ผู้เขียน หัวข้อ: เบาหวานขึ้นตา ตรวจรักษาก่อนสูญเสีย  (อ่าน 81 ครั้ง)

ออฟไลน์ mooky555

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 724
    • ดูรายละเอียด


เบาหวานขึ้นตา เป็นภาวะแทรกซ้อนอันดับต้นๆ ของผู้ที่กำลังป่วยด้วยโรคเบาหวานที่ไม่อาจควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เข้าขั้นมาตรฐานได้ เนื่องจากดวงตาก็เป็นอวัยวะหนึ่งที่ได้รับผลพวงโดยตรงจากภาวการณ์น้ำตาลในเลือดสูงเช่นเดียวกับส่วนอื่นๆของร่างกาย เพียงแค่คนไข้เองมักไม่เคยรู้สึกถึงความแตกต่างจากปกติของดวงตาในระยะต้นที่เผชิญกับโรคเบาหวาน ด้วยความไม่รู้ตัวก็เลยทำให้ขาดการตรวจตาและจากนั้นก็รับการดูแลและรักษาอย่างที่จะต้องเป็น ในกรณีที่เป็นเบาหวานแล้วก็ควบคุมได้ไม่ดีนานกว่า 10 ปี จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคโรคเบาหวานขึ้นตามากถึง 80% เป็นเหตุให้เกิดโรคแทรกซ้อนรุนแรงอื่นๆตามมา และก็อาจถึงขนาดสูญเสียอวัยวะสำคัญได้ผู้หนุนหลังที่สุด

เบาหวานขึ้นตา เกิดขึ้นได้อย่างไร?
เบาหวานขึ้นตายอดเลิศในภาวะแทรกซ้อนที่สามารถพบได้มาก โดยหากว่าหรูหราน้ำตาลในเลือดสูงสะสมเป็นระยะเวลานาน จะนำมาซึ่งการทำให้ฝาเส้นเลือดฝอยจัดการเปลี่ยนไปจากปกติ เส้นเลือดเล็กๆทั่วทั้งยังร่างกายจะหมดสภาพไปทีละนิด รวมทั้งเส้นเลือดฝอยที่ไปเลี้ยงดวงตาจะมีสถานการณ์โป่งพอง มีการรั่วซึมและขับน้ำส่วนเกินออกทางดวงตา ในระยะรุนแรงจะพบหลอดเลือดแตกออกไม่ดีเหมือนปกติรวมทั้งมีพังผืดร่วมด้วย ซึ่งเกิดสถานการณ์เลือดออกกระทั่งเรตินาลอก แล้วก็สูญเสียการมองเห็นไปในที่สุด

ลักษณะโรคโรค เบาหวานขึ้นตา  แบ่งได้หลายระยะ ดังนี้
- เบาหวานขึ้นตาระยะเริ่มต้นถึงระยะตรงกลาง : ทีแรกๆฝาของเส้นเลือดที่เรตินาจะเริ่มไม่แข็งแรงแล้วก็เริ่มโป่งพอง มีจุดเลือดออกและการรั่วซึมของเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงดวงตาอยู่บ้าง ถึงแม้ยังไม่มากเท่าไรนัก จัดเป็นระยะที่ยังไม่มีเส้นเลือดเกิดใหม่ (Nonproliferative Diabetic Retinopathy: NPDR) โดยอาการเริ่มของผู้บาดเจ็บมักไม่มีอาการชี้ภาวการณ์ของโรคที่แจ่มชัด มักไม่รู้เรื่องสึกเคือง แสบตา หรือปวด ลักษณะดวงตาจากด้านนอกดูธรรมดา แม้ว่าหากมีจุดเลือดออกหรือการรั่วซึมบริเวณสาระสำคัญในตา อาจจะส่งผลให้มีค่าสายตาเปลี่ยนแปลง เห็นภาพเหยเก ความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการแยกประเภทสีลดลง หรือมีเงาดำบังการมองแลเห็นเล็กน้อย โน่นเพราะเบาหวานขึ้นตาเริ่มทำลายจอประสาทตาจากข้างในแล้ว

