เว็บบอร์ด LCDTVTHAILAND
พูดคุยเรื่องทั่วไปเกี่ยวกับด้านไฮไฟ HD Player,Home Theater,Blu-ray Player => ห้องพูดคุยเรื่องเครื่องเสียงและ Home Theater => ข้อความที่เริ่มโดย: lasa ที่ ตุลาคม 26, 2012, 12:04:02 pm
-
Credit by : Newman (ไทย ดีวีดี ดอทเน็ต)
Work Shop เรียนรู้การปรับ Pioneer แบบมืออาชีพ เขาทำกัน 55555(แต่คนไปเรียนมีหลากหลายอาชีพ )
เดิมทีผมไม่ทราบเรื่อง work shop นี้เลยจนผมได้รับ pm จากท่าน mooyai ได้ pm แจ้งเขามา โอ้ดีใจครับ เป็นครั้งแรกที่ผมจะได้สัมมนากะเขาซะทีใช้ จนขายไป 1 ชุดแล้วยัง snake ๆ fish ๆ อยู่เลย แถมขับรถเข้ากรุงเทพหลงอีก 5555ลงผิดที่ เสียเวลาไปตั้งชั่วโมง แต่ก็คิดใว้ล่วงหน้าแล้วว่าต้องหลงเลยแวะซื้อแผนที่ ที่ 7-11 มา แต่มันไม่ช่วยอะไรเลยแฮะ ดีที่นัดเพื่อนใว้เลยโทรถามทางกัน จนมาถึงได้ อย่างรอดปลอดภัย 55
จริงๆ หลายๆ ท่านมีเจตจำนงค์ที่จะมาเข้าร่วมครั้งและหลายท่านก็พลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย ที่มาไกลสุดก็คงเป็น คุณ ติ(bigbang299) อุตส่าขี่เครื่องบิน เอ๊ะเขาไม่ได้เรียกขี่นะ น่าจะเรียกนั่งเครื่องบินมาจากสุราษฏร์ ตั้งแต่วันเสาร์ ยอมละทิ้งหน้าที่หลายๆ อย่างเพื่อมาสัมมนา ไปกลับเสียหายไปหลายตังค์ จากระยองก็ไปหลายท่านเลยยินดีมากที่ได้รู้จักเพื่อนๆ คอเดียวกันเพิ่มเติมอีกหลายๆ คนครับ [เท่ห์]
และผมก็ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าพี่เล็กแกจะให้ผมเป็นคนเขียน สรุป แต่ข่าวแว่วๆมาตั้งแต่ตอนเย็นหลังจบสัมมนาแล้วว่า จะให้เขียนสรุป พี่ติโทรบอก 555 งานเข้า คงเห็นผมจดเยอะกว่าเพื่อน 55555 หารู้ไม่ผมยังงงตัวเองอยู่หลายตลบ 5555 [โขกโต๊ะ]
.........ผมคิดว่าหลายๆ คนก็น่าจะเข้ามาครั้งแรก และเพิ่งเคยเห็นพี่เล็กกับพี่ชวิน ตัวเป็นๆ ครั้งแรกเหมือนกัน พี่เล็กที่ผมจินตนาการใว้ คือดูดุ ๆ นิด ๆ มาดผู้ใหญ่เคร่ง ๆ ขรึมๆ นิดๆ ขี้เล่นพอประมาณ น่าเกรงขามพอตัว แต่พอมาเจอตัวจริง ผิดจากที่คิดใว้มากมาย 5555 แกเป็นกันเองมาก ๆ ใจดีอีกตะหาก เหล่าๆ นักแสวงบุญเที่ยวไปรื้อไปค้นของแกสารพัด แกไม่ว่าสักคำ แถมให้ยืมอีกแนะ สุดยอดๆ
ส่วนพี่ชวินมาทีหลัง นั่งอบรมกันอยู่ สักพักมีคนเปิดประตูเข้ามา พี่เล็กส่งเสียงทัก เอ้ามาแล้วเหรอพี่ชวิน. ผมรีบหันไปมองทันที ไหนๆ คนไหน...............และแล้วก็ผิดกับที่คิดใว้อีกแล้ว เฮ้อ !!! [ร้องไห้]
...............ไอ้ภาพที่ผมคิดใว้คือ แกต้องตัวใหญ่ ๆ ท้วมๆ ข[^_^]ๆ หน่อย เสียงใหญ่ๆ เพราะผมวาดภาพใว้จากชื่อของแก เพราะดูเป็นผู้ร้าย ๆ ประมาณ เกชา อะไรแนวนั้น แต่จริงๆ แกเป็นคนน่ารักมากนะครับ ถึงจะดูฟอร์มดุ ๆ นิดๆ ดูแล้วแกเป็นคนสนุกสนานดี 5555 แถมบอกเกร็ดเล็ก เกร็ดน้อยหลายๆ อย่าให้เราทราบ แต่สงสัยแกไม่ค่อยชอบแอร์เห็นไปนั่งตากแดด อยู่ตั้งนาน สองนาน (จริงๆ แล้วผมก็อยากไปนั่งตากแดดกับแกสักพักเหมือนกันนะ ติดที่ผมแพ้แดดง่ายกลัวจะไม่ฉะบาย ! เวลาขับรถไกลๆ อีกอย่างถ้าหลงขึ้นมาล่ะคราวนี้ ไม่อยากจะคิดเลย 5555)
[ปาดเหงื่อ]
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เอ้าพร่ำพรรณนากันมาเยอะแล้ว มารวมๆ กันก็เกือบครบแล้ว ถึงเวลาบ่ายนิด พี่เล็กจึงเริ่มลงไม้ลงมือ กัน
ตุ๊บตับๆ ๆ เสียงขยับของหาที่นั่งกัน
แล้วพี่เล็กก็ไปยืนหน้าห้อง กล่าวคำทักทายถึงวัตถุประสงค์ในการจัด workshop ครั้งนี้ เพื่อให้ทุกท่านได้เข้าใจและใช้ AVR ของท่านได้อย่างมีความสุข และให้วงการเดียวกันได้เข้ามารู้จักแบ่งปันความคิดเห็นซึ่งกันและกัน
หลังจากปฐมนิเทศเสร็จ แกก็ยิงคำถามเข้ามา
Pioneer เหมาะกับลำโพงอะไรครับ ........................................ไม่มีเสียงตอบกลับมา
แกจึงไล่ถามไปทุกคน ใครใช้ลำโพงอะไรกันอยู่บ้าง สรุปว่าใช้ไม่เหมือนกันเลยซึ่งแล้วแต่คนชอบ ก็อันนี้แหละคือคำตอบ
ท่านเล็กบอกว่า มันเหมาะกับทุกลำโพงนั่นแหละ เพราะแต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน ถ้าลำโพงมันเข้ากันได้แค่ยี่ห้อเดียว ยี่ห้ออื่นก้ไม่ต้องขายกันพอดี (55 จริงแฮะ)
และการเลือกเครื่องเสียงนั้นให้เลือกเสียงที่เราชอบก่อน เสียงมาจากลำโพง ดังนั้นให้เราเลือกลำโพงก่อนอันดับแรก ก่อนจึงเลือกตัวที่จะขับมันออกมา (ฮึ่ม จริงๆ อันนี้ผมเจอมากะตัวเลย ผมชอบฟัง polk มานานละ ก่อนจะใช้ Klipsch อีก เที่ยวไปซื้อลำโพงอื่นมาหลายตัว มาใช้กับ HKและก็ขายทิ้งไปหมดแล้ว เพราะติดที่ตอนนั้นตังค์ไม่พอ จนสุดท้าย พอได้ lx73 มาผมก็เที่ยวไปหาฟังลำโพงอื่นๆ สารพัด อุตส่ายก lx73 ไปตามร้าน ต่างๆ สุดท้ายพอผมไปจับกับ polk อีกที โอ้แม่จ้าว อันนี้แหละ สุดท้ายเลยเสร็จ Rti ไปแล้วทั้งชุด 555 )
เกร็ดเล็กเกร็ดย่อยเพิ่มเติม
1) จริงๆ แล้วพี่เล็กบอกว่า pioneer เหมาะกับลำโพงที่ ออก tone Dark นิด ๆ
2) ถ้าใครอยากทราบประสิทธิภาพของลำโพงนั้นให้ทดสอบด้วย power amp จะดีที่สุด เพราะมีกำลังขับมหาศาล ทำให้สามารถแสดงประสิทธิภาพของลำโพงได้เต็มที่
3) จะรู้ได้ยังไงว่า AVR ที่เรามีนั้นขับลำโพงไหว หรือไม่ ให้สังเกตตอนเราเร่ง volume เสียงดังมาก ๆ แล้วเสียงแหลมมันจะบาดหูอย่างแรง
ส่วนถ้า AVR กำลังพอเสียงที่ได้จะ balance เสียงได้ดี smooth กว่า
4) ความไวขอลำโพง 89db , 96 db ต่างกันอย่างไร
หมายถึง ลำโพงตัวที่ 1 ถ้าเราเปิดเสียงที่ 100 db ลำโพงบางตัวจะดังแค่ 89db
ลำโพงตัวที่ 2 ถ้าเราเปิดเสียงที่ 100 db ลำโพงบางตัวจะดังแค่ 96db ถามว่า ลำโพงตัวไหนขับง่ายกว่า
สรุป ลำโพง ความไว 96db จะขับง่ายกว่า ถ้าจะให้ลำโพง ตัวที่ 1 ดังเท่ากับตัวที่ 2 ก็ต้องใช้ AMP ที่ใหญ่ขึ้นจึงจะให้เสียงที่นิ่งหมือนตัวที่ 2
