Set ผม
AVR: Yamaha RX-3020
Front: A7
Center: A6
Sur: A3
Sur Back: Tsi100

ต้องเบิร์นให้ระบบอิ่มตัวทางไฟฟ้า ซัก 3-4 เดือน ถึงจะสัมผัสความอิ่มแน่นนะครับ

ผมเสริมให้ครับ หลายๆคนสงสัยว่าต้องเบิร์นสาย เบิร์นเครื่อง เบิร์นลำโพงก่อน มันคืออะไร
ส่วนตัวผมเข้าใจที่มาที่ไปน่าจะคล้ายๆกับเบิร์นยาง ให้พร้อมก่อนใช้งานจริง
การเบิร์นในระบบเครื่องเสียง (Acoustic System) คือการทำให้สภาวะทางไฟฟ้ากระแสสลับอิ่มตัว (Steady state)
สัญญานเสียงถือเป็นสัญญานไฟฟ้ารูปแแบบหนึ่งที่มีสมบัติเหมือนระบบไฟฟ้ากระแสสลับ และตัวที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางไฟฟ้า หรือเสียงนั่นคือ
ระบบความต้านทางได้แก่ Resistance, Conductance และ Capacitance รวมเป็นค่า Impedance และธรรมชาติของไฟฟ้ากระแสสลับคือ
1. สัญญานไฟฟ้าจะวิ่งที่ผิวตัวนำเสมอ ไม่วิ่งด้านในตัวนำ (ไฟฟ้ากระแสตรงถึงจะวิ่งเต็มทั้งตัวนำ) นี่ถึงเป็นที่มาว่า สายแบบฝอยกับแบบเส้นเดี่ยวๆ เสียงถึงต่างกัน
2. ชนิดของฉนวน ทำให้เกิด Capacitance ไม่เท่ากัน ฉนวนทำหน้าที่เป็น Electrolyte เก็บประจุจากสัญญานเสียงนั่นแหละจนกระทั่งคงที่  ถึงเป็นที่มาว่า สายแบบเทปล่อน กับแบบโพลี่ เสียงถึงต่างกันเพราะ มีความถี่บางย่านถูกบายพาสไป ไม่ถึงลำโพง
3. ความยาวสาย ชนิดตัวนำ (Resistance) การตีเกลียวสาย (Inductance) การเข้าหัว ให้บุคลิคเสียงที่ต่างไป เพราะค่า Impedance ในระบบเปลี่ยน
4. ลำโพงก็ต้องการ การเบิร์นทั้งไฟฟ้า และวัสดุด้วย (บรรดาขอบยาง กรวยลำโพง) รวมถึง AVR, Amplifier ก็ต้องการให้ระบบไฟฟ้าภายในอุปกรณ์เข้าสู่สภาวะ Steady state หรืออิ่มตัวนั่นเอง

คงพอช่วยให้เห็นภาพบ้าง