-เบาหวานขึ้นตาระยะเจริญก้าวหน้า : หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงดวงตาเริ่มเสื่อมสภาพรวมถึงตันจนกระทั่งไม่อาจจะไหลเวียนได้ตามเคย ทำให้เรตินาขาดเลือด ร่างกายจะสร้างเส้นเลือดฝอยผลิออกใหม่ขึ้นมาทดแทน (Proliferative Diabetic Retinopathy: PDR) แม้กระนั้นมีความเปราะบางอ่อนแอมากกว่าปกติ และอาจมีพังผืดร่วม ผู้เจ็บป่วยจะพบรูปแบบของระยะเริ่มต้นจวบจนกระทั่งระยะกลางร่วมกับอาการที่รุนแรงขึ้น อาทิเช่น เลือดที่ออกในวุ้นตาบดบังการมองแลเห็น เรตินาลอก หรือมีภาวะแทรกซ้อนเพิ่มอีกเกิดเป็นต้อหินทุติยภูมิ อื่นๆอีกมากมาย ซึ่งภาวการณ์เหล่านี้ปรับปรุงได้ยาก และก็มักทำให้สูญเสียการมองแลเห็นตอนท้าย

ภาวะแทรกซ้อนจากสถานการณ์เบาหวานขึ้นตา
● จุดภาพชัดบวม : อาจเกิดได้กับเบาหวานทุกระยะ อาจเป็นด้านเดียวหรือสองข้างก็ได้ ผู้ป่วยอาจแลเห็นจุดดำบริเวณกลางภาพ สายตากลัดกลุ้ม แยกสีได้กำกวม สภาพการณ์การมองแลเห็นผิดปกติจนกระทั่งไม่ดีต่อกิจวัตรที่ทำเป็นประจำ ดังเช่นว่า การขับรถยนต์ การอ่านหนังสือ และการใช้สายตาจดจ่ออยู่กับบางสิ่ง อื่นๆอีกมากมาย

● ต้อกระจก : เมื่อสภาพการณ์เบาหวานสะสมนานวันน้ำตาลในเลือดจะมีการกลายเป็นสารซอร์บิทอล (Sorbitol) รวมถึงฟรุกโตส (Fructose) สะสมอยู่บริเวณเลนส์ตา ทำให้เลนส์ตาขุ่นขึ้น รวมถึงบังแสงไฟไม่ให้ผ่านเข้าไปถึงดวงตา ภาวการณ์ต้อกระจกนี้จะต้องทำผ่าตัดเอาเลนส์ที่หม่นหมองออก และก็ใส่เลนส์เทียมเข้าไปทดแทน

● เลือดออกในวุ้นตาและเรตินา : หลอดเลือดที่ไม่แข็งแรงบริเวณดวงตาสามารถปริแตกได้ทุกหนด้วยเหตุว่าความเปราะบาง ถึงแม้เลือดออกไม่มากมายก่ายกองจะเห็นเป็นจุดสีดำลอยเทียวไปเทียวมาตามหนทางที่กรอกตามอง แม้กระนั้นหากแม้มีเลือดออกในจำนวนมหาศาลอาจบังการมองแลเห็นได้

● เพิ่มการเสี่ยงการรับเชื้อในดวงตาแล้วก็เบ้าตา : สภาพร่างกายที่ไม่เหมาะสม ทำให้ภาวการณ์ภูมิคุ้มกันดำเนินการบกพร่อง อาจเพิ่มการเสี่ยงสำหรับในการติดเชื้อ ทำให้ตาพร่ามัวเร็วกว่าสถานการณ์ของโรค รวมทั้งอาจไม่สามารถกลับมามองเห็นได้อย่างแจ่มแจ้ง แม้ว่าจะได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างมากก็ตาม

