ผู้เขียน หัวข้อ: ระหว่างเครื่องเล่น Bluray VS External Hardisc เสียงและภาพต่างกันนะ  (อ่าน 4773 ครั้ง)

ออฟไลน์ Peach_9

  • LCD TV member
  • **
  • กระทู้: 166
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
ผมเปิดหนังดูจากเครื่องเล่น Bluray Pioneer 170 เทียบกับ External Hardise ของ Seagate ต่อเข้ากับ USB หน้าเครื่อง Bluray เป็นไฟล์หนัง Hi-Def แปลงมาจากไฟล์บลูเรย์ (ที่เวลาเค้าซื้อ External แล้วแถมหนัง100เรื่องอ่ะครับ) สรุปออกมาดังนี้

1. ดูเหมือนเสียงของหนังเล่นจาก External มันจะเงียบกว่าหน่อย แปลกๆยังไงไม่รู้ ยามบทตูมตามก็ตูมตามซะงั้น ไม่เหมือนเปิดจากแผ่น Bluray

2. ภาพที่ได้ไม่น่าต่างกันมาก พอๆกันครับ


เพื่อนๆมีความคิดเห็นว่าอย่างไรบ้างครับ ใครพอมีประสบการณ์แบ่งปันกันได้ครับ

ออฟไลน์ S_Surawut

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 468
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
ผมเปิดหนังดูจากเครื่องเล่น Bluray Pioneer 170 เทียบกับ External Hardise ของ Seagate ต่อเข้ากับ USB หน้าเครื่อง Bluray เป็นไฟล์หนัง Hi-Def แปลงมาจากไฟล์บลูเรย์ (ที่เวลาเค้าซื้อ External แล้วแถมหนัง100เรื่องอ่ะครับ) สรุปออกมาดังนี้

1. ดูเหมือนเสียงของหนังเล่นจาก External มันจะเงียบกว่าหน่อย แปลกๆยังไงไม่รู้ ยามบทตูมตามก็ตูมตามซะงั้น ไม่เหมือนเปิดจากแผ่น Bluray

2. ภาพที่ได้ไม่น่าต่างกันมาก พอๆกันครับ


เพื่อนๆมีความคิดเห็นว่าอย่างไรบ้างครับ ใครพอมีประสบการณ์แบ่งปันกันได้ครับ
ส่วนตัวล้วนๆ นะครับ
             1.พวก HDD จะเหมาะกับ HD player มากกว่าครับ ถ้าเทียบกับเครื่องเล่น BD ราคาไม่เกินหมื่น เพราะ HD player จะเสียบ int HDD หรือ ext HDD จะไม่มีปัญหาการเล่นไฟล์และซับ ล่าสุดที่ผมโหลด (ผมใช้ mede8er 800x3d) เรื่อง SICARIO ขนาดไฟล์ ไม่เกิน 15-20 gb ระบบเสียง TureHD-7.1 เสียงและภาพมาเต็มก้เทียบเท่าแผ่นบลูเรย์ (แผ่นก๊อป) อย่างขี้เหร่สุดก็ขอให้เสียง eng เป็น DTS และอีกอย่างก็ขึ้นอยู่กับไฟล์ที่โหลดด้วยครับ แต่ผมก็เคยเจอแผ่นผีที่อัดมาไม่ดีเหมือนกัน ลักษณะคล้ายเจ้าของกระทู้เจอนั่นเเหละ หลังๆก็เลยโหลดเอาดีกว่า
             2.ไฟล์ MKV ภาพก็พอๆกับแผ่นครับ ต้องเทียบกับแผ่นก๊อปนะ
                                                              
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 16, 2016, 08:16:23 am โดย S_Surawut »

ออฟไลน์ SanDer

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 358
    • ดูรายละเอียด
สวัสดีครับ

คหสต. น่าจะมาจากตัวสาย USB กับวิธีการอ่านข้อมูลของเครื่องมั้งครับ
ผมไม่เคยลองกับไฟล์หนัง แต่เคยลองกับไฟล์เพลง วิธีการที่ลองคือ เสียบ USB เข้าที่หน้าเครื่องโดยตรง, ใช้สายต่อพ่วง USB ยาว 2ม. และเล่นผ่าน lan
ผลที่ได้คือ การใช้สายพ่วงทำให้เสียงดรอปลงทันที เมื่อเทียบกับเสียบโดยตรงและผ่าน lan