5) การต่อสายลำโพง การใช้ BI-AMP จริงๆ แล้วการใช้ Bi-amp นั้นกินกำลังของ AVR มากกว่า ให้ต่อแบบ Bi-wire ดีที่สุด
6) ว่าด้วยเรื่องขนาดห้อง ห้องที่ดีควรมีขนาดเท่าไหร่ และการจัดวางลำโพงห้องใหญ่ๆ ควรเป็นลักษณะไหน
6.1 ขนาดห้องที่ดีควรเป็น 3x4 , 4x5 , 5x6, ให้วางลำโพงเป็นลักษณะวงกลมโอบล้อมตัวเรา
6.2 ห้องขนาด 4x6 , 5x8 ให้วางลำโพงเป็นลักษณะวงกลม 2 วง ประสานกันโดยใช้ SL ,SR เป็นรอยต่อเชื่อมประสานวงกลมทั้ง 2 วง(7.1 chanel)
7) การขยับลำโพง เดินหน้า ถอยหลังมีผลต่อ ความสูงต่ำของเสียง
การขยับลำโพง ซ้ายขวา มีผลกับความเข้มของเสียง
เอาล่ะครับ นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้น ผมขอไป confirm menu ต่างๆ บนหน้าจอ lx73 ผมอีกครั้งเพื่อความถูกต้องของข้อมูล พรุ่งนี้จะมาเข้าสู่ การ Set up AVR PIONNER กันครับ
ขอบคุณครับ
มีตรงไหนผิดพลาดหรือเพิ่มเติมประการใด เขียนเพิ่มเติมได้เลยนะครับท่าน
-
---------------------------------------
ตอนที่ 2
เริ่มต้นการ Set up AVR Pioneer
ต้องกราบขออภัยด้วยนะครับหากมีข้อมูลใดตกหล่น หรือ ผิดเพี้ยนนะครับ รบกวนเพื่อนๆ พี่ ๆ ที่ไปด้วยกันหรือท่านอื่นๆ ที่มีข้อมูลที่ถูกต้อง รบกวน comment และแก้ไข ให้ด้วยนะครับ เพราะบางครั้งผมต้องลุกไปเข้าห้องน้ำ ...เพราะแอร์เย็นมาก...แถมใครบางคน (แอบอ้างอิง อิอิ ) เข้าห้องน้ำนานมั่ก ๆ ไอ้ผมละยืนขาสั่นแล้ว สั่นอีก..........ปากชาไปหมด ยังไม่ออกมาอีก 5555555 แทบแย่เลย
และขอบคุณทุกๆ ความเห็นอีกครั้งนะครับ พี่ชวิน เล่นเอา ผมไปเป็นตัวแทนท่าน อำเภอ โห ชมผมมากไปแล้วครับ ยังห่างไกลหลายร้อยหลายพันหลายหมื่น กม ครับ สุดลูกหูลูกตาเลยก็ว่าได้ แค่งูๆ ปลาๆ ครับ ถ่ายทอดได้ขนาดนี้ก็นับว่าบุญโข ครับ
เอาละมาเข้าเรื่องซะที
หลายๆ คนจะได้ข่าวและรับรู้เกี่ยวกับ Pioneer นั้นว่า set up ยุ่งยากมาก ใช้ยาก ผมจะบอกเคล็ดลับให้ ให้ท่านจุดธูป จุดเทียนปักที่ หน้า AVR และกล่าวคาถา ตามนี้ นะโม ไพโอนัง กะละมัง ติ เซ็ต อับ มัง บ้าน จา พัง อโหสิ 3 จบ ครับ และอย่าลืมบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางด้วยนะ กรณีห้องมันเปิดโล่ง ปะเดี๋ยว จะมีเอฟเฟค ตามมา 55555 ล้อเล่น ๆ ๆ ๆ ครับ ถ้าทำตามนี้ได้แล้วมันได้ผลผมคงทำไปแล้วล่ะ 555
จริงๆ แล้วเท่าที่ได้เรียนรู้มา ผมว่าการใช้และ set up AVR ทุกยี่ห้อนั้นอยู่ที่พื้นฐานความรู้ของผู้ใช้ส่วนหนึ่ง อย่างพี่ชวิน พี่เล็ก ท่านอำเภอ หรือท่านอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวมา ณ ที่นี้ ท่านเหล่านี้ไม่ได้เป็น Super man ไม่ได้เป็น Super Hero หรือไม่ได้มีพลังพิเศษเปล่งแสง พลังจิต อะไร ๆ แต่อย่างใด แต่มีความรู้ความเข้าใจในศัพท์ต่างๆ รวมถึงความหมายเบื้องต้นของศัพท์เหล่านั้น และระบบของ System set up ของ AVR เป็นอย่างดี ทำให้การ set up นั้นดูง่ายดายเสียเหลือเกิน ....................และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือประสบการณ์การฟัง เสียงที่ถูกต้อง ซึ่งมีผลต่อการแยกแยะเสียงได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ
ทั้งหลายเหล่านี้เกิดจากการเรียนรู้ ค้นคว้าและ ประสบการณ์การใช้งาน การฟังทั้งสิ้น ซึ่งความรู้ความสามารถเหล่านี้ มิได้ลอยมาหาเรา ๆ ท่านๆ เอง แน่นอนอยู่แล้ว เราต้องฝึกฝน ค้นคว้าหากเราอยากจะ set up AVR ที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพจริงๆ
. โอ๊ะ ๆ ..!!!!....แต่อย่าเพิ่งตกใจไปนะครับ ว่าเราจะทำไม่ได้ แม้เราจะเป็นมือใหม่ เราก็สามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ จากท่านๆ เหล่านี้และ
สามารถนำไปประยุกษ์ ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพพอสมควรเลยทีเดียว ขอให้มีความพยายามและเปิดใจที่จะเรียนรู้ ทดลอง ท่านก็ก้าวเข้ามาหลายขั้นแล้วล่ะครับ
มาเข้าเรื่อง Set up กันเลยละกัน
การ Set up AVR ของ Pioneer นั้น มีอยู่ 3 แบบด้วยกันใน Mode ของ Advanced MCACC (Multi Chanel Acoustic Calibration) คือ
1) Full Auto MCACC หมายถึง การให้ AVR นั้นปรับ Set up ระบบเสียงทั้งหมดโดยอัตโนมัติ เพียงแต่เราจัดวางลำโพงให้ถูกที่ถูกทาง ต่อสายให้ถูก ปิด function ต่างๆ ที่มีผลต่อระบบเสียงทั้งหมด เพื่อให้ได้เสียงที่ถูกต้องจริงๆ ไม่มีการปรับแต่งก่อน set up ที่เหลือท่านมีหน้าที่ กด start และ ok สบายอุรา
2) Auto MCACC หมายถึง การปรับแต่ง Set up ที่สามารถกำหนด parameter ที่ต้องการจะปรับทีละค่าได้ โดยสามารถเลือกเก็บค่าบางอย่างใว้ตามที่เราต้องการ หรืออาจใช้ร่วมกับ Sound level meter ในการปรับ level ด้วย Manual แล้วใช้ Auto MCACC ปรับค่าอื่นๆ ทีหลัง เช่น Distance ,EQ , Standing wave อันนี้มีประโยชน์สำหรับคนที่หูไม่ค่อยดี หรือฟัง Pink noise ไม่เก่ง
จะได้เสียงที่ดีกว่า หนักแน่นกว่า Full Auto MCACC เพราะ Sound level meter จะมีความแม่นยำกว่า mic ของ AVR เอง พอประมาณ
3) Manual MCACC หมายถึงการปรับแต่ง Set up ทุก parameter ด้วยตัวเองทั้งหมด แต่ข้อแนะนำควรจะปรับตั้งเองแค่ Level และ Distance หากเรายังไม่มีประสบการณ์และความสามารถพอในการฟัง EQ และ Standing wave เพราะ การปรับเปลี่ยน EQ แค่ ความถี่เดียวแม้แค่ 0.5db ก็ตาม จะมีผลกับระบบเสียงโดยรวมทั้งหมด