● เรตินาลอก : ถ้าเบาหวานขึ้นตาอยู่ในระยะก้าวหน้า จอประสาทตาส่วนที่ขาดเลือดจะถูกกระตุ้นให้สร้างเส้นโลหิตใหม่ที่ไม่อยู่ตรงตำแหน่งปกติ มีผนังเปราะแตกง่าย และอาจเกิดเยื่อราวกับพังผืดผลิออกตามเส้นเลือด จนถึงดึงรั้งจอประสาทตาให้หลุดลอก ผู้บาดเจ็บบางครั้งก็อาจจะมองเห็นแสงไฟเสมือนฟ้าแลบ หรือจุดดำบังภาพบางส่วนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งส่งผลต่อการมองเห็นโดยตรง ถึงขั้นตาบอดได้

● ต้อหิน : คนที่กำลังป่วยด้วยโรคเบาหวานในระยะดียิ่งขึ้นที่มีการสร้างหลอดเลือดเปลี่ยนไปจากปกติอาจเกิดภาวะต้อหินทุติยภูมิขึ้น โดยกลุ่มเส้นโลหิตแล้วก็พังผืดเหล่านี้จะไปรบกวนการระบายน้ำออกมาจากดวงตา ทำให้ความดันดวงตาสูงขึ้น คนไข้มักมีลักษณะอาการปวดตาเนื่องจากความดันตาสูง หากเป็นนานเข้าโดยไม่ได้รับการรักษาจะเกิดความชำรุดทรุดโทรมถาวรต่อเส้นประสาทที่ปฏิบัติหน้าที่ส่งรูปภาพจากตาไปยังสมอง ทำให้ประสาทตาฝ่อรวมทั้งเป็นต้อหินโดยบริบูรณ์

● สูญเสียการมองแลเห็น : จุดมุ่งหมายของสภาพการณ์เบาหวานขึ้นตาที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างทันเวลาอาจรุนแรงกว่าที่คิด เมื่อเบาหวานขยายขึ้นหน้าหน้าจอประสาทตา จะมีการทำลายของเซลล์ประสาทตาและขั้วประสาทตา หรือเกิดภาวะแทรกสอดต่างๆเสริมเติม ถ้าไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอถูกวิธี อาจจะทำให้คนไข้สูญเสียการมองเห็นอย่างยั่งยืน

เบาหวานขึ้นตาคุ้มครองปกป้องได้ ด้วยการตรวจเลือกกรองเบาหวานขึ้นตาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
การตรวจเลือกกรองเบาหวานขึ้นตา ต้องมีการขยายม่านตาเพื่อตรวจจอประสาทตา โดยกรุ๊ปแพทย์จะหยอดยาขยายม่านตาให้แก่ผู้บาดเจ็บ เพื่อม่านตาขยายตัว เมื่อม่านตาของผู้ป่วยขยายออกจนกระทั่งเต็มที่ หมอรักษาตาจะปฏิบัติส่องกล้องตรวจหาความไม่ดีเหมือนปกติของจอประสาทตา ซึ่งเป็นแถวทางมาตรฐาน เห็นผลการตรวจที่ละเอียดรวมทั้งถูกที่สุด ภายหลังจากได้รับยาขยายแล้วม่านตาจะกลับสู่ภาวการณ์ปกติใน 3-4 ชั่วโมง แต่ว่าในรายที่เป็นโรคเบาหวานมานาน ม่านตาอาจใช้เวลาหดกลับมาธรรมดายาวนานกว่า 4 ชั่วโมงขึ้นไป นอกนั้นแล้วในเรื่องที่พบความแตกต่างจากปกติ อาจแนะนำให้ถ่ายภาพเฉพาะส่วนเพิ่มเติมเพื่อคุณค่าในการติดตามรักษา

