที่สั้น กระชับ เห็นภาพการทำงานทันทีดีกว่าครับ เป็นการแชร์ประสบการณ์ส่วนตัว แต่ละคนอาจไม่เหมือนกันครับ

ทำไมต้องเป็น Audio CD
         1. Audio CD ราคาไม่แพง ลูกค้าซื้อได้ง่าย ถ้าลูกค้าชอบ จะซื้อสินค้าที่แพงขึ้นและมีเนื้อหาเข้มข้นขึ้นไปอีก
         2. Audio CD ฟังได้แม้เดินทางบนรถ ซึ่งสินค้าแบบอื่นมักจะทำไม่ได้
         3. การอัดเสียงใน Audio CD จะฝึกทักษะการพูดได้ดี และต่อยอดสู่การพูดใน Video DVD หรือ คอร์สออนไลน์ได้
         4. การอัดเสียงใน Audio CD จะต่อยอดการเป็น วิทยากร และการจัดสัมมนาได้ เพราะได้ฝึกการพูดไปในตัวแล้ว
         5. Audio CD เป็นสินค้า ที่สามารถฝากขายผ่านตัวแทนได้
ข้อเด่นชัด : Audio CD มีผลต่อทักษะการจัดสัมมนา และวิทยากรโดยตรง ช่วยต่อยอดทักษะการพูดได้ดีเยี่ยม
ตัวอย่าง ราคา : Audio CD จะอยู่ในช่วง 100-500 บาท

เส้นทางที่ 2 : ขายสินค้าราคาปานกลาง ให้ประโยชน์และละเอียดมากขึ้น
สินค้าราคาปานกลาง ที่ให้ประโยชน์ ช่วยให้เห็นภาพและขั้นตอนได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น มักจะเป็น Video DVD หรือ คอร์สออนไลน์ โดยสินค้าชนิดนี้ จะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจได้ง่ายขึ้น และประหยัดเวลาเรียนรู้ได้มากยิ่งขึ้น  สินค้าประเภทนี้ มักจะเป็น Video DVD หรือ คอร์สออนไลน์ (Online Courses) สอนวิธีการ (How To)

ทำไมต้องเป็น Video DVD หรือ คอร์สออนไลน์
วีดีโอจะทำให้ผู้เรียนเห็นภาพ และขั้นตอนการทำได้เข้าใจง่ายกว่า การอ่านและการฟังเพียงอย่างเดียว ผู้เรียนประหยัดเวลาเรียนรู้ได้เร็วกว่าเดิมมาก และได้รับประสบการณ์การเรียนแบบเห็นหน้า และฟังเสียงจากผู้สอน เพิ่มความสะดวกและเป็นมิตรระหว่างผู้เรียนและผู้สอนได้ดียิ่งขึ้น ข้อดีของ Video DVD หรือ คอร์สออนไลน์
         1. ผู้เรียนเห็นขั้นตอนชัดเจน รวดเร็วผ่าน ภาพ เสียง และท่าทางผู้สอน
         2. ผู้เรียนสามารถชมวีดีโอทีไหน ก็ได้ ผ่านคอร์สออนไลน์
         3. การทำ Video จะต่อยอดสู่การจัดสัมมนาได้ เพราะจะเป็นการฝึกพูดและแสดงท่าทางไปในตัวของ Infopreneur
         4. Video DVD หรือ คอร์สออนไลน์ จะมีราคาที่สูงกว่า E-Book และ Audio CD เพราะมีขั้นตอนจัดทำและใช้ทักษะที่เพิ่มเข้ามาเช่น การแสดงท่าทางหรืออัดภาพเคลื่อนไหวประกอบ รวมทั้งลิขสิทธิ์ต่างๆที่ปรากฏบนวีดีโอ
         5. Video DVD หรือ คอร์สออนไลน์ ฝากขายผ่านตัวแทนได้
         6. Video DVD หรือ คอร์สออนไลน์ เป็นสินค้าแบบ กึ่ง Passive Income
ข้อเด่นชัด คือ การทำ Video DVD และ คอร์สออนไลน์  จะฝึกทักษะการพูด และแสดงท่าทาง เพื่อต่อยอดสู่การเป็นวิทยากรและจัดสัมมนาได้ ตัวอย่างราคา :  Video DVD หรือ คอร์สออนไลน์  จะอยู่ในช่วง 500-3,000 บาท Tips :  จุดเด่นสูงสุดข้อหนึงของ Infopreneur คือ สินค้าความรู้ แบบ E-Book, Audio CD, Video DVD และ คอร์สออนไลน์ จะเป็นแบบกึ่ง Passive Income ทำจบขายได้ซ้ำ และมีเวลาเหลือในการสร้างสินค้าต่อ ราคาจะไม่สูงมาก แต่จะทำให้มีเวลาและชีวิตที่ออกแบบได้ แบบ Infopreneur

เส้นทางที่ 3 : สัมมนา, มิตติ้งกลุ่มย่อย, ที่ปรึกษา และโค้ชชิ่ง ให้ประโยชน์และละเอียดสูงสุด
ลูกค้าสามารถสอบถาม และพูดคุยกับผู้สอนได้โดยตรง อีกทั้งได้ Connection ใหม่ๆจากผู้เรียน ได้ทันที ซึ่งเป็นข้อเด่นของงานประเภทนี้ สินค้าประเภทนี้ คือ : สัมมนา, มิตติ้งกลุ่มย่อยๆ , ออกค่าย, โค้ชชิ่ง

ทำไมต้องเป็น สัมมนา, มิตติ้งกลุ่มย่อยๆ , ออกค่าย, โค้ชชิ่ง
การจัดงานเป็นการแบ่งปัน และถ่ายทอดความรู้แบบคลาสเรียน ที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างดี และมักจะจัดในสถานที่ที่สะดวกสบายต่อการสอน และการพบปะระหว่างผู้เรียนและผู้สอน  ซึ่งเป็นก้าวถัดมาของผู้เรียนที่ต้องการได้เจอตัวผู้สอน และสอบถามโดยตรงมากยิ่งขึ้น ถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้

ข้อดี สัมมนา, มิตติ้งกลุ่มย่อยๆ , ออกค่าย, โค้ชชิ่ง
         1. ผู้เรียนจะได้สอบถามปัญหาที่ต้องการ และเรียนรู้กับผู้สอนได้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นข้อดีที่เด่นชัดที่สุดข้อหนึง
         2. ผู้เรียนจะได้ Connection ใหม่ภายในงาน
         3. ผู้สอนสามารถสร้าง Personal Brand ทั้งภาพภายในงานและวีดีโอเพื่อจัดทำการตลาดต่อไป
         4. ผู้สอนสามารถสร้าง Connection ใหม่ๆ โดยการเชิญผู้สอนท่านๆอื่นร่วมงาน เพื่อแบ่งปันความรู้ได้อีกด้วย
         5. การจัดสัมมนาจะช่วยเสริมภาพลักษณ์และการสร้าง Brand ต่อยอดสู่การเขียนหนังสือ, ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ และสื่อต่างๆได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
ข้อเด่นชัดที่มีผล คือ จะช่วยสร้าง Personal Brand ที่เห็นชัดที่สุด ถึงความเป็นมืออาชีพและชื่อเสียง อีกทั้งรายได้จากการจัดต่อครั้งจะสูงอีกด้วย ตัวอย่างราคา :  ราคา 3,000 – 20,000 บาท

ปัญหาของธุรกิจการสอน
         1. สร้างเนื้อหาฟรี ใน Blog Website และ Fanpage น้อยเกินไป และไม่ทำสม่ำเสมอ ทำให้ขายสินค้าความรู้ได้ยาก
         2. ไม่พัฒนาตัวเองเพิ่ม ทำให้มีความรู้น้อยเกินไปที่จะขาย
         3. ไม่ฝึกการเขียน ทั้งใน Blog, E-Book และ Fanpage ทำให้ไม่มีหนังสือและ E-Book ขาย
         4. ไม่ฝึกการอัดเสียงลง Audio CD ทำให้ไม่มีสินค้าชนิดนี้
         5. ไม่ฝึกการอัด Video ทำให้ไม่มีสินค้าชนิดนี้
         6. ไม่ฝึกการทำเว็บไซต์ และการตลาดออนไลน์ ทำให้ไม่มีช่องทางการขาย
Tips : ทุกอาชีพมีปัญหา และการแก้ไขปัญหาธุรกิจนี้  คือ การขับเคลื่อนธุรกิจด้วยการให้และแบ่งปันความรู้ คุณต้องเริ่มต้นด้วยการให้ความรู้ผู้คนก่อน แล้วจึงค่อยเปลี่ยนความรู้นั้น ที่ละเอียดและมีคุณประโยชน์มากขึ้นเป็นสินค้าเพื่อขายในภายหลัง

ประโยชน์ของ Digital Products
Digital Products คือ สินค้าดิจิทัลที่อยู่ในรูป Audio,Video หรือคอร์สออนไลน์
         1. สินค้าความรู้แบบกึ่ง Passive Income จะทำที่ไหน และเวลาใดก็ได้
         2. E-Book, หนังสือเล่ม, Audio CD, Video DVD และ คอร์สออนไลน์ เป็นสินค้าแบบกึ่ง Passive Income ทำเสร็จขายซ้ำได้ มีเวลาเหลือสร้างสินค้าใหม่ เพิ่มรายได้มากขึ้น
Tips : สินค้าความรู้ (Info Products) ของธุรกิจการสอน ไม่ต้องมีมากหมายหลายร้อยชิ้น คุณอาจมีเพียง E-Book, Audio CD, Video DVD / คอร์สออนไลน์ และ จัดงาน ก็เพียงพอต่อการทำธุรกิจการสอนแบบ Infopreneur แล้วครับ

สรุป
นี้เป็นการสรุปเกี่ยวกับอาชีพธุรกิจการสอนออนไลน์ Infopreneur และจากประสบการณ์ที่นักรบทำธุรกิจการสอน SEO ออนไลน์มา ก็พอจะเล่ามาได้ประมาณนี้ครับ หวังว่าอ่านแล้วจะได้ไอเดียกลับไปครับ
https://warrior.in.th/entrepreneur/infopreneur-income-way/ (https://warrior.in.th/entrepreneur/infopreneur-income-way/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 03, 2021, 05:48:28 pm
เทคนิคการใช้ Keyword Finder Tool : kwfinder.com

(https://img.youtube.com/vi/SK989cZ0QFI/0.jpg)

นาทีที่ 0:01 – 3:45 วิดีโอจะเป็นการสาธิต การใช้งานเว็บไซต์ keyword finder tool เว็บไซต์ตัวนี้จะเป็นการค้นหาแบบ Long tail, การให้คะแนนวิเคราะห์เกี่ยวกับคู่แข่ง,ราคาการคลิก,เกี่ยวกับ Adwords และคะแนนความยากง่ายของ SEO ต้องขอเน้นตรงคำว่า “คะแนนความยากง่ายของ SEOของคำนั้นๆ” ซึ่งใน Google Adwords ไม่ได้บอกตรงนี้ จะบอกเพียงการแข่งขันคำโฆษณาของ Google Adwords วิธีการใช้งาน – เข้าไปเว็บไซต์ kwfinder.com(ที่ผมแนะนำเพราะเป็นเว็บไซต์ขั้นพื้นฐาน) – จากนั้น Log in user e-mail ของเราก่อน (เนื่องจากใช้งานฟรี จะมีข้อจำกัดเรื่อง พิมพ์ได้ 5 ครั้งต่อวัน และมีคำค้นหาเพียง 50 คำ แต่หากคุณชอบเว็บไซต์นี้ คุณสามารถซื้อใช้ได้) – จากนั้นพิมพ์คำที่ต้องการในช่องว่าง เลือกประเทศและภาษา จากนั้นกดคำว่า analyze ตัวอย่างที่ผมค้นหาคำว่า “ธุรกิจ” ซึ่งจะปรากฏคำที่เราค้นหาเยอะมาก จากการค้นหาจะขึ้นมาแค่ 50 ตัวเท่านั้น (หมายความว่า คุณต้องอัปเกรตแพ็คเก็ตของคุณ) คำว่า ธุรกิจ มีคนค้นหา 14,000 ครั้งต่อเดือน มี CPC (Cost per Click) คือราคาในการคลิก ซึ่งเวลาเราทำจริง ราคาต่อ $1 มันน้อยมาก มันจะขึ้นอยู่กับการทำโฆษณา Google Adwords มากกว่า แต่คนที่ทำ SEO ผมอยากให้โฟกัสไปที่ การ Search volume(การค้นหาต่อเดือนและกี่ครั้ง) และโปรแกรมนี้ที่เพิ่มเข้ามาคือ คะแนนความยากง่ายของ SEOของคำนั้นๆเวลาที่เราจะทำอันดับนั้นเอง ถ้าตัวเลขเยอะแปลว่า มีความยากในการไต่อันดับ เราทำอันดับขึ้นได้แต่เพียงต้องใช้เวลา แต่ถ้าตัวเลขน้อย เราจะทำการไต่อันดับได้เร็ว เช่น ถ้าเปรียบเทียบคำว่า ธุรกิจร้านกาแฟคะแนน SEO มี 5 คะแนน ซึ่งมีจำนวนน้อย เราสามารถไต่อันดับได้เร็ว หากเปรียบกับคำว่า ธุรกิจ มันมีความหมายกว้าง คะแนน SEO มี 22 คะแนน คุณต้องใช้เวลาในการไต่อันดับ แต่ไม่ได้แปลว่า คำที่ยากจะทำไม่ได้ เพียงแต่ใช้เวลานานขึ้นและต้องใช้ความรู้แบบ SEO ในเชิงลึกมากกว่า

นาทีที่ 3:46 – 5:32 สำหรับเบื้องต้น คนที่มีพื้นฐาน SEO และเว็บไซต์ เราสามารถเอา keyword มาวิเคราะห์และนำทางว่า เราจะใช้ keyword ตัวไหนก่อน เมื่อค้นหา keyword ได้แล้ว จะมีการแสดง 10 อันดับแรกใน Google ให้ด้วย หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Google SERP แต่หากอยากดูอันดับเพิ่มให้คลิกคำว่า More โดยตัวที่อยากให้ดู คือการที่โปรแกรมนี้เก็บข้อมูลของเว็บไซต์ทั่วโลก นำมาวิเคราะห์และประมวลผลตรง Rank สิ่งที่แสดงคือ เว็บไซต์ตัวไหนที่มีคะแนน Rank สูง แสดงว่า ทำมานานและมีความเชี่ยวชาญทางด้านการทำการตลาด SEO แต่ไม่หมายความว่า Rank สูงจะขึ้นเป็นอันดับต้นๆ เพราะ การทำการตลาด SEO มีหลายปัจจัย อีกอย่างเว็บไซต์นี้ไม่สามารถประเมินได้อย่างครบถ้วน อย่างเช่น ปัจจัยที่ผู้ใช้อ่านเว็บไซต์นานแค่ไหน โปรแกรมนี้ส่วนใหญ่ประมวลผลข้อมูลแค่บางส่วนอย่างเช่น blacklink หรือจำนวน traffic

นาทีที่ 5:33 – 7:35 เราสามารถลองหา Keyword แบบง่ายๆ ผมยกตัวอย่าง เช่นคำว่า “ทำธุรกิจอะไรดี” มีคะแนน SEO แค่ 1 เท่านั้น หมายความว่า คู่แข่งน้อย ทำให้เรามีโอกาสไต่อันดับขึ้นมาอยู่หน้าแรกได้ง่ายๆ โดยคะแนนพวกนี้เป็นการนำทาง เพื่อให้เราเห็นภาพเท่านั้น ไม่สามารถยืนยันได้ 100% ขึ้นอยู่กับการอัพเดตของเว็บไซต์นี้ด้วย แต่จากที่ดูคราวๆและผลการค้นหา ถ้าเราใช้ Keyword คำว่า “ทำธุรกิจอะไรดี” เราก็สามารถไต่อันดับขึ้นมาอันดับได้เช่นกัน แต่สิ่งสำคัญ คนที่ทำ SEO ช่วงแรกๆ เค้าไม่รู้ว่าจะเริ่มใช้ Keywordอะไรก่อนดี แต่เมื่อมีโปรแกรมนี้ช่วยนำทาง เค้าสามารถรู้ได้ว่า จะใช้ keyword อะไรเพื่อไต่อันดับเว็บไซต์ ส่วนคนที่รู้เรื่องการใช้การทำการตลาดแบบ SEO อย่างชำนาญแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ความรู้ด้านนี้ก็ได้ เพราะ เค้าจะทำหมดเรยทุก Keyword สำหรับคนที่มีเวลาน้อยหรือเพิ่งเริ่มต้น อยากจะค้นหา keyword โปรแกรมนี้สามารถช่วยคุณได้ ซึ่งเป็นจุดเด่นของโปรแกรมนี้

นาทีที่ 8:00 – 8:40 นอกเหนือจากนี้ ยังมี PR (page rank) ซึ่งมีการอัพเดตช้า และ social media พวก Facebook, IG, TW, G+ และประมวลผลมาเป็น Rank หากอยากดูข้อมูลมากกว่านี้ ก็ต้องซื้อโปรแกรมนี้ นี้คือตัวอย่างเว็บไซต์ Kwfinder.com เป็นเว็บไซต์การวิเคราะห์ keyword นั้นเองว่ามันยากง่ายหรือไม่ 
https://warrior.in.th/freelance-seo/job/keywords/how-to-use-keywords-finder-tool/
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 03, 2021, 05:51:45 pm
ฟรีแลนซ์ ซื้อรถในนามบริษัทดีอย่างไร ?

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2020/07/freelance-buy-car.jpg)

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า Digital Marketing Freelance เป็นอาชีพที่ไม่มั่นคงในสายตาของธนาคาร ฉะนั้นการขอสินเชื่อจะทำได้ยากกว่า ถ้ามีรายได้ 30k ต่อเดือน อาจโดนธนาคารตีรายได้แค่ 40% ของสามหมื่นแทน อีกทั่งการซื้อรถในนามบุคคลธรรมดาไม่ได้ช่วยเรื่องประหยัดภาษีเลย

จริงๆแล้วเป็นเรื่องดี ที่ธนาคารตีรายได้ของฟรีแลนซ์ต่ำกว่ายอดรับจริง เพราะมันจะช่วยทำให้เราผลักดันตัวเองให้มี Statement ที่ดีขึ้นในอนาคต และไม่สร้างหนี้เร็วเกินไป

วิธีนำมาเป็นค่าใช้จ่าย คือ ต้องจดบริษัทและซื้อรถในนามบริษัทแทน จึงนำค่าบำรุงรักษารถ ค่าน้ำมัน ค่าเสื่อมราคา มาเป็นค่าใช้จ่ายบริษัทแทนได้ แต่นักรบไม่แนะนำให้ฟรีแลนซ์จดบริษัทเร็วเกินไป เพราะจะมีเนื้องานด้านเอกสารและค่าปิดบัญชีเพิ่มอีกประมาณ 15-20k/ปี (ฟรีแลนซ์ควรมองเรื่องการจดบริษัทหลังจากมีรายได้เกิน 800k/ปี)

ค่าเสื่อมราคารถได้ 200k/ปี และค่าบำรุงรักษา ค่าน้ำมันมาเป็นค่าใช้จ่ายบริษัทฟรีแลนซ์ได้หมด ซึ่งเป็นข้อดีมากๆ ทำให้เราประหยัดภาษีได้อีกด้วย

มีอีกวิธีหนึงที่อ่านมา แต่ยังไม่มีประสบการณ์คือ ในกรณีที่ไม่ได้ซื้อรถในนามบริษัทแล้วอยากเอาค่าน้ำมันมาเป็นค่าใช้จ่ายบริษัท ต้องทำเรื่องให้บริษัทยืมรถใช้งานอีก ซึ่งค่อนข้างยุ่งยากหน่อย หากใครสนใจหาข้อมูลเพิ่มเติมดูครับ

แชร์ประสบการณ์ฟรีแลนซ์ด้านการเงิน โดยนักรบ
ฟรีแลนซ์รับทำ SEO
https://warrior.in.th/freelance-seo/income/freelance-buy-car/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/income/freelance-buy-car/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 03, 2021, 05:52:39 pm
ข้อคิดตกผลึกชีวิตฟรีแลนซ์ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2020/07/%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%9F%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B9%8C-SEO-e1596028677265.jpg)

อัตลักษณ์แบบนักรบ อธิบายถึงวิธิคิด สิ่งแวดล้อม ทั้งการงาน การเงิน ต้นทุนชีวิต ทักษะอาชีพและเป้าหมายต่างๆ เพื่อให้ผู้ที่จะเรียนรู้เข้าใจและนำไปปรับใช้กับตัวผู้เรียนได้

ต้นทุนชีวิตไม่ได้ร่ำรวย เป็นลูกคนที่ 2 ที่เกิดในครอบครัวยากจน พ่อแม่ทำงานก่อสร้างตั้งแต่ยังเด็ก แต่ส่งเสียให้เรียนจบปริญญาตรี สาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ได้ ฉะนั้นสิ่งที่เป็นต้นทุนเพียงอย่างเดียว คือ ความรู้ความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ ที่ใช้ต่อยอดอาชีพและธุรกิจในปัจจุบัน

สิ่งที่ตกผลึกจากที่ผ่านมา หลอมรวมเป็นอัตลักษณ์
         - เวลา คือ ต้นทุนวัตถุดิบแลกเงินตรา ในโลกของ Freelance ค่าจ้างเวลาทำงาน Man-hour ของแต่ละคนไม่ได้เท่ากัน คิดอยู่เสมอว่า จะเพิ่มราคาจ้างต่อชั่วโมงได้อย่างไร คำตอบ คือ ต้องเก่งและเป็นที่รู้จักในสายที่ตลาดต้องการ
ความล้มเหลวในการแข่งขันต่างๆ ในช่วงวัยเรียนย่ำเตือนได้ดี ว่าต้องมุ่งมั่นทำจริงถึงจะไม่เสียดายเวลาในอดีตที่ล้มเหลว ปัจจุบันยังระลึกถึงเพื่อปรับใช้กับการทำงาน
         - หนังสือพัฒนาความคิดและการพูด ช่วงเริ่มต้นสร้างตัว อ่านหนังสือพัฒนาตัวเองทุกวัน โดยเฉพาะจิตวิทยาเพื่อความสำเร็จ นิสัยรักการอ่านช่วยเรื่องการทำการตลาดได้มาก เพราะจะสามารถสื่อสารที่มัดใจลูกค้าได้ง่ายขึ้น อีกท้งยังใช้เป็นทักษะการพูดในตอนเป็นวิทยากรการตลาด SEO ได้อีกด้วย
         - พี่เลี้ยงดี พัฒนาไว ได้หัวหน้างานดี สอนให้เราเก่งได้ไว
         - คิดเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งที่เก่ง รางวัลมีสำหรับคนเก่งที่อยู่บนยอดพีระมิดเสมอๆ ทุกการทำงานจะจินตนาการถึงคู่ต่อสู้ที่เก่งในสายงาน
         - ค้นหาจุดเด่น เพื่อสร้างจุดยืนในใจลูกค้า เมื่อทะเลการแข่งขันแดงเดือด การสร้างจุดแตกต่างด้วยจุดเด่นที่มีตลาดรองรับเป็นเรื่องที่ต้องทำในเวลาที่หมาะสม
         - คนเก่งเจอกัน จะชนะกันที่ความแข็งแรงของทีม ต่อให้เก่งแค่ไหน ก็มี 2 มือและ 24 ชม. เหมือนกัน ถ้าฝีมือเฉือนกันไม่มาก จะชนะกันที่ความเก่งของคนในทีมแทน
         - เปลี่ยนคู่แข่งเป็นมิตร เป็นคู่แข่งกับทุกคนมันเหนื่อย ควรสร้างมิตรบ้างเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ สุดท้ายเรา คือมนุษย์ที่ควรช่วยเหลือกันในสังคมอยู่ดี
         - ความสำเร็จไม่เพียงพอ คนไม่ฟัง ในการเขียน Blog ถ้าไม่มีผลงานรองรับ แล้วเปอร์เซ็นต์ที่คนจะเชื่อจะลดต่ำลง ฉะนั้นเลย จึงต้องสร้างผลงานด้วย เช่น เก็บเงินจากการรับทำเว็บไซต์ด้วย WordPress, สร้างยอดขายหลัก 1.2 ล้าน/ปีด้วยอาชีพ SEO Freelance, ทำเว็บขายของออนไลน์ส่งเสริมยอดขาย 15 ล้าน/ปี, สร้าง Small SEO Agency ยอดขาย 2 ล้าน/ปี แบบนี้ถึงจะมีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่าได้ผลจริง
         - เห็นแก่เงิน อาจเดินทางผิด ถ้าเห็นแต่เงินอย่างเดียว อาจผันตัวไปทำ SEO & Digital Marketing ให้ธุรกิจพนันได้ เพราะวงการณ์นี้เงินหมุนเวียนเยอะ แต่ผิดกฎหมาย ทำลายชีวิตคนอื่น ฉะนั้นจึงไม่สอนและสนับสนุนการทำเอสอีโอให้ธุรกิจการพนันทุกชนิด
         - รักษาระดับผลงาน รักษาความเป็นมืออาชีพ เมื่อถึงจุดจุดหนึงจะพบว่าการรักษาระดับผลงานแบบมืออาชีพ จะสร้างความมั่นคงให้อาชีพนี้ได้ และควรระวังเรื่อง Comfort zone ที่เหนี่ยวรั้งหยุดเราพัฒนา
         - มีเป้าหมายเพื่อพัฒนา เพื่อประสบความสำเร็จระดับหนึง การมีเป้าหมายต่อไป จะช่วยกระตุ้นตัวเองได้ดี

สิ่งต่างๆเหล่านี้เขียนไว้เพื่อเป็นแรงบรรดาลใจ เอาไปปรับใช้กับผู้เรียนที่จะศึกษาการพัฒนาตัวเองครับ วู้ๆ!!!
https://warrior.in.th/warrior-life/identity/ (https://warrior.in.th/warrior-life/identity/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 06, 2021, 03:15:12 pm
วิธีค้นหา Niche Keyword & Long Tail Keyword


วิธีค้นหา และวางแผน Keyword แบบ Niche และ Long Tail Keyword ที่เฉพาะเจ
นาทีที่ 0 – 2.04 การใช้โปรแกรม Keyword tool ที่ช่วยในการค้นหา keyword การเริ่มต้นสำหรับใครที่ทำธุรกิจออนไลน์ โดยอยู่บนพื้นฐานของเว็บไซต์และเรียกคนจากโลกออนไลน์ ผมแนะนำว่าต้องเริ่มที่ keyword ก่อนเพราะเราจะได้รู้ว่าคนในโลกออนไลน์เขาค้นหาอะไรกัน มาโยงใยเกี่ยวกับในเนื้อหาเว็บไซต์หรือคลิปวิดีโอของท่าน เพื่อดึง traffic จากคนหรือจากโลกออนไลน์ ซึ่ง search engine เข้ามา นี้คือเส้นทางที่คนทั่วโลกทำกันแบบนี้ การเริ่มต้นสำหรับคนที่ใช้เครื่องมือ Google Adwords แล้ว ก็สามารถใช้ได้ อีกตัวหนึ่งที่ผมจะแนะนำคือ Keyword tool ไปที่ Google >> search คำว่า “Keyword tool” ในอินเตอร์เน็ตมีเกี่ยวกับ Keyword tool เยอะมาก แต่จะรองรับภาษาไทยได้แค่ไม่กี่ตัว หาก search ไปประมาณ 10 ตัว ผมตัดออกไปได้ 8-9 ตัว เหลืออยู่แค่ 1-2 ตัวเท่านั้น โดยตัวที่ผมแนะนำคือ  Keyword tool.io คลิกเข้าไปดูได้

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/09/how-to-use-keyword-tools-1-640x373.jpg)
วิธีค้นหา และวางแผน Keyword แบบ Niche และ Long Tail Keyword ที่เฉพาะ

วิธีการใช้ ง่ายมากๆเพราะมันจะเช็คว่าเราอยู่ประเทศอะไร แล้วใส่ Keyword ของเราเข้าไป โดยตัวอย่างของผม ผมจะใส่ Keyword คำว่า ธุรกิจ โดย Keyword tool มันใช้วิเคราะห์ Keyword แบบ Niche (ระบุความเฉพาะเจาะจง) เข้าไป ลองเข้าไปดูโดยพิมพ์ keyword ใน google โดยพิมพ์คำว่า ธุรกิจ มันจะมีคำ guideline ของ google เข้ามาประมาณ 4 แถวคำเหล่านี้เราจะเรียกว่า “long-tell-keyword หรือว่า niche keyword ”ก็ได้ เป็นการ search คำที่เฉพาะเจาะจงเข้าไปอีก โดย google จะนำทางให้เราว่า เราสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ใช่ไหม หรือว่าคำที่คุณกำลังค้นหาอยู่   นาทีที่ 2.05 – 4.05 ซึ่งน้อยมากอาจจะมีแค่ 4 แถว ส่วนข้างล่างอาจจะมีนิดหน่อยที่โผล่มาเป็น Limited Keyword ซึ่งมีน้อยเกินไป เวลาที่เราใช้เพื่อดึง traffic จากโลกออนไลน์ เราต้องรู้ Keyword มากกว่านี้ ซึ่งฝรั่งเค้าจัดทำโปรแกรมนี้ขึ้นมา โดยหนึ่งในนั้นเขาจะเรียกว่า “Keyword tool” เทคนิคง่ายๆ เราใส่ Keyword ของเราเข้าไปก่อน มันจะ generate long-tell-keyword มาให้เรา อย่างโปรแกรมตัวนี้ ผมพิมพ์ keyword คำว่า “ธุรกิจส่วนตัว” มันมาประมาณ 151 unique keywordsสังเกตดูคือ วิธีการง่ายๆ มันจะเอา keyword ของเรา ตามด้วยพยัญชนะภาษาไทยแล้วก็ไล่อักขระไปเรื่อยๆ เพื่อหา keyword ที่มีคนค้นหา เราก็จะได้ไอเดียของการค้นหาคำมากขึ้น

เปรียบเทียบโปรแกรม Keyword Tool กับ Google Adwords ดังตัวอย่าง โปรแกรม keyword tool เน้นการค้นหาแบบ niche เรียบเรียงตามพยัญชนะและอักขระ :

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/09/how-to-use-keyword-tools-2-640x373.jpg)
วิธีค้นหา และวางแผน Keyword แบบ Niche และ Long Tail Keyword ที่เฉพาะ

โปรแกรม Google Adwords เน้นกลุ่มคำที่เกี่ยวข้องมากกว่า ไม่ใช่เป็นคำแบบ Niche keyword

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/09/how-to-use-keyword-tools-3-640x373.jpg)
วิธีค้นหา และวางแผน Keyword แบบ Niche และ Long Tail Keyword ที่เฉพาะ

คำถามคือ ทำไมเราต้องรู้เรื่อง Niche Keyword เพราะในต่างประเทศมีการแข่งขันทางด้าน Google SEO แบบเข้มข้นมาก บางธุรกิจที่ต้องการมีจุดยืน เขาเลือกแนวคิดอีกอย่างคือ ระบุ Keyword ที่เป็นเฉพาะเจาะจงให้เข้ากับธุรกิจที่เป็นแบบเฉพาะเจาะจงของเขามากขึ้น โดยใช้คำค้นหาที่ยาวมากขึ้น เป็น Niche keyword หรือ Long-tell-keyword แบบนั้นแทน เพื่อที่จะสร้าง traffic จากคำพวกนี้เพิ่มมาอีกช่องทางหนึ่ง   นาทีที่ 4.06 – 5.23 หลังจากที่เราได้คำเรียบร้อยแล้ว ใน keyword tool เราจะนำ keyword พวกนี้ไปใช้ต่อ เนื่องจากโปรแกรมจะไม่ได้จำนวนของการค้นหาว่ามีเท่าไร เราจะต้องเสียเงิน แต่ถ้าเราไม่อยากเสียเงิน เราก็ทำการเลือก keyword ทั้งหมด และ copy เท่านั้นเอง และไปที่เครื่องมือคำหลัก(Google Adwords) นำไปวาง ซึ่งเครื่องมือคำหลักจะทดสอบได้ครั้งละ 200 keyword จากที่ค้นหาเรียบร้อยแล้ว เราจะได้การค้นหาแบบรายเดือนต่างๆ ซึ่งจะเป็นไอเดียในการสร้างเว็บไซต์,บทความและวิดีโอต่างๆ เพื่อเรียก traffic บนโลกออนไลน์ผ่าน Search Engine ได้อย่างดีเรย เราจะได้ไปต้องคิดเองว่าคำไหนคนค้นหา สังเกตว่าข้อมูลเฉลี่ยเรียบร้อยแล้ว เป็นที่น่าสนใจ มีข้อมูลที่ให้มีเป็นหลักร้อยคำ เวลาที่ผมใส่ keyword คำว่า “ธุรกิจส่วนตัว” ซึ่งมีคน search 22,000 ครั้งต่อเดือน ซึ่งมันจะ Generate มาให้เพิ่มขึ้น 100 กว่าคำ มีความรวดเร็วมาก เป็นไอเดียในการสร้างเนื้อหาเว็บไซต์ บทความ และเป็นทำการตลาดทางด้าน Google SEO ต่อไป นาทีที่ 5.24 – 8.03 ตัวอย่าง ในเมืองไทย เราไม่สามารถในใช้ Niche keyword ได้เสมอไป ธุรกิจออนไลน์ยังมีอีกหลายเว็บไซต์ที่ใช้การทำการตลาดแบบ SEO อย่างไม่เต็มที่ ฉะนั้น Keyword บางคำ หากเราประเมินคู่แข่งว่า เขายังไม่เก่ง SEO เต็มที่ เราก็สามารถใช้ Mass Keyword ได้ ตัวอย่างเช่น คำว่า “ธุรกิจส่วนตัว” จะมีคน search ประมาณ 22,000 ครั้ง/เดือน ซึ่งไม่ใช่ Niche keyword แต่ค่อนข้างเป็น Mass Keyword คู่แข่งค่อนข้างเยอะและก็เก่ง แต่ถ้าเรารู้หลัก SEO จะทำให้เราไต่อันดับได้ง่ายและก็ดีมากขึ้น 

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/09/how-to-use-keyword-tools-4-640x373.jpg)
วิธีค้นหา และวางแผน Keyword แบบ Niche และ Long Tail Keyword ที่เฉพาะ

เรากดใช้ รูปโลกในการค้นหาที่เป็นกลาง สังเกตอันดับเว็บไซต์ของผมจะอยู่ในหน้าสอง ภายใน 3-4 เดือน อยู่หน้าแรกภายในเวลา 6-7 เดือน โดยเว็บไซต์พึ่งสร้างขึ้นไม่นานราว 7-8 เดือน และค่อยๆไต่อันดับมา เมื่อเข้าเว็บไซต์มีคนเข้ามาดูประมาณ 4,000กว่าวิว แต่ด้าน Social Media จะมีคนวิวค่อนข้างน้อย เพราะมีการรีเซ็ทข้อมูลใหม่ และเปลี่ยนแปลง domain ใหม่ทำให้มีผลทางด้าน Social Media ทำให้วิวหายไป เพื่อทดสอบ SEO แต่พอติดอันดับแล้ว ก็จะมีคนเข้ามาเว็บไซต์ของเราเป็นหลักพันคนและมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงเฉียด 10,000 คนได้เลย นี้คือตัวอย่างของการใช้ Keyword tool เป็นการหา Niche keyword หรือ Long-tell-keyword เป็นหา Keyword ที่เฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น เพื่อเป็นไอเดียในการสร้างเนื้อหาบทความและวิดีโอ สร้าง Content Marketing ในการดึง traffic จากโลกอินเตอร์เน็ต และใช้ควบคู่กับเครื่องคำหลัก(Google Adwords) เพราะ Google Adwords ไม่ได้บอกทุกอย่าง สำหรับผู้ที่สนใจโปรแกรม Keyword tool สามารถซึ้อแพคเกจกับทางเว็บไซต์ ผมมีรายละเอียดไว้ให้แล้ว
https://warrior.in.th/freelance-seo/job/keywords/how-to-find-niche-n-longtail-keywords/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/job/keywords/how-to-find-niche-n-longtail-keywords/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 06, 2021, 03:46:48 pm
Startup เริ่มต้นให้ดี วางแผนการเงินให้เป็น

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/09/how-to-startup-by-krungsri-780x780.gif)

การเริ่มต้นเรียนรู้แนวเบสิคการทำบัญชีของ Startup เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ประกอบการไม่ควร “พลาด” เพราะหากกิจการที่เราทำนั้นเป็นกิจการที่ดีมีอนาคตสดใส แต่เรากลับมาพลาดกับเรื่องที่ไม่ควรจะพลาดอย่างการวางแผนการเงิน และการทำบัญชี… คงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายสุดๆ เลยทีเดียวครับ เรามาดูกันดีกว่าว่า Startup เริ่มต้นให้ดี วางแผนการเงินให้เป็นต้องทำอย่างไรกันบ้าง

ประการแรก… วางแผนสภาพคล่องของธุรกิจ
ธุรกิจดีๆ หลายธุรกิจอาจถึงขั้นล้มละลายได้ถ้าขาดสภาพคล่อง สภาพคล่องคือ การบริหารรายจ่ายให้สัมพันธ์กับรายรับของบริษัท ยกตัวอย่างเช่น หากบริษัทเรามีรายจ่ายประจำเดือนๆ ละ 1 ล้านบาท ถ้าเรามีรายรับในรอบเดือน 1 ล้านเท่ากับรายจ่าย แบบนี้ถือว่าเราเริ่มตึงมือแล้วครับ เมื่อไรสภาพคล่องเราต่ำกว่า 1 เท่านั่นเป็นสัญญาณอันตรายของธุรกิจ กิจการที่ดีควรมีสภาพคล่องสูงกว่า 1 เท่าขึ้นไปจึงจะดี และปลอดภัย

ประการที่สอง… วางแผนกระแสเงินสดของกิจการ
กิจการที่ดีควรมีกระแสเงินสดไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง กระแสเงินสดก็คือ การนำรายรับไปหักออกจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน กระแสเงินสดที่ดีควรสูงกว่ากำไรสุทธิที่บริษัททำได้ ยิ่งมากยิ่งดี เพราะกว่าจะหักค่าใช้จ่ายจนกลายเป็นกำไรสุทธินั้น จะต้องหักภาษี และดอกเบี้ยจ่ายออกไปอีก… หากกระแสเงินสดดีอย่างต่อเนื่อง แถมเติบโตขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือสัญญาณที่ดีในการทำกิจการ ในทางกลับกันหากกระแสเงินสดของกิจการลดลง และไม่เติบโต นั่นเป็นสัญญาณที่ไม่ดี แต่มีข้อยกเว้นในกรณีที่กิจการกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และต้องลงทุนอย่างต่อเนื่อง กระแสเงินสดของกิจการอาจจะติดลบได้ แต่ควรเป็นสภาวะชั่วคราว และควรจะดีขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตนะครับ

ประการที่สาม… เรียนรู้งบดุล
งบดุลถือเป็นตัววัดสุขภาพทางการเงินของบริษัท งบดุลประกอบด้วย สินทรัพย์ หนี้สิน และทุน เมื่อเรานำสินทรัพย์มาหักลบกับหนี้สิน ส่วนที่เหลือคือทุน หรือที่เราจะเรียกว่าเป็นส่วนของเจ้าของนั่นเองครับ บริษัทที่ดีควรมีงบดุลที่แข็งแรง มีสินทรัพย์มากกว่าหนี้สิน และมีส่วนของเจ้าของ หรือทุนที่สะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นั่นเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการทำงบดุลของกิจการ ในทางกลับกันหากงบดุลไม่ดี ส่วนของทุนจะลดลงเรื่อยๆ จนถึงขึ้น “กินทุน” ถือเป็นสัญญาณที่ไม่ดีของการทำธุรกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจ Startup อย่าลืมตรวจสอบ และเรียนรู้งบดุลเพื่อสุขภาพทางกาเงินที่ดีของกิจการของเราด้วยนะครับ

ประการที่สี่… ตรวจติดตามงบกำไร-ขาดทุน
งบกำไร-ขาดทุน ถือเป็นงบการเงินทางบัญชีที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะกิจการที่ดีควรทำแล้วมีกำไร แม้ในระยะแรกของกิจการที่อาจต้องลงทุนสูงๆ จะทำให้ขาดทุนไปบ้าง แต่เจ้าของธุรกิจควรมีแผนการที่ชัดเจนที่จะทำให้บริษัทพลิกกลับมากำไรในระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้ การตรวจติดตามผลการดำเนินงานเราสามารถติดตามได้จาก งบกำไร-ขาดทุน ของกิจการของเราครับ หากกิจการของเรามีแนวโน้มที่จะกำไร และเป็นกำไรที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน นั่นเป็นสัญญาณที่ดีที่แสดงให้เห็นว่า… กิจการของเรากำลังดีขึ้น เราเดินมาถูกทาง

ประการสุดท้าย… ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน การบัญชี
แน่นอนที่สุดว่าไม่มีใครเก่งไปเสียหมดทุกเรื่อง เรื่องการทำธุรกิจนั้นเจ้าของกิจการต้องเก่งที่สุด แต่ถ้าเป็นเรื่องของการเงิน การบัญชี เราอาจไม่ได้เก่งที่สุด ดังนั้นเราควรมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน การบัญชี ที่จะมาช่วยเรา ช่วยกิจการของเราให้ราบรื่น เพราะตัวเราเองนั้นไม่สามารถทำทุกอย่างได้หมด การที่เรามองหามืออาชีพมาช่วยงาน จะทำให้เราไม่ต้องกังวลกับเรื่องที่เราไม่ถนัด ปล่อยให้ผู้เชี่ยวชาญทำงานที่เราไม่ถนัด ทำให้เรามีเวลามาต่อยอดธุรกิจ Startup ของเราจะดีกว่าครับ อย่าลืมนะครับ… Startup เริ่มต้นให้ดี วางแผนการเงินให้เป็น อนาคตก้าวไกลอย่างแน่นอน  บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจาก www.krungsri.com
https://warrior.in.th/freelance-seo/startup-startup-financial-planning-is/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/startup-startup-financial-planning-is/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 06, 2021, 03:50:48 pm
ผลลัพธ์ SEO 50 Keyword ติดหน้า 1 ชนะ Lazada, Shopee ใน 10 เดือน

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2020/01/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%98%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%8C-SEO-and-digital-marketing.jpg)

ผลลัพธ์ SEO ทำ SEO ให้เว็บขายของออนไลน์ เป้าหมายหลักคือ ทำอันดับให้แซง Lazada , Shopee และอยู่อันดับ 1-5 ในหน้าแรกกูเกิล ผลลัพธ์SEO

ผลลัพธ์และข้อมูลน่าสนใจ
      - ใช้เวลา 10 เดือน ทำ SEO 50 Keyword ติดหน้า 1
      - Keyword ทั้งหมดอยู่อันดับ 1-5
      - อันดับชนะ Lazada, Shopee เป็นส่วนใหญ่กว่า 70%     

ที่ทำได้เพราะนักรบพยายามควบคุมปัจจัยที่สำคัญเกี่ยวกับการทำ SEO 2 ข้อใหญ่ๆ คือ
       1. Content โดย นักรบมีทีมที่ทำ Content เองเพื่อให้แน่ใจว่าสู้คู่แข่งได้ สร้างทีมงานผลิตคอนเทนต์ พัฒนาฝีมือได้ด้วยการทำงานจริง หากยังไม่มีทีมให้ลองสร้างเตรียมไว้ครับ
        2. Technical SEO โดยนักรบดูแลส่วนนี้เป็นหลัก

รายละเอียดอื่นๆเกี่ยวกับการทำเว็บและคอนเทนต์ขายของออนไลน์ เขียนไว้แล้ว ขายของออนไลน์ ด้วย Website, SEO & Digital Marketing

การทำ SEO ต้องมองหลายด้านประกอบกัน และพยายามควบคุมปัจจัยที่ส่งผลต่อการทำ SEO ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถทำได้

โดยนักรบจะฝึกทีมงานเพื่อทำ Content และ มี Web Programmer Support ด้าน Coding อีกด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถชนกับทีมงานคู่แข่งที่เก่งๆได้

ถึงแม้ว่ายังมีอีกหลายส่วนที่ต้องพัฒนาต่อ สำหรับผลลัพธ์ด้านการทำ SEO ณ ตอนนี้ ถือว่าโอเคเลย

ประวัตินักรบ
อดีตพนักงานประจำทำเว็บไซต์ ผันตัวมาทำธุรกิจค้าขายออนไลน์ (E-Commerce) และรับทำ Digital Marketing อ่านต่อ ประวัติวิทยากร SEO & Digital Marketing

อุดมการณ์นักรบ
นักรบมีวันนี้ได้ เพราะการพัฒนาตัวเองและมีครูบาอาจารย์สอนด้านการทำธุรกิจ และ Digital Marketing จึงมีความมุ่งมั่นที่จะสอนและแชร์ประสบการณ์ให้คนรุ่นหลังที่มีพื้นฐานคล้ายๆกัน ได้มีโอกาสของชีวิตที่มากขึ้นครับ รายได้จากการขายคอร์สจะกลับมาลงทุนเพื่อทดสอบเทคนิคใหม่ๆ  อัปเดตความรู้ให้ผู้เรียนเก่าผ่านวีดีโอคอร์สออนไลน์ฟรี
https://warrior.in.th/seo-goal/seo-result-50keywords/ (https://warrior.in.th/seo-goal/seo-result-50keywords/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 06, 2021, 03:53:24 pm
5 บทความแลก 1 วีดีโอคอร์สออนไลน์

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2020/04/5-%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%8C.jpg.webp)

แคมเปญ นี้เป็นกิจกรรมที่นักรบตั้งใจไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ว่าอยากสนับสนุนคนตั้งใจ ด้วยการใช้ความสามารถในการเขียน 5 บทความที่เกี่ยวข้องกับ Digital marketing ในเรื่องใดก็ได้ นำมาแลกเป็นคอร์สออนไลไน์คอร์สใดก็ได้ในเว็บไซต์ https://course.warrior.in.th/
 
5 บทความที่เข้าเงื่อนไขการแลกคอร์สเรียน 1 คอร์สเรียนใดก็ได้
        - จำนวน 5 บทความ
        - บทความเขียนจากประสบการณ์หรือจากค้นคว้าจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ (มีอ้างอิงแหล่งข้อมูล) ในหัวข้อเกี่ยวกับ Digital Marketing
        - บทความมีความยาวเกิน 800 คำและมีภาพประกอบอย่างน้อย 1 ภาพ
        - ส่งผลงานและสอบถามเพิ่มเติมผ่าน Line@: @warrior.in.th
 
บทความของท่านจะนำมาเผยแพร่ในสื่อของ Warrior เพื่อให้ความรู้กับคนทั่วไปและให้เครดิตผู้เขียน หากมีคำถามเพิ่มเติมสอบถามผ่าน Line@: @warrior.in.th ได้ครับ
ลุย!!!
https://warrior.in.th/declare/article-exchange-courses/ (https://warrior.in.th/declare/article-exchange-courses/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 06, 2021, 03:54:22 pm
หลักการทำงานของ SEO Freelance แบบนักรบ

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2019/08/%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%9F%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B9%8C-SEO-780x410.gif)

ขั้นตอนการทำงานหนึง ที่สำคัญที่ต้องทำสม่ำเสมอของการเป็น Freelance ที่ส่งผลต่อจำนวนงานในแต่ละเดือน และจำนวนงานในอนาคต คือ การวางแผนการทำงานเป็นรายเดือนล่วงหน้า
 
ลง Calendar ไว้เลย ผมใช้ Google Calendar มันจะเห็นภาพรวมว่า เดือนหน้างานพร่องน้อยลงแล้วนะ ให้รีบทำการตลาด หางานเพิ่ม หรือใช้เวลาช่วงนี้เรียนรู้อะไรเพิ่ม หรือพักผ่อน

จำไว้เสมอว่า การเป็น Freelance ทั้ง Part-time หรือ Full-Time นั้นเปรียบเสมือนเป็นนายตัวเอง ท่านต้องเป็นผู้นำตัวเอง สร้างงานและวางแผนงานตัวเองได้ ไม่มีใครมากำหนดหรือวางแผนให้ได้เหมือนสมัยทำงานประจำ ฉะนั้นการแก้ไขปัญหาด้วยการลง Calendar ล่วงหน้าจึงช่วยได้
 
บาลานซ์ชีวิตการทำงาน ทั้งตอนเร่งทำงาน ตอนพักผ่อน ตอนเรียนรู้ ให้ลงตัว ด้วยการลงตารางการทำงานล่วงหน้า ถ้าไม่ลงตาราง Calendar ล่วงหน้า รับรองว่ารายได้หดในอนาคตแน่นอน หรือ ไม่ได้เรียนรู้ ไม่ได้ผลงาน เพราะเอาแต่ชิวๆไปวันๆนั้นไม่ไหวนะ
 
การเป็นนายตัวเอง ต้องเป็นผู้นำตัวเอง นำตัวเองไปสู่เป้าหมาย ถ้านำตัวเอง กระตุ้นตัวเอง ถึงจะทำ Freelance ได้ ถ้าให้แรงบันดาลใจตัวเองไม่ได้ อย่าออกมาทำ Freelance เด็ดขาด
 
ทำงาน Freelance ทั้ง Partime, Fulltime มันเป็นงานท้าทายชีวิตอย่างหนึง เพราะถ้าเราไม่วางแผนตารางงานในแต่ละวัน ก็จะไม่มีผลงานที่หล่อเลี้ยงบริษัทฟรีแลนซ์ได้ เมื่อทำฟรีแลนซ์ นักรบรู้สึกได้ก้าวหน้าเร็วกว่าปกติ
 
ทำงานประจำ เงินเดือนขึ้นปีล่ะ 3-8% อนาคตรู้เลยว่าเงินเดือนเท่าไหร่ ถ้าอยากโตเร็วขึ้น เลยทำ Freelance Partime คู่งานประจำไปก้อได้ ผมไม่สนับสนุนให้ทำ Freelance เต็มตัวทันที
 
เราควรยอมรับอย่างหนึ่งว่า ยุคนี้บริษัทเล็กใหญ่โดดเข้าออนไลน์กันเยอะแล้ว บุคคลทั่วไปจะมาทำ E-Commerce เต็มตัว ควรวางแผนดีๆ ทำคู่งานประจำไปก่อน เพราะมันมีแต่มืออาชีพมาลงเล่นนะ
 
สรุป หลักการทำงานของฟรีแลนซ์ SEO
การลงตารางการทำงานล่วงหน้า ทำให้เรารู้ตัวล่วงหน้าว่างานจะหมด ให้รีบทำการตลาดหางานเพิ่มได้ จะได้มีกินมีใช้ตลอดทั้งปี และอย่าลืมเอาเงินเหลือมาลงทุนเน้อ ^___^
ลุย
https://warrior.in.th/freelance-seo/job/work-principle/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/job/work-principle/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 09, 2021, 02:34:01 pm
ผลลัพธ์การทำ SEO & Digital Marketing ปี 2562
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2016/07/seo-stat-graph-rank.jpg)

เล่าประสบการณ์ทำ SEO & Digital Marketing ให้เว็บไซต์ของนักรบ ทั้งต้นทุน สถิติ และยอดขาย เพื่อเป็นแนวทางให้นักการตลาดดิจิทัลหรือนักธุรกิจนำไปปรับใช้ครับ

ผลงานการทำ SEO ปี 2562
เว็บไซต์นักรบ
สถิติคนเข้าชม 36,782 คน/ปี
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2018/12/%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B8%95%E0%B9%8C-Warrior.webp)
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2020/01/warrior-web-traffic-google-analytic.jpg)

ธุรกิจรับทำ SEO & Digital Marketing ใช้เงินลงทุนการตลาดออนไลน์หลักพัน เพิ่มคนเข้าเว็บ ธุรกิจมั่นคง ค้าขายมีกำไร
        - เข้าชมผ่านการทำ SEO 14,019 คน/ปี
        - เข้าชมโดยตรง 13,920 คน/ปี
        - เข้าชมผ่าน Social 3,499 คน/ปี
        - เข้าชมผ่านการเว็บไซต์อื่น  3,696 คน/ปี
        - เข้าชมผ่านการลงโฆษณา Google Ads 511 คน/ปี
เงินต้นทุนและยอดขาย
        - เงินลงทุน Digital Marketing  10,000 บ./ด.
        - ยอดขาย 1-2 ล้าน/ปี

เว็บไซต์ธุรกิจอาหาร
สถิติคนเข้าชม 107,437 คน/ปี
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2018/12/%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B8%95%E0%B9%8C-bravelife.webp)
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2020/01/bravelife-website-analtyic.jpg)

เชฟหมวย สอนทำสลัด ธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร ใช้เงินลงทุนการตลาดออนไลน์หลักพัน เพิ่มคนเข้าเว็บไซต์ ธุรกิจมั่นคง ค้าขายมีกำไร
        - เข้าชมผ่านการทำ SEO 86,866 คน/ปี
        - เข้าชมผ่านการลงโฆษณา Google Ads 11,469 คน/ปี
        - เข้าชมโดยตรง 8,565 คน/ปี
        - เข้าชมผ่าน Social 1,932 คน/ปี
        - เข้าชมผ่านเว็บไซต์อื่น 377 คน/ปี
เงินทุนและยอดขาย
        - เงินลงทุน Digital Marketing  1,500 บ./ด.
        - ยอดขาย 3-5 แสนบาท/ปี
ข้อสังเกต :
        - จำนวนคนเข้าเว็บจากการทำ SEO สูงถึง 79.54%

เว็บไซต์ขายของออนไลน์
สถิติคนเข้าชม 73,060 คน/ปี
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2018/12/%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B8%95%E0%B9%8C-%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A1.webp)
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2020/01/zearn-website-analtyic.jpg)

เซียนร่ม โรงงานผลิตร่ม ธุรกิจขายของออนไลน์ ใช้เงินลงทุนการตลาดออนไลน์ 15,000 บ./ด. เพิ่มคนเข้าเว็บไซต์ ธุรกิจมั่นคง ค้าขายมีกำไร
        - เข้าชมผ่านการทำ SEO 50,061 คน/ปี
        - เข้าชมโดยตรง 18,383 คน/ปี
        - เข้าชมผ่านการลงโฆษณา Google Ads 3,144 คน/ปี
        - เข้าชมผ่าน Social 1,726 คน/ปี
เงินลงทุนและยอดขาย
        - เงินลงทุน Digital Marketing  15k บ./ด.
        - ยอดขายมากกว่า 10 ล้าน/ปี
ข้อสังเกต :
        - จำนวนคนเข้าเว็บจากการทำ SEO สูงถึง 67.62%

แชร์สถิติ การใช้เงินโฆษณา 3,000 บาท/เดือน เพิ่มลูกค้า Add Line@ 300 คน/เดือน
แชร์สถิติการใช้เงินโฆษณา 3,000 บาท/เดือน เพิ่มลูกค้า Add Line@ 300 คน/เดือน (เพราะตอนเริ่มต้นมีงบเท่านี้)

ไม่ได้หมายความว่า เอาเงินโฆษณามาหาคนเพิ่ม Add Line โดยตรง แต่ใช้เงินโฆษณา Google Ads + Facebook เพื่อพาคนเข้าเว็บก่อน แล้วลูกค้าก็ Add Line@ ด้วยตัวเอง เพือคุยกับฝ่ายขาย

สถิติจากเว็บไซต์ขายของออนไลน์ เป็นเว็บขายส่ง/ปลีก/ผลิต (ไม่มีระบบตระกร้า ปิดการขายใน line@ อย่างเดียว)

งบโฆษณา 3,000 บาท/เดือน ถูกใช้กับอะไรบ้าง ?
        - แบ่งใช้ Google Ads 80%
        - แบ่งใช้ Facebook Ads 20%
        - เน้นทำ Facebook Ads พาคนเข้าเว็บ
        - เน้นทำ SEO หวังผลใน 6 เดือน – 1 ปี (ช่วงแรกหวังยอดขายจาก Ads)
        - เน้น Update และเพิ่ม Content ทุกวัน ทั้งสินค้า บทความ และวีดีโอ

ผลลัพธ์
การใช้เงินโฆษณา 3,000 บาท/เดือน เพื่อทำ Digital Marketing โดยเน้น Google Ads ,, Facebook Ads และ Content Marketing ด้วยบทความและวีดีโอเป็นหลัก
        - คน Add Line@ ล่าสุดเดือนละ 300 คน/ เดือน
        - ปัจุบัน Addline@ 5186 คน (ไม่เคยบรอดแคสแต่มี block ถึง 913 คน)
        - อัตราคน Add Lin ต่อจำนวนคนเข้าเว็บ คือ 5% คือ คนเข้า 100 คน Add 5 คน
        - คุยใน Line@ วันล่ะ 10-20 คน โดยเฉลี่ย

นักรบสรุป
สถิตินี้เป็นประสบการณ์ของนักรบ สำหรับเว็บไซต์ขายของออนไลน์ ปลีก/ส่ง/ผลิต ฉะนั้นไม่สามารถใช้อ้างอิงกับทุกธุรกิจที่แตกต่างกันออกไปได้ครับ คนอ่านต้องปรับประยุกต์กับธุรกิจตัวเองครับ
https://warrior.in.th/seo-goal/seo-result/ (https://warrior.in.th/seo-goal/seo-result/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 09, 2021, 02:35:22 pm
การเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจด้วยเว็ปไซต์ Web Traffic โต 39.02% ยอดขายโต 30กว่า% แปรผันตรงตามกัน

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2019/07/website-traffic-growth-increase-income-3.jpg)

การเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจด้วยเว็บไซต์นั้นทำได้ง่าย โดยการเพิ่มจำนวนคนเข้าเว็บ (Web Traffic) จาก Keyword ที่กลุ่มเป้าหมายเราค้นหา
สถิติจากเว็บไซต์ล่าสุดโตขึ้น 39.02% ส่งผลให้ยอดขายโตขึ้น 30กว่า% แปรผันตรงตามกัน ยิ่งคนเข้าเยอะยอดขายก็โตตามกัน ขอเพียงจำนวนคนเข้าเว็บนั้นมาจาก Keyword ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของเราด้วย (ไม่ควรเพิ่มคนเข้าเว็บไซต์เพียงอย่างเดียวโดยไม่สนใจกลุ่มเป้าหมาย)

ตัวอย่างเว็บไซต์ Hongthaipackaging โรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษ มีคนเข้าเว็บไซต์โตขึ้น 39.02% ในเดือน ก.ค. 62 ส่งผลให้ยอดขายโตขึ้นตาม

3 วิธีเพิ่มคนเข้าเว็บไซต์ ที่นักรบใช้กับเว็บนี้
         1. เพิ่มคนเข้าเว็บด้วย Google Ads (PPC) เทคนิคการประหยัดเงินคือ ทำคะแนนคุณภาพ keyword ให้มากกว่า 7 เต็ม 10
         2. เพิ่มคนเข้าด้วย Social ซึ่งนิยมผ่าน Facebook Ads, Organic Reach
         3. เพิ่มคนเข้าด้วย SEO ใช้เวลา 6 เดือนถึง 1 ปี

ในกรณีที่ใช้งบโฆษณาใน Google และ Facebook เต็มวงเงินแล้ว นักรบเหลือทางเดียวที่จะช่วยเพิ่มคนเข้า คือ เร่งการทำ SEO ให้ติดหน้าแรกเร็วๆ เพื่อเพิ่มคนเข้าให้เยอะขึ้นนั้นเอง

แชร์ประสบการณ์การทำ SEO โดยนักรบ
ลุย!!!
https://warrior.in.th/seo-goal/web-traffic-growth-income-increase/ (https://warrior.in.th/seo-goal/web-traffic-growth-income-increase/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 09, 2021, 02:37:53 pm
เปลี่ยนชีวิตจาก Webmaster ใน Office สู่ Freelance Digital Marketer (SEO,SEM,WordPress)

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2019/07/seo-freelance-black-monster-coffee-huahin.jpg)

ตลอดระยะเวลา 8 ปี ในเส้นทางการเป็นลูกจ้างมืออาชีพทำเว็บไซต์ในบริษัท 3 แห่ง นักรบมีคำถามกับตัวเองบ่อยๆเสมอ 2 ข้อ

ข้อแรก – ทำอย่างไรให้มีเงินเดือนเยอะขึ้นเรื่อยๆ
พบคำตอบว่า ต้องเก่งภาษา ทำงานกับบริษัทใหญ่ และ มีฝีมือทำผลงานออกมาต่อเนื่อง อีกทั้งพรีเซ้นผลงานเป็น ย้ายงานเพื่ออัพเงินเดือนพร้อมหาประสบการณ์ใหม่ๆบ้าง นั่นคือคำตอบคร่าวๆที่เจอมากับตัวและหาอ่านจากพันทิป ถ้าอยู่ที่เดิม อย่างเก่งเงินเดือนเพิ่มปีล่ะ 1-2 พัน ย้ายงานที มีสิทธ์เพิ่ม 5 พันอัพ ++ ได้ หรือโดนดึงตัว โดนรั้งตัวอยู่ที่เดิม ก็เสนอเงินเดือนได้ แต่การมีรายได้ทางเดียวจากงานประจำ มันเหมือนเข็มฝังใจ ค่อยทิ่มแทงใจให้ไม่กล้าเสี่ยง หรือกล้าชน กล้าลุยมาก เพราะจะกระทบกับหน้าทีการงาน จากการเมืองในบริษัท

ข้อสอง – ทำไมเรามีรายได้ทางเดียวจากบริษัทที่เดียว ในขณะที่เจ้าของบริษัทมีรายได้หลายทางและจากหลายคน
มันเลยทำให้เราฉุกคิด และเริ่มทำงาน Freelance หลังเลิกงาน เพื่อสร้างรายได้ที่ 2 และมันทำให้เราเก่งขึ้น พอเริ่มทำ Freelance หลักเลิกงาน สร้างรายได้ที่ 2 เลยทำให้มั่นใจ กล้าลุยมากขึ้น แม้โดนไล่ออกจากงานประจำ ก็ยังมีรายได้อีกทางรองรับ ณ ปัจจุบัน รายได้ที่ 2 จากการทำ Freelance หลังเลิกงาน มันกลายเป็นรายได้หลักไปแล้ว และเลือกทำงานที่บ้าน หรือ Co-Working Space & Coffee ทั่วประเทศได้ ปัจุบันเป็นนักการตลาดดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งด้าน SEM,SEO เป็นหลักครับ หากสนใจสร้างอาชีพให้ตัวเองเกี่ยวกับนักการตลาดดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งด้าน SEO,SEM,WordPress ขอให้ติดตามนักรบได้ครับ ขอบคุณภาพประกอบจาก Credit Image https://www.facebook.com/blackmonstercafe/ (https://www.facebook.com/blackmonstercafe/)
https://warrior.in.th/freelance-seo/job/office-webmaster-to-freelance-digital-marketer/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/job/office-webmaster-to-freelance-digital-marketer/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 09, 2021, 02:48:29 pm
อย่าเทงบการตลาดทั้งหมดไปที่ Google & Facebook Ads เพียงอย่างเดียว

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/10/seo-online-marketing-training-wordpress-website.jpg)

โลกออนไลน์ การแข่งขันสูง วิธีลงโฆษณา Adwords และ Facebook Ads อย่างเดียวพอใหม?
ในธุรกิจออนไลน์ที่มีการแข่งขันสูง วิธีการโฆษณาเดิมๆ ที่เรามักจะใช้อยู่คือการ อัดเงินโฆษณา Google Adwords และ Facebook Ads และมันก็ไม่แปลกหรอก ถ้าคุณจะใช้มัน เพราะใครๆก็ใช้ อีกทั้งบริษัททำโฆษณาออนไลน์ต่างๆ ก็ประเคนความรู้ และความเชื่อให้คุณว่าคุณต้องทำ Google Adwords และ Facebook Ads นะ ถึงจะทำให้ธุรกิจร่ำรวย ค้าขายมีกำไร


ธุรกิจเล็กๆ จะสู้คู่แข่งในโลกออนไลน์ได้อย่างไร ?
ถ้าคุณเป็นนักธุรกิจตัวเล็กๆ ที่มีกิจการเล็กๆเป็นของตัวเอง คุณจะสู้คู่แข่งที่มีเงินทำโฆษณามากมายกว่าคุณหลายเท่าได้อย่างไร ในเมื่อเงินในกระเป๋าคุณมันมีน้อยกว่ามาก ทำไมคุณยังใช้วิธีการเดิมๆ เช่น Google Adwords และ Facebook Ads เพียงอย่างเดียวอยู่ มันน่าจะมีวิธีการอื่นๆ อีก ที่คนทำธุรกิจเงินน้อย ทุนน้อย เวลาน้อย จะสู้ได้แบบยั่งยืน และไม่เสียเปรียบทางธุรกิจมากนัก วันนี้เราไม่ต้องคุยกันเลยว่า จะใช้เงินทำโฆษณาอย่างไร เรามาคุยกันว่า มีวิธีการไหนบ้าง ที่จะทำให้คนทำธุรกิจตัวเล็ก สามารถสู้กับธุรกิจตัวใหญ่ ในจุดที่เราแข็งแกร่งกว่าและได้เปรียบได้ ถ้ามีคุณมีไอเดียดี อย่ารอช้าที่จะ Comment บอกผม เพราะผมจะบอกไอเดียที่ผมทำอยู่ทุกวันให้ครับ


มองในมิติรายได้ของ Google และ Facebook
ก่อนอื่น คุณต้องเข้าใจโลกออนไลน์ก่อนว่า ยุคนี้ บริษัทที่ให้บริการออนไลน์ และมีผลกับธุรกิจออนไลน์ของคุณ คือ Google และ Facebook ฉะนั้นคุณต้องเข้าใจการทำงานของ Google และ Facebook ในมิติของการสร้างรายได้ของ Google และ Facebook ก่อน ทำไมต้องเข้าใจมิติของการสร้างรายได้ของ Google และ Facebook นั้นก็เพราะ คุณจะรู้ว่า เวลาส่วนใหญ่ที่บริษัทยักษ์ใหญ่นี้ประเคนความรู้เข้าหัวคุณ และคู่แข่งของคุณคืออะไร และอะไรที่ Google และ Facebook ไม่ค่อยบอกคุณ ถ้าคุณรู้คร่าวๆเพียงพอ คุณจะพอมองเห็นช่องว่างในการทำการตลาดออนไลน์ที่คู่แข่งคุณไม่เห็นครับ


ทำไม เราจึงถึงยินคำว่า Adwords บ่อยมาก ?
ในกรณีนี้ ผมขอยกเฉพาะเรื่อง Google ก่อน Google ทำเงินได้มากมายผ่าน Google Adwords เขาจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ในการพัฒนาบริการนี้ให้ดีขึ้น ใช้ง่ายขึ้น และดึงเงินออกจากกระเป๋าคุณง่ายมากขึ้น (หากใครมีประสบการณ์การใช้ Adwords จะทราบว่า จะมี Keywords ใหม่ๆ ให้คลิ๊กใส่ Auto เสมอๆ ทั้งที่จริงถ้าคุณคลิ๊ก มันจะส่งผลแย่กับโฆษณาของคุณในอนาคตครับ ) ในทางกลับกัน Google SEO กลับเป็นสิ่งที่ Google ไม่บอกคุณมากนัก และปล่อยให้นักการตลาดทั่วไปเรียนรู้กันเอง Google SEO นักการตลาดยังต้องเรียนรู้และทดลองทำกันเอง แล้วมีหรือที่เจ้าของธุรกิจจะทราบรายละเอียดเชิงลึก นั้นหมายความว่า ธุรกิจใหญ่ๆ และธุรกิจทั่วไป ไม่ทราบเรื่อง Google SEO ดีพอ Google SEO มีความสลับซับซ้อนและยุ่งยากกว่า Google Adwords มาก อีกทั้งบริษัทรับทำโฆษณาต่างๆ มักจะหยิบเอา Google Adwords มาสร้างรายได้ด้วยการขายโฆษณา จัดสอน และจูงใจเจ้าของธุรกิจ ด้วยคำพูดง่ายๆ เช่น ROI ที่คุ้มค่า ที่มักได้ยินกันบ่อยครับ เพราะ Google Adwords มันดึงเงินและทำได้ง่าย บริษัทส่วนใหญ่จึงใช้มันหว่านล้อมเจ้าของธุรกิจที่สนใจทำการตลาดออนไลน์นั่นเอง


โอกาสข้อหนึงของธุรกิจขนาดเล็กของเราอยู่ตรงไหน ?
นี้คือโอกาสของธุรกิจเล็กๆ ถ้าคุณเข้าใจการทำงานของ Google SEO คุณจะใช้มันเป็นอาวุธหลักในการทำธุรกิจออนไลน์ได้ แทนที่จะใช้ Adwords เพียงอย่างเดียวครับ หากใช้ Google Adwords เพียงอย่างเดียว คุณเสร็จธุรกิจใหญ่ๆแน่ๆครับ คุณต้องพัฒนาทักษะหลายด้านเกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์ก่อน โดย 1 ในนั้น คือ การการตลาดผ่าน Google SEO ที่นักรบจัดสัมมนาขึ้นมานี้เอง วันที่คุณเข้าใจ Google SEO ดีพอ ผมกล้ารับประกัน มันจะทำให้คุณทำ Google Adwords ประหยัด และมีประสิทธิภาพกว่าเดิมอย่างน้อย 2 เท่า เมื่อถึงเวลานั้น คุณจะรู้ว่า Google SEO ควรใช้เป็นกลยุทธ์หลักในการทำการตลาดออนไลน์ และใช้ Google Adwords เป็นกลยุทธ์เสริมในการโปรโมทสินค้าครับ
https://warrior.in.th/freelance-seo/marketing/online-marketing-digital-business/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/marketing/online-marketing-digital-business/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 09, 2021, 03:55:26 pm
5 ปี กับการเป็น SEO & Digital Marketing Freelance นักรบได้อะไรบ้าง ?

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2019/07/seo-freelance-black-monster-coffee-huahin.jpg)

แชร์ประสบการณ์การเป็นฟรีแลนซ์ในกลุ่ม Digital Marketing ให้ครับ ถ้าได้ลองเสิร์ชหาข้อมูลต่างๆในอินเตอร์เนต คุณจะพบบทความมากมายที่พูดถึงเรื่องนี้ แน่นอนผมก็อ่านมันมาบ้างเหมือนกัน มันมีทั้งแง่มุมที่เป็นด้านลบ ด้านบวก หรือด้านจูงใจเรา ให้อยากก้าวสู่อาชีพฟรีแลนซ์ ซึ่งมันก็เหมือนๆกันทุกอาชีพ มีข้อดีและข้อเสียปะปนกัน

ฟรีแลนซ์ คือ อาชีพรับจ้างอิสระ ที่ไม่ขึ้นตรงต่อหน่วยงาน หรือองค์กร หรือบริษัทใด ๆ จะต้องจัดตารางเวลาการทำงานของตนเอง การรับเงินจากนายจ้าง ก็จะเป็นลักษณะใดก็แล้วแต่ตกลงกัน ซึ่งอยู่บนพื้นฐานความพึงพอใจของทั้งฝ่ายนายจ้าง และฝ่ายลูกจ้าง (อ้างอิงจาก https://th.wikipedia.org/wiki/ฟรีแลนซ์ )

ข้อดีของฟรีแลนซ์ และสิ่งหนึ่งที่ผุดขึ้นในใจ คือ
อยากพัฒนาตัวเองในสิ่งที่ตัวเองอยากพัฒนา สามารถกำหนดเรื่องที่อยากเรียนรู้ได้ เราอยากเก่งเรื่องไหน อยากรู้เรื่องอะไรก็ทำได้เลย ขอเพียงว่าเรื่องนั้นมันเกี่ยวกับงานที่ทำอยู่ด้วย ตรงกันข้ามกับการทำงานประจำที่เราอาจไม่ได้กำหนดเองทั้งหมด อยากมีเวลาที่ยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้เองอิสระ ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน มันจะดีกว่าถ้าเรามีเวลาให้กับคนที่เรารักได้มากขึ้น ได้อยู่บ้านกับพ่อแม่และครอบครัว จริงๆแล้ว มันมีข้อดีอีกมากที่ผุดขึ้นในใจ หลังจากที่ได้เป็นฟรีแลนซ์ไปแล้วสักระยะ แต่นั้นก็ไม่ได้สำคัญอะไรมากมายที่จะเอ๋ยถึง ผมมีเรื่องอื่นที่อยากเอ๋ยถึงมากกว่า

ฟรีแลนซ์ มีข้อเสียเหมือนกับอาชีพอื่นๆ
นี้คือเรื่องจริงว่าฟรีแลนซ์มีข้อเสียเหมือนกัน แต่นั้นไม่สำคัญสำหรับผมเลย เพราะว่าข้อดีเพียงไม่กี่ข้อในอาชีพนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้เรากล้าที่จะวางแผนและลงมือทำ ผลักตัวเองสู่ฟรีแลนซ์เต็มตัวอย่างมั่นคงในระดับหนึงได้ ส่วนข้อเสียผมแก้ไขยังไง เดี๊ยวจะบอกครับ

วิธีแก้ไขข้อเสียของการเป็นฟรีแลนซ์ แบบนักรบ
เอ๋ยถึงข้อเสียใหญ่ๆของอาชีพนี้ ที่ผมพบเจอกับตัวเองมานะครับ ส่วนข้อเสียอื่นๆก็ไปเจอกันเองกับตัวเองเวลาลงมือทำละกัน ทำไปแก้ไขไปเดี๊ยวก็ทำเป็น เอาล่ะมาดูวิธีแก้ไขข้อเสียหลักๆกันเลย
         - แก้ไขการกดราคา การตัดราคา บอกก่อนว่าเรื่องนี้มีทุกอาชีพ มันเป็นปัญหาพื้นฐานมากๆ ผมไม่ได้คิดราคาไว้สูงหรือต่ำเกินไปตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และเป็นราคากลางๆที่ผมรับได้ ฉะนั้นที่เหลือ คือ พัฒนาตัวเราให้ดีกว่าราคาที่ตั้งไว้ก็พอ
         - แก้ไขปัญหาไม่มีลูกค้า ไม่มีลูกค้า เพราะทำการตลาดให้ตัวเองไม่เป็น การเป็นฟรีแลนซ์นั้นต้องมีส่วนผสมของนักการตลาดในตัว สามารถพรีเซนต์ผลงานให้ลูกค้าเห็นได้ ลองอ่านหนังสือชื่อ ” Show Your Work มีของดีต้องให้คนอื่นขโมย ” ดูสิ หรืออย่างน้อยๆคุณควรเขียน Blog หรืออัพเดทผลงาน Portfolio สม่ำเสมอๆ
         - แก้ไขเรื่องที่ว่า “คนจ่ายเงิน มีอำนาจเสมอ ” บ่อยครั้งที่คนจ่ายเงิน จะแสดงความมีอำนาจเหนือฟรีแลนซ์มากเกินไป ไม่รับฟังความคิดเห็นใดๆจากฟรีแลนซ์เลย ทำให้เกิดการแก้ไขงานบ่อยครั้ง ทำให้งานนั้นไม่สนุกและส่งผลต่อความสุขในการทำงานของฟรีแลนซ์อีกด้วย ปัญหานี้แก้ไขด้วยการกำหนดจำนวนครั้งในการแก้ไขงาน เช่น 2 ครั้งเท่านั้น ถ้าเกินกว่านี้จะมีค่าบริการแก้ไขเพิ่มเติม เป็นต้นครับ ^__^

บางครั้งข้อเสียที่เกิดขึ้น นั้นมาจากตัวเราเอง เราควรมองตัวเอง ควรแบ่งเวลาเพื่อพัฒนาตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆด้วยนะครับ

ต้นทุนของฟรีแลนซ์ แบบนักรบ
ทุกอาชีพมีต้นทุน ฉะนั้นก่อนที่จะคุณจะโลดแล่นในยุทธภพของฟรีแลนซ์สายงาน Digital Marketing คุณควรมีสิ่งสำคัญๆตามหัวข้อนี้ก่อนครับ
         - ทักษะความชำนาญเฉพาะด้านการงาน ที่เป็นที่ต้องการของตลาด ส่วนใหญ่ฟรีแลนซ์จะอยู่ในสายงานการตลาดครับ ฉะนั้นก่อนเป็นฟรีแลนซ์คุณควรฝึกทักษะเฉพาะด้านในงานประจำก่อน และควรทดสอบรับงานฟรีแลนซ์เพิ่ม เพื่อเช็คตัวเองว่ามีความพร้อมในด้านนี้แล้วหรือยังครับ ซึ่งผมเคยเป็นพนักงานประจำเกือบ 10 ปี ก่อนออกมาทำฟรีแลนซ์ครับ
         - ทักษะความชำนาญที่หลากหลาย ส่งเสริมกัน ถ้าคุณเป็นฟรีแลนซ์ในสายงาน Digital Marketing คุณควรมองทักษะต่างๆเหล่านี้และเรียนรู้มาใช้ประกอบกัน อย่างน้อยๆคุณควรได้มากกว่าครึ่งหนึงที่ผมเขียนไว้ ในหัวข้อเหล่านี้
                     - ถ่ายภาพและรีทัชได้
                     - เขียนบทความได้ ที่เหมาะกับ Social Media และใน Website
                     - ออกแบบได้
                     - ถ่ายวีดีโอและตัดต่อวีดีโอได้
                     - ลงโฆษณาได้ทั้ง Social Media และ Search Engine
                     - วิเคราะห์ ประสานงาน วางแผนการตลาดและติดตามผลได้ การมีทักษะที่หลากหลายจะช่วยเพิ่มโอกาสได้งานมากขึ้น ในช่วงเริ่มต้นการเป็นฟรีแลนซ์ครับ
         - ทักษะความชำนาญด้านการตลาดให้ตัวเอง ควรมีเวลาอย่างน้อย 1-2 ชม./วัน ในการทำการตลาดให้ตัวเอง อย่างน้อยๆควรเขียน Blog หรือ อัพเดท Portfolio ครับ
         - ทักษะการบริหารเวลาและบริหารเงิน เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ แต่เนื่องจากผมไม่ได้เก่งมันมากพอที่จะแนะนำ และมีคนสอนการเงินและการบริหารเวลาได้เก่งกว่าผม คุณลองเสิร์ชหาความรู้เพิ่ม ผมบอกได้เพียงว่า คุณควรใช้เวลาไปกับการพัฒนาตัวเองก่อนการหาเงินเสมอ เมื่อคุณเก่งมากพอและทำการตลาดให้ตัวเองมากพอ เมื่อนั้นงานที่มีราคาจะวิ่งมาหาคุณ จนคุณเลือกที่จะปฏิเสธบางงานได้

ในช่วงเริ่มต้นการเป็นฟรีแลนซ์ คุณควรมีเงินเก็บมากเพียงพอใช้จ่ายสำหรับ 1 ปี และมีหนี้ให้น้อยที่สุด คุณอาจไม่มีรายได้มากนักในช่วงแรก คุณควรมีเวลาในการปรับตัวและมีเงินใช้จ่ายมากพอโดยไม่ขัดสน ซึ่งถ้าให้ดี ผมขอแนะนำให้คุณทำฟรีแลนซ์พร้อมๆกับการทำงานประจำไปก่อน และหมั่นอัพเดทเว็บไซต์ทำการตลาดให้ตัวเองเสมอๆ

Timeline 5 ปีของนักรบ
         - ปี 57 : นักรบเป็น Webmaster ทำประจำเงินเดือนเดือนล่ะ 28k/m และทำงานเสริมมาแล้ว 7 ตัว คู่งานประจำ
         - ปี 58: จดบริษัทนักรบ และเรียนรู้การสร้างบริษัทฟรีแลนซ์
         - ปี 59: สอน WordPress จากประสบการณ์ในงานรับทำ WordPress
         - ปี 60: สอน SEO & Google Ads จากการเรียนรู้และลงมือทำ
         - ปี 61: จดโดเมนทำเว็บไซต์ ขายของออนไลน์ร่วมกับนักขาย ส่งเสริมให้มียอดขาย 15 ล้าน/ปี โดยทีมนักรบ ใช้งบ Google Ads เพียง 1,500-3,000 บาท/เดือนเท่านั้น และใช้ SEO & Content Marketing เป็นส่วนใหญ่
แนะนำให้คนอื่น ทำธุรกิจค้าขายออนไลน์แบบ B2B ขายส่ง/ปลีกจากผู้ผลิตหรือโรงงาน เพราะยังมีโอกาสอยู่ ในช่วงที่สินค้าจีนไม่ได้เข้ามาเยอะแล้วขนาดนี้ และมองเห็นโอกาสนั้นจากประสบการณ์ส่วนตัว
         - ปี 62-63 : ทีมนักรบ รับทำ SEO & Digital Marketing โดยเน้น Website, SEO & Web Content Marketing เป็นหลัก ให้บริษัททุนจดทะเบียนกว่า 100,000,000 บาท เพื่อท้าทายตัวเองว่าจะรับงาน Scale ใหญ่ขึ้นได้ไหม

กำไรของการเป็นฟรีแลนซ์
กำไรที่ได้รับมากที่สุดคือ การมีอิสระในการเลือกที่จะพัฒนาในสิ่งที่เราสนใจ โฟกัสในสิ่งที่เราชอบและสอดคล้องกับงานด้าน Digital Marketing อันเป็นที่ต้องการของตลาด พอเราเก่งและมีความสามารถมากพอจนเป็นที่รู้จัก จะสร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจให้เกิดขึ้นในตัวของลูกค้าของเรา ลูกค้ามักจะเลือกทำงานกับมืออาชีพเสมอๆ ฉะนั้นจงเรียนรู้ที่จะเป็นมืออาชีพในสายงานที่ถนัดครับ

นักรบเคยเป็นฟรีแลนซ์ด้านไหนบ้าง ?
ผมมีประสบการณ์การเป็นฟรีแลนซ์อยู่ 2 ด้านหลักๆ คือ ฟรีแลนซ์รับทำเว็บไซต์และรับทำ SEO ดังนี้ครับ
         - ฟรีแลนซ์รับทำเว็บไซต์ด้วย WordPress เคยแชร์ประสบการณ์ไว้นานแล้วที่ ” ฟรีแลนซ์รับทำเว็บไซต์ WordPress เก็บเงินแสนใน 1 ปี ” ประสบการณ์รับทำเว็บในราคาช่วง 10,000 – 50,000 บาท/เว็บ
         - รับทำ SEO ทำให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกกูเกิลเสิร์ช ให้กับผู้เรียนของนักรบ

ฝากถึงคนอยากเป็นฟรีแลนซ์
ทุกอาชีพมีข้อดี-ข้อเสียด้วยกันทั้งหมด เราไม่สามารถหาอาชีพที่มีแต่ข้อดีเพียงอย่างเดียวได้ ฟรีแลนซ์ก็เช่นกัน ฉะนั้นจงศึกษาในแต่ละอาชีพที่สนใจ และลองวางแผนเพื่อลงมือทำอย่างรวดเร็วที่สุด ค้นหาว่ามันคือสิ่งที่เหมาะกับตัวเองหรือไม่ เราจะได้คำตอบก็ต่อเมื่อเราได้ลงมือทำจริงๆแล้วเท่านั้นครับ

" เป็นกำลังใจให้ทุกคน ที่กำลังค้นหาอาชีพที่ตัวเองชอบครับ "

เป็นยังไงบ้างครับ หวังว่าประสบการณ์นักรบจะมีประโยชน์กับคนอ่านบ้าง ถ้ามีอะไรสงสัยเพิ่มเติมฝากคำถามไว้ได้ ถ้าสนใจติดตามเรื่องราวการทำธุรกิจแบบนักรบ สามารถติดตามได้ทาง Social Media และ Website นักรบได้ครับ
https://warrior.in.th/freelance-seo/job/freelance-warrior/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/job/freelance-warrior/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 09, 2021, 03:58:07 pm
วิธีจัดอันดับเว็บไซต์ และการทำงานของ Google Search

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2018/09/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B8%95%E0%B9%8C-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87-Google-Search.webp)

นักธุรกิจที่มีเว็บไซต์ไว้เพื่อจำหน่ายสินค้าและบริการ  ก็เปรียบเสมือนการมีร้านค้าของตนเองอยู่บนโลกออนไลน์  และสิ่งหนึ่งที่คนมีร้านค้าออนไลน์หรือมีเว็บไซต์ต้องการ ก็คือ การทำให้เว็บไซต์ติดอยู่หน้าแรกๆในการค้นหา (Google Search) เพื่อให้ลูกค้าสามารถค้นพบสินค้าและบริการได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น แต่การจะทำให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกๆของ Google ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และยังต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ “How Google Works” กูเกิลทำงานอย่างไร?   หากหาคำตอบหรือทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีจัดอันดับเว็บไซต์ และการทำงานของ Google Search ได้อย่างถูกต้อง กระบวนการทำงานตามหลัก SEO ( Search Engine Optimization) หรือการทำให้เว็บไซต์นั้นติดอันดับจากการค้นหาด้วยคีย์เวิร์ด ก็ไม่ใช่เรื่องยาก

วิธีการทำงานของ Google Search
Google มีกระบวนการทำงาน 3 ขั้นตอนพื้นฐาน ในการสร้างผลการค้นหาจากหน้าเว็บ ได้แก่ การรวบรวมข้อมูล การบันทึกไว้ในดัชนี และแสดงผลในผลการค้นหา (จัดอันดับเว็บไซต์) ซึ่งแต่ละขั้นตอนมีรายละเอียดและหลักเกณฑ์ในการแสดงผลลัพธ์ ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 การรวบรวมข้อมูล การรวบรวมข้อมูล ก็คือขั้นตอนการค้นหาซึ่ง Google จะทำการค้นหาหน้าเว็บใหม่ๆอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรวบรวมข้อมูลที่ได้มาเพิ่มลงในรายการหน้าเว็บที่เคยรวบรวมไว้แล้ว ซึ่งหน้าเว็บไซต์บางส่วน Google จะค้นพบโดยการตามลิงก์จากหน้าเว็บที่รู้จักไปยังหน้าเว็บใหม่ ส่วนหน้าเว็บอื่นๆ จะค้นพบเมื่อมีการสร้างเว็บใหม่และมีการอัปเดทข้อมูล ดังนั้นเพื่อให้ Google รู้จักและค้นพบเว็บไซต์ได้เร็วขึ้น จะต้องมีลิงก์จากเว็บไซต์อื่นซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่มีอยู่ในข้อมูลแล้ว  และเมื่อ Google ตามลิงก์ดังกล่าว เว็บไซต์ก็จะได้รับการรวมรวมและบันทึกข้อมูลไว้  หลังจากนั้นเว็บก็จะปรากฏในผลการค้นหาของ Google

ขั้นตอนที่ 2 การบันทึกไว้ในดัชนี หลังจากพบหน้าเว็บแล้ว Google จะพยายามทำความเข้าใจเนื้อหาของหน้าเว็บ กระบวนการนี้เรียกว่าการจัดทำดัชนี จากนั้น Google จะทำการวิเคราะห์เนื้อหาของหน้าเว็บ  เพื่อกำหนดว่าจะแสดงหน้าใดในลำดับใดวิธีการทำงานของกระบวนการนี้เป็นความลับ ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าปัจจัยใดที่กำหนดลำดับของผลการค้นหา

ขั้นตอนที่ 3 แสดงผลในผลการค้นหา หลังจากที่ผู้ค้นหาพิมพ์สิ่งที่ต้องการหาในช่อง search ของ Google ระบบก็จะเริ่มหาข้อมูลและกรองเว็บต่างๆเพื่อแสดงผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในหน้าค้นหา โดยหาจากสิ่งต่างๆของเว็บเช่น ข้อความในเว็บไซต์ ความใหม่และคุณภาพของเนื้อหา ซึ่ง กระบวนการของ Google ในการกำหนดลำดับผลการค้นหา จะไม่คงที่แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างสม่ำเสมอ สำหรับหน้าผลการค้นหาของ Google แสดงลิงก์ประมาณ 7 ถึง 10 ลิงก์ เว็บที่แสดงผลอยู่ในหน้าแรก ให้ผลลัพธ์ในการค้นหาได้ดีที่สุด หากคลิกไปที่หน้าสองของหน้าผลการค้นหาจะแสดงผลลัพธ์ลดลง โอกาสที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจะพบหรือเข้าถึงเว็บไซต์ก็ลดน้อยลงด้วย

SEO และ Google
นักธุรกิจที่มีเว็บไซต์หรือมีร้านค้าออนไลน์เป็นของตนเอง  การศึกษาวิธีจัดอันดับเว็บไซต์ และการทำงานของ Google Search อย่างเข้าใจ ก็จะรู้ว่าการจัดอันดับผลการค้นหาของ Google ทำให้เว็บไซต์ติดอยู่หน้าแรกๆ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น เสนอเนื้อหาที่เป็นประโยชน์  และอัปเดตข้อมูลเนื้อหาอยู่เสมอ  ซึ่งวิธีเหล่านี้ไม่มีค่าใช่จ่ายใดๆ แต่อาจได้ผลลัพธ์ช้า

นักรบขอแนะนำให้เรียนรู้เรื่อง : ปัจจัยการทำเอสอีโอ  SEO Factors เพิ่มครับ การทำ SEO (Search Engine Optimization) คือการเพิ่มประสิทธิภาพทำให้กับเว็บไซต์ ปรากฏอยู่ในอันดับสูงในผลการค้นหาทั่วไป  เมื่อเว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาสูงๆ และอยู่ในหน้าแรกของการค้นหา ก็จะเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างมาก นอกจากสามารถเพิ่มจำนวนลูกค้าและยอดขายให้กับแบรนด์  ยังสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์อีกด้วย
https://warrior.in.th/freelance-seo/job/technical-seo/how-to-rank-websites-and-google-search-functionality/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/job/technical-seo/how-to-rank-websites-and-google-search-functionality/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 10, 2021, 06:12:13 pm
วิธีติดตั้ง WordPress ผ่าน DirectAdmin

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/08/create-website-wordpress-online-business-02-1.jpg)

เรียบเรียงถ้อยคำจากวีดีโอ ” วิธีติดตั้ง WordPress ผ่าน DirectAdmin “
นาทีที่ 0:01 – 02:43
เริ่มต้นเมื่อท่านเช่า Hosting เรียบร้อยแล้ว ท่านจะได้รับ username และ password ในอีเมล์ของท่านในการเข้า login เข้าระบบนั้นเอง

ตัวอย่าง :
       - login>>พิมพ์ username และ password
       - จากนั้นเราจะเข้าสู่หน้าหลัก directadmin โดย hosting จะมีการ support การติดตั้งไว้ให้ ซึ่งให้เรามีเว็บไซต์ที่ดีมาก และสร้างข้อมูลให้เป็นมิตรกับ SEO แถมไต่อันดับ Google ให้ดีขึ้นได้อีกด้วย

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/08/how-to-setting-wordpress-via-direct-admin-1-softaculous-640x340.jpg)

คลิกคำว่า softaculous Auto Installer เพื่อเข้าสู่การติดตั้งโปรแกรม
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/08/how-to-setting-wordpress-via-direct-admin-2-directadmin-640x350.jpg)

คลิกที่ไอคอน WordPress จากนั้นกดคำว่า Install
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/08/how-to-setting-wordpress-via-direct-admin-3-chosse-protocol-640x334.jpg)

วิธีการติดตั้ง
1 Choose Protocol
มีให้เลือก 4 แบบคือ
        - https://
        - https://www.
        - https://
        - https://www.
หากเราไม่ได้จดบริการเพิ่มด้าน SSL เราจะเลือกได้ 2 แบบ แค่ https:// กับ https://www. ในนี้ผมขอเลือกแบบแรกคือ https://

2 Choose Domain
เลือกโดเมนที่จะติดตั้ง

3 In Directory
ค่าพื้นฐานของ wordpress จะติดตั้งใน Folder ที่ชื่อว่า wp ซึ่งท่านสามารถเอาออกได้ ในกรณีต้องการติดตั้ง WordPress ในหน้าแรกของเว็บไซต์ด้วย

4 Database settings
ค่าพื้นฐานของ wordpress คือ wp_ หากเป็นผู้เริ่มต้นใช้งานไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงใดๆ

นาทีที่ 02:44 -06:56
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/08/how-to-setting-wordpress-via-direct-admin-4-enable-640x337.jpg)

5 Site settings
เป็นการตั้งชื่อให้กับเรา ไม่ว่าจะเป็น site name (ส่วนในการตั้งชื่อ), site description (ส่วนที่อธิบายเว็บไซต์), Enable Multisite (การใช้ธีมเดียวสำหรับในการใช้หลายโดเมน)
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/08/how-to-setting-wordpress-via-direct-admin-5-admin-account-640x337.jpg)

6 Admin Account
เป็นการตั้งชื่อให้กับแอดมินเวลาล็อกอินเข้าไป เป็นการใช้ระบบหลังบ้าน มีทั้ง username และ password ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงทั้งสองตัวนี้ได้ ส่วนที่สำคัญอีกอย่างคือ Admin Email ตัวนี้ใช้ในการกู้ password ของแอดมินได้

7 Choose Language
ควรเลือกภาษาไทยในการรองรับ ทำให้ระบบหลังบ้านและหน้าบ้านเป็นภาษาไทย จะทำให้ใช้งานง่าย
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/08/how-to-setting-wordpress-via-direct-admin-7-advanced-options-640x327.jpg)

8 Advanced Options
ในบาง hosting จะไม่ให้แก้ไข database name เพราะต้องไปสร้างและติดตั้ง database name ก่อน แต่ hostatom สามารถให้เราตั้งชื่อ database name ได้

database name เป็นชื่อในการเก็บฐานข้อมูลของเราซึ่งตั้งชื่อได้ไม่เกิน 7 ตัวอักษร

ส่วนของ auto upgrade ค่าพื้นฐานจะมีการปิดเอาไว้ เพื่อป้องกันปัญหา error วิธีการอัพเดตเราควรจะอัพเดตด้วยตัวเอง การเช็คหรือbackup ข้อมูลก่อนการอัพเดต เพื่อป้องกันการผิดพลาด เมื่อผิดพลาดเราสามารถ restore กับมาได้

9 Select theme
ผู้เริ่มต้นควรใช้ ธีมพื้นฐานก่อน หลังจากตรวจเช็คเรียบร้อยแล้ว กดปุ่มติดตั้ง รอให้ระบบติดตั้งถึง 100% ก่อน แต่หากมีข้อผิดพลาด ควรกลับไปเช็คข้อมูลอีกครั้ง
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/08/how-to-setting-wordpress-via-direct-admin-8-sign-in-wordpress-640x332.jpg)


ตัวอย่าง : เราสามารถเข้าเว็บไซต์ผ่านโดเมนตัวแรกได้ ให้กดลิงค์เว็บไซต์ที่เพิ่งติดต้ง จะปรากฏหน้าดังต่อไปนี้
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/08/how-to-setting-wordpress-via-direct-admin-9-page-wordpress-640x337.jpg)

ดังภาพตัวอย่าง เราจะได้เว็บไซต์ของเราเรียบร้อย ที่พร้อมใช้งานในการสร้างเพจ และบล็อคของท่าน และสามารถทำการตลาดออนไลน์ ซึ่งท่านสามารถจัดการได้ด้วยตัวของท่านเอง
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/08/how-to-setting-wordpress-via-direct-admin-10-login-wordpress-640x330.jpg)

ตัวอย่าง : สำหรับการ Login แอดมิน
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/08/how-to-setting-wordpress-via-direct-admin-11-dash-control-640x328.jpg)

หลังจาก login ที่ใส่ username และ password แล้ว จะปรากฎหน้าควบคุมขึ้นมาครับ
https://warrior.in.th/wordpress/setting-wordpress-via-directadmin/ (https://warrior.in.th/wordpress/setting-wordpress-via-directadmin/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 10, 2021, 07:25:19 pm
วิธีจดโดเมน และ เช่า Hosting

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/08/create-website-wordpress-online-business-01-1.jpg)

นาทีที่ 0:01 – 03:03
วิธีการจดโดเมนของเว็บไซต์ ไม่ยากอย่างที่คิด ยกตัวอย่างโดเมนเว็บไซต์ของผมคือ Warrior.in.th สำหรับผู้ที่ต้องการมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง ต้องมีการใช้ผู้ให้บริการพื้นที่หรือเรียกว่า Hosting

ตัวอย่าง Hostatom ( www.hostatom.com (http://www.hostatom.com)) เป็นผู้ให้บริการ hosting

วิธีจดโดเมน
      - เข้าไปคลิกคำว่า Domain>Domain registration
      - เปิดหน้ามาจะปรากฏคำว่า Domain checker คือเป็นตัวเช็คว่า โดเมนของท่านว่างอยู่หรือไม่
      - วิธีการเช็คคือ ใส่รหัสความปลอดภัยก่อน ตามด้วยชื่อ domain ที่ท่านต้องการ ยกตัวอย่าง

ตัวหนังสือคำว่า warriorspirit แล้วคลิกคำว่า search multiple เพื่อเลือกนามสกุลของโดเมน
      - การเลือกนามสกุลพื้นฐานที่แนะนำคือ .com,.net,.orgและ .in.th โดยมีบัตรประชาชนในการลงทะเบียน ค่อนข้างจดได้ง่ายมาก ดูราคาของนามสกุลได้ ว่าจะราคากี่บาทต่อปี
      - เมื่อเลือกนามสกุลได้แล้ว จากนั้นคลิกคำว่า Check Availability เพื่อเช็คว่า โดเดนของท่านว่างหรือไม่ ดังตัวอย่าง โดเมนที่ว่าง(Available Order now)คือ in.th ค่าเช่า hosting 400 บาทต่ออายุการใช้งาน 1 ปี ในกรณีนี้โดเมนที่ชื่อ warrior กับ spirit มีอยู่ในดิกชันนารี ทำให้โดเมนนี้มักจะไม่ว่างในนามสกุล .com,.net,.org แต่จะว่างในนามสกุล in.th เมื่อเลือกว่าจะเช่า host กี่ปีแล้ว คลิก order now

นาทีที่ 03: 04 – 07:04
วิธีจดโดเมน
      - การเลือก hosting หากท่านยังไม่มี hosting คลิกคำว่า [No hosting! Click to add]
      - ในช่วงเริ่มต้น แนะนำ Web hosting ก่อน มีให้เลือกหลายแบบ เช่น Reseller Hosting,VPS Version เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นทำเว็บไซต์ เพราะมีราคาที่ถูกที่สุด
      - Web hosting แบ่งตามขนาดของ disk space เป็นหลัก
      - ยกตัวอย่างตามภาพ : ผมเลือกใช้แพ็คเกจ Web hosting S1 คลิก order now
      - หลังจากออเดอร์เรียบร้อย จะมีคำถามๆว่า

สินค้าหรือบริการที่คุณเลือก จะจัดการกับโดเมนของท่านอย่างไร
      1. ใช้โดเมนที่อยู่ใน shopping cart ที่เราสั่งซื้อเรียบร้อยแล้ว
      2. ให้ Hostatom จดโดเมนใหม่ให้เรา บางครั้งโดเมนที่เลือกอาจจะไม่ค่อยว่าง เพราะเรายังไม่ได้ทำการเช็คมันมาก่อน
      3. หากท่านเคยใช้บริการจากที่อื่น แต่ต้องการย้ายบริการมาใช้ Hostatom ใช้ง่ายแก้ไขได้ง่าย เมื่อย้ายมาที่นี้
      4. หากท่านเคยใช้บริการจากที่อื่น แต่ไม่ต้องการเปลี่ยนชื่อ Domain แค่ต้องการเช่า
           - แนะนำ ให้เลือกข้อ 1 เพราะท่านได้เช็ค domain มาก่อนเรียบร้อยแล้ว จากนั้น Click to Continue
           - สรุปสินค้าที่เราสั่งซื้อ ตรวจเช็คดูว่าถูกต้องตามที่เราสั่งหรือไม่ จากนั้นคลิก Add to cart
           - ใน Shopping cart จะมีอยู่ 2 ส่วนคือ
Web hosting S1        700 บาท
Domain Registration 400 บาท
           - เพียงใช้งบประมาณ 1,100 บาทต่อปี ท่านก็จะมีเว็บไซต์โดเมนและพื้นที่เช่า hosting เรียบร้อย
           - หลังจากนั้น checkout
           - ด้านล่างจะมีช่องให้กรอกข้อมูลสั่งซื้อ ชื่อ ที่อยู่ต่างๆของเรา แล้วคลิกคำว่า การยอมรับ(I have read and agree to Terms of service) ต่อไปคลิกคำว่า complete order
           - หลังจากที่ได้จดโดเมนเรียบร้อยแล้ว ท่านจะได้ username และ password เพื่อใช้เป็นขั้นตอนต่อไปในการติดตั้ง
https://warrior.in.th/wordpress/how-to-register-domain-n-hosting/ (https://warrior.in.th/wordpress/how-to-register-domain-n-hosting/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 10, 2021, 07:29:40 pm
SEO & Digital Marketing Freelance ขึ้นปีที่ 5 แล้ว ก่อนจะมาถึงวันนี้ ผ่านอะไรมาบ้าง ?

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2018/09/%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%82%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-5-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7-%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89-%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87.webp)


ใครอยากทำ SEO & Digital Marketing Freelance แบบนักรบให้ติดตามอ่านครับ…

เมื่อ 4-5 ปีก่อน เป็น Webmaster เงินเดือน 2 หมื่นกว่า แต่อยากมีเงินมากกว่านี้ เลยเอาของจากเกาหลีมาขาย พวกชุดเดรสผู้หญิง และเอาของจากตลาดโรงเกลือมาขาย ทำได้สักพักก็ไม่ไหว กำไรน้อยเหลือเกิน หรือว่าเราทำไม่เป็นก็ไม่รู้ คิดไปคิดมา เราทำเว็บได้ เลยสอนคนทำเว็บด้วย WordPress ดีกว่า จนเป็นจุดเริ่มต้นทำเว็บสอน Warriiior.com ตอนนั้นยังใช้ iii 3 ตัวอยู่ในโดเมนอยู่เลย


ปีที่ 1 และ 2 เป็นอย่างไรบ้าง
ปีที่ 1-2 ทำเว็บสอน WordPress ได้ปีกว่า กำไรดีกว่าขายของออนไลน์ซะอีก ในใจคิดอย่างงั้น เลยว่าจะทำสอนไปเรื่อยๆ (เอาจริงๆ ขายของออนไลน์ ได้เยอะกว่านะ แต่ต้องลงทุนหนักๆเยอะๆหน่อย บวกกับตอนนั้นทำไม่เป็น) ทำเว็บสอน WordPress มาได้ปีกว่า ออกมาได้ 3-4 คอร์ส รายได้เริ่มเยอะขึ้น เคลียหนี้หมด มีเงินเก็บแค่ 1 แสน ก็ออกจากงานมาทำเว็บสอนเต็มตัว ตอนนั้นก็เขียนบทความแชร์ประสบการณ์ไว้ – ฟรีแลนซ์รับทําเว็บไซต์ WordPress สร้างรายได้เก็บเงินแสนใน 1 ปี

ปีที่ 2 และ 3 เป็นอย่างไรบ้าง
ขึ้นปีที่ 2-3 หลังจากออกมาสอนเต็มตัว เวลามีเยอะขึ้น เริ่มรับงาน – วิทยากรการตลาดออนไลน์ ไปโน่นไปนี้มากขึ้น เริ่มทำวีดีโอเยอะมากขึ้น และเริ่มทำคอร์สสอนในห้องเรียนได้ประมาณ 1-2 ปี สรุปหลังจากออกมาทำเต็มเวลา ก็ใช้เวลา 1-2 ปี กับการคลุกกับการสอนในห้องเรียน ซึ่งเน้นสอนการลงโฆษณา Ads & SEO เป็นหลัก จนสามารถทำ SEO ติดหน้าแรกใน Keyword เกี่ยวกับการเริ่มต้นธุรกิจได้ และตอนนั้นก็เริ่มออก – คอร์สสอน SEO

ปีที่ 3 และ 4 เป็นอย่างไรบ้าง
ขึ้นปีที่ 3-4 ก็เริ่มชวนแฟนออกมาทำธุรกิจของตัวเอง โดยมีเงินเก็บประมาณ 1 แสนเหมือนกัน ล้มลุกคลุกคลานเหมือนกัน ช่วงแรกๆเงินร่อยหรอ เพราะต้องสร้าง Brand สัก 6 เดือน แล้วก็ค่อยมีเงินเก็บมากขึ้นตอน Brand เริ่มติดตลาดบ้างแล้ว ราวๆปีที่ 3-4 จะเริ่มมียอดขายเกิน 1 แสน/เดือนได้แล้ว – แชร์ประสบการณ์… เก็บเงิน 5 แสนได้จากธุรกิจออนไลน์

ปีที่ 5 เป็นอย่างไร
ขึ้นปีที่ 5 เริ่มกลับมาทำธุรกิจขายของออนไลน์ E-Commerce เพราะได้สินค้าและหุ้นส่วนที่รู้เรื่องการขายดี ทำให้มีครบ 3 องค์กอบสำคัญคือ 1. สินค้า 2. หน้าร้านออนไลน์ 3. การตลาดออนไลน์ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าวิธีทำเว็บและการตลาดแบบนักรบนั้นได้ผลนะ จนสร้างยอดขายเกินล้าน/เดือนได้ภายใน 4 เดือนแรกๆได้แชร์ไว้แล้วที่บทความ – ขายของออนไลน์ ยอดขายหลักล้านใน 4 เดือน

ปีนี้กำลัง
เปิดบริษัทรับทำ SEO ครับ ถ้ามีอะไรคืบหน้าจะมาเล่านะ
https://warrior.in.th/freelance-seo/income/5-years-history/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/income/5-years-history/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 10, 2021, 07:30:39 pm
3 อาชีพฟรีแลนซ์ ที่นักรบทำได้มาแล้ว

อาชีพยุคดิจิทัล เปลี่ยนแปลงชีวิตนักรบไปมาก ให้ทั้งเวลา โอกาส วิถีชีวิตในแบบที่เลือกจะพัฒนาตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆ ได้ทำธุรกิจและการตลาดในเส้นทางที่อยากทำ โดยไม่ต้องมีใครมากำหนดให้เรา ถ้าคุณชอบเส้นทางและอยากเรียนรู้วิธีทำการตลาดแบบนักรบ ลองศึกษาดูครับ

นักการตลาดดิจิทัลฝึกหัด JUNIOR DIGITAL MARKETER
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2018/05/digital-marketer-occupation.gif)

นักการตลาดดิจิทัลฝึกหัด
ความรู้ทั่วไปของอาชีพนี้คือ พื้นฐานการสร้างและบริหารช่องทางการทำตลาดทุกช่องทาง เช่น Facebook, Line@, Email, Website, E-marketplace รวมถึงการอับเดทเนื้อต่างๆในช่องทางดังกล่าวด้วยครับ ข้อมูลจากประสบการณ์
         - Junior เงินเดือน 12,000 – 20,000 บาท บาท/เดือน
         - Senior เงินเดือน 30,000 – 45,000 ++ บาท/เดือน ** ถ้าสื่อสารภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่นๆได้ จะมีโอกาสได้สูงกว่านี้
         - ถ้าเป็น Project Manager จะได้มากกว่านี้
         - ระยะเวลา 1-3 ปี จากเริ่มต้นสู่มืออาชีพด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง

พื้นฐานที่ควรรู้
         - เรียนคอร์สออนไลน์จาก https://www.smesgoonline.com/ (https://www.smesgoonline.com/)

นักธุรกิจอีคอมเมิร์ซรายย่อย Small E-Business Owner
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2018/05/digital-business-owner-occupation.gif)

นักธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
มีสินค้าหรือบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดี และมีทักษะดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง หรือบริหารคนด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งที่สอดคล้องกับช่องทางการทำการตลาดออนไลน์ที่เหมาะกับธุรกิจตัวเองได้ ข้อมูลจากประสบการณ์
         - ยอดขายธุรกิจขนาดเล็กประมาณ 0 – 1,000,000 บาท / เดือน (ช่วงยอดขายกว้างมาก แล้วแต่รูปแบบการทำธุรกิจ)
         - ระยะเวลา  3-5 ปี จากเริ่มต้นสู่มืออาชีพ

แชร์… ประสบการณ์
วิธีการขายของออนไลน์ E-Commerce แตะยอดขายหลักล้านใน 4 เดือน

นักการตลาดด้านเสิร์ชเอ็นจิ้น SEM & SEO MARKETER
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2018/05/Seach-senging-marketing-seo-occupation.gif)

นักการตลาดเฉพาะด้านเสิร์ชเอ็นจิ้น
ชำนาญด้านการลงโฆษณากับกูเกิลเอ็ดเวิร์ด (Google AdWords) และการทำเอสอีโอช่วยทำให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกกูเกิลเสิร์ช (SEO) ข้อมูลจากประสบการณ์
          - เงินเดือน 20,000 – 55,000 บาท/เดือน ** ถ้าสื่อสารภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่นๆได้ จะมีโอกาสได้สูงกว่านี้
          - ระยะเวลา 2-3 ปี จากเริ่มต้นสู่มืออาชีพ
          - มีผลงานเว็บไซต์ที่ติดหน้าแรกกูเกิลเสิร์ช

พื้นฐานที่ควรรู้
          - SEO คือ อะไร ?
https://warrior.in.th/freelance-seo/income/goal/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/income/goal/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 10, 2021, 07:31:37 pm
วิทยากรออนไลน์ สอนสร้างเว็บไซต์ และ การตลาดออนไลน์ Google Marketing
เรียบเรียงถ้อยคำใหม่จากวีดีโอ (โปรดชม Version เต็มได้ผ่านทางวีดีโอด้านบนครับ)

การให้สัมภาษณ์ช่อง Amarin TV ในรายการ BizBox เป็นรายการที่เปิดกล่องความคิดและไอเดียใหม่ๆในการทำธุรกิจที่น่าสนใจ

นาทีที่ 0:01 – 02:35 ปัจจุบันการค้นหาความรู้เป็นเรื่องที่ง่ายดาย เพียงแค่คุณมีคอมพิวเตอร์กับอินเตอร์เน็ต ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้มากมาย เทคโนโลยีเหล่านี้จึงทำให้เกิดอาชีพใหม่ขึ้นมาเรียกว่า “ Infopreneur ” ซึ่งจะทำให้ท่านมีรายได้จากความเชี่ยวชาญของท่าน โดยแทบไม่ต้องลงทุนอะไร ในรายการ BizBox วันนี้ขอนำเสนอเรื่อง “หนึ่งอาชีพเสริมสำหรับคนที่มีความรู้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างจริงๆจังๆ ก็สามารถที่เปลียนความรู้นั้นให้กลายเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาของคนอื่น ซึ่งถ้าคุณกลายเป็นกูรูในเรื่องนั้นๆแล้ว การออกผลิตภัณฑ์ของตัวเอง การผันตัวเองเป็นอาชีพที่เรียกว่า Infopreneur ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป” ในรายการ จึงพาไปพบกับ คุณนักรบ เจ้าของผู้ทำอาชีพที่เรียกว่า Infopreneur และเป็นวิทยากรออนไลน์ อาชีพใหม่ในโลกไซเบอร์

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/10/infopreneur-teacher-trainning-online-business-marketing-0-640x360.jpg)

คุณกิ๊ฟ Bizbox : ช่วยนิยมอาชีพ Infopreneur ว่าคืออะไรค่ะ ?
นักรบ : Infopreneur คือ อาชีพที่เปลี่ยนความรู้เป็นเงิน หากตัดคำว่า Infopreneur ออกไป เราจะคุ้นกับอาชีพ วิทยากร ครูสอน คนที่ให้ความรู้ต่างๆ ผู้คนในอาชีพเหล่านี้ก็จะเปลี่ยนความรู้เป็นเงินเช่นกัน เพียงแค่ว่า Infopreneur ดังในโลกของอินเตอร์เน็ต เพราะคนที่ทำอาชีพนี้ เอาความรู้ที่มีมาอยู่ในรูปแบบของ e-book,VDO,DVD หรือคอร์สออนไลน์ สินค้าเหล่านี้ทำครั้งเดียว ต้นทุนต่ำ แต่สามารถขายซ้ำได้ ถ้าคุณมีความตั้งใจทำไปเรื่อยๆ เผยแพร่ความรู้ ผู้คนจะซื้อของคุณ เพราะคุณจะเก่งขึ้นเรื่อยๆ
นาทีที่ 02:36 – 06:10

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/10/infopreneur-teacher-trainning-online-business-marketing-2-640x316.jpg)

คุณกิ๊ฟ Bizbox : อะไรที่ทำให้สามารถทำอาชีพ Infopreneur ได้
นักรบ : อาชีพ Infopreneur จะเกิดขึ้นได้ โดยเริ่มจาก เวลาที่เราจะเป็น Infopreneur ได้  คุณต้องเคยมีการแก้ปัญหา มีความชำนาญหรือชอบอะไรซักอย่าง แล้วคุณสามารถที่จะสอนหรือแบ่งปันคนอื่นได้ คนส่วนใหญ่มีปัญหาเล็กไปจนถึงปัญหาใหญ่ หากคุณมีสินค้าหรือบริการที่สามารถช่วยแก้ปัญหาให้คนอื่นได้ คนจะซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยแก้ปัญหาในชีวิตของพวกเขาได้ การสอน การให้และแบ่งปันความรู้ที่ดีจริงๆ คุณก็สามารถทำอาชีพ infoprenuer ได้ เพราะว่า คนมีปัญหาเยอะมาก คุณอาจจะออก e-book หนึ่งเล่ม เช่น การจัดบ้าน การเลี้ยงสุนัข ที่สามารถแก้ปัญหาให้กับพวกเขา 

คุณกิ๊ฟ Bizbox : ในโลกออนไลน์มีข้อมูลฟรีๆเยอะมาก เราจะทำอย่างไรให้พวกเขามาซื้อของๆเรา
นักรบ : เรื่องแรก ที่ผมแนะนำสำหรับคนอยากเป็น Infopreneur ถ้าหากคุณเป็นแค่คนธรรมดาคุณต้องให้ความรู้ฟรีๆก่อน เพื่อทำให้คนรู้จักว่า คุณเก่งเรื่องนี้ และจะทำให้เราพัฒนาเรื่องที่เราเก่งไปเรื่อยๆอัตโนมัติ และจะมี feedback กลับมาจากคนที่อ่านว่า เขาชอบในเรื่องนี้หรือไม่ เรื่องที่สอง เมื่อมีคนสนใจ เราจะศึกษาความรู้ที่ลึกมากขึ้น โดยเริ่มศึกษาความรู้จากต่างประเทศหรือในตัวเองจากการลงมือทำ

คุณกิ๊ฟ Bizbox : ในประเทศไทยความรู้นอกเหนือจากเรื่องการลงทุน การเงิน หรือเรื่องแรงบันดาลใจ ยังมีจุดไหนหรือเนื้อหาที่ยังขาดอยู่
นักรบ : ในประเทศไทย มีปัญหาเยอะมากแต่เพียงแค่ว่าเราไม่ได้สังเกต วิธีง่ายๆในการค้นหาว่า มีโอกาสไหนที่เหมาะกับเราบ้าง แค่เราปล่อยความรู้ในโลกของอินเตอร์เน็ต หรือค้นหาคนที่มีความรู้และชำนาญด้านนี้ ถ้าไม่มี คุณอาจจะเป็นคนแรกที่ทำเรื่องนี้ อย่างเช่น กูรูด้านการเดินทาง กูรูด้านการทำอาหาร กูรูด้านการดูแลเด็ก กูรูด้านการจัดบ้าน กูรูด้านการเสริมสวย เหล่านี้คุณสามารถเป็น Infopreneur ได้ 

คุณกิ๊ฟ Bizbox : หากเรามีความตั้งใจจริง ทุกคนก็สามารถเป็น Infopreneur ได้ใช่ไหมคะ
นักรบ: มีความตั้งใจจริง หมั่นพัฒนาตัวเอง และอยากช่วยเหลือคน ทำช่วงแรก คุณอย่าพึ่งหวังเรื่องเงินทอง เพราะอาชีพนี้เป็นอาชีพที่คุณต้องให้และแบ่งปันก่อน ถ้าคุณหวังเงินทอง คุณจะทำได้ไม่นาน ช่วงแรก คุณต้องสร้างชื่อเสียง ให้คนรู้จักคุณก่อนครับ
https://warrior.in.th/seo-goal/online-instructor/ (https://warrior.in.th/seo-goal/online-instructor/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 17, 2021, 03:36:56 pm
3 ขุมพลัง มนุษย์เงินเดือนทำธุรกิจ พลิกอนาคต

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/07/saraly-man-business-online-consult-marketing-seo-social-media.jpg)

ใน โลกที่วุ่นวายโลกที่สับสนยุ่งเหยิงเต็มไปหมดแบบนี้ มีทั้งเทคโนโลยี และความบันเทิงมากมาย ที่ดึงคุณออกจากเป้าหมายในชีวิต  นักรบถามคุณตรงๆว่า ชีวิตนี้คุณต้องการอะไร? หากคุณดูโฆษณาทีวี ฟังวิทยุ และท่อง Internet ลองสังเกตดีๆ สื่อทุกชนิดที่ผ่านตาในแต่ละวัน คุณจะเห็นว่า มันมีโฆษณาแฝงมาเพื่อขายของทั้งนั้น มันไว้ขายให้มนุษย์เงินเดือนที่มีรายรับทุกเดือนเป็นหลักอย่างไรล่ะ  (ใต้โพสนี้ ยังมีคอร์สเรียนที่นักรบโพสไว้ขายคนที่สนใจเลย) มนุษย์เงินเดือนเป็นสายพันธ์ุอาชีพที่มีเยอะที่สุดในโลก เขาเหล่านั้นได้เงินเดือนทุกเดือน จะเหลือมากเหลือน้อยก็แล้วแต่ ถ้าเจ้าของธุรกิจดึงเงินจากกระเป๋าคุณได้แม้เพียงคนละ 500 บาท แค่สัก 10,000 คน เขาก็มีรายได้ 5,000,000 บาทแล้ว แล้วมนุษย์เงินเดือนล่ะ ต้องใช้เวลาสักกี่ปี ถึงจะมีเงิน 5 ล้านบาท ถ้าเก็บสักเดือนล่ะ 10,000 บาท คุณต้องใช้เวลา 41 ปี นะครับ เห็นตัวเลขแล้ว คุณเข้าใจสิ่งที่นักรบต้องการสื่อความหมายไหม ? ทำไมคุณยังคิดแบบมนุษย์เงินเดือน หาเช้ากินค่ำ และเชื่อคำโฆษณามากมาย ที่หลอกให้คุณควักเงินซื้อของไม่จำเป็นกับชีวิตอีกล่ะครับ  ถ้าคำตอบของคุณคือ “เพราะมันต้องหาเงินเดือนมาเลี้ยงตัวเอง จ่ายค่าหนี้ที่สร้างไว้ไง” นักรบจะถามกลับว่า แล้วจะคิดและทำอย่างไร เพื่อให้มีธุรกิจเสริมทำควบคู่งานประจำได้ ในอนาคตงานเสริมอาจเป็นธุรกิจที่ดันคุณหลุดออกจากโลกมนุษย์เงินเดือนดังที่คุณหวังก็ได้ เริ่มด้วยคำถามง่ายๆที่ถูกจุด ฉุดให้คุณออกจากกรอบความคิดที่ขวางกันคุณไว้ คุณจะแก้ไขปัญหาอะไรก็ได้ ขอแค่คุณต้องรู้จักตั้งคำถามเชิงบวกที่ทำให้คุณเดินหน้าต่อได้ครับ

หลักในการเปลี่ยนชีวิต หลุดความคิดและออกจากกรอบ
การที่คุณจะหลุดจากกรอบความคิดเดิมๆ ที่ขวางกั้นคุณให้อยู่แต่ในโลกของมนุษย์เงินเดือน คุณต้องผลักสิ่งแวดล้อมแย่ๆที่ส่งผลแย่ๆออกไปก่อน เริ่มต้นด้วยเพื่อนร่วมงานแย่ๆที่คิดแบบผู้บริโภค ที่ทั้งวันคุยแต่จะใช้เงิน แต่ให้มองหาเพื่อนที่คิดแบบเจ้าของธุรกิจ คิดแบบจะหาเงินและลงมือทำจริงครับ

ขั้นที่ 1 ตัดเพื่อนที่คิดแค่ว่า เดือนนี้จะ “ใช้เงินซื้ออะไร” และหาเพื่อนที่คิดแต่เรื่อง “หาเงินได้อย่างไร ”
มันเป็นจุดเริ่มต้นง่ายๆ ในการเปลี่ยนสภาวะแวดล้อม ให้เอื้อประโยชน์ทางความคิด ให้มุ่งแต่จะทำธุรกิจเสริมหาเงิน เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า เพื่อนที่ทำงานรอบตัวเรามีผลอย่างมากในวิธีคิดของเรา มีเพื่อนดีส่งผลดี มีเพื่อนแย่ส่งผลแย่ ที่นักรบกล้าพูดแบบนี้ได้ เพราะนักรบเคยผ่านมันมาแล้ว และรู้ดีว่าการมีเพื่อนร่วมงานที่ดีส่งผลให้ชีวิต ที่ทำธุรกิจควบคู่งานประจำมันดี และไปรุ่งมากแค่ไหน

ขั้นที่ 2 เลิกฟังเสียงภายนอก และค้นหาเป้าหมายในชีวิตจากเสียงที่ดังภายในใจ
เรื่องนี้นักรบซีเรียจสุดๆ เพราะโลกเรามันเต็มไปด้วยเสียงจากคนอื่น ทั้งผ่านปากต่อปาก หรือผ่านสื่อต่างๆทุกชนิด มันหลอกให้เราไขว้เขวเยอะแยะเต็มไปหมด หากเสียงภายในใจคุณไม่ดังกว่าเสียงคนอื่น ชาตินี้ทั้งชาติคุณก็ทำตามแต่คนอื่นบอก ไม่เคยใช้ชีวิตจริงเพื่อความฝันและเป้าหมาย ( Goal ) ของตัวเองเลย ถ้าคุณต้องการจะใช้ชีวิตจริงๆเพื่อเป้าหมายของตัวเองได้ คุณต้องวางแผนที่ละเล็กทีละน้อย ทั้งการเคลียหนี้สิน เตรียมเงิน เตรียมธุรกิจเพื่อออกมาทำตามความฝัน โดยคุณเตรียมสิ่งเหล่านี้ได้ ในช่วงสมัยทำงานประจำครับ หากคุณผ่าน 2 ข้อนี้ไปแล้ว คือ ตัดเพื่อนที่คิดแต่จะใช้เงิน ให้หาเพื่อนที่คิดจะหาเงิน + เลิกฟังเสียงภายนอก ให้ค้นหาเป้าหมายชีวิตและฟังเสียงภายในตัวเองว่าชีวิตต้องการอะไร คุณจะได้ ขุมพลัง 3 ข้อ ในการเปลี่ยนแปลงชีวิต

3 ขุมพลัง มนุษย์เงินเดือนทำธุรกิจ พลิกอนาคต
       1. เป้าหมายในชีวิต (Goal)
       2. เหตุผลที่จะทำ (Why)
       3. รักที่จะทำสม่ำเสมอ ( Passion to do)
อ๋อ อย่าลืมดูด้วยว่า Goal, Why และ Passion to do ที่คุณมี มันเพื่อตัวเอง หรือเพื่อคนที่คุณรัก ถ้าคุณอยากรวย เพื่อตัวเอง คุณก็ไปได้ไม่ไกล ขออภัยที่พูดตรงๆ แต่ถ้าคุณอยากรวย อยากประสบความสำเร็จ เพื่อคนที่คุณรัก หรือครอบครัวคุณ แบบนี้คุณมีสิทธิ์ คุณจะมีสิ่งๆหนึ่งที่คนประสบความสำเร็จพูดกันมาเป็นร้อยๆปี นั้นคือ เป้าหมาย (Goal) เหตุผลที่จะทำ (Why) และ รักที่จะทำสม่ำเสมอ ( Passion to do)  โดย 3 สิ่งนี้จำเป็นมากๆ ส่งผลต่อขุมพลังใจการลงมือทั้งชีวิตจนประสบความสำเร็จ

ทำไมคุณถึงไม่มี Goal, Why และ Passion
คำตอบง่ายๆ ว่าทำไมคุณถึงไม่มี เป้าหมาย, เหตุผลที่จะทำ และ ความรักที่จะทำเลย นั้นก็เพราะ ทั้งชีวิตคุณไม่เคยฟังเสียงภายในตัวเองเลย ไม่เคยค้นหาเลยว่าชีวิตคุณต้องการอะไร หรือว่า คุณไม่เคยผ่านประสบการณ์แย่ๆแบบเป็นตายเท่ากันมาก่อนเลยเปลี่ยนแปลงตัวเองได้แบบสุดเหวี่ยงและก้าวกระโดด มันอาศัยปัจจัย 2 ข้อ
        1. วิสัยทัศน์ จากความรู้ ที่คุณต้องสั่งสมเป็นปีๆ จากการลงมือทำของตัวเอง
        2. วิกฤตปัญหาชีวิต แบบเฉียดตาย หรือ ที่บ้านล้มละลาย ปัญหาหนักจะผลักดันให้คิดได้
ถ้าคุณไม่มี ทั้ง 2 ข้อที่กล่าวมา ก็ยากที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้แบบสุดเหวี่ยง ก้าวกระโดดจนแม้แต่ตัวคุณเองยังตกใจ

สรุปโดยนักรบ
หากทั้งชีวิตคุณไม่มีความมั่นใจ และไม่รู้เลยว่าชีวิตต้องการอะไร ขอให้คุณหยุดทุกอย่างบ้างและฟังเสียงตัวเอง ถ้าคุณฟังเสียงตัวเองไม่เป็น แปลว่าคุณไม่มีสมาธิเพียงพอ จิตใจของคุณมันวุ่นวายเกินไป จงแก้ที่จิตใจของคุณก่อน ใช้หลักทางพุทธศาสนา สร้างสมาธิให้ใจแน่วแน่ นิ่งและสงบมากพอ เมื่อใจคุณนิ่งและสงบ คุณจะได้ยินเสียงภายในตัวเอง
https://warrior.in.th/warrior-life/3-powerful-human-business-payroll-turns-the-future/ (https://warrior.in.th/warrior-life/3-powerful-human-business-payroll-turns-the-future/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 17, 2021, 06:05:46 pm
5 ทักษะความชำนาญ การตลาดออนไลน์ SEO

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/07/niche-seo-specialists.jpg)

เว็บไซต์กว่าจะขึ้นอันดับ ใน Google ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่อาศัยเพียงปัจจัย Backlink เป็นหลักเหมือนเมื่อก่อน ยิ่งยุคนี้กูเกิลพัฒนาการเขียนโปรแกรมให้ตรวจจับเว็บไซต์ที่มีคุณภาพได้มากขึ้น จะมาทำเว็บไซต์หลอก Google ว่าเว็บไซต์ฉันดียังโน่นยังงี้ มี Backlink มากๆไม่ได้แล้ว

จำนวน Backlink ยังมีผลกับการจัดอันดับเว็บไซต์ แต่เนื่องจาก Google คิดคะแนนการจัดอันดับเว็บไซต์จากหลายๆปัจจัย หากเพิ่มจำนวน Backlink อย่างเดียว แถม Backlink ไม่ดี แทนที่จะได้เว็บไซต์ไต่อันดับดีๆ อาจกลายเป็นยาพิษย้อนกลับมาทำร้ายเว็บไซต์ตัวเองก็เป็นได้

สำหรับผู้ประกอบการ, เจ้าของธุรกิจ หรือ คนทำธุรกิจออนไลน์เล็กๆ คงจะยุ่งยากเกินไปที่จะจัดการกับการตลาดออนไลน์ SEO ที่สลับซับซ้อนและมีรายละเอียดเยอะพอสมควร ครั้นจะไปจ้างนักการตลาด SEO ก็ไม่แน่ใจว่าเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน ? คุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไปหรือเปล่า ที่จะเอาอนาคตของธุรกิจออนไลน์ไปฝากไว้กับคนอื่น

ฉะนั้นก่อนจะจ้างนักการตลาดออนไลน์รับทำ SEO ท่านควรจะมีความรู้และทราบความชำนาญของนักการตลาดแต่ละท่านให้แน่ชัดก่อนครับ

วันนี้จะแนะนำ ความชำนาญของนักการตลาด SEO ให้ทราบเพื่อให้เห็นภาพรวมของ “ นักการตลาดรับทำ SEO “ นั้นเอง

5 ทักษะความชำนาญของนักการตลาดรับทำ SEO
1). ชำนาญด้านการสร้างเนื้อหา

เป็นนักเขียนบทความ (Content Writer) คือ นักการตลาด SEO ที่มีความชำนาญด้านการเขียน และสร้าง Content เสมือนเป็นกระบอกเสียง ที่ช่วยเป่าประกาศถึงแบรนด์และสินค้าของท่านให้ดังกระฉ่อนทั่วโลกออนไลน์ เนื้อหาที่ดีจะดึงคนอ่านแวะเวียนมายังเว็บไซต์สม่ำเสมอ สร้างความน่าเชื่อถือและการจดจำเว็บไซต์ของคุณได้อย่างดีเยี่ยม
2). เทคนิคคอล SEO
คือ นักการตลาด SEO ที่ชำนาญเกี่ยวกับโครงสร้างเว็บไซต์, เขียนโปรแกรมที่ทำให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้น, รองรับมือถือ และปรับแต่งโคดให้ทำงานได้เสถียรและตรงตามมาตรฐาน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นโปรแกรมเมอร์ หรือ เว็บดีไซน์เนอร์มาก่อน และมาเรียนรู้ SEO เพิ่มที่หลังครับ
3). ชำนาญด้านการสร้าง link ทั้งภายในเว็บไซต์ และนอกเว็บไซต์
ทักษะด้านนี้จะเน้นที่การปรับโครงสร้างของ Link ให้สอดคล้องกับการทำงานของ SEO ได้ดี รวมทั้งจัดการ BackLink จากเว็บไซต์อื่นได้ดีด้วย แต่ควรระวังเรื่อง Backlink จากเว็บไซต์ที่ไม่มีคุณภาพ ซึงทักษะนี้ส่วนใหญ่จะใช้ทำมาหากินกันนั้นเอง เพราะไม่ค่อยยุ่งกับเว็บไซต์ลูกค้ามากนัก ยิ่งbacklink อย่างเดียว
4). ชำนาญด้าน Social Media
คือ นักการตลาด SEO ที่เข้าใจการทำงานของ Social Media เป็นอย่างดี รวมทั้งการสร้างความสำพันธ์ภายใน Social Media ให้เกิดขึ้น ติดตามความเคลื่อนไหว, การอับเดตต่างๆ ที่มีผลกับ SEO ทั้งใน Facbook, Youtube และ Social Media อื่นๆในอนาคต
5). ชำนาญด้าน SEO กับธุรกิจท้องถิ่น
ใช้งาน Google Business และใช้งาน Google Map ได้ดี รวมทั้งการตลาดผ่านตำแหน่งที่ตั้งเป็นสำคัญทั้งผ่านเครื่องมือของ Google เอง และ App ที่เกี่ยวข้อง

นักการตลาดออนไลน์ SEO ส่วนใหญ่มักจะมีความชำนาญด้านการจ้างเขียนบทความ และ การสร้าง Backlink เป็นหลัก โดยมีเพียงไม่กี่คนที่จะชำนาญครบทั้ง 5 เรื่องที่กล่าวมานี่

ฉะนั้น คนที่สนใจจะจ้าง นักการตลาดรับทำ SEO ควรเข้าใจความสามารถของนักการตลาดผู้นั้น เพื่อนำมาคำนวณกับค่าจ้างที่ต้องจ่ายไปด้วยครับ
https://warrior.in.th/entrepreneur/niche-seo-specialists/ (https://warrior.in.th/entrepreneur/niche-seo-specialists/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 18, 2021, 02:46:18 pm
แชร์ประสบการณ์การลงโฆษณา Google AdWords เพิ่มยอดขาย 10 เท่า

(https://youtu.be/4hoBHeA4TUg)

แชร์ประสบการณ์การลงโฆษณา Google AdWords เพิ่มยอดขายมากกว่า 10 เท่า ทั้งการทำโฆษณาใน Google Search และ ในเครือข่ายดิสเพลย์
https://warrior.in.th/freelance-seo/job/google-ads/google-adwords-increase-sales/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/job/google-ads/google-adwords-increase-sales/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 18, 2021, 03:19:57 pm
เงินลงทุน 5,000 บาท ทำการตลาดออนไลน์ยังไงดี

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/07/google-marketing-online-business-howto-04.jpg)

คนเริ่มต้นทำธุรกิจออนไลน์เล็กๆ มีเงินลงทุนไม่มากมายประมาณ 1,000 – 5,000 บาท/เดือน ถ้าจะเอาเงินที่เหลือนี้มาใช้ทำการตลาดออนไลน์ จะทำอย่างไรถึงจะได้ผลดีสูงสุดล่ะ มาดูกันครับ

เริ่มต้นเข้าใจก่อนว่า การทำการตลาดออนไลน์มีหลายรูปแบบจริงๆ แต่นักรบจะแนะนำแค่วิธีหลักๆที่ได้ผลดีก่อน เพื่อจะได้จัดการได้ง่าย ทำเยอะเกินไปมันจะกินเวลาส่วนอื่นๆ

เริ่มต้นแบ่งเวลาในการทำการตลาดออนไลน์ก่อน โดยใช้เพียง 30% ของทั้งหมด

นักรบแนะนำทำการตลาดผ่าน Google และ Facebook เป็นหลัก เนื้องจาก Google และ Facebook มีคนไทยเล่นเยอะมากจริงๆเป็นโอกาสของการทำธุรกิจโดยแท้

แบ่ง ” เงินลงทุน ” เป็น 2 ส่วนเพื่อทำการตลาดออนไลน์ดังนี้
       1. แบ่งเงินเพื่อทำ Website รองรับการทำการตลาดผ่าน Google (Ads, SEO)
       2. แบ่งเงินเพื่อทำ Facebook Fanpage รองรับการทำการตลาดผ่าน การโปรโมทเพจ และการกระตุ้นโพส

เงินลงทุนเพื่อทำ Website
การทำเว็บไซต์เพื่อขายของออนไลน์, สร้าง Brand หรือ โปรโมทความสามารถของตัวเอง สามารถทำได้หลายวิธี โดยส่วนใหญ่มักนิยมเปิดเว็บไซต์ฟรีกับผู้ให้บริการทั่วไป แต่ถ้าท่านอยากทำธุรกิจออนไลน์จริงจัง  นักรบขอแนะนำเว็บไซต์ที่สร้างด้วย WordPress ครับ เพราะในอนาคตมันต่อยอดได้อีกมากมาย เกื้อหนุนกับ SEO ดีเยี่ยม และรองรับ Ecommerce ในอนาคตอีกด้วย เรียกได้ว่าเรียนรู้ครั้งเดียว ต่อยอดได้อีก 10 ปี สำหรับเว็บไซต์ที่สร้างด้วย WordPress ครับ

ทางนักรบเข้าใจปัญหาเรื่องนี้ดี จึงเตรียมข้อมูลและสอนการสร้างเว็บไซต์ไว้แล้วในเว็บไซต์แห่งนี้ หลังจากมีเว็บไซต์แล้ว ขั้นถัดไปคือการทำการตลาดผ่าน Google

Note : นักรบ ไม่ขอพูดถึงผู้ให้บริการเปิดเว็บไซต์ฟรีกับเจ้าอื่นๆ เพราะยังไม่ได้ทดสอบเต็มที่ ท่านสามารถศึกษาได้เองครับ

การตลาดผ่าน Google
การตลาดผ่าน Google มี 2 วิธีหลักๆดังนี้ คือ Google SEO และ Google Adwords
        1. ทำให้เว็บไซต์มีเนื้อหาดี ขึ้นอันดับดีๆใน Google Search วิธีการนี้ภาษานักการตลาด เรียก ” การทำ SEO “
        2. โฆษณากับ Google วิธีการนี้เรียกว่า ” การทำ  Adwords “

ทำ SEO ให้สร้าง Web Traffic
วิธีการทำ SEO จะสลับซับซ้อน ผู้ประกอบการไม่สามารถจัดการมันได้ ส่วนใหญ่มักจะใช้วิธีจ้างทำ SEO ซึ่งจะได้ผลดีหรือไม่ดีนั้น ขึ้นอยู่กับคนรับทำเป็นสำคัญ อีกทั้งเจ้าของธุรกิจ SME ควรมีความรู้เบื้องต้นเพื่อตรวจเช็คผลการทำ SEO จากผู้รับทำ SEO ได้ครับ
 
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/07/seo-seminar-google-workshop.jpg)

ณ ตอนนี้มีเพียงบริษัทใหญ่ๆที่มีเงินทุนหนาๆเท่านั้น ที่จ้างแล้วได้ผลดี เพราะเขามีเงินจ้างนักการตลาดออนไลน์ SEO เก่งๆโดยเฉพาะได้ ทำให้ผลลัพธ์ออกมาดีครับ แต่สำหรับธุรกิจออนไลน์เล็กๆ SME  ทางนักรบแนะนำให้เรียนรู้วีธีการทำ SEO ด้วยตัวเองก่อน เวลาจ้างก็สามารถประหยัดและตรวจงานได้ครับ

เรียน SEO ที่ไหนดี ?
เราสามารถหาทีเรียน SEO & Content Marketing ได้ เพียงพิมคำค้นหา ” เรียน SEO , สอน SEO , การทำ SEO, วิธีการทำ SEO, สัมมนา SEO” ที่ Google ได้ครับ รับรองมีเพียบ แต่จะเลือกที่ดีๆทีเหมาะกับเราได้ ต้องใช้เวลาค้นหาและอ่านรายละเอียดของแต่ละที่เองครับ

ลงโฆษณา Google Ads
การลงโฆษณากับ Google Adwords นั้น เราจะได้ยินบ่อยมาก เพราะนี้เป็นช่องทางรายได้ของ Google เป็นหลัก เขาจะโฆษณาบ่อยๆ เพื่อเรียกยอดขายและเผยแพร่ให้คนนิยมใช้กันง่ายมากขึ้น อีกทั้งยังมีบริษัทเอกชนที่เป็น Partner ร่วมกับ Google มาออกคอร์สสอน จัดสัมมนา เป็นระยะๆอีกด้วย จึงไม่แปลกที่เราจะได้ยินได้ฟังเรื่องนี้มาค่อยข้างบ่อยครับ
ธุรกิจออนไลน์ขนาดเล็ก SME สามารถเริ่มต้นลงโฆษณา Google Ads ในงบที่กำหนดได้ และควรเสริมทัพด้วยการทำ SEO อีกแรง

การทำ Google SEO ช่วยทำให้ค่าโฆษณา Google Ads ถูกลงได้อย่างไร ?
คนทำโฆษณา Google Adwords จะทราบว่า มี 3 ปัจจัยหลักๆที่มีผลให้โฆษณาราคาถูกลง คือ อัตราการคลิ๊ก, ความเกี่ยวข้องโฆษณา และ ประสบการณ์ Landing Page ซึ่งปัจจัยตัวสุดท้ายนี้เหละครับ เป็นปัจจัยสำคัญ


ทำไม ประสบการณ์ Landing Page ใน Google Ads ถึงสำคัญ
เมื่อคนคลิ๊กโฆษณาจาก Google แล้ว จะเข้าสู่หน้า Landing Page หลังจากนั้น Google จะเช็คว่าคนเจอสิ่งที่เขาต้องการหรือไม่ โดยอาจจะวัดได้จาก เวลาโต้ตอบบนเว็บเพจเป็นสำคัญ เว็บเพจที่ดี จะตรึงให้คนอ่านได้นาน นั้นหมายความว่า เว็บเพจนั้นต้องเขียนดี ให้ข้อมูลดี มีภาพ วีดีโอประกอบดี ซึ่งการจะให้ข้อมูลประกอบดีได้ คนทำเว็บเพจต้องรู้จักสินค้าตัวเองดีเยี่ยม, กลั่นกรองออกมาได้มากพอ และเข้าใจง่ายดีด้วย

โดยส่วนใหญ่ คนที่ทำการตลาดออนไลน์ผ่าน Google SEO มาแล้ว จะมีทักษะการเล่าเรื่อง การเขียน และอธิบายสินค้าได้อย่างครบถ้วน ทำให้ Landing Page ดีไปด้วย ส่งผลสุดท้ายให้ค่าโฆษณา Ads ถูกตามไปด้วย อีกทั้งคนทำ SEO มาก่อน จะมีแนวโน้มที่จะเขียนคำโฆษณาใน Ads ดี เรียกได้ว่าครบสูตรปัจจัยการทำ Ads ให้ถูก ช่วยประหยัดเงินลงทุนนั้นเอง

เงินโฆษณา Facebook Fanpage
การทำการตลาดผ่าน Facebook ทำได้ง่าย ขั้นตอนไม่ซับซ้อน เพียงระบุกลุ่มเป้าหมาย ใส่เงินเข้าไป ก็จะโปรโมทเพจให้คนกดถูกใจแฟนเพจ หรือ จะโปรโมทโพสใดๆก็ได้ แล้วแต่ต้องการ (การลงโฆษณาใน Facebook มีหลายวิธี ณ ตอนนี้ยกตัวอย่างเพียง การโปรโมทเพจและโปรโมทโพสเท่านั้น)
        - วิธีการโปรโมทเพจ
        - วิธีกระตุ้นโพส
นักรบใช้เงินประมาณ 2-3,000 บาท/เดือน เพื่อทำโฆษณา Fanpage

สรุปโดยนักรบ
เราสามารถประหยัดเงินค่าโฆษณาออนไลน์ ด้วยการเขียนคำโฆษณาที่มีดีมีประโยชน์ ภาพน่าสนใจ เชิญชวนให้คนเข้าชม ติดตามเนื้อหาในเว็บเพจนั้นๆ โดยสามารถทำได้ทั้ง Google และ Facebook ซึ่งทักษะนี้สามารถฝึกกันได้ ด้วยการเป็นนักเขียน และการเล่าเรื่องสินค้าที่ดี

เมื่อโฆษณามีคุณภาพดี เพราะเป็นผลพวงจากการเขียนเนื้อหาดี จะทำให้งบการลงทุนของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก แม้มีเงินลงทุนน้อยไม่เกิน 5,000 บาท/เดือน ก็สามารถสร้างมูลค่าทางธุรกิจกลับมาได้มากมายครับ
https://warrior.in.th/freelance-seo/job/google-ads/5000-bath-online-marketing/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/job/google-ads/5000-bath-online-marketing/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 18, 2021, 04:06:39 pm
5 ทักษะการขายของออนไลน์ และ Digital Marketing

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/07/business-online-marketing-strategy-ecommerce-6.gif)

ทักษะการขายของออนไลน์ และ Digital Marketing ให้ประสบความสำเร็จ แนะนำฝึกฝนทักษะเหล่านี้
        1. ทักษะการเป็นนักธุรกิจ
        2. ทักษะการสร้างเว็บไซต์
        3. ทักษะการออกแบบ
        4. ทักษะการเล่าเรื่อง
        5. ทักษะการตลาดออนไลน์
ทักษะด้านบัญชีเป็นสิ่งจำเป็น แต่มักจะจ้างบริษัทรับทำบัญชีทำ

เป็นเจ้าของธุรกิจที่มีเงินทุน จ้างมืออาชีพด้านต่างๆ เช่น
        1. Online Business Consult ที่ปรึกษาธุรกิจ
        2. Webmaster ดูแลและพัฒนาเว็บไซต์
        3. Graphic Designer ดูแลการออกแบบ
        4. Content Writer ดูแลเนื้อหา
        5. Online Marketeer นักการตลาดออนไลน์

แต่เดียวก่อน ถ้าจ้างครบ 5 คน อาจต้องใช้เงินสูงถึง 75,000 – 150,000 บาท/เดือน โดยยังไม่รู้ว่าจะได้กำไรเดือนไหน มนุษย์เงินเดือน หรือธุรกิจขนาดเล็กไม่จ้างคนเยอะแบบนั้นแน่

วิธีในการหาทางออกของทั้ง 5 ข้อนี้คือ
        1. เรื่องธุรกิจ มักจะหาความรู้เอง ผ่านหนังสือ สัมมนา และสื่อต่างๆ
        2. เรื่องเว็บไซต์ มักเลือกใช้บริการ eMarketplace แบบมี Shopping Cart เสร็จสรรพ โดยมักใช้คำค้นหาว่า :” เปิดร้านค้าออนไลน์ “   หรือจ้างคนทำเว็บในราคา 15,000 บาทขึ้นไปโดยเฉลี่ย
        3. เรื่อง Graphic หรือภาพประกอบต่างๆ มักจะออกแบบเอง, ถ่ายรูปเอง ตกแต่งเอง หรือซื้อภาพ หาภาพจาก Internet ถ้าลงทุนสูงหน่อยก็จ้าง Graphic Designer ทำให้เป็นงานๆไป
        4. เรื่อง Content มักจะทำแค่ตอนแรกเท่านั้น โดยใส่ข้อมูลทั่วไป และเวลาส่วนใหญ่ก็ใช้ไปกับการใส่สินค้าทีจะขาย
        5. เรื่องการตลาดออนไลน์ มักใช้วิธีลงโฆษณาผ่าน Google Adwords, หรือ Facebook Ads หากลงทุนหน่อยก็จ้างบริษัทรับทำโฆษณา เช่น จ้างทำ SEO เป็นต้น

หากมองผิวเผินก็พอจะทราบขั้นตอนที่หลายๆธุรกิจขนาดเล็กทำ โดยขั้นตอนส่วนใหญ่จะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของเงิน เวลา และกำลังคนเป็นหลัก และขั้นตอนที่กล่าวมานี้มันมีจุดเสียเปรียบที่ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กไม่สามารถสู้กับคู่แข่งที่มีขนาดใหญ่กว่าได้

จุดเสียเปรียบในการทำธุรกิจขนาดเล็กมีอะไรบ้าง ?
        1. การสร้างเว็บไซต์ มักใช้ของฟรี เน้นง่าย เน้นเร็ว ไม่ให้เวลากับมันเยอะเท่าทีควร สร้างทิ้งไว้เสร็จก็เอาไปโฆษณาต่อเท่านั้นเอง จุดอ่อนของเรื่องนี้คือ ไม่ได้ใช้เว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพเต็มที่วิธีแก้ไข
            เว็บไซต์ไม่ได้มีไว้ขายของ เก็บเงินจากลูกค้าเพียงอย่างเดียว มันยังสร้างประโยชน์ ให้ความรู้ ให้ลูกค้าหรือคนอ่านเอาไปบอกต่อผ่าน Social Media เช่น Facebook ได้ดีอีก เพิ่มหนทางการตลาดแบบปากต่อปากได้
        2. เรื่องการออกแบบ อันนี้แล้วแต่ความสามารถของเจ้าของเลย ออกแบบดี สินค้าน่าซื้อ ออกแบบห่วยสินค้าดูไม่มีราคา หากมีทุนเป็นเด็ก Art มีหัวศิลป์หน่อย ช่วยได้เยอะ เพราะเดียวนี้โปรแกรมแต่งรูป App แต่งภาพ เครื่องไม้เครื่องมือออนไลน์เยอะมากจริงๆ ใช้ง่าย สะดวกแนะนำ
            เรียนการถ่ายรูปง่ายๆ และหมั่นแต่งรูปสินค้าให้สวย อาจจะด้วย App pixlr  หรือ โปรแกรมแต่งรูปง่ายๆเช่น Photoscape หรือ Photoshop
        3. เรื่องเนื้อหา (Content) เจ้าของกิจการไม่ได้รู้เรื่องการตลาดออนไลน์มากนัก ว่าเดียวนี้เขาฮิตแนวไหนกัน ผู้บริโภคเขาคิดอะไรกัน ทำให้เวลาใส่เนื้อหาก็จะลงเพียงข้อมูลการซื้อขาย ข้อมูลผลิตภัณฑ์และเทคนิคการตลาดง่ายๆที่รู้กันในโลกออนไลน์ เช่น ลดแลกแจกแถม & รีวิวนั้นเองวิธีแก้ไข
            สร้างเนื้อหาที่ดีผ่านเว็บไซต์และ Social Media โดยให้ความรู้บ้าง ให้ประโยชน์อื่นบ้าง ไม่ใช่จะขายของเพียงอย่างเดียว สร้างการแชร์และการบอกปากต่อปากในโลกออนไลน์
        4. เรื่องการตลาดออนไลน์ คนทำธุรกิจขนาดเล็กทราบดีว่า Google และ Facebook ได้เงินจากการโฆษณา ฉะนั้น Google และ Facebook จะจัดกิจกรรมเยอะ หรือบอกผ่านสื่อมามากมายว่าให้ทำโฆษณากับ Google Adwords และ Facebook Ads สิ นั้นก็เพราะยิ่งมีคนทำเยอะ เขาก็ยิ่งได้เงินมาก แต่ Google กับ Facebook เขาไม่ได้บอกเรามากหรอกว่าทำยังไง ถึงจะได้ลูกค้ามากโดยใช้เงินให้น้อยและคุ้มค่าที่สุด เขาจะเน้นที่การโฆษณาเป็นหลัก ซึ่งธุรกิจขนาดใหญ่เล่นได้อยู่แล้วไม่มีปัญหา เขาจะไปซีเรียจเรื่อง Content มากกว่าที่จะทำให้เด่น ให้โดน แต่กับธุรกิจขนาดเล็กกลับไปเผลอเล่นเกมตาม เน้นโฆษณาก็จบสิครับ เสียเปรียบทุกอย่างวิธีแก้ไข
            ธุรกิจขนาดเล็ก สามารถเล่นโฆษณาได้ แต่ต้องเล่นการตลาดผ่าน Google SEO และ สร้าง Personal Brand ใน Social Media ด้วย ถึงจะชิงความได้เปรียบธุรกิจขนาดใหญ่ได้

สรุปโดยนักรบ
ธุรกิจขนาดเล็ก หรือ มนุษย์เงินเดือนทำธุรกิจ นอกจากต้องมีทักษะแบบเจ้าของธุรกิจแล้ว ควรศึกษาเรียนรู้ทักษะของการใช้งานเว็บไซต์, การออกแบบ, การเขียนเล่าเรื่อง และการตลาดออนไลน์ไว้ด้วย เพราะไม่มีเงินจ้างใครจึงต้องทำเอง
https://warrior.in.th/entrepreneur/5-skills-to-do-business-online/ (https://warrior.in.th/entrepreneur/5-skills-to-do-business-online/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 18, 2021, 04:35:59 pm
5 เหตุผล ทำไมเลือกทำการตลาดในกูเกิลเป็นหลักแทนเฟสบุ๊ค

(https://img.youtube.com/vi/fsCZgxAJUWU/0.jpg)

กลยุทธ์การทำการตลาดออนไลน์มีมากกว่า 1 วิธี แล้ววิธีไหนล่ะ ที่จะเหมาะกับธุรกิจของเพื่อนๆ มีแต่ได้ทดลองทำกับตัวเองแล้วเท่านั้นถึงจะรู้ จริงไหมครับ วันนี้นักรบขอแชร์วิธีการทำการตลาดออนไลน์ของตัวเอง ว่าทำไมถึงเลือก Google เป็นหลัก และใช้ Facebook เป็นรองในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้

5 เหตุผล เลือกทำการตลาดในกูเกิลแทนเฟสบุ๊ค
        1. Facebook ลดอัตราการเข้าถึงของ Fanpage ลงไปเรื่อยๆ โดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดที่จุดไหน
        2. Facebook ปรับ algorithm ทุกครั้งที่มี Feature ใหม่ๆเข้ามา เพื่อให้คนแห่ไปใช้ทำให้คนทำเพจต้องเหนื่อยกับการวิ่งตามไม่หยุดหย่อน (กูเกิลก็ปรับ Algorithm  SEO เหมือนกัน แต่เนื่องจากนักรบจับทางการทำ SEO ได้แล้วจึงไม่มีปัญหา)
        3. หยุดโพสเมื่อไหร่ Engagement ของ Fanpage ลดลงเข้าใกล้ 0ในขณะที่ ถ้าเลือกทำ Google SEO ให้เว็บไซต์ ถึงเดือนนี้ทั้งเดือนไม่มีบทความใหม่ ก็ยังมีคนเข้าเว็บไซต์จากบทความ SEO เก่าที่ทำไว้ไม่มีลดลง
        4. หลายธุรกิจเริ่มทำ Content Marketing ในเฟสบุ๊คมากขึ้น คนทำธุรกิจรายย่อยเสียเปรียบในอนาคตแน่นอน ถ้าไม่เจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) และสร้างเนื้อหาเฉพาะด้าน (Niche Content)
        5. Google มีระบบ Search ที่รองรับ Niche Content ดีกว่า Facebook

ความจริงแล้วยังมีอีกหลายเหตุผล แต่ทว่าเพียงเท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ตัดสินใจเลือกสร้างเนื้อหาเฉพาะด้านในเว็บไซต์ (Niche Content Site) เจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) ทำการตลาดใน Google และเสริมทัพด้วย Social Media ครับ เพื่อนๆละครับ มีวิธีการทำการตลาดออนไลน์อย่างไรบ้าง?
https://warrior.in.th/freelance-seo/marketing/5-reason-why-use-google-marketing/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/marketing/5-reason-why-use-google-marketing/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 20, 2021, 01:01:12 pm
อุปกรณ์เริ่มต้นสร้างคอร์สออนไลน์ SEO

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2016/09/infopreneur-infomation-business-courses-online-e1485075409880.jpg)

อุปกรณ์สำหรับการสร้างคอร์สออนไลน์ SEO นักรบใช้เพียง Notebook และไมโครโฟนดีๆก็เพียงพอ แต่ถ้าอยากให้ใช้งานได้ดีและคล่องตัวขึ้น ก็ซื้อกล้อง Webcam เพิ่มอีกสักตัว จะทำให้อัดภาพผู้สอนชัดเจนมากยิ่งขึ้น อยากรู้ว่าอุปกรณ์สร้างคอร์สออนไลน์มีอะไรบ้าง ก็เลื่อนอ่านด้านล่างกันได้เลยครับ

Notebook หรือ PC และ ไมโครโฟนเสียงดีๆสักอัน
ราคา Notebook จะอยู่ในช่วง 10,000 – 20,000 บาท ก็สามารถใช้งานได้แล้วครับ หรือใครจะใช้ PC ก็ได้นะไม่ว่ากัน
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2016/09/infopreneur-infomation-business-computer-tool-1-780x780.jpg)


Webcam และ Mouse
ถ้าเว็บแคมที่มากับโน๊ตบุ๊คไม่ชัดดีพอ ให้มองหากล้อง logitech c920 ราคาประมาณ 3,500 บาท (มีรุ่นใหม่ออกมาแล้ว ลองเช็คดูนะครับ) ส่วนเม้าส์เลือกที่ชอบจะได้ทำงานได้ง่าย เอาแบบไร้สายก็ดีนะ
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2016/09/infopreneur-infomation-business-computer-tool-2-780x780.jpg)
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2016/09/infopreneur-infomation-business-computer-tool-7.jpg)
ภาพตัวอย่างใกล้ๆของกล้องเว็บแคม Logitech 920 ครับ

หูฟังพร้อมไมโครโฟน ก็ใช้ง่ายๆราคาแค่ 210 บาทเอง แต่ถ้าอยากได้เสียงชัดๆ แนะนำให้ซื้อไมแยกดีกว่าครับ
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2016/09/infopreneur-infomation-business-computer-tool-8-780x780.jpg)

เมาส์ไร้สายราคาประมาณ 400 บาท
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2016/09/infopreneur-infomation-business-computer-tool-9-780x780.jpg)

อุปกรณ์เท่านี้ก็เพียงพอที่จะเริ่มต้น “สร้างคอร์สออนไลน์ สร้างรายได้ Passive Income ” แล้วนะคร๊าบ อ๋ออย่างลืมใช้สัญญาณ Internet แรงๆด้วยนะครับ ส่วน Software ที่ใช้นั้นมีอะไรบ้าง วันหน้าจะมาบอกคร๊าบ
https://warrior.in.th/entrepreneur/how-to-prepare-hardware-create-courses-online/ (https://warrior.in.th/entrepreneur/how-to-prepare-hardware-create-courses-online/)

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2016/09/infopreneur-infomation-business-computer-tool-10-2.jpg)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 20, 2021, 06:47:50 pm
ผลลัพธ์ – 5 คนทำธุรกิจส่วนตัวออนไลน์ ดีใจที่นักรบมีส่วนช่วยครับ

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2016/07/five-busines-online-owner.jpg)

ภูมิใจที่มีส่วนช่วยใครหลายๆคนผ่านคอร์สเรียนและบทความให้ความรู้การทำการตลาดออนไลน์ครับ จริงๆแล้วก็มีหลายคนที่อยากจะแนะนำ แต่วันนี้ขอพูดถึงเพียงเท่านี้ก่อนครับ อ๋อ ลืมบอกไป นักรบอาจจะมีส่วนช่วยเหลือบ้าง เช่นการทำเว็บไซต์ หรือแบ่งปันความรู้ในคอร์สเรียนครับ โดยทั้ง 5 ท่านนั้นมีทักษะที่จำเป็นอื่นๆ และมีความสามารถอื่นๆติดตัวมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งมีส่วนช่วยเป็นอย่างมากที่ทำให้ทำธุรกิจส่วนตัวออนไลน์ของแต่ละท่านได้ผลดีครับ

ท่านที่ 1 : พี่หลินและพี่ต้น เรียนจีนให้ได้จีน
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2016/07/chinesexpert.jpg)

วันแรกที่เจอ เราแลกเปลี่ยนคอร์สเรียนซึ่งกันและกัน ทำให้ได้ความรู้ อีกทั้งยังได้รับทำเว็บไซต์ให้กับพี่หลินอีกด้วยครับ โดยก่อนหน้านี้พี่หลินใช้เว็บไซต์ของ blogspot.com อยู่ครับ นักรบจึงแนะนำระบบเวิร์ดเพรสให้ เพราะเห็นว่าพี่ต้นซึ่งเป็นแฟนพี่หลินนั้น มีศักยภาพในการดูแลเว็บไซต์นี้ครับ

ท่านที่ 2 : น้องพัน Nine100.com
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2016/07/nine100.jpg)

น้องพันเป็นผู้เรียนคอร์สเรียน SEO รุ่นแรกๆเลยของนักรบครับ มีความตั้งใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่ทำเพจนายร้อยด้วยการแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับการสอบเข้านายร้อย ทำให้มีคนติดตามในแฟนเพจทะลุหลักแสนภายใน 1 สัปดาห์ทีเดียวครับ ซึ่งความสามารถในการแบ่งปันความรู้นี้นั้น เป็นความสามารถของทีมงานและตัวน้องพันเองครับ ส่วนนักรบดีใจที่มีส่วนช่วยในการรับทำเว็บไซต์และแบ่งปันความรู้ในคอร์สเรียนให้คร๊าบบบ

ท่านที่ 3 : คุณหนุ่ม เกษตรอินทรีย์
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2016/07/organicfarmthailand.jpg)

คุณหนุ่มคือเพื่อนใน Facebook ครับ และได้เห็นผลงานการทำเว็บไซต์และวีดีโอเกี่ยวกับ ” ทุกเรื่องราวการทำเกษตรอินทรีย์ ” ซึ่งเรื่องนี้นักรบเองยังไม่เห็นใครทำเป็นจริงเป็นจังเท่าคุณหนุ่ม อีกทั้งยังทำเว็บไซต์และเนื้อหาออกมาได้มากมายพอที่จะเก็บอยู่ในเว็บไซต์อีกด้วยครับ ดูแล้วน่าอ่านมากๆ ดีใจที่คุณหนุ่มบอกว่า บทความของนักรบมีส่วนช่วยให้คุณหนุ่มสร้างเว็บไซต์นี้ได้สำเร็จอีกด้วยคร๊าบบ

ท่านที่ 4 : เชฟหมวย สอนทำสลัด
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2016/07/bravelife.jpg)

เชฟหมวย คือ คนที่นักรบช่วยเหลือมากที่สุดครับ โดยจะช่วยในเรื่องการสร้างเว็บไซต์เวิร์ดเพรส, การถ่ายรูป, ตกแต่งรูปประจำบทความ, อัดวีดีโอ และเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์แบบครบวงจรอีกด้วย เนื่องจากเชฟหมวยมีต้นทุนที่ดีในเรื่องการทำอาหารอยู่แล้วครับ นักรบจึงช่วยฝึกให้เชฟหมวยสามารถเขียนบทความและเผยแพร่บทความวิธีการทำอาหารได้เอง จนได้รับการแชร์สูงถึง 18,000 เฟสบุ๊คแชร์ และติดกะทู้ Trend ใน Pantip คร๊าบบ

ท่านที่ 5 : น้องขวัญ Bathmetender
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2016/07/bathmetender.jpg)

น้องขวัญเป็นลูกเจ้าของโรงงานผลิตน้ำยาทำความสะอาดครับ และก็ได้ออกสินค้าของตัวเองเป็นผลิตภัณฑ์แชมพูออร์แกนิค ซึ่งน้องขวัญออกแบบและจัดทำข้อมูลเองหมดเลย เก่งมากครับ อีกทั้งน้องขวัญยังขยันเรียนกับคอร์สเรียนของนักรบมากกว่า 4 คอร์สแล้ว นักรบเลยขอฟังรีวิวจากน้องขวัญมาคร๊าบบบ น้องขวัญ : ” ได้มีโอกาสเรียนคอร์ส SEO, Adwords, WordPress: The7 กับทางนักรบ ได้ความรู้เยอะมากๆในแต่ละคอร์ส คุณนักรบรวบรวมเทคนิคที่จำเป็นไว้ให้มากมาย อัดแน่นภายในวันเดียว ครบเกือบทุกอย่างที่ผู้ประกอบการในยุค Digital Marketing ควรเรียนรู้ ขอบคุณมากๆนะคะ ”

กล่าวตอนท้าย
นี้เป็นตัวอย่างส่วนหนึ่งที่นับรบพอจะหยิบยกมาได้บ้าง เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับเรื่องราวที่นักรบได้มีส่วนช่วยเหลือไม่มากก็น้อย โดยจะเห็นได้ว่าแต่ละท่านมีต้นทุนที่เป็นความชอบ ความรัก ทักษะที่ทำดีอยู่แล้ว นักรบเพียงเพิ่มในส่วนของเว็บไซต์และการตลาดออนไลน์ให้ครับ
https://warrior.in.th/seo-goal/five-online-business-owner/ (https://warrior.in.th/seo-goal/five-online-business-owner/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 20, 2021, 07:12:28 pm
3 รูปแบบแห่งการใช้ชีวิต เพื่อทำธุรกิจออนไลน์

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/07/business-online-strategy-marketing-1.jpg)

นักรบทดสอบกับตัวเองเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี เพื่อค้นหา ลักษณะนิสัย การคิด และการชีวิตแบบไหน ? ที่จะทำให้ทำธุรกิจออนไลน์ได้ประสบความสำเร็จ
3 รูปแบบของการใช้ชีวิตดังนี้
        1. นักวางแผน ทำธุรกิจออนไลน์ ต้องวางแผน ตามตำรา ตามที่เรียนมา
        2. นักบันเทิง ทำธุรกิจออนไลน์ แบบชิวๆ ตามอารมณ์ เน้นความสุขและ Feeling
        3. นักรบ ทำธุรกิจ ทำก่อนคิดทีหลัง ใช้เงินให้น้อย ล้มแล้วลุกใหม่ เอาบาดแผลสร้างวิสัยทัศน์

นักวางแผน
ฟังดูดี เหมือนจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่น่าจะเลือก และนักรบก็ใช้วิธีนี้ในการทำธุรกิจส่วนตัว เริ่มทำธุรกิจออนไลน์เป็นของตัวเอง แต่นักรบกลับพบว่า วิธีนี้ผิดอย่างสิ้นเชิงสำหรับคนเริ่มต้นธุรกิจ การเป็นนักวางแผนได้ ต้องผ่านการเป็นนักรบ เน้นลงมือทำมาก่อน เพราะ สิงที่เราวางแผน มันก็แค่ออกมาจากตำรา หรือแค่ไปฟังคนอื่นมาเท่านั้น ประสบการณ์จริงไม่มีเลย มันใช้ไม่ได้จริงในธุรกิจ การเป็นนักวางแผน ทำให้ผมรู้สึกโง่มากๆ เมือมารู้ทีหลังว่าสิ่งที่ทำมันไม่เวิร์ค มันห่วย ช้า และไม่ได้ผล อีกทั้งมันง่ายที่จะหาเหตุผลมาอ้างโน่นอ้างนี้ เวลาอยากเลิก หรือปลอบตัวเองไปวันๆอีกต่างหาก

นักบันเทิง
ทำธุรกิจแบบ ชิวๆ คิดว่าค่อยๆทำ ตามอารมณ์ เพราะ เคยเป็นนักวางแผน แล้วเครียด ทำอะไรก็ไม่เวิร์ค เหมือนที่คิด ที่อ่านมาจากตำรา แต่ใจก็อยากทำธุรกิจอยู่ เลยทำธุรกิจแบบตามอารมณ์ เน้นหาแรงบันดาลใจจากคนอื่น จากหนังสือ จากคำพูดและจากงานสัมมนาต่างๆ มันช่วยให้มีพลังเป็นพักๆ แต่เอาเข้าจริง พลังมันมาเร็วไปเร็ว สุดท้ายก็ไม่เวิร์คอยู่ดี ไม่ใช่เพราะสิ่งที่อ่าน สิ่งที่ฟังมามันไม่ดีหรอก มันเป็นเพราะเราต่างหากที่ไม่มีประสบการณ์โชกโชนเพียงพอ โอกาสเข้ามาก็ไม่เห็นและคว้าไว้ไม่ได้ หนำซ้ำความสามารถที่มีก็ไม่เพียงพออันเนื้องมาจากทำอะไรชิวๆไปวันๆ นั้นเอง

นักรบ
เน้นลงมือทำ ทำให้เร็ว ไม่วางแผน ใช้เงินให้น้อยที่สุด ล้มแล้วลุกใหม่ วิธีนี้เวิร์ค สุดๆ เพราะมันช่วยแก้ไขปัญหาสำคัญของนักธุรกิจมือใหม่ได้อย่างชะงัก ทั้งเรื่อง ความคิดที่แคบเกินไป, ประสบการณ์ที่น้อย และความชำนาญแบบพื้นๆ การลงมือทำจะช่วยเติม ความคิดให้มองกว้าง, ประสบการณ์ให้โชกโชน และความชำนาญ ปราดเปรื่อง ยิ่งทำ ยิ่งเก่ง ยิ่งทำยิ่งแก้ไขปัญหาได้ ถึงแม้เจ๊ง ก็ใช้เงินน้อย เดือนหน้าเอาใหม่ ลุกใหม่ได้ มันเวิร์คสุดๆ ทำให้ความสามารถโตเร็วแบบพรั่งพรู การเคลื่อนไหว ทั้งร่างกาย การกระทำ ความคิด และสมอง มันแล่นเร็วกว่าปรกติอย่าน้อย 1.5-2 เท่า ทำให้มีเวลามากว่าคนอื่น และมีเวลามากกว่าตัวเองในอดีตมากมาย นั้นก็เพราะเราเคลื่อนไวเร็ว คิดเร็วนั้นเอง

ความสามารถในการลงมือทำเร็ว ทำให้มีความมั่นใจสุดๆ ว่าจะชนะและก้าวเป็นอับดับ 1 ในสิ่งที่ทำได้
และเมื่อทำไปมากเข้า คุณภาพของงานจะดีขึ้นเอง มันจะวางแผนได้เป็นอัตโนมัติเอง ไม่ต้องคิดมากเลย เพราะทำเยอะ ลุยเยอะ แก้ไขปัญหาเยอะนั้นเอง มันเป็นเหตุเป็นผล ทีเข้าใจได้ง่ายทีเดียวทำให้นักรบ ค้นพบสูตรสำเร็จของวิธีคิดในการทำธุรกิจเข้าให้แล้ว

นักรบเชื่อว่า สูตรสำเร็จของวิธีคิด มีอยู่จริง และวิธีคิดที่ดีจะสร้างสูตรสำเร็จของวิธีการได้เรื่อยๆ และปรับเปลี่ยนได้เรื่อยๆ ให้ทันยุคทันสมัย ส่งผลต่อให้เขาเป็นผู้นำทางความคิดและการกระทำในสาขาธุรกิจที่ทำอยู่ได้

สูตรสำเร็จของวิธีคิดมีอยู่จริง
เพราะเราเห็นคนที่เคยประสบความสำเร็จแล้ว ก็ประสบความสำเร็จอีก ด้วยพื้นฐานวิธีคิดที่ถูกต้องในการแก้ไขปัญหา การเข้าใจลูกค้า และการทำการตลาด รวมทั้งภาพรวมในการทำธุรกิจ สิ่งต่างๆเหล่านี้ได้ถูกฝึกปรือมาอย่างดี ผ่านความล้มเหลว ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชน ทำให้เข้าใจว่า เราจะสามารถหาสูตรสำเร็จของวิธีคิดในการแก้ไขปัญหาได้ ต้องผ่านการลงมือทำมาเยอะพอสมควร และปัจจัยที่ทำให้ลงมือทำเยอะ ก็คือความเร็วในการลงมือทำนั้นเอง

ความเร็วในการลงมือทำ
อยู่ในแทบทุกๆคำพูดของคนทำธุรกิจขนาดเล็ก หรือคนที่เริ่มต้นในการทำธุรกิจ ที่ประสบความสำเร็จแล้วบ้าง ความเร็วในการลงมือทำ ยิ่งเร็วเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เกิดผลงานเยอะเท่านั้น และยังส่งผลทางอ้อม ขจัดปัญหาพื้นๆ ที่คนส่วนใหญ่ติดอีกด้วย เช่น ความขี้เกียจและความกลัว โดย 2 สิ่งนี้สร้างความเครียดให้คน ก่อนที่จะได้ทำซะอีก ความเร็วในการลงมือทำ ส่งผลให้ทำงานได้ออกมาอย่างมากมาย ถึงแม้ช่วงแรก จะไม่ดีที่สุด แต่มันได้ลองผิดลองถูก และเรียนรู้อย่างรวดเร็ว จนตกผลึกทางความคิด วิธีการ และความชำนาญในสิ่งที่ทำไปพร้อมๆกัน ด้วยความเร็วนี้ ส่งผลให้นักรบ พัฒนาฝีมืออย่างเร็วมากๆ และทำให้อะไรต่อมิอะไรได้อย่างคล่องแคล่ว เสมือนทหารในสนามรบก็มิปาน

หากนักรบจะบอกเคล็ดลับเพียง 1 ข้อ ที่เป็นอาวุธลับส่วนตัว สิ่งนั้นคือ " ความเร็ว ในการลงมือทำ "
https://warrior.in.th/warrior-life/3-styles-of-living-to-do-business-online/ (https://warrior.in.th/warrior-life/3-styles-of-living-to-do-business-online/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 20, 2021, 07:53:31 pm
Content SEO ชนะกันที่มีเนื้อหา ดี เร็ว บ่อย ตรงประเด็น

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/07/google-marketing-online-business-howto-03.jpg)

การทำการตลาดออนไลน์  Google SEO จะชนะกันที่เนื้อหา (Content) ไม่ว่าจะเป็น บทความ (Articles), ภาพ (Images), เสียง (Audio) หรือ วีดีโอ (Videos) ที่ปล่อยมาถี่, ปล่อยมาบ่อย, ปล่อยแล้วยังมีคุณภาพ อ่านแล้วเข้าถึงอารมณ์ ได้ประโยชน์มากพอ จะเกิดการแชร์ การบอกต่อ และการกล่าวถึงแบบปากต่อปากเองโดยธรรมชาติ

หากจะเดินกลยุทธ์การทำการตลาดผ่าน Google SEO เป็นสำคัญ คนทำธุรกิจออนไลน์ควรที่จะเขียน และเล่าเรื่องสินค้าหรือบริการของตัวเอง เพราะจะเล่าได้ดีที่สุด และจะเล่าได้ดีขึ้นเรื่อยๆส่งผลดีในระยะยาว

เริ่มต้น ปรับรายจ่ายให้ต่ำสุดๆ / เดือน
การทำธุรกิจออนไลน์ โดยใช้การตลาด Google SEO จะต้องมองผลลัพธ์ระยะยาว ฉะนั้นมองข้ามเรื่องรายได้หรือยอดขายระยะสั้นไปได้เลย (หากต้องการยอดขายระยะสั้นให้ใช้ Ads เช่น Adwords หรือ Facebook Ads)

เริ่มต้นปรับรายจ่ายให้ต่ำที่สุด/เดือน และยิ่งในยุคนี้แล้ว ต้นทุนการทำธุรกิจออนไลน์มันต่ำสุดๆอยู่แล้วด้วย เพื่อทีจะไม่เครียดเรื่องรายได้ และให้เอาสมาธิจัดตางรางกิจวัตรประจำวัน เพื่อสร้างเรื่องราว (Story) เล่าเรื่องราวสินค้าและบริการของเราให้โดนใจ และเป็นประโยชน์กับคนโดยสามารถสร้างเนื้อหา (Content) ไว้ล่วงหน้าและตั้งเวลาโพสได้

สร้างความน่าเชื่อถือด้วย Content & SEO
ก่อนขายของออนไลน์ ควรสร้างภาพลักษณ์ที่ดี สะท้อนความเป็นตัวเอง และอุดมการณ์ในการทำธุรกิจเสียก่อน โดยค้นหาคุณประโยชน์ธุรกิจออนไลน์ของตัวเองให้เจอ และใช้มันเป็นพลังในการขับเคลื่อนธุรกิจ การสร้างความน่าเชื่อถือด้วย Content คือการสร้างเนื้อหาที่ดีสม่ำเสมอๆเกิดการ Like&Share ได้เรื่อยๆ

สิ่งตอบแทน
หลังจากนั้น Google จะจัดอันดับเว็บไซต์ดีขึ้นเรื่อยๆ มีคนเข้าเว็บไซต์มากขึ้นเรื่อยๆ และ Facebook จะตอบแทนด้วย การแชร์บอกต่อกันใน Social Media จนทำให้ธุรกิจออนไลน์เป็นที่รู้จักมากขึ้น ในชนิดที่แบบได้ทั้งเงิน และได้ทั้งความรักจากลูกค้า ส่งเสริมให้ท่านรักงานนี้มากยิ่งๆขึ้นไปอีกด้วยครับ
" สร้างคุณประโยชน์ให้ลูกค้าก่อน ผ่าน Website และ Fanpage แล้ว Google & Facebook จะตอบแทนคุณ ด้วยชื่อเสียงบนโลกออนไลน์ ในอีกชื่อหนึงที่เรารู้จักกันดี คือ Personal Brand นั้นเอง "
https://warrior.in.th/freelance-seo/job/seo-content/seo-content-for-online-marketing-is-king/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/job/seo-content/seo-content-for-online-marketing-is-king/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 20, 2021, 10:15:22 pm


Yoast & XML Sitemap ใน Search Console

ถ้อยคำจากวีดีโอ
วิธีที่นักรบแนะนำมี 2 วิธี คือ
1. เพิ่มจำนวนคนเข้าชมเว็บไซต์
       ถ้าเราเพิ่มคนเข้าชมเว็บไซต์จะเป็นการส่งสัญญาณให้ Google Bot จับว่าหน้าเว็บไซต์และบทความตัวนี้มีคนสนใจเยอะ และจัดอันดับให้ติด google search โดยมีวิธีการคือ Copy URL แชร์ลงใน Facebook Fanpage ของเรา ยิ่งมีคนติดตามเพจเรามากเท่าไร จะช่วยให้เพิ่มสถิติเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรามากขึ้นวิธีเช็คว่าบทความของเราว่าติดอันดับที่เท่าไหร่ใน Google Search  ให้พิมพ์คำว่า site : ตามด้วย URL ของบทความนั้นในการค้นหาบน Google หากติดอันดับจะปรากฏบทความของเราขึ้นมาทันที      การโปรโมทบทความของเราตามงบประมาณ จะช่วยเร่งสปีดคนเข้าเว็บไซต์มากยิ่งขึ้น วิธีนี้เหมาะกับคนที่มีเว็บไซต์ WordPress มีการเขียนบทความดีตอบรับความชอบของคนส่วนใหญ่ที่เล่น Social media

2. การตั้งค่า SiteMap ใน Google Search Console
     เมนู > SiteMap เพื่อบอก google ว่า เรามีโครงสร้างเว็บไซต์แบบนี้ แจ้งให้กูเกิลเช็คทุกหน้า สำหรับท่านที่ไม่มีโครงสร้างจาก SiteMap แบบนี้ นักรบจะแนะนำการติดตั้งปลั๊กอินการสร้าง Auto SiteMap ไปที่เว็บไซต์ของเรา เมนู ปลั๊กอิน > เพิ่มปลั๊กอินใหม่ นักรบใช้ปลั๊กอินของ Yoast SEO นอกจากทำ SEO ได้แล้วยังใช้ทำ SiteMap ได้อีกด้วย เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ให้มองหาเมนูที่ชื่อว่า XML SiteMap     เราจะพบว่าปลั๊กอินนี้ได้สร้าง SiteMap มาให้เราเรียบร้อยแล้ว ให้นำไปวางใน Google Search Console กลับไปที่ Google Search Console ทำการกดเพิ่ม SitMap สังเกตว่า เรามี URL อยู่แล้วให้เติมส่วนด้านหลัง จากนั้นเช็คและกดส่ง ทำจนครบทุก SitMap การเช็คการจัดอันดับของเรา ให้คลิกเมนู > “ดัชนี Google ” เราจะพบว่า Google ได้จัดอันดับของไว้เรียบร้อยแล้ว นี้คือการเร่งจัดอันดับหน้าเว็บไซต์เรา     หากเว็บไซต์ที่มีคนเข้าเยอะ จะรอประมาณ 1-2 วัน  ตัวอย่างบทความล่าสุดที่นักรบพึ่งทำ พึ่งโพสต์ไปไม่กี่วัน ยังไม่มีการจัดอันดับ แต่หากโพสต์นานแล้วจะมีการจัดอันดับเรียบร้อยแน่นอนวิธีที่ดีสุดที่นักรบแนะนำสำหรับคนที่พึ่งสร้างเว็บไซต์ควรทำการ Submit Sitemap ก่อน ตามด้วยการเพิ่มจำนวนคนเข้าเว็บไซด์ผ่านช่องทาง Social Media ครับ
https://warrior.in.th/wordpress/call-google-bot-rank-wordpress/ (https://warrior.in.th/wordpress/call-google-bot-rank-wordpress/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 23, 2021, 11:00:55 am
Blog คือ อะไร? ทำไมนักการตลาดออนไลน์ถึงควรใช้ WordPress (CMS)

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2017/03/Blog-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD-%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3-%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89-WordPress.webp)

ลองไปถามคนรอบตัวเราเล่น ๆ ดูสิครับว่า Blog คืออะไร, รู้จัก CMS มั้ย, ทำ WordPress เป็นรึเปล่า ? มันเลยทำให้ผมต้องเขียนบทความนี้ขึ้นมานั่นเองครับ
วันนี้ผมจะมาไขข้อข้องใจทั้งหมดให้เพื่อน ๆ ร้องอ๋อ  ไล่ตั้งแต่ Blog คืออะไร CMS คืออะไร มีอะไรบ้าง WordPress คืออะไร มีกี่ประเภท แตกต่างกันยังไง และปิดท้ายด้วยเรื่องของ Theme WordPress รับรองบทความนี้บทความเดียว “จบ” ได้ความรู้ไปเต็ม ๆครับ


เริ่มต้นด้วยคำถามที่ว่า Blog คือ อะไร?
เราน่าจะเคยได้ยินคำว่า Blog มาตั้งนานหลายปีแล้วใช่มั้ยครับ ซึ่ง Blog เนี่ยก็เป็นเว็บไซต์แบบนึงนี่แหละ แต่ออกแนวเป็นคล้าย ๆ บันทึกส่วนตัวมากกว่า ให้อารมณ์เหมือนการเขียนไดอารี่ เพราะบทความที่ใหม่สุดก็จะอยู่บนสุด ส่วนบทความเก่า ๆ ก็จะอยู่ลึกลงไปข้างล่าง ถ้าใครอยากอ่านก็อาจต้องค้นหากันไล่ลงไปเรื่อยๆ ระบบ Blog มันก็มีความยุ่งยากในตัวของมันเอง แต่ที่คนชอบใช้กันก็เพราะ มันไม่เสียตังค์นั่นเอง เราเลยจะเห็น “Blogger” หน้าใหม่ ๆ โผล่ขึ้นมาเป็นดอกเห็ด คอยเขียนเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไป บางคนให้ความรู้จนเป็นที่โด่งดัง กลายเป็นคนมีชื่อเสียงไปเลยก็มี บางคนรับรีวิวสินค้า โฆษณาเข้า ทำเงินไปเป็นหมื่นเป็นแสน กลายเป็นอาชีพหลักไปเลยก็ได้เหมือนกัน หรือบางคนมีสินค้าเจ๋ง ๆ อยากขาย ผมก็เห็นเค้าใช้ Blog เนี่ยแหละเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการกระจายสินค้า การสร้าง Blog จึงเป็นการลงทุนที่ไม่ต้องเสียเงินสักบาท อาศัยแค่แรงใจและความชอบก็สามารถเกิดเป็นช่องทางสร้างรายได้ได้แล้ว

CMS คือ อะไร เกี่ยวข้องกับ Blog ยังไง?
แต่กว่าจะออกมาเป็น Blog ให้ใช้งานกันได้สะดวกสบายแบบทุกวันนี้นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ เพราะนักพัฒนาเค้าต้องทำการบ้านกันอย่างหนัก ในการผลิตระบบขึ้นมาตัวหนึ่งชื่อว่า Content Management System หรือที่เรียกกันว่า CMS นั่นเอง ซึ่งมันคือ ระบบที่เน้นในการจัดการเนื้อหาและบทความ ทำให้คนธรรมดาที่เขียนโปรแกรมไม่ได้ อ่านภาษาคอมฯ ไม่ออก ก็สามารถสร้าง Blog สร้าง Website ของตัวเองขึ้นมาได้ ซึ่ง CMS นี่แหละครับที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความง่ายทั้งหมดทั้งมวลของโลกออนไลน์

แล้วโปรแกรม CMS มีอะไรบ้างล่ะ?
ถ้าจะให้ไล่ยาวทั้งหมด 3 วันก็คงไม่จบ ก็ตัวโปรแกรม CMS มันมีเยอะแยะมากมายตั้งแต่ WordPress, Joomla, PhpBB, Magento, Prestashop, Simple Machines, Open Cart, etc. แต่ละโปรแกรมก็จะมีจุดแข็งจุดอ่อนที่ต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการสร้างเว็บไซต์ของเรามากกว่าว่าเหมาะกับ CMS ตัวไหน บางตัวก็ช่วยในเรื่องการขายของออนไลน์ บางตัวก็เด่นในเรื่องนำเสนอคอนเทนต์ แต่ตัวที่เราจะมาเจาะลึกกัน วันนี้คือเจ้าตัว WordPress ที่ขึ้นแท่น CMS อันดับ 1 ของเมืองไทยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นเองครับ

WordPress คือ อะไร? มาทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กัน
WordPress นี่ก็เป็นโปรแกรมสำเร็จรูป CMS ที่เอาไว้สร้าง Blog สร้าง Website นั่นแหละ ตอนแรกเลยเนี่ย WordPress เกิดมาเพื่อทำหน้าที่เป็น Blog เฉย ๆ แต่เพราะมันปรับแต่งได้หลากหลาย ลูกเล่นเยอะเหลือเกิน มีตั้งแต่ Plug-in ไปจนถึง Theme มากมายให้เลือกใช้กันไม่ถูก เลยทำให้คนเอาไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย จนตอนนี้ WordPress กลายเป็นทั้ง Blog ร้านค้าออนไลน์ เว็บไซต์ และกระดานข่าวสารไปแล้ว! และด้วยกับข้อดีทุกอย่างที่บอกไป ทั้งใช้ง่าย สวย ลื่น ฟรี ลูกเล่นเยอะ และพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ทำให้ตอนนี้มีผู้ใช้งาน WordPress มากกว่า 200 ล้านเว็บไซต์ ทิ้งห่าง CMS ตัวอื่นแบบชนิดที่ว่าไม่เห็นฝุ่นกันเลยทีเดียว

ความแตกต่างระหว่าง WordPress.com และ WordPress.org
ถ้าใครได้ลองเข้าไปสมัครใช้งาน WordPress คงจะเห็นว่าจริง ๆ แล้วมันมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน คือ แบบ .com และ .org ซึ่งทั้ง 2 แบบนี้มีข้อดีข้อเสียต่างกันเล็กน้อยตามนี้เลยครับ

WordPress.com คือ อะไร?
ตัว WordPress.com ก็เหมือนกับ Blog ทั่วไปที่เปิดให้บริการฟรี ๆ มีธีมให้เลือกว่าเราอยากได้หน้าตาเว็บไซต์แบบไหน แถมมีโดเมนมาให้พร้อมเลย แต่โดเมนตรงนี้จะเป็น .wordpress.com นะครับ เช่น เราตั้งชื่อเว็บไซต์ว่า warrior ก็จะเป็น warrior.wordpress.com นั่นเอง

ข้อดีของ WordPress.com คือ
         - ฟรีทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบ (สามารถ Upgrade ใช้ Function ทีมากขึ้นได้ด้วยการจ่ายเงินเป็นรายเดือน)
         - ไม่ต้องเสียค่า Hosting เพราะข้อมูลถูกเก็บไว้บนเซิฟเวอร์ของ com
         - มีการอัพเดตระบบอยู่ตลอดเวลา
         - มี Plug-in จำเป็นให้บริการพร้อม ไม่ต้องไปติดตั้งเพิ่มเติมให้ยุ่งยาก


ข้อเสียของ WordPress.com คือ
         - ชื่อโดเมนมีคำว่า .com ต่อท้าย (แก้ไขโดยการชำระเงินค่าโดเมนเพิ่ม)
         - ปรับแต่งได้ก็จริง แต่ได้น้อยมาก เต็มที่ก็ได้แค่สีกับธีมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้น
         - โหลด Plug-in เพิ่มไม่ได้

WordPress.org คือ อะไร?
มาถึงด้านของ WordPress.org ต้องบอกเลยครับว่าเจ้าตัวนี้ก็เหมือนตัวข้างบนทุกอย่าง แต่ WordPress.org จะเป็นเหมือนการถอดมาแต่เฉพาะระบบเท่านั้น เราต้องหา Hosting เอง จดโดเมนเอง เลือกธีมเอง เสริม Plug-in ใหม่ทั้งหมดเอง (แต่ก็ไม่มีอะไรยากเกินใจเราหรอกครับ อยากใช้ของดีก็ต้องขวนขวายกันหน่อย)

ข้อดีของ WordPress.org คือ
         - ปรับแต่งได้ทุกแบบตามใจเรา อยากเฟี้ยว อยากแนวแค่ไหน เนรมิตได้หมด
         - Plug-in ก็เยอะสุด ๆ ช่วยเสริมนั่น เพิ่มประสิทธิภาพนี่ อำนวยความสะดวกเว่อร์
         - ใครเขียนโค้ดเป็นก็ปรับแต่งทุกอย่างเองได้เลย
         - เลือก Hosting เจ้าที่ต้องการได้
         - และสุดท้ายนะครับorg มีธีมให้เลือกใช้งานเยอะมาก แล้วคุณจะสนุกกับการเลือกธีมจนลืมสร้างเว็บไซต์ไปเลยล่ะครับ

ข้อเสียของ WordPress.org คือ
         - มีค่าใช้จ่ายในเรื่อง Hosting และ โดเมน ที่จำเป็นต้องเสีย
         - ไม่ง่ายเท่ากับแบบ wordPress.com

เดี๋ยวนะ แล้ว Theme WordPress คือ อะไร ?
ไหน ๆ เพื่อน ๆ ก็อุตส่าห์ติดตามอ่านกันมาจนถึงตรงนี้แล้ว ผมขอเซอร์วิสทุกคนด้วยการอธิบายถึงเรื่อง Theme WordPress กันหน่อยดีกว่า ถือเป็นการปิดฉากแบบสวย ๆ ไปด้วยเรื่องนี้เลยแล้วกัน ลูกเล่นที่ทำให้ WordPress พุ่งทะยานขึ้นมาแซงหน้าทุก CMS ได้ผมว่าน่าจะเป็นเพราะเรื่องของ ธีม นี่แหละครับ เพราะบน WordPress เนี่ยเราสามารถเปลี่ยนแปลงหน้าตาทุกอย่างได้อย่างง่ายดาย เหมือนเปลี่ยนเคสโทรศัพท์ยังไงยังงั้นแหละ แถมมีแบบให้เลือกเยอะมากกกกก เยอะจนตาลายเลยแหละครับ เข้าไปครั้งแรกกว่าจะตัดสินใจได้ลงตัวว่าจะเอาอันไหน ใช้เวลาไป 2-3 วันก็มี และที่สำคัญเลยก็คือ มัน “ฟรี” นี่แหละ (ถึงจะมีแบบเสียเงินด้วย แต่แค่แบบฟรีนี่ก็ครอบคลุมทุกอย่างแล้วครับ) แต่ก่อนจะเลือกธีม WordPress มาใช้งานสักอัน เราต้องดูด้วยนะครับว่า มันเหมาะสมกับสิ่งที่เราจะเอาไปใช้งานมั้ย ไม่ใช่มองแต่ความสวยอย่างเดียว เพราะแต่ละทีมก็อาจจะมีฟีเจอร์ที่แตกต่างกันออกไปเล็กน้อย ถ้าเราเลือกผิดมันก็จะแสดงศักยภาพออกมาได้ไม่เต็มที่ ไหน ๆ จะเสียเวลาทั้งทีก็เลือกให้มันดี ๆ ไปเลยดีกว่าครับ บทความด้านบนนี้เขียนโดน Freelance

5 เหตุผลที่นักรบเลือกใช้ WordPress
เหตุผลหลักๆที่เลือกใช้ WordPress เพราะเหมาะสมที่สุดในการต่อยอดการทำ SEO ให้กับเว็บไซต์ เมื่อเว็บไซต์ติดอันดับใน Google ด้วยคีย์เวิร์ดสร้างยอดขาย (Commercial Keywords) จะทำให้ธุรกิจเดินหน้าต่ออย่างไรกังวลใน Google Search ครับ
         1. ประหยัดเงินทำเว็บไซต์ได้ 1-3 หมื่นบาท หากเลือกสร้างเว็บไซต์เองด้วย WordPress
         2. รองรับเทคโนโลยีสมัยใหม่ๆเสมอ เพราะมีอาสาสมัครทั่วโลกค่อยพัฒนาอย่างเป็นระบบ
         3. รองรับการทำ SEO และ รองรับการใช้ Marketing Tools ได้หลากหลาย
         4. สามารถ Update และปรับแต่งได้เองเต็มที่
         5. รองรับการขยายธุรกิจให้ใหญ่ขึ้น รองรับคนเข้าได้มากขึ้นสูงถึง 5,000 คน/วัน (สำหรับผู้เริ่มต้น)

หากใครสนใจสร้างอาชีพด้วยการรับทำเว็บไซต์ด้วย WordPress ลองอ่าน Freelance รับทำเว็บไซต์ WordPress และ การขายของออนไลน์ด้วย WordPress ดูครับ ส่วนใครอยากจะต่อยอดการทำ WordPress SEO ก็อ่านบทความ ฟรีแลนซ์รับทำ SEO ได้ต่อครับ สุดท้ายถ้าจะต่อยอดเป็นระดับ SEO Agency ลองอ่านบทความ แชร์วิธีการสร้าง Small SEO Agency
ขอให้สนุกกับโลก Digital Marketing ครับ ลุย!!!
https://warrior.in.th/wordpress/blog-is/ (https://warrior.in.th/wordpress/blog-is/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 23, 2021, 01:23:47 pm
ทดสอบและใช้งานโปรแกรม SEO PowerSuite

(https://img.youtube.com/vi/QMUI60QXyck/0.jpg)

นักรบจะฝึกการใช้งาน SEO PowerSuite ประมาณ 1-2 เดือนครับ โดยจะทำการทดสอบการทำ SEO กับเว็บไซต์ตัวเอง ด้วยจำนวนคีย์เวิร์ด 640 Keywords, Search Volume 200,000 ครั้ง/เดือน กับเว็บไซต์ตัวเอง ให้ได้ผลก่อน เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นว่าได้ผลจริงครับ ทุกองค์ความรู้ที่ทดสอบ จะถูกเผยแพร่ในหน้าเว็บไซต์แห่งนี้ครับ หลังจากนั้นจะตกผลึกประสบการณ์, ศึกษาความรู้จาก Blog ต่างประเทศ และสรุปแนวทางในการทำคอร์สเรียน เพื่อสร้างนักการตลาดออนไลน์รุ่นใหม่ ที่สนใจประกอบอาชีพนี้ ได้มีพื้นฐานไปสมัครงานและทำงานในบริษัทครับ

โดยผมจะเน้นที่ SEO Technical Specialist โดยเฉพาะครับ (อ่าน SEO Job Requirment ได้ที่ https://goo.gl/tGq1hT (https://goo.gl/tGq1hT)) ส่วน SEO สาย Content สามารถเรียนได้ที่ https://warrior.in.th/classroom (https://warrior.in.th/classroom) ถ้าจังหวะดีๆ ผมจะจัดตั้งสถาบันการอบรม พัฒนาทักษะสร้าง Digital Marketer ใหม่ๆในอนาคตอีกด้วยครับ

สรุปรายละเอียด
หัวข้อเรื่อง : ทดสอบและใช้งานโปรแกรม SEO PowerSuite เหมาะกับ : นักการตลาดออนไลน์ และ เจ้าของธุรกิจ พื้นฐานที่ควรมี : มีพื้นฐาน SEO แล้ว ระยะเวลา : 1-2 เดือน
 
ข้อมูลโปรแกรม SEO PowerSuite โปรแกรมสามารถ Download & Testing ได้ฟรีที่ https://www.link-assistant.com (https://www.link-assistant.com) (ค่าลิขสิทธิ์โปรแกรม 299-699$) (ค่าอัพเดท 19.95 – 39.95 $/Mo)
https://warrior.in.th/freelance-seo/job/technical-seo/seo-powersuite-testing/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/job/technical-seo/seo-powersuite-testing/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 23, 2021, 02:21:02 pm
ประกันมนุษย์เงินเดือน ด้วยความรู้และประสบการณ์ คือหนทางที่ดีทีสุดวิธีหนึง

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/06/business-owner-salary-man-guarantee.jpg)

ในชีวิตการทำงาน เราต้องผ่านการเปลี่ยนงานหลายต่อหลายที่ เพื่อค้นหาที่ทำงานที่เหมาะสมกับเราที่สุด สิ่งแวดล้อมของที่ทำงานแต่ละที่ไม่เหมือนกัน เราจะรู้ได้แน่ชัดเมื่อทำงานไปได้สักระยะหนึง หรือประมาณ 6 เดือน – 1 ปีนั้นเอง

มนุษย์เงินเดือนกับชีวิต ที่ไม่มีทางเลือก
ในช่วงของการเลือกที่ทำงาน และเข้าทำงาน เราจะรู้เพียงเงินเดือน, สวัสดิการ, งานที่รับผิดชอบ,  และภาพลักษณ์ภายนอกของบริษัท แต่ยังไม่รู้ถึงรายละเอียดอื่นๆที่ซ่อนอยู่ เช่น กระบวนการทำงาน, นิสัยของเพื่อนร่วมงานและหัวหน้างาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรามีความสุขในการทำงานหรือไม่ด้วยครับ หากวันที่รู้ตัวแน่ชัดว่างานที่ทำตอนนี้ไม่ ok อีกต่อไป แต่ก็ไม่สามารถหาที่ทำงานใหม่สำรองดีๆได้ จนต้องอดทนทำงานเพื่อให้ได้เงินเป็นค่าใช้จ่ายครองชีพ เมื่อถึงจุดนี้ละก้อ เราจะตกอยู่ในสภาวะของการไม่มีทางเลือก และส่งผลให้วิธีคิดและวิธีการทำงานของเราตกต่ำลง หรืออยู่ในเกณฑ์แค่พอผ่านไปวันๆครับ

ประกันมนุษย์เงินเดือน ด้วยความรู้และประสบการณ์
ความรู้และประสบการณ์จะช่วยให้เรามีโอกาสและความมั่นใจในการค้นหางานใหม่ ที่เขาพร้อมจะเปิดรับคนที่มีความสามารถ โดยเราต้องแสดงความสามารถให้โดดเด่นในโลกออนไลน์ครับ

เราจะบอกโลกว่าเราเก่งด้านนี้ได้อย่างไร ?
คนเก่งมีมากมาย แต่คนเก่งที่ประกาศตนในโลกออนไลน์ให้คนรู้จัก มักได้งานแบบไม่ต้องเดินหาเสมอ เพราะงานจะเข้ามาหาคนที่ฉายแววประกายเด่นในด้านนี้ในโลกออนไลน์นั้นเอง ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่กำลังเฟ้นหาคนเก่งๆเพื่อร่วมทีมหรือร่วมโปรเจคของเขา และวิธีหนึงที่เขาใช้คือ การค้นหาบนโลกออนไลน์ จึงไม่แปลก หากว่าเราแสดงตนชัดเจนถึงความถนัดของเราบน Internet จะช่วยให้เขาค้นเจอเราและติดต่อเราได้ไม่ยากครับ

เราจะบอกโลกวาเราเก่งด้านนี้ทางไหนได้บ้าง ?
เริ่มต้น แบ่งเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง/วัน เพื่อสร้างเรื่องราวและบอกเล่าความสามารถของตัวเองผ่านการเขียนบทความ, ภาพ, เสียง หรือ วีดีโอย่างไดอย่างหนึ่งตามถนัด โดยสามารถสร้าง Content เหล่านี้ลง Facebook Fanpage , หรือ Youtube Channel ได้ก่อน เพราะสร้างง่ายที่สุด ในขั้นถัดมา หากมีความชำนาญเรื่องเว็บไซต์ แนะนำเอาความรู้ทีเขียนบน Facebook Fanpage และ Youtube มาลงใน เว็บบล็อกของเราครับ หลังจากที่มีความรู้มากพอ จะช่วยให้โลกรู้จักเรา ผ่านทั้ง Fanpage, Youtube และ เว็บไซต์ เมื่อทำไปสักระยะก็จะเริ่มมีคนสอบถามและติดต่อเข้ามาให้ทำงานให้, พูดคุย หรือ ชมเชยถึงผลงาน ทั้งหมดตรงนี้เหละครับ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการสร้างชื่อเสียงของเรา สร้าง Personal Brand ให้กับเราอย่างดีทีเดียว และทั้งหมดนี้ก็จะกลายเป็นหลัก “ประกันมนุษย์เงินเดือน” ที่มีค่ามากที่สุดครับ 
https://warrior.in.th/warrior-life/salary-man-protect/ (https://warrior.in.th/warrior-life/salary-man-protect/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 23, 2021, 02:50:08 pm
กลยุทธ์การตลาด มนุษย์เงินเดือนทำธุรกิจ

(https://img.youtube.com/vi/4w_5jk4sKQg/0.jpg)

นาทีที่ 00:00 – 00:26   สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ warrior นักรบทำธุรกิจ วันนี้ผมจะพูดเกี่ยวกับเรื่องการทำการตลาดของมนุษย์เงินเดือน ก่อนอื่นเนี่ยผมจะให้ดูภาพใหญ่ก่อน เป็น Flowchart ซึ่ง Flowchart ตัวนี้ ผมใช้เวลาทำติดต่อนานประมาณสิบชั่วโมง ตั้งแต่หนึ่งทุ่มยันตีสี่เลย แล้วก็ต่อในวันรุ่งขึ้น ในการอัดวิดีโออีก คาดว่าจะประมาณสองชั่วโมง รวมกันเป็นน่าจะสิบสองชั่วโมงเลย

นาทีที่ 00:27 – 01:22  สำหรับวิดีโอนี้ ในการเตรียมข้อมูล เพราะมันจำเป็นมาก ผมจะถ่ายทอดในมุมมองของการทำการตลาด เพื่อที่คุณจะได้เห็นภาพรวมของการทำธุรกิจออนไลน์ ธุรกิจส่วนตัว โดยปัจจัยที่คุณจะต้องเจอ คนเป็นมนุษย์เงินเดือนเนี่ยจะมีเวลาน้อย มีเงินน้อย แต่ขออย่าให้มีความรู้น้อยตาม โดยถ้าเราฝึกที่จะมอง การทำธุรกิจโดยเห็นแบบภาพรวมก่อนเนี่ย เราจะทำให้เราแก้ไขได้ถูกจุด รู้ว่าเวลาที่สินค้าเราขายไม่ได้ เราจะต้องพัฒนาตรงจุดไหน แล้วเป็นจุดไหนที่เราอ่อน จุดไหนที่เราแข็ง ฉะนั้นเราจะได้มองเห็น ถึงทิศทางการทำงานของมัน เริ่มต้นเนี่ย เรามาดูเรื่องของการตลาด ในหัวข้อว่า “การให้ข้อมูล” เนี่ย  มีประโยชน์ยังไง ช่วยคนตัดสินใจง่าย และสร้าง Brand ได้ยังไง เดี๋ยวเรามาดูรายละเอียดกัน

นาทีที่ 01:23 – 01:50  เริ่มต้น ผมอยากจะให้คนที่ฟังอยู่ นึกถึงการตลาดแบบเดิมก่อนที่เราเคยได้ยิน ก็คือการตลาดแบบ 4P นึกออกไหมครับ  P มีอะไรบ้างครับ? เอาเป็นเท้าความก่อน มีตรงนี้แหละครับ Product, Price, Place, Promotion แปลถูก  Product คือ สินค้า, Price คือ ราคา, Place คือ ทำเลสถานที่, Promotion ก็คือ ลด แลก แจก แถม กิจกรรมอะไรก็แล้วแต่'

นาทีที่ 01:51 – 02:31 แต่เนื่องจาก internet  ทำให้พฤติกรรมของคนซื้อเปลี่ยนไป วิธีการซื้อก็เปลี่ยนไป  การตัดสินใจซื้อก็เปลี่ยนไป ในยุคของการทำตลาดแบบเฉพาะกลุ่ม Niche market   มีการนำเสนอกลยุทธ์ที่เรียกว่า 4C    4C เนี่ยจากหนังสือชื่อ The New Marketing Paradigm โดย ดอนอีซูลทัซ (Don E Schultz) คนนี้ แล้วก็นักเขียนอีกสองสามท่าน  หนังสือเล่มนี้ ขายที่ Amazon ด้วย นี่  แล้วก็นักเขียนอีก นักเขียนอีกสองสามท่านเล่มนี้ New Marketing Paradigm

นาทีที่ 02:32 – 03:40  คราวนี้ New Marketing หนังสือเล่มนี้พูดเกี่ยวกับอะไรบ้าง เรื่องแรก เขามีการเปลี่ยน แนวคิดในการทำการตลาดแบบ 4P เนี่ย ถ้าคุณจะมาเจาะแบบ Niche market มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตอบรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยมี internet เนี่ยเป็นตัวแปรสำคัญ คุณต้องใช้ 4C ครับ ลักษณะยังไงครับ เริ่มแรก   Product เนี่ย แทนที่เราจะ Focus เกี่ยวกับเรื่องสินค้าเป็นตัวตั้งตน  เราจะเปลี่ยนไปที่ Focus ของ Customer  คือลูกค้าของเรา ลูกค้าของเรามีความพึงพอใจมากแค่ไหน เขารู้สึกอย่างไร และเขาได้รับข้อมูลจากแหล่งไหนบ้าง ที่ช่วยทำให้เขาตัดสินใจที่จะซื้อ หรือว่าไม่ซื้อสินค้าของเรา  หรือว่าช่างใจ เก็บเป็นตัวเลือก อะไรก็แล้วแต่  อีกส่วนหนึ่งก็คือว่า เรื่องของ Cost ครับ คือความคุ้มค่า ความถึงพอใจ   Price เป็นส่วนหนึ่งของ Cost   คราวนี้เวลาคนไปซื้อของ มันอาจจะไม่ได้ดูแค่ราคาอย่างเดียว จะดูถึงความคุ้มค่า ความพอใจ  ถ้าของมีราคาสูงจริงแต่เรารู้สึกว่าคุ้มค่า  เขาก็จะซื้อได้

นาทีที่ 03:41 – 04:42  ถัดไปก็คือเรื่องของ Place ครับตัวนี้ Place คือ เมื่อก่อนน่ะครับ Place คือทำเล แต่คราวนี้คือจะพูดถึงเรื่องของ Convenience ความสะดวกสบาย เวลาที่ลูกค้าจะซื้อของเนี่ย บางทีเนี่ยเขาไม่จำเป็นต้องขับรถไปซื้ออีกแล้ว หรือไม่ต้องเดินไปซื้อ เข้าห้าง  เราอาจจะสั่งซื้อผ่านออนไลน์ด้วย มีความสะดวกสบายมากขึ้น  ฉะนั้นการทำการตลาดของเรา ถ้าคำนึงถึงความสะดวกสบายเนี่ย ต้องมองดูจุดนี้ด้วย อันสุดท้าย Promotion เนี่ย อ่า..  เขามองว่ามันแคบเกินไปละ Promotion เนี่ยเป็นการจากส่วนลดแลกแจกแถม จากผู้ชาย แต่เรื่อง Communication เนี่ย เป็นเรื่องที่ใหญ่ขึ้น Communication เนี่ยเป็นการโต้ตอบกับลูกค้าในสองทางแล้ว  มีการสื่อสารออกไป  ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอ, Viral marketing   การทำเนื้อหา Content, การจัดกิจกรรม Event หรือว่าการโต้ตอบ สิ่งที่สื่อออกไปเนี่ย คือ Communication หมด การสร้าง Facebook fanpage ก็เป็นสร้าง Communication ที่ดีมากอย่างหนึ่ง

นาทีที่ 04:43 – 05:30  ในองค์ความรู้ที่ผมจะถ่ายถอดนี้ จะเหมาะกับนักธุรกิจ นักเขียน วิทยากร นักการตลาด เข้าของกิจการ และคนที่สนใจจะสร้าง Brand และขายสินค้าออนไลน์ คราวนี้กลับมาดูว่าถ้าเราจะทำธุรกิจออนไลน์ เราจะต้องมีปัจจัยอะไรที่เราต้องรู้บ้าง เดี๋ยวผมขอ Zoom ไปให้เลยชัดๆ อ่านี่ การทำธุรกิจออนไลน์นี้ ผมจะให้โฟกัสอย่างงี้ 3 ข้อใหญ่ๆ แล้วเราจะใช้ตัวนี้เป็นภาพใหญ่ในการสอนเกือบทั้งหมด อันแรกคือ คุณต้องมีสินค้าก่อน ถัดมาคุณจะต้องมีหน้าร้านออนไลน์ อย่างเช่น เว็บไซต์ หรือ Facebook fan ก็ได้ ใช้เป็นหน้าร้านออนไลน์ แล้วคุณจะทำให้ลูกค้ารู้จักสินค้าจองคุณได้ คุณต้องพึ่งการตลาดออนไลน์ สามส่วนอย่างงี้

นาทีที่ 05:31 – 06:58  โดยสินค้า  สินค้าของเราเนี่ย เวลาที่จะไปปรากฏบนหน้าร้านออนไลน์เนี่ย เราจะต้องทำให้มันดูดี  เราจะเรียกมันว่าการ Pack สินค้า เตรียมขาย หรือว่าเตรียมเนื้อหา Content ที่ปรากฏอยู่ในหน้าร้านของเรา ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์หรือ Facebook fanpage  ไม่ว่าจะเป็นภาพ เสียง วิดีโอ โดยมีส่วนของของฟรี แล้วก็ไม่ฟรี ก็แล้วแต่เราจะแจก จะจ่าย จะขายหรือว่าจะสื่อสารเข้าไปผม  โดยเมื่อเราที่ทำการ Pack สินค้าให้ดูดี โดย Pack สินค้าให้ดูดี เตรียมเนื้อหาให้ดูดีเนี่ย ต้องใช้ทักษะของเรื่องการออกแบบเข้าช่วย สำหรับบริษัทขนาดใหญ่เนี่ย ที่มีทีมงานออกแบบเรียบร้อยเนี่ย เขาจะออกแบบ package สินค้า ออกแบบดีไซน์หน้าปก การถ่ายรูป เขียนคำพูด มีวิดีโออะไรต่างๆ ที่ค่อนข้างมีคุณภาพสูง ทำให้ Feedback กลับมาดี แล้วก็ทำให้สินค้าเนี่ยดูมีราคาทันที แล้วก็คุ้มค่าที่จะซื้อ แต่สำหรับมนุษย์เงินเดือนเนี่ย คนที่มีเวลาน้อย  เงินทุนน้อย เดี๋ยวผมจะสอดแทรกวิธีคิดแล้วก็วิธีทำอีกที ว่าจะทำยังไงให้ Pack สินค้าของเราดูดี ที่ปรากฏอยู่บนหน้าร้านออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ หรือ Facebook fanpage  และจะหาแหล่งข้อมูล เอา Source ดีดียังไง เพื่อที่จะทำให้สินค้าดูดีขึ้นอีกด้วย ซึ่งผมจะพูดในหัวข้ออื่นๆถัดไป  นี่คือให้เห็นภาพรวมก่อน

นาทีที่ 06:59 – 07:57 พอเราทำการ Pack สินค้า เตรียมขาย เก็บอยู่ในหน้าร้านออนไลน์แล้ว มีเนื้อหาอะไรอยู่เว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว สิ่งถัดไปที่เราจะต้องทำ ก็คือการนำไป promote  โดยช่องทางในการ promote เนี่ยผมจะขอโฟกัสหลักๆ แค่สองตัว เพื่อให้เห็นชัด ถ้าเรามีเว็บไซต์ เราจะโปรโมทผ่าน Google  โดย Google เนี่ย เราจะใช้ สองตัวนี้เป็นหลัก คือ SEO และ Adwords    ผมยกตัวอย่างง่ายๆ  นี่คือเว็บไซต์ของ Warrior   เรามีเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว เราทำการเอาข้อมูลมาใส่ในเว็บไซต์ของเราเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นหน้าร้านออนไลน์ นี่คือข้อมูล และเราทำการเอาสินค้ามาใส่ในเว็บไซต์ของเราแล้ว อย่างเช่น สินค้าของผมเนี่ยจะเป็น Course เรียน อย่างงี้ เห็นไหมครับ  มีระบบ Shopping card อะไรเรียบร้อยแล้ว เห็นไหมครับ เอามาใส่ไว้เรียบร้อยแล้ว เห็นไหมครับ  มีการดีไซน์แพ็คเกจ การให้ข้อมูล และรายละเอียดต่างๆของสินค้าเรียบร้อยแล้ว

นาทีที่ 07:58 – 08:40 ขั้นต่อไปเนี่ย เราจะนำข้อมูลเหล่าเนี้ยไปปรากฏให้เห็นบนเว็บไซต์  คนอื่น ให้คนอื่นเห็นผ่าน Google   โดยเราจะไปให้ปรากฏบนหน้า Search Engine ของเขา  ซึ่งวิธีการทำการตลาดออนไลน์ให้ไปปรากฏบนหน้า Search Engine ของเขาเนี่ย เราจะมีตำแหน่งสองส่วน ที่เราจะต้องสนใจ นั่นก็คือ เรื่องแรก ก็คือการลงโฆษณา อย่างงี้ เราจะเรียกว่า Google Adwords  จะมีตัว Ads ตรงนี้อยู่ ในกรณีที่เราเว็บไซต์ใหม่ๆเนี่ย เราจะไม่มีเว็บไซต์ขึ้นอันดับดีใน Google  ถ้าเราอยากจะเร่งให้คนเนี่ย เห็นเว็บไซต์เร็วขึ้น เราก็ใช้ Google Adwords ช่วย

นาทีที่ 08:41 – 09:35 โดยการเรียนรู้เรื่องของ Google Adwords  เราต้องเข้าเว็บไซต์ตรงนี้ แล้วก็สามารถที่จะลงชื่อเข้าใช้ แล้วก็ทำโฆษณาได้ ซึ่งกูแอ้ด จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ใหญ่มาก ซึ่งสามารถเปิด Course ได้เลย แต่ผมขอเกริ่นเท่านี้ก่อน โดยเราจะทำการโฆษณาโดยเสียตังค์เมื่อคนคลิก  อีกส่วนหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ การที่จะทำให้เว็บไซต์ ติดอันดับตรงส่วนนี้ ที่เราจะเรียกว่าการทำ SEO  ซึ่งการทำ SEO เนี่ยมันจะมี Course  ของผมเรียบร้อยแล้ว คือ “เพิ่มลูกค้าออนไลน์ด้วย SEO” แล้วก็ Course ตรงนี้ รายละเอียดภายในเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว  คราวนี้กลับมาที่ Facebook กันบ้าง อ่า อันต่อไป ก็คือการทำการตลาดออนไลน์ โดยใช้ Facebook  ช่วย

นาทีที่ 09:36 – 10:54 ขั้นแรก เราจะสร้าง Facebook fanpage ขึ้นมาก่อน นี่คือ Facebook fanpage  เราสามารถสร้างได้ง่ายๆ ไปที่ Account ของเราแล้วก็เลือก สร้างเพจ ตัวนี้ เราก็จะมีหน้า สร้างแฟนเพจ เรียบร้อยแล้ว พอเราสร้างแฟนเพจ ตั้งชื่อแล้ว   เราก็จะมีหน้าเฟสบุคตัวนี้ที่ซึ่งเราไว้สำหรับ ในการโพสเนื้อหา ข้อมูล ที่มีประโยชน์ อย่างเช่น ผมเขียนบทความภายในเว็บไซต์ แล้วก็นำมาโพสใน Facebook fanpage  ก็บทความล่าสุด ที่มีคนตอบรับดีเลย  มีคนเข้าถึง ประมาณหมื่นกว่าคน แล้วก็มีคนแชร์ประมาณร้อยกว่าครั้ง   ถูกใจประมาณสองร้อยกว่าครั้ง แบบนี้ โดยที่ยังไม่ได้ทำโฆษณาเลย  เป็นการบอกต่อๆกันผ่าน Facebook  แล้วก็เป็นการเข้ามามีส่วนร่วมจากสมาชิกในแฟนเพจของผมนั่นเอง ซึ่งมีประมาณหมื่นคนเศษๆ ในกรณีที่เราอยากจะเพิ่มการเข้าถึง ให้คนรู้จัก อ่า โพสของเรา หรือรู้จักเพจของเรามากขึ้นเนี่ยเราต้องเรียนรู้เรื่องการทำโฆษณา Facebook Ads เพิ่ม ซึ่ง Facebook Ads เนี่ย ก็จะเป็นอีกเรื่องนึง ซึ่งสามารถเปิด Course ได้เลย ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างใหญ่

นาทีที่ 10:55 – 11:24 คราวนี้กลับมาดูภาพรวมอีกครั้ง เริ่มแรก เราจะต้องมีสินค้าของเราก่อน เสร็จแล้ว เราทำการ Pack สินค้า แล้วเตรียมเนื้อหาให้เรียบร้อย ให้อยู่บนหน้าร้านออนไลน์ของเรา ซึ่งหน้าร้านออนไลน์ของเราเนี่ยจะต้องทำให้ดูดี แล้วมีความเป็นมืออาชีพสูง สำหรับระบบเว็บไซต์ที่ทำหน้าร้านออนไลน์เนี่ย สามารถติดต่อทาง Warrior ได้ มีระบบ Newsmag ที่ช่วยในการทำ SEO ได้อย่างดีอยู่

นาทีที่ 16:28 – 17:10 นี่คือภาพรวมทั้งหมด ในการทำธุรกิจออนไลน์ เราจะเห็น ส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นตัวอย่าง กลยุทธ์ในการทำการตลาดโดยการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อทำให้ลูกค้าตัดสินใจง่าย ซื้อง่าย แล้วก็กลับมาแนะนำ บอกต่อ  สำหรับรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับการทำธุรกิจออนไลน์ ไม่ว่าจะอยู่ในส่วนของสินค้า หน้าร้าน หรือการตลาดอย่างงี้ เดี๋ยวจะพูดถึงโอกาสในวิดีโอถัดไป สำหรับวิดีโอเรื่อง “มนุษย์เงินเดือนทำการตลาด”  โดยใช้เนื้อหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้ลูกค้าตัดสินใจง่าย สร้าง Brand  จบเพียงเท่านี้ก่อนครับ  สวัสดีครับ.
https://warrior.in.th/warrior-life/salaryman-statregy/ (https://warrior.in.th/warrior-life/salaryman-statregy/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 24, 2021, 10:05:46 am
วิธีเจาะกลุ่มเป้าหมายใน Facebook ได้ตรงกลุ่ม

วิธีเจาะกลุ่มเป้าหมายใน Facebook ได้ตรงกลุ่ม
วิธีค้นหากลุ่มเป้าหมายใน Google & Facebook เพื่อมองเห็นกลุ่มลูกค้าจริง ช่วยยืนยันได้ว่าธุรกิจของเราจะเติบโตได้มากแค่ไหน ในโลกออนไลน์

วีดีโอนี้เหมาะกับ : นักการตลาดออนไลน์ที่มีประสบการณ์ การใช้งาน Google Keywords Planner และ Facebook Audience

