HDMI ใช้มาหลายยี่ห้อหลายรุ่น จนตอนนี้แทบสิ้นเนื้อประดาตัวแล้วครับ
audioquest ควรเริ่มเล่นรุ่นที่มีส่วนผมสมของเงิน ตั้งแต่ cinamon เป็นต้นไป
พวกรุ่น pearl forrest จะไม่โดดเด่นเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นในราคาเดียวกัน
ยี่ห้อนี้(ตั้งแต่รุ่น cinamon ขึ้นไป) ให้ภาพจะออกแนว filmlook เม็ดสีเข้มข้น หนักแน่น ภาพดูจริงจัง
ถ้าเป็นรุ่น vodka จะเด่นมากในแง่ contrast และความแวววาวของสีที่มีแสงตกกระทบ พวกผิวคนที่มีเม็ดเหงื่อ
รถยนต์ก็จะเหมือนขัด wax เคลือบสีมาจนเงาวับ และไล่gray scale ได้ดีมากๆ ไล่ขาว-->เทา-->ดำ เด่นกว่ายี่ห้ออื่น
สำหรับภาพยี่ห้อนี้จะเหมาะสมกับการใช้งาน plasma มากกว่า LED ครับ
เสียงเด่นที่เสียงกลาง กระชับ ควบแน่น เสียงขึ้นbodyเป็นรุปเป็นร่างกึ่งสามมิติได้ง่าย แรงปะทะ จังหวะโคนเสียงเด่น
ไม่ได้รับอนุญาต เคยใช้แต่รุ่น O ภาพ เด่นที่ความสว่างสูงมากๆ contrastสูง การไล่เฉดสีออกไปโทน DIGITAL
รายละเอียดพวกขอบวัตถุจะคมชัดมากๆเมื่อเทียบกับสายในราคาระดับเดียวกันหรือแพงกว่า
เหมาะกับLED และ projector มากกว่า plasma ครับ
เสียงออกแนวดิบๆ เนื้อเสียงติดสากๆเล็กน้อย โดยรวมเด่นเรื่องภาพมากกว่าเสียง
ยี่ห้อนี้ดีตรงเอาไปเทรดเปลี่ยนเป้นรุ่นสูงขึ้นได้โดยเพิ่มค่าใช้จ่ายตามราคาส่วนต่าง
jericho ให้ภาพที่สีสันฉูดฉาด สด แปร๋น ขอบภาพดูคม แต่มวลภาพจะค่อนข้างบอบบางหน่อย
เสียง จะติดบาง ไม่ค่อยเนื้อหนัง แหลมจะสากๆ เบสมีปริมาณไม่มาก แต่มีเรี่ยวแรงและแรงปะทะค่อนข้างดี
ยี่ห้อนี้ดีตรงรับประกันตลอดชาติครับ เสียเปลี่ยนได้้เรื่อยๆ
VELOCITA MILANO V ความสว่างสูงพอๆกับ ไม่ได้รับอนุญาต 0 ภาพนวล+เนียน ภาพมีมวลหนา มีเนื้อหนัง
แต่ภาพจะออกแนว digital มากๆ เนื้อสีจะติดชืดๆหน่อยไม่ค่อยเข้ม
เสียงมีเนื้อหนัง นวล หนา เบสเยอะ
kaiboer L series การไล่เฉดสีไม่ถึงกับแม่นยำนัก รายละเอียดปานกลาง แต่ให้ภาพที่มีมวลหนาดูมีเนื้อหนังมาก
ทำให้ภาพมีความเป็นตัวสูง เนื้อสีเข้มข้น ใช้กับ plasmaจะเสริมมวลภาพให้ดีขึ้นภาพดูมีมวลสารเด่นขึ้น
ใช้กับ LED ก็เกลี่ยภาพได้เนียน
เสียงเบสหนา เสียงกลางใหญ่ แหลมไม่ละเอียดนัก โดยรวมเสียงใช้ได้ แต่ไม่โดดเด่นครับ
ล่าสุดเพิ่งได้ wireworld silver starlight มาใช้ รุ่นนี้ให้ภาพที่อิ่ม เนียน การไล่เฉดสีถูกต้องมากๆ
เนื้อสีจะมีความโปร่งอยู่ในตัว ไม่เข้มเกินไป ไม่อ่อนเกินไป ทำให้ดูสบายตามากๆ
บุคลิกมีความเป็นกลางมากที่สุดในบรรดาทุกยี่ก้อที่ลองมา ไม่ติดไปทางfilmlook และไม่ติดโทน digital
เสียงให้total balance ดี ไล่ความถี่ต่ำสุดไปสูงสุดได้อย่างราบเรียบไม่มีสะดุด มีความละเมียดละไมไหลลื่น
ปราศจากซึ่งความกระด้างทั้งในเนื้อเสียงและเนื้อภาพ
จอภาพตัวหลักๆผมใช้ plasma panasonic VT60 ตัวนี้ค่อนข้างsensitive กับสิ่งแวดล้อมทั้งอุปกรณ์และกระแสไฟฟ้า
จึงเห็นความแตกต่างได้ง่ายเวลาเปลี่ยนสาย เปลี่ยน player ครับ
ทีวีตัวรองก็จะมี LED LCD กับ PLASMA อีกอย่างละตัวสองตัว คุณภาพก็ลดหลั่นกันมา
เอาไว้ใช้ทดสอบผลลัพธ์ที่แตกต่างกันในหลายๆรูปแบบความเหมาะสม
ส่วนตัวผมเอง ผมขอบอกเลยว่า ผมชอบแนวภาพของ kaiboer L series
ชอบมากกว่าสายที่แพงกว่ากันเกินสิบเท่าตัวอย่าง audioquest vodka หรือ wireworld silver starlight อีกครับ
ไม่ใช่เพราะ kaiboer มันดีเลิศกว่าสายเส้นละหมื่น แต่ที่ผมชอบเพราะ kaiboer มันให้บุคลิกบางอย่าง
ที่สายยี่ห้ออื่นไม่สามารถให้ได้ ซึ่งมันตรงกับความต้องการของผมพอดีครับสายแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อก็จะมีบุคลิกที่ต่างกันออกไป ไม่จำเป็นต้องใช้สายแพงก็ได้
ขอให้เลือกแนวภาