แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Shopd2

หน้า: 1 ... 875 876 [877] 878 879 ... 889
15769


“ไอคอนคราฟต์” พื้นที่แห่งงานฝีมือสุดสร้างสรรค์ของคนไทย จัดกิจกรรม “ผ้าย้อมสีธรรมชาติ 12 ชุมชน” มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรรมผ้าไทยสู่สากล ภายใต้โครงการพัฒนามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมผ้าไทยสู่สากล ประจำปี 2564 งานจัดขึ้นตลอดเดือนกันยายนศกนี้ ณ ไอคอนคราฟต์ ชั้น 4 ไอคอนสยาม หรือเลือกช้อปออนไลน์ได้ที่ ICONSIAM Ultimate Chat & Shop เพียงแอดไลน์ พิมพ์ @ICONSIAM แชตและช้อปง่ายๆ พร้อมดีลสุดพิเศษทุกวัน

งานครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อร่วมสืบสานและต่อยอดองค์ความรู้ภูมิปัญญาการย้อมผ้าอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่นจาก12 ชุมชนทั่วประเทศไทย จนกลายมาเป็นความเชี่ยวชาญและเทคนิคเฉพาะตัวที่สืบต่อจากภูมิปัญญาบรรพบุรุษผ้าย้อมสีธรรมชาติ คือการสกัดสีจากวัตฤดิบธรรรมชาติที่มาจาก พืช สัตว์ และแร่ราตุต่างๆ โดยการนำมาย้อมเส้นใยและผืนผ้า เพื่อใช้เป็นเครื่องนุ่งห่มและใช้สอยในชีวิตประจำวัน ซึ่งคนไทยผูกพันกับสีย้อมธรรรมชาติมาช้านาน ปัจจุบันสีย้อมธรรมชาติเริ่มมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ คุณภาพของสีจากธรรมชาติที่มีความสดและแตกต่างจากสีสังเคราะห์ และผ้าย้อมสีจากธรรมชาติยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งการตื่นตัวของกระแสอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและกระแสสืบทอดภูมิปัญญาองค์ความรู้ท้องถิ่นในกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่เพิ่มมากขึ้น จึงเกิดงานวิจัยการย้อมสีธรรรมชาติโครงการพัฒนามรตกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรรมผ้าไทยสู่สากล เพื่อมุ่งมั่นรวบรวมองค์ความรู้และภูมิปัญญาการย้อมผ้าของไทยจากชุมชนต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาคกว่า12 ชุมชน เพื่อเป็นข้อมูลที่จะนำไปสู่การพัฒนาใเกิดประโยชน์ต่อไป เช่น กลุ่มทอผ้าย้อมครามบ้านคำประมง จากจังหวัดสกลนคร ที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษในการย้อมคราม กลุ่มย้อมสีธรรมชาติบ้านหนองบัวแดง จากจังหวัดชัยภูมิ ที่มีความเชี่ยวชาญในการย้อมสีจากผลมะเกลือ เป็นต้น


นอกจากนี้ ความพิเศษภายในกิจกรรมครั้งนี้ คือการนำผ้าย้อมสีธรรมชาติมาต่อยอดผ่านฝีมือของ2 ดีไซเนอร์แถวหน้าของเมืองไทยอย่าง คุณศิริชัย ทหรานนท์ ดีไซเนอร์จากห้องเสื้อแบรนด์THEATRE (เธียเตอร์) อันเป็นที่ยอมรับจากลูกค้าในไทยและต่างประเทศ ที่เห็นความสวยงามและเสน่ห์ของผ้าไทย จนได้รับเลือกให้ดีไซน์เสื้อผ้าจากผ้าไทยในโปรเจ็ค “ดอนกอย โมเดล” โดยนำผ้าไทยมาดีไซน์ในแบบต่างๆ ตามเทรนด์แฟชั่นปัจจุบัน และคุณวิชระวิชญ์ อัครสันติสุข ดีไซน์เนอร์เจ้าของแบรนด์ WISHARAWISH (วิชระวิชญ์)  แบรนด์แฟชั่นที่มีความโดดเด่นและกำลังถูกจับตามองอีกแบรนด์ ที่มาให้ความสนใจกับผ้าไทยและใส่ไอเดียลงบนงานดีไซน์ให้ผ้าไทยมีความโมเดิร์นร่วมสมัย แต่ยังคงเสน่ห์ความงามของผ้าไทยเอาไว้ สวมใส่สบายและสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน

ร่วมอุดหนุนชุมชนภูมิปัญญาผ้าย้อมสีธรรมชาติของไทย จาก12ชุมชน ได้ตลอดทั้งเดือนกันยายนนี้ ที่ไอคอนคราฟต์ ชั้น4-5 ไอคอนสยาม หรือเลือกช้อปออนไลน์ได้ที่ ICONSIAMUltimate Chat & Shop เพียงแอดไลน์ พิมพ์@ICONSIAM แชทและช้อปง่ายๆ พร้อมดีลสุดพิเศษทุกวันสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.1338 หรือwww.iconsiam.com

15770


ฟรานเชสโก้ ลาปอร์ต้า นักกอล์ฟหนุ่มมือ 264 ของโลกจากอิตาลี ขยับขึ้นมาเป็นผู้นำศึก บีเอ็มดับเบิลยู พีจีเอ แชมเปียนชิพ วันที่สาม หลังเก็บสกอร์รวมเพิ่มเป็น 14 อันเดอร์พาร์ ด้านของ กิรเดช อภิบาลรัตน์ ผู้นำสองวันแรกจากไทย ฟอร์มหล่นเสียตำแหน่งจ่าฝูง

ศึกกอล์ฟ ยูโรเปียน ทัวร์ รายการ 'บีเอ็มดับเบิลยู พีจีเอ แชมเปียนชิพ' ชิงเงินรางวัลรวม 8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 260ล้านบาท) ณ สนามเวนท์เวิร์ธ กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,254 หลา พาร์ 72 ที่เมืองเซอร์รีย์ ประเทศอังกฤษ โดยวันที่ 11 กันยายน ที่ผ่านมา เป็นการดวลสวิงรอบสาม

ปรากฏว่าผู้นำเปลี่ยนมือจาก กิรเดช อภิบาลรัตน์ ก้านเหล็กชาวไทย มาเป็น ฟรานเชสโก้ ลาปอร์ต้า สวิงชาวอิตาเลียน หลังลงสนามตี 3 เบอร์ดี 1 อีเกิล เสีย 2 โบกี จบวันได้มา 3 อันเดอร์ รวมสกอร์เป็น 14 อันเดอร์พาร์ ขึ้นมานำหน้า ลอรีย์ แคนเทอร์ อันดับ 2 เจ้าบ้าน 1 สโตรก