ประโยชน์ : รู้วิธีเช็คขนาดของกลุ่มเป้าหมายธุรกิจตัวเอง ใน Google & Facebook แก้ไขคำผิดในวีดีโอครับ คนซื้อ / คนเข้าชม (Audience) = 350/350,000 = 0.001 เปลียนเป็น % = 0.001 x 100 = 0.1 % ครับ (ขอบคุณ Ekkachai Taimuang ที่แจ้งครับ)   วิธีเช็คกว่ากลุ่มเป้าหมายใน Facebook ตรงกลุ่มจริงๆไหม

คำพูดในวีดีโอ
สวัสดียินดีต้อนรับเข้าสู่วิธีการทำการตลาดออนไลน์แบบนักรบนะ วีดีโอนี้จะพูดถึงเรื่องนะ วิธีหากลุ่มเป้าหมาย Audience ของเรา ใน Google และ Facebook นะ โอ้โห! รวมกันอยู่ในวีดีโอเดียวนะ จริงๆ มันแยกวีดีโอได้เลยนะ   วิธีหากลุ่มเป้าหมายใน Google ก็ตัวนึง วิธีหากลุ่มเป้าหมายใน facebook ก็อีกตัวนึงได้เลย แต่นักรบเอามารวมกันเลย วีดีโอมันจะได้แน่นๆ หน่อยนะ โอเคนะ คราวนี้ มาเกิดตั้งคำถามว่า เฮ้ยทำไมต้องหากลุ่มเป้าหมายด้วย Audience ด้วยนะ เพราะว่าเราจะได้รู้ว่าตอนนี้ ธุรกิจของเรามีคนสนใจเยอะมากแค่ไหนนะ มีคนสนใจจริงรึเปล่า เยอะมากพอที่จะทำเป็นธุรกิจหรือเปล่า ธุรกิจจะเดินต่อไปได้นะ เราจะได้เช็คได้ว่าธุรกิจของเราปีนี้เราโตกี่เปอร์เซ็นต์ ปีนี้หน้าเราโตกี่เปอร์เซ็นต์ แล้วเราจะโตได้อีกมั้ยอย่างนี้เป็นต้น แล้วเราจะได้รู้วิธีการทำการตลาด วิธีการหากลุ่มเป้าหมายไปด้วยผ่านวีดีโอตัวนี้นะ โอเค คราวนี้มาเริ่มต้นเลยนะ นี่คือเว็บไซต์ WARRIOR ให้เนื้อหาฟรีด้วย Content แบบ Marketing และ SEO ผสมกันไป เพื่อให้คนเข้ามาเจอเว็บไซต์และก็ทำ Youtube ด้วยอะไรด้วยนะ คราวนี้นะ เราจะมาหา Audience ของเรากันนะ เฮ้ย ถ้าเกิดใครไม่รู้จักคำว่า Audience เนี่ย search ใน Google ได้นะ เว็บไซต์ Nuttapatch.com เขียนไว้แล้วนะคับ Audience คืออะไร แปลง่ายๆ ก็คือกลุ่มเป้าหมายแล้วกัน กลุ่มที่สนใจเรื่องที่เราจะบอก ที่เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของเราด้วยนะ สิ่งที่เค้าอยากรู้ด้วยนะ เช่น แบบประโยชน์ วิธีใช้ หรือ ข้อมูลที่เค้าสนใจด้วย กลุ่มที่คาดว่าจะเป็นลูกค้าของเรานั่นเองนะ  Audience ของเรา
นาทีที่ 1.54 คราวนี้  เราจะหากลุ่ม Audience ใน Google  ได้อย่างไร เราต้องใช้เครื่องมือใน Google Adwords  มันชื่อว่าเครื่องมือวางแผนคำหลัก  เครื่องมือวางแผนคำหลัก ซึ่งนักการตลาดทุกคนจะต้องรู้แล้ว ใน Google Adwords ไม่รู้ไม่ได้แล้วนะ โคตรสำคัญเลย เข้าไปที่ Google Adwords แล้ว Login ด้วย Gmail ของท่านนะ แล้วก็ถ้าเกิดใครเคยซื้อ Adwords แล้วเนี่ยเวลา Report ออกมาตัวนี้ นะ กดผลลัพธ์ออกมาจะเป็นตัวเลขค่าคงที่นะ แต่ถ้าเกิดใครไม่เคยซื้อโฆษณา Adwords เลยจะออกมา มันจะเป็นค่าแบบช่วง Rank คือตั้งแต่ 1 ม. – 1 ส. 1 หมื่น ถึง 1 แสน 1 พ. – 1 ม. 1 พัน ถึง 1 หมื่น อะไรอย่างงี้นะมันจะไม่ใช่ตัวเลขค่าคงที่ แล้วมันจะดูลำบาก เราจะเช็ค Audience เราไม่ได้เลยนะ เราต้องซื้อโฆษณา Adwords กันก่อน คราวนี้มาที่เครื่องมือวางแผนคำหลักตรงนี้ เราจะใช้เครื่องมือตัวนี้นะในการวิเคราะห์กลุ่ม Audience ของเรา ใส่ Keyword ของเราเข้าไป เอาไปตั้งแต่ต้นเลยละกันเดี๋ยวจะงงกัน  เครื่องมือวางแผนคำหลักนะ วีดีโอนี้ค่อนข้างจะเป็นวีดีโอที่เหมาะกับนักการตลาดออนไลน์ที่มีพื้นฐานมาแล้วนะ ที่มีประสบการณ์มาแล้ว ทำการตลาดออนไลน์มาได้สักพักแล้ว สำหรับคนที่แบบเพิ่งเริ่มต้นขอให้ไปแบบอ่านหนังสือ ดูบทความ ดูวีดีโอนะ หรือ Take course ไปก่อนนะสำหรับพื้นฐาน อะโอเค ใส่ keyword ที่เกี่ยวกับธุรกิจของท่านเข้าไป นักรบก็จะยกตัวอย่างธุรกิจตัวเองเลยนะ เพื่อจะได้รู้ว่ามันทำยังไงเลยนะ เช็คให้แน่ใจว่าเป็นประเทศ และภาษาที่ต้องการนะ กดรับแนวคิด  เฮ้ยใส่แค่ keyword คำเดียวเนี่ยมันได้กลุ่ม Audience ตรงนี้ชัดเจนหรือเปล่า นี่คือกลุ่ม Audience ของเราใน keyword ที่เกี่ยวข้อง มันใช่จริงหรือเปล่าและจะต้องเช็คให้แน่ใจว่า Keyword พวกนี้มันใช่จริงหรือเปล่า 3 แสนกว่าครั้งต่อเดือนเนี่ยมั นใช่กลุ่ม Audience ของเราใน Google Search จริงหรือเปล่า วิธีการนะ เลื่อนลงมาลงมาดูข้างล่าง  ขายสินค้าออนไลน์ ขายของออนไลน์ ธุรกิจออนไลน์ มันใช่มั้ยนะ ถ้านักรบรู้สึกว่ามันไม่ใช่ นักรบจะยัดเข้าไปในคำหลักเชิงลบ เพื่อเอาคำพวกนี้ สถิติพวกนี้นะ ไปลบออก ลบออกจากกลุ่ม Audience ทั้งหมด เราจะได้ตัวเลขที่ใกล้เคียงกับความจริงมากยิ่งขึ้น สมมตินักรบจะสอนนักการตลาดออนไลน์ไม่ได้สอนขายของ ไม่ได้สอน  คิดว่าขายของออนไลน์  อยากสอนการใช้เครื่องมือการแชร์ประสบการณ์มากกว่า ก็เอาคำนี้เป็นคำหลักเชิงลบ ใส่เข้าไป ใส่เพื่ออะไร มันจะได้เอาคำพวกนี้ คำที่เราไม่ต้องการนะ ไปลบในกลุ่ม Audience จะได้ตัวเลขคน search จริงๆ เฉลี่ยต่อเดือนเท่าไหร่ เราจะได้ดู Audience ต่อเดือนจริงๆ เท่าไหร่ ลบแบบนี้ไปเรื่อยๆ นะ คำหลักเชิงลบ นี่ลบไปเยอะมาก ลบกันเป็นสิบ บางที 20 – 30 คำเลยนะ เพื่อที่เราจะได้ตัวเลขตรงนี้จริงๆ  ที่มันใช้ได้จริงนะ  นักรบก็ทำประมาณเป็นแบบ 2 – 3 ชั่วโมงนะกว่าจะได้ตัวเลขจริงๆ  อันนี้จริงๆ นะ อยากให้ทำกัน เพราะว่าทำปุ๊บจะได้รู้ audience ของเราจริงๆ  เราจะได้รู้เลยว่า เฮ้ย ข้อมูลมันน่าเชื่อถือได้ กลุ่ม audience ของเราจริงๆ มันใช่จริงๆ แล้วมันจะเกิดความเชื่อมั่น ว่าเออเรามีตลาดรองรับ เรามีตัวเลขที่เราสามารถไปอ้างอิง  สามารถคุยกับเจ้าของธุรกิจ นักการตลาดหรือใครๆ ก็ได้นะ นักรบทำแบบนี้จนวิเคราะห์มาแล้ว keyword ประมาณนี้นะ เสร็จแล้วก็รู้แล้วว่า keyword คือประมาณนี้ ใส่เข้าไปเลยแล้วจะได้รู้ audience จริง ๆ audience ของนักรบอยู่ที่ประมาณ 2 แสนเห็นปะ ตัวเลขประมาณนี้ ประมาณ 2 แสน เฉลี่ยๆ คือ 2 แสนต่อเดือน 2 ล้านต่อปี ว่างั้นเหอะ รวมตัวเลขแล้วโดยเฉลี่ย เราก็จะได้รู้ว่า เฮ้ย 2 แสนต่อเดือน โอเค เว็บไซต์นักรบ มีคนเข้าประมาณหมื่นนิดๆ ต่อเดือน หมายความว่าอะไร หมายความว่า เว็บไซต์ของนักรบนะ สามารถที่จะทำ Google SEO หรือ Adwords เนี่ยดึงให้คนเข้ามาในเว็บไซต์ของเรานะได้เพิ่มอีกหลายเปอร์เซ็นต์ ได้เพิ่มอีกหลายเท่าเลย นึกออกมั้ย เพราะตอนนี้นักรบมีคนเข้าหมื่นกว่าคนเองนะ ขณะที่ audience คน search เนี่ยอยู่ที่ประมาณ หลักแสนนะ ฉะนั้นโตได้อีกอาจจะเริ่มจากหมื่น โตอีกหมื่น ปีถัดไปโตเป็น 2 หมื่นโตเป็น 3 หมื่น 4 หมื่น ในปีถัดไป ปีที่ 5 โตเป็นคนเข้าเป็น 5 หมื่นนึกออกมั้ย มันก็อาจโตได้อีก เพราะว่ากลุ่ม audience คน search มันมีนึกออกมั้ย 6.12 พอเรารู้ตัวเลขกลุ่ม audience ของเรา เราจะรู้เลยธุรกิจของเราโตได้อีกเท่าไหร่ โหเจ๋งมั้ย นี่คือการหากลุ่ม audience กลุ่มธุรกิจของเรานะ ทุกท่านนะ ต้องหากลุ่ม audience ของตัวเองใน Google Adwords ให้เจอนะ เราจะได้รู้ว่าธุรกิจของเราโตได้อีกหรือเปล่า หรือว่าธุรกิจเราตันแล้วนะ ซึ่งส่วนใหญ่มันโตได้อีกแน่นอนนะ แต่ถ้าเราไม่สามารถใช้คำหลักเชิงลบตัวนี้ได้นะ audience ตรงนี้มันจะใช้ไม่ได้ มันเพี้ยนเลย จริงปะ เพราะว่าเราจะมี keyword อะไรที่มันไม่เกี่ยวข้องแล้วเราเอามาปนกันไปหมดเลยเพราะฉะนั้นเราต้องใช้ keyword คำหลักเชิงลบผสมเข้าไปด้วยนะ เพื่อหากลุ่ม audience คน search จริงๆ ของเรา และเราก็จะได้ตัวเลขตรงนี้เป็นตัวเลขหลักในการดำเนินธุรกิจของเราได้เอง เราจะได้ตัวเลขมา 1 ตัวละ นะ คือ max audience ของเรา สูงสุดของเรานั่นเอง โอเค พอเข้าใจนะ นี่คือวิธีการนะ ในการหากลุ่ม audience ใน Google Adwords คราวนี้หาแล้วได้อะไร สงสัยมะ หาแล้วได้อะไร หาแล้วจะได้รู้ไงว่าคนซื้อของเรากี่เปอร์เซ็นต์ ต่อคนเข้านั่นเอง วิธีการต่อนะ นักรบรู้แล้วตัวเลขตัวนึงนะ ขอยกตัวอย่างเลยนะ audience  โอเค Max Audience ละกันนะ เท่ากับ สอง ตัวนี้เราต้องหัดทำของเราเองนะ ถ้าเราทำเราจะเห็นนะ เห็นการเติบโต เห็นความเชื่อมั่น Max Audience คือ 200,000 ครั้งต่อเดือนนะ แต่คนเข้าจริงนะ เข้าจริงในเว็บ เท่ากับประมาณอยู่ที่ 1 หมื่นครั้งต่อเดือนเอง ยังน้อยอยู่ และก็ทำให้ธุรกิจเดินต่อไปได้แล้วนะ แต่เนื่องจากนักรบไม่ได้ทำแค่เว็บอย่างเดียว ทำ Youtube ด้วย แต่ Youtube มันนับที่คนเข้าชมนะ คนชม คน views อยู่ที่ประมาณ 250,000 ครั้ง 250,000 views ประมาณ 25,000 ครั้งต่อเดือน ขอโทษนะตะกี้สองแสน มันต่อปีแล้ว ประมาณนี้ นะ นี่คือต่อเดือนนะ คราวเนี้ย ได้อะไร คราวนี้มาดู ปีที่แล้ว มีคนซื้อนะ ปีที่แล้วคนซื้อ 30 ประมาณ  นักรบคนซื้อน้อย 350 คน  นี่คือปีนะ  ปีทีแล้วคนเข้าเว็บรวม นี่คือปีแล้วนะ รวมกันอยู่ที่ประมาณ ตีเป็นตัวเลขกลมๆ ละกันมันจะได้เข้าใจง่ายๆ นะ อยู่ที่ประมาณ 100,000 ละกัน อยากให้เป็นตัวเลขกลมๆ ไม่ใช่ไรหรอก จะได้คำนวณง่ายๆ นะ ปีที่แล้วคนชม Youtube นะ อยู่ที่ 250,000 นะ  3 บรรทัดสุดท้ายนี่สื่ออะไร สื่อเราจะได้หาไงว่า เค้าเรียกว่า เปอร์เซ็นต์นะ เปอร์เซ็นต์ละกันคนซื้อหารคนเข้าชม หรือ เค้าเรียกว่า audience ไง เนี่ยมันก็คือนะ 350 หาร หนึ่งแสน บวก สองแสนห้า คนเข้าชม 2 ตัวนี้รวมกัน หารสามห้าศูนย์หนึ่งสองสาม นึกออกมั้ย มันจะเท่ากับ เอาเครื่องคิดเลขมาเลย 350 หาร สามห้าศูนย์ หนึ่ง สอง สาม 0.001 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตัวเลข 0.001 เปอร์เซ็นต์เนี่ยมันมาจากคนซื้อหารคนเข้าชม แต่ละธุรกิจไม่เหมือนกันนะ บางธุรกิจอาจจะตัวเลขเยอะกว่าผมด้วยนะ อย่างนี้เป็นต้น เพื่ออะไร เวลาที่เราจะเพิ่มรายได้ธุรกิจนะ เราเพิ่มอะไรดี เราเพิ่มคนซื้อหรือ เพิ่มคนเข้านึกออกมั้ยนะ นักรบรู้เลยว่า Max Audience มันอยู่ที่ 2 แสน  2 แสนครั้งต่อเดือนนะ โอ้ขอโทษนี่ปี  Max Audience อยู่ที่ 2 แสนครั้งต่อเดือนหรือ 2 ล้านครั้งต่อปี นึกออกมั้ย อันนี้คือสรุปเมื่อปีที่แล้ว ถ้าจะเพิ่มนะ ยอดขายง่ายสุดเลยคือเพิ่มคนเข้าเว็บนะ เพราะว่านี่มันคนเข้าเว็บประมาณ 3 แสนครั้งต่อปี ซึ่ง Max มันอยู่ที่ 2 ล้านครั้งต่อปี เห็นมะ Max Audience อยู่ที่ 2 ล้านครั้งต่อปี แต่นักรบเพิ่งเก็บไปแค่ 3 แสนครั้งต่อปีเองมันยังแค่ประมาณแค่ตีเป็น 15เปอร์เซ็นต์แค่นั้นเอง นึกออกมั้ย ฉะนั้นเนี่ย การเพิ่มคนเข้าเว็บเนี่ยมันง่ายกว่าเพราะเรารู้แล้ว เราทำ Youtube ได้แล้วเราทำ SEO and Content Marketing ได้แล้ว ธุรกิจเรายังโตได้อีก เพราะตอนนี้เราเพิ่งเก็บ audience ได้แค่ 10 กว่าเปอร์เซ็นต์นั่นเอง นะ เราจะได้รู้ว่าธุรกิจเราโตได้อีก ตรงนี้ต้องดูดีๆ นะเพราะว่ามันค่อนข้างที่จะซับซ้อนแล้วนะ โอเคเป็น concept นะ ใน Google จบแล้ว เราหา Max Audience ต่อเดือนหรือต่อปี เพื่อจะได้รู้ว่าธุรกิจของเรา มันยังโตได้อีกมั้ยนะ แล้วเรามีคนซื้อเท่าไหร่ เราจะได้รู้เปอร์เซ็นต์นั่นเองนะ แล้วเวลาจะเพิ่มยอดขาย ก็คือ เพิ่มคนเข้านั่นเอง ผ่านเว็บและก็ Youtube โดยที่เราสามารถเพิ่มได้อีก อีกหลายเท่าเลยนะ เพราะเรารู้ว่า Max Audience มันกี่ล้านครั้งนั่นเองนะ โอเคพอเห็นภาพละ นี่คือ Google  เราจะเกิดความเชื่อว่าเอ๊ย เดินต่อได้ ธุรกิจเดินต่อได้นะ คราวนี้ใน Facebook  Facebook เช็คแบบนี้ได้มั้ย มันก็เช็คได้นะแต่มันเช็คเป็นตัวเลขอีกแบบนึง นะ มันอยู่ในนี้ อยู่ในกลุ่มเป้าหมายนะ นักรบเช็คแล้วนะ สนใจ Adword WordPress ประมาณ แสนแปด ประมาณนี้นะ วิธีการหากลุ่มเป้าหมายใน Facebook นี่ทำไง ไปที่ ไลบารี่ นะ ไปที่ ข้อมูลเชิงลึกก่อน เวลาเราสร้างกลุ่มเป้าหมาย เราต้องเช็คให้แน่ใจว่ากลุ่มเป้าหมายที่เราสร้าง มันใช่กลุ่มเป้าหมายจริงๆ หรือเปล่า บางคนสร้างกลุ่มเป้าหมายมาแล้วผิดกลุ่ม โอ้โห ยิงโฆษณาไปก็เปลืองตังค์ เลือกประเทศ เลือกอายุ ประเทศอายุไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เลือกทำกันได้อยู่แล้วจริงมะ ไอ้ตรงความสนใจ interest นี่แหละมีปัญหา interest ความสนใจที่เราเข้าใจกับสิ่งที่ Facebook เข้าใจเนี่ยบางทีคนละเรื่องนะ เวลาใส่ keyword เข้าไปนะ  ทำแบบนี้ก่อนนะ เสร็จแล้ว
https://warrior.in.th/freelance-seo/marketing/how-to-find-audience-in-google-facebook/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/marketing/how-to-find-audience-in-google-facebook/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 24, 2021, 10:57:14 am
มนุษย์เงินเดือนใช้ความชำนาญในงานประจำ เป็นต้นทุนทำธุรกิจ
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/05/business-online-infopreneur-start.jpg)

มนุษย์เงินเดือน ใช้ความชำนาญในงานประจำ 7 ชั่วโมง/วัน , 140 ชั่วโมง/เดือน เป็นต้นทุนทำธุรกิจส่วนตัว ทำอาชีพเสริม ใช้จุดเด่นจากงานประจำ เอาทักษะมาเป็นต้นทุนให้ความรู้ และขายความรู้ออนไลน์ ทำธุรกิจ(Info Business) ได้ Connection และเปิดบริษัทเล็กๆได้ จะมีกี่ธุรกิจ ที่ทำเสริมคู่งานประจำ ลงทุน 0 บาท ไม่ต้องลงทุนสินค้า, ไม่มีหน้าร้าน, ไม่ต้องเช่าที่, ไม่ต้องจ้างคนงานให้ปวดหัว แต่ให้เราลองผิดลองถูกจนเก่งก่อน แล้วถ้าได้ดิบได้ดี ก็ออกไปทำธุรกิจเต็มตัว จนตั้งบริษัทเล็กๆได้

ธุรกิจเริ่มต้นที่การสร้างแฟน
ธุรกิจออนไลน์ลงทุน 0 บาท สร้างแฟนก่อนใน Facebook Fanpage รวมคนที่ชอบเหมือนกัน ชีวิตเหมือนกันมาอยู่ในแฟนเพจ  ใช้แฟนเพจแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ เรื่องราวดีๆ มอบให้เขา จะได้เอาไปใช้แล้วดีกับชีวิตเขามากยิ่งขึ้น มันจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ (trust), ความไว้วางใจ, ทำให้คนรู้จักความสามารถของตัวเรา สินค้าของเราคือความรู้ (Info Products) ที่ช่วยให้เขามีความรู้ เราแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ทั้งปัญหา, วิธีแก้ไข , หนทางในการสร้างโอกาส และ สร้าง Connection หากคนนำไปใช้ก็มีโอกาสมากยิ่งขี้นที่จะประสบความสำเร็จดังที่หวัง นักรบเคยทำธุรกิจส่วนตัว ธุรกิจออนไลน์ มาแล้ว 7 อย่างใน3ปี เจ๊งแล้วเจ๊งอีก เจ๊งจนชิน ทุกครั้งที่เจ๊งมันได้ประสบการณ์มาอย่างน้อย 1 ข้อ ทำไป 7 ตัว ได้มาอย่างน้อย 7 ข้อที่ไม่ควรทำ หรือถ้าแก้ไขมันได้ ธุรกิจก็รอด อยากรู้ว่าก่อนหน้านี้ นักรบทำธุรกิจอะไรบ้าง อ่านได้ที่ ประวัตินักรบ จนพบธุรกิจสุดท้าย ธุรกิจให้ความรู้เป็นธุรกิจที่ดีที่สุดในชีวิตจนเก็บเงินมาตั้งบริษัทและออกมาทำเต็มตัวได้

จะทำธุรกิจออนไลน์, IT ต้องได้ App ต้องเป็น
แนะนำ Online Tools ที่ดีและใช้ทำธุรกิจได้อีกนาน คือ Google App for Work เป็นเครื่องมือฟรี
      - Google Docs สำหรับพิมงานเอกสาร เหมือนกับ Words
      - Google Sheets สำหรับทำงานตารางคำนวน เหมือนกับ Excel
      - Google Slides สำหรับการนำเสนอข้อมูลและการ Present เหมือนกับ Power Point
      - Google Forms สำหรับการสร้าง Forms รับข้อมูล
สร้างเอกสารออนไลน์ Google Docs และแชร์กับเพื่อนร่วมงาน ทำงานที่ไหนก็ได้แม้ผ่านมือถือ

ธุรกิจน่าสนใจ อะไรดี ? ที่เหมาะมนุษย์เงินเดือน
มนุษย์เงินเดือน มีความเชี่ยวชาญในงานประจำ 7 hr/วัน หรือ 140 hr/เดือน จะได้เปรียบหากเอาเอาจุดเด่นนี้ มาต่อยอดธุรกิจให้และขายความรู้ (Info Business) ธุรกิจให้และขายความรู้ (Info Business) เป็นธุรกิจส่วนตัว รายได้ดี ต้นทุนต่ำมากๆ หรือแทบจะเรียกได้ว่าไม่มีทุนทางวัตถุได้เลย แต่ใช้ต้นทุนทางความรู้ ความสามารถที่สูงแทน เหมาะกับการทำควบคู่งานประจํา เริ่มต้นได้ง่ายมาก ทำหลังงานประจำได้ นักรบทำธุรกิจให้และขายความรู้ (Infopreneur) สมัยเริ่มทำแรกๆ ทำควบคู่งานประจำไปก่อน ขายความรู้ผ่าน Video DVD เป็นหลัก ทำได้ 1 ปี ทำให้มีเงินเก็บมากพอและมีคนรู้จักระดับหนึง จนตัดสินใจออกมาทำเต็มตัว เปิดบริษัทเล็กๆของตัวเองได้ [quote_center]Infopreneur เป็นอาชีพมาแรงในยุคนี้ เพราะข้อมูลความรู้ที่มีมากใน Internet สามารถเปลี่ยนมนุษย์เงินเดือนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ และสร้างธุรกิจได้[/quote_center] กำไรจากอาชีพ Infopreneur จะมีมากถึง 2,000 – 7,000 % เลยทีเดียว ถ้าเทียบกับต้นทุนทางวัตถุ

นักธุรกิจความรู้ (Infopreneur) คือ อะไร ?
นักธุรกิจความรู้ Infopreneur คือ อาชีพหนึง ที่ให้ความรู้และขายความรู้เป็นหลัก ในแต่ละวันจะสร้างเนื้อหาที่ดีให้คนอืนผ่าน Fanpage และ Website อีกทั้งยังจำหน่ายสินค้าเป็นความรู้ใน Package ต่างๆ เช่น DVD, คอร์สออนไลน์, สัมมนา, หนังสือ, eBook นักรบเริ่มต้นให้ความรู้ฟรีบ่อยๆ  และจำหน่ายความรู้ในแบบ Video DVD ครับ

จุดเด่นของอาชีพ Infopreneur
ใช้ความเชี่ยวชาญที่ได้จากงานประจำเป็นต้นทุนหลัก 140 hr/เดือน คือเวลาที่มีค่ามาก ประสบการณ์ตรงส่วนนี้สามารถนำมาเผยแพร่ และให้ความรู้ผ่านช่องทางเหล่านี้ได้
       - Facebook Fanpage
       - Website
ยิ่งให้ความรู้ ยิ่งเพิ่มพูนความสามารถ ต่อยอดสู่รายได้เป็นธุรกิจส่วนตัวได้ ความรู้ที่ให้ไป จะมี 2 ประเภทใหญ่แบ่งตามราคา
       1. ความรู้ แบบฟรี ความรู้ทั่วไป เนื้อหากว้าง มีประเด็นสั้นๆและ 1 ใจความที่ดี
       2. ความรู้ แบบเสียเงิน เช่น หนังสือ, eBook, Video DVD, Audio CD, คอร์สออนไลน์, สัมมนา, คลาสเรียน, หรือ ที่ปรึกษา

เริ่มต้นให้ความรู้ฟรีผ่าน เว็บไซต์ และ Youtube โดยแจกฟรีเกือบทุกวัน ผ่านไป 1 เดือน จะมีเนื้อหาที่ให้ความรู้ฟรี 20 วีดีโอ และมากขึ้นเป็น 50 วีดีโอใน 3 เดือน ส่งผลให้ Video DVD ขายดีและมีคนสั่งซื้อ จนมีรายได้ประมาณ 200,000 บาท ในปีแรกที่ทำ อีกหนึ่งสิ่งทีสำคัญกว่า ที่มาพร้อมกับรายได้ คือ มีคนรู้จักนักรบมากยิ่งขึ้น ได้ถูกเชิญเป็นวิทยากร 4 ครั้งใน 1 ปี และเว็บไซต์มีคนเข้าสม่ำเสมอ 4,000 – 5,000 ทุกเดือน

คนเข้าเว็บน้อย 1000 คน/เดือน แต่สินค้าดี ความรู้ดีก็ขายได้
ช่วงเริ่มต้น มีคนเข้าเว็บไซต์เพียง 1,000 – 2,000 คน/เดือน แต่เนื้องจากนักรบให้ความรู้เยอะเพียงพอ ก็ช่วยให้คนอ่านความรู้ฟรีของเรา ตัดสินใจซื้อสินค้า อาจจะสัปดาห์ล่ะ 2-3 คน แต่พอครบ 1 เดือน ก็สามารถทำยอดได้ 2-30,000 หมื่นบาทได้

ทำไมธุรกิจขายความรู้จึงเป็น ธุรกิจน่าสนใจ
ธุรกิจให้และขายความรู้ (Info Business) เป็นธุรกิจส่วนตัว ทําที่บ้านที่น่าสนใจตัวหนึง เพราะใช้ความรู้ในงานประจำที่ทำเป็นหลัก ไม่ต้องเข้า Office มีเวลาดูแลครอบครัว ใช้ชีวิตได้ยืดหยุ่นมากขึ้น และสามารถจัดเวลาตัวเอง วางแผนตัวเองได้อย่างมีอิสระได้

อาชีพ นักธุรกิจความรู้ ( Infopreneur )เริ่มต้นอย่างไร ?
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/05/business-online-infopreneur-start-21.jpg)

เริ่มต้นธุรกิจได้จากการสร้าง Fanpage ของตัวเองก่อน แล้วเขียนบทความ + ภาพประกอบดีๆ โพสลง Fanpage ให้ได้เกือบทุกวัน โดยควรทำโฆษณา Fanpage ด้วย เพื่อสร้างฐานลูกค้าในกลุ่มที่เราสนใจ เพื่อจะเปลี่ยนคนอ่านให้เป็นลูกค้าในอนาคตได้
       1. สร้างแฟนเพจ : โดยตั้งชื่อให้สอดคล้องกับสิ่งที่จะขาย
       2. ให้ความรู้บ่อยๆ : ทำ PartTime 2-3 ครั้ง/week , ทำ Full Time  4-6 ครั้ง/week
       3. นำความรู้ลงเว็บไซต์

ทำไมต้องให้ความรู้บ่อยๆ
       1. ความรู้บน Fanpage จะช่วยรวมกลุ่มคนที่ชอบ และมีนิสัยเหมือนๆกัน
       2. ความรู้บน Website จะนำคนเข้าเว็บไซต์ผ่าน Google
       3. จำนวนคนใน Fanpage และ Website จะสร้าง Personal Brand ต่อยอดสู่ธุรกิจส่วนตัว ทั้ง วิทยากร, ที่ปรึกษา, เขียนหนังสือ,จัดคอร์สสัมมนา, ขายของออนไลน์ และอื่นๆตามมา

ทักษะของ Infopreneur
ทักษะพื้นฐาน

       1. การใช้งานโปรแกรมพื้นฐาน เช่น Word, Excel
       2. การสร้าง Fanpage และการจัดการ Fanpage
       3. การเขียนบทความ (Writer)
       4. ทำโฆษณาผ่าน Facebook Ads
ทักษะระดับกลาง
       1. อ่านเนื้อหาจากต่างประเทศ และเรียนรู้เพิ่มเติมได้
       2. มีเว็บไซต์ รองรับ SEO และ Social Media ได้ดี
       3. ใช้การตลาดผ่านเนื้อหา Content Marketing + Google SEO
ทักษะระดับสูง
       1. เขียนหนังสือ, eBook, จัดสัมมนา หรือ สร้างคอร์สออนไลน์ ให้เข้าใจและเรียนรู้ง่าย
       2. พัฒนาบุคลิคภาพ และการพูดต่อหน้าคน เพื่อฝึกเป็นวิทยากร
อ่านเพิ่มเติม  https://warrior.in.th/warrior-life/skill-salaryman-do-business/ (https://warrior.in.th/warrior-life/skill-salaryman-do-business/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 24, 2021, 11:33:41 am
1 เดือนแรก ของการทำธุรกิจส่วนตัว หลังจบชีวิตมนุษย์เงินเดือน

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/06/business-online-marketing-strategy-salary-man-1-2.gif)

ลาออกจากงานประจำมาแล้ว 2 อาทิตย์ กลายเป็นนักธุรกิจเต็มตัว บริหารบริษัทตัวเองด้วยเงินเก็บจากธุรกิจเดิม ความรู้สึกมันยิ่งกว่าการย้ายงาน จากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง แต่นี้ต่างออกไป มันคือการย้ายจากโลกของมนุษย์เงินเดือน ไปสู่โลกของคนทำธุรกิจส่วนตัว ที่แข่งขันกันอย่างเข้มข้นและรุนแรงกว่า

การใช้ 3 หัวใจในการทำธุรกิจแบบนักรบ
นักรบรู้โดยสัญชาตญาณว่า ถ้าพลาดเรื่องเงินหลายครั้งคงเจ๊งแน่ ครั้งนี้จึงตัดสินใจใช้แผนเดิมดูท่าที
       1. เร็ว : ลงมือทำได้เร็ว
       2. แรง : Passion รุนแรง
       3. เปลี่ยนแปลงแบบสุดขั้ว : พัฒนาตัวเองทุกเรื่อง

อ่านต่อ 3 หัวใจในการทำธุรกิจแบบนักรบ ประโยชน์ของเทคนิคนี้ ช่วยประหยัดต้นทุนได้มาก  Focus ที่การสร้างผลงานที่ดี โพสลงเว็บไซต์และ Fanpage ค่อยๆสร้างฐานแฟนเพจ และไต่อันดับ Google SEO ด้วยการให้ความรู้ควบคู่กัน

งานวิทยากรได้อะไร ?
งานวิทยากรจะได้ Connection เป็นอันดับแรก จากบริษัทที่เชิญ และจะได้ Connection จากคนเข้าเรียนเป็นลำดับที่ 2 งานวิทยากรไม่ได้มีประจำทุกเดือน ฉะนั้นเรื่องเงินเป็นเพียงสีสันของชีวิต แต่เรื่อง Connection และภาพลักษณ์ คือโอกาสที่สำคัญที่ไม่ควรมองข้ามได้ รายได้ : ปานกลาง Connection : ดี ระดับความยาก : ง่าย – ปานกลาง ข้อดี : สร้างชื่อเสียงได้ดีเยี่ยม

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/05/saminar-last.jpg)

จัดงานสัมมนาได้อะไรบ้าง ?
งานสัมมนาจะได้ Profile ผลงาน และ Present Document ที่ใช้ต่อได้ สามารถกำหนดชื่องานสัมมนาและเนื้อหาได้ด้วยตัวเอง การเตรียมข้อมูลครั้งนี้ จะใช้เป็นข้อมูลในการจัดสัมมนาครั้งต่อๆไปได้ เป็นการทำครั้งเดียวและต่อยอดได้นั้นเอง (แต่ควรปรับปรุงเนื้อหาด้วย) รายได้ : ปานกลาง Connection :  ปานกลาง ระดับความยาก : ปานกลาง – ยาก ข้อดี : เอกสารทำครั้งเดียว ต่อยอดงานสัมนาต่อไปได้ (แต่ควรปรับปรุงเนื้อหาด้วย)

ข้อดี งานประจำ VS ธุรกิจส่วนตัว
ข้อดีของงานประจำ 1 ในทีมงานขอบริษัท ต้องทำงานร่วมกับผู้อื่นได้เองอย่างดี และรับผิดชอบงานตัวเองได้ดีเยี่ยม
       - มั่นคงกว่า และเสี่ยงน้อยกว่า
       - ไม่ต้องกำหนดเป้าหมายระยะยาว เพราะมีวิสัยทัศน์ของผู้บริหารค่อยกำหนดทิศทาง
       - หากพลาด ก็มีทีมงานหรือแผนกอื่นทำให้ธุรกิจไปต่อได้
       - เงินเดือนคาดการณ์ได้
       - มีเวลาวางแผนระยะยาวเรื่องเงินได้ดี

ข้อดีของธุรกิจส่วนตัว ธุรกิจส่วนตัว ต้องกำหนดทิศทางและวางแผลกลยุทธ์ระยะยาว จะอยู่รอด หรือล้มเหลวก็ขึ้นกับวิสัยทัศน์เป็นสำคัญ
       - รายได้เกิดจากยอดขาย ไม่ใช่ฐานเงินเดือนร่วมกับคนอื่น
       - กำหนดทิศทางทั้งตัวเอง และบริษัทที่รับผิดชอบในระยะยาว
       - มีอำนาจเต็มที่ในการตัดสินใจ ทั้งเรื่องเวลาและเงินทอง
       - มีอิสระภาพในการคิดและการทำได้ 100%
       - ปลุกศักยภาพของตัวเองได้ถึงขีดสุด

การเพิ่มรายได้ ของธุรกิจส่วนตัว จะใช้ความต้องการของตลาดเป็นปัจจัยที่มีผลโดยตรง ต่างจากพนักงานประจำที่ต้องใช้ฐานเงินเดือนของบริษัทเป็นเกณฑ์ เส้นทางของการทำธุรกิจส่วนตัว ต้อง Start ที่เป้าหมายของชีวิต แรงบันดาลใจ, พลังในการขับเคลื่อน และต้องใช้ความเข็มแข็งทางจิตใจที่มากกว่าตอนทำงานประจำมาก เพราะต้องรับผิดชอบบางสิ่งบางอย่าง ที่ไม่ได้เรียนรู้มาเลยในชิวิตงานประจำและมหาลัย นั้นคือ การวางกลยุทธ์ทางธุรกิจในระยะยาวที่สามารถทำให้อยู่รอดและเข้มแข็งได้ ในงานประจำ สิ่งที่ต้องสู้ คือการพัฒนาตัวเอง และรับผิดชอบงานให้ลุล่วงด้วยดี ตัวเราเป็นฟันเฟืองหนึงในธุรกิจ หากเราไม่เก่งพอ ก็ยังมีคนในทีมอื่นๆหนุนหลังให้ธุรกิจไปต่อได้ แต่ในหนทางของธุรกิจส่วนตัว เราเป็นแกนกลางของธุรกิจ เราต้องสู้กับคู่แข่งอย่างน้อยๆทั่วประเทศไทย และต่างประเทศในอนาคต ฉะนั้นเราต้องพัฒนาตัวเองให้ดีเยี่ยมในระดับของประเทศ

เมื่อพลาดในงานประจำ vs ธุรกิจส่วนตัว
ทำธุรกิจส่วนตัวหากพลาดติดต่อกันหลายๆครั้ง รายได้จะหาย ต้นทุนจะเพิ่ม ล้มเหลวถึงขั้นเจ๊งได้ ไม่เหมือนงานประจำ ถ้าพลาดอย่างมากคือโดนด่า หักเงินเดือน มีโอกาสแก้ไขแต่รายได้ไม่หายไป

การรับผิดชอบที่สูงขึ้น จะได้โอกาสและรายได้ที่สูงตาม
นักรบเข้าใจเรื่องนี้ว่า คนที่มีความสามารถในการรับมือกับปัญหาที่ยิ่งใหญ่, ใช้สติ, การควบคุมอารมณ์ที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดี มักจะได้ทำงานที่ท้าทาย และได้ค่าตอบแทนงดงามกว่างานธรรมดาทั่วไป นั้นก็เพราะเขาเป็นคนกลุ่มน้อยที่ควรค่ากับการได้รับค่าตอบแทนนี้เอง

สรุปโดย นักรบ
เมือทำธุรกิจส่วนตัวเต็มเวลาครั้งแรก ร่างกายยังไม่ปรับตัวให้ชิน และกิจวัตรประจำวันการทำงานไม่ค่อยเป็นเวลา ไม่มีใครกำกับเวลาเข้างานและออกงาน ชีวิตมีทั้งแบบอิสระและสะเปะสะปะปนไป หากเป็นแบบนี้ต่อไป ร่างกายจะไม่สมดุล ส่งผลร้ายในภายหลัง โดยเฉพาะวิสัยทัศน์ ก็ยังได้รับการปิดเบือน และอาจตามึดบอดมองไม่เห็นอนาคต หนทางข้างหน้าธุรกิจลำบากแน่นอน วิธีแก้ไข ปรับกิจวัตรการทำงาน 8-10 ชั่วโมงให้ครอบคลุมเนื้อหาและเป้าหมาย
         - ช่วงเช้า 2-3 ชั่วโมง : ตอบ Facebook, Email และ คำถามจากผู้เคยเรียนคอร์ส
         - ช่วงบ่าย 4-5 ชั่วโมง : เตรียมเนื้อหาคอร์สเรียน
         - ช่วงค่ำ 3-4 ชั่วโมง : สร้างเนื้อหา ให้ความรู้แฟนเพจนักรบ
https://warrior.in.th/warrior-life/the-first-month-of-doing-business-life-after-death/ (https://warrior.in.th/warrior-life/the-first-month-of-doing-business-life-after-death/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 24, 2021, 12:31:06 pm
วิธีเพิ่ม Promo Bar สำหรับสร้างปุ่ม Add Line จากเว็บไซต์

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2017/05/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1-Promo-Bar-%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1-Add-Line-%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%AA.webp)

ถ้อยคำในวีดีโอ
ขอสรุปเป็นสูตรสำเร็จการทำการตลาดออนไลน์ของผม คือ
        - รุกหาลูกค้าด้วย Facebook Ads
        - รอลูกค้ามาหาด้วย SEO
        - ปิดการขายใน Line

โพสนี้ขอไม่พูดถึง Facebook Ads, SEO แต่จะพูดถึง Line ว่า การติดตั้งปุ่ม Add Line อย่างไรให้เห็นชัดเจน และง่ายต่อการกดเข้ามาคุย

เมื่อก่อนผมใช้ https://sumo.com/ (https://sumo.com/) เพื่อติดตั้ง Smart Bar ไว้แสดงปุ่ม Add Line ส่วนล่างสุดของทุกหน้าเว็บไซต์ (ใช้ดี แต่มีโฆษณาแฝงเยอะไปนิด) ถัดมาเจอสิ่งที่ดีกว่า คือ https://zotabox.com/ (https://zotabox.com/) ตัวนี้ Function เยอะ แถมน้ำหนักเบา โหลดเร็ว ชอบมาก ส่วนใหญ่ผมจะใช้ติดตั้งปุ่ม Add Line ครับ

พูดง่ายๆ ถ้าไม่มีช่องให้แชทกับลูกค้าสะดวกๆจากเว็บละก้อ ปิดการขายแทบจะไม่ได้เลย แต่เมื่อไหร่ที่มีปุ่มไลน์ให้คุย มันปิดการขายง่ายขึ้นเยอะครับ คนไทยชอบคุยก่อนซื้อจริงๆครับ

สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับเข้าสู่สอนการตลาดแบบออนไลน์ แบบนักรบ
เครื่องมือ Promobar Bar ตัวนี้ช่วยทำให้คนเห็นชัด เห็นทุกสี สามารถปรับแต่งสี ฟอนต์ ขนาดของปุ่ม text และ link ต่างๆแล้วไปคลิ๊กหน้าที่เราต้องการได้ สามารแสดงโปรโมชั่น ส่วนลด หรือว่าแสดงข่าวที่น่าสนใจ เพื่อทำให้คนเห็นชัด

Bar ตัวนี้สามารถวางทั้งข้างบนและข้างล่างได้ เป็นฟังค์ชั่นของเว็บไซต์ info.zotabox.com ซึ่งเป็นบริการของเค้ามีให้เลือกเยอะมาก เป็นเครื่องมือ(Tool)ที่เปลี่ยนคนเข้าให้เป็นคนซื้อ ช่วย support ในเว็บไซต์ แชทกับคนที่เข้ามาในเว็บไซต์ แชร์เข้าโซเชียลมีเดีย หรือเก็บอีเมล์ เป็นเครื่องมือที่ใช้ทำการตลาดเป็นหลัก ช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำเว็บไซต์มากยิ่งขึ้น มีทั้ง social media,contact us,facebook chat เป็น Pop up ที่ให้ใช้ฟรีซะส่วนใหญ่

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2017/05/how-to-promo-bar-add-line-button.jpeg)

วันนี้นักรบจะพูดถึงเกี่ยวกับเครื่องมือ Bar ปรับประยุกต์ในเรื่องของการ add friend ใน Line นักรบทำมาสักพักแล้วขอแชร์ประสบการณ์คือ
       - รุกด้วย Facebook Ads
       - รอรับลูกค้าจาก facebook มาหาด้วย SEO
       - ปิดการขายใน Line

จากที่คุยกับบางที่คนจะซื้อของ ต้องคุยก่อนจริงๆช่วยปิดการขายได้ง่ายขึ้น นักรบ test หลายอย่าง ปุ่ม Line และ FB สรุปแล้ว ปุ่ม line เข้าใจง่ายกว่า

วิธีการใช้ Bar
       1. log in สมัครสมาชิกเข้าใช้ก่อน
       2. คลิ๊กปุ่ม Free > Promotion
       3. คลิ๊กปุ่ม Promo Bar นักรบปรับประยุกต์ใช้กับ line โดยคลิ๊ก On(เปิด) และแก้ไขคำเข้าไป เมื่อก่อนเคยใช้ของ SUMO แล้วมีโฆษณาแฝง จึงแนะนำของ info.zotabox.com ใช้งานง่าย น้ำหนักเบากว่า
       4. หลังจากนั้นทำตาม
       5. เปลี่ยนข้อความที่เราต้องการ ใส่ทั้ง text และปุ่มเข้าไปตามตัวอย่าง และมี link ซึ่งเป็น URL ของ Line
       6. ปรับ background color size opacity ตำแน่งที่วางบน-ล่าง เลือกได้ Save เป็นอันใช้ได้เลยเช็คให้แน่ใจว่า เราได้ add เว็บไซต์ เพื่อให้ code ไปอยู่ในเว็บไซต์เรา โดยกด Preview กดที่ Dashboard สามารถเพิ่มเว็บไซต์ได้ทั้งหมด 3 เว็บไซต์ เราเลือกเว็บไซต์ และเลือกฟังก์ชั่นที่เราใช้ด้วย พอเราตั้งค่าเสร็จ จุดเชื่อมไปที่เว็บไซต์ของเราคือ การติดตั้ง code ไปที่ Setting > Embed code เราจะได้ codeมาชุดหนึ่ง และฝังลงในเว็บของเรา พยายามอ่านคำอธิบายในการทำ ฝังในส่วน Body หรือ Google analytic code > reset เว็บไซต์ของตัวเอง(Ctrl+f5) หรือส่ง email devoloper ให้ทำการฝัง code ให้การฝัง code นักรบใช้ wordpress โดยเข้าที่ Google analytic code และฝัง code จากนั้น save ดูหน้าแรก reset เว็บไซต์ของตัวเอง(Ctrl+f5) หากทำถูกต้องจะมี แท็บ Bar ที่เราทำขึ้นมา เนื่องจากตัวแท็บนี้ รองรับเฉพาะมือถือ เพราะสามารถเข้าแชทได้เลย หากเป็นปุ่ม facebook สามารถแชทได้เลย แต่เป็น PC ต้องสแกน QRcode อยู่ นักรบพบว่า Line ดีกว่า หากใครจะประยุกต์ใช้แล้วแต่เลือกเลย

การเช็คสถิติ
(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2017/05/how-to-promo-bar-add-line-button-1.jpeg)

คำถามถัดมา มันมีสถิติให้ดูให้ละเอียด โดยนักรบลองทดสอบ 1 อาทิตย์ วิธีการเข้าไปที่หน้าแรก
คลิ๊ก Stats(Last 30 days) เข้าไปดู จะปรากฎ facebook chat ,social mobile bar และ Promo bar แสดงผลว่าเท่าไร ตัวอย่าง Promo bar คือ
Line ของนักรบ สมมุติว่า มีคนเข้าเว็บไซต์ 10,000 คน คนคลิ๊กเข้ามาดู 1.1% เท่ากับหลักร้อย ธุรกิจเดินต่อได้แล้ว สามารถเลือกระยะเวลาสถิติได้ โดยเค้า note ไว้ว่า สถิติอยู่ที่ 1-5 % นี้คือวิธีการที่จะทำให้คนเข้ามาคุยกับเราง่ายขึ้น
https://warrior.in.th/wordpress/how-to-promo-bar-add-line-button/ (https://warrior.in.th/wordpress/how-to-promo-bar-add-line-button/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 25, 2021, 07:43:33 pm
ปัจจัยการทำเอสอีโอ SEO Factor

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2017/06/%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%88%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%AD-SEO-Factor.jpg)