เมื่อได้รับการวิเคราะห์ว่าเป็นโรคโรคเบาหวาน น่าจะตรวจเลือกสรรกรองเบาหวานขึ้นเรตินาอย่างละเอียดโดยทางข้างต้นอย่างฉับพลัน เพราะไม่อาจจะรู้ได้เลยว่าสถานการณ์เบาหวานได้สะสมในร่างกายมานานเยอะแค่ไหนแล้ว ถ้าหากไม่พบความผิดปกติแล้วหลังจากนั้นก็ควบคุมระดับน้ำตาลเจริญก้าวหน้า อาจตรวจติดตามอย่างต่ำปีละ 1 ครั้ง หากแม้ถึงแม้พบความเปลี่ยนไปจากปกติที่เรตินา หรืออยู่ในช่วงเวลาที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้ จำเป็นต้องติดตามผลให้บ่อยขึ้นตามระยะและจากนั้นก็ความรุนแรงของโรค

โรงหมอหลุดพ้นพร้อมให้บริการตรวจรักษาโรคเบาหวานแบบครบวงจร ดูแลเบาหวานขึ้นตารวมทั้งภาวะแทรกซ้อนที่อาจตามมา โดยกรุ๊ปแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเบาหวาน ต่อมไร้ท่อ และกรุ๊ปหมอรักษาสายตา ด้วยเครื่องมือทางห้องแลปที่ทันสมัยเพื่อตรวจหาระดับน้ำตาลในเลือด ตรวจระดับน้ำตาลสะสมในเม็ดเลือด ตรวจโปรตีนไข่ขาวในเยี่ยว ตรวจระดับไขมันในเลือดชนิดไม่ดี ตรวจหน้าที่หลักการทำงานของตับ ไต และที่สำคัญตรวจตรวจการไหลเวียนของเส้นโลหิต (Vascular Doppler) และตรวจเท้าแบบละเอียด (Foot Examinations) ด้วยอุปกรณ์เฉพาะ รวมถึงติดตามผลการตรวจตลอด 6 เดือน กับ ‘แพ็กเกจโรคเบาหวาน’ ในราคาโปรโมชั่นเพียง 4,800 บาท เพื่อแน่ใจว่าคุณจะค่อยรายการจ่าย ไกลห่างจากเบาหวานขึ้นตา ได้รับการดูแลเบาหวานอย่างครอบคลุมคุ้มแล้วหลังจากนั้นก็มีสุขภาพที่แข็งแรง

ให้ดวงตาเป็นหน้าต่างของดวงใจที่แจ่มใสไปอีกนาน ด้วยการพบหมอรักษาสายตาตรวจหาการเสี่ยงเบาหวานขึ้นตาและตรวจภาวะแทรกซ้อนของเบาหวานเป็นประจำทุกปี ด้วยความที่อาการมัวไม่ได้เกิดขึ้นในระยะต้นของโรคเสมอก็เลยไม่ควรคอยตราบจนกระทั่งมีลักษณะ การตรวจโรคโรคเบาหวานขึ้นตาที่คุ้มที่สุด เป็นการตรวจตั้งแต่ยังมองเห็นได้ธรรมดา ทั้งยังการดูแลและรักษาจะยังได้ผลดีกว่าถ้าอยู่ในระยะต้นไปจนถึงระยะกลาง ตัดจังหวะและก็ปกป้องรักษาไม่ให้ขยายไปถึงเบาหวานระยะก้าวหน้า ไกลห่างภาวะแทรกซ้อนและจากนั้นก็ลดวิถีทางเสี่ยงต่างๆที่อาจส่งผลต่อการมองเห็นได้

ซักถามข้อมูลเพิ่มเติมรวมทั้งนัดเจอแพทย์
เรียบเรียงโดย : พญ. จิรนันท์ สินทรัพย์ทวีผลบุญ หมอรักษาตา แพทย์ผู้ชำนาญการโรคต้อหิน ศูนย์ดวงตา ชั้น 5 โรงหมอหลุดพ้น

ศูนย์ตา ชั้น 5 โรงหมอหลุดพ้น
เวลา 08.00-20.00 น. หรือโทร 0-2079-0058
หรือดาวน์โหลด ViMUT Application เพื่อนัดหมายแพทย์ หรือบริการขอคำปรึกษาหมอออนไลน์