ด้านของ 'โปรอาร์ม' รอบนี้ตีผิดพลาดทำ 1 เบอร์ดี แต่เสีย 3 โบกี จบวันเกินไป 2 โอเวอร์ สกอร์รวมหดเหลือ 10 อันเดอร์พาร์ หล่นมาอยู่อันดับ 10 ร่วม ตามหลังผู้นำ 4 สโตรก แต่ยังมีโอกาสลุ้นแซงหากรีดฟอร์มดีได้วันสุดท้าย

ส่วนมือดังคนอื่นๆ จัสติน โรส อดีตมือ 1 โลกขวัญใจชาวอังกฤษ รอบนี้ตีรวมได้ 9 อันเดอร์พาร์ อยู่อันดับ 14 ร่วม และ 'จีแม็ค' แกรม แม็คดาวน์ มือเก๋าจากไอร์แลนด์เหนือ อันดับ 58 ร่วม สกอร์ 3 อันเดอร์พาร์

15771
6 วัน 6 วิชา ก้าวแรกของการขายของออนไลน์ จบรู้เรื่องในคอร์สเดียว เพียง 98 บาท

15772


เป็นการปล่อยซิงเกิ้ลเดี่ยวเพลงแรกของนักร้องสาวโกอินเตอร์ขวัญใจชาวไทยอย่าง “ลิซ่า แบล็กพิงก์” หรือ “ลลิษา มโนบาล”กับเพลงที่ชื่อว่า LALISA และประสบความสำเร็จอย่างมาก ตอนนี้ยอดวิวพุ่งไป 35 ล้าน ภายใน 7 ชม. ขึ้นเป็นเพลงมาแรงอันดับหนึ่งของยูทิวบ์ ขณะที่ยอดผู้ติดตามขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง 65.4 ล้านคน แซงจัสติน บีเบอร์ไปแล้ว รวมทั้งมีการรีวิวอารมณ์หลังจากที่ได้ดูมิวสิกวิดีโอจากแฟนๆ แทบทุกมุมโลกออกมา และพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าขนลุก น้ำตาท่วมสุดๆ

ที่สำคัญเหล่าแฟนคลับที่เป็นระดับซุป'ตาร์ของเมืองไทยก็ตื่นเต้นกับเพลงนี้กันไม่น้อย ทั้งตัดต่อหน้าตัวเองเข้ากับตัวของลิซ่าบ้าง หรือตัดเอาบางท่อนของมิวสิกวิดีโอโพสต์ลงโซเชียล อีกทั้งยังเตรียมแกะท่าเต้นเพื่อโคฟเวอร์ตามกันเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็น มิน พีชญา, แต้ว ญฐพร, เอ ศุภชัย, เดียร์น่า ฟลีโป้, วู้ดดี้, ดาว พิมพ์ดาว, บุ๋ม ปนัดดา, หญิงแย้, เบส คำสิงห์, จันจิ ฯลฯ ต้องบอกว่าปังสุดนาทีนี้ต้องยกให้ลิซ่าจริงๆ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 กันไปเลย

15773


"Lazada" เว็บไซต์ขายของออนไลน์ ได้รวบรวมแฟชั่นในมิวสิควิดีโอซิงเกิลล่าสุด LALISA ของศิลปินสาวชาวไทย "ลิซ่า ลลิษา มโนบาล" ทั้ง ชุดไทยสีทอง พร้อมเครื่องประดับอย่างจัดเต็ม

จากกรณีที่ มิวสิควิดีโอซิงเกิลล่าสุด LALISA ของศิลปินสาวชาวไทย "ลิซ่า ลลิษา มโนบาล" เป็นสมาชิกคนที่ 3 ของวงเกิร์ลกรุ๊ปสัญชาติเกาหลี แบล็คพิงค์ (Blackpink) เผยแพร่ออกมาเมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 10 ก.ย. พบว่ามีผู้ชมอย่างล้นหลามจนติดอันดับ 1 ในยูทูป ที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นคือชุดไทยที่ "ลิซ่า" สวมใส่ซึ่งเป็นการนำศิลปะไทยเข้าไปผสมผสานกับความเป็นสากลร่วมสมัยในเอ็มวี

ล่าสุด เฟซบุ๊ก "Lazada" เว็บไซต์ขายของออนไลน์ ได้รวบรวมแฟชั่นชุดไทย เครื่องประดับในเอ็มวี ไว้ให้ช้อปได้ในแอปพลิเคชันลาซาด้า โดยมีชุดไทยสีทอง ราคา 1,650 บาท , รัดเกล้ายอด 300 บาท , กำไลสีทอง 75 บาท , รองเท้า 173 บาท , ลิป 1,050 บาท โดยทางเพจระบุข้อความว่า "ลาซาด้าเลิฟมี ลาซาด้าเลิฟมี น้องลาซหยุดร้องไม่ได้ แฟชั่นสุดปังเเบบนี้ ช้อปได้ที่แอปลาซาด้าเลยย! น้องลาซรวมมาให้เเล้ว ไปจ้า ไปตำกันด่วนนนนนนน!
 

15774
6 วัน 6 วิชา ก้าวแรกของการขายของออนไลน์ จบรู้เรื่องในคอร์สเดียว เพียง 98 บาท

15775
  • KKY เพิ่มสมรรถภาพทางเพศของคุณให้แกร่งขึ้น กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
  • ️ กล่องเดี๋ยวจบ​ ️
  • สยบทุกเหตุการณ์​ เบิ้ลรอบ​ บำรุง​ ฟื้นฟู​ในกล่องเดียว​
  • วิธีทาน** เน้นบำรุง ทานวันละ1 แคปซูน ก่อนนอน
  • เน้นเฉพาะกิจ ทาน 2 แคปซูน ก่อนออกกิจ 30 นาที
  • ✅ไม่มีผลข้างเคียงครับ
  • ✅ไม่ปวดหัว
  • ✅หน้าไม่แดง
  • ✅ใจไม่สั่น
  • ____________________
  • ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ มั่นใจในคุณภาพ ด้วยมาตรฐานความปลอดภัย มี อย. รับรองครับ
  • เน้นบำรุง - ทาน 1 แคปซูนก่อนนอน
  • เน้นออกกิจ - ทาน 2แคปซูน ก่อนออกกิจ 30 นาที


15776


นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ BGC ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แก้วรายใหญ่ในไทยและภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เดินหน้าปรับโครงสร้างการลงทุนในธุรกิจพลังงานเป็นรูปแบบ Passive Investment มีสัดส่วนการลงทุนน้อยกว่าร้อยละ 20 เพื่อกระจายความเสี่ยง และคงไว้ซึ่งเสถียรภาพและความมั่นคงของรายได้ รวมถึงสอดคล้องกับนโยบายที่มุ่งเน้นการลงทุนและเติบโตในธุรกิจบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก ภายใต้เป้าหมายระยะยาวที่ต้องการมียอดขายเพิ่มขึ้นอีกกว่าเท่าตัว จาก 1.1 หมื่นล้านบาท เป็น 2.5 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2568

ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา มีมติให้นำเสนอผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2564 วันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 เวลา 14.00-16.00 น. ผ่านระบบออนไลน์ (Electronic Meeting) ดังนี้

อนุมัติการจำหน่ายหุ้น 100% ที่ถืออยู่ในบริษัท โซล่า พาวเวอร์ แมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (SPM) ให้แก่ บริษัท บีจี เอ็นเนอร์ยี่ โซลูชั่น จำกัด (BGE) เพื่อแลกกับหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ BGE จำนวน 7.5 ล้านหุ้น หรือ 27.27% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ BGE

อนุมัติการจำหน่ายหุ้นจำนวน 2.02 ล้านหุ้น หรือ 7.35% ที่ถืออยู่ใน BGE ให้แก่บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน) (BG) ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ ได้รับเงินจำนวนกว่า 600 ล้านบาท และคงเหลือสัดส่วนถือหุ้นในธุรกิจด้านพลังงานผ่าน BGE ที่ 19.93% อนุมัติให้ SPM ทำสัญญากู้ยืมเงินจาก BGE วงเงินไม่เกิน 270 ล้านบาท เพื่อให้ SPM มีเงินทุนในการชำระเงินกู้ยืมเดิมและดอกเบี้ยค้างชำระ

“หลังจากที่เราได้ปรับโมเดลธุรกิจยกระดับจากผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แก้ว สู่ Total Packaging Solutions ด้วยการนำเสนอบริการบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร (One stop service) ตั้งแต่บรรจุภัณฑ์แก้ว พร้อมฉลาก ฝา และกล่องกระดาษ บริษัทฯ จึงมุ่งขยายการลงทุนในธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก นำมาซึ่งการปรับโครงสร้างธุรกิจด้านพลังงานในครั้งนี้” นายศิลปรัตน์ กล่าว

นายศิลปรัตน์ กล่าวต่อว่า บริษัทฯ เตรียมนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายหุ้น BGE และได้รับคืนเงินกู้ยืมจาก SPM มาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการหลัก และชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้นบางส่วนที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ นับจากเดือนมกราคมที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ขยายการลงทุนในธุรกิจบรรจุภัณฑ์และลงทุนเตาหลอมแก้วแล้วกว่า 5,000 ล้านบาท ได้แก่ การเข้าถือหุ้น 100% ในบริษัท บีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (BGP) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายฟิล์มพลาสติก ฝาพลาสติก ขวด PET หลอดพรีฟอร์ม และเข้าถือหุ้น 100% ในบริษัท บางกอกบรรจุภัณฑ์ จำกัด (BVP) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบรรจุภัณฑ์กระดาษ ใช้งบลงทุนรวมประมาณ 1,650 ล้านบาท ซึ่งดำเนินการแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย

ส่วนการลงทุนก่อสร้างเตาหลอมแก้วแห่งใหม่ในจังหวัดราชบุรี ใช้งบลงทุน 1,600 ล้านบาท และลงทุนขยายกำลังผลิตโรงงานจังหวัดปราจีนบุรี ใช้งบลงทุนรวม 910 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 โครงการอยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566 ซึ่งทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกกว่า 13% เป็น 3,935 ตันต่อวัน จากปัจจุบันอยู่ที่ 3,495 ตันต่อวัน

นอกจากนี้ ได้ขยายกำลังการผลิตถุงบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging) ในบริษัท บีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (BGP) เพื่อตอบสนองความต้องการถุงบรรจุภัณฑ์ในประเทศที่มีอัตราการเติบโตสูงและขยายฐานลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงต่อยอดเข้าสู่ธุรกิจกลางน้ำ เพื่อผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน โดยใช้งบลงทุนกว่า 180 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มดำเนินการไตรมาส 1/2565 และผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายในไตรมาส 1/2566

“จากการที่รัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ให้รับประทานอาหารภายในร้านอาหารได้บางส่วน ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน
ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับผลดีจากการจำหน่ายขวดบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มและน้ำดื่มเพิ่มขึ้น และถ้าสถานการณ์ยังดีอย่างต่อเนื่อง เราคาดว่ารัฐบาลจะทยอยผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์อย่างต่อเนื่องในไตรมาสสุดท้าย ซึ่งจะทำให้เกิดการจัดกิจกรรมต่างๆ ในช่วงปลายปีและกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อผลประกอบการของบริษัทฯ ในปีนี้ที่จะมีรายได้และกำไรเติบโตกว่าปีก่อน” นายศิลปรัตน์ กล่าว

15777


ชลธิชา แสงพันธุ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ บริษัท แอนะลิติสต์ จำกัด ผู้สร้างแพลตฟอร์ม GROWTHai ระบุว่า อยากให้แพลตฟอร์ม GROWTHai ซึ่งเกิดจากบริษัทคนไทย 100% นี้เป็นตัวแทนของคนไทยที่จะไปเรียนรู้ แบ่งปัน และในทางกลับกันเป็นโอกาสไปรับความรู้จากสตาร์ทอัป CDP จากทั่วโลก และมุ่งเน้นสร้างความสัมพันธ์เพื่อขยายธุรกิจร่วมกันในอนาคตอีกด้วย 

“ธุรกิจไทยต้องมีเครื่องมือทางการตลาดที่ชาญฉลาด และเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยอย่างแท้จริง สังเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทันเวลา และที่สำคัญอยู่ในงบประมาณที่คุ้มการลงทุนได้ในระยะเวลาอันสั้น”



สำหรับ GROWTHai คือ CDP (Customer Data Platform) ซึ่งนับเป็น MarTech (Marketing Technology) ที่จะเข้ามายกระดับการตลาดไทยนำทุกธุรกิจมุ่งสู่ Growth Marketing อย่างแท้จริง หรือในเชิงเทคนิค GROWTHai คือ เครื่องมือการตลาดแบบอัตโนมัติ ขับเคลื่อนด้วยผลดาต้าที่มาจากการวิเคราะห์เชิงลึกในแบบเรียลไทม์

ภายในจะประกอบด้วย GROWTHai Predict ในการวิเคราะห์คอนซูเมอร์อินไซต์ เพื่อหาความต้องการใหม่ๆ จนถึงคาดการณ์ความต้องการแบบเรียลไทม์ GROWTHai Customer 360 รวมทุกข้อมูลจากทุกช่องทางเข้าด้วยกัน GROWTHai Segment ในการแบ่งกลุ่มลูกค้าแบบอัตโนมัติ

รวมถึง GROWTHai Lottovip Automation ในการสร้างประสบการณ์ใช้งานที่ดีที่สุดให้ลูกค้าในแต่ละกลุ่มมแบบอัตโนมัติ และที่สำคัญคือระบบรักษาความปลอดภัย GROWTHai Protection ที่มีการคำนึงถึงสิทธิในการใช้งานข้อมูล การบริหาร จัดเก็บแบบอัตโนมัติ

15778
6 วัน 6 วิชา ก้าวแรกของการขายของออนไลน์ จบรู้เรื่องในคอร์สเดียว เพียง 98 บาท

15779


เมื่อ ครม. เคาะเยียวยาประกันสังคม ม.33 ให้อีก 1 เดือน ทำให้ผู้ประกันตนทุกกลุ่ม (ม.33 ม.39 ม.40) ใน 13 จังหวัดสีแดงเข้ม มีสิทธิได้รับเงินเยียวยารวม 2 เดือน หลัง "เช็คสิทธิ" ประกันสังคมแล้ว ต้องรู้ไทม์ไลน์วันโอนเงิน รอบ 2 ว่าเงินจะเข้าวันไหน?

