เว็บบอร์ด LCDTVTHAILAND
พูดคุยเรื่องทั่วไปเกี่ยวกับด้านไฮไฟ HD Player,Home Theater,Blu-ray Player => ห้องพูดคุยเรื่องเครื่องเสียงและ Home Theater => ข้อความที่เริ่มโดย: newtun ที่ เมษายน 07, 2015, 09:41:22 pm
-
คืออยากเทียบระหว่าง RCA กับตัวนี้อะคับ
-
เทียบกันไม่ได้นะครับ มันคนละอย่างกัน
RCA มันเป็นเสียง Analog ที่ผ่าน DAC มาแล้ว
แต่ Coax เป็นสัญญาณ Digital ต้องผ่านไปเข้า DAC อีกที
-
เทียบกันไม่ได้นะครับ มันคนละอย่างกัน
RCA มันเป็นเสียง Analog ที่ผ่าน DAC มาแล้ว
แต่ Coax เป็นสัญญาณ Digital ต้องผ่านไปเข้า DAC อีกที
ขอบคุณมากครับ พอดีอยากต่อฟังเพลงผ่าน coax ดูครับ
-
ถ้าอุปกรณ์พร้อมอยู่แล้ว ก็ลองเลยครับ
ต้องลองฟังด้วยหูตัวเอง ว่าจะชอบแบบไหน
สำหรับชุดของผม ขอบแบบ Analog มากกว่า (ผ่าน DAC)
-
...ต้องดูว่าจะเอามาดูหนังหรือฟังเพลง...
Coaxial วัตถุประสงค์หลักเพื่อ ฟังเพลง
หลักการทำงานเบื้องต้น...
..สัญญาณอนาล๊อก > AVR > ลำโพง
...สัญญาณดิจิตอล > DAC > สัญญาณอนาล๊อก > AVR > ลำโพง
...ที่สำคัญ สาย Coaxial ยิ่งแพงยิ่งเสียงดี หลักพัน หลักหมื่น
...ถ้าผมมีเงินเหลือใช้เยอะอย่างนี้ จะเลือกอัพ AVR รุ่นใหม่ ใหญ่ขึ้น หรือ เล่นอินทิเกรตแอมป์ไปเลยครับ ส่วนดูหนัง Bi amp ก็พอ.
-
คู่แข่งของ Coax ก็จะมี fiber optic กับสาย usb
usb เป็นน้องใหม่ของการฟังเพลงดิจิตอล ทำให้ใช้คอมพิวเตอร์เป็นต้นทางได้
ถ้าจะเทียบกัน ควรจะเทียบกัน สามแบบนี้มากกว่า
-
ยังมีการด้วย LAN และ Wifi ด้วยนะ
ถ้า AVR คุณต่อ lan ได้ สำหรับการฟังเพลงด้วย avr (ใช้ dac ใน avr) ผมแนะนำให้ต่อผ่าน lan
ซึ่งจะทำให้คุณไม่ต้องใช้สาย coax หรือ optical ราคาแพงๆ ได้ เนื่องจาก protocal lan นั้นมีการส่งข้อมูลซ้ำเมื่อพบการส่งผิดพลาด
ต่างจาก coax optical และ HDMI (ไม่พูดถึง Ethernet ใน HDMI)
ที่อยากฝากไว้คือ Sound quality ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Digital quality นะครับ
-
ยังมีการด้วย LAN และ Wifi ด้วยนะ
ถ้า AVR คุณต่อ lan ได้ สำหรับการฟังเพลงด้วย avr (ใช้ dac ใน avr) ผมแนะนำให้ต่อผ่าน lan
ซึ่งจะทำให้คุณไม่ต้องใช้สาย coax หรือ optical ราคาแพงๆ ได้ เนื่องจาก protocal lan นั้นมีการส่งข้อมูลซ้ำเมื่อพบการส่งผิดพลาด
ต่างจาก coax optical และ HDMI (ไม่พูดถึง Ethernet ใน HDMI)