ออฟไลน์ bkav

  • Full LED TV member
  • ****
  • กระทู้: 1,851
    • ดูรายละเอียด
...จะให้เทพไปถึงไหน.
...AVR 3D 4K + HD Player 3D 4K + หนังโหลดเนต 3D 4K.+ ทีวี 3D 4K
...บลูเรย์ดีส 3D 4K ราคาเท่าไหร่ แผ่นหนัง 3D 4K ราคาแผ่นละเท่าไหร่ 25G-50G ต่อเรื่อง
...HD Player 3D 4K ภาพเสียงสู้ได้นะ รวมทั้งความคุ้มค่า ไม่พังง่ายๆ  หนังฟรีไม่ต้องจ่ายตังค์ ไม่เปลืองที่เก็บเป็นพันๆ หมื่นแสนเรื่องอยู่ในเนต ดูเสร็จลบทิ้ง อยากดูอีกครั้งก็ดาวน์โหลดใหม่ฟรีๆ
...สรุป คือ คุณภาพไม่ต่างกันหรอกครับ ความคุ้มค่าแน่นอนกว่า

ออฟไลน์ yachtbest

  • Flat TV member
  • *
  • กระทู้: 75
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
ผมเล่น hdplayer มาหลายปี พอมีน้องคนหนึ่งบอกให้เล่นผ่านคอมๆ พอดีคอมที่รับช่วงมามีการ์ดจอ ati5670ถอด dtshd dolby truehd7.1ได้เลย อัพซีพียูเป็น core i3 เพื่อรองรับความลื่นไหลเวลาเล่นไฟล์ 3ดี อัพแรมเป็น 8 g
ภาพและเสียงคอมๆดีกว่า hdplayer or bdplayer ข้อดีของสองตัวนี้มีอย่างเดียวคือความที่เล่นง่าย สาวๆก็ทำได้ แต่ข้อเสียมีเยอะกว่าเช่นเรื่อง ซับไตเติ้ล ปัญหาขนาดจอ
ทีนี้ถ้าคุณจะเล่นผ่านคอมๆ ฝรั่งเขาเรียก HTPCนอกจากคุณต้องมีอุปกรณ์ตามที่ผมกล่าวมาทั้งหมดแล้ว คุณต้องมีโปรแกรมดูหนังที่ดีและเข้าใจจุดแข็งของมันดังนี้
1.Artsoft media player เอาไว้ดูไฟล์ใหญ่ ที่เรียกว่า full rip
2.potplayer มันไม่ชอบไฟล์ใหญ่ แต่ไฟล์เล็กรับกินเรียบ กินแรมน้อยสุด ที่สำคัญอ่านซับไทยได้หมด ไร้ปัญหา ปรับขนาดภาพได้ด้วย
3.cyberlink power dvd 14 or 15 ภาพเยี่ยมสุด แต่คุณต้องงปรับเป็น(ไม่ยากครับ)เหมาะกับคอมๆใช้ซีพียูรุ่นสูงๆเช่น core i5 or i7 [ปลื่ม]
ปล.โปรแกรมพวกนี้หาโหลดได้ตามเวป ฟรีครับ [ปลื่ม]

ออฟไลน์ Peach_9

  • LCD TV member
  • **
  • กระทู้: 166
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
ผมขอขอบคุณพี่ๆเพื่อนอธิบายให้ผมเข้าใจได้ความกระจ่างมากเลยครับ เว็บบอร์ดนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวังครับ

ออฟไลน์ osxp

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 758
    • ดูรายละเอียด
ถ้าจะเทียบกับแผ่น BD ก็ต้องเทียบกับไฟล์ในระดับเดียวกันครับ

อย่างเช่นไฟล์ BD ISO หรือ BDRM (ก็อปทั้ง folder จากแผ่น BD) เรื่องละราวๆ 40GB (HDD 1TB เก็บได้ประมาณ 25-30 เรื่อง)

พวกที่เป็นไฟล์ .MKV จะผ่านการบีบอัด หรือดัดแปลงส่วนต่างๆ มาแล้ว คุณภาพจะต่ำกว่าแผ่นต้นฉบับ