มาตรการเยียวยา "ประกันสังคม" ที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564 มาจนถึงวันนี้ รวมระยะเวลากว่า 2 เดือนแล้ว และยังคงดำเนินการต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เพื่อเยียวยาผู้ประกันตน ม.33 ม.39 ม.40 ในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมโควิด-19 ของภาครัฐ ในช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านมา

แต่รู้หรือไม่? ผู้ประกันตน ม.33 ม.39 ม.40 ในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัดจะได้ "เงินเยียวยา" ไม่เท่ากัน! บางจังหวัดจะได้เยียวยา 2 เดือน บางจังหวัดได้เยียวยาเพียงเดือนเดียว 

กลุ่มจังหวัดที่ได้เยียวยาเพิ่มเป็นสองเดือน และกำลังจะได้รับเงินในรอบ 2 นั้น มีจังหวัดไหนบ้าง? และจะได้รับโอนเงินวันไหน? เช็คคำตอบที่นี่! 

 

ม.33 ม.39 ม.40 จังหวัดไหนได้เงิน รอบ 2 บ้าง?
ผู้ประกันตนทั้ง ม.33 ม.39 ม.40 บางจังหวัดจะได้รับเงินเยียวยาเพิ่มอีก 1 เดือน รวม เป็น 2 เดือน โดยเงื่อนไขของผู้ที่จะได้เงินในรอบ 2 นั้น ต้องเป็นผู้ประกันตนที่อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัดเท่านั้น (10+3) ได้แก่ กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา

เนื่องจากทั้ง 13 จังหวัด ถูกสั่งปิดกิจการ/กิจกรรม หรือ ล็อกดาวน์ อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม

ส่วนผู้ประกันตน มาตรา 33 ในพื้นที่ 16 จังหวัดสีแดงเข้มที่เพิ่มมาใหม่ เป็นกลุ่มจังหวัดที่เพิ่งถูกสั่งปิดกิจการ/กิจกรรม ทีหลังในช่วงเดือนสิงหาคม จึงได้สิทธิเงินเยียวยาเพียง 1 เดือน (ไม่ได้สิทธิในรอบ 2)

 


 

กลุ่มที่ได้เงิน รอบ 2 เงินจะเข้าวันไหน?
สำหรับไทม์ไลน์วันโอนเงินเยียวยา รอบที่ 2 ให้แก่ผู้ประกันตนทั้ง ม.33 ม.39 ม.40 ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด มีรายละเอียด ดังนี้

ม.33 : หลังจากที่ ครม.ไฟเขียวให้เงินเยียวยา ผู้ประกันตน ม.33 ในพื้นที่ 13 จังหวัดสีแดงเข้ม เป็นรอบที่ 2 อีกคนละ 2,500 บาท เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการ โฆษกสำนักงานประกันสังคมคาดว่า ผู้ประกันตนกลุ่มนี้จะได้รับโอนเงินภายในเดือนกันยายน 2564 

ม.39-40 : ก่อนหน้านี้ในวันที่ 30 ส.ค. ที่ผ่านมา นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.กระทรวงแรงงาน เคยระบุไว้ว่า ครม. เห็นชอบให้ขยายการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกันตน ม.39-40 ในพื้นที่ 13 จังหวัดสีแดงเข้ม โดยจะได้รับสิทธิเยียวยาเพิ่ม 5,000 บาทต่อคน อีก 1 เดือน รวมเป็น 2 เดือน กลุ่มนี้ก็จะได้รับโอนเงินในรอบ 2 ภายในเดือนกันยายน 2564 นี้เช่นกัน

 


 

ถาม-ตอบ ประเด็นเงินเยียวยารอบ 2 จากประกันสังคม
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลจาก เพจแจ้งข่าวประกันสังคม ที่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีการโอนเงินเยียวยา รอบ 2 ให้แก่ผู้ประกันที่มีสิทธิในพื้นที่ 13 จังหวัดสีแดงเข้ม (ข้อมูล ณ 6 ก.ย. 64) โดยระบุไว้ดังนี้

ถาม : ม.39-40 ที่มีสิทธิได้เงินเยียวยา รอบ 2 โอนเงินวันไหน? 
ตอบ : ยังไม่ระบุวันที่ที่แน่ชัด แต่จะดำเนินการภายในเดือนกันยายน 2564 นี้
เช็คสิทธิ ‘ประกันสังคม’ ม.33 ม.39 ม.40 รอบ 2 โอนเงินวันไหน?

ถาม : ม.33 ที่มีสิทธิได้เงินเยียวยา รอบ 2 โอนเงินวันไหน? 
ตอบ : รอวันที่ 7 ก.ย. 64 เอาข้อเสนอเข้าที่ประชุม ครม. (ล่าสุด 7 ก.ย. 64 ครม. เคาะให้เงินเยียวยากลุ่ม ม.33 เพิ่มอีก 1 เดือนแล้ว คาดว่าจะโอนจ่ายได้ภายในเดือนกันยายน 2564)
 

ถาม : ผู้ประกันตน ม.40 ในพื้นที่ 19 จังหวัด (3+16) จ่ายเงินสมทบงวดแรกไปแล้วในวันที่ 1-24 ส.ค.64 แต่ยังไม่ได้สิทธิ?
ตอบ : ให้รอตรวจสอบสิทธิในระบบอีกครั้ง ภายในวันที่ 7-10 ก.ย. 64 ใครที่ยังไม่ขึ้นเป็นผู้กันตนในระบบสมาชิกประกันสังคม ให้ทยอยเช็คสิทธิเรื่อยๆ เพราะระบบจะทยอยอัพข้อมูลสิทธิขึ้นในระบบประกันตนอย่างต่อเนื่อง สามารถเช็คสถานะผู้ประกันตนได้ที่ : ระบบสมาชิกผู้ประกันตน 
ส่วนใครที่มีสถานะขึ้นเป็นผู้ประกันตนในระบบสมาชิกแล้ว ให้รอเช็คสิทธิรับเงินเยียวยา ในวันที่ 7 ก.ย. 64 เป็นต้นไป เช็คสิทธิได้ที่นี่ : ตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยาฯ (ผู้ประกันตน ม.40)

