ผู้เขียน หัวข้อ: "เบล" มีลุ้น นักเตะคนที่ 6 คว้าแชมป์ในบ้านเกิด  (อ่าน 273 ครั้ง)

ออฟไลน์ xcepter2016

  • Full LED TV member
  • ****
  • กระทู้: 2,805
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
เนื่องจาก รอบชิงชนะเลิศ  จะแข่งขันกัน ที่สนามมิลเลเนี่ยม ในเมือง คาร์ดิฟ ประเทศ เวลส์ บ้านเกิดของเขา ซึ่งจะเป็นการจารึกชื่อของตัวเอง ต่อจาก นิโคลัส อเนลก้า รุ่นพี่ร่วมทีม ที่คว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกกับเรอัลมาดริด ที่ฝรั่งเศส บ้านเกิดของตัวเอง เมื่อปี 2000

สิงห์ จ่อได้แชมป์! คอสต้า-อาซาร์ล่าถิ่นแบ๊กกี้ส์
"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี หากนัดนี้เก็บชัยได้จะคว้าแชมป์ลีกเมืองผู้ดีสมัยที่ 5 ทันที คาดว่าจะจัดทัพเต็มอัตราแน่นอน นำโดย ดีเอโก้ คอสต้า และ เอแดน อาซาร์ ลงล่าตาข่าย เกมออกเยือน ''เดอะ แบ๊กกี้ส์'' เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันศุกร์ที่ 12 พ.ค. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : บีอิน สปอร์ตส์ 1 (เวลา : 02.00 น.)

ปรีวิว ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม 2560
เวสต์บรอมวิช  -  เชลซี
ถ่ายทอดสด