เอาล่ะ คราวนี้เราก็พอจะเข้าใจถึงระบบ การ Set up อย่างคร่าวๆ กันแล้ว สิ่งที่ท่านต้องเตรียมตัวให้ดี คือ การจัดวางลำโพง ให้ถูกต้องการเชื่อมต่อสายทุกอย่างให้ถูกต้อง มั่นใจว่าต่อสายลำโพงแน่นแล้วและถูก เฟส แล้ว ตำแหน่งที่นั่งฟังเป็นอย่างไร สำหรับไมค์ set เสียงควรหาที่วาง หรือขาตั้งที่มีความมั่นคงพอสมควร ไม่ควรวางบนหมอน หรืออะไรนุ่มๆ หากวางบนโซฟา ก็ต้องหาอะไรมาตั้งให้มั่นคง อยู่ในระดับหูของท่าน
ในการวางไมค์ set ต้องปรับองศาให้ เอียงไปข้างหน้าเล็กน้อย น่าจะสัก 10-15 องศา ถ้าผมจำไม่ผิดสำหรับ ไมค์ set เสียงของตัว pioneer (ใครจดใว้รบกวน confirm องศาทีครับ) เอ้าให้เวลาเตรียมตัว ตรวจสอบ สิ่งต่างๆ 30 นาที
อ้อ ลืมไปอีกเรื่อง ท่านต้องทำห้องให้เงียบที่สุดเท่าที่จะเป็นได้นะครับ อยู่คนเดียวปิดประตูหน้าต่างพยายาอย่าให้เสียงภายนอกเล้ดลอดเข้ามามากนัก ไอ้หมา แมว นี่เอาไปไกลๆ เลยนะครับ จับไปผูกใว้ไกลๆ แต่คงไม่ต้องถึงขนาด เอาไปแลกกะละมัง ถังดำ นะครับ เพราะมันคงไม่ชอบไปเที่ยวต่างประเทศเท่าไหร่ สงสารมัน 5555555
ไอ้ตอนมันเห่าอะ ก็พอทำเนา แค่ต้องกด RETRY ใหม่ แต่ ถ้ามันหอน ตอน set up ดึกๆ ละก็........ตัวใครตัวมันละกันคร๊าบบบบบบบ
(นอกเรื่องอีกแล้ว 5555 )
เอาล่ะ เมื่อเตรียมพร้อมทุกอย่าเข้าที่ ท่านต้องทำการ off function ทั้งหมดที่เป็นการปรับแต่งเสียงซะก่อน อันนี้สำคัญ ไม่ว่าจะใช้การ set up แบบไหน ต้องทำ ( การใช้งานรีโมท ให้กดปุ่ม Receiver หรือเลื่อนสวิทย์ ไปที่ Receiver เพื่อ control AVR)
รูปแบบการเขียนของผม ส่วนที่เป็น เมนูย่อยลงไป จะย่อหน้าลึกลงตามลำดับนะครับ เพื่อให้อ่านง่ายและทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น
1) ปิด parameter เกี่ยวกับเสียง
กดปุ่มที่รีโมท Audio parameter จะขึ้นหน้าจอเครื่อง AVR (ใช้ปุ่มเลื่อนลง เพื่อเลือก parameter ใช้ปุ่มซ้ายขวาเพื่อปิด หรือเปิด )
M1 Memery อันนี้ท่านสามารถเลือกเก็บข้อมูลการ set up ใว้ที่ M1-5 ได้จากตรงนี้เลย
EQ = OFF
S-WAVE = OFF
Delay = OFF
Dual = 1
X-Curve = OFF
DRC = OFF
LFE = 0 db
SACD = 0
HDMI = AMP
2) เข้าไปตั้งระบบลำโพง
กดปุ่ม Home menu --- คราวนี้จะโชวว์เมนูต่างๆ บนหน้าจอ TV-
- - - - - ไปที่ Systems Set up
เลือก Manaul SP Set up ให้เลือกรูปแบบลำโพงที่ท่านต่ออยู่ครับ
2.1 )Speaker Systems
2.1.2) ต่อแบบ 5.1 chanel ให้เลือก Zone 2 ครับ AVR จะทราบเองถ้าเราไม่ได้ต่อใว้ ไม่ต้องกังวลว่าต้องไป ปิดมัน
2.1.3) ต่อแบบ 6.1 หรือ 7.1 Chanel (Surround back)ให้เลือก SB/FH หรือ SB/FW ได้ทั้ง 2 ตัวครับดี๋ยวเราต้องไปแจ้งลำโพงที่เราจะใช้อีกที หลังจากนั้นให้เลือกตำแหน่งการวาง surround ดูตามภาพหน้าจอนะครับ ON SIDE หรือ IN REAR
หลังจากนั้นกด ok เครื่องจะถามว่า เปลี่ยนระบบ ใช่ไหม ให้กด YES
2.2 ) Speaker setting เข้าไปตั้งค่าลำโพงอีกทีครับ ให้ตั้งเป็น Large ทั้งหมดนะครับ เพราะ AVR จะตรวจสอบเองกรณีที่ลำโพงเล็กเกินไป และการตั้งให้เป็น small จะเป็นการจำกัดความถี่ให้กับลำโพงทำให้ใช้ประสิทธิภาพของลำโพงได้ไม่เต็มที่
2.2.1) กรณี 5.1 chanel
Front = Large
CENTER = Large
Surround = Large
SW = Yes (อันนี้ห้ามลืมนะครับเป็นการเปิดซับให้ทำงาน)
X Over = 80 Hz
2.2.2 ) กรณีต่อ 6.1 หรือ 7.1 chanel (Surround back) อันไหนไม่ใช้ให้เปลี่ยนเป็น NO
Front = Large
FB / FW = NO ไม่ได้ต่อใว้
CENTER = Large
Surround = Large
SB = (Large x 1 ,Large x 2 )ขึ้นอยู่กับท่านต่อ SB ใว้กี่ตัว
หลังจากนั้นกด ok เครื่องจะถามว่า เปลี่ยนระบบ ใช่ไหม ให้กด YES
2.3 )กลับไปที่ Manaul SP Set up อีกครั้งเข้าไปปิด ระบบ THX
THX Audio Setting
Loundness plus OFF
THX Select 2 SW NO
สุดท้าย ให้ปิด Phase control ครับ กดที่ปุ่ม Phase control ซ้ำ ๆ ที่รีโมท จะขึ้นที่หน้าจอ AVR ว่า Off
จบขั้นตอนการปิด Fuction ต่างๆ ที่เกี่ยวกับระบบเสียงซะที ผมอาจจะเขียนช้าหน่อยนะครับ เพราะต้องปลีกตัว ช่วงนี้งานยุ่งพอสมควร อาจเรียบเรียงได้ไม่ดีนัก เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อ เรื่อง Full Auto MCACC กันนะครับ ใจเย็น ๆ นะครับ
ขอบคุณครับ
-
-------------------------------
การ SET UP แบบ Full Auto MCACC
ถึงเวลา พี่เล็ก กับ พี่ชวิน ก็ไล่ปิด parameter ตามฟังชั่นต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว ก็เริ่มลงไม้ลงมือกันซะที จัดการ Full Auto MCACC ด้วยความรวดเร็ว แล้วแก 2 คนก็เดินออกไปข้างนอก ไปทำไมนะ ?? แกคงเหม็นกลิ่นน้ำหอมที่หลายๆ คนใส่ มาหรือเปล่า เอ๊ะ หรือกลิ่นถุงเท้าหว่า 555 เอาเป็นว่าแกคงเบื่อเสียง ซู่ ๆ ซ่าๆ ปิก ๆ ที่ได้ยินมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วมั้ง 55555
ปล่อยให้มือเก่า และเก่านิดหน่อย กับมือใหม่นั่งสงบสติอารมณ์ ระคนความเงียบ ไม่มีใครพูดไรเลย ก็พูดไม่ได้ !! เดี๋ยวเสียงไปรบกวนการ set up นั่งรอกันสักพัก เสร็จแล้วการ Full Auto MCACC ก็เสร็จเรียบร้อยด้วยดี แปลกนะ !!!!!!!!ระหว่างทำการ set ไม่มีใครสังเกตเลยว่า................ซับ...!!!!!!!!!!!!..............มันไม่ดัง โห ๆๆๆๆๆ คงตั้งใจเรียนกันมากไปหน่อย 55555 เดือดร้อนต้อง set กันใหม่อีกรอบ มาขยับสายซับกันหาสาเหตุ กว่าจะได้ เซ็ตกัน 2 รอบครึ่ง 55555 คือรอบ 2 รู้ตัวซะก่อนแก้ไขทัน
พอถึงรอบ 3 ผมเริ่มหูอื้อ ละ เลยออกไปข้างนอก กับพี่ติ พี่ติแกไปซื้อน้ำ แต่ไม่บอกกันสักคำว่าไปซื้อ pack ใหญ่ มา 2 pack จะได้ไปช่วยยก ผมยืนดูเขารื้อ ข้าวของกันอยู่ดีๆ แกก็เอาน้ำ 2 pack มาวาง ปึก หลายคนที่หูอื้อ ออกมากันเพียบ ขอบคุณน้ำ ใจพี่ติ กันใหญ่