 

ถาม : ม.40 กลุ่ม 10 จังหวัด ที่สมัครเป็นผู้ประกันตนหลัง 31 ก.ค.64 และจ่ายเงินสมทบหลัง 10 ส.ค.64 จะได้รับสิทธิเงินเยียวยาหรือไม่?
ตอบ : ไม่ได้รับเงินเยียวยา (ไม่ต้องทบทวนสิทธิ)
 

ถาม : ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตน ม.40 มาก่อนแล้ว และจ่ายเงินสมทบมาตลอด แต่ไม่ได้สิทธิ?
ตอบ : ให้ตรวจสอบข้อมูลของท่านว่าถูกต้องหรือไม่ มีการเปลี่ยนชื่อ/คำนำหน้าหรือไม่ ถ้าชื่อถูกต้อง ให้นำสลิปการจ่ายเงินสมทบของเดือนกรกฎาคม 2564 ไปยื่นทบทวนสิทธิที่สำนักงานประกันสังคมในพื้นที่ที่อาศัยอยู่ได้เลย
 

ถาม : เป็น ม.40 ในพื้นที่ 13 จังหวัด (10+3) และจ่ายเงินสมทบแล้ววันที่ 2 ส.ค.64 แต่ไม่ได้รับสิทธิ?
ตอบ : ให้ยื่นทบทวนสิทธิได้เลย ไม่ต้องรอ สามารถโหลดแบบฟอร์มเพื่อยื่นทบทวนสิทธิโหลดได้ที่นี่ : แบบฟอร์มขอทบทวนสิทธิผู้ประกันตน มาตรา 39-40
 

ถาม : กรณีเปลี่ยนชื่อ หรือย้ายที่อยู่ จะได้เงินเยียวยาไหม?
ตอบ : ให้เช็คสถานะอีกครั้งในวันที่ 7-10 ก.ย. 64 หากยังพบว่าไม่ได้รับสิทธิ แต่เข้าเกณฑ์ว่าอยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด ให้เตรียมหลักฐานว่าทำงานพื้นที่นี้จริงๆ พร้อมเอกสารประจำตัวไปยื่นที่ ปกส. ณ ที่อยู่ปัจจุบัน พร้อมยื่นแบบขอทบทวนสิทธิด้วย

15780


SONIC มั่นใจรายได้ทั้งปีเติบโตทะลุเป้าหมาย หลังไตรมาส 2 กำไรพุ่งกว่า525% ประเมินครึ่งหลังปี 64 ยังสดใสต่อเนื่อง ชูกลุ่มให้บริการขนส่งทางเรือเป็นพระเอก

 ดร.สันติสุข  โฆษิอาภานันท์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) หรือ SONIC ผู้นำธุรกิจให้บริการการจัดการระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจรระดับภูมิภาค  ได้นำเสนอข้อมูลผลประกอบการไตรมาส2/2564และทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2564 ในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Lottovip Day)  โดยให้ความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนว่า ภาพรวมผลประกอบการทั้งปีรายได้จะเติบโตเกินเป้าหมายใหม่ที่บริษัทตั้งเป้าว่ารายได้จะขยายตัว 60%  


สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังปี 2564  ถือว่าเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจขนส่ง รวมทั้งธุรกิจของ SONIC  ซึ่งหากไม่มีสถานการณ์นอกเหนือความคาดหมายเกิดขึ้น บริษัทเชื่อว่า ผลการดำเนินงานยังเติบโตต่อเนื่องในทุกกลุ่มธุรกิจของ SONIC 

 โดยธุรกิจที่มีความโดดเด่นและมีการเติบโตสูงยังเป็นกลุ่มบริการขนส่งทางเรือซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้75-77% ของรายได้รวม ซึ่งกลุ่มลูกค้ายังกระจายอยู่ในทุกอุตสาหกรรม  โดยในไตรมาส2/64 กลุ่มบริการขนส่งทางทะเลมีสัดส่วนรายได้ถึง  78 %  การบริการขนส่งทางบก  17 % การบริการทางอากาศ 4.5 %


สำหรับธุรกิจการปล่อยสินเชื่อรถหัวลากให้กับพันธมิตรภายใต้โมเดล โลจิสซิ่งนั้น เชื่อว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมายปีนี้ที่ 200 ล้านบาท จากสิ้นสุดไตรมาส2/64  บริษัทสามารถปล่อยสินเชื่อรถหัวลากให้กับพันธมิตรได้แล้วประมาณ 150 ล้านบาท 


  “SONIC มั่นใจว่าภาพรวมผลงานทั้งปีจะเติบโตเกินเป้าหมาย  ที่บริษัทตั้งเป้าว่ารายได้จะเติบโต60%  เนื่องจากครึ่งหลังปีนี้ผลประกอบการมีแนวโน้มสดใสต่อเนื่อง  การขนส่งทางทะเลยังเป็นพระเอก  บริษัทยังรักษาฐานลูกค้าเก่าไว้อย่างเหนียวแน่น ขณะที่ลูกค้าใหม่ๆ ก็เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะลูกค้าเชื่อมั่นระบบการให้บริการขนส่งของSONIC ”ดร.สันติสุขกล่าว


ทั้งนี้ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 41.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.11 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 525.60% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่กำไรสุทธิ 6.68 ล้านบาท  ขณะที่งวด 6 เดือนแรกปี 2564  บริษัทมีกำไรสุทธิ 82.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62.55 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 312.91 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 19.99 ล้านบาท

15781


วันนี้ (9 ก.ย.) ณ ห้องปฏิบัติการรถไฟ ชั้น 3 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย และ น.ส.ไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล กรรมการบริษัท และรักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสอาร์ที เเอสเสท จำกัด ได้ทำพิธีลงนามร่วมกันในบันทึกข้อตกลงการบริหารจัดการทรัพย์สินระหว่าง รฟท.กับ บริษัท เอสอาร์ที เเอสเสท จำกัด โดยมีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร ประธานกรรมการรถไฟ นายอำนวย ปรีมนวงศ์ ประธานกรรมการ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด และคณะผู้บริหาร รฟท. และบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ร่วมเป็นสักขีพยาน

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าฯ รฟท. เปิดเผยว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงฯ ครั้งนี้ถือเป็นการปฏิรูปด้านการบริหารจัดการทรัพย์สินครั้งสำคัญของการรถไฟฯ และเป็นการดำเนินภารกิจตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2563 ที่เห็นชอบให้การรถไฟฯ ดำเนินการจัดตั้งบริษัทลูก บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ขึ้นเพื่อบริหารทรัพย์สินของการรถไฟฯ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยฟื้นฟู สร้างรายได้ให้แก่การรถไฟฯ ตามแผนฟื้นฟูกิจการฯ ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.)