ที่อยากฝากไว้คือ Sound quality ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Digital quality นะครับ
คำพูดบรรทัดสุดท้ายน่าสนใจนะครับ ช่วยขยายความเพิ่มได้มั้ยครับ
เพราะมีการถกเถียงกันมากมาย แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่ชี้ชัดว่าคุณภาพของสายดิจิตอล
มีผลต่อคุณภาพเสียงหรือไม่
-
Sound quality เป็นส่วนแรก หรือ source นั้นเอง
เปรียบเทียบคือ เพลงๆ หนึ่ง ให้นักร้องอาชีพร้อง กับให้ตัวผมเองร้อง คนฟังย่อมต้องบอกว่า นักร้องอาชีพร้องได้เพราะกว่า น่าฟังกว่า ที่ผมร้อง
Digital quality เป็นส่วนหลัง การบันทึก ตัดต่อ ทำลงแผ่น แล้วมาเปิดฟังที่ system ของท่านๆ
แน่นอนครับว่ามีผลต่อเสียงแน่นอน เช่น bitrate ที่สูงๆ ย่อมให้รายละเอียดเสียงได้มากกว่า แต่ไม่ใช่เสียงดีกว่านะครับ
เพราะถ้าเอาเพลงที่ผมร้อง บันทึก hires 32 bits มาเทียบกับแผ่น CD จากนักร้องอาชีพ เปิดด้วย system เทพๆ แล้วคุณว่าอันไหนน่าฟังกว่ากัน
ส่วนที่ถามว่า คุณภาพของสายดิจิตอล มีผลต่อคุณภาพเสียงไหม ขอเพิ่มเป็นว่า มีผลต่อคุณภาพเสียงที่ออกมาไหม ซึ่งคำตอบคือมีครับ
สายดิจิตอลที่ว่า คือ Coax Optical และ HDMI ใช่ไหมครับ
ตัวมันเป็นสายสัญญาณ ทำหน้าที่ส่งสัญญาณ ซึ่งประเด็นอยู่ตรงนี้เอง ดีที่สุดคือการส่งแบบไม่มีผิดเพี้ยน แต่ในความเป็นจริงนั้นไม่ใช่
มันมีการรบกวนจากแหล่งอื่นๆ ทำให้เพี้ยนไป เมื่อข้อมูลไม่เหมือนเดิม เวลาเอาไปแปลงเป็นเสียงที่ปลายทาง มันจะเหมือนที่ต้นทางบันทึกมาหรือไม่...
และที่สำคัญคือเป็นการส่งข้อมูลแบบทางเดียว คือจากต้นทางไปยังปลายทาง เช่นจากเครื่องเล่น bluray ไปยัง ทีวี แม้ระบบ HDMI จะมีการตรวจสอบความถูกต้องของสัญญาณ และทีวีตรวจพบสัญญาณที่ผิดพลาด แต่ทีวีก็ไม่ได้ร้องขอให้ทางเครื่องเล่น bluray ส่งข้อมูลส่วนนั้นซ้ำอีกครั้งนะครับ
อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือ ทีวีดิจิตอล และมือถือ
เป็นการส่งแบบดิจิตอลใช่ไหมครับ
เวลาฝนตกหนักๆ ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า เป็นอย่างไร ภาพและเสียงยังชัดอยู่ไหม
ผมไม่ได้บอกให้เลือกสายแพงๆ นะ แต่ถ้าสัญญาณรบกวนในห้องคุณมันมาก ก็ควรเลือกสายที่ป้องกันสัญญาณรบกวนได้ดีๆ
และไม่ได้บอกว่าสัญญาณเพี้ยนนั้นไม่ดีนะครับ เพราะนั้นคือบุคลิกของสาย ของเครื่องเสียงนั้นเอง