ปัจจัยการทำเอสอีโอ SEO Factor มีมากกว่า 200 ข้อ ทำให้การทำ SEO นั้นก็เหมือนกับการงมเข็มในมหาสมุทรนั่นแหละครับ เพราะ Google เค้าไม่ค่อยจะบอกอะไรเราสักเท่าไหร่เลยว่าปัจจัยไหนบ้าง ที่จะช่วยให้เราติดหน้าแรกบนเว็บไซต์เค้าได้ ซึ่งหลังจากนักพัฒนาเว็บไซต์ทั้งหลายดำดิ่ง งมเข็มเหล่านี้กันมานาน เค้าก็ได้สังเกตเห็นถึงปัจจัยกว่า 200 อย่างที่ Google ใช้ในการพิจารณาว่าใครจะได้อยู่อันดับไหนบนหน้าค้นหาของเค้า ซึ่งบอกเลยครับว่าถ้าทำได้ครบทั้ง 200 ข้อนี้ล่ะก็ อันดับหนึ่งของผลการค้นหาไม่มีทางหลุดมือไปไหนแน่นอนครับ
1. อายุของ Domain ต้องจดมานาน
2. มี Keyword อยู่ในชื่อ Domain ด้วย
3. Keyword ต้องอยู่คำแรกของชื่อ Domain เลยถึงจะดีที่สุด
4. วันหมดอายุของ Domain ต้องเหลือเยอะ ๆ
5. มี Keyword อยู่ในชื่อ Subdomain ด้วย
6. ประวัติของ Domain ห้ามเปลี่ยนชื่อผู้ถือครองบ่อย ๆ
7. เล่น Keyword เดียวกันกับชื่อ Domain
8. เปิดเผยข้อมูลในส่วนของ WhoIs
9. ชื่อผู้ถือครอง Domain ใน WhoIs ต้องไม่มีประวัติการกระทำผิดต่อ Google
10. จดทะเบียน Domain ตามประเทศนั้น ๆ เช่น ประเทศไทย .th
11. มี Keyword ใน Title Tag
12. ใช้ Keyword เป็นคำแรกใน Title Tag
13. มี Keyword ใน Description Tag
14. มี Keyword อยู่ใน H1 Tag
15. Keyword ต้องเยอะกว่าคำอื่น ๆ ในหน้านั้น
16. ความยาวของบทความ 1,000 คำขึ้นไป กำลังดี
17. จำนวน Keyword ในหน้านั้นไม่ควรมากเกินไปจนดูเหมือน Spam
18. มีคำอธิบาย Keyword เพิ่มเติมในบทความ เพื่อไม่ให้ Google สับสน เพราะบางคำมันแปลได้หลายความหมาย
19. มีคำอธิบาย Keyword เพิ่มเติมใน Title และ Description Tags
20. ความเร็วของเว็บไซต์ก็มีผล
21. ถ้ามีบทความซ้ำกันเยอะ จะทำให้อันดับตกได้
22. ใช้ Rel=Canonical เพื่อป้องกัน Google นับหน้าซ้ำ
23. โหลดเว็บไซต์จาก Chrome ได้อย่างรวดเร็ว
24. ใส่ข้อมูลให้รูปด้วย เช่น ชื่อไฟล์ Alt Text, Title, Description และ Caption
25. คอนเทนต์สดใหม่ไม่ซ้ำใคร
26. อัพเดทคอนเทนต์อยู่ตลอด
27. อัพเดทหน้าเพจด้วย
28. มี Keyword อยู่ใน 100 คำแรกของคอนเทนต์
29. มี Keyword อยู่ใน H2, H3 Tag
30. การเรียงคำ Keyword ต้องให้ตรงกับที่คนพิมพ์หา ไม่จำเป็นต้องถูกหลักไวยากรณ์ก็ได้
31. มีลิงก์ออกไปที่เว็บไซต์อื่น
32. ลิงก์ที่ออกไปกับเว็บไซต์นั้นต้องเกี่ยวข้องเป็นโทนเดียวกัน
33. สะกดถูกทุกคำ ตรงตามหลักไวยากรณ์
34. เขียนคอนเทนต์เอง ไม่ได้ลอกใคร
35. คอนเทนต์มีประโยชน์ คนชอบแชร์
36. มีลิงก์ออกไปมากเกินไปก็ไม่ดี
37. ต้องมีรูปภาพ วิดีโอ หรือลูกเล่นต่าง ๆ ด้วย
38. มีลิงก์ภายในวิ่งเข้าหาหน้าที่สำคัญ
39. ถ้าอยากให้หน้าไหนดัง ก็ทำลิงก์ภายในมายังหน้านั้นด้วย
40. อย่าให้มีลิงก์เสียอยู่บนเว็บไซต์
41. คอนเทนต์อ่านง่าย สบายตา
42. ไม่ใส่ลิงก์ Affiliate มากไป
43. อย่าให้มี HTML Error
44. Host ต้องดีด้วย
45. หน้า PR ต้องสูง
46. URL ต้องไม่ยาวเกินไป
47. URL ต้องคล้าย ๆ กับหน้าแรก
48. ใช้คนเขียนเนื้อหา ไม่ใช้โปรแกรม
49. จัดหมวดหมู่ให้เว็บไซต์ช่วยได้
50. ใช้ Tag ด้วย
51. มี Keyword อยู่ใน URL
52. URL ต้องเรียงกัน
53. มีแหล่งอ้างอิงเนื้อหา
54. บทความเป็นข้อ ๆ ดีกว่าบทความยาว
55. ลำดับความสำคัญใน Sitemap
56. ถ้ามีลิงก์ออกไปข้างนอกมากเกินไปจะไม่ดี
57. มี Keyword ที่ติดอันดับดี ๆ เยอะ ในหน้านั้น
58. อายุของหน้านั้น ยิ่งอายุนานแล้วทำการอัพเดทยิ่งดี
59. การจัดวางรูปแบบสบายตากับผู้ใช้งาน
60. ไม่ใช้ Parked Domain
61. คอนเทนต์ต้องมีประโยชน์
62. คอนเทนต์ให้คุณค่าและข้อมูลเชิงลึกที่ไม่เหมือนใคร
63. มี Contact Us ให้คนติดต่อได้
64. มี Domain Trust / TrustRank ที่สูง
65. มีโครงสร้างเว็บไซต์ที่ดี
66. อัพเดทเว็บไซต์อยู่เสมอ
67. มีหน้าเว็บหลาย ๆ หน้า
68. มี Sitemap ช่วยให้ง่ายต่อการค้นหา
69. มี Site Uptime ด้วย
70. ที่ตั้งของเซิฟเวอร์ ถ้า Keyword ภาษาไทย เซิฟเวอร์ตั้งที่ประเทศไทยจะดีกว่า
71. มีการรับรองความปลอดภัย SSL
72. มีหน้าข้อตกลงการใช้งาน และนโยบายความเป็นส่วนตัว
73. ข้อมูล Meta ในเว็บไซต์ไม่ควรซ้ำกัน
74. มีเมนูแบบ Breadcrumb
75. รองรับการใช้งานบนโทรศัพท์มือถือ
76. มีวิดีโอจากยูทูปปะปนอยู่บนเว็บไซต์
77. ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก
78. ติดตั้ง Google Analytics และ Google Webmaster Tools
79. มีคนรีวิวดี ๆ ให้บนเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียง
80. มีลิงก์มาจากเว็บไซต์ที่เปิดมานาน
81. มีคนอ้างอิงถึงเยอะยิ่งดี
82. มีลิงก์มาจากเว็บที่ IP ต่างกัน
83. จำนวนลิงก์ยิ่งเยอะยิ่งดี
84. ใส่ Alt Text ให้รูปภาพด้วย
85. มีลิงก์จาก Domain ที่น่าเชื่อถือเหล่านี้ .edu, .gov, .go.th, .ac.th
86. สร้างลิงก์กลับจากเว็บที่มีคุณภาพ
87. มีการอ้างอิงจากเจ้าของ Domain ที่มีคุณภาพ
88. มีลิงก์จากคู่แข่ง
89. มีการแชร์บนโลกโซเชียล
90. ห้ามมีลิงก์มาจากเว็บไซต์ที่แย่ ๆ
91. ลิงก์ที่มาจาก Guest Posts ไม่ค่อยช่วยอะไรเท่าไหร่
92. มีลิงก์ไปยังหน้าหลักของ Domains อื่น ๆ
93. มีลิงก์ไว้แต่ไม่มีคนคลิกก็ยังดี
94. มีลิงก์จากหลาย ๆ เว็บไซต์
95. ลิงก์ที่ขึ้นว่า Sponsored Link ทำให้คะแนนลด
96. ฝังลิงก์ไว้ในคำของบทความ
97. ไม่ควรมีลิงก์กลับที่มาแบบหลอกที่มา
98. ข้อความที่อยู่ใน Backlink น่าเชื่อถือ
99. ข้อความใน Internal Link ไม่น่าเชื่อถือ
100. ข้อความใน Title ของลิงก์ ต้องดี
101. อ้างอิงจาก Domain .th
102. มีลิงก์อยู่ต้นคอนเทนต์ ไม่ใช่ท้าย
103. มีลิงก์อยู่ในหน้าคอนเทนต์ ดีกว่าอยู่ด้านข้าง
104. มีลิงก์จากเว็บที่เกี่ยวข้องกันดีกว่า
105. มีลิงก์จากหน้าที่เกี่ยวข้องกันดีกว่า
106. ลิงก์ที่กลับมาต้องเป็นคำชมไม่ใช่คำด่า
107. มี Keyword ใน Title
108. ความเร็วในการไปถึงลิงก์นั้น ๆ ก็สำคัญ
109. ยิ่งลิงก์อืดยิ่งลดระดับ
110. มีลิงก์จาก Hub ที่น่าเชื่อถือ
111. มีลิงก์จากเว็บที่ได้รับรองจาก Google
112. มีลิงก์อยู่ใน Wikipedia
113. ข้อความรอบ ๆ ลิงก์ทำให้ Google รู้ว่าเราคือเว็บไซต์อะไร
114. อายุของ Backlink ยิ่งเยอะยิ่งดี
115. มีลิงก์ที่มาจากเว็บไซต์จริง ๆ
116. มีลิงก์ธรรมชาติจากโปรไฟล์
117. แลกลิงก์กันได้ แต่อย่าเยอะเกิน
118. ผู้ใช้งานสร้างคอนเทนต์ลิงก์ขึ้นมา
119. มีลิงก์จาก 301
120. รองรับ Microformats
121. มีลิงก์จาก DMOZ
122. มีลิงก์จากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ
123. มีลิงก์มาจากหน้าที่มีลิงก์น้อย
124. มีลิงก์จาก Forum
125. จำนวนคำของบทความที่ลิงก์นั้นอยู่มีผล ยิ่งคำเยอะ ๆ ยิ่งน่าเชื่อถือ
126. มีลิงก์จากคอนเทนต์คุณภาพ
127. ลิงก์ที่เหมือนกันในทุก ๆ หน้าจะถูกนับเพียงแค่หนึ่งครั้ง
128. มีคนคลิกลิงก์จาก Keyword แบบ Organic เยอะ
129. มีคนคลิกลิงก์จาก Keyword  แบบ Organic หลายคำ
130. Bounce Rate ต่ำ
131. Direct Traffic สูง
132. มีคนเข้าซ้ำเยอะ
133. ไม่ถูกผู้ใช้งาน Block
134. ถูก Bookmark ไว้บน Chrome
135. เข้าเว็บด้วย Google Chrome
136. มีคนคอมเมนท์เยอะ
137. มีคนเข้าเว็บนาน ๆ
138. มีหน้าที่สร้างใหม่
139. แสดงความหลากหลายถ้า Keyword กำกวม
140. มีประวัติการเข้าชมเยอะ
141. มีประวัติการค้นหาเยอะ
142. คนค้นหาในประเทศไหน เว็บไซต์จากประเทศนั้นจะได้อันดับมาก
143. ถ้าเปิด Safe Search บางเว็บไซต์ที่เนื้อหารุนแรงจะไม่แสดงให้เห็น
144. มี Google+ Circles
145. ไม่มีคำร้องเรียน DMCA
146. ต่อให้เว็บไซต์หนึ่งควรติดทุก Keyword แต่ Google ก็จะกระจายให้เว็บไซต์อื่นด้วย
147. เว็บไซต์ซื้อ-ขายจะได้รับอันดับที่สูงกว่าคอนเทนต์ทั่วไป
148. ปักหมุดสถานที่บน Google+
149. จะมีช่อง News สำหรับบาง Keyword
150. Brand ยิ่งดังยิ่งดี
151. สินค้าซื้อ-ขายจะได้อันดับดีกว่าปกติ
152. รูปภาพจะมาอันดับแรก
153. Google มีเกมให้เล่นอยู่ในบาง Keyword ด้วย
154. Domain กับ Keyword ของแบรนด์ต้องเหมือนกัน
155. จำนวน Tweet ของเว็บไซต์ช่วยได้
156. คนที่ Tweet ต้องมี Follower เยอะ
157. คนไลค์ Facebook เยอะ
158. คนแชร์ Facebook เยอะ
159. เนื้อหาที่แชร์หรือไลค์เข้าถึงคนหมู่มากได้
160. มีการปักหมุด Pinterest เยอะ
161. มีคนโหวตบนหน้า Social Sharing เยอะ
162. มีคน +1 บน Google+ เยอะ
163. คนที่ +1 บน Google+ มีคนติดตามเยอะยิ่งดี
164. ข้อความที่แชร์ลงไปดีหรือไม่ดีมีผลด้วย
165. ถ้าข้อมูล คอนเทนต์ ข้อความ ทุกอย่างดี เกี่ยวข้องกัน อันดับจะยิ่งดี
166. เว็บไซต์มีส่วนเกี่ยวข้องกับโซเชียลเท่าไหร่ยิ่งดี
167. มีชื่อแบรนด์เป็นของตัวเอง
168. มีคนค้นหาชื่อแบรนด์
169. มี Facebook Page
170. มี Twitter
171. มี LinkedIn
172. พนักงานบริษัทมีข้อมูลบน LinkedIn
173. มีการโต้ตอบในแต่ละช่องทาง
174. มีคนพูดถึงชื่อแบรนด์
175. ปักหมุดบน Google Business
176. มีคนติดตาม RSS Subscriber
177. ใส่ที่อยู่ธุรกิจลงบน Google+
178. จ่ายภาษีครบถ้วน
179. คุณภาพเว็บไซต์ต้องดี
180. มีลิงก์จากเว็บไซต์แย่ ๆ จะทำให้เว็บเราแย่ตามไปด้วย
181. ไม่มีการ Redirect
182. ไม่มี Popup หรือ Ad ให้รำคาญตา
183. ไม่ทำ SEO เยอะเกินไปในเว็บไซต์เดียว
184. ไม่ทำ SEO เยอะเกินไปในหน้าเดียว
185. ไม่มี Ad กวนใจ
186. ไม่พยายามซ่อนลิงก์ Affiliate
187. ไม่ทำเว็บเพื่อ Affiliate
188. เขียนบทความเอง ไม่ใช้คอมพิวเตอร์
189. ไม่โกงระบบจัดอันดับ
190. IP Address สะอาดปราศจากมลทิน
191. ไม่ Spam ใน Meta Tag
192. มีลิงก์เข้ามามากเกินไปแบบผิดสังเกต
193. ไม่ถูก Penguin ของ Google คาดโทษ
194. ไม่มีลิงก์จากหน้า Profile ที่ไม่มีคุณภาพ
195. มีลิงก์อยู่บนเว็บไซต์ที่ไม่เกี่ยวข้องเยอะเกินไปก็ไม่ได้
196. ไม่ถูกเตือนเรื่องมีลิงก์ผิดธรรมชาติ
197. ลิงก์จาก IP Class C เดียวกันก็ห้าม
198. ห้ามมีคำที่สุ่มเสี่ยงอยู่บนเว็บไซต์เยอะ ๆ
199. ไม่ถูกแบนโดยทีมงาน Google
200. ไม่ซื้อขายลิงก์

เยอะมากจริง ๆ เลยนะครับสำหรับปัจจัย SEO แทบทุกการกระทำบนเว็บไซต์ของเราสามารถส่งผลต่อ SEO ได้หมดเลย แต่ทีนี้ทุกคนก็คงหายสงสัยกันแล้วนะครับว่าต้องทำยังไงถึงจะติด SEO กับเค้าได้บ้าง เพราะถ้าทำตาม Checklist นี้และหมั่นเพิ่มความรู้การทำ SEO อยู่เสมอครับ

บทความเขียนโดย Freelance
โปรดเช็คความรู้จากลิงค์เหล่านี้เพิ่มเติม
      - https://backlinko.com/google-ranking-factors (https://backlinko.com/google-ranking-factors)
      - https://support.google.com/webmasters/answer/7451184 (https://support.google.com/webmasters/answer/7451184)
      - https://warrior.in.th/freelance-seo/job/seo-factor/seo-factors/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/job/seo-factor/seo-factors/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 25, 2021, 08:19:24 pm
มนุษย์เงินเดือน เช้าทำงานประจำ เย็นทำธุรกิจ จนตั้งบริษัทตัวเองได้

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/06/business-online-marketing-strategy-salary-man.gif)

สวัสดีครับ ผมนักรบ เมื่อก่อนเป็นเพียง ” มนุษย์เงินเดือน ” ธรรมดาๆ ฐานะทางบ้านปานกลางค่อนข้างจน พอมีพอกินบ้างแต่ไม่ร่ำรวย ผมมีหนี้สินแค่รถคันเดียวก็ผ่อนกันเหงื่อตกแล้วครับ จนต้องให้ที่บ้านช่วยผ่อนด้วยซ่ำ สมัยเด็กผมเป็นไอ้ขีแพ้ ทั้งเรื่องเรียน, เรื่องกิจกรรม และแม้แต่เรื่องความรัก ตั้งแต่ประถมจนเรียนจบ เคยด่าตัวเองว่า “ไอ้ขี้แพ้” บ่อยๆ
        - สมัยประถม เคยได้รับโอกาสเป็นนักเล่นดนตรี อิเล็กโทน แต่เล่นไม่นานก็เลิก
        - สมัยมัธยม เพื่อนส่งรายชื่อให้ประกวดร้องเพลงคณิตศาตร์ แต่กลับโดนโห่กลางเวที
        - จบ ม. ปลาย เอนท์ไม่ติด เพราะไม่ขยันเรียน การบ้านไม่ส่งเลย
        - มหาลัย ได้เล่นบาส หมดเวลา ชู๊ตลูกโทษตัดสินแพ้-ชนะ 2 ลูก กลับชู๊ตไม่ลงสักลูก ทำให้ทีมแพ้รอบชิงชนะเลิศ เพราะขี้เกียจซ้อมไม่เอาจริง
        - มหาลัย เล่นวงดนตรีประกวด แต่อ่อนซ้อม แพ้ไม่เป็นท่าเพราะผม
        - ทำงาน เคยโดนลดเงินเดือน, โดนขอให้ออก, ทำที่ไหม่ ก็ไม่ผ่าน Pro

ตลอดเกือบ 30 ปี ชีวิตไม่ประสบความสำเร็จเลย ผมไม่เคยทำอะไรจริงจัง และไม่รู้ด้วยว่าอนาคตจะไปได้แค่ไหน  แค่ฝันบางทียังไม่กล้า แต่วันนี้สามารถปลดหนี้รถ, บัตรเครดิต, ออกจากงานประจำ มาเปิดบริษัทเล็กๆได้ พร้อมมีเงินเก็บสำรองใช้ 1 ปี โดยไม่ต้องมีรายได้ก็อยู่ได้ มีเวลาอยู่กับพ่อแม่ทุกวัน และ มุ่งหน้าสร้างบริษัทเล็กๆของตัวเองให้แข่งเกร่ง ถึงแม้จะประสบความสำเร็จเล็กๆ แต่ก็เป็นก้าวแรกที่ดี วันนี้ผมไม่เรียกตัวเองว่า “ไอ้ขี้แพ้” อีกแล้ว เพราะผมเห็นหนทางของการสร้างแบรนด์ให้ธุรกิจตัวเองด้วยความสามารถและวิสัยทัศน์ ผมทำอย่างไร? มาดูกันครับ

วิสัยทัศน์สำคัญที่สุด
วิสัยทัศน์คือการมองเห็น สิ่งที่จะเกิดขึ้น หรือมีแนวโน้มที่จะเกิด ยิ่งมองเห็นชัดเท่าไหร่จะยิ่งเกิดความเชื่อมากขึ้นเท่านั้น เมื่อความเชื่อแรงกล้า ทำให้ฟันฝ่าทุกอุปสรรคได้ง่าย และประสบความสำเร็จครับ ผมโชคดีเรื่องหนึ่ง ที่ได้มีโอกาสเจอกับ พี่หนึ่ง(วรพงศ์) หัวหน้าที่มีวิสัยทัศน์ เขาได้สอนผมหลายเรื่อง ทำให้ผมมีวันนี้ หลังจากที่ลงมือทำมากยิ่งขึ้น ทำให้ผมประสบความสำเร็จในธุรกิจมากยิ่งขึ้นครับ ถึงแม้ยังเป็นความสำเร็จเล็กๆน้อย แต่เชื่อว่าแนวทางของผมจะช่วยแก้ไขปัญหามนุษย์เงินเดือนคนอื่นๆ ได้ไม่มากก็น้อยครับ

3 หัวใจของการเริ่มต้นทำธุรกิจส่วนตัวควบคู่งานประจำ
เช้าทำงานประจำ เย็นทำธุรกิจตัวเองจนตั้งบริษัท มีหัวใจในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จและมีความมั่นใจได้อย่างไรไปดูกันครับ 1. เร็ว : เร็วที่ลงมือทำ เป็นอาวุธที่ร้ายแรงที่สุดอาวุธแรกที่คนทำธุรกิจตัวเล็กต้องมี – การลงมือทำเร็ว, – คิดเร็ว วางแผนเร็ว – วัดผลหลังทำไปแล้ว ตัดสินใจว่าเวิร์คหรือไม่ได้เร็ว ได้ผลลัพธ์มาใช้เพื่อหาหนทางที่ดีกว่าต่อไป ในช่วงแรกๆของการทำธุรกิจ สมัยนั้นนักรบต้องเรียนรู้อะไรหลายอย่าง เช่น วิธีเลือกสินค้า, วิธีซื้อสินค้า, วิธีหาแหล่งผลิต, วิธีต่อรองราคาต้นทุน, วิธีนำไปขาย, วิธีการทำการตลาด และวิธีสร้างแบรนด์เยอะแยะเต็มไปหมด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องเรียนกันใหม่ด้วยตัวเอง หากลงมือทำช้า มัวแต่หลอกตัวเอง ก็ไปไม่ถึงไหน ความขี้เกียจจะเข้าครอบงำ วิธีแก้ไขปัญหา ลงมือทำให้เร็ว  เพราะความขี้เกียจและอุปสรรคทางความคิดมีความเร็วของมัน ถ้าช้า มันจะครอบงำให้อยู่เฉยๆไม่ต้องทำอะไร อีกทั้งการลงมือทำเร็วช่วยให้นักรบเรียนรู้เรื่องเหล่านี้ได้เร็วครับ 2. แรง : แรงที่ึความมุ่งมั่น ความมุ่งมั่นและต้องการอย่างแรงกล้า ที่จะทำตามวิสัยทัศน์, ทำสิ่งรักให้ได้ผล มีความสุข และมีเป้าหมายใหญ่ที่จะเป็นอันดับ 1 ของประเทศหรือของโลก บ่อยครั้งที่นักรบ ตะโกนบอกตัวเองว่า “กูคือคนที่เก่งที่สุดในโลก” เพราะความมุ่งมั่นข้างในมันแรงจนล้น เลยต้องพูดออกมา ในโลกเรามีสิ่งดึงดูดให้เสียสมาธิและหลุดโฟกัสมากมาย เพราะในแต่ละวันเราจะเจอผลงานของคนอื่นๆสร้างไว้ผ่านสื่อต่างๆ เช่น TV, วิทยุ, หนังสือพิมพ์, นิตยสาร, ป้าย หรือแม่แต่บนโลกออนไลน์เกลื่อนกลาดเต็มไปหมด นี้ยังไม่รวมทั่งการบอกปากต่อปากจากเพื่อนๆอีกด้วย สิ่งเหล่านี้จูงใจเรา ให้เสียสมาธิและกระตุ้นเราให้ใช้ชีวิตสบาย ใช้เงิน แต่ไม่เคยสอนให้เราหาเงินเลยครับ นั้นคือสาเหตุหลัก หากตกอยู่ในวังวนการใช้เงินไปกับเรื่องไร้สาระ ไม่พาตัวเราไปยังเป้าหมาย เราจะเสียความมุ่งมั่นไปเร็วมาก วิธีป้องกันการสูญเสียความมุ่งมั่น เข้าใจว่าโลกนี้เต็มไปด้วยโฆษณา หลอกให้คุณใช้เงิน และมอมเมาต่างๆนาๆ ฉะนั้นจงเลือกดู ฟัง และอ่านแต่สิ่งๆดีๆเท่านั้น และรักษาวิสัยทัศน์, เป้าหมาย และความมุ่งมั่นอยู่เสมอๆ นักรบเคยเป็นไอ้ขี้แพ้ ตั้งแต่เด็กจนโตอายุ 30 ปี แต่ชีวิตก็พลิกผัน เพราะได้คุยกับหัวหน้าทุกเช้าในเรื่องธุรกิจ หลังจากนั้น 1 ปี นักรบก็พบทางสว่าง เกิดวิสัยทัศน์ มองโลกได้กว้างขึ้น + กับลงมือทำจริงจัง ส่งผลให้ชีวิตดีขึ้น ธุรกิจส่วนตัวได้กำไร หลังจากมีวิสัยทัศน์แล้ว นักรบรู้ทันทีว่าจะต้อง Focus สิ่งที่ทำ โดยยอมแลกทุกสิ่งเพื่อให้ประสบความสำเร็จ ยอมแลกที่จะไม่คบเพื่อนที่ชวนกันไปเมา ยอมแลกทีจะไม่ดูสื่อห่วยๆเลยแม้แต่นิด ทำให้ตัวเองเก่งขึ้น โดยมีเป้าหมายที่แรงกล้าที่จะเก่งที่สุดในโลกในจุดที่ตัวเองทำ เพื่อตอบแทนบุญคุณคนและเลี้ยงดูครอบครัว วิธีสร้างขุมพลังความมุ่งมั่นแบ่งตามจุดกำเนิด
         - พลังจากสิ่งภายนอกร่างกายเรา เช่น คำพูดดีๆจากคนอื่น, หนังสือดีๆสักเล่ม, หนังดีๆสักเรื่อง หรือประสบการณ์ในแต่ละวันเล็กๆน้อยสักครั้งจากสิ่งต่างๆเหล่านั้นสอนให้รู้ว่า คนที่ประสบความสำเร็จจะต้องมีช่วงของการตกต่ำของชีวิต หากคิดได้ ลงมือทำจริงและโดดขึ้นจากหลุมของความล้มเหลวได้ จะยิ่งแข็งแกร่ง นั้นคือเหตุผลทีทำให้อ่านและศึกษาคนเก่งๆเพื่อค้นหาทั้งวิธีคิด และวิธีทำนำมาใช้กับตัวเองครับ
        - พลังจากภายในตัวเอง : สร้างได้จากวิสัยทัศน์ หรือ วิกฤตความล้มเหลวในชีวิต'
        - เปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้ว :  หลังจากลงมือทำเร็วและแรง จะได้ผลลัพธ์ทำให้เปลี่ยนทั้งความคิดและการกระทำในครั้งต่อไปให้ดีขึ้น เพื่อค้นหาวิธีที่ดีที่สุด นักรบใช้ข้อ 1 และ 2 ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตัวเองที่ละเรื่อง เมื่อมากๆเข้ามันทำให้นักรบ เปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั๊ว อีกทั้งนักรบพบว่าวิธีนี้มันได้ผล เพราะปลดหนี้และมีเงินตั้งบริษัทเล็กๆของตัวเองได้ 3หัวใจนี้ เกิดขึ้นทุกๆวัน เพื่อค้นหาวิธีทำธุรกิจของตัวเอง ในทุกขั้นตอนของการทำธุรกิจล้วนเคยผ่านกระบวนนี้มาแล้วทั้งสิ้น

ทุกธุรกิจมีคู่แข่ง
ไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไร ล้วนมีคนทำมาก่อน หรือคิดได้ก่อนแล้วทั้งนั้น เพราะเราอยู่ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารถึงกันได้รวดเร็ว Idea ต่างๆที่เราคิดได้หลังจากที่เราได้ฟัง ได้เห็นบางสิ่งมาแล้ว ก็มีคนอื่นๆคิดได้เช่นกัน และเขาอาจจะคิดได้เร็วกว่าอีกด้วย เพราะประเทศของเราไม่ใช่ผู้นำทางเทคโนโลยีด้าน Internet และด้านอุตสาหกรรม ฉะนั้นหลังจากคิดได้ ต้องทำให้ได้ผลและปรับใช้ให้เข้ากับคนในแต่ละท้องถื่นให้เร็วที่สุด Idea ที่คิดได้เป็นเพียงก้าวเล็กๆเท่านั้น มันต้องผ่านกรรมวิธีในการวางแผน และวางขั้นตอนคร่าวๆเพื่อทดสอบและลงมือในทุกรายละเอียดเพื่อเช็คเบื้องต้นว่า Idea นั้นได้ผลจริงหรือมีแนวโน้มที่จะได้ผลหรือไม่ ? เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาประกอบการตัดสินใจในการลุยหน้าต่อ หรือกำหนดทิศทางทางธุรกิจอื่นๆ เช่น การหาแหล่งเงินทุน, การวางแผนผลิต, จัดจำหน่าย, หาช่องทางขาย, และการโปรโมทอีกมากมาย รวมทั้งวิธีในการป้องกันการ Copy เลียนแบบ ในทุกกลวิธีที่เรื่องราวในอดีตของวงการธุรกิจได้สอนเรามา

คำแนะนำจากนักรบ
นักรบขอแนะนำ ไม่ควรเสียเวลาวางแผนมากจนเกินไปกับการนั่งอ่านนั่งฟังจากคนอื่นๆโดยเฉพาะเรื่องแรงบันดาลใจที่มีอยู่ล้นตลาด ควรพุ่งเวลาและสมาธิไปที่การลงมือทำจริง โดยใช้เวลา 60-80% ของเวลา เป็นการทำทั้งหมด นั้นก็เพราะแผนงานที่ดีที่สุดจะเกิดก็ต่อเมื่อเราได้ลงมือทำจนชำนาญแล้วอย่างน้อย 1 ครั้ง บ้างครั้ง นักรบไม่เคยวางแผนเลย แต่ใช้วิธีลงมือทำก่อน คิดที่หลัง ให้ได้ประสบการณ์ก่อน และนำผลลัพธ์มาพัฒนาอีกที ตราบใดที่ลงทุนต่ำเราก็สามารถลุกขึ้นใหม่ได้เสมอ เพราะการลงทุนไม่ได้สร้างรายได้ แต่ประสบการณ์ต่างหากที่สร้างรายได้

วิธีผลิตผลงานให้ดีและเจ๋ง
ผลงานจะดีได้ต้องมีทั้งจำนวนและคุณภาพ ฉะนั้นถ้าอยากทำให้ผลงานดีเหนือใคร ควรทำตามขั้นตอนดังนี้ 2 ขั้นตอน ผลิตผลงานให้ชนะคู่แข่ง
        - ต้องผลิตผลงานได้เร็ว
        - ต้องผลิตผลงานได้ดี

นักรบทำธุรกิจ ควบคู่งานประจำจะ Focus ที่ความเร็วในการผลิตผลงานก่อน เพราะจำนวนครั้งที่ทำจะสร้างความชำนาญ และความชำนาญจะสร้างผลงานที่ดีตามมา โดยหากต้องการประหยัดเวลาสร้างผลงานให้ดี ควรเลือกแหล่งข้อมูล (Outsource) ที่ดีประกอบ ฉะนั้นต้องแบ่งเวลาในการค้นหา Outsource ด้วย Outsource คือ การใช้ทรัพยากรที่ไม่ใช่ของเรา แต่เราสามารถนำมาใช้ได้ เช่น คน หรือ สิ่งของ โดยเราจำเป็นต้องจ่ายเงินทดแทนหรือไม่นั้น แล้วแต่ตามตกลง

มนุษย์เงินเดือน ทำธุรกิจตัวเองมีข้อดีอย่างไร ?
        1. มีมุ่งมั่นของเจ้าของเป็นทุนเดิม : เพราะมีความเป็นเจ้าของธุรกิจอยู่ภายใน
        2. ถ้าทำอาชีพ Infopreneur  เกี่ยวกับความเชี่ยวชาญในงานประจำ คุณจะมีเวลาสร้างผลงานหรือเรียนรู้ = 8 ชั่วโมงในงานประจำ + 2 ถึง 3 ชั่วโมงหลังเลิกงาน (เฉลี่ยที่ 11 ชั่วโมง/วันทำงาน และ 5-10 ชั่วโมงในวันหยุด ส-อา.)

สรุป โดยนักรบ ถึง มนุษย์เงินเดือน
มนุษย์เงินเดือนทีทำธุรกิจหลังเลิกงานประจำ โดยใช้ความเชี่ยวชาญในงานประจำมาใช้ด้วย จะได้เปรียบคู่แข่ง เพราะมีเวลาทำงานมากกว่าและมีพลังของความเป็นเจ้าของธุรกิจที่แรงอีกด้วย แต่ถึงกระนั้น ธุรกิจก็สู้กันที่ สินค้า, ช่องทางการขาย และ การตลาด
         - สร้างสินค้าให้มีเยอะและดี ได้ด้วยการลงมือเร็ว คิดเร็ว วัดผลเร็ว และพัฒนาสินค้าจนมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
         - ช่องทางการตลาด หากเดินกลยุทธ์สร้าง Personal Brand ด้วย Content Marketing + SEO ผ่านระบบเว็บไซต์ จะยิ่งทวีคุณความรุนแรงเข้าไปเท่าตัว
         - การตลาด สอดคล้องกับช่องทางการตลาดที่สร้างไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ด้วยการไต่อันดับ Google ด้วย SEO ผ่าน Content ที่มีคุณภาพ และใช้ Facebook Ads ในการสร้างยอดคนเข้าชมและรู้จัก

วิสัยทัศน์สร้างได้จากการลงมือทำ หรือมีที่ปรึกษาส่วนตัว มนุษย์เงินเดือนก็สามารถทำธุรกิจส่วนตัวจนตั้งบริษัทของตัวเองได้ จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปครับ
https://warrior.in.th/warrior-life/salary-man-working-early-morning-to-do-business-to-set-up-their-own-company/ (https://warrior.in.th/warrior-life/salary-man-working-early-morning-to-do-business-to-set-up-their-own-company/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 25, 2021, 09:10:37 pm
SEO คือ อะไร , ปัจจัย SEO มีอะไรบ้าง และ SEO ทำอย่างไร

(https://img.youtube.com/vi/rg5rTE4kfBs/0.jpg)

SEO คือ อะไร ?
SEO อ่านว่าเอสอีโอ คือ การปรับแต่งเว็บไซต์และเนื้อหาให้ติดอันดับการค้นหาในตำแหน่งที่ดีที่สุดใน Search Engine ต่างๆ เช่น Google, Yahoo, Bing โดย SEO ย่อมากจาก Search Engine Optimization.
สร้างเว็บไซต์ให้ติดหน้า Google มี 2 วิธีใหญ่ๆ คือ การลงโฆษณากับ Google Ads และ SEO

Note : ในที่นี้จะเน้น Google Search เป็นหลักครับ เพราะมีผู้ใช้สูงมากที่สุดกว่า 90%
(https://img.youtube.com/vi/nVM9afeo3Jc/0.jpg)

ปัจจัย SEO ที่นักรบขอแบ่งเป็น  5 ประเภทหลัก
การทำ SEO ให้ได้ผล ควรอ้างอิงข้อมูลที่เชื่อถือได้ เกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลกับเอสอีโอ โดยนักรบอ้างอิงข้อมูลจากบริษัทให้บริการด้านเอสอีโอระดับโลก ได้ทำการทดลอง 10,000 Keywords กับ 300,000 เว็บไซต์ เพื่อเผยแพร่ผลการทดสอบ (White Paper) โดยปัจจัย SEO ทั้งหมดมี 5 กลุ่มใหญ่ๆดังนี้ครับ
        1. Website
        2. Content
        3. User Signals
        4. Social Signals
        5. Backlinks
Note : * ปัจจัยกลุ่ม 1-3 คือ การปรับแต่งเอสอีโอภายในเว็บไซต์ (On-Page SEO) * ปัจจัยกลุ่ม 4-5 คือ ปัจจัยภายนอกเว็บไซต์ (Off-Page SEO)

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/05/seo-marketing-online-business-infopreneur-1.gif)

SEO คือ อะไร
1. ปัจจัยด้านเว็บไซต์
เว็บไซต์รองรับมือถือ มีโครงสร้าง HTML ที่เอื้อกับการทำ SEO ในส่วนของ Title, Description, H1, H2, Img Alt เป็นต้น รวมทั้งความเร็วในการเปิดแต่ละหน้าของเว็บไซต์ อีกทั้งความสามารถในการแชร์ไปยัง Social Media ได้สะดวกมากยิ่งขึ้นก็มีส่วนสำคัญครับ ปัจจัยด้าน Website แบ่งเป็นข้อๆดังนี้
         - ความเร็วเว็บไซต์
         - การรองรับมือถือ
         - เว็บไซต์มีโครงสร้าง HTML รองรับ เช่น Title, Description, H1,H2, Img Alt
         - URL Friendly
         - เว็บไซต์ไม่ล่มบ่อย ไม่โดน Hack ไม่ติดมัลแวล์
         - มี Security เช่น https
         - มีระบบรองรับการทำ Blog, News, Faq เป็นต้น

2. ปัจจัยจากเนื้อหาภายในเว็บไซต์ (Content)
ปัจจัยแบ่งเป็นข้อๆดังนี้
         - Keyword ใน Title, Description, H1, H2, Img Alt
         - Keywords ที่เกี่ยวข้องกัน
         - จำนวนลิงค์ภายในเว็บไซต์
         - จำนวน Keywords ในเนื้อหาเว็บ
         - จำนวนคำ, ความยาวของ HTML, และจำนวนตัวอักษร
         - Keyword ใน Link ภายในเว็บไซต์

3. สัญญาณจาก ผู้ใช้ (User Signals)
ปัจจัยนี้สามารถดูได้จาก Google Analytic ซึ่งมีการเก็บข้อมูลของคนเข้าเว็บไซต์เราเป็นอย่างดี โดยสถิติผู้ใช้จะดี ก็ต่อเมื่อเว็บไซต์ดี โหลดเร็ว ใช้งาน สวยและมีเนื้อหา Content ดีครับ ปัจจัยแบ่งเป็นข้อๆดังนี้
         - อัตราการคลิ๊กจาก หน้าผลการค้นหา Google
         - เวลาที่ใช้บนเว็บไซต์
         - สถิติผู้ใช้ เข้า-ออกเว็บไซต์

4. ปัจจัยจาก Social Media
ปัจจัยจาก Social Media อาศัยการ Like, Share, Comment เป็นหลัก ฉะนั้นต้องสร้างเนื้อหา (content) ทีดี มีภาพสวย อ่านเข้าใจง่ายและเป็นประโยชน์จริงๆทั้งแบบข้อความ, ภาพ หรือวีดีโอ แล้วแต่ถนัดครับ
ปัจจัยแบ่งเป็นข้อๆดังนี้
         - Google Plus
         - Facebook Shares
         - Facebook Comments
         - Pinterest
         - Facebook Likes
         - Tweets

5. ลิงก์กลับมายังเว็บไซต์ (Backlink)
Backlink คือ Link ที่เชื่อมเว็บไซต์อื่นๆ มาหาเว็บเรา เช่น การโพส Link ตามเว็บบอร์ด เว็บประกาศโฆษณาฟรีต่างๆ , การซื้อ Banner, การซื้อบทความลงเว็บไซต์ advertorial เป็นต้น
Backlink อาจเกิดขึ้นเองอัติโนมัต ถ้าเว็บไซต์เราติดหน้าแรกแล้วบ้าง จะมีคนทำ Backlink ให้เองฟรีๆ หรือเราจะสร้างเองหา Backlink ฟรีได้ครับ
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับ Backlink มีดังนี้
         - จำนวน Backlinks
         - Backlink จากเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียง
         - Backlink จากวเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเว็บของเรา
         - Backlink จากโดเมนภาครัฐ หรือการศึกษา เช่น .ac.th, .or.th, .go.th เป็นต้น

ปัจจัยพิเศษ บทลงโทษจาก Search Engine
หากไม่ทำผิดกฏก็ไม่ต้องกำวลเรื่องเหล่านี้ครับ ปัจจัยแบ่งเป็นข้อๆดังนี้
         - Backlink จากเว็บไซต์ ผิดธรรมชาติ
         - Spam Keywords
         - ลงโฆษณามากเกินไป และมีเนื้อหาสำคัญน้อย
         - หลอกลวง URL และมีการ Redirect ไม่ประสงค์ดี
         - ซ่อน Keywords

เว็บไซต์ที่อันดับดี จะมีปัจจัยทาง SEO หลายข้อทำงานร่วมกัน
เราจะใช้ปัจจัยทาง SEO ไม่กี่ข้อแล้วหวังว่าเว็บเพจจะมีอันดับดีใน Google วิธีคิดแบบนี้อาจจะไม่ส่งผลดีเท่าไหร่นัก เพราะถ้าคู่แข่งมีเว็บเพจที่ดีกับ SEO หลายปัจจัยมากกว่า แล้วเว็บไซต์ของเราก็จะตกอันดับแน่นอน ฉะนั้นถ้าเป็นไปได้เราต้องใส่ใจทุกรายละเอียดของ SEO ทีเดียว

ทำไม ? การทำ SEO ถึงจำเป็นต่อเว็บไซต์
คนค้นหาข้อมูลทั้งสินค้าและบริการส่วนใหญ่จะมาจากทาง Google แทบทั้งนั้น และ Google ก็อยู่ในชีวิตประจำวันของใครๆหลายๆคนเรียบร้อยแล้ว จะหาอะไรก็ไปกูเกิล ฉะนั้นถ้าอยากให้มีคนเข้าเว็บไซต์เรามากๆ เราจะต้องปรับแต่งเว็บไซต์ของเราให้ดี ติดอันดับ Google แล้วจะมีลูกค้าหน้าใหม่ๆ รวมทั้งลูกค้าเก่าๆแวะเวียนมาที่หน้าร้านออนไลน์ของเราไม่ขาดสายครับ Note : ยอดผู้เข้าชมสามารถเพิ่มขึ้นจาก Social Media ได้ โดยจะพูดถึงในบทความอื่นๆ

Google จะทำอย่างไร ? กับเว็บที่ไม่ทำ SEO
ถึงแม้เว็บไซต์ไม่ได้มีการทำ SEO แต่ถ้ามีข้อมูลที่ดี มีคนเข้าชมเยอะ ค่อยๆเติมโต เว็บไซต์นี้ก็จะอยู่ในอันดับที่ดีของ Google ได้ครับ เพียงแต่ว่าจะเห็นผลช้าหน่อย และอาจจะไม่ได้ใช้ประสิทธิภาพของ SEO เต็มที่นั้นเอง

ทำ SEO ด้วยตัวเองได้ไหม ?
ทำ SEO ด้วยตัวเองได้ครับ เพียงแต่ว่าคนทำต้องเรียนรู้และทดลองเกี่ยวกับ SEO หลายๆเดือน หรือเป็นปีเลยทีเดียว วิธีง่ายๆในการเรียนรู้เบื้องต้น คือ การค้นหาความรู้ได้ฟรีก่อนใน Internet ขั้นถัดมาคือการซื้อหนังสือที่สอนเกี่ยวกับ SEO และ เข้าสัมมนา Workshop เกี่ยวกับ SEO ครับ หรืออ่านจากบทความ เช่น  สอน SEO ฟรี โดย Rungwat.com  Note : สามารถจ้างบริษัทรับทำ SEO ได้ โดยจะมีราคาแตกต่างกันไปตามความยากง่ายตั้งแต่หลักพัน – หลักหมื่น ต่อ 1 Keyword นักรบแนะนำ : รับทำ SEO โดยนักรบ

บริการรับทำ SEO ราคาถูกดีไหม ? และควรจ้างทำ SEO หรือ ทำเองดี ?
บริการรับทำ SEO ราคาถูกเกินไป และทำผิดวิธีจะทำให้เว็บไซต์โดน Ban ได้ การจ้างทำ SEO เหมาะกับธุรกิจที่มีเงินลงทุน, ไม่มีเวลา, ไม่มีความรู้ด้านการตลาดออนไลน์ โดยควรพิจารณาผลงานเป็นสำคัญจากผู้บริการที่น่าเชื่อถือ

นักรบแนะนำ
นักรบแนะนำให้คนนักการตลาดดิจิทัล เรียนรู้การทำ SEO ด้วยตัวเอง โดยเขียนบทความลง Fanpage และ Website ในลักษณะการทำ Content Marketing ที่ช่วยทำให้ SEO ดีขึ้นมากถึงมากที่สุด หากแต่เพียงว่าต้องเรียนรู้การทำ SEO เพิ่มเติมมากขึ้น โดยสามารถเรียนผ่านสัมมนา หรือ คอร์สออนไลน์ของเราได้ครับ เมื่อผลิด Content ได้มากมาย สม่ำเสมอ ผ่านทักษะการเขียนบทความ การสร้าง Content ต่างๆเช่น วีดีโอ, ภาพนิ่ง ที่สอดคล้องกับหลักการทำ SEO แล้ว เว็บไซต์ก็จะติดหน้าแสดงอันดับผลการค้นหาของ Google (SERPs) ได้ง่ายดายขึ้นเป็นทวีคูณ พอจะเข้าใจคร่าวๆแล้วนะครับ

อย่าลืมที่จะพัฒนาตัวเองในทักษะยุคดิจิตอลสำหรับธุรกิจ SME สิ่งที่นักรบพอจะช่วยได้คือ ช่วยเผยแผ่ความรู้ผ่านคอร์สเรียนของเราครับ
https://warrior.in.th/freelance-seo/job/seo-factor/seo-is/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/job/seo-factor/seo-is/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 27, 2021, 05:19:14 pm
การตลาดออนไลน์ด้วย Content Marketing คือที่สุดของมืออาชีพยุคนี้

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/10/content-marketing-online-business-website-wordpress-warrior.jpg)

ท่ามกลางความแข่งขันของเนื้อหาข้อมูลที่วิ่งผ่านชีวิตคนอย่างมากมายมหาศาล ในยุคข่าวสารข้อมูล (Information age) ยากที่ท่านจะเปิดดูทุกฟีดข่าวได้หมด Facebook จึงนำเสนอแต่ข้อมูลเพื่อน และหน้าเพจที่ท่านให้ความสนใจและปฏิสัมพันธ์ด้วยก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อให้ประสบการณ์การใช้งานเฟสบุ๊คของท่าน เจอแต่เรื่องที่ท่านชอบนั่นเอง แล้วคนทำธุรกิจออนไลน์ล่ะ จะทำอย่างไรถึงจะแทรกเนื้อหาของเขาไปยังหน้าเฟสบุ๊คฟีดของคนอ่านคนฟังได้ ก่อนอื่นท่านต้องเรียนรู้พลังพื้นฐาน : ” ถูกใจ แชร์ แทค พลังในมือของผู้อ่านในโลกออนไลน์ “

ถูกใจ แชร์ แทค พลังในมือของผู้อ่านในโลกออนไลน์
พลังของการเผยแพร่อยู่ในมือของคนอ่าน ท่านบังคับคนอ่านให้ติดตาม ถูกใจ หรือแชร์ไม่ได้ ยกเว้นแต่ท่านมีอะไรบางอย่างไปแลก เช่น รางวัลที่หลายๆเพจมักทำกัน, การให้คุณค่าแก่คนอ่านหลังอ่านจบ, ภาพที่สื่อความหมาย หรือ วีดีโอที่เข้าถึงอารมณ์ จนยากที่ผู้ชมจะหยุดใจไม่ให้แชร์ต่อ การเขียนบทความที่ดี, การถ่ายรูปที่สวย, และการทำวีดีโอที่คนชอบ ไม่ใช่ทักษะพื้นฐานที่ติดตัวมาแต่กำเนิด มันเป็นทักษะที่ฝึกระหว่างทาง หากท่านไม่ใส่ใจตรงจุดนี้ ก็ยากที่จะสร้างเนื้อหาที่ดีให้คนชอบได้ แต่ในทางตรงกันข้ามเมื่อท่านทำได้แล้ว จะสนุกและทำได้ต่อเรื่อยๆไม่จบ จนเสมือนเป็นส่วนหนึ่งในการทำการตลาดผ่าน Content Marketing ที่ทรงคุณค่าทีเดียว เนื้อหาที่ดี มีคนแชร์มากมายใน Social Media ก็มีวันดับตาลกาลเวลา แต่ท่านสามารถชุบชีวิตมันให้ยังคงอยู่ถาวรเป็นอมตะได้ ให้เป็นประโยชน์กับคนอ่านรุ่นต่อๆไปด้วย SEO

เนื้อหาดีจะอยู่เป็นอมตะ ได้ด้วย SEO
เนื้อหาดีมีคนแชร์และบอกต่อ จะสามารถอยู่อย่างยั่งยืนยาวนานนับปี เมื่อนำมาผนวกกับ SEO เสมือนเป็นยาอายุวัฒนะให้เนื้อหาแบบนั้นเลย นั้นก็เพราะ SEO คือการโปรโมทผ่าน Google Search โดยอาศัยหลัก SEO ช่วย หากท่านมีเนื้อหาดีอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ผนวกกับ SEO ท่านจะสูญเสียตำแหน่งที่ดีใน Google เนื้อหาข้อมูลที่ดีของท่านจะถูกแชร์และบอกต่อในโลก Social ในช่วงแรกจริง แต่ในระยะยาวเนื้อหาของท่านจะมีคนเข้าชมน้อยลงเรื่อยๆหากไม่ติดอันดับใน Google ครับ และ SEO คือคำตอบของการชุบชีวิตเนื้อหาให้เปร่งประกายทุกยุคสมัยตราบเท่าที่ Google Search ยังคงอยู่ตัวอย่าง

แบรนด์ GTH ที่ใช้ Content Marketing
ตัวอย่างมีมากมายในต่างประเทศและประเทศไทย กระจายอยู่ในทุกๆธุรกิจ นักรบขอยกตัวอย่างธุรกิจในเครือภาพยนตร์อย่าง GTH ที่หยิบการตลาดผ่าน Content มาสร้างเรื่องราวของหนัง  ให้คนชม คนชอบ คนแชร์ใน Social Media ก่อนที่หนังจะฉายจริงเสียอีกครั้ง

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/10/content-marketing-by-gth-640x363.jpg)

การจ่ายโฆษณาเพียงอย่างเดียว ไม่ส่งผลดีกับธุรกิจออนไลน์ SME
ท่านจะสูญเสียเงินมหาศาลไปกับการทำให้คนจดจำและรู้จัก (Awareness) และจะสูญเสียงบโฆษณาไปกับ Facebook Ads และ Adwords มากมาย ท่านจะได้แต่คนเข้าชมในราคาแพง ไม่มีคนซื้อ ไม่มีใครช่วยแชร์เรื่องราวหรือสินค้าของท่านเลย เปรียบได้กับท่านไม่ได้ใช้พลังทวี หรือเครื่องทุนแรงในโลก Social มากนัก เพราะท่านไม่เน้นที่การตลาดเนื้อหา (Content Marketing) ตั้งแต่แรก Tip: ท่านอาจใช้วิธีการที่เรียกว่า การวัดยอดขาย (Conversion) กับสินค้าของท่าน แต่จะดีกว่าถ้าท่านทดลองตลาดด้วย Adwords และสร้างความน่าเชื่อถือ การจดจำที่ดีก่อนผ่าน Content Marketing

การตลาดออนไลน์ ด้วย Content Marketing ไม่ต้องใช้คนมาก แค่ท่าน 1 คนก็ทำได้
หมดยุคการแปะสรรพคุณสินค้าลงใน Social Media เพียงอย่างเดียวได้แล้วครับ เพราะแฟนเพจและเว็บไซต์ของท่านจะร้างได้ หากไม่มีเนื้อหาดีๆภายในเว็บไซต์หรือ Fanpage เลย นั้นก็เพราะ ทั้ง Google และ Facebook ต่างเห็นพ้องในทิศทางเดียวกันคือ เขาจะนำเสนอข้อมูลที่ดีให้ถึงคนอ่านเท่านั้น และพยายามกีดกันเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม หรือไม่ค่อยมีประโยชน์ออกไป แต่จะเว้นที่ว่างไว้สำหรับการจ่ายโฆษณา การตลาดออนไลน์ ด้วย Content Marketing เผยแพร่ผ่าน Blog และ Social Medila สามารถทำได้ด้วยเพียง 1 คน และใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงต่อวันในการสร้างเนื้อหาพร้อมๆกับโปรโมทสินค้าและบริการของท่านไปในตัว ยกตัวอย่างใกล้สุด คือเว็บไซต์นักรบแห่งนี้ครับ

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/10/Content-Marketing-warrior-640x471.jpg)

การตลาดออนไลน์ ด้วย Content Marketing จะช่วยให้หน้าฟีดเฟสบุ๊คของลูกค้า หรือ ตำแหน่งผลการค้นหาของ Google ยังมีที่ว่างอยู่สำหรับธุรกิจท่านครับ
https://warrior.in.th/freelance-seo/job/seo-content/online-marketing-n-content-marketing/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/job/seo-content/online-marketing-n-content-marketing/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 27, 2021, 05:46:10 pm
ภาพรวมการใช้งาน Conversion ใน Google Ads

(https://img.youtube.com/vi/SxfWtSOxpl0/0.jpg)

ถ้อยคำพูดในวีดีโอ
นาทีที่ 00.00 – 01.27 สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับเข้าสู้ Warrior ทำธุรกิจแบบนักรบ วิดีโอนี้จะพูดถึงเรื่องของ Conversion  แล้วก็ภาพรวม เป็น Conversion ของ Google Adwords  คราวนี้เรามา Start กันที่หน้า Google Adwords กันก่อนเลย  เราน่าจะคุ้นกันอยู่เลยว่า Google Adwords เนี้ยทำงานยังไง สำหรับคนที่เคยใช้ Google Adwords เนี่ย ไม่มีปัญหาเลย แต่สำหรับคนที่ไม่เคยใช้เลยว่า Google Adwords เนี่ยมันทำงานยังไง ลองศึกษาเพิ่มเติมดู คุ้มค่ามาก สำหรับการเรียนรู้เรื่อง Google Adwords ในการทำโฆษณาให้กับเว็บไซต์ของท่านนั่นเอง เรามาเริ่มต้นกันเลย เข้าถึง Google  Search คำ Keyword ที่ต้องการ อย่างเช่นตัวอย่างนี้ ยกตัวอย่างคำภาษาอังกฤษละกัน “How to start online business” search ปุ๊บเนี่ย มันจะมีส่วนผลการค้นหา ที่เป็นส่วนของ Google Reslut search ปกติ ก็คือพวกนี้ กับกลุ่มที่ทำโฆษณา Google Adwords นั่นเอง สังเกตว่าตรงนี้จะมี Ad แอดอยู่ตรงนี้ด้วย ซึ่งหมายความว่า 4 เว็บไซต์เนี่ยทำโฆษณา Google Adwords เช่นเดียวกันครับเวลาเราทำโฆษณา Google Adwords ก็จะปักหมุดแบบนี้เหมือนกัน โดยเวลาที่เราคลิกเข้าไปทางเราจะต้องคนที่ทำโฆษณาเนี่ยต้องเสียตังค์ต่อคลิกว่างั้นเหอะ เป็น Pay per click พอคลิกเข้าไปแล้ว คลิกเข้าไปในเว็บไซต์ของเราเนี่ย ลูกค้ามาแล้วล่ะ มาจาก Google Adwords แล้วล่ะ มาจากโฆษณาเรียบร้อยแล้วล่ะ ลูกค้าก็จะเล่นในเว็บไซต์เรา ก็จะหาข้อมูลในแบบที่เขาต้องการ ก็ชอบไหม ก็เจออะไรที่ชอบไหม เขาก็จะคลิกไล่อ่านไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ชอบเขาก็ปิดไป ถ้าเขาชอบเขาก็จะกลับมาใหม่ 
นาทีที่ 01.28 – 03.10 ซึ่งเวลาที่เราทำโฆษณาจริงๆเนี่ย เราอยากให้เขาซื้อของเราจริงๆไหม หรือว่าอยากให้เขาแบบสมัครสมาชิกกับเรา อยากให้เขาลงทะเบียนกับเรา อยากให้ฝากอีเมล อะไรก็แล้วแต่เนี่ยที่เราต้องการ เขาโทรหาเรา ซื้อตรงเนี้ยมันจะก่อให้เกิดยอดขาย ก่อให้เกิดสมาชิกเพิ่มขึ้น ก่อให้เกิดผลลัพธ์ทางธุรกิจ คือไหนๆก็เสียตังค์โฆษณาแล้วอ่ะ เราก็อยากรู้ว่าคนที่เข้ามาเนี่ย เข้ามา Join event เข้ามาซื้อของอะไรกับเราบ้างหรือเปล่า ซึ่งเครื่องมือในการวัด เราจะเรียกว่า Conversion  ครับ  Conversion ใน Google Adwords เนี่ยมันจะเป็นเครื่องมือในการวัดว่าคนที่คลิกโฆษณาจาก Google Adwords มาแล้วเนี่ย มันมาทำอะไรต่อในเว็บไซต์ของเรา ซึ่งอย่างเช่น เราวัดอะไรบ้าง เราวัดได้ว่าคนเข้าเว็บไซต์เนี่ย คนมาซื้อของเราไหม คนมาสมัครสมาชิกเราไหม คนมาลงทะเบียนแบบฟอร์มเราไหม เห็นไหมครับ แล้วมันก็วัดได้อีกว่า มันมาดาวน์โหลดแอพหรือเปล่า แอพที่เราติดตามอะไรหรือเปล่า หรือว่าคนที่แบบว่าคลิกโฆษณาแล้วเขาโทรหาเราหรือเปล่า เนี่ย หรือสุดท้ายเลยเนี่ยมันสามารถเชื่อมไปได้แบบคนที่คลิกโฆษณาแล้วแบบเขาอาจจะไม่ได้โทร เขาอาจจะไม่ได้เข้าเว็บไซต์เรามาก แต่เขาเดินมาร้านค้าเราอย่างเงี้ย เป็นการติดตาม Conversion  แบบออฟไลน์รึป่าว มันก็สามารถวัดผลการโฆษณาได้อย่างนี้นี่เอง เป็นการบอกความคุ้มค่าในการลงทุนโฆษณานั่นเอง แต่เนื่องจากการจะติดตั้ง Conversion ได้ มันจะต้องติดตั้ง Script ภายในเว็บไซต์ด้วยนะ แล้วเว็บไซต์ต้องรองรับเรา มันก็จะอยู่ในขั้นตอนของการติดตั้งและตรวจสอบการติดตั้งอีกทีหนึ่ง ซึ่งจะอยู่ในวิดีโอถัดๆไป
นาทีที่ 03.11 – 05.22 ซึ่งวิดีโอนี้เอาแค่ภาพรวมคร่าวๆก่อนว่ามันทำงานยังไงนะ  มันเป็นการติดตามนั่นเอง ว่าผลจากการที่คนคิดโฆษณามา ถ้าเราไปดูผลลัพธ์นะ ในการค้นหาของ Google Adwords เนี่ย หน้าผลลัพธ์อย่างเงี้ย สมมติว่ามีตัวอย่างเป็นผลลัพธ์ของ Google Adwords นะก็คือว่าเราทำโฆษณาไปแล้วเนี่ย เราจะมีผลลัพธ์ประมาณเนี้ย เราใช้ค่าใช้จ่ายไปเท่าไหร่อย่างเงี้ย ตัวนี้ใช้ค่าใช้จ่ายไปเท่าไหร่ มีแสดงผลเท่าไหร่ใน Google Search เนี่ย เราทำโฆษณาไปแล้วแสดงผลเท่าไหร่ มีคนคลิกเท่าไหร่อย่างเงี้ยเห็นไหม หนึ่งพันกว่าคลิก แล้วตัว  Conversion เนี่ยเป็นตัวบอกว่า เฮ้ย คนคลิกเข้ามาเนี่ย เขาทำอะไรบ้าง อย่างของผมเนี่ยก็เป็นตัวอย่างว่าคนคลิกเข้ามาเนี่ย หยิบของใส่ตะกร้าไหม เห็นป่ะ ดีป่ะ สมมุติว่าคนเข้ามาเนี่ยหยิบของใส่ตะกร้าไหม สมมติว่าคนเข้ามาเนี่ยเข้ามาในเว็บไซต์เนี่ย จาก Google Adwords เนี่ยเข้ามา ปึ้ง ในเว็บไซต์เนี่ย เขาก็ไปเรื่อยของเขาเนี่ย แล้วแต่เขาจะชอบ แล้วอยากรู้ว่าคนที่เข้ามาเนี่ย เขาหยิบของใส่ตะกร้ารึป่าว แล้วแบบจ่าย แล้วก็ Check out ไหม Confirm order ไหมอย่างเงี้ยเราอยากรู้ เพราะว่าเราจะได้วัดค่าการลงทุนได้ว่ามันคุ้มรึป่าว เท่านั้นเอง ซึ่งการวัดค่าตรงนี้นะ Conversion ตรงเนี้ยมันจะต้องเอา Code ไปฝัง โดยขั้นแรก วิธีการเปิด Column ตรงนี้ ถ้าเกิดใครยังเปิดไม่เป็นเนี่ย ก็คืออยู่นี่ คอลัมน์ -> แก้ไขคอลัมน์ อยู่ตรงนี้ ปึ้งนึง โอเค ละเลือกเนี่ย แท็บ Conversion ตรงนี้มันก็จะอยู่ตรงโซนเนี้ยแหละ เพิ่มตรงนี้เข้าไป อยู่ใน Conversion เพิ่มเข้าไป มันก็จะเรียบร้อยล่ะ มันก็จะได้แท็บ Conversion ละ โอเคขอปิดก่อนนะ เป็นอันนี้มันจะต้องเพิ่มเข้ามา เป็นแท็บ เป็นคอลัมน์ Conversion ซึ่ง Conversion เริ่มเลยเราใส่เข้าไปมันจะเป็นศูนย์เพราะว่าเราไม่ได้ฝัง Code การติดตาม แล้วก็วิธีการฝังCodeการติดตามเนี่ยจะเอ่ยในวิดีโอถัดไปละกัน โดยวิดีโอนี้จะเอ่ยถึงภาพรวมเฉยๆ ซึ่งวิธีการฝัง Code การทำติดตามเนี่ยมันก็ทำไม่ยาก ไปคลิกเครื่องมือ แล้วก็เลือก Conversion ตรงนี้ มันจะเป็นเครื่องมือฟรี มันก็จะสู่หน้าตาการฝังโค้ดแล้วก็การติดตั้งเอง ซึ่งจะพูดถึงในวิดีโอถัดไปนะ
นาทีที่ 05.23 – 07.15 ซึ่งพอเราฝังโค้ดการติดตั้งได้เนี่ย เราจะต้องฝังให้ถูกหน้าด้วยนะ เราไปฝังผิดหน้าเนี่ยมันจะทำให้การวัดผล Conversion ในโฆษณา Google Adwords เนี่ย เพี้ยน แล้วจะฝังยังไงอ่ะสมมุติว่าเราต้องการยกตัวอย่างนะ เราจะฝังโค้ด Conversion ติดตามการหยิบของใส่ตะกร้า เราจะต้องฝังไว้หน้าไหนนะ ยกตัวอย่าง เราจะไม่ฝังไว้หน้านี้ หรือฝังไว้หน้านี้นะ หน้านี้เรายังไม่ฝังโค้ดนะ แบบว่าคนหยิบของใส่ตะกร้าแล้วเอ่อใส่ข้อมูลที่อยู่การติดต่อ เรายังไม่ฝังโค้ดนะ เราไปฝังโค้ดที่หน้านี้ครับ หน้าเสร็จสิ้นการสั่งซื้อตัวเนี้ยครับจะเป็นการฝังโค้ด Conversion เพื่อระบุแน่นอนเลยนะว่าตั้งแต่เริ่มต้นเลยเนี่ย คนคลิกเข้า Adword โฆษณา Adwords พวกเนี้ย เข้ามาปุ๊บ เข้ามาหน้าเว็บไซต์ เข้ามาหน้าสินค้า หยิบของใส่ตะกร้า ใส่ข้อมูลที่อยู่อะไรเรียบร้อย แล้วเขาก็กดปุ่ม Check out ปุ่มล่าสุด ปึ้ง! สั่งซื้อเสร็จเรียบร้อย ปึ้ง! เนี่ย คือเสร็จสิ้นกระบวน เกิดหนึ่ง Conversion แล้ว แล้วผลลัพธ์ของมันเนี่ย มันก็จะมาปรากฏที่หน้า Google Adwords ตรงนี้ มันก็จะมาปรากฏตรงนี้เป็น Conversion ตรงนี้ ตัวเลขมันก็จะขึ้นมาตามที่เรากำหนด ซึ่งมันก็จะบอกได้ด้วยนะว่า Conversion เนี่ยหรือว่าผลลัพธ์ที่คนสั่งซื้อเนี่ยมันมาจาก Keyword คำว่าอะไร เห็นป่ะ ดีมะ นั่นหมายความว่าเราจะเอาตัวเลขเนี้ย เป็นการประมวลว่า Keyword ไหนที่แบบใส่ใส่เข้าไปละแบบมีคนคลิกเข้ามาละก็สั่งซื้อเราจริงๆ นั่นหมายความว่าเราจะได้แบบเอาเงินโฆษณาไปทุ่มให้กับ Keyword นั้นๆ มันก็จะได้เกิดยอดสั่งซื้อ ยอดคนเข้า ยอดสมัครสมาชิก ยอดอะไรก็แล้วแต่ที่เราจะต้องการเนี่ย เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
นาทีที่ 07.16 – 07.58 สรุปนะมันก็คือการบริหารงบประมาณให้ถูกต้องกับ Keyword ละก็โฆษณามากยิ่งขึ้นนั่นเอง โดยมีตัว Conversion ช่วย ในการที่เราบอกเราว่าเราควรจะเอางบโฆษณาเทไปที่ไหน ใช้กับอะไร แล้วมันได้ผล เห็นป่ะ ซึ่งการที่ทำอย่างงี้ได้นะ เรื่องแรกนะคือเว็บไซต์จะต้องรองรับการวาง  Conversion Code เว็บไซต์ต้องรองรับการวาง Conversion Code นะซึ่งนักรบก็ออกแบบวางกลยุทธ์ไว้เรียบร้อยว่าเว็บไซต์ WordPress ที่สอนอยู่เนี่ย มันรองรับการวาง Conversion Code อยู่เพียงแค่มันจะมีรายละเอียดเทคนิคเพิ่มขึ้นในวิดีโอถัดไปละกันว่ามันจะทำยังไง น่ะ มันก็สามารถทำได้
นาทีที่ 07.59 – 10.25 ฉะนั้นเรามาดูตัวอย่างง่ายๆอีกอันหนึ่งก็คือสมมุติยกตัวอย่างนี้ ก็คือ สมมติเราใช้เนี่ย เราใช้ต้นทุนในการโฆษณาไปประมาณสามพันเจ็ด โดยเฉลี่ยประมาณสามพันเจ็ดนี้ เกิด Conversion ห้าครั้งก็คือมีเกิดคนสั่งซื้อสัมมนา SEO เนี่ยห้าครั้ง Conversion สั่งหนึ่งครั้งน่ะมีมูลค่าประมาณสามพันบาท แปลว่าห้าครั้งเนี่ย จะได้ยอดมาหมื่นห้าพันบาท ประมาณนี้  ยอดมันจะหมื่นห้าพันบาท หมายความว่าไง หมายความว่าการโฆษณาครั้งนี้คุ้มมาก ก็คือว่าถ้ามันมีคนสั่ง ใช้เงินทุนไปสามพันเจ็ดโฆษณาปุ้งเนี่ย มันมีคนสั่งซื้อมาตึ้งสักสองครั้ง ก็เกิดจุดคุ้มทุนแล้ว เห็นป่ะ แล้วที่เหลือก็คือกำไรของการโฆษณาครั้งนี้นั่นทำให้เรารู้ว่า อ้อ!การโฆษณาของเราเนี่ย ที่ลูกค้าได้มาจาก Google Adwords เนี่ย เขาคือคนที่สั่งซื้อนะ เพราะว่ามันจะไม่มีปัญหาอย่างงี้เลยอ่ะ สมมุติว่าคนสั่งซื้อคอร์สเราหรือว่าสั่งซื้อสินค้าเราแล้วเราจะมักถามเขาอีกว่า ขอโทษนะคะ รับทราบจากที่ไหน จริงป่ะ? สั่งซื้อรับทราบจากที่ไหน ทราบจากสื่อไหน Facebook หรือว่า Google หรือว่าจะสื่อสิ่งพิมพ์หรือว่าจะออฟไลน์ หรือว่าคนบอกต่อคะ อะไรอย่างเงี้ย ถ้ามันมีลูกค้าแค่สิบกว่าคน มันไม่เป็นไรไง แต่ถ้าเกิดคนมีคนสักห้าสิบคนเนี่ย ถ้าถามทุกคนมันจะยุ่งยากละ และอีกอย่างมันก็จะไม่มีความเที่ยงตรงไง แต่ถ้าเราใช้เครื่องมือช่วย อย่าง Google Adwords Conversion เนี่ยมันจะเที่ยงตรงระดับที่แบบดีขึ้นเยอะเลย ไม่ต้องถามอะไรอย่างเงี้ย มันจะรู้เลยว่าคนมาจากโฆษณาใน Google Adwords และสั่งซื้อ หยิบของใส่ตะกร้าของเรานั่นเอง นี่แหละคือประโชยน์ของมันว่าถ้าเราโฆษณา แล้วเราไม่รู้ผลลัพธ์การโฆษณาว่ามันได้ไม่ได้นะ มันจะวัดผลยาก มันจะดูได้แค่นี้  ถ้าเราไม่มี Conversion ในนั้น เราจะดูแค่จำนวนคลิก ก็คือคนเข้าเว็บไซต์อย่างเดียว เรารู้คนเข้าพันคนจริง พันครั้งจริง แต่เราไม่รู้ว่าพันครั้งเนี่ย มันมีคนซื้อรึเปล่า จริงมะ มันมีคนสมัครสมาชิกไหม มันมีคนฝากอีเมลไหม มีคนเข้าร่วมกิจกรรมกับเราไหม อย่างเงี้ย เราไม่รู้เลยนะถ้าเราไม่ใช้ Conversion ช่วย เนี่ยคือ Conversion คือส่วนเสริมที่ทำให้เรารู้ว่าการลงทุน ในโฆษณาเราคุ้มค่าไหม และการลงทุนของเราเนี่ยมันมาจากสื่อไหนนั่นเอง ซึ่ง Conversion ไม่ได้มีแค่ Adwords นะ มันก็จะมีในสื่อออนไลน์อย่างอื่น เช่น Facebook ซึ่ง Facebook หรือจะเรียกว่า Facebook pixel เดี๋ยวค่อยพูดกันในวิดีโออื่นละกัน ขณะนี้เราพูดถึงแค่นี้ก่อน
นาทีที่ 10.26 – 11.00 นี่คือภาพรวมทั้งหมดนะในการใช้  Conversion และประโยชน์ของ Conversion เพื่อที่จะรู้ว่าคนเข้ามาเว็บไซต์เราเนี่ย มาจาก Adword ไหม โอเค เท่านี้น่าจะพอเห็นภาพละของการทำ Conversion ละก็ภาพรวม สำหรับวิดีโออื่นนะ วิธีการติดตั้ง วิธีการใช้งาน วิธีการนู้นนี่นั่นอะไรอย่างเงี้ย ไปชมลึกมากขึ้นนะ ก็พบกันวิดีโอถัดไปละกัน สำหรับวิดีโอนี้ ขอเท่านี้ก่อนครับ สวัสดีครับ. 
https://warrior.in.th/freelance-seo/job/google-ads/google-adwords-conversion-share-2/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/job/google-ads/google-adwords-conversion-share-2/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 27, 2021, 06:22:41 pm
 *90*วิธีใช้งาน Google Keyword Planner Tools โปรแกรมค้นหาคีย์เวิร์ดจากกูเกิล

(https://img.youtube.com/vi/TSwu401zOjI/0.jpg)

ค้นหาลูกค้า และโอกาสบนโลกออนไลน์จาก Google Adword
นาทีที่ 0 – 0:04 หลังจากที่เรามีสินค้าที่จะขายแล้วในโลกออนไลน์แล้วนะครับ ขั้นต่อไปเราก็มีวิธีเช็คนะครับ ว่าสินค้าของเราเนี่ยมีคนค้นหา หรือว่ามากน้อยแค่ไหนในโลกออนไลน์ เพื่อดูโอกาสทางธุรกิจของเรานะครับ ว่าสามารถที่จะเติบโต ว่ามันเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็น mass product หรือว่า niche หรือว่ามีจำนวนคนค้นหามากน้อยแค่ไหน วิธีการเช็คนะครับเราจะใช้เครื่องมือของ Adwords ช่วยนะครับ   Adwords ตัวนี้นะครับ Search คำว่า “Adwords” หรือว่าเข้า https://www.google.co.th/adwords/ ได้นะครับ คลิกเข้าไปในเว็บไซต์นะครับ แล้วก็ล็อกอินด้วย User Email ของ Gmail นะครับผม  Log in ไปเรียบร้อยนะครับ

นาทีที่ 0:05 – 01:56 เสร็จแล้วก็เข้าไปใช้เครื่องมือเครื่องมือหนึ่งครับ เครื่องมือนี้ชื่อว่านะครับ “เครื่องมือวางแผนคำหลัก” ตรงนี้ครับ คลิกหนึ่งครั้ง แล้วใส่ Keywords หรือคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ เป็นคำค้นหา, คำพูดติดปาก ที่ลูกค้ามีโอกาสที่จะค้นหาธุรกิจของเรานะครับ อย่างเช่น ธุรกิจของผม warrior นะครับ  จะใช้คำค้นหาประมาณนี้ “ธุรกิจส่วนตัว” นะครับ ถ้ามีหลายคำค้นหาก็คั่นด้วย Comma (,) นะครับ การสร้างเว็บไซต์  พิมพ์คำค้นหาของตัวเองนะครับ ของธุรกิจของตัวเองที่เกี่ยวข้อง อย่างสมมุติว่าสามคำนี้นะครับ เช็คให้แน่ใจนะครับว่าอยู่ในประเทศไทยไหม และเป็นภาษาไทยไหมนะครับ ถ้าทำธุรกิจอยู่ในประเทศไทย แล้วก็กดรับแนวคิด โอเค แล้วก็กดแนวคิดคำหลัก ตรงนี้นะครับ คือตัวเลขของสถิติที่ปรากฏขึ้นนะครับ มันจะเป็นตัวเลขบอกจำนวนครั้งในการค้นหาโดยเฉลี่ยต่อเดือนนะครับ สูตรนี้นะครับ เขาจะคำนวณสถิติย้อนหลังสองเดือนนะครับแล้วเอาตัวเลขของแต่ละเดือนมาเฉลี่ยกัน และได้ตัวเลขนี้ออกมา

นาทีที่ 01:57 – 02:33 อย่างเช่น คำว่า “ธุรกิจส่วนตัว” นะครับ ย้อนหลังสิบสองเดือนเนี่ย มีคนค้นหาประมาณเฉลี่ยแล้วนะครับ มันจะเป็นอย่างงี้นะครับ ย้อนหลังไปนะครับ หมื่นแปด, สองหมื่นเจ็ด, สามหมื่นสามบ้างล่ะ นู้นนี่นั่น ประมาณเลขไม่เท่ากันนะครับ มันเอาตัวเลขทั้งหมดเนี่ย มาเฉลี่ยจะได้ตัวเลขเป็นประมาณสองหมื่นสองพันครั้งต่อเดือน นะครับ สำหรับคำว่า “ธุรกิจส่วนตัว” ซึ่งตัวเลขนี้จะช่วยบอกโอกาสในการทำธุรกิจในโลกออนไลน์ได้นะครับ ว่ามีคนค้นหาเยอะมากน้อยแค่ไหน ถ้าทำธุรกิจอยู่ในด้านนี้นะครับ และเราทำเว็บไซต์ติดอันดับนะครับ เราก็จะมีลูกค้า หรือคนเข้ามาในเว็บไซต์ของเรานะครับ เยอะทีเดียว

นาทีที่ 02:34 – 03:21 อีกอันคือการตลาด เห็นไหมครับ มันจะตัวเลขขึ้นๆลงๆนะครับ  Keywords บางคำนะครับ ถ้ามีแนวโน้มว่ามันจะลงนะครับ ให้สังเกตได้เลยว่าในอนาคตมันอาจจะน้อยลงไปอีกเรื่อยๆ เพราะมันอาจจะเป็นคำที่ไม่มีคนค้นหาแล้ว หรือค้นหาแล้วไม่เจอเว็บไซต์ที่มีคุณภาพนะครับ เขาก็จะเปลี่ยนคำค้นหาไป นี่คือตัวอย่างของการใช้เครื่องมือค้นหาคำหลักนะครับ ในการ Search คำค้นหา ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณนะครับ เพื่อหาโอกาสทางธุรกิจในโลกออนไลน์ ว่าจะมีคนเข้าเว็บไซต์ของคุณมากน้อยแค่ไหนนะครับ โดยสัมพันธ์กับกาค้นหาหรือ Keywords นั้นๆของธุรกิจของคุณนะครับ  สำหรับวิธีในการเช็คโอกาสในโลกออนไลน์นะครับ จบแต่เพียงเท่านี้ก่อนครับ สวัสดีครับ.
https://warrior.in.th/freelance-seo/job/keywords/keywords-tools-planner/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/job/keywords/keywords-tools-planner/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 27, 2021, 08:41:39 pm
ความเร็วเป็นจุดเด่นของ คนทำธุรกิจส่วนตัว เพียงคนเดียว Solopreneur

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/03/how-to-start-online-business-tips-2.jpg)

ทักษะหนึงที่นักรบใช้สร้างธุรกิจ ชิงความได้เปรียบทั้งในเรื่องการพัฒนาตัวเอง พัฒนาสินค้าและบริการ คือ “ความเร็ว” เริ่มต้นการทำธุรกิจออนไลน์ด้วยตัวคนเดียว (Solopreneur) จะเหมือนเป็น CEO และเป็นเจ้าของบริษัทในคนๆเดียวกัน สิ่งที่เป็นอาวุธวิเศษที่คู่แข่งไม่มี คือความเร็วในการตัดสินใจในทุกๆเรื่อง ทั้งเรื่องการพัฒนาตัวเอง พัฒนาสินค้าและบริการ รวมทั้งพัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจด้านการตลาด ในขณะที่คู่แข่งขยับ 1 ก้าว ท่านขยับได้เร็วกว่า 3 เท่า นั้นก็เพราะด้วยเหตุผลง่ายๆ ที่นักรบขอยกตัวอย่างมาเพียง 1 ข้อ คือ คู่แข่งจะจ้างพนักงานประจำทำงานภายใต้เงินเดือนที่กำหนดตายตัว แต่ท่านเป็นเจ้าของธุรกิจและลงมือทำด้วยตัวเอง ไม่มีเพดานทางรายได้ ด้วยเหตุนี้ส่งผลให้ศักยภาพในตัวของท่าน จะถูกกระตุ้นให้พัฒนาได้แรงและเร็วกว่าปรกติหลายเท่าครับ แต่ก็ไม่ได้ความว่า คนทำธุรกิจด้วยตัวคนเดียว (Solopreneur) จะไม่มีจุดอ่อน


จุดอ่อนของ นักธุรกิจทำด้วยตัวคนเดียว (Solopreneur)
จุดอ่อนที่เด่นชัดที่สุดของ Solopreneur คือ กำลังคนที่จะช่วยท่านสร้างผลงานแบบเดินคู่ขนานไปพร้อมๆกันครับ ซึ่งการสร้างผลงานแบบเดินคู่ขนานไปพร้อมๆกันนั้น ท่านสามารถแก้ไขและลบจุดด้อยนี้ได้ ในวันที่ท่านมีกำลังเงิน และมีพันธมิตรทางธุรกิจ (Partners) มากพอครับ ซึ่งเงินจากมีมากขึ้นและพันธมิตรทางธุรกิจ จะมีมากขึ้นก็หลังจากท่านสร้างชื่อเสียงและผลงานมาแล้วในระดับหนึ่งครับ ในวันหน้าถ้ามีโอกาสนักรบจะพูดถึงเรื่องการสร้าง พันธมิตรทางธุรกิจ (Partners) ให้ครับ เนื้อหาอื่นที่เกี่ยวข้องคุณตัน พูดไว้แล้วในคลิปวีดีโอ ” ทำงานช้าแต่รอบคอบ กับ ทำงานเร็วแต่อาจผิดพลาด ” https://www.youtube.com/watch?v=Ab2YHYw2vZU (https://www.youtube.com/watch?v=Ab2YHYw2vZU) ซึ่งมีส่วนคล้ายกันในเรื่องของวิธีคิดในเรื่องการใส่ใจความเร็วของ SME ครับ
https://warrior.in.th/warrior-life/speed-online-e-commerce/ (https://warrior.in.th/warrior-life/speed-online-e-commerce/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 30, 2021, 09:19:15 am
วิธีค้นหาธุรกิจออนไลน์ โดยใช้แนวคิด Blue Ocean Strategy

(https://img.youtube.com/vi/_hVN-Tm6dug/0.jpg)


1 ในกลยุทธ์ จาก นักรบทำธุรกิจ วิธีในการค้นหา ธุรกิจออนไลน์ ที่เหมาะกับตัวเอง เพื่อสร้างธุรกิจออนไลน์ที่ยั่งยืน ภายในวีดีโอ ยังแนะนำวิธีการ และ website ที่เป็นประโยชน์เพื่อใช้ต่อยอดในการสร้างธุรกิจ

คำพูดจากวีดีโอ
วิธีค้นหาธุรกิจออนไลน์โดยใช้แนวคิด Blue Ocean Strategy
สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ warrior ทำธุรกิจแบบนักรบ คราวนี้ผมจะพูดถึงเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง ในการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์เป็นของตัวเอง ก็คือการเลือกธุรกิจออนไลน์ที่ตัวเองจะทำนะครับ

ทริคอย่างหนึ่ง ที่ผมจะแนะนำให้ใช้ในการเลือกธุรกิจ คือใช้กลยุทธ์น่านน้ำสีคราม หรือที่เราเรียกกันว่า Blue Ocean Strategy ซึ่งมันเป็นทฤษฎีที่ดังมากในต่างประเทศนะครับ แล้วก็มีคนเขียนนะครับ ก็คือคนนี้ ผู้ประพันธ์เรียบร้อยแล้ว มีลิขสิทธิ์ มีรูปแบบการสอน กลยุทธ์ละอะไรก็ว่าไปนะครับ

ในไทยก็มีตัวแทนอย่างเป็นทางการ อะไรก็ว่าไปนะครับ คราวนี้ผมจะหยิบทริค หรือความเข้าใจส่วนหนึ่งที่ผมอ่านแล้วก็ Get เลยนะครับ ที่เอามาใช้ในการเลือกธุรกิจนะครับ ก็คือข้อนี้ครับ

ถ้าเราลองอ่าน ว่ากลยุทธ์น่านน้ำสีครามมีความหมายว่าอย่างไร ทริคอันหนึ่งที่ผมอ่านได้ก็คือ การสร้างธุรกิจหรือว่าเลือกธุรกิจ หรือว่าสร้างสินค้าหรือบริการที่ตอบสนองความต้องการของคนนะครับ โดยเป็นความต้องการของคน โดยที่ยังไม่มีคู่แข่งอ่ะ เอาง่ายๆนะครับคือมันเหมือนว่าเราจะทำธุรกิจหรือสินค้าบริการนี้ แต่ยังไม่มีใครทำ หรือมีคนทำน้อยมาก ถ้าเราทำเป็นคนอันดับต้นๆหรือว่า First group เฮ้ย ทุกคนจะจับจ้องมาที่เรา ว่าเราคือคนแรกๆ ที่ทำ

ฉะนั้นสิ่งที่คุณทำ คือ คุณต้องพัฒนาสินค้าและบริการให้ตอบสนองกับความต้องการของคนนะครับ แล้วก็ตัดเรื่องของการแข่งทางราคาหรือว่าการตัดราคาไปได้เลยนะครับ เพราะว่าคู่แข่งยังน้อย เป็นโอกาสที่จะทำให้คุณเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ภายใต้กลยุทธ์นี้นะครับ “เอ๊ะ กลยุทธ์มันดีหรือพี่

แล้วผมจะเลือกกลยุทธ์ เอากลยุทธ์นี้มาใช้ในการเลือกธุรกิจได้ยังไง” โอโห! เป็นคำถามที่ดีเลยนะครับ แล้วผมก็ปิ๊งทันทีเลยว่าก้าวต่อไปควรจะคิดแบบนี้

เอางี้ครับ เวลาที่คุณจะเลือกธุรกิจหรือว่าจะทำธุรกิจอะไรสักอย่างหนึ่ง สิ่งที่คุณคิดเลยนะครับ คุณจะทำยังไง ถ้าวันนี้คุณเดินเข้าร้านหนังสือในไทยนะครับ หรือฟังวิทยุ ดูโทรทัศน์ในไทยนะครับ แล้วคุณ Get ไอเดียในการทำธุรกิจ ผมบอกได้เลยว่าคุณเดินผิดทางแล้วครับ เพราะสิ่งที่คุณได้ฟังจากในเมืองไทยนะครับ มันคือเป็นสิ่งที่บางที ผ่านการกลั่นกรองมาแล้วหลายคน แล้วก็ผ่านกระบวนการคิดมาแล้วบางทีหลายประเทศ จากหลายประเทศ กว่าจะมาถึงคุณ ฉะนั้นทุกอย่างที่คุณฟังในเมืองไทยนะครับผมบอกได้เลยว่าไม่สามารถใช้ในกลยุทธ์ Blue Ocean Strategy ได้ แต่ถ้าใครสามารถใช้ได้ นั่นคือว่าเขาเป็นการ Apply เป็นการ Apply ในเชิงลึกมากขึ้น

แต่วิธีง่ายๆนะครับ คุณต้องดูตลาดโลกครับ ว่าตอนนี้โลกเขาเดินไปทางไหน ตอนนี้โลกเขากำลังศึกษาอะไรอยู่ มีธุรกิจของตลาดโลกในต่างประเทศมีอะไรอยู่ แล้วคุณก็ลองหยิบมาใช้ในเมืองไทย

เพราะว่าสิ่งที่โลกทำไว้แล้วนะครับ เรื่องแรกนะครับ คุณจะมี Know-how, Knowledge  แล้วคุณจะมีตัวอย่าง Case Study ที่คนทำประสบความสำเร็จไว้แล้ว ในต่างประเทศนะครับบางธุรกิจมันจะเอาหรือบางทีอาจจะเป็น red ocean คือมีการแข่งขัน มีการทำมาแล้วสักพักหนึ่ง แต่ในเมืองไทยมันคือ blue ครับ  Concept ง่ายครับ ต่างประเทศมีแล้วเมืองไทยยังไม่มีนะครับ คุณแค่ดึงมา แล้วเรียนรู้มันนะครับ แล้วเอามาประยุกต์ใช้ในเมืองไทย คุณจะกลายเป็นธุรกิจแบบ Blue Ocean ทันทีนะครับ นี่คือ Concept ง่ายๆนะครับ ซึ่งหลายๆคนทำแบบนี้นะครับ ธุรกิจหลายๆคนทำแบบนี้ เพียงแค่ว่าคุณรู้หรือไม่รู้เท่านั้นเอง

คุณได้ติดตามหรือสังเกตมันหรือเปล่าแค่นั้นเองนะครับผม คราวนี้จะมาดูสังเกตทริคอีกทริคหนึ่งนะครับ แล้วคราวนี้เราจะดูตลาดโลกได้ไง จะต้องดูเว็บไซต์ทุกเว็บ อ่านข่าวทุกข่าว ดู CNN หรือว่าดูช่องแบบภาษาอังกฤษ New York Time  อะไรก็แล้วแต่เราอย่างงั้นเหรอครับ ไม่ต้องถึงขนาดนั้นครับ

ผมคลิกโชว์ Step ให้อย่างหนึ่งนะครับ Step ถัดไปครับ คือเข้า Amazon ครับ  Concept ง่ายๆครับ คือ Amazon มันก็คือเรารู้อยู่แล้วครับมันคือ เจฟฟ์ เบซอส เป็นผู้สร้างขึ้นมานะครับ แล้วก็มีหนังสือมีขายอะไรเยอะแยะไปหมดเลย ซึ่งที่ผมให้ดูใน Amazon นะครับ คือผมต้องการให้ดูหนังสือครับ ลองเข้าไปที่ Shop by Department นะครับ แล้วก็เลือก Books นะครับ คราวนี้ คุณก็เห็นว่าเนี่ยคือหมวดนะครับ ละเลือกหมวดที่คุณสนใจ สมมุติหมวดที่ผมสนใจเนี่ยมันเป็นเกี่ยวกับเรื่องของหมวด Business ผมก็จะเลือกหมวดของ Books ที่มันเป็น Business นะครับ เพราะว่าผมทำเกี่ยวกับธุรกิจนะครับ Business นะครับ คือพวกนี้เราสามารถลง Plug-in ช่วยในการแปลได้นะครับ เพราะเกิดคนไม่เก่งภาษาอังกฤษนะครับ อย่างเช่นอย่างงี้คลิก Highlight นะครับแล้วก็แปลได้นะครับ  Plug-in ก็เป็นตัวนี้ครับของ Google Chrome แปลภาษา เพิ่มใน Chrome ได้ครับ

โอเค คราวนี้ผมมาเรื่องของ Business นะครับ เรื่องที่ผมสนใจก็คือเรื่องของ Business & Money มีหนังสือประมาณล้านกว่าเล่มนะครับ เจาะลึกไปอีกนะครับ ผมสนใจเกี่ยวกับเรื่อง Business & Money แล้วก็ตัวนี้ครับไล่ลงมาเรื่อยๆ ตัวนี้ครับ Small Business & Entrepreneurship ธุรกิจขนาดเล็กนะครับ เพราะด้วยเหตุผลว่าผมกำลังจะสอนและแนะนำคนที่เริ่มธุรกิจด้วยตัวคนเดียวนะครับ ฉะนั้นต้องเป็นธุรกิจขนาดเล็กครับ อีกเรื่องนึงครับ Home based ครับ Concept คือทำที่บ้านได้ เจ๋งไหมครับ คือถ้าคุณทำที่บ้านได้นั่นหมายความว่าคุณสามารถกลับมาจากที่ทำงาน เลิกงานแล้ว เฮ้ยฉันมาเริ่มธุรกิจของฉันได้ที่บ้านและเป็นธุรกิจขนาดเล็กและสามารถทำด้วยตัวคนเดียวได้ เห็นไหมครับ Concept ดีไหมครับ

คราวนี้ผมเลือกได้ละหัวข้อที่ผมอยากจะรู้นะครับ เป็นเกี่ยวกับธุรกิจ ธุรกิจขนาดเล็กทำที่บ้านได้นะครับ สิ่งที่ผมจะดูต่อไปคือ ผมดูช่วงบนชื่อหนังสือครับ ในโหมดนี้นะครับมีประมาณแปดพันกว่าเล่ม ผมไล่ไปอย่างเงี้ย ดูไปเรื่อยๆ ผมดูไปประมาณห้าร้อยกว่าเล่มละครับ ประมาณเป็นร้อยๆหน้าเลยนะครับ จุดเด่นที่ผมดูนะครับ ผมจะดูว่าหนังสือพูดถึงอะไรนะครับ ก็คือคำหรือ Keyword นั้นนะครับก็จะเปิดไปเรื่อยๆ Search ไปเรื่อยๆ อ่านไปเรื่อยๆครับ ถ้าใครไม่เก่งภาษาอังกฤษใช้ Google Translate หรือว่าลงตัว Google แปลเพิ่ม คุณจะเลือกแปลทั้งหน้านี้เป็นภาษาไทยก็ได้นะครับ หรือว่าจะแปลแค่บางคำก็แล้วแต่เรานะครับ

คราวนี้ผมจะดูคำพวกนี้นะครับว่าคำอะไรคือคำที่สะดุด เอาเรื่องแรกผมดู Homemade เห็นไหมครับ Homemade เป็นธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร เห็นไหมครับ มันสามารถประยุกต์ใช้ในเมืองไทยได้หรือเปล่า เห็นไหมครับ เมืองไทยเคยมีใครทำไว้ไหมลอง Search หาดู ถ้าไม่มีใครทำแล้วเรารู้สึกว่าเรามาทางสายนี้ เราสามารถเป็นคนเก่งทางด้านการทำอาหาร แล้วส่งอาหารอะไรได้ เราทำธุรกิจเกี่ยวกับ Homemade ได้นะครับ นี่คือ Blue Ocean เลยนึกภาพออกไหมครับ แล้วถ้าเรารู้สึกว่าเราอยากทำจริงๆ เราลองหาความรู้แล้วก็สามารถซื้อหนังสือเขามาอ่านได้ ไม่แพงเลย เราอยากจะได้ไอเดียในการประยุกต์ใช้ในเมืองไทยนะครับ คราวนี้เรามาดูว่ามีอะไรบ้างนะครับอ่าผมหยิบมาเล่มหนึ่งนะครับเป็นเล่มแรก ดูเกี่ยวกับเรื่องของ Becoming a Virtual Assistant นะครับ   Virtual Assistant คือเหมือนกับผู้ช่วยเสมือนนะครับ เห็นไหมครับ ก็เป็นอีกเล่มหนึ่งนะครับ มันสามารถทำได้ไหมในเมืองไทย Virtual Assistant? น่าสนใจไหมครับ  อีกอันหนึ่งที่ผม Search เจอก็คือ Teespring นะครับผม   Teespring Shirt คืออะไร นึกภาพออกไหมครับ ผม Search ไปเจอหนังสือเกี่ยวกับอยู่ในหมวดนี้แหละครับ Small Business Home based ส่วน Teespring คืออะไรผมก็หาความรู้ต่อคือผมเอา Teespring เนี่ยไป Search ต่อ ผมก็พบว่า Teespring คือเว็บไซต์นี้ครับเป็นเว็บไซต์ที่เปิดโอกาสให้ใครก็ได้นะครับมาออกแบบเสื้อ  ออกแบบเสร็จแล้วก็ทำการตลาด แล้วก็กำหนดยอดไว้ว่า ฉันจะสั่งพิมพ์ประมาณสองร้อยกว่าตัวภายในเวลาที่กำหนด ถ้าเกิดถึงยอดนะครับ เรียบร้อยนะครับ เขาก็จะพิมพ์แล้วก็จะปริ๊นท์เสื้อมาแล้วก็ส่งขาย มันเป็นลักษณะเหมือนกับการหา Order Marketing ก่อนแล้วค่อยผลิตนะครับ ข้อดีของมันก็คือคุณไม่ต้อง Stock สินค้าเลย ไม่ต้องเสียเงินไปกับการผลิตสินค้าแล้วไม่รู้ว่าจะมีคนซื้อหรือเปล่า นึกภาพออกไหมครับ นี่คือ Concept ของ Teespring  แล้วก็ถ้าหาข้อมูลเพิ่มเติมนะครับในไทย ใน Google นะครับ ก็มีคนสอนเกี่ยวกับการหารายได้จาก Teespring เห็นไหมครับ ลอง Search ดู นี่คือโอกาสเลย เห็นไหมครับว่า สังเกตไหมครับว่าทิศทางของมันเนี่ยโอกาสของมันเนี่ยมาจากที่เริ่มจากหนังสือก่อนครับ  Search หา keyword นะครับ เพราะว่าการที่คุณดูจากหนังสือเนี่ยข้อดีคือว่า คุณสามารถซื้อหนังสือแล้วก็เข้าไปอ่าน Know-how ของเขาได้ Knowledge ของเขาได้ แล้วมาประยุกต์ใช้เป็นคนแรกๆนะครับ แต่เนื่องจาก Teespring มันมีมาได้สักพักแล้วนะครับ ก็เลยมีคนทำเว็บไซต์แล้วก็มีคนทำสอน นึกภาพออกไหมครับ ถ้าใครทำเป็นคนแรกๆก็จะเป็น Blue Ocean ทันทีเลยครับ
อ่านเพิ่มเติม  https://warrior.in.th/freelance-seo/how-to-find-business-blue-ocean-strategy/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/how-to-find-business-blue-ocean-strategy/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 30, 2021, 11:26:32 am
4 เทคนิคการเขียนบทความ SEO

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/02/google-marketing-online-business-howto-01.jpg)

การเขียนบทความต้องใช้ทักษะ และฝึกฝนเป็นอย่างดีหลายร้อยชั่วโมงก็ว่าได้ ก็จะมีความชำนาญอย่างยิ่งในการเขียนบทความได้โดนใจ และส่งผลประโยชน์เต็มที่ นอกจากผู้อ่านจะได้ประโยชน์แล้ว ยังส่งผลกับ SEO เป็นอย่างยิ่งอีกด้วย การเขียนบทความที่ดี ผู้อ่านต้องจับใจความสำคัญของบทความได้รวดเร็ว ผ่าน Heading, Subheading และข้อมูลใน Paragraph ต่างๆ ทั้งในส่วนของเกริ่นนำ (Introduction), ส่วเนื้อหา (body) และส่วนสรุปในตอนท้าย ในบทความนี้ จะพูดถึงเทคนิคบางส่วนในการเขียนบทความที่อ่านง่ายและเกื้อหนุนเรื่อง SEO เป็นอย่างดี นั้นหมายความว่า ผมต้องบรรลุเป้าหมาย 2 ข้อดังที่กล่าวมาแล้ว พร้อมๆกัน

ส่วนประกอบสำคัญที่จะทำให้เขียนบทความได้ดี
สำหรับนักเขียนที่มีความสามารถ เขาไม่จำเป็นต้องฝึกพื้นฐานเหล่านี้แล้ว เพราะเขาสามารถทำได้อย่างอัติโนมัติ และบ้างครั้งทำได้ดีกว่าเสียด้วย เขาเพียงเขียนมันมาจากประสบการณ์ ด้วยทักษะการถ่ายทอดที่ดีอยู่แล้วเท่านั้น แต่สำหรับนักเขียนมือใหม่ ที่ไม่ได้ผ่านการฝึกฝนการเขียนมาเลย จำเป็นต้องเดินตาม Step พื้นฐานของการเขียนก่อน โดยโครงสร้างการเขียนจะมีดังต่อไปนี้

1. คิดก่อนเขียน ตั้งคำถาม และหาคำตอบในใจให้ได้ก่อน
ก่อนอื่นเลย ต้องรู้ว่าบทความนี้มีจุดประสงค์อะไร ข้อความหรือใจความสำคัญอะไรที่คุณต้องการบอกกับผู้อ่าน หลังจากผู้อ่านอ่านจบ ต้องการที่จะให้เขาทำอะไร หรือต้องการที่จะกระตุ้นให้เขาทำอะไร เช่นเดียวกัน บทความที่ดีจะกระตุ้นให้ผู้อ่านรู้สึกดี และได้ไอเดียใหม่ๆ หรือต่อยอดไอเดียเดิมได้ เป็นประโยชน์กับผู้อ่าน ฉะนั้นจงตั้งคำถามเบื้องต้นและเขียนบทความให้ตอบโจทย์ที่ตั้งไว้

2. เขียนโครงสร้างของบทความลงไปก่อน
ทุกบทความควรมีเนื้อหาเกริ่นนำสักเล็กน้อย (Introduction) และเนื้อหาหลักจะอยู่ในส่วนกลาง (body) ของบทความ บทสรุปของเนื้อหาอยู่ท้ายสุด ซึ่งใช้เพื่อสรุปแนวคิด ประโยชน์ของบทความ สรรค์สร้าง Idea ใหม่ๆให้เกิดขึ้น หลังจากวางโครงสร้างเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มต้นเขียนบทความกันได้เลย

3. การใช้ Heading
Heading Text นี้สำคัญมากสำหรับการอ่าน และก็มีประโยชน์กับ SEO เป็นอย่างมาก ต้องเช็คให้แน่ใจว่า Keywords อยู่ใน Heading หรือ Subheading แล้ว แต่ไม่จำเป็นว่าจะต้อง Spam keyword ทุกๆ Heading หรือ Subheading นะครับ ควรคำนึงถึงเนื้อหาที่ดี และมากเพียงพอที่จะอธิบายบทความนั้นๆ

4. ใช้คำที่สรุปเข้าใจง่าย
ใช้คำสรุปเข้าใจง่าย เพื่อแนะแนวทางให้ผู้อ่านที่ Scan บทความของคุณ ได้จับใจความสำคัญได้เร็วที่สุด เช่นคำว่า ในที่สุด, ประโยชน์สูงสุด, แนวทางการนำใปใช้, โอกาสที่เกิดขึ้น เพื่อเป็น GUIDE LINE ให้ผู้อ่านสามารถอ่านเนื้อหาประเด็นที่เป็นใจความสำคัญได้เร็วยิ่งขึ้น นี้เป็น 4 เทคนิคง่ายๆ ลองนำไปปรับใช้ดูนะครับ หากมีอะไรจะแชร์หรือแบ่งปัน Comment บอกได้เลยครับ
https://warrior.in.th/freelance-seo/job/seo-content/good-seo-articles/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/job/seo-content/good-seo-articles/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 30, 2021, 11:57:19 am
แชร์ประสบการณ์… วิธีเก็บเงิน 500,000฿+ ภายใน 2 ปี 8 เดือน จากการทำฟรีแลนซ์

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2017/08/%E0%B9%81%E0%B8%8A%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E2%80%A6-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99-500000%E0%B8%BF-%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%99-2-%E0%B8%9B%E0%B8%B5-8-%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99-%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88.jpg)

สวัสดีครับ ก่อนอื่นขอบอกไว้ก่อนว่า ที่ตั้งใจแชร์ประสบการณ์นี้ ก็เพราะว่าอยากให้เป็นประโยชน์ เป็นแนวทางกับคนที่สนใจ “วิธีเก็บเงินจากการทำฟรีแลนซ์” ในแบบของผมดูบ้าง เพราะผมทำงานประจำมานาน 8 ปี ก็ไม่เหลือเก็บครับ แต่สุดท้ายก็เข้าใจว่า การประหยัดเงินอย่างเดียวนั้น มันใช้ไม่ได้กับนักรบ แต่การหาเงินได้มากกว่าเดิมตากหาก ที่ถูกจริตกับเรามากกว่าจริงๆ นักรบจึงมุ่งมั่นทำธุรกิจเสริม จนมีเงินเก็บเกินครึ่งล้านภายใน 2ปี 8 เดือน ฉะนั้นบทความนี้จะมุ่งเน้นที่การหาเงินเพื่อเก็บเงิน มากกว่าการประหยัดเงินครับ

วิธีเก็บเงินให้ได้ตามเป้ามาย – แบบนักรบ
วิธีเก็บเงินแบบนักรบ ไม่ใช่การประหยัดเพียงอย่างเดียว แต่เน้นไปที่การหา[^_^] ฉะนั้นจึงเริ่มต้นลุยทำอาชีพ SEO Freelance

เริ่มต้นหลังเรียนจบ….นักรบก็เป็นพนังงานประจำ ทำมาเกือบ 8 ปี แต่ไม่ค่อยมีเงินเก็บเลย เงินส่วนใหญ่หมดไปกับค่าผ่อนรถ ค่าโน่นค่านี้หมด ถ้าทำงานต่อไปอีก 10 ปี ก็คงเก็บเงินได้ยากแน่ๆ

นักรบเลยเริ่มสนใจทำธุรกิจส่วนตัวออนไลน์ ทำอาชีพฟรีแลนซ์ เพราะรู้ดีว่า ลึกๆแล้วคนรวยๆ ล้วนทำธุรกิจแทบทั้งนั้น ผมเลยเริ่มทำงานเสริมเล็กๆควบคู่งานประจำครับ หลังเลิกงาน ก็หางานเสริมมาทำ เช่น ขายของออนไลน์, ขายของตามตลาดนัด, รับจ้างทำโน่นนี่ ทำอยู่หลายอย่างครับ ล้มลุกคลุกคลานมา 3 ปี และล้มเหลวไปแล้ว 7 อย่าง แต่ทุกครั้งที่ล้มเหลว ก็จะได้ประสบการณ์ใหม่ๆ เสมอๆ ดังที่แชร์ไว้ที่ประวัตินักรบ

พอล้มเหลวมากพอ เริ่มจับทางการทำธุรกิจและการตลาดได้ ส่วนเทคนิคนั้นมีหลายข้อ คงเล่าได้ไม่หมด เอาหลักๆเลยคือ คนที่ทำธุรกิจสำเร็จ ล้วนใช้แต้มต่อที่ได้เปรียบแทบทั้งสิ้น โดยแต้มต่อนั้น อาจจะเป็น

          - เงินทุน : ได้เปรียบเรื่องการมีตัวเลือกทำธุรกิจที่หลากหลายกว่า
          - เส้นสายคอนเนคชั่น : ได้เปรียบเรื่องโอกาส
          - ทรัพยากรแหล่งผลิต : ได้เปรียบเรื่องต้นทุนราคา
          - ภาษา : จะได้เปรียบเรื่องนำเข้า-ส่งออก
          - ความรู้และทักษะจากงานประจำ : ได้เปรียบเรื่องทักษะและ Tools
          - อื่นๆ


ส่วนนักรบใช้แต้มต่อทางความรู้และทักษะจากงานประจำครับ ส่วนเงินทุนเหรอ ? แทบจะไม่มี 555+ (มีเพียง 1-3 พันบาท/เดือนในการลงทุนคับ)
ปีแรกที่ออกจากงานประจำ มีเงินเก็บประมาณ1แสน และเพิ่มขึ้นตามลำดับ.. จากการลุยทำฟรีแลนซ์ โดยใช้ Website เป็นหลักครับ
เริ่มต้นเก็บเงินมาก้อนหนึงก่อนเพื่อลงทุน (ผมไม่ลงทุนในหุ้นหรืออื่นๆ เพราะไม่ถนัดและคิดว่าผลตอบแทนมันช้ากว่าธุรกิจมาก อีกอย่างมันใช้เงินลงทุนสูงกว่ามากๆเพื่อเทียบกับธุรกิจออนไลน์ครับ)

เริ่มต้นธุรกิจบริการรับทำ WordPress & SEO

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2017/08/warrior-office.jpg)

            1. ซื้อของอุปกรณ์เริ่มต้นประมาณ 2-3 หมื่น ก็เช่น คอมพิวเตอร์ โต๊ะทำงาน ของใช้ใน Office
            2. สร้างเว็บไซต์เสร็จด้วย WordPress ภายใน 1 เดือน
            3. ซื้อโฆษณา Google AdWords & Facebook Ads  (ใช้เพียง 2-5 พัน/เดือน)
            4. เขียนบทความทำ SEO & Content Marketing เกือบทุกวันติดต่อยาวนาน 6 เดือน (อันนี้หัวใจหลักที่ทำให้ธุรกิจโตอย่างยั่งยืน)
            5. ทำ Video เพื่อให้คนค้นหาเจอใน YouTube (ช่วยเสริมการทำ SEO)
หลังจากมีคนเข้าเว็บไซต์ประมาณ 150,000 คน/ปี และมียอดวิวใน YouTube 250,000 ครั้ง/ปี ธุรกิจก็เริ่มแข็งแรงและมีกำไรครับ เพราะทำ SEO ติดแล้ว

รวมคำถามที่พบบ่อย….
➡️ จัดการภาษีบริษัทอย่างไร ?
จ้างบริษัทรับทำบัญชีครับ แต่ปีแรกผมยื่นช้า โดนค่าปรับไป 15,000 บ. เอง T_T

➡️ มีทีมงานกี่คน ? เริ่มง่ายๆใช้เพียง 1-2 คน ในปีแรกๆ ลงทุนหลักหมื่นต้นๆ (ปัจจุบันมี 3 คน + จ้างฟรีแลนซ์บ้าง) พัฒนาทีมงานโดยให้เรียน SEO และ เรียน WordPress จากผมโดยตรง

➡️ รายได้มาจากทางไหน ?
หลายทางมากคับ โดยรายได้หลักๆมาจากการทำ SEO ให้เว็บลูกค้าและเว็บของตัวเอง

➡️ คู่แข่งมีเยอะใหม ? คู่แข่งมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ผมเลือกทำการตลาดผ่าน Website (WordPress) และเน้น SEO แบบเร่งด่วนก่อน จึงฉีกหนีคู่แข่งได้ (เพราะส่วนใหญ่ไปเน้น Facebook กัน)

➡️ ทำไมเลือก Web ทั้งที่ Facebook ทำง่ายกว่า
Facebook เปิดง่ายคับ แต่ทำการตลาดระยะยาวยากและเหนื่อย ไม่เหมือน Web ตอนแรกเหนื่อย ตอนหลังสบายถ้าทำ SEO ได้แล้ว

➡️ เคล็ดลับการตลาดออนไลน์คืออะไร ?
หลักๆคือ สอนทีมงานทำ SEO & Web Content Marketing ในเว็บไซต์ที่สร้างด้วย WordPress ครับ แล้วไปแชร์ใน Social Media ทุกช่องทาง

➡️ เป้าหมายต่อไป คืออะไร ?
กำลังเตรียมเว็บไซต์ขายของออนไลน์ แบบขายส่งอยู่  อยากลองท้าทายอะไรใหม่ๆ ทำยอดขายแตะหลัก 1,000,000 ฿ ดูบ้าง เพื่อพิสูจน์ฝีมือตัวเอง เน้นทำการตลาดขายส่ง เพราะเท่าที่ศึกษามา คนทำยอดขายมากๆ มาจากขายส่งแทบทั้งนั่น

หากสนใจการขายของออนไลน์ ลองอ่านแนวทางของนักรบได้ที่ เริ่มต้น ” ขายของออนไลน์ ” แตะยอดขายหลัก 1,000,000 ฿
ลุย!!!
https://warrior.in.th/freelance-seo/income/500000-within-2-years-8-months/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/income/500000-within-2-years-8-months/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 30, 2021, 01:58:38 pm
วิธีโน้มน้าวใจลูกค้า ให้ซื้อของด้วย Content Marketing & WordPress

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2017/08/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2-Content-Marketing-WordPress.jpg)

วิธีโน้มน้าวใจลูกค้า ให้ซื้อของด้วย Content Marketing  & Website (WordPress) ขอเกริ่นแบบนี้ก่อนครับ เดี๋ยวนี้คนจะซื้อของออนไลน์ก็ต้องหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อแทบทั้งสิ้น หรือไม่ก็ถามไถ่จากคนใกล้ตัว คนที่มีประสบการณ์มาก่อน ดูน่าเชื่อถือและไว้เป็นข้อมูลตัดสินใจก่อนซื้อได้ครับ เวลาซื้อจะได้ไม่เจ็บตัว ไม่มานั่งเสียใจหรือเสียดายทีหลัง เผลอๆจะได้ไม่เสียเวลาด้วย

ทำไมต้องสร้างเนื้อหาใหม่ๆสม่ำเสมอๆ (Content)
เราเป็นคนขายของออนไลน์ ก็คงอยากขายของได้ทีละมากๆ ยิ่งยอดขายแตะหลักแสนหลักล้านได้ยิ่งดี แต่ในทางตรงกันข้าม คนซื้อสินค้าออนไลน์เขาไม่สนใจหรอกครับ ว่าคนขายจะรวยจะจนมากแค่ไหน ? เขาสนเพียงว่าเงินที่จ่ายไปนั้นคุ่มค่าหรือปล่าวครับ ฉะนั้นพ่อค้าแม่ค้าที่ทำธุรกิจออนไลน์ E-Commerce หรือจะทำธุรกิจด้านบริการก็ควรให้ข้อมูลที่มีประโยชน์กับลูกค้าเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ อย่างเพิ่งพาแต่เพียงโปรโมชั่นอย่างเดียว และการให้ข้อมูลที่มีประโยชน์กับลูกค้า เราสามารถให้ในรูปแบบของ Content Marketing ได้ครับ Tips : เมื่อลูกค้าค้นหามาเจอเนื้อหา (Content) ที่เราสร้างไว้มากๆเข้า ก็จะส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการของเราครับ

Content Marketing คืออะไร ?
Content Marketing คือ รูปแบบการทำการตลาดแบบหนึ่ง ที่มุ่งเน้นในการสร้างเนื้อหา เช่น บทความ, วีดีโอ, เสียง อื่นๆ เพื่อให้ลูกค้าอ่าน, ชอบ, ติดตามและเปลี่ยนใจเขาให้ทดลองใช้สินค้าหรือบริการได้

ใช้เพียง Facebook ทำการตลาดได้ไหม ?
การเขียนโพสใน Facebook ในเรื่องทีลูกค้าอยากอ่านก็เป็นการทำ Content Marketing ได้ เพียงแต่ว่าเฟสบุ๊คจะโชว์เนื้อหาได้ไม่มากเท่าในเว็บไซต์ครับ  โดยนักรบแนะนำให้สร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress แนว Blog & Magazine ก็จะโชว์เนื้อหาได้มากกว่า และดูมืออาชีพมากขึ้นด้วย ดังที่นักรบและแฟนนักรบทำได้แล้วในเว็บไซต์ SEOWarrior บริษัทรับทำ SEO และ Bravelife.in.th สอนการทำน้ำสลัด

วิธีเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ Blog & Magazine
ถ้าเป็นคนที่มีพื้นฐาน WordPress อยู่แล้ว ก็สามารถเรียนรู้ได้เอง ที่ WordPress.com

วิธีโน้มน้าวใจลูกค้า  Content Marketing  & WordPress
       1. สร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress
       2. สร้างเนื้อหาดีมีประโยชน์โพสลงเว็บสม่ำเสมอ  (Content Marketing) โดยเนื้อหานั้นควรเป็นเรื่องที่ส่งผลกับการตัดสินใจซื้อของกลุ่มลูกค้า
       3. แชร์เนื้อหานั้นไปยังทุกช่องทางการตลาด
       4. ทำ SEO กับ Content Marketing เพื่อให้เนื้อหานั้นยังคงอยู่ใน Google Search
       5. เช็คผลลัพธ์
ลุย!!! 
https://warrior.in.th/freelance-seo/job/seo-content/how-to-convince-your-customers-to-buy-something-with-content-marketing/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/job/seo-content/how-to-convince-your-customers-to-buy-something-with-content-marketing/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 30, 2021, 02:51:15 pm
WordPress คือ อะไร ? และเหตุผลที่นักรบใช้ WordPress

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2015/01/wordpress-logo-780x439.gif)

WordPress คือ ระบบจัดการเนื้อหาภายในเว็บไซต์ Content Management System (CMS)  ที่เปิดเผยซอสโค้ดของโปรแกรม และอนุญาติให้ใช้หรือพัฒนาต่อได้ฟรีภายใต้สัญญาอนุญาต GNU

หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า WordPress มาบ้างแล้ว ซึ่งอธิบายง่าย ๆ WordPress ก็คือเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างเว็บไซต์นั่นเอง ตั้งแต่ถูกปล่อยออกมาในปี 2003 WordPress ก็ได้รับความนิยมติดอันดับต้น ๆ กลายเป็นสุดยอดแพลตฟอร์มที่คนใช้เผยแพร่เว็บไซต์ โดยทุกวันนี้ก็มีคนใช้งานเจ้า WordPress เพื่อสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาแล้วไม่ต่ำกว่า 70 ล้านเว็บไซต์เลยทีเดียว

ซึ่ง WordPress ไม่ใช่แค่เพียงเครื่องมือที่ใช้สร้างเว็บไซต์เท่านั้น แต่ยังมีประสิทธิภาพในการจัดการคอนเทนต์ที่สุดยอดมากด้วย ช่วยให้เราสามารถสร้างและจัดการเว็บไซต์ได้อย่างเต็มรูปแบบโดยไม่เสียเงินสักบาท เพราะ WordPress เป็นโครงการที่อาสาสมัครหลายร้อยคนจากทั่วทุกมุมโลกร่วมแรงร่วมใจกันพัฒนาขึ้นมา นอกจากนี้ยังมีปลั๊กอินมากมายให้เราได้เลือกใช้งาน มีเครื่องมือ และรูปแบบให้เลือกตกแต่งเว็บไซต์ในสไตล์ของตัวเองได้ตามใจชอบอีกด้วย

แล้ว WordPress ทำงานยังไง
ในสมัยก่อนนั้น การจะสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาสักตัวต้องใช้ HTML เพื่อจัดรูปแบบข้อความรูปแบบหน้า, ภาพ, และอื่น ๆ ซึ่งเว็บเบราเซอร์ของเราก็จะอ่านโค้ด HTML เหล่านั้นแล้วแสดงผลเป็นเนื้อหาของหน้าแต่ละหน้าขึ้นมาให้เราได้เห็นกัน
แต่ในวันนี้โลกของเราพัฒนาขึ้น เพียงแค่ติดตั้งซอฟต์แวร์ WordPress บนเว็บเซิร์ฟเวอร์ของคุณเอง แค่ 5 นาทีคุณก็สามารถใช้งานเว็บไซต์ของตัวเองได้แล้ว ไม่ต้องไปเสียเวลาเรียนภาษา HTML อะไรให้ปวดหัวอีกต่อไป


เหตุผลมากมาย ที่เราควรใช้ WordPress ในการสร้างเว็บไซต์สำหรับการทำธุรกิจ
        1. อันดับแรกเลยอย่างที่ได้บอกไป เพราะ WordPress มีคนมากมายจากทั่วทุกมุมโลกคอยพัฒนา และเพิ่มประสิทธิภาพของมันอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังเป็นการเปิดให้ใช้บริการอย่างฟรี ๆ อีกต่างหาก
        2. เพราะมันเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน แทนที่จะเสียเงิน เสียเวลาไปจ้างคนออกแบบเว็บไซต์ราคาแพง ๆ สู้ใช้ WordPress ทำเองตั้งแต่ต้นจนจบดีกว่า ลงคอนเทนต์เองได้ไม่ต้องไปเรียนรู้ HTML อะไรให้ยุ่งยาก ใช้ไมโครซอฟต์เวิร์ดเป็นก็ใช้ WordPress ได้ไม่ยากเลย
        3. ข้อดีต่อมาเพราะ WordPress ยืดหยุ่นได้ มีส่วนเสริมและธีมตั้งเป็นร้อยเป็นพันรูปแบบให้เราได้เลือกใช้งาน สามารถปรับแต่งหน้าตาเว็บไซต์ให้เข้ากับสไตล์ของแต่ละคนได้อย่างเหมาะสม และที่สำคัญคือ “ใช้งานง่ายมาก”
        4. ถ้าเจอปัญหาก็มีคนพร้อมช่วยเหลืออยู่เสมอ เนื่องจากมีผู้ใช้งาน WordPress อยู่มากกว่า 70 ล้านเว็บไซต์ ทำให้มีคนที่คอยให้คำปรึกษาเวลาที่เราเจอปัญหามากขึ้นเป็นเงาตามตัว หรือถ้ามีอะไรอยากติดต่อกับผู้พัฒนาโดยตรงก็สามารถทำได้เลยที่ wordpress.org/support ซึ่งที่นี่เค้ามีคำตอบให้กับทุกคำถามเลยล่ะ
        5. ง่ายต่อการทำ SEO ซึ่ง WordPress ได้รวบรวมทุกสิ่งอย่างที่จำเป็นในการทำ SEO ไว้ให้คุณเรียบร้อยแล้ว ถึงขนาดที่ว่า วิศวกรคอมพิวเตอร์ของบริษัทยักษ์ใหญ่ “Google” ยังออกมาบอกเองเลยว่า “WordPress ถูกสร้างมากเพื่อการทำ SEO อย่างแท้จริง”
        6. และสุดท้าย เราควบคุมทุกอย่างได้หมด ซึ่งปกติเครื่องมืออื่น ๆ จะมีข้อจำกัดในการแก้ไขเว็บไซต์ตามความต้องการ แต่ด้วยกับ WordPress เราสามารถทำทุกอย่างเกี่ยวกับคอนเทนต์ได้ทั้งหมด จะนำข้อมูลเข้า หรือจะส่งออกข้อมูลก็ทำได้ภายในไม่กี่คลิก
https://warrior.in.th/wordpress/wordpress-is/ (https://warrior.in.th/wordpress/wordpress-is/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 31, 2021, 08:59:06 am
ประโยชน์ 5 ข้อ : ” เขียนบล็อก Blog, การเขียนบทความ และผลิตวีดีโอ ” สำหรับทำการตลาดออนไลน์

เขียนบล็อก Blog , เขียนบทความ และผลิตวีดีโอช่วยทำการตลาดออนไลน์ได้อย่างไร มาฟังเหตุผลง่ายๆจากนักรบที่ตกผลึกความคิดมา 5 ข้อจากประสบการณ์ตรง และมันได้ผลจริงมาแล้วกับธุรกิจของตัวเอง โดยประโยชน์ 5 ข้อนี้มี….