ซึ่งการรถไฟฯ ได้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด แล้วเสร็จไปเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564 การลงนามความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการส่งมอบทรัพย์สินของการรถไฟฯ ให้แก่บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด เป็นผู้ดูแลบริหารจัดการแทน อย่างไรก็ดี กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินทั้งหมดนั้นยังคงเป็นของการรถไฟ ฯ เช่นเดิม

“ในช่วงแรกการรถไฟฯ จะเริ่มทยอยโอนทรัพย์สินโครงการขนาดใหญ่ที่มีการทำสัญญาไว้แล้วจำนวน 75 สัญญา มูลค่าทรัพย์สิน 1,645 ล้านบาท โดยใช้เวลาโอนเสร็จสิ้นภายในเวลา 2 เดือน ระหว่างเดือนกันยายน-ตุลาคม 2564 ซึ่งจะทำให้บริษัท เอสอาร์ที เเอสเสท จำกัด สามารถดำเนินการบริหารจัดการทรัพย์สินได้ทันที และหลังจากนั้นจะมีการทยอยโอนส่งมอบทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายดำเนินการโอนทรัพย์สินทั้งหมด 12,839 สัญญา มูลค่า 3,166 ล้านบาท แล้วเสร็จภายในปี 2565”

สำหรับ บริษัท เอสอาร์ที เเอสเสท จำกัด จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยบริหารจัดการและสร้างรายได้ให้การรถไฟฯ ทั้งด้านการบริหารสัญญาเช่าที่ได้รับมอบจากการรถไฟฯ การจัดหาผู้ลงทุนและการเช่าพื้นที่เพื่อพัฒนาโครงการบนที่ดินของการรถไฟฯ รวมทั้งการพัฒนาด้วยตนเอง การซื้อหรือเช่าที่ดินจากบุคคลภายนอกเพื่อพัฒนาหรือร่วมทุนเพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาวให้แก่การรถไฟฯ ซึ่งจะส่งผลให้การรถไฟฯ มีรายได้จากการบริหารทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น มีระบบบริหารจัดการที่มีมาตรฐานสากล และมีทางเลือกในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนอื่นๆ ตลอดจนยังส่งผลดีต่อภาพรวมในอีกหลายมิติ ทั้งมิติทางเศรษฐกิจในการช่วยกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ การจ้างงานการท่องเที่ยว ด้านสังคม ช่วยให้การบริหารพื้นที่ชุมชนที่บุกรุกสามารถดำเนินการให้มีประสิทธิภาพ ตลอดจนช่วยให้การบริหารจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมดีขึ้น

เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ถูกออกแบบมาให้เป็นอิสระและเป็นมืออาชีพด้านการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการรถไฟฯ คาดหวังว่าภายหลังการส่งมอบการบริหารทรัพย์สินแล้ว บริษัทฯ จะสามารถบริหารจัดการทรัพย์สินของการรถไฟฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อการรถไฟฯ สามารถสร้างรายได้แก่องค์กร และเป็นฟันเฟืองสำคัญในการช่วยพลิกฟื้นการรถไฟฯ ให้กลับมาเป็นองค์กรที่มีความเข้มแข็ง สามารถดูแลและให้บริการแก่พี่น้องประชาชนตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนยุทธศาสตร์กระทรวงคมนาคมได้อย่างยั่งยืน

15782


หลายประเทศเป็นสังคมอุดมปัญญา มีเสรีภาพแสดงความคิดเห็น แต่ก็เป็นเส้นขั้นบางๆ กับสังคมอุดมปัญหา เพราะมีข้อมูลข่าวสารชนิดตัดตอน บิดเบือนข้อเท็จจริง นำมาปั่นเป็นกระแส ซึ่งไม่รวมถึงเฟคนิวส์ที่ป่วนสังคมอยู่ โดยเฉพาะในช่วงระบาดโควิด-19

อินเดีย ประเทศที่จัดว่ามีการไหลเวียนของข้อมูลข่าวสารเหล่านี้เป็นอันดับต้นๆ ของโลก แล้วยิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19  อินเดียต้องเผชิญข้อกล่าวหาจากชาติตะวันตก ทั้งอังกฤษ และบราซิล ต่างมองว่า ประเทศนี้กำลังคลั่งไคล้ “ลัทธิชาตินิยมวัคซีน” 

เป็นที่รู้กันดีว่า อินเดีย ประเทศที่มีวิทยาการด้านการแพทย์และเวชภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก ขณะนี้รับหน้าที่เป็นศูนย์กลางการผลิตวัคซีนโควิด-19 ซึ่งมีผู้ผลิตวัคซีนหลัก 2 แห่ง คือสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย (ซึ่งผลิตวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าในประเทศและมีชื่อเรียกว่า โควิชีลด์) และภารัต ไบโอเทค (ซึ่งผลิตวัคซีนโควาซิน) สามารถผลิตวัคซีนรวมกันได้ประมาณ 90 ล้านโดสต่อเดือน ตามที่ระบุในรายงานของสำนักข่าวบีบีซี

การแพร่ระบาดโควิด-19 ในอินเดีย ถึงจุดพีคในเดือน พ.ค. และมีผู้ติดเชื้อสูงสุดกว่า 2 แสนรายต่อวัน มาจนถึงขณะนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันหลักหมื่น และมียอดสะสมรวม 33.1 ล้านราย 

เมื่อดูข้อมูลก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า การผลิตวัคซีนโควิด-19 ส่วนใหญ่จะจัดส่งเพื่อระดมฉีดให้ประชาชนในประเทศ ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 7 ก.ย. 2564 พบว่า มีการแจกจ่ายวัคซีนแล้ว 685 ล้านโดส และมีผู้ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว 159 ล้านคน

ขณะที่รัฐบาลอินเดีย ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า อินเดียไม่ได้ห้ามส่งออกวัคซีน และไม่ได้ปิดปากชาติตะวันตกที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์เรื่อง “ลัทธิชาตินิยมวัคซีน” ของอินเดียอยู่ตอนนี้ เช่นเดียวกับกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย กล่าวย้ำว่า การส่งออกวัคซีนจะดำเนินการโดยคำนึงถึงสถานการณ์ภายในประเทศ

ประเทศส่วนใหญ่ในโลกกำลังรับมือกับการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกสอง และระลอกสาม เนื่องจากสายพันธุ์เดลตาที่ร้ายแรงและหลบหลีกแอนติบอดีได้ดีเป็นตัวหนุนให้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น แต่ก็น่าสงสัยว่า รัฐบาลอินเดียได้บอกโลกในประเด็นนี้เหมาะสมเพียงใด เพราะขณะนี้หลายประเทศวิจารณ์อินเดียอย่างหนักในเรื่อง “การกักตุนวัคซีน”