: บีอิน สปอร์ตส์ 1 (เวลา : 02.00 น.)
สนาม : เดอะ ฮอว์ธอร์นส์
        เกมฟรายเดย์ไนท์คู่สำคัญ เชลซี ขอชนะก็จะการันตีคว้าแชมป์ลีกสูงสุด ฤดูกาล 2016-17 ทันที ซึ่งจะเป็นแชมป์สมัยที่ 5 นับตั้งแต่เปลี่ยนมาเป็นพรีเมียร์ลีก
        เจ้าบ้าน เวสต์บรอมวิช อัลเบียน เพิ่งกลับมาเก็บคะแนนแรกในรอบ 5 นัด หลังบุกเสมอ เบิร์นลี่ย์ 2-2 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หยุดความพ่ายแพ้ 4 นัดรวด และหยุดยิงประตูไม่เป็นเอาไว้ที่ 5 นัด
        กุนซือ โทนี่ พูลิส ต้องรอเช็กอาการ จอนนี่ อีแวนส์ กองหลังที่เจ็บข้อเท้ามาจากนัดก่อน แต่คาดว่าจะหายทัน และพร้อมลงรับมือแนวรุกของทีมจ่าฝูง
        ฮัล ร็อบสัน-คานู กองหน้าที่หายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ากลับคืนทีมด้วย แต่ยังไร้เงา แม็ตต์ ฟิลลิปส์ ปีกที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าอยู่ก่อน
        การจัดทัพ ผู้รักษาประตู เบน ฟอสเตอร์ ลงเฝ้าเสา แผงหลัง 4 คนประกอบด้วย เคร็ก ดอว์สัน, แกเร็ธ แม็คคอลี่ย์, จอนนี่ อีแวนส์ และ มาร์ค วิลสัน
        แดนกลาง ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ คุมเกมกับ เจค ลิเวอร์มอร์ และ คริส บรันท์
        3 ประสานแนวรุกอาจเรียก เจมส์ มอร์ริสัน หรือ นาเซอร์ ชาดลี่ กลับมาลงร่วมกับ เจมส์ แม็คเคลน และ โฮเซ่ ซาโลมอน รอนดอน
        ฝั่ง สิงโตน้ำเงินคราม จะได้เฉลิมฉลองทันที หากบุกชนะที่ เดอะ ฮอว์ธอร์นส์ แต่หากทำไม่ได้ ก็ต้องเลื่อนไปเป็นเกมเปิดบ้านรับ วัตฟอร์ด วันจันทร์แทน
        สถานการณ์ตอนนี้ สิงห์บลูส์ นำ สเปอร์ส เป็น 7 คะแนน ขณะที่เหลือเพียง 3 นัดสุดท้าย
        อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือชาวอิตาเลียน จึงจ่อคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกตั้งแต่ซีซั่นแรกที่มาคุมทีม และมีโอกาสซิวดับเบิ้ลแชมป์ด้วย เพราะ เอฟเอ คัพ ก็เข้าชิงกับ อาร์เซน่อล วันเสาร์ที่ 27 พ.ค.
        สภาพทีม คอนเต้ ยืนยันว่าสมบูรณ์พร้อมทุกจุด นั่นก็หมายความว่า เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กองกลางตัวรับฟิตกลับคืนทีมแล้ว หลังเจ็บกล้ามเนื้อเล็กน้อย จนไร้เงาในเกมถล่ม มิดเดิลสโบรช์ 3-0 เมื่อวันจันทร์
        อดีตกุนซือทีมชาติอิตาลี พร้อมจัดชุดใหญ่เพื่อการันตีแชมป์ ก่อนปล่อยตัวสำรองและดาวรุ่งลงเล่น 2 นัดสุดท้ายที่เล่นในบ้านทั้งคู่ พบ วัตฟอร์ด และ ซันเดอร์แลนด์
        การจัดทัพ ผู้รักษาประตู ติโบต์ กูร์กตัวส์ แนวรับ 3 คน เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, ดาวิด ลุยซ์, แกรี่ เคฮิลล์ และวิงแบ็ก วิคเตอร์ โมเสส กับ มาร์กอส อลอนโซ่
        แดนกลาง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ คุมเกมกับ เนมานย่า มาติช แนวรุกเลือกระหว่าง เปโดร โรดริเกซ หรือ เชส ฟาเบรกาส ลงประสานงาน เอแดน อาซาร์ กับ ดีเอโก้ คอสต้า
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
        เวสต์บรอมวิช : เบน ฟอสเตอร์, เคร็ก ดอว์สัน, แกเร็ธ แม็คคอลี่ย์, จอนนี่ อีแวนส์, มาร์ค วิลสัน, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, เจค ลิเวอร์มอร์, คริส บรันท์, เจมส์ มอร์ริสัน (นาเซอร์ ชาดลี่), เจมส์ แม็คเคลน, โฮเซ่ ซาโลมอน รอนดอน