ผมยังไม่มีโอกาสได้ลองสาย USB และขอโทษด้วยครับที่พิมพ์ยาวไปหน่อย
ผิดถูกประการใดขออภัยด้วยครับ
-
แหม่...ได้ความรู้ไปอีกกระบุง..เยี่ยมเลยครับ [รัก]
-
ยังมีการด้วย LAN และ Wifi ด้วยนะ
ถ้า AVR คุณต่อ lan ได้ สำหรับการฟังเพลงด้วย avr (ใช้ dac ใน avr) ผมแนะนำให้ต่อผ่าน lan
ซึ่งจะทำให้คุณไม่ต้องใช้สาย coax หรือ optical ราคาแพงๆ ได้ เนื่องจาก protocal lan นั้นมีการส่งข้อมูลซ้ำเมื่อพบการส่งผิดพลาด
ต่างจาก coax optical และ HDMI (ไม่พูดถึง Ethernet ใน HDMI)
ที่อยากฝากไว้คือ Sound quality ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Digital quality นะครับ
แก้นิดนึงครับ
protocal lan นั้นมีการส่งข้อมูลซ้ำเมื่อพบการส่งผิดพลาด เฉพาะการส่งรูปแบบ data
ถ้าเป็น มัลติมีเดีย...ไม่เรียกซ้ำแนนอนครับ
----------
ใช้ lan จะจะได้เปรียบ coax หรือ optical ตรงที่แบนวิชใหญกวาครับ
-
ยังมีการด้วย LAN และ Wifi ด้วยนะ
ถ้า AVR คุณต่อ lan ได้ สำหรับการฟังเพลงด้วย avr (ใช้ dac ใน avr) ผมแนะนำให้ต่อผ่าน lan
ซึ่งจะทำให้คุณไม่ต้องใช้สาย coax หรือ optical ราคาแพงๆ ได้ เนื่องจาก protocal lan นั้นมีการส่งข้อมูลซ้ำเมื่อพบการส่งผิดพลาด
ต่างจาก coax optical และ HDMI (ไม่พูดถึง Ethernet ใน HDMI)
ที่อยากฝากไว้คือ Sound quality ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Digital quality นะครับ
แก้นิดนึงครับ
protocal lan นั้นมีการส่งข้อมูลซ้ำเมื่อพบการส่งผิดพลาด เฉพาะการส่งรูปแบบ data
ถ้าเป็น มัลติมีเดีย...ไม่เรียกซ้ำแนนอนครับ
----------
ใช้ lan จะจะได้เปรียบ coax หรือ optical ตรงที่แบนวิชใหญกวาครับ
ท่านกำลังจะบอกว่าถ้าส่งดาต้าใช้โปรโตคอล tcp แต่ถ้าส่งเพลงใช้ udp ใช่มั้ยครับ
แต่ถ้าคนทำระบบเค้าใช้ tcp ในการส่งเพลงได้ ก็น่าคิดนะครับ
-
คงไม่ได้หรอก...เพราะ code file / decode / dac ทำงานคาบเกียวกับเวลา มันรอไม่ได้เหมือน data
ทำงานไม่ได้คือ สะดุด หยุด ข้าม....อาการ นี้เห็นได้ชัดใน CD สมัยก่อน
-----------------
เทียบให้เห้นภาพ เหมือนดูยุูทรูป เนทเนาๆ...ถ้าข้อมูลยังมาไม่ได้ก็จะหยุด...พอมาแล้วเล่นต่อ (ไม่ต้องรอข้อมูลมาจนครบทั้งหมด)
กับโหลดไฟล์ เนทเน่า...โหลดมายังดูไม่ได้...ต้องรอให้ข้อมูลมาครบก่อนถึงจะทำงานได้
-
เอ แล้วของ USB ล่ะครับ สายUSB เรื่อง Bandwidth ถือว่าสูงหรือเปล่า