หลังจากพี่เล็กกับพี่ชวินได้กระทำการสำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว พอสรุปได้ดังนี้
ไปที่ HOME MENU -----ADVANCE MCACC----- FULL Auto MCACC
FULL Auto MCACC หน้าจอจะโชวว์ ข้อมูลต่างๆ ที่ set ใว้ ให้ตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง
Speaker systems .=Zone 2, SB/FH ,หรือตามที่เรากำหนดอื่นๆ
EQ = SYMMETRY
M1 MEMERY ( สามารถเลือกหมายเลขการเก็บค่าตอนปิด Audio parameter )
THX = NO
..Start แน่ใจแล้วกด Start โลด
ในขั้นตอนการ Full Auto MCACC ครั้งแรก AVR จะตรวจสภาพแวดล้อมก่อนและความสมบูรณ์ของระบบก่อนนะครับ
Ambient noise = เสียงรบกวน ต่างๆ เช่น หมาเห่า คนไอ ( ไม่เกี่ยวกับ I LOVE YOU นะ ) เป็นต้น ๆ ถ้าพบว่ามีเสียงรบกวนมาก AVR จะแจ้งถามว่าให้เราดำเนินการต่อ G0-NEXT ,หรือกลับไปแก้ไขสภาพแวดล้อมใหม่แล้วจึงกด Retry อีกครั้งครับ
Micro phone = ok ต่อสายเข้ากับ AVR แล้วเรียบร้อย
Speaker = ok ( จุดนี้ แหละครับถ้าเรามั่นใจว่าเราต่อสายถูกต้อง ครบถ้วน แน่นหนาดีแล้ว ให้กด next ข้ามไปเลย คือ AVR มันจะฟ้องว่า เฟสผิด ครับ (เป็นธรรมดาของอะไรๆ ที่ฉลาดๆ บางครั้งอาจจะเบลอๆ บ้างอย่าไปถือสามัน)
หลังจากผ่านการตรวจสภาพแวดล้อมแล้ว หากไม่มีปัญหาใด ๆ AVR จะดำเนินการต่อโดยอัตโนมัติ ท่านอย่าเดินไป เดินมานะครับ เดี๋ยวเราจะไปบังเสียงมันเข้า การ set up จะ drop ลงไป ขั้นตอนต่างๆ จะเป็นลำดับดังนี้
Speaker Systems
Chanel level
Distance
Standing wave
Reverb**( อ่านคำอธิบายด้านล่าง)
Aco cal EQ Pro อันนี้นานหน่อย
Full band phase control (จะมีเฉพาะ รุ่น)
หลังจาก AVR ทำการ set up ทุกอย่างเสร็จสิ้น จะกลับไปที่หน้าจอ Home menu อัตโนมัติ
ท่านสามารถเข้าไปตรวจสอบค่าต่างๆ ได้ที่ MCACC Data Check ( ในส่วนนี้ท่านจะอ่านได้อย่างเดียวนะครับไม่สามารถแก้ไขได้)
หลังจากตรวจสอบค่าต่างๆ แล้ว ท่านจำเป็นจะต้องเปลี่ยนค่า ต่างๆ ดังนี้เพือให้ได้เสียงที่ ใกล้เคียงการ Manual set up ที่สุด
การปรับค่าต่างๆ หลัง Full Auto MCACC
ไปที่หน้าจอ Home menu ----- Systems set up ---- Manual SP Set up
1)Speaker setting
ตรวจสอบการตั้งค่าลำโพง ลำโพงบางตัวอาจถูก AVR ตั้งเป็น small ส่วนใหญ่เป็น center หากท่านคิดว่าลำโพงของท่านใหญ่พอที่จะรับได้ก็ให้ตั้งเป็น Large หรือทดลองฟังดูก่อนก็ได้
X OVER AVR จะตั้งเป็น 100Hz ให้เปลี่ยนใหม่เป็น 80 Hz
2)Chanel Level
ปรับค่า SUB WOOFER = 0 db
3)Distance
ตรวจสอบระยะลำโพงที่ AVR ตั้งค่าใว้ และปรับค่าใหม่ โดยยึดหลัก FL = FR ,SL=SR โดยยึดค่าน้อยกว่า
เช่น FL = 1.82 เมตร , FR = 1.96 เมตร .ให้ปรับ FR = 1.82 เมตร
ระยะ Distance ของ SUB ให้เท่ากับ FL,FR
ที่นี้ก็ลอง test หนัง กันได้เลยครับ
พี่เล็กและพี่ ชวินแนะนำว่าให้ควรทำ Full Auto MCACC สัก 3 ครั้งนะครับ แต่ละครั้งให้จดตัวเลขต่างๆ ใว้ด้วย
เช่น Level ,Distance โดยเข้าไปตรวจสอบที่ Home menu--->Advance MCACC--->MCACC data check นะครับ
หากได้ค่าที่แตกต่างกันมากให้ท่านตรวจสอบสภาพแวดล้องและอุปกรณ์ต่างๆ
เช่น เสียงรบกวน ขาตั้งลำโพงวางมั่นคงโยกเยกหรือไม่ ไมค์ set ขยับหรือไม่ หรือวางลำโพงซ้ายขวาไม่ดีพอ ให้ตรวจสอบและแก้ไขแล้วทำการ Full ใหม่นะครับ
หากค่าใกล้เคียงกันแล้ว ให้ยึดเอาครั้งแรกก็ได้ครับ
และหาก หลังการทอลองหนังและเพลงแล้ว ปรากฏว่าลำโพงของท่านส่งเสียงบาดหูมากเกินไป พี่เล็กบอกว่า เราสามารถไปปรับลดได้ที่
X-Curve ลงสัก 0.5 db ครับ
โดยเข้าไปที่ Home menu --- Systems set up--- Manual SP SET UP---X-Curve
หากท่านต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปรับสภาพลำโพงของ AVR ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ก็ให้เข้าไปดูที่
Home menu-- ADVANCE MCACC-Manual MCACC--- EQ Professionnal --Reverb view
จะมีกราฟโชวว์ curve ลำโพง ก่อนและหลังการปรับ
ขอจบการ Full auto ใว้แค่นี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวหากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะมาลงให้เพิ่มครับ
น่าจะเป็นเกี่ยวกับการปรับ distance เพิ่มเติมและการตรวจวิเคราะห์ Distance หลัง Full Auto MCACC ครับผมขอหาข้อมูลก่อนนะครับท่าน ๆ
ผิดพลาดประการใด หากท่านใดมีข้อมูลแก้ไขเพิ่มเติม รบกวน comment ได้เลยครับท่าน
** reverb ก็คือ เสียงก้อง , delay หรือ digital delay หรือที่พี่ไทยนิยมเรียกกันว่าเอคโค่ คือ เสียงสะท้อน
ตัวอย่างเสียง ทั้งสองนี้ เท่าที่พอจะบอกได้ก็คือ
คุณลองก้มลงไปตะโกนใส่ในตุ่มน้ำใหญ่ๆ (ไม่มีน้ำนะ) นั่นเป็นเสียง reverb
ส่วนเสียงเอคโค่นั้นหาฟังได้ทั่วไป ตามคาเฟ่ทุกแห่ง..ฮาโหล ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ นั่นแหละ http://www.zone-it.com/stocks/data/11/110337.html
-
-------------------
การ Set up แบบ Auto MCACC ร่วมกับ Manual
ก่อนอื่นต้องขอโทษ ด้วยครับที่หายไปหลายวัน พอดีงานเยอะไม่ค่อยสบาย อีกทั้ง เน็ตที่ บริษัท มันงอแงบ่อย ๆ คือผมเข้า Login ที่อื่นไม่ได้น่ะครับ
มาพูดถึงการใช้ Auto MCACC ร่วมกับ Manual จริงๆ แล้ววันนั้น พี่เล็กกับพี่ ชวินไม่ได้ลงลึกอะไรมากในจุดนี้ แต่บังเอิญว่าผมเคย post ถามที่เล็กในกระทู้ก่อนๆ และแกก็ตอบมาให้แล้ว เลยถือโอกาสนี้ เอามารวมกันใว้ในชุดเดียวไปเลย จะได้หาอ่านง่ายๆ น่ะครับ
เริ่มต้น ในที่นี้เราจะใช้การปรับ Level ด้วย sound level meter นะครับ แล้วที่เหลือจะให้เครื่องเขาปรับเอง
ทำตามขั้นตอนดังนี้นะครับ
