ตอบคำถามคุณ owens นะคะ เราเคยตอบไปแล้วในกระทู้เดิม สรุปรายละเอียดพร้อมเพิ่มเติม ตามนี้ค่ะ
ดูจากที่คุณ owens ถามถึง เครื่องเล่น Media Player ทั้ง 2 ตัว ระหว่าง Dune HD DUO 4K กับ Zappiti 4K HDR DOU เข้าใจว่าคุณ owens น่าจะสนใจรุ่น Hi-End เลย เราแนะนำว่าถ้าจะซื้อ Dune Duo 4K ราคาขนาดนี้ เราว่าเล่น Oppo UDP-203 ดีกว่า คุ้มกว่า ราคา 23,900 บาท ซึ่ง
Dune Duo 4K ราคาของ nicety shop อยู่ที่ 30,500 บาท
https://www.facebook.com/DUNE-HD-by-nicety-shop-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-180469548796683/ ของ LENNSHOP ซีคอนสแควร์ อยู่ที่ 28,900 บาท
http://www.lennshophd.com/4kplayermini-pcandroid/415-dune-hd-base-duo-4k.html ซึ่งก็ยังเป็น HDMI 1.4a เท่านั้น ทำให้ส่งสัญญานภาพ ไปได้แค่ 4K 30fps เท่านั้น ในขณะที่ OPPO UDP-203 ใช้ HDMI 2.0a ส่งสัญญานภาพ ไปได้ถึง 4K 60fps HDR10 รวมทั้งยังมี HDMI Out เพียงช่องเดียว แต่ OPPO UDP-203 นั้นมี HDMI OUT 2 ช่อง Main กับ Audio แยกภาพและเสียงออกจากจากกัน ให้สัญญาน Loss น้อยที่สุด ดังนั้น ราคานี้ถือถูกกว่า DUNE มากเลยทีเดียว
ความเห็นส่วนตัว เราว่า OPPO UDP-203 ภาพ เสียง ดีกว่า ZAPPITI 4K HDR นะ แต่เล่น File .ISO ไม่ได้นะ เราไม่ได้ jailbreak แต่มันมีโปรแกรมแปลงก่อนแล้วสามารถดู ได้ใน OPPO UDP-203 ค่ะ แต่ได้บาง File เท่านั้น (แต่ตัวนี้ไปโมเพิ่มเปลี่ยนท้าย IEGO แกนเงินชุบ Rhodium+สายไฟ Monster Power Line 400+Fuse Marsh+ขั้วจับฟิวส์เป็นทอง โดยช่างของ Magnet กับเปลี่ยน สายไฟ AC ของ Lapp Kable รุ่น Oleflex Type II 4 SQmm หัวปลั๊ก Pass & Seymour 5266-X Male Plug ท้าย Schurter 4781.0100 Female IEC) ที่เราชอบมากกว่า Zappiti คือเราไม่ชอบระบบ android เอาไว้เน้นดูหนัง ดูคอนเสิร์ต อย่างเดียวจริงๆ และที่ชอบมากกว่า Zappiti 4K HDR อีกอย่างคือ Sub Thai อยู่ตำ่ด้านขอบล่างของภาพ แต่ Zappiti อยู่สูงขึ้นมาทับภาพ เราว่าเกะกะตา และ fm ตัวใหม่ๆ ของ Zappiti เราว่าแย่กว่าเดิมนะ คหสต.
ข้อดี ข้อเสีย ระหว่าง OPPO UDP-203 กับ Zappiti 4K HDR สำหรับเราที่เคยใช้ทั้ง 2 ตัว เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ แต่ละคนอาจชอบไม่เหมือนกัน (แต่ในที่นี้ไม่พูดถึง Egreat A5 A10 Zidoo นะคะ เพราะ เราไม่เคยใช้)
ข้อดี
1. OPPO UDP-203 ภาพ เสียง ดีกว่านะคะ สีสดใสสว่างภาพคมกริป กว่า Zappiti 4K HDR อย่างชัดเจนเลยค่ะ ทั้ง mkv และ 4K เวลาจะฟังเพลงอย่างเดียวก็มี mode pure audio ด้วย แยกสัญญานภาพ เสียง เพื่อให้ loss น้อยที่สุด
2. ข้อดี อีกอย่างของการแยก HDMI Main กับ Audio คือ เรามี AVR รุ่นที่ยังเป็น แค่ 3D HDMI 1.4a แต่ TV เป็น 4K HDR 10bit HDMI2.0a ถ้ามี HDMI ช่องเดียวทำให้เราใช้งาน TV และ เครื่องเล่นได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
3. วัสดุ ของ OPPO UDP-203 ดีกว่า Zappiti 4K HDR มาก ทั้ง รีโมทคอนโทรล ภายนอก ภายใน เช่น capacitor ตัวต้านทานในแผงวงจร จนกระทั้งชิปเซต เป็นระดับ Audio Grade เลย
4. เวลาใช้งาน Zappiti มันจะมีหน่วงๆ เหมือนระบบ มันจะต้องวิ่งไปหา Sever ตลอด ยิ่งวันไหน net กากนี่ up fw หรือ ทำปกไม่ได้เลย
5. firmware ใหม่ๆ ของ Zappiti หลัง fm3.0.3 เราว่าแย่กว่าเดิม ไม่ตอบโจทย์ ผู้ใช้งานจริง ภาพนี่ fw3.0.8 ดำจมสนิท ภาพกาก จนต้องเสียบผ่าน AVR ให้ TV เป็นตัว upscale แทน
6. เวลาจะดูหนัง ผ่านปกที่ทำไว้ มันจะช้าๆ เวลามันจะ Link กับ file ดูใน Experor จะเร็วกว่าเยอะ
7. ใน Experor ไม่สามารถ โชว์ เป็นหน้า wall ได้เหมือน รุ่นเก่าอย่าง Mede8er ดูได้แต่เป็น list เราว่า Mede8er ดีกว่า Zappiti เยอะ เลยขาย Zappiti ทิ้ง เก็บไว้แต่ OPPO UDP-203 กับ Mede8er1000x3D
8. Zappiti รุ่นใหม่กว่า Mede8er แต่ Mede8er กลับ เสถียรกว่า เร็วกว่า ทนถึกสุดๆ ใช้มาตั้ง 7 ปี ยังเหมือนเดิม ใช้งานง่ายกว่า รื่นไหล ไม่สะดุด ปัญหาจุกจิกไม่มีเหมือน Zappiti
9. Zappiti ถ้า fw ใหม่ มีปัญหา การ Re-firmware ยุ่งยาก
10. ที่ชอบมากกว่า Zappiti 4K HDR อีกอย่างคือ Sub Thai อยู่ตำ่ด้านขอบล่างของภาพ แต่ Zappiti อยู่สูงขึ้นมาทับภาพ เราว่าเกะกะตา
11. OPPO UDP-203 เล่นแผ่นได้ แต่ Zappiti ดูไฟล์ได้อย่างเดียว
12. ตัว Zappiti 4K HDR One กับ Duo นั้น เป็นระบบ Fan-Less ไม่มีพัดลม พอเราเอา HDD ไปใส่แล้วจะร้อนมากๆเลย เคยเอาปืนยิงเลเซอ วัดอุณหภูมิไปยิง HDD WD Blue นี่ร้อนถึง 45'c ถ้าเป็น HDD WD Black ร้อนถึง 50'c เลยทีเดียว ถ้าดูหนังผ่านช่อง HDD Hot Swap ทุกวัน HDD อายุสั้นแน่ๆ เท่ากับว่าเราต้องต่อ USB ภายนอก ผ่าน Docking HDD ถึงจะไม่ร้อน [แต่มีข้อเสียคือ ช่อง USB ภายนอกไม่มีปุ่มปลด HDD USB อย่างปลอดภัย (USB Safely Remove) เหมือน Mede8er 1000x3D รุ่นเก่า ซึ่งจะทำให้ HDD ของเราพังไวขึ้น] อย่างนั้นก็ต้องใช้รุ่น Mini ซึ่งรุ่น Mini firmware จะมาทีหลังตลอด ถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ เช่น Egrate, Zidoo X10 X20 ,Dune Dou 4K,Dune Base 4K เขาจะมีพัดลมให้ทั้งหมด ไม่รู้จะลด Cost อะไรนักหนา ราคาก็แพงที่สุดในบรรดา Chipset Realtek 1295dd ด้วยกัน
13. มีข้อสังเกตอีกอย่าง เมื่อต่อผ่าน AVR ก่อนเข้า TV สีสรร ความคมชัด ภาพจะสวยกว่าต่อจาก Zappiti โดยตรงเข้า TV อย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ นั่นแสดงว่า Upscale ของ TV ดีกว่า Zappiti นั่นเอง (ซึ่งตรงนี้เราเข้าใจว่า น่าจะเกี่นวกับ TV ของแต่ละคน และ AVR ที่เราใช้ด้วย)
14. Zappiti 4K HDR เวลากดปุ่ม Pause เวลาต้องการหยุดหนัง จอจะขึ้นเครื่องหมาย Play ตัวใหญ่ๆ เกะกะตามาก ซึ่ง OPPO UDP-203 กับ Mede8ter1000*3D ไม่เป็น
15. Zappiti 4K HDR เวลาเราต้องการเลื่อนเวลา จะไม่มีปุ่ม Time Seek เลือกได้แค่ไปเป็น 10% 20%...90% เท่านั้น แต่ OPPO UDP-203 กับ Mede8ter1000*3D มีปุ่ม Time Seek สามารถ Jump Time ได้เลยว่าจะไป นาทีที่เท่าไหร่ วินาทีที่เท่าไหร่ไปได้หมด ใช้งานสะดวกกว่ากันเยอะเลย
ข้อเสีย
1. OPPO 203 โชว์ปกไม่ได้ manu โชว์ รูป กับ file หนัง แยกกันชัดเจน
2. OPPO 203 ชื่อเรื่องภาษาไทยใน file มันจะไม่โชว์ให้ดู
3. OPPO 203 มีหนังบางเรื่องที่ Sub Thai ไม่ขึ้นแต่น้อยมากๆ อย่างเรามีหนัง 2,000 เรื่อง ที่ไม่ขึ้น Sub Thai มี 2-3 เรื่อง เท่านั้น คือหนังเกือบทุกเรื่อง จะมีอย่างน้อย 1 Sub Thai จะดูได้ แต่เสียงไทย ฟังได้หมด
4. file .ISO ดูไม่ได้ ติด ลิขสิทธิ แต่มีโปรแกรมแปลงในคอม ก่อนดูใน OPPO 203 แต่ได้ไม่ทุก file ค่ะ