รูปการส่งข้อมูลสำหรับ data กับ media เหมือนหรือต่างกันไหม และเกี่ยวกับ version ด้วยหรือเปล่า
ทำไมถึงมีผลต่อไฟล์เสียงมากกว่าสาย LAN
คือเมื่อวานเย็นนึกถึงท่าน hp เลยลองต่อ Thumbdrive ผ่านสายต่อ USB ยาว 1.8 ม. (ราคาถูก ร้อยกว่าบาท) เข้า Oppo83 เล่นไฟล์เพลง mp3 320kb
พบว่าเสียงดรอปจนน่าตกใจมาก
เมื่อเทียบกับการเสียบ drive เข้าโดยตรงที่เครื่องที่ให้เสียงดีกว่ามาก และเสียงที่ได้จากการเสียบตรงก็พอๆ กับการฟังโดยการใช้โปรแกรม Universal Media Server เปิดไฟล์ผ่าน 83 (ไม่ transcode นะครับ) ใช้สาย lan 2เส้น ยาว 10 กับ 15 ม. , ขอใช้คำว่าพอๆ กัน เพราะฟังแบบผ่านๆ ไม่ได้นั่งตรงที่ประจำ
ส่วนไฟล์หนัง เทียบเสียบ thumbdrive ตรงเข้าเครื่องกับใช้ UMS ผมให้พอๆ กัน ยังไม่ได้ลองกับสายต่อพ่วง
เมื่อคืนก็นั่งงงๆ อยู่ เพราะใช้สายต่อ USB เส้นนี้ ใช้ต่อกับ Ext HDD ก็อปเกม 15G ลองกดดูความเร็วก็อยู่ที่ประมาณ 25 MB
ก็ถามตัวเองอยู่เหมือนกันว่าที่เราบอกคนอื่นไปจะถูกหรือเปล่า แต่นึกไม่ออก เลยไม่ได้ข้อสรุป
โชคดีมาเจอท่าน tiger พอดี ช่วยไขข้อสงสัยให้หน่อยได้ไหมครับว่าที่ผมเจอกับสายต่อพ่วง USB มันเป็นไปได้อย่างไร
-
ไมคอยเข้าใจคำถามนะครับ ...เอาคร่าวๆก่อน
usb สงได้ทั้ง 2แบบ
แบบส่ง ข้อมูล ดาต้า...เอาแฟรชไดร์ ไปต่อ BD ..(ส่งข้อมูลยังไม่ผ่านโปรแกรมเพล์เยอร์)
สงแบบมัลติมีเดีย ผ่านโปรแกรมเพล์เยอร์ ไฟล์จะคาบเกียวกับเวลา ตัวcode file เปลี่ยนไปแล้ว เช่นเลน เพลง mp3 (โค๊ดไฟล์เป็น PCM ไมใชmp3แล้ว)
การแบบส่งข้อมูล ระหว่าง lan กับ USB อันไหนแบนวิชมากกวากันจำไม่ได้ครับ นาจะเป็น lan ครับที่มากกว่า
-------------
usb ส่งหา DAC (โค๊ดไฟล์แปลงแล้ว)
อยู่ ชิพ usb interface รองรับอะไรบ้าง เช่น PCM DSD บิทเรทได้ขนาดไหน...แล้วแต่ตัวชิพครับ
-------------
สาย usb (4 เส้น 5V/ d+/d- /gnd)
5V/gnd เป็นไฟDC
d+/d- เป็นไฟ AC สำหรับส่งข้อมูล(ความถี่สูง)
ค่าความต้าน การนำไฟฟ้า การตอบสนองถี่...มีผลต่อเสียงอยู่แล้วครับ
ส่วนเรืองไฟ Dc 5V (ไฟเลี้ยง) มีผลต่อเสียงเหมือนกัน
นึกถึง ...เปลียนสายไฟACเครืองเสียง (สายไฟเลี้ยง) แล้วมีผลต่อเสียงครับ
-------------------
เสริมนิดนึง ...อะไหล่่ เช่น C R L หรือ โลหะ เช่นสายสัญญาณ ลายวงจร
มันไม่ได้แยก ว่าเป็น ดิจิจตอล หรือ อนาล็อก...