สื่ออินเดีย ชี้ว่า “อังกฤษ” ประเทศที่ฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชนจนครบโดสแล้ว 43.5 ล้านคน และบราซิล ประเทศที่มีผู้ฉีดวัคซีนโดสแล้ว 66.7 ล้านคน และเพิ่งบอกยกเลิกวัคซีนซิโนแวคของจีนไป 12 ล้านโดส แต่กำลังเรียกร้องให้อินเดียส่งวัคซีนให้เพิ่ม โดยก่อนหน้านี้มีการจัดส่งวัคซีนให้แล้วตามกำหนด

กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า อินเดียได้จัดส่งวัคซีนไปแล้ว 64 ล้านโดสให้กับ 80 ประเทศ โดยในจำนวนนี้ 18 ล้านโดส ส่งผ่านโครงการโคแว็กซ์ของสหประชาชาติ

นี่เป็นเรื่องจริงที่อินเดียต้องเผชิญ และกระแสโซเชียลในประเทศก็ปั่นทับถมการดำเนินงานของรัฐบาลดูเละไม่เป็นท่า 

ขณะเดียวกัน ก็น่าแปลกใจกับกรณีสหรัฐทิ้งวัคซีนป้องกันโควิดไปแล้วอย่างน้อย 15.1 ล้านโดส มากกว่าที่เคยรับรู้กันและเป็นไปได้ว่ายังต่ำกว่าความเป็นจริง ขณะที่หลายประเทศยังไม่ได้ฉีด หรือถ้าฉีดก็น้อยมาก 

แต่บางคนก็แกล้งมองไม่เห็น แม้เรื่องนี้จะสุ่มเสี่ยงอยู่บนพื้นฐานกักตุนวัคซีนโควิด-19 ก็ตาม

15783


เอ็มม่า ราดูคานู นักเทนนิสสาวดาวรุ่งวัย 18 ปี เดินหน้าสร้างเซอร์ไพรส์ต่อเนื่อง หลังปราบ เบลินดา เบนซิช เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2020 ไป 2-0 เซต กลายเป็นนักหวดจากรอบควอลิฟายคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ผ่านเข้ารอบตัดเชือก ยูเอส โอเพ่น ได้สำเร็จ

ศึกเทนนิสแกรนด์สแลม รายการสุดท้ายของปี 'ยูเอส โอเพ่น 2021' ณ สังเวียนยูเอสทีเอ บิลลี ยีน คิง เนชั่นแนล เทนนิส เซ็นเตอร์ เมืองนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา วันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในรอบ 8 คนสุดท้าย

ประเภทหญิงเดี่ยว ที่อาเธอร์ แอช สเตเดียม เอ็มม่า ราดูคานู นักหวดสาวดาวรุ่งวัย 18 ปี มือ 150 ของโลกชาวสหราชอาณาจักร ยังเดินหน้าสร้างเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง ไล่ต้อนเอาชนะ เบลินดา เบนซิช มือ 12 ของโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ และเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่น ไป 2 เซตรวด 6-3, 6-4 ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 25 นาที ตบเท้าผ่านเข้าสู่รอบ 4 คนสุดท้ายไปพบ มาเรีย ซาคคารี จากกรีซ

'ฉันมีความสุขมากที่สามารถผ่านเข้าไปเล่นในรอบตัดเชือก สำหรับ เบลินดา เธอเป็นคู่ต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม และกำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี มีสปีดการตีที่หนักหน่วง และทำให้ฉันไม่ทันตั้งตัว ดังนั้นฉันต้องปรับตัวเยอะมากเวลาเล่นกับเธอ แต่ฉันก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และหลังจากนั้นฉันจะได้เดินทางต่อด้วยตัวเอง' ราดูคานู กล่าว

จากชัยชนะในแมตช์นี้ของหวดสาวดาวรุ่งจากสหราชอาณาจักร ทำให้เธอกลายเป็นนักเทนนิสจากรอบควอลิฟายที่สามารถผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศยูเอส โอเพ่น ได้เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์

โดย ราดูคานู ยังถือเป็นนักเทนนิสหญิง คนที่ 4 ที่มาจากรอบควอลิฟาย แต่สามารถผ่านเข้าไปตัดเชือกในรายการระดับแกรนด์สแลม ต่อจาก คริสติน โดเรย์ (ออสเตรเลียน โอเพ่น 1978), อเล็กซานดรา สตีเวนสัน (วิมเบิลดัน 1999) และนาเดีย โปดอรอสกา (เฟรนช์ โอเพ่น 2020)

นอกจากนี้เธอยังเป็นนักเทนนิสหญิงคนที่ 3 ที่แรงกิ้งอยู่นอกท็อป 100 แต่สามารถเข้าสู่รอบรองชนะเลิศยูเอส โอเพ่น ได้สำเร็จ ต่อจาก บิลลี ยีน คิง ในปี 1979 และคิม ไคลส์เตอร์ส ในปี 2009 ซึ่งในรายหลังเธอสามารถคว้าแชมป์ในปีนั้นไปครองได้อีกด้วย

15784
6 วัน 6 วิชา ก้าวแรกของการขายของออนไลน์ จบรู้เรื่องในคอร์สเดียว เพียง 98 บาท

15785


นางธารทิพย์ บัวสวัสดิ์ ตัวแทนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนพัฒนาไม้ผลเพิ่มพูนทรัพย์ (เงาะแปลงใหญ่) จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า “โควิดระลอกนี้หนักมาก ปีนี้เกษตรกรทุกคนต้องปรับตัว เราพบปัญหาเรื่องราคาตกต่ำ เพราะไม่มีนักท่องเที่ยว แถมผลผลิตในภาคตะวันออกและภาคใต้ยังออกมาไล่ๆ กัน ปกติจะเว้นช่วง เราโชคดีที่ปีนี้ได้ส่งเงาะให้กับแม็คโคร ทำให้ได้ระบายผลผลิตเงาะคุณภาพมีมาตรฐาน GAP ให้เกษตรกรเครือข่ายที่มีกว่า 114 ราย พื้นที่เพาะปลูกราว 606 ไร่ จำนวนรวมแล้วกว่า 70 ตันทำให้ชาวสวนมีรายได้ที่มั่นคง ไม่ถูกพ่อค้าคนกลางกดราคา”

ด้าน นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม็คโคร ตระหนักดีถึงผลกระทบที่เกษตรกรไทยได้รับจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาด และราคาตกต่ำ จึงมีนโยบายในการช่วยเหลือชาวสวนมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ร่วมกับ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จัดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายและบริโภคผลไม้ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ ช่วยระบายผลผลิตผลไม้ฤดูกาล ประกอบด้วย มังคุด ลองกอง ลำไย เงาะ ผ่านแม็คโครทุกสาขาตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2564