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2017/09/benefit-blog-online-marketing.jpg)

เขียนบล็อก Blog และผลิตวีดีโอมีประโยชน์อย่างไร ?
1 โน้มน้าวใจลูกค้าให้ซื้อด้วยคอนเทนต์

การเขียน Blog ต่อยอดการทำ SEO & Content Marketing ได้ เพราะลูกค้าอาจไม่ได้ซื้อของของเราทันทีที่เจอเราครั้งแรก การที่เราจะเข้าถึงเข้าได้สม่ำเสมอๆนั้น มันต้องใช้คอนเทนต์เขาช่วย หัดเขียนบทความดีๆส่งถึงลูกค้าบ้างผ่านแฟนเพจหรืออีเมล หัดทำวีดีโอให้ความรู้ที่ลูกค้าสนใจ โพสใน YouTube Channel ให้คนติดตาม หรือถ้ามีงบหน่อยก็อัดโฆษาณาโปรโมทคอนเทนต์ในเฟสบุ๊คไปเลย รับรองคนเห็นเยอะแน่นอน แต่ขออย่างเดียวคือ คอนเทนต์นั้นควรเป็นเนื้อหาดีๆที่ลูกค้าอยากอ่านอยากชมจริงๆ

2 เพิ่มลูกค้าใหม่ๆอัตโนมัติจาก Google Search
บทความในเว็บบล็อก ถ้านำมาผนวกกับความรู้ด้านการทำ SEO ก็จะทำให้บทความนั้นมีความเป็นอมตะ คือ บทความนั้นจะโชว์ใน Google Search ให้คนใหม่เข้ามาอ่านเรื่อยๆซ่ำๆเพิ่มจำนวนคนเข้าเว็บไซต์ (Website Traffic) จาก Keywords ที่เกี่ยวข้องในบทความ

3 เพิ่มลูกค้าใหม่ๆอัตโนมัติจาก YouTube
วีดีโอคอนเทนต์ใน YouTube ดึงคนมาเพิ่มยอดวิว(View) ให้ชมเรื่อยๆ ยอดวิววีดีโอของนักรบเกือบ 200,000 ครั้ง/ปี แบบอัตโนมัติ

4 เพิ่มความน่าเชื่อถือให้เว็บไซต์และเฟ๊สบุ๊ค
การเขียนบล็อก (Blog), เขียนบทความและผลิตวีดีโอ แล้วโพสลง Website และ Facebook จะช่วยเพิ่มความเคลื่อนไหวและความน่าเชื่อถือให้เว็บไซต์และเฟสบุ๊คอีกด้วย เพราะมีลูกค้าหลายคนจะเช็คเว็บไซต์และความเคลื่อนไหวในเฟสบุ๊คก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการด้วย จริงไหมครับ ?

5 เปลี่ยนตัวเองเป็น Influencer
Influencer คือ คนที่มีอิทธิผลทางความคิดคนอื่น ถ้าเรากลายเป็น Influencer ในสาขาธุรกิจของเรา มันจะช่วยส่งเสริม Branding ให้ชัดเจนและแข็งแรงมากยิ่งขึ้นครับ จริงๆแล้วยังมีประโยชน์อีกหลายข้อที่นักรบไม่ได้หยิบยกมา เพราะเอาเท่านี้ก็เพียงพอต่อการตัดสินใจเดินทางสร้างคอนเทนต์ในเว็บบล็อก (Blog) เพื่อโปรโมทธุรกิจของตัวเองให้กลุ่มลูกค้ารู้จักครับ
https://warrior.in.th/freelance-seo/job/seo-content/benefit-blog-online-marketing/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/job/seo-content/benefit-blog-online-marketing/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 31, 2021, 09:55:44 am
WP101 : ทำไมต้องใช้ WordPress สร้างเว็บไซต์

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2014/12/wordpress-logo-why-use-wordpress.jpg)

WP101 : ทำไมต้องใช้ WordPress สร้างเว็บไซต์
วันนี้ผมจะมาพูดในเรื่องของคอร์ส WP101 ที่ว่า WordPress มันคุ้มค่าที่จะลงทุน ลงเงิน ลงแรง และ ลุยกับมันอย่างเต็มที่วันหนึ่งเป็น 10 ชั่วโมงหรือไม่ ? และเป็นพื้นฐานสู่ วิธีสร้างเว็บ โดยนักรบ ในขั้นสูงต่อไป WordPress ดีจริงหรือเปล่า? อนาคตยังสามารถใช้งานได้ดีอยู่ไหม? และหากเทคโนโลยีมีการเปลี่ยน เช่นเปลี่ยน Platform มือถือ หรือมีการเปลี่ยนผู้พัฒนาจะยังสามารถใช้งานได้อยู่อีกหรือเปล่า? หรือจะสิ้นสุดแค่ช่วงเวลานี้เท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น เราเคยนิยม Flash กันอยู่ช่วงหนึ่ง ที่สามารถทำการ Coding และ ActionScript อยู่ดีๆวันหนึ่ง Appple เกิดไม่ทำการสนับสนุน Flash ขึ้นมา แถม Flash ยังไม่สนับสนุน Search Engine ต่างๆ จึงเริ่มค่อยๆเปลี่ยนและไม่ได้ใช้งานอีกต่อไป

คราวนี้เรามาดูที่ WordPress กันบ้าง WordPress มีดีอย่างไร ซึ่งสิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนนั่นคือ WordPress มีระบบหลังบ้านให้กับผู้ใช้งาน มี Admin ให้เราสามารถกรอกข้อมูลหรือตั้งค่าผ่าน Interface ในระบบ Admin ได้ ระบบ admin กับเว็บไซต์ทั่วไป เราต้องจ้าง Programmer เขียนขึ้นมา อาจจะใช้ Framework ในการเขียนระบบ Admin ขึ้นมาสักตัวหนึ่ง ราคาเป็นหมื่นหรือ 2 หมื่น หากวันหนึ่งระบบมีปัญหาเราต้องการให้ Programmer ทำการแก้ไข แต่ไม่สามารถติดต่อได้ หรือ Programmer ไม่อยากทำต่อแล้วจะทำให้เกิดความเสียหายกับเว็บไซต์ของเราได้ หากคุณมองหา Programmer คนใหม่มาทำ เขาก็จะทำการชาร์ตเงินของคุณมากอีกหลายบาทอย่างแน่นอน เห็นหรือไม่ว่านอกจากเสียเงิน เสียเวลา และ มีความเสี่ยงสูงที่ไม่คุ้มกับรายจ่ายที่เสียไป คุณยังไม่ทันได้กำไรเลยก็ขาดทุนเสียแล้ว WordPress คือทางเลือกหนึ่ง ที่มีระบบ Admin หากเราทำการเปลี่ยนผู้ดูแล เราสามารถให้ใครที่พอมีความรู้มาเป็นผู้ดูแลก็ย่อมได้ เนื่องจาก WordPress เป็นระบบมาตรฐานสากล ทำให้มีผู้ที่พร้อมจะดูแลระบบของคุณต่อได้อย่างมาก หรือคุณอาจจะเลือกพัฒนา WordPress ด้วยตัวเอง ทดลองใช้ ศึกษาด้วยตนเองก็สามารถทำได้ WordPress ถูกออกแบบมาให้กับคนที่ไม่ได้ศึกษาจบสาย Programming โดยตรง ก็ใช้งานระบบนี้ได้ และ WordPress เป็นนิยมขนาดที่ว่า บริษัท PlayStation, CNN, New York Time, Macdonal ในบางประเทศ หรือแบรนด์รถยี่ห้อดังๆในประเทศไทยเองก็เลือกใช้งาน WordPress กันแทบทั้งหมดแล้ว

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2014/12/wp101-how-to-use-wordpress-to-create-website-41.jpg)
เว็บไซต์ระดับโลกที่ใช้ WordPress

หากเรามองสถิติภาพรวมใน W3Techs เขาได้บอกไว้ว่า WordPress จะถูกใช้ประมาณ 61%  ของ CMS CMS คือ Content Manage System ระบบที่มีการจัดการเกี่ยวกับ content ต่างๆ หรือ มีระบบหลังบ้านไว้เป็นตัวช่วยในการจัดการข้อมูล ดังนั้น 61% นี่คือสูงมาก และยังเป็นอันดับ 1 ของเว็บไซต์ที่เลือกใช้ CMS อีกด้วย หากเทียบกับเว็บไซต์ทั้งหมดทั่วโลก WordPress มีจำนวนประมาณ 23% ของทั้งหมด ซึ่งหากวันหนึ่งคุณเข้าชมเว็บไซต์ 100 เว็บต่อวัน คุณจะต้องเจอเว็บที่ทำมาจาก WordPress  ประมาณ 23 เว็บแน่นอนซึ่งเยอะที่สุดแล้วไม่มีใครเยอะกว่านี้อีก และ ยังเป็นอันดับ 1 ครองส่วนแบ่งตลาด จึงทำให้ WordPress มีคนใช้เยอะมากกแซง CMS ทุกตัวที่อยู่บนโลกนี้ แต่ไมได้หมายความว่า WordPress ดีที่สุดนะครับ Drupal จะเหมาะกับเว็บไซต์ที่มี traffic ใหญ่ หรือองค์กรขนาดใหญ่ที่มีพนักประมาณ 100-1000 คน ซึ่งหากคุณต้องการทำธุรกิจขนาดเล็ก หรือขนาดกลาง ให้คุณเลือกใช้ WordPress จะสะดวกและง่ายที่สุด สำหรับคนที่อยากจะลองใช้เกี่ยวกับระบบ e-commerce ในระบบใหญ่ก็อาจจะเลือกใช้ Magento แบบนั้นแทน แต่หากต้องการเริ่มต้นด้วยความสะดวก ง่าย รวดเร็ว มีคนบริหารระบบเยอะก็เลือก WordPress นั่นเอง

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2014/12/wp101-how-to-use-wordpress-to-create-website-21.jpg)
WordPress จะถูกใช้ประมาณ 61% ของเว็บไซต์ ประเภท CMS

WordPress จะถูกใช้ประมาณ 61% ของเว็บไซต์ ประเภท CMS
WordPress ทีมพัฒนาระบบ Plugin ใหม่ๆ เช่น วันนี้ คุณอยากจะให้เว็บไซต์ของเรามีการ contact กับ ระบบของ facebook หรือ ผู้ใช้สามารถทำการสมัครสมาชิกผ่าน facebook login หรือ google login ได้ หากเราไปจ้าง Programmer มาเขียน บางทีเราอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก แต่ถ้าเราใช้ WordPress ที่มี Plugin Free หรือ เลือกใช้ Plugin ที่มีอยู่ใน Jetpack ก็ได้ ซึ่งมีให้เลือกใช้ฟรี ประมาณ 30,000+ plugin ฉะนั้นคุณจะรู้สึกเสมือนมีคน support ตลอดเวลา และยังให้เราได้ใช้ฟรีอีกด้วย ทำให้เราสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก ประหยัดเวลาในการทำงาน และสามารถที่จะตรวจสอบหรืออ่านความเห็นได้ว่า plugin ไหนดีหรือ ไม่ดีอย่างไร หรือเป็นที่นิยมหรือไม่ ตัวอย่างจากของ Jetpack มีประมาณ 33 ตัว เช่น Stat, Link, Monitor, Google หรือระบบ email เป็นต้น และนี่คือเหตุผลที่ว่า ทำไม ? เราถึงเลือกใช้ WordPress

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2014/12/wp101-how-to-use-wordpress-to-create-website-31.jpg)
มี Plugin สำหรับสร้างเว็บกว่า 30,000 plugin

เหตุผลเพิ่มเติม ทำไม ? ถึงใช้ WordPress – Why use WordPress?
เมื่อ search คำนี้ใน google จะเจอเว็บไซต์มากมายเต็มไปหมด แต่เราจะยกตัวอย่างมาสัก 1 เว็บไซต์ นั่นก็คือ wpbeginner.com เนื่อจาก เขียนไว้ค่อนข้างชัดเจน มีภาพประกอบเยอะ และเขียนได้อย่างเข้าใจง่าย เมื่อได้อ่านสรุปคร่าวๆ ในเว็บนี้ได้เขียนไว้ว่า WordPress เป็นที่นิยมมาก เพราะในงานออกแบบเว็บไซต์ มีการใช้งาน WordPress ถึง 22.5% ที่ถูกใช้ในเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง Time Magazine, Google, Facebook, Sony, Disney, LinkedIn, The New York Times, CNN, eBay และ อีกมากมาย มี Theme WordPress ให้ใช้ฟรีมากกว่า 2,000 กว่าแบบ,  WordPress ง่ายต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก สามารถ setup Theme สวยๆได้มากมาย สามารถรองรับได้หลายธุรกิจ อีกส่วนหนึ่งที่น่าสำคัญคือ WordPress เป็นมิตรกับ Search Engine นั้นเอง คุณสามารถลดต้นทุนในการโปรโมท หรือพัฒนา SEO ไปได้เยอะเลยทีเดียว อีกทั้ง WordPress มีระบบ Backup สำรองข้อมูลไว้ได้ มีระบบความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่คุณสามารถ update เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกโจมตีได้ หรือทำการ Backup hosting บ่อยๆ รองรับสื่อมัลติมีเดียได้หลายชนิด และยังเลือกใช้รูปแบบได้หลายชนิด เช่น Blog, Gallery, Portfolio, Rating Website, Shopping Store, Video Collection Site และ Membership Site เรียกได้ว่ารองรับทุกกลุ่มธุรกิจ นอกจากนั้นยังมีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการรองรับ SEO จาก Matt Cutts ซึ่งถือว่าเป็น Leader ของทีม Programmer จาก Google  กล่าวว่า หากคุณต้องการเริ่มต้นธุรกิจที่มีความจำเป็นต้องใช้ SEO คุณไม่ต้องทำการศึกษหรือนั่งทำ SEO ให้วุ่นวายมากนัก เพียงแค่ใช้ WordPress เท่านั้น WordPress ยังมีตัวช่วยเสริม SEO ให้มีควมเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น คือการใช้ Plugin WordPress SEO จาก Yoast โดยคนๆนี้ มีการติดตามเรื่องของ SEO จาก Google อยู่ตลอดเวลา เขาสร้าง plugin ที่สามารถใช้งานได้อย่างง่ายๆ โดยมีจำนวนคนดาวน์โหลดไปใช้งานทั้งหมดกว่า 14 ล้านครั้งเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้น ที่ต้องการจะเพิ่มอันดับ SEO ของเว็บไซต์ตนเอง ในส่วนของ Theme ซึ่ง Theme ของ WordPress นั้นเปรียบเสมือนหน้ากาก เพื่อสร้างความเชื่อถือ ความสวยงาม โดยตามหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็นแบบ e-commerce, organizing หรือ photography หาก theme ฟรีเหล่านั้นไม่สามารถตอบสนอง เรายังสามารถซื้อTheme ของ WordPress จาก Themeforrest ได้อีกด้วย Theme เหล่านี้ผู้พัฒนามีความสามารถและประสบการณ์ไม่น้อยกว่า 5 – 10 ปี โดย Theme WordPress มีราคาเพียง 1 – 2 พันเท่านั้น ก็สามารถซื้อได้จากทั่วทุกมุมโลก มีหลายหมวดหมู่ และ plugin อีกกว่า 3,000 plugin สามารถรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่ว่าจะ  facebook, signup และ forum ใหม่ๆ ทำให้เหมือนว่าเรามีทีมสำหรับพัฒนา Theme พัฒนา plugin และพัฒนาหลังบ้าน

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2014/12/wp101-how-to-use-wordpress-to-create-website-51.jpg)
Theme WordPress มากมาย รองรับทุกธุรกิจ

หากเราต้องการสร้างเว็บคุณภาพโดยปราศจาก WordPress นั้นคุณจำเป็นจะต้องมีเงินทุนมาก แต่หากเราเลือกใช้ WordPress เราสามารถตัดปัญหาเรื่องเงินทุน และเริ่มธุรกิจของเราได้ในทันที และยังสามารถขยายธุรกิจต่อยอดไปได้เรื่อยๆ จึงเหมาะสำหรัมผู้ที่เป็น user ทั่วไป และผู้ที่มีพื้นฐานทำเว็บไซต์ทั่วไป โดยคุณสามารถเริ่มต้นเรียนรู้และศึกษาได้จากเว็บไซต์ทั่วไป หรือจากเว็บไซต์แห่งนี้  ซึ่งมีข้อมูลให้คุณได้ศึกษาอย่างมากมายง
https://warrior.in.th/wordpress/wp101-why-use-wordpress/ (https://warrior.in.th/wordpress/wp101-why-use-wordpress/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 31, 2021, 04:13:50 pm
Google Adsense คือ อะไร และใช้งานอย่างไร?

Google Adsense เป็นเครื่องมือจัดการโฆษณาออนไลน์ของ Google เจ้าของเว็บไซต์สามารถสร้างรายได้จากการติดตั้งพื้นที่โฆษณา (แบนเนอร์โฆษณา) ของ Adsense ลงในเว็บไซต์ของคุณเอง และสามารถจัดการเนื้อหาและประเภทของโฆษณาให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายและเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย โดยคุณจะได้รับเงินเมื่อผู้เข้าชมคลิกที่แบนเนอร์โฆษณา ตามนโยบายจ่ายเมื่อคลิก (Cost-per-Click) หรือตามเงื่อนไขอื่นๆ ตามข้อตกลงระหว่างคุณกับ Google Adsense

Google Adsense คืออะไร ?
ดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้น Google Adsense ช่วยให้บล็อกเกอร์และเจ้าของเว็บไซต์ทำรายได้จากการลงโฆษณาในหน้าบล็อกหรือเว็บไซต์ เพียงสมัครเข้าร่วมลงโฆษณากับ Adsense และติดตั้งโค้ดโฆษณาลงในหน้าเว็บไซต์ของคุณ จากนั้น spider (บอท) ของ Google Adsense จะเข้ามาเก็บข้อมูลที่เว็บไซต์เพื่อจัดประเภทของเนื้อหาในเว็บไซต์ของคุณ จากนั้นบอทจะคัดเลือกโฆษณาที่เนื้อหาใกล้เคียงกับคอนเทนต์ในเว็บไซต์ และแสดงโฆษณาบนทีกำหนดแบนเนอร์บนหน้าเว็บไซต์ของคุณ ดังนั้นโฆษณาที่สอดคล้องกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย เป็นไปได้ว่าคนที่กำลังอ่านบทความเรื่องการจัดสวน อาจจะมีความสนใจเลือกซื้ออุปกรณ์สำหรับทำสวน มากกว่าคนที่อ่านบทความเรื่องยางรถยนต์

แล้วผู้ลงโฆษณาจะใช้งาน Adsense ได้อย่างไร?
สำหรับผู้ที่ลงโฆษณาบน Adsense สามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจาก Adsense ได้โดยการสร้างคีย์เวิร์ดสำคัญที่ตรงกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของตัวเอง สมมุติว่า ผมกำลังต้องการลงโฆษณาผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์สำหรับแต่งสวนขวดแก้ว คุณควรเลือกใช้คีย์เวิร์ด เช่น “แต่งบ้าน”,“สวนขวดแก้ว”,“สวนจิ๋ว”, “ของแต่งสวน DIY” เป็นต้น จากนั้น บอทของ Adsense จะจับคู่โฆษณาของผมกับ:
         1. คีย์เวิร์ดที่ใช้ค้นหาบน Google และแสดงโฆษณาของผมในผลการค้นหาอันดับแรก (หรือพื้นที่ด้านขวาของผลการค้นหา
         2. เว็บไซต์(แบบเดียวกันกับคุณ)ที่แสดงโฆษณาจาก Adsense
ทีมงาน Adsense จะส่งบอทมาเก็บข้อมูลอยู่ตลอดเวลาและตรวจสอบว่าคอนเทนต์บนเว็บไซต์ของคุณนั้นเกี่ยวกับอะไร และหากคอนเทนต์ของคุณตรงกันกับคีย์เวิร์ดโฆษณาที่ผมตั้งค่าไว้ โฆษณาอุปกรณ์แต่งสวนของผมก็จะถูกแสดงบนแบนเนอร์โฆษณาบนหน้าเว็บไซต์ของคุณที่มีบทความเกี่ยวกับไอเดียจัดสวนแก้ว ที่มา https://bloggingyourpassion.com/what-is-google-adsense-how-does-it-work/ (https://bloggingyourpassion.com/what-is-google-adsense-how-does-it-work/)
https://warrior.in.th/freelance-seo/google-adsense-is/ (https://warrior.in.th/freelance-seo/google-adsense-is/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ สิงหาคม 31, 2021, 04:50:39 pm
วิธีปรับแต่ง CSS ของ Theme WordPress โดยใช้ Chrome

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2014/09/google-developer-tool-for-wordpress-theme-css1.jpg)

วิธีปรับแต่ง CSS ของ Theme WordPress โดยใช้ Chrome
สวัสดีครับ คราวนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องที่สำคัญอีกเรื่องนึง และก็มีนักเรียนที่ที่เรียนกับคอร์สของผม แล้วมีความรู้สึกสงสัย จึงสอบถามกันเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องการปรับแต่ง css ของ Theme WordPress
** วิธีปรับแต่ง CSS เป็นพื้นฐานสำคัญในการ วิธีสร้างเว็บ ด้วย WordPress โดยนักรบ

ซึ่งวิธีการการปรับแต่ง css ของ Theme WordPress นั้น มีด้วยกันหลายวิธีแล้วแต่ความถนัดของแต่คนจะใช้ แต่วิธีที่ผมจะแนะนำและก็เป็นวิธีที่ใช้กันสากล เป็นวิธีที่ช่วยประหยัดเวลาและมีความแม่นยำสูง นั่นคือการปรับแต่ง css ผ่านบราวเซอร์ของเราเอง เช่น ถ้าเราใช้บราวเซอร์ Google เราสามารถใช้ Google Developer tools

วิธีเปิด Google Developer tools คือการกดปุ่ม F12 บนคีย์บอร์ด รอสักพัก เมื่อทำการโหลดเว็บเสร็จเรียบร้อยก็จะเปิด tools ขึ้นมาให้เห็น ซึ่งมีหน้าตาคร่าวๆประกอบไปด้วยส่วนของ Element, Network, Source, Timeline, Profile, Resource, Audits  และ Console อาจจะดูเยอะแยะไปหมดเลย เพราะแต่ละตัวมีการใช้งานแตกต่างกันไป

ส่วนที่ผมจะสอนมีอยู่ด้วยกัน 2 ตัวหลักๆ ที่ใช้เป็นประจำคือ Element และ Source และ ทางด้านขวาเราจะใช้ Style และ Computed ซึ่งเป็นส่วนของ css นั่นเอง แต่ในเรื่องของ Event Listeners, DOM breakpoints และ Properties จะเป็นในของ JavaScript, Document Object Model มีความ Advance มากขึ้นซึ่งเราจะมาเรียนรู้ในภายในหลัง

ในเรื่องการปรับแต่ง css ของธีม WordPress บน website ของเรานั้น หลังจากที่เราเปิด Tools ตัวนี้ขึ้นมาแล้วให้กดปุ่มแว่นขยายด้านซ้ายมือ และเริ่มทำการปรับแต่ง css ที่เราต้องการทำการปรับแต่งได้ทันที

ยกตัวอย่างเช่น เมื่อดูหน้าแรกของเว็บไซต์ warriiior.com หากเราต้องการปรับแต่ง css ของเราเนื่องจากดูไม่สวยเลย รู้สึกว่าแปลกๆอยากได้ heading ที่ใหญ่ขึ้น, ต้องการแต่งภาพให้มีกรอบ, เปลี่ยนสีตรงนี้ให้ดูสะดุดตา เราทำได้ง่ายๆด้วยการเลือกในส่วนที่เราต้องการปรับแต่ง เช่นตัวนี้เป็น h2 เมื่อคลิกเข้าไปในส่วนปรับแต่งจะขึ้นคำสั่งด้านล่าง ให้ทำการเช็คดูทางด้านขวา ว่าใช่หรือไม่เพียงเลือกปิด css บางส่วนดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงในส่วนนั้นๆหรือไม่

หากมีการเปลี่ยน แสดงว่าตัวที่เราเลือกไว้หรือเลือก Element ของตัวนั้นถูกต้อง ด้านซ้ายส่วนใหญ่ที่เราเลือกนั้นจะเป็น Html ส่วนด้านขวาที่ปรากฏมาจะเป็น css พอเราคลิ๊กด้านซ้ายที่เป็น Html ส่วนไหนก็แล้วแต่ css ทางด้านขวาจะแสดงขึ้นมาโดยแสดงจากล่างขึ้นบน จะเห็นว่า css ทางด้านบนจะทับตัวด้านล่างเนื่องจาก Html บางตัวเรามีการเขียน css ทับกันหลายชั้น เริ่มจากเป็นค่าคุณสมบัติพื้นฐานของบราวเซอร์ เช่น Text heading หรือมี Margin เท่าไร, Size เท่าไร และลองเขียน css กำหนดลักษณะให้กับ h2 เข้าไปว่า margin มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ Size มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ line-height มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ความสูงของตัวอักษรแต่ละบรรทัดมีการเปลี่ยนแปลงตามต้องการหรือไม่ ทำให้มีการทับกันของ css เกิดขึ้นไล่จากล่างขึ้นบน

เมื่อเราต้องการเช็คว่า css ตัวใดหรือตัวใหม่ล่าสุดให้สังเกตุจาก css ข้างบนลงด้านล่าง จากนั้นเมื่อเราทำการเปลี่ยน h2 พอเราคลิ๊ก h2 ปุ๊บจะลิงค์ css จะมาอยู่ที่ .block-title h2 ตัวนี้ใช้ css ของ h2 หรือเปล่าให้เราลองเปลี่ยนสีดู เลือกที่ Color ซึ่งคนที่เปลี่ยนนั้นจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับ css ด้วยหากยังไม่มีความรู้เรื่อง css อาจจะต้องเรียนพื้นฐานก่อน จากตรงช่องจะเห็นค่าสีมาตรฐานซึ่งมีชื่อเฉพาะอยู่และเราอาจจะใส่รหัส F หรือ # แบบไหนก็ได้ตามใจของเรา

ในส่วนของ css นั้นสามารถปรับแต่งได้ทั้งตัวหนังสือต่างๆ, สีสันต่างๆ,  รูปภาพ, กำหนดระยะห่างแบบ Padding, ใส่ border,จัดแถวจัดแนวของเว็บไซต์ได้ทั้งหมด และข้อสำคัญให้ลองสังเกตุดูว่าในแต่ละส่วนที่เราต้องการแก้ไขนั้นมีแต่ .id แต่ไม่มี class ซึ่งอยากจะแนะนำว่าไม่ควรทำการปรับเพราะหากส่วนไหนไม่มี class กำกับเมื่อเราเปลี่ยนจะทำให้ส่วนอื่นๆของเว็บไซต์ที่ทำการใช้ .id ร่วมกันนั้นเปลี่ยนแปลงไปทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ยากต่อการปรับแต่งมากยิ่งขึ้น

หากเรากำลังทำการแก้ไขในส่วนที่มี JavaScript เมือเราเลือกในส่วนแสดงผลอาจจะเลื่อนไปเลื่อนมาทำให้สับสน เราสามารถเลือกไม่ให้ผลของ JavaScript ได้ชั่วคราวด้วยการเข้าในส่วนของ Setting เลือก (ด้านขวาบนของ tools) Disable JavaScript ได้เลยเราสามารถสร้าง class ขึ้นมาเองได้ด้วยการเข้าในส่วนของ  source จากนั้นเลือกไฟล์ css ของรา สร้าง class ที่เราต้องการให้เรียบร้อยจากนั้นกลับมาดูที่หน้า element จะเห็น css ทางด้านขวามือขึ้น class ที่เราสร้างสามารถแก้ไขได้ตามปกติ

เมื่อเราปรับทุกอย่างตามที่ต้องการแล้ว ขั้นตอนต่อมาก็คือการ save โดยการเลือกที่ Source  ไปที่ไฟล์ที่ต้องการแก้ไขโดยไฟล์ css ที่เราทำการแก้ไขจะมีสัญลักษณ์ดาวอยู่ ให้ทำการคลิกขวา save as จากนั้นเลือกแฟ้มที่ไฟล์อยู่หรือ save ไว้ต่างหากก่อนก็ได้ หากต้องการใช้ก็ให้ทำการ save ทับได้เลย จากที่เราได้ทำการทดสอบมาจะพบว่าเราสามารถปรับ css ได้แทบทุกส่วนยกเว้นที่เป็น plugin หรือ gallery บางตัวมีที่การใส่ JavaScript แค่นั้นเอง
https://warrior.in.th/wordpress/how-to-customize-css-theme-wordpress/ (https://warrior.in.th/wordpress/how-to-customize-css-theme-wordpress/)
หัวข้อ: Re: Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย
เริ่มหัวข้อโดย: wm5398 ที่ กันยายน 23, 2021, 07:15:04 pm
Plugin : Visual Composer ของ WordPress สำหรับจัดหน้าเว็บ (Page Builder)

(https://warrior.in.th/wp-content/uploads/2014/08/plugin-wordpress-visual-composer1.jpg)

Plugin Visual Composer และการใช้งานเบื้องต้น
ครับ!! สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพูดเกี่ยวกับเรื่องของ Plugin ที่ชื่อว่า Visual Composer นะครับ
คอร์สออนไลน์แนะนำ วิธีสร้างเว็บ ด้วย WordPress โดยนักรบ

Visual Composer นะครับ  ถ้าเราดูใน Themes  for  rents  มันจะขายอยู่ที่ประมาณ  28 ดอลล์ นะครับ  ถ้ารวมเป็นเงินไทยก็ประมาณเกือบพันนะครับ  Plugin Visual Composer เป็น Plugin ที่ดีมานะครับ เป็น Plugin ที่ช่วยในการจัดหน้าเพจของเรานะครับ ให้ง่ายและมีโครงสร้างที่สวยงามมากขึ้นนะครับ และยังทำรองรับ Animation รูปแบบง่ายๆ ได้ด้วย  ซึ่งสามารถทำให้ เว็บไซต์  ของเราเปลี่ยนจากรูปแบบสเตตินิ่งๆไม่มี Animation อะไรเลยนะครับ  กลายเป็นรูปแบบเว็บไซต์ ที่มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้นนะครับ และที่สำคัญนะครับความสามารถของ Visual Composerยังรองรับรูปแบบของ mobile ไว้  ไม่ว่าจะเป็น Tablet และมือถืออีกด้วยนะครับ  และ Visual Composer เป็นปลั๊กอินในเรื่องของการจัดหน้าที่เรียกว่า Page Builder นะครับ เป็นอันดับหนึ่งของ Themes  for  rents อยู่ในโหมดของ codecanyon  และก็ขายดีมากจนเอ็นมาโตถูกหยิบยกมาเลยว่าเป็นตัวอย่างของกราฟที่มีการเจริญเติบโตอย่างดี ของปลั๊กอินใน  codecanyon เลยนะครับ ไปเปรียบเทียบกับวง Commerce  ที่มันเป็น ปลั๊กอินเกี่ยวกับ  E-Commerceที่มีคนพัฒนาเป็นบริษัทใหญ่โตนะครับ  อ่า!!! ถ้ามาดูเนื้อหาใน  codecanyon  Visual Composer ก็จะประมาณนี้นะครับ  ลองอ่านรายละเอียดนะครับว่ามีขายไปแล้วประมาณ 30,000 กว่าเซลล์นะครับ comment เป็นปลั๊กอินอันดับหนึ่งเลยนะครับ และก็มีคนใช้มาก นิยมมากและก็สามรถเป็นปลั๊กอิน Page Builder ตัวแรก  ตัวสำคัญด้วยนะครับที่ใช้ในเรื่องของฟังก์ชั่นการแก้ไขหน้าจอคอนเทนของ WordPress ผ่านทางหน้า Fonts นะครับ ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นใหม่ของ  WordPress นะครับ

OK คราวนี้!!! ถ้าเราซื้อ Visual Composer มาแยกๆต่างหากนะครับประมาณ 28 ดอลล์  แล้วมาใช้กับ Themes เรานะครับ  ซึ่ง Themes เราอาจจะโหลดจากที่ไหนไม่รู้แหละ  โหลดฟรีหรือว่าใช้ Themes มาตรฐานนะครับ ซึ่ง Themes มาตรฐานพวกนี้ไม่ได้ออกแบบ CSS รูปร่างหน้าตาให้กับ Visual Composerฉะนั้นมันจะได้ฟังก์ชั่นการทำงานมาอย่างเดียวนะครับ แต่มันจะไม่ได้ความสวยงามของโครงสร้างของ Visual Composer ด้วยนะครับ  มันจะไม่เข้ากับ Themes มันจะแยกกัน  ถ้าคนซื้อแยกนะครับ จะต้องสามารถแก้ไข CSS เป็นเพื่อไปปรับ CSS ของ Visual Composer ให้สวยงามเข้ากับ Themes นะครับ แต่สำหรับคนที่ปรับไม่เป็นนะครับ ผมแนะนำให้ซื้อ Themes ที่ขายพร้อมกับ Visual Composer เพราะเขาจะสามรถปรับความสามารถของ Themes และก็ปลั๊กอินให้สวยงามไปในทิศทางเดียวกันเรียบร้อยแล้ว

ตัวอย่าง Themes หนึ่งที่ผมจะใช้ในการสาธิตการใช้งานของ Visual Composer นะครับ  ก็คือ Themes ที่ชื่อว่า The 7 นะครับ Themes The 7 ถูกขายเป็นอันดับท็อปๆ แล้วก็ติดอันดับมาเป็นอันดับต้นของ Themes  for  rents มาหลายสัปดาห์แล้ว  หลังจากที่ผมเล่นระบบหลังบ้านนะครับ และเรื่องของการวางคอนเท้น  Layout และก็การจัดวางนะครับ  ผมพบว่า Themes The 7 เป็น Themes ที่ฉลาดและก็เป็น Themes ที่คนเขียนถูกพัฒนามาให้ใช้งานง่าย และก็ยืดหยุ่น เรียบ  ดูดี และก็เหมาะกับองค์กร หน่วยงาน เอกชน รัฐบาล  หรือหน่วยงานที่ต้องการความเรียบง่าย เอเจนซี่อะไรต่างๆ ที่ต้องการความหรูหรามีระดับและก็เข้าใจง่าย  เรื่องเมนูของ The 7 นี้เค้าก็ล้ำยุคมากนะครับ รองรับมือถือแล้วก็แบบสไลด์ ลองเข้าไปเล่นดู ลองดูนะครับ

อ้า!! สำหรับวีดีโอนี้ผมจะสาธิตเรื่องของการใช้ Themes Visual Composer ก่อนนะครับ ในเรื่องของเวลาที่เราปลั๊กอินนะครับนำเข้ามาแล้วนะครับ ติดตั้ง Themes The 7Composer แล้วนะครับ มันก็จะให้ลงปลั๊กอินอะไรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปลั๊กอินอะไรต่างๆ ที่จะอยู่ในนี้นะครับ ข้ามไปแล้วกันนะครับ เป็น Layer  Slider  Revolution เป็นแบนเนอร์สไลด์อะไรต่างๆ  ตัวที่เราติดตั้ง  Themes เรียบร้อยเราจะไปปรับค่าของ Visual Composer ไปที่ Settings แล้วก็เลือก Visual Composer ครับ ตัวนี้จะเป็นการปรับค่าของ Settings Visual Composer ครับ ถ้าเราใช้ Themes The 7 นี่มันก็จะมี content types หลายแบบมากนะครับ  เพราะว่าถ้าขึ้นด้วย dt ย่อมาจาก dreamteam ชื่อบริษัทเค้า  ทำเกี่ยวกับ content types, portfolio, testimorials, team, jogos, benefits, gallery แล้วก็ slideshow เพิ่มเติมเข้ามานะครับ  แต่ถ้าเป็น  Themes ทั่วไปหรือ Themes มาตรฐานแบบบ้านๆ พื้นๆโหลดมาจะมีแค่ post, page อาจจะมี portfolio หรือ gallery อะไรบ้างก็แล้วแต่คนเขียนนะครับ

ดีฟอร์ของ Visual Composer จะถูกติดไว้ที่ page หรือเราจะติกที่โค้ดช่วยด้วยก็ได้นะครับแล้วแต่เรา  นี่ก็เป็นการใช้งาน
ต่อไปเป็นเรื่องของ Desing Options เราสามารถปรับค่าโดยรวมของ Visual Composer เพราะว่าค่าบางค่าถูกออกแบบมาเป็น Default  อย่างเช่น ระยะห่างระหว่างบล็อกนะครับ 35 พิกเซล ถ้ารู้สึกว่ามันกว่าไปก็ปรับลดได้นะครับ Grid gutter คือ ช่องว่างระหว่างคอลัมภ์นะครับ  แล้วก็ Mobile screen width ก็คือระยะ  ถ้าสมมุติว่ามันต่ำกว่า 768 พิกเซล มือถือ หน้าจอหรืออุปกรณ์  ให้มันเปลี่ยนโครงสร้างดูสวยงามขึ้น  ปรับให้มันเรียงแบบสแตก  คือ เรียงแบบจากบนลงล่าง จากคอลัมย์ก็อาจจะเป็นแบบสแตกจากบนลงล่าง ก็แล้วแต่เราจะปรับค่าได้ สำหรับคนที่ลองเล่นก็ลองติกแล้วก็ปรับค่าได้  สำหรับคนที่เขียน CSS เก่งเราจะปรับค่าได้ในช่อง Custom CSS ก็ได้นะครับเพื่อปรับค่าต่างๆ

อันนี้คือเรื่องของการปรับลายเส้นเอ็กทีเวด
อันนี้เรื่องของ shortcodes นะครับ คือถ้าเป็นคนที่เล่น worde page สักพักก็จะพอรู้ว่า  shortcodes คืออะไรนะครับ  แต่สำหรับคนที่เพิ่งเล่นนะครับ shortcodesคือ ชุดคำสั่งง่ายๆ  อาจจะเป็นมันจะเป็น shortcodes ที่เป็นปีกกาแข็งเหมือนเราเล่นเว็ปบอดนะครับ เป็นเครื่องหมายปีกกาแข็งอะไรอย่างนี้ shortcodes ก็จะมีลักษณะคล้ายๆ แบบนั้น อ้า!!! OK เรื่องของการอธิบาย Visual Composer Settings ง่ายเรียบง่าย

คราวนี้เราจะมาดูวิธีการใช้งานง่ายๆเรียบง่ายกันดีกว่า ผมไปที่ Pages  เวลาเราติดตั้ง Themes ครั้งแรกมันจะมีโพสต์แค่นี้นะครับ มี Sample Page แล้วก็ Hello world ในโพสต์แค่นั้นเองนะครับเดี๋ยวเราลองไปที่ Edit กันดูนะครับ นี่ก็คือข้อมูลเก่าๆ ใน The 7 Pages นะครับ

OK  คราวนี้เรามาดูนะครับ พอเราเข้ามาในหน้าแก้ไข Edit Page เราจะเห็นปุ่มอยู่สองตัวซึ่งเด่นสะดุดตาเป็นสีน้ำเงิน ซึ่งแตกต่างจาก Themes อื่นๆ ถ้าเราไม่ได้ใช้จะมีปุ่มคำว่า BACKEND EDTOR แล้วก็ FRONTEND EDTOR ความหมาย คือ แก้ไขหน้าเพ็จระบบหลังบ้านเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง  แต่ FRONTEND ก็คือ  แก้ไขระบบหน้าบ้านนะครับ  เราลองเรียนรู้วิธีการใช้งานไปอย่างคร่าวๆนะครับ ลองที่ BACKEND EDTOR ก่อนนะครับ ก่อนที่จะเริ่มมาดูตัวนี้ก่อนครับ  เมื่อก่อนมันจะมีโครงสร้างแค่นี้ครับ ตรงนี้เราจะเรียกว่า ไทนีเอ็มซีอี  เป็นตัวอีดีเตอร์ที่ worde page ดึงมาใช้ ก็ยืด หด ขยาย ได้นะครับ อันนี้ก็จะเป็น Short Cord เราเขียนเพิ่มขึ้นมา Themes ก็เขียนเพิ่มขึ้นมา  ก็จะมีแค่นี้อย่างเก่งก็จัดหน้าได้ ชิดซ้าย ชิดขวา ตรงกลาง ใส่ลิสต์นะครับ ตัวหนา  ตัวเอียงเท่านั้นเอง แต่ไม่สามารถจัดคอลัมย์ได้  แต่ถ้าเราไปลงปลั๊กอินเสริมแทนที่พวกเอ็มซีอี, ลงเทเบิลอะไรอย่างนี้ มันก็จะจัดหน้าในมือถือลำบากก็ไม่ค่อยนิยมนะครับ  ผมแนะนำให้ใช้ Visual Composerช่วยนะครับ ผมกดที่ BACKEND EDTOR ปรึ้ง!! คราวนี้มันก็จะมาแล้ว  โอโฮ!! เป็นโครงสร้าง เห็นไหมครับเริ่มเป็นโครงสร้างแล้ว  จัดคอลัมย์อะไรได้นะครับ  นี่ๆ นั่น  คราวนี้เพื่อให้เห็นชัดขึ้น เดี๋ยวผมลอง Add new page ขึ้นมาแล้วกันเป็นหน้าว่าง ๆ ไม่มีอะไรเลยแล้วก็กด BACKEND EDTOR หน้าว่างๆ จะเป็นแบบนี้ครับ เริ่มต้นคือตัวในปุ่ม ปุ่มนี้จะลิงค์ไปยังเว็บไซต์ ของเขา ปุ่มนี้เป็น Add new element คือ ส่วนประกอบทุกอย่างที่อยู่ในเว็บไซต์ เรียกรวมๆ ว่า element  ถ้าเรียกเฉพาะเจาะจง เช่น เป็นแทค P แทค A แทคพารากราฟ แทควีดีโอ แทคอะไรก็แล้วแต่ตัวจะเลือก  เรียกรวมๆว่า Add new element ถ้ากดมันขึ้นมานี่พวกนี้คือ element หมดเลยนะครับ  อันนี้คือ Templates ครับ สมมุติว่าเรา Add element เข้าไปแล้วนะครับ เป็นแถวนะครับ  และผมใส่ Text เข้าไป ผมอาจจะใส Text เป็นคำว่า Copy right ซึ่งตัวนี้ผมอาจจะเอาไว้ทุกหน้าเลย หรืออาจจะบอกว่า “สินค้าและบริการหากมีการแก้ไขโดยมิได้แจ้งล่วงหน้า” อะไรอย่างนี้ก็แล้วแต่ที่เราจะใส่ในสินค้าของเรา ซึ่งเราอาจจะใส่ในทุกหน้า ฟูดเตอร์ หรือใส่ในหน้าเพ็จก็ได้นะครับ ซึ่งเวลาที่เราจะใส่ในทุกหน้าเราจะทำการเซฟ และก็ทำการเซฟเป็น Templates ได้นะครับ ก็จะเป็นอะไรอย่างนี้นะครับ การเซฟ Templates แบบนี้เป็นลักษณ์เหมือนการ copy layout มาไว้ใน Templates  สมมุติว่าเราเปิดหน้าใหม่ขึ้นมานะครับ แล้วเราก็ทำการโหลด Templates ที่เราทำการเซฟไว้นะครับ ก็กดคลิกเข้าไปมันก็จะเพิ่มมาให้โดยอัตโนมัตินะครับ  แต่เวลาเราแก้ไขนะครับ สมมุติว่าเราทำไป 10  หน้า แต่เวลาแก้ไขเราก็ต้องตามไปแก้ไขทั้ง 10 หน้า  มันเหมือนเป็นการ copy layout มาวางไว้เฉยๆ นะครับ  มันไม่เชิงเป็น Templates 100 เปอร์เซ็นต์ วิธีการอยากได้ Templates 100 เปอร์เซ็นต์ เราต้องลงตัวเสริมของเขาชื่อว่า VC Templates นะครับ  คือ เราทำ Templates ไว้ตัวเดียวพอเราไปแก้ที่ Templates  มันจะกระทบทุกหน้าให้นะครับ ก็เป็นการช่วยให้ง่ายขึ้น นั่นก็จะเป็นตัวเสริมของเขา OK นี่ก็จะเป็นเรื่องของ Templates ง่ายๆ นะครับ

คราวนี้เรามาดูตรงปุ่มนี้นะครับ  ปุ่มเฟืองนี่เป็นเรื่องของ Custom CSS  คนเก่ง CSS  เขียน CSS มันจะเป็นการปรับแต่ง CSS เฉพาะหน้านี้หน้าเดียว ถ้าอยากให้ได้ทุกหน้าก็ต้องไปที่หน้า True settings เมื่อกี้ที่เราผ่านมาแล้วก็ใส่ CSS เข้าไปนะครับ OK ตัวนี้ก็ไปเรื่องของการบริการ คลิกไป  Frontend นะครับ  อันนี้ก็จะลบได้

คราวนี้เรามารู้จักข้างล่างก่อน  ปุ่มนี้ก็จะเป็นเหมือนข้างล่างนะครับไม่มีอะไรใส่ element ก่อนไหม หรือจะใส่ text block ก็ได้  หรือคุณจะเลือก Layout ซึ่งเป็น Layout ที่เขาออกแบบมาไว้คราวๆ เพื่อง่าย คลิกปรึบ!! มันก็จะโหลด Layout มาให้เลยอ้า!!! ประมาณนี้  สมมุติผมจะเริ่มต้นผมจะใส่ข้อมูลอย่างไรดี  ผมก็จะเริ่มต้นด้วยการใส่แถว เพื่อจัดข้อมูล แบ่งคอลัมย์ 2 คอลัมย์ 3 คอลัมย์ อย่างนี้ก็ได้นะครับ จัดคอลัมย์ผมใส่อีกคอลัมย์หนึ่งเป็นแบบนี้ก็ได้ ปุ่มเครื่องหมายนี้เอาไว้ทำอะไร ขยับตำแหน่งไง บน  ล่าง เห็นไหมครับ สลับกัน เป็นนี้ไว้จัดอลัมย์ไง ถ้าเกิดผมอยากให้ด้านนี้ตัวใหญ่ แล้วด้านนี้ตัวเล็กต้องทำไง กด Custom ไงสลับตัวเลขนิดหน่อยนี่เป็น 3 นี่เป็น 1  เอาก้อนใหญ่ไปทางซ้าย   เอาก้อนเล็กไปทางขวา กด Update ปรึ้ง!! นี่ไงสลับแล้วเห็นไหมครับ ก็ปรับคอลัมย์ได้เป็นอิสระ

นี่ปุ่มนี้เอาไว้ทำอะไรดูก็รู้ว่า copy ไงเห็นไหมครับ ทำอะไรครับลบแค่นั้นครับ เท่านั้นเอง Edite เอาไว้ทำอะไร แก้ไขใส่คราสสำหรับคนที่เขียน CSS เอ็ดวาน เอ็ดชอลมีไว้ทำไม เอาไว้ลิงค์ในหน้าเพ็จตัวเอง ความสูง ความสูงขั้นต่ำ ระยะTop margin คือ ระยะมันกับเพื่อนมันด้านบน ระยะด้านล่างกับเพื่อนด้านล่าง  full width content หรือเปล่า Animation ตัวนี้สำคัญมากที่จะทำให้เว็บไซต์ ของเราดูมีระดับมากขึ้นก็สามารถใส่ Animation เข้าไปได้  Row style  เป็นแบบไหน สไตล์เป็นเรื่องของขั้น section มีหลายแบบก็ปรับเป็น setting ได้สำหรับ Visual Composer นะครับ เป็นมาตรฐานในบางครั้งในการปรับRow style  อาจจะไม่มีเยอะเท่านี้นะครับ  Themes The 7 เขาเขียนเพิ่ม อย่างเช่นRow style  เขาเขียนเพิ่มเข้ามา OK คราวนี้มาดูอะไรที่ขาดไป ปุ่ม Frontend เราสามารถคลิกไปที่  Frontend ได้นะครับ  มันก็จะเด้งกลับมาที่ Frontend
https://warrior.in.th/wordpress/plugin-visual-composer/ (https://warrior.in.th/wordpress/plugin-visual-composer/)