แต่มันทำงาน ..ตามคุณลักษณะ...ทางไฟฟ้าของมันครับ
-
หามาให้ครับ (จาก wiki)
usb version speed(Mbit/s)
1.0 12
2.0 480
3.0 5000
3.1 10000
สายแลนก็จะมีหลาย speed เช่น 10, 100, 1000Mbit/s
ถ้าจะแปลงเป็นหน่วย MByte/s ก็ให้หาร 8 นะ
ส่วน PCM ต้องการ speed ในการส่งข้อมูลประมาณ 1.5Mbit/s สำหรับข้อมูลเพลง 2 channel(stereo)
ถ้าผลการทดลองของท่าน Sander เป็นจริง แสดงว่า
1. การต่อสาย usb 1.8m เทียบกับการต่อ usb โดยตรงนั้น ทำให้เกิดความแตกต่างของ speed ในการส่งข้อมูล
เช่นการต่อโดยตรงอาจได้ speed ที่ 1.5Mbit/s การต่อผ่านสายอาจจะได้ speed ที่ 1.4Mbit/s จึงส่งผลต่อคุณภาพ
เสียงที่ท่าน SanDer ได้ยิน ผมสรุปแบบนี้เพราะยังนึกเหตุผลอื่นไม่ออก ว่านอกจากเรื่อง speed ของการส่งข้อมูลแล้ว
จะมีอะไรที่ทำให้มีผลต่อคุณภาพเสียง
แต่ท่านอาจจะแย้งข้อสรุปของผมเพราะ speed ของ usb นั้นมันมากกว่า 1.5Mbit/s มากๆ (ท่าน SanDer copy ไฟล์
ได้ตั้ง 25MB/s) อันนี้ผมก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน ผมว่ามันต้องมีความแตกต่างอะไรในกลไกลึกๆ ของการรับ-ส่งข้อมูล
ของ PCM กับข้อมูลดาต้าไฟล์ธรรมดาแน่ๆ
2. คุณภาพเสียงจากสายแลน 10 15 เมตรฟังได้เทียบเท่ากับการต่อ usb โดยตรง อันนี้ผมเข้าใจว่าตัวเครื่องเล่นน่าจะรับ
มูลทางสายแลนแล้วมาเก็บลงหน่วยความจำภายในของเครื่องเล่น(buffer)ได้ปริมาณนึง แล้วค่อยนำข้อมูลจาก buffer
ส่งให้ dac อีกทอดนึง เสียงที่ได้จึงไม่ดรอปลง (ประมาณว่าได้ speed เต็มที่ 1.5Mbit/s เหมือนกับต่อ usb โดยตรง)
หลักการนี้นำไปใช้กับการ steaming ผ่านไวไฟ, บลูทูธ, อินเตอร์เนทด้วยนะ
แต่ทำไมกระบวนการของ PCM ไม่ใช้หลักการของ buffer บ้างหละ .... นั่นสิ คุณภาพของเสียงจะได้ไม่ต้องขึ้นกับคุณภาพ
ของสายอีกต่อไป
-
สาย usb ส่งแบบdata ก็มี buffer ครับ
การส่งข้อมูล น่าเป้นที่ตัวสาย (เรื่องของโลหะนำไฟฟ้า)สังเกตสาย usb ถูกๆ กับเกรดดีหน่อย
ความเร็วในการส่งข้อมูลจะต่างกันนิดหน่อย....น่าจะเป็นส่วนนี้ที่ทำให้ผลมีกับเสียง
ตามที่คุณ SanDer ได้ลองน่ะครับ
-
COAX กับ Analog RCA ( ถ้าราคาสายพอๆกัน )
แต่...ผมว่าขึ้นอยู่กับ DAC ครับ
ผมใช้ DAC นอกตัวละ พันกว่าบาท เทียบกับ DAC ใน BDP เครื่องละ 3 พันกว่า
DAC นอกกินครับ .. รายละเอียดดีกว่า แยกยแะดีกว่า นิดหน่อย