1. ปิด parameter ที่ปรุงแต่งเสียงทั้งหมด ตามหัวข้อก่อนหน้านี้
2. Set up ระบบลำโพงให้ถูกต้อง ตามหัวข้อต่อจากการปิด parameter เสียง
3. หากท่านต้องการเก็บข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบระหว่างการ Full MCACC กับ Auto MCACC ควรเก็บข้อมูลการ Set up ครั้งนี้ใว้อีกตำแหน่ง สมมุติ Full MCACC เก็บใว้ที่ M1 Memery , Auto MCACC ควรเก็บใว้ที่ M2 นะครับ อันนี้ให้ลือกก่อนทำการ Set up นะครับ หลังจาก set up ท่านก็จะได้เปรียบเทียบผลได้อย่างง่ายดาย
การเปรียบเทียบ Full MCACC กับ Auto MCACC ต้องอยู่ภายใต้ การกำหนดและจัดวางลำโพงที่เหมือนกันทุกประการนะครับ
4 เริ่มต้น เมื่อเลือก Memery ที่จะจัดเก็บได้แล้ว ให้ไปทำการแก้ไขค่า Distance ทุกลำโพงให้เป็น 0.01m
ไปที่ Home menu --- Systems SP set up- Manual SP Set up -- Speaker distance หรือ
Home Menu---- Advance MCACC - Manual MCACC --- Fine SP Distance
5.ทำการติดตั้ง Sound level meter ในตำแหน่งนั่งฟังนะครับ ต้องเป็นตำแหน่งเดียวกันกับที่เรา Full Auto MCACC โดยเอียงไมค์หันมาทางลำโพง center เอียงสัก 15 องศา
Sound level meter :: weight = C , Response = Slow , Range = 70 (เราจะวัดที่ 75 db)
6.หลังจากติดตั้ง sound level meter แล้ว เข้าไปที่
Advance MCACC-- Manual MCACC -- Fine Chanel level ใช้ปุ่มวงกลมซ้ายขวาในการปรับ และกด ok เมื่อ set เสร็จแต่ละ chanel ทำอย่างนี้ให้ครบ ทุก ๆ ลำโพง ยกเว้นซับนะครับ ไม่ต้องไปทำเพราะ ไมค์มันวัดความถี่ต่ำขนาดนั้นไม่ได้
ค่าที่อ่านจากหน้าจอ sound level meter ให้วิ่งอยู่ที่ 74-75 db ก็ถือว่า ok นะครับ เป็นอันจบสำหรับ set level
อย่าลืมจดค่า level แต่ละ chanel ใว้ด้วยนะครับ
7 ต่อไปเราจะไป set distance , EQ ,WAVE กันโดยใช้ Mic ของ pioneer นะครับ เอา Sound level meter ออก แล้วเอา Mic set ของ pionner เสียบเข้าเครื่องแล้ววางแทนที่ sound level meter อย่าลืมเอียง 10-15 องศานะ
DISTANCE หลังจากเสียบไมค์ set เข้าไปที่ Advance MCACC -- Auto MCACC มันจะมีให้เลือกหลายอัน ต้องเลือกให้ถูกนะ ใช้ปุ่มเลื่อนซ้าย ขวา ในการเลือก
- ALL = หมายถึง set ทุกอย่างทั้งหมดตามหัวข้อที่อยู่ด้านขวามือ อันนี้ ไม่เลือก
- Keep Speaker setting อันนี้ก็ ไม่เลือกนะครับ
- ให้เลือกอันนี้ Distance นะครับ ใช้ปุ่มเลื่อนลงมา กด OK เลย ปล่อยให้มันทำงานสักพัก เดี๋ยวก็เสร็จ
EQ , Standing wave มันจะอยู่ใน Auto MCACC ต่อจาก Distance นะครับ
MCACC = M2
EQ TYPE = SYMMERY
Standing wave Multi P = NO
กด Start เลย
ระหว่างที่ มัน set EQ หลายๆ คนอาจสงสัยว่า ก็เห็นบอกว่ามันต้องปิด เวลาดูหนังฟังเพลง แล้วจะไปเสียเวลา set ไปทำไมกัน
คือ งี้ครับ ผมเคยมีประสบการณ์กับ EQ ของ Pioneer แบบว่า ประทับใจและทึ่งกับมันมาก มะก่อนผมใช้ Klipsch Synergy F2 ,B2 ,C2 ซึ่งรู้ ๆ กันอยู่ว่ามันแข็งๆ เวลาฟังเพลง และฟังดูไม่เป็นดนตรีเท่าไหร่นัก ตอนฟังเพลง ผมก็ใช้ EQ และ ST.Wave ของมันนี่แหละครับ ดีขึ้นเยอะครับฟังดูเป็นดนตรีขึ้นขึ้นเยอะเลย ยังไม่พอแค่นั้น ช่วงที่ผมขาย Klipsch ทั้งชุดออกไป ระหว่างหาลำโพงใหม่ ก็ไม่มีลำโพงดีๆ ฟัง ก็ไปเอาสารพัดของเก่า ที่ตั้งใว้เฉยๆ มาต่อและ set up ใหม่ แต่โชคดีที่แต่ก่อนซื้อมาเป็นแต่ลำโพงไม้ทั้งนั้นเลย
มีทั้ง คู่หน้า Sony 6 ohm 1 คู่ , Panasonic biwire 1 คู่ เอามาเป็น surround ,ลำโพง ตลาดนัด 1 ตัวเอามาเป็น center หลังการเซ็ตอัพ
เอามาเปิด ดูหนังก็ พอได้ ครับ แต่เอามาฟังเพลงห่วย ๆ จริง มันไม่เข้ากันเลย เลยลองเปิด EQ on กับ Standing wave on ตอนฟังเพลงดู โอ้โห ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลยท่าน ทึ่งกับมันเลยจริงๆ มันเปลี่ยนไปเลยอะครับ ฟังดูดีขึ้นเยอะ เสียงเบสแหลมกลางไปด้วยกันได้เฉยเลย เอากะมัน
มีข้อสังเกตของผมตอนที่มัน set EQ ช่วงที่ลำโพงยิงไปหากันนี่ เสียงลำโพงมันเปลี่ยนไปครับ จากเล็กแหลมเป็นใหญ่ขึ้น มันคงปรับลำโพงให้ไปด้วยกันได้ละมั้งครับ อันนี้ไม่ทราบจริงๆ เอามาเล่าให้ฟังเผื่อ วันหนึ่งต้องใช้มัน ลองดูนะครับ
แต่ถ้าลำโพงท่านคุณภาพดีอยู่แล้ว ก็คงอาจไม่ต้องใช้ครับ
เอาล่ะโม้ จบ มันคง set เสร็จพอดี 5555
8. หลังจาก set distance ,EQ,WAVE เสร็จแล้ว ต้องไปเปลี่ยน Distance คู่หน้าให้เท่ากันนะครับ ของ ซับด้วย , level ของซับต้อง 0 นะครับ
เสร็จแล้วให้ท่านไปเชค Chanel level อีกทีนะครับ ครั้งแรกที่จดใว้จากการ วัดด้วย sound level meter ค่าต้องไม่เปลี่ยนนะครับ
ไปที่ Home menu - MCACC DATA CHECK
เป็นอันจบพิธี Auto MCACC + Manual set up
-ขณะที่ท่าน ดูหนังท่านสามารถเปลี่ยน เสียงเลือกค่าที่ set up ใว้ จาก
กดปุ่ม Audio parameter ที่รีโมท ใช้ปุ่ม ขึ้น ลง เลือกหัวข้อ และ ซ้ายขวาเลือก หมายเลขอีกที
อันนี้แหละครับ จะเลือก ฟังเสียง Full Auto MCACC หรือ Auto MCACC เลือกได้ตามใจชอบ เลย
อย่าลืม set up ซับตามกระทู้ปรับซับด้วยนะครับ เสียงจะได้ดีๆ ครับ
ขอบคุณอาจารย์ เล็กและ พี่ชวิน อีกครั้งครับ
ตอนต่อไป เป็น Manual MCACC ครับ
-
------------------------
ตอนสุดท้านละนะ
ตอน Manual นี่แหละ หูเพี้ยนกันเป็นแถวเลย 555 ช่วงพี่ฟังเสียงซ่าๆ จากลำโพงโดย พี่เล็กแกให้ขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ โฮมทีละคน 5555 ผมคนแรกเลย
ปรากฏว่า ฟังไม่ค่อยออก คือหูผมจะมีปัญหากับเสียงความถี่สูง ๆ มาตลอด 4-5 ปี โห รู้ตัวเลย พอฟังเสร็จ คนที่ 2 แกบอกให้ไปนั่งข้างๆ ผม 555 :clap2: มีเพื่อนแล้ว แล้วแกก็เรียกคนอื่นๆ ขึ้นไปฟังเรื่อยๆ 5555 66666 เฮ้ย !!!!!! ทำไมไปนั่งกลุ่มอื่นกันหมดเลยฟะเนี่ย :yark: แกให้แยกกลุ่มวะเนี่ย เอาแล้วไงสงสัยมีกลุ่มไหนที่เพี้ยนแหง ๆ เลย ปรากฏว่าแยกออกเป็น 3 กลุ่ม ครึ่ง (อีกครึ่งมันคงครึ่ง ๆ กลางๆ 5555) หวยจะออกตรงไหนละนี่ :aha: พอฟังทุกคนเสร็จแล้ว
แกบอกว่า ไอ้คนที่เป็นอยู่แล้วทำไมมันเพี้ยนได้ขนาดนั้นวะ มันน่าตีจริงๆ แล้วก้หันมาทางผม บอกว่า ในหัวมีไร เอาออกไปให้หมดเลยนะ แล้วขึ้นไปฟังใหม่ 5555 ทีนี้ ต้องทำสมาธิ ครับ :eiei: พระก็ไม่ได้คล้องมาซะด้วย เอาหลับตาเลยละกัน 55555 ดีขึ้นแฮะ พอลงมาแกบอกว่า เนี่ยๆ ๆ เวลาฟังเราต้องมีสมาธิ อย่าไปคิดถึงเรื่องอื่น อย่าไปคิดว่า ลำโพงมันอยู่ไหน อย่าไปชี้นำ หูตัวเอง จริงๆ แฮะ 55555 จริงคับ ท่านๆ :jode: อันนี้ พอผมหลับมาคิดถึงพุทธคุณแล้ว สงสัยบุญมันพาไป เสียงมันชัดขึ้น จริงๆ ครับ
เอา ๆ มาเป็นจริงๆ เป็นจังกันซะที
Manual MCACC
หลังจากที่เรา Full auto MCACC ,และ Auto MCACC กันมาแล้ว เราคงจะเข้าใจลำดับการ Set up กันอย่างดีแล้ว พี่เล็กบอกว่า AVR Pioneer เป็นยี่ห้อเดียวที่เรียงลำดับการ set ได้ถูกต้องที่สุด 55555 และเป็นยี่ห้อเดียวที่เลือกการ set up และเก็บค่าต่างๆ ใว้ได้ตามใจชอบ 555 เราก็แอบภูมิใจละ มาเข้าเรื่องต่อเลย
การ Set up ทุกแบบพี่เล็กบอกว่าให้ทำการ Full Auto set ก่อน ดังนั้นผมจะจัดลำดับให้ทำดังนี้พื่อเป็นการง่ายต่อการเปรียบเทียบและจดจำค่าต่างๆ ใว้นะครับ
1. Full Auto MCACC ครั้งที่ 1 เก็บใว้ที่ M1
2. Full Auto MCACC ครั้งที่ 2 เก็บใว้ที่ M2 เอาใว้ทำ Auto Set +Manual set ต่อ
อันนี้หลังจากเอา Full Auto MCACC มาหา Chanel level ใหม่และหา distance ใหม่ ค่า Distance จะใกล้เคียง Full Auto MCACC มาก แต่ให้ยึดที่เราหาได้ใหม่เพราะค่า ต่างกันแค่ 0.01m ก็มีผลพอควรเลยทีเดียว
3. Full Auto MCACC ครั้งที่ 3 เก็บใว้ที่ M 3 อันนี้เอาใว้มา Manual กันใหม่
เริ่มต้นการ Manual MCACC
1) ให้ทำเหมือนเดิมสมมุติ เราจะใช้ค่า M3 Memery ในการทำ Manual ให้ทำดังนี้
1.1.เข้าไปปิด parameter เกี่ยวกับเสียงที่ Audio parameter ตามที่กล่าวมาข้างต้น ก่อนหน้าการ Full MCACC เลือก M3
1.2.ปิด Phase control
1.3.ปิด THX
1.4.เข้าไปแก้ไข distance ของ M3 ไปที่ Home menu Systems set up --Manual SP Set up - Distance ปรับลดให้เป็น 0.01m ทุก chanel( จดข้อมูล Distance ใว้ด้วยนะ ก่อนลบ)
1.5.เข้าไปตรวจค่าต่างๆ เช่น systems set up , speaker setting ให้ถูกต้องตามทีเคยกล่าวมาแล้วในหัวข้อก่อนหน้า
Home menu->speaker setting ปรับให้เป็น Large ทุกตัว , x-over ปรับเป็น 80Hz
2) ทำการหา Chanel level ด้วย sound Level Meter ให้ได้ 75db ติดตั้ง sound level Meter ตรงจุดนั่งฟังให้เรียบร้อย
2.1 ไปที่ Home menu Advance MCACCManual MCACC -Fine chanel level ที่นี้เครื่องจะค่อยๆ หา chanel ทีละลำโพง อย่าลืมดูที่ Master volume ด้วยนะ AVR จะปรับให้เป็น 0
ใช้แป้นวงกลม กด ซ้าย ขวาเพื่อบวกลบค่า level แล้วกด ok เมื่อได้ค่าตามต้องการ ให้ค่าวิ่งที่ 74-75 ถือว่า ok หลังจากครบทุกลำโพงแล้ว กด return กลับสู่ Manual MCACC กด Home menu อีกครั้งเพื่อปิดการทำงานของระบบ Auto set จะไม่โชวว์หน้าจอแล้ว
3) หาค่า Level Pink noise ด้วยแผ่น DVE ต้องวัดค่าได้ 80db ใช้ Sound level meter ตั้งต่า weight = C , Response = Slow , Range = 80 (เราจะวัดที่ 80 db)
3.1ต่อ DVD เข้าที่ HDMI1 , ต่อสาย coax เข้าที่ Digital in 1
3.2 เข้าไป set ค่า input ที่ AVR
ไปที่ Home menu- systems set up--Input set up-เลือกที่ HDMI 1 ด้านล่างจะเห็นคำว่า coax 1 ขึ้นมาด้วย
กด Home menu ออก
3.3 กดเลือก HDMI Input ที่ รีโมท AVR ให้แน่ใจว่าตั้งค่า Input ที่ HDMI 1 ถ้าภาพไม่ออก ให้ดูที่รีโมท จะมี Hdmi out ให้เลือกเป็น All โดยกด เลข 1-3 เลขใดเลขหนึ่งซ้ำ ๆ
3.4 ใส่แผ่น DVE ( การเลือกซื้อแผ่น DVE ควรเลือกเป็นแผ่น DVD NTSC) เมื่อเริ่มใช้งาน DVD ข้อควรระวังคือถ้าเป็น DVD ของ Pioneer รีโมทของ AVR จะสามารถ control DVD ได้เองอัติโนมัติ เมื่อท่านกดปุ่ม DVD ที่รีโมท AVR ดังนั้น เพื่อป้องกันความผิดพลาดให้กดปุ่ม Receiver ที่รีโมทของ AVR ก่อนกดคำสั่งถัดไปบนรีโมท AVR จริงๆ แล้วกดครั้งเดียวก็ได้ ถ้าเราไม่ไปกด ปุ่ม DVD ในรีโมท AVR อีก
3.5 เมื่อภาพ DVD ออกที่ TV แล้วทำตามลำดับดังนี้
3.5.1 กด play ที่ DVD เมื่อเริ่มเล่น ให้กด ปุ่ม Menu ที่รีโมท DVD จะปรากฏ Chapter list รายการต่างๆ หลายข้อ
ให้เลื่อนไปบรรทัดล่างสุด คำว่า Program menu - Program guide ---Reference Material
- Level & Balance 5.1 ,6.1( มันจะออก 7 ลำโพงได้)
3.5.2 กดเลือก 5.1 หรือ 6.1 ตามระบบของเรา ใช้ปุ่ม I<< >>I เพื่อกลับไปเล่น track แตละลำโพงกรณีเราฟังไม่ทันเพราะ เสียงมันจะวิ่งไปเรื่อย ๆ ประมาณลำโพงละ 10 วินาที
3.5.3 เมื่อแผ่นเริ่มเล่น ให้กดปุ่ม CH Level ที่รีโมท AVR ตรงนี้จะไม่โชวว์ที่ TV แต่ให้ดูหน้าเครื่อง AVR จะเห็น ลำโพง L R C SR SL SBL SBR ใช้ปุ่มวงกลม ในการเลือกลำโพงและ +- ค่า level ดูที่หน้าจอทีวี เลือกลำโพงจากหน้าจอ AVR ให้ตรงกับ TV ปรับให้ได้ 78-80 db ถือว่า ok
3.5.4 ในขณะที่เล่นแผ่น DVD หากจะหยุดหรือเลือกแต่ละลำโพง ให้กด ปุ่ม MENU บนรีโมท TV หน้าจอจะกลับมาในตำแหน่งเริ่มเล่น
ของระบบลำโพงที่เราเลือกแต่จะสามารถเลือกลำโพงใดก็ได้ หรือ pink noise ตรงจุดไหนก้ได้ เลือกกด ok ได้เลย