“ในช่วงสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 อย่างนี้ มีเกษตรกรอีกมากมายที่เดือดร้อน ผลผลิตล้นตลาด โดยเฉพาะผลไม้ฤดูกาลที่ระบายผลผลิตไม่ทัน ไม่มีช่องทางจำหน่าย กิจกรรมที่เกิดจากการบรูณาการความช่วยเหลือร่วมกับกรมการค้าภายใน ครั้งนี้ ทำให้เราได้ทำงานกับเกษตรกรกลุ่มใหม่ๆ เพิ่มขึ้น มีทั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และเกษตรกรรายย่อย ในหลายพื้นที่ อาทิ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มปลูกเงาะบ้านวังผา อำเภอทุ่งช้าง จ.น่าน, กลุ่มแปลงใหญ่ตำบลทอนหงส์ จ.นครศรีธรรมราช, กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลไม้คุณภาพเกษตรอินทรีย์ จ.ป.ร. จ.ระนอง, กลุ่มวิสาหกิจชุมชนพัฒนาไม้ผลเพิ่มพูนทรัพย์ (เงาะแปลงใหญ่) จ.สุราษฎร์ธานี โดยเกษตรกรเหล่านี้จะได้รับการพัฒนาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อวางแผนการรับซื้ออย่างต่อเนื่องในฤดูกาลต่อไป สร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับชาวสวนผลไม้ของไทยมากขึ้น”

ทั้งนี้ แม็คโคร ดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรไทยมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ ‘แม็คโครเคียงข้างเกษตรกรไทย สู้ภัยโควิด’ ซึ่งมีพันธมิตรสำคัญที่มาร่วมขับเคลื่อนความช่วยเหลือคือ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ รวมถึงภาคีอื่นๆ ทำให้เกิดพลังสำคัญในการช่วยเกษตรกรที่กำลังประสบปัญหาได้อย่างทันท่วงที ซึ่งปัจจุบัน แม็คโครรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรรายย่อย มากกว่า 7,500 ราย และในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ยังสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

15786


เมื่อเทคโนโลยียานยนต์เริ่มเข้าสู่ยุคของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี (EV) มากขึ้น เราก็เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลายๆ อย่าง รวมถึงการเกิดใหม่ของบรรดาผู้ที่โดดลงมาอยู่ในธุรกิจนี้

ทั้งนี้แต่เดิมต้องยอมรับว่า การเกิดใหม่ของผู้ผลิตรถยนต์ไม่ใช่เรื่องง่าย จากข้อจำกัดหลายอย่า งโดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านเครื่องยนต์ที่ต้องใช้สรรพกำลัง และประสบการณ์ที่สั่งสมมาจำนวนมาก การที่ใครซึ่งไม่เคยอยู่ในแวดวงนี้เลย จะลุกขึ้นมาพัฒนาเครื่องยนต์สักเครื่อง ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ แต่จะตามรายเดิมๆ ไม่ทัน

แต่พอเป็นพลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี (EV) การบ้านข้อยากนี้จึงหายไป การขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ไม่มีอะไรยุ่งยากซับซ้อน มีแค่มอเตอร์ไฟฟ้า กับ แบตเตอรี เท่านั้น

นั่นเป็นเหตุผลที่ทุกวันนี้มีผู้ประกอบการหน้าใหม่โดดเข้ามาเล่นในตลาดนี้จำนวนมาก

ที่เยอรมนี ประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์พรีเมียม สปอร์ต บรรดาผู้ผลิตต่างก็เร่งปรับตัวเช่นกัน อย่างเช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ประกาศชัดเจนว่าตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป รถใหม่ทุกรุ่นที่จะผลิตออกมา จะเป็น อีวี

ปอร์เช่ ก็ประสบความสำเร็จอย่างดีกับการทำตลาด ไทคานน์ และจะมีรุ่นใหม่ๆ ตามมาอย่างต่อเนื่อง อาวดี้ ก็ประกาศชัดเจนว่า Electric First หรือว่า บีเอ็มดับเบิลยู ก็ทยอยเปิดตัว อีวี อย่างต่อเนื่อง

แต่ขณะเดียวกันก็มีผู้ประกอบการรายใหม่เกิดขึ้นเช่นกัน อย่างเช่น Next.e.GO Mobile SE ที่เริ่มผลิตและจำหน่ายรถทั่วประเทศเยอรมนีไปแล้ว


Next.e.GO Mobile SE มีแนวทางการพัฒนาและทำตลาดที่ชัดเจน คือ เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในเมือง คันกะทัดรัด ราคาย่อมเยา ใช้งานง่าย

Next.e.GO อีวี เยอรมัน ผุดโชว์รูมแรก สานฝันบุกยุโรปรถที่จำหน่าย ใช้ชื่อว่า e.GO โครงสร้างผลิตจากอลูมิเนียม ชิ้นส่วนตัวถังภายนอกสร้างจากพอลิเมอร์แข็งแรงทนทานสูง

และสิ่งที่เพิ่มความสะดวกในการใช้งานคือ การเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาชาร์จไฟ
เปิดขายมาสักพัก ล่าสุด Next.e.GO Mobile SE ก็ถึงเวลาขยายกิจการ ด้วยการประกาศความพร้อมเปิดโชว์รูมทั่วทวีปยุโรป

ประเดิมแห่งแรกที่เมืองดึสเซลดอร์ฟ เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยโชว์รูมตั้งอยู่ใกล้กับถนน Königsallee ย่านแฟชั่นที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดในยุโรป โดยเป็นโชว์รูมเต็มรูปแบบ มีทั้งฝ่ายขาย และฝ่ายบริการ และยังมีบริการสำหรับลูกค้าที่ต้องการทดลองขับอีกด้วย


ส่วนเป้าหมายต่อไป ที่จะเปิดตัว คือ ฮัมบูร์ก มิวนิก มิลาน เอเธนส์ และยังกระโดดข้ามไปยังภูมิภาคตะวันออกกลาง แหล่งผลิตน้ำมันที่สำคัญของโลก อย่าง ดูไบ อีกด้วย

นอกจากเปิดโชว์รูมแห่งแรก ยังเปิดแคมเปญควบคู่กันไปด้วย เป็นแคมเปญระดับโลก ชื่อว่า "The Time Is Now" เพื่อกระตุ้นการเร่งพลิกโฉมการเดินทางในเมือง

Next.e.GO อีวี เยอรมัน ผุดโชว์รูมแรก สานฝันบุกยุโรป

"แคมเปญ The Time is Now สะท้อนให้เห็นว่า เรามีความเชื่อว่าทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบและต้องเร่งลงมือทำร่วมกันเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เราต้องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเดิม ๆ และการบริโภคอย่างไม่มีขีดจำกัด ยกระดับการเดินทางโดยมีเศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นหัวใจสำคัญ เพราะลูกหลานของเรามีโลกเพียงใบเดียวให้อยู่อาศัย" Ali Vezvaei ประธานคณะกรรมการบริษัท Next.e.GO Mobile SE กล่าว

หน้า: 1 ... 875 876 [877] 878 879 ... 889