        เชลซี : ติโบต์ กูร์กตัวส์, เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, ดาวิด ลุยซ์, แกรี่ เคฮิลล์, วิคเตอร์ โมเสส, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เนมานย่า มาติช, มาร์กอส อลอนโซ่, เปโดร โรดริเกซ (เชส ฟาเบรกาส), เอแดน อาซาร์, ดีเอโก้ คอสต้า
        ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์
ผลงานการพบกันที่บ้านเวสต์บรอมวิช
เวสต์บรอมวิชชนะ 23 เชลซีชนะ 22 เสมอ 16
ประตูที่ทำได้ : เวสต์บรอมวิช 102 ลูก เชลซี 76 ลูก
- เวสต์บรอมวิช ชนะ 3 จาก 5 เกมลีกหลังสุดที่พบเชลซี ที่เดอะ ฮอว์ธอร์นส์ (เสมอ 1 แพ้ 1) หลังแพ้ตลอด 5 เกมแรกที่เจอกันระหว่างปี 2003 ถึงปี 2011
- สิงห์บลูส์แพ้แค่ครั้งเดียวจาก 8 เกมลีกหลังสุดที่พบเดอะ แบ็กกี้ส์ (ชนะ 4 เสมอ 3) ด้วยสกอร์ 3-0 เมื่อพฤษภาคม 2015 ในเกมที่เชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปก่อนแล้ว
- 21 เกมลีกหลังสุดระหว่างคู่นี้ ไม่เคยจบลงแบบไร้สกอร์ โดยมีเพียงอาร์เซน่อลและสเปอร์ส (22) ที่เวสต์บรอมวิชไม่เสมอ 0-0 มากกว่า
- ดีเอโก้ คอสต้า ยิงได้ 3 จาก 5 เกมลีกหลังสุดที่ลงสนามพบเวสต์บรอมวิช (ยิงรวม 3 ประตู)
- นับตั้งแต่ชนะ 13 เกมติดต่อกันที่พบเวสต์บรอมวิชในทุกรายการ ระหว่างปี 1993 ถึง 2011 เชลซีไม่สามารถชนะแบ็กกี้ส์ติดต่อกันใน 10 เกมหลัง โดยพวกเขาสามารถหยุดสถิตินี้ได้จากเกมนี้ หลังชนะ 1-0 ในนัดที่แล้ว เมื่อเดือนธันวาคม
- เชลซี มีผู้เล่นโดนไล่ออกตลอด 2 เกมลีกหลังสุดที่เยือน เดอะ ฮอว์ธอร์นส์ : จอห์น เทอร์รี่ ฤดูกาลที่แล้วและ เชส ฟาเบรกาส ฤดูกาล 2014-15
- แบ็กกี้ส์ ยิงประตูได้แค่ 2 จาก 9 เกมลีกหลังสุด นับตั้งแต่เริ่มต้นเดือนมีนาคม
- นับตั้งแต่เดือนเมษายน เวสต์บรอมวิชได้แค่ 2 แต้มจาก 6 เกมลีก (เสมอ 2 แพ้ 4) เป็นสถิติแย่ที่สุดในลีกในช่วงเวลาดังกล่าว
- ถ้าเชลซีชนะนัดนี้ จะได้แต้มนอกบ้าน 42 คะแนนในฤดูกาลนี้ (มากที่สุดในลีก) และจะทาบผลงานเก็บแต้มนอกบ้านสูงสุดในพรีเมียร์ลีกของแมนฯ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2011-12
- ถ้าเชลซีชนะนัดนี้ จะคว้าแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 6 และเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งที่ 5 มีเพียงแมนฯ ยูไนเต็ด (13) ที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมากกว่า
- หากเชลซีคว้าแชมป์ อันโตนิโอ คอนเต้ จะพาทีมซิวแชมป์ลีก 4 ฤดูกาลติดต่อกันในฐานะกุนซือสโมสร หลังคว้าแชมป์เซเรีย อา กับยูเวนตุส ฤดูกาล 2011-12, 2012-13 และ 2013-14
- คอนเต้มีโอกาสเป็นกุนซืออิตาเลียนคนที่ 5 ที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีต่อจาก คาร์โล อันเชล็อตติ (2009-10), โรแบร์โต้ มันชินี่ (2011-12) และ เคลาดิโอ รานิเอรี่ (2015-16)
- นอกจากนั้น กุนซืออิตาเลียนจะเป็นผู้จัดการทีมคนที่ 4 ที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลแรก (มูรินโญ่ 2004-05, อันเชล็อตติ 2009-10 และเปเยกรินี่ 2013-14)
ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา (บ้านเวสต์บรอมวิช)
เวสต์บรอมวิช แพ้ เชลซี 2-3
23 สิงหาคม 2015 ผู้ตัดสิน : มาร์ค แคลทเท่นเบิร์ก
ผู้ทำประตู : 0-1 เปโดร โรดริเกซ น.20, 0-2 ดีเอโก้ คอสต้า น.30, 1-2 เจมส์ มอร์ริสัน น.35, 1-3 เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า น.42, 2-3 เจมส์ มอร์ริสัน น.59
ใบแดง : จอห์น เทอร์รี่ (เชลซี) น.54