ค่า Level ที่ได้ส่วนใหญ่จาก DVE จะบวกมากกว่าค่าที่ได้จาก AVR ลองเปรียบเทียบค่าดูนะครับ แต่ละลำโพง เพิ่ม หรือ ลดลง มาน้อยขนาดไหน ซึ่ง ค่าที่ได้ไม่ควรห่างกัน เกิน +/- 1 db หรือ ได้ ค่าเท่ากันทั้ง 2 ที่ก็จะยิ่งดี
มาต่อด้วยการหา Distance
0 การหาโดยใช้เสียง แป๊ก ๆ จาก AVR อันนี้ง่ายสุด
0-> การหาโดยใช้แผ่น DVE อันนี้ยากหน่อย ขั้นตอนเยอะแถม ต้องมีความเร็ว หูต้องดี
4) การหา Distance ให้ทำหลังจาก หา Chanel level
4.1 การหา Distance ใช้เสียง แป๊ก ๆ จาก AVR การฟัง distance นั้นจะมีเสียงลำโพงเงา หรือ pink noise ให้มันอยู่ตรงกลางระหว่างลำโพงที่กระพริบตามภาพนะครับ
Home menu - ADVANCE MCACC - Manual MCACC-- Fine Distance
ตรวจสอบหมายเลข Memery M3 ให้ถูกต้อง ด้วย เมื่อกดเข้าไป
จะเริ่มต้นที่ ลำโพง L ก่อน ให้ใส่ค่า Referance จากการ Full MCACC เข้าไปที่ลำโพง R กด ok ที่นี้จะเริ่มมีเสียง แป๊ก ๆ ออก
ลองเพิ่มตัวเลขมาก ๆ หรือลดตัวเลขมาก ๆ จะเริ่มรู้ว่า การเพิ่มหรือลดตัวเลข เสียงจะไปทางไหน เสร็จแล้วค่อยๆ ไล่ละเอียดอีกทีอย่างพี่ ชวินบอกคือ เพิ่มลดทีละ 0.5m พอเสียงใกล้แล้วจึงมาปรับละเอียดอีกครั้ง
4.2 เมื่อได้ค่า Distance ครบทุกลำโพงแล้ว ให้เข้าไปแก้ distance ลำโพง L ให้เท่ากับ R เข้าไปที่
Home menu-- System set up- Manual SP SETTING ---Distance set up
หลักการปรับ Distance คือ L=R , SR=SL , ส่วน center ให้น้อยกว่าคู่หน้าซัก 0.15-0.20m แต่ก็ขึ้นกับระยะที่เราจัดวางด้วยนะครับ และซับเท่ากับคู่หน้า
จบสำหรับการหา Level distance และ Pink noise จาก DVE
ต่อไปเป็นการหา distance โดยอาศัยเสียงจาก Pink noise จาก DVE อันนี้ผมว่ายากสุดเลยท่าน
การหา distance โดยอาศัยเสียงจาก Pink noise จาก DVE
มาเข้าการหา Distance ด้วยเสียงจากแผ่น DVE อันนี้ผมเองก็งงหลายตลบอยู่เหมือนกัน อันนี้หากท่านใดมีข้อมูลที่ดี ๆ ง่ายกว่านี้ฝากช่วยเติมเสริมแต่งได้นะครับ เพราะอันนี้หูผมฟังไม่ค่อยออกเลยไม่ได้ใช้ 5555555
ข้อนี้ให้ต่อ DVD และตั้งค่าเหมือนในข้อ 3 นะครับ
ในข้อ 3 นั้นจริงๆ แล้วไม่ต้องต่อ coax ก้ได้ครับ เสียงจาก DVD จะผ่านทาง HDMI
แต่การหา distance ด้วยแผ่น DVE นี่ จำเป็นเลยครับต้องต่อไม่งั้นเสียงไม่ออก และให้เข้าไปตั้ง SIGNEL SEL กดซ้ำ ๆ ให้เป็น DIGITAL IN
1. ทำข้อ 3 ไปจนถึง 3.5.4 นะครับ ลองฟังลำกับการวิ่งของเสียงให้คุ้นว่าเสียงออกลำโพงไหนนะครับ แล้วกลับมาตั้งต้นลำโพงแรกใหม่ กด pause ใว้
2. เข้าไปที่ Home menu --->-Systems set up ---- Manual SP Set up-----Distance set up
หน้าจอ tv จะมีรูปลำโพงกระพริบนะครับ แต่ไม่มีเสียง
3 กด play ที่รีโมท DVD จะมีเสียงออกจากลำโพง และไล่ไป
เรื่อยๆ นะครับ ถือรีโมท 2 อันนะ คอยฟังเสียง จากแผ่นว่าไปที่ลำโพงไหน
แล้วเราก็ไล่ลำโพงใน AVR ตามไป กด +- distance ไปเรื่อยๆ อันนี้ ถ้าให้เร็วก็ทำต่อจาก ใช้ AVR หา distance ไปเลยครับ จะได้ต่อยอดจากตรงนั้น
จะลำบากตรงที่ ต้องคอยกด เดินหน้าถอยหลัง ลำโพงใน DVD แล้วตามด้วย AVR นั่นแหละครับ
Trick เพิ่มเติมจากพี่เล็กและพี่ ชวิน
1.ถ้า center แหลมไปให้ลด level ลงสัก 1 0.5
2.เสียงจาก Surround ควรตั้งเพิ่มสัก 0.5-1 จะทำให้ได้เสียง surround ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
3.ใน LX บางรุ่น น่าจะเป็นรุ่นที่มี full band phase control ท่านสามารถเข้าไปวิเคราะห์ distance ได้ที่ Precision distance
ค่าที่ได้ต้องใกล้เคียง 98 ,99 ,0 จะถือว่าการจัดวางลำโพงทำได้ดีมาก ๆ ครับ อันนี้รายละเอียดผมจะไม่ทราบมากนักเพราะเครื่องผมไม่มี 55555 ต้องรบกวนถามพี่ชวินครับ
4.ถ้าสัญญาณเสียงเข้าเป็นระบบ 5.1 หากเราต่อลำโพงใว้ 7.1 ต้องการเล่นเป็น 7.1 ให้เลือก ระบบเสียง Prologic II-EX เท่านั้น
หากเลือกเป็น neo-6 surround หลังจะรวมเป็น 1 เดียว ถ้า Prologic II surround หลังจะกลับ เฟส
อันนี้เพิ่มเติมจากผม มีหลายคนถาม
ถ้าหากต้องการเบริ์นลำโพง แบบเปิด MP3 ค้างใว้เลย แต่ให้เสียงออกทุกลำโพง ให้ทำดังนี้ครับ
1.เสียบ USB เข้าเครื่อง กดปุ่ม USB IPOD -----กดปุ่ม List (ปุ่มเดียวกับ Audio parameter )
2.เลือก folder เพลงจาก แป้นวงกลม กด ok
3.กดปุ่ม Memery (standard) เพื่อเลือก replete off เพราะถ้า on มันจะเล่นอยู่เพลงเดียว
4.กดปุ่ม Receiver ----STEREO ----Adv surround เลือกจนเป็นEXT STREREO เสียงจะออกทุกลำโพงครับ
เพิ่มเติมแก้ไขได้นะครับ หากท่านใดมีข้อมูลที่ถูกต้องหรือผมสับสนตรงไหน แจ้งได้เลยครับทุก ๆ ท่าน
ขอบคุณครับ ขอให้ใช้ Pioneer อย่างมีความสุขนะครับ บายๆ
-
------------------
แบบเป็น flow chart ดูประกอบครับ [yes]
(http://image.free.in.th/z/tt/48bp1.jpg) (http://pic.free.in.th/id/f44dab315513f6409af7e0c9ece214ae)
(http://image.free.in.th/z/tl/vmip2.jpg) (http://pic.free.in.th/id/6b25c9ea1e456a3e9e90f2bb4179cbce)
(http://image.free.in.th/z/tm/a2wp3.jpg) (http://pic.free.in.th/id/224d1665929cf986dc23e22341747eef)
(http://image.free.in.th/z/ti/m1xp4.jpg) (http://pic.free.in.th/id/2b02ee1918611d1f8d895e90c3e2c3d1)
(http://image.free.in.th/z/tk/dmfp5.jpg) (http://pic.free.in.th/id/4b24c8d36b8e55d21e7ed31ebd4250e6)
(http://image.free.in.th/z/to/s0pi6.jpg) (http://pic.free.in.th/id/10fe29be1cd086de7967b87303e7d400)
-
ขอบคุณท่าน newman จร้าาาาา.... [หื่น] [หื่น]
-
ขอบคุณมากครับ ใบหน้าผมเริ่มโผล่ออกจากกะลาบ้างนิดๆ แล้วครับท่าน.....