ส่วนตัวก็ใช้คอมพ์ HTPC ดูหนังจากไฟล์ BD ISO หรือ BDRM  เป็นหลักครับ

โปรแกรมก็ใช้ PotPlayer ตัวเดียว เปิดจาก BD ISO ตรงๆ ได้เลย
5.1 System >> HTPC : Intel i3 8350k + Asrock H370M-ITX/AC + AMD RX560 + Fractal Design Node 202 + Corsair SF450 AVR : Marantz SR5005  Speakers : Wharfedale Diamond Series - 220 / 220C / 220 Subwoofer : SVS SB-2000
2.0 System >> Network Audio Player : Asus Tinkerboard + Volumio OS DAC : iFi Nano iDSD + DIY LT1085 5V Linear Power supply Stereo Receiver : Onkyo TX-8020 Speakers : Wharfedale Diamond 230
Display : Philips 55PFT5509S/98 LED 55" Cables : Canare, Kaiboer, Lappkabel, Helukabel UPS : CleanLine T-1000 True Online 1000VA/800W Cable Modded

ออฟไลน์ yachtbest

  • Flat TV member
  • *
  • กระทู้: 75
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
รบกวนถามคุณ osxp ว่าใช้potplayer versionไหนเล่นไฟล์full ripแล้วเสียงตรงกับภาพ
อีกเรื่องหนึ่งเห็นsystem แล้ว ถ้าอยากให้เสียงแตกต่างจากเดิม(คือดีขึ้น ในความคิดผมนะ อาจพอใจมากกับของเดิม ก็ไม่เป็นไร)
แนะนำให้เปลี่ยนสายลำโพงตัว canareเป็น audioquest รุ่นไหนก็ได้ตั้งแต่ type4 rocket33 44 or superblues2 เห็นผลชัดมากครับ ลองดุ [ปลื่ม]

ออฟไลน์ osxp

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 758
    • ดูรายละเอียด
ใช้ตัวล่าสุดครับ อัพเดทตลอด

ตอนนี้ก็ 64bit Ver.1.6.57875




การปรับแต่งต่างๆ ก็ประมาณนี้ครับ

สำหรับเสียง DTS,Dolby ต่างๆ ก็จะตั้ง Pass through ส่งไปออกทาง AVR (HDMI)




พวกเสียง LPCM, WAV, FLAC หรือเสียงอื่นๆ ก็จะใช้ output WASAPI ไปออกที่ DAC (ต่อเข้า AVR ทางช่อง Analog)




แล้วก็ไม่ใช้ normalize หรือการปรับแต่งเสียงใดๆ เลย ติ๊กออกให้ว่างทั้งหมด




ด้านภาพก็ปรับให้ GPU เป็นตัวถอดรหัสทั้งหมด (DXVA)






สีก็ปรับเป็น RGB และ Full Range 0-255




ตัวอย่างการเล่นไฟล์ BD ISO คอนเสิร์ท Perfume เสียง LPCM 2.0




เรื่องสายก็ลองมาหลายชุด ตอนนี้พอใจกับ Canare แล้วครับ
ใช้สายไปเยอะเลย [ปาดเหงื่อ]

ด้านหน้า 4S11 12เมตร ใช้ 2 เส้น/ลำโพง ทำ Bi-Amp กับ Double Bi-wire ด้านหลัง 4S8 20 เมตร ใช้เส้นเดียวตามปกติ
5.1 System >> HTPC : Intel i3 8350k + Asrock H370M-ITX/AC + AMD RX560 + Fractal Design Node 202 + Corsair SF450 AVR : Marantz SR5005  Speakers : Wharfedale Diamond Series - 220 / 220C / 220 Subwoofer : SVS SB-2000
2.0 System >> Network Audio Player : Asus Tinkerboard + Volumio OS DAC : iFi Nano iDSD + DIY LT1085 5V Linear Power supply Stereo Receiver : Onkyo TX-8020 Speakers : Wharfedale Diamond 230
Display : Philips 55PFT5509S/98 LED 55" Cables : Canare, Kaiboer, Lappkabel, Helukabel UPS : CleanLine T-1000 True Online 1000VA/800W Cable Modded