....โชคดีที่ซื้อ Polk Rti ไว้ ครบเซ็ท up AVR เมื่อไหร่ Pioneer เป็นตัวเลือกอันดับ 1....
>>>ที่ซื้อเพราะ<<<
..........มีคู่มือ เซ็ทระบบ ยี่ห้อนี้ไง........(ไม่มีในตำรา ไม่ต้องซื้อต้องหา ขอ Save As....ไว้ก่อนล่ะ)
หลวมตัวซื้อ sub Active 200 Watt. Pioneer(พนักงานเชียร์) มา พร้อมกับวันที่ซื้อ Onkyo in the box ทีนี้ล่ะ..จะได้ใช้ประโยชน์เต็มร้อย.
.....รอ>>>ราคา pioneer รุ่นใหญ่ ปี 2012 ตกรุ่น 5555+++
-
up flow chart ให้เพิ่มกระทู้ที่ ต่อท้ายนะ
-
ขอบคุณมากครับ ใบหน้าผมเริ่มโผล่ออกจากกะลาบ้างนิดๆ แล้วครับท่าน.....
....โชคดีที่ซื้อ Polk Rti ไว้ ครบเซ็ท up AVR เมื่อไหร่ Pioneer เป็นตัวเลือกอันดับ 1....
>>>ที่ซื้อเพราะ<<<
..........มีคู่มือ เซ็ทระบบ ยี่ห้อนี้ไง........(ไม่มีในตำรา ไม่ต้องซื้อต้องหา ขอ Save As....ไว้ก่อนล่ะ)
หลวมตัวซื้อ sub Active 200 Watt. Pioneer(พนักงานเชียร์) มา พร้อมกับวันที่ซื้อ Onkyo in the box ทีนี้ล่ะ..จะได้ใช้ประโยชน์เต็มร้อย.
.....รอ>>>ราคา pioneer รุ่นใหญ่ ปี 2012 ตกรุ่น 5555+++
ตอนนี้ LX 75 ราคา 40000/ +- 2000
LX 85 5600/ +- 2000
ยิ่งน้อง yam 2010/3010 ยิ่งน่าสอยเป็นอย่างยิ่งเลยท่าน ลดราคาลงมาเยอะเหมือนกัน
ส่วนตัวผม หมดสิทธิ์ ทั้งสองตัว เนื่องจากชั้นวางไม่เอื้อ กับavr ตูดยาวครับ...วัดแล้วโผล่แน่
-
ขอบคุณมากครับ ใบหน้าผมเริ่มโผล่ออกจากกะลาบ้างนิดๆ แล้วครับท่าน.....
....โชคดีที่ซื้อ Polk Rti ไว้ ครบเซ็ท up AVR เมื่อไหร่ Pioneer เป็นตัวเลือกอันดับ 1....
>>>ที่ซื้อเพราะ<<<
..........มีคู่มือ เซ็ทระบบ ยี่ห้อนี้ไง........(ไม่มีในตำรา ไม่ต้องซื้อต้องหา ขอ Save As....ไว้ก่อนล่ะ)
หลวมตัวซื้อ sub Active 200 Watt. Pioneer(พนักงานเชียร์) มา พร้อมกับวันที่ซื้อ Onkyo in the box ทีนี้ล่ะ..จะได้ใช้ประโยชน์เต็มร้อย.
.....รอ>>>ราคา pioneer รุ่นใหญ่ ปี 2012 ตกรุ่น 5555+++
ตอนนี้ LX 75 ราคา 40000/ +- 2000
LX 85 5600/ +- 2000
ยิ่งน้อง yam 2010/3010 ยิ่งน่าสอยเป็นอย่างยิ่งเลยท่าน ลดราคาลงมาเยอะเหมือนกัน
ส่วนตัวผม หมดสิทธิ์ ทั้งสองตัว เนื่องจากชั้นวางไม่เอื้อ กับavr ตูดยาวครับ...วัดแล้วโผล่แน่
ถ้าใครสนใจรุ่นใหญ่ ตกรุ่น ของแถมเพียบโมพร้อม LX83 ราคา 40,000 ติดต่อได้ที่คุณ ชวิน 081-642-3836 นะครับ กทม
แกเป็นแฟนพันธ์แท้ pioneer เลย เก่งครับ ท่านนี้
-
แม่นแล้ว ใครรับ LX 83 เปลี่ยนฟิวส์แล้วเกือบทุกตัว โมเบ็ดเสร็จ...
ติดต่อน้าชวินเลยจร้า...แว่วมาว่า อยู๋กทม. แกไปส่งพร้อมปรับตั้งเครื่อง+setup ระบบให้เลยครับ
เบอร์โทรตาม ข้างบนเลยครับ....คนนี้ตัวจริง เสียงจริง ฟันเฟิมครับ
-
เข้ามาขอบคุณด้วยคนจร้า [เท่ห์]
พึ่งจะเป็นแฟนานุแฟน AV Amp , AVR ของไพโอเนียร์ไม่นาน นี้เองจร้า (เมื่อก่อนเล่น และยังเก็บเครื่องไว้อยู่ CLD909/3380 น่าจะเป็นชื่อเกาหลีแล้ว คือ "พัง ไป นาน")
VSA-AX10Ai-N รอบแรก สองปีก่อน เจอพี่ๆผู้ใหญ่ ช้อนไปแล้ว เลยต้องหามาเล่นใหม่
ค้นหาข้อมูลอยู่นาน คิดว่า ข้อมูลในกระทู้นี้ ต้อเป็นประโยชน์มากมายแน่ๆครับพ๊ม
ถึงจะเป็นรุ่นเก่าแล้วก็ตาม แต่การเซ็ทอัพระบบเสียงต่างๆ น่าจะยังคงคล้ายๆกัน [ปลื่ม]
-
ตาแจ้งเลยครับ ขอบคุณมากๆ สำหรับกระทู้ดีๆ ใครมีอะไรแนะนำเกี่ยวกับ AVR Pioneer แชร์ๆกันนะครับ เพิ่งเล่นแต่คิดว่ายังใช้ไม่คุ้ม โดยเฉพาะ รุ่น LX57(เก่าหน่อย) รึว่ารุ่นใกล้เคียงกัน แนะนำผมหน่อยครับ เพื่อการใช้งานเต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการตั้งค่าเสียงให้หนังมันส์เพลงเพราะ รบกวนหน่อยครับ
-
มีประโยชน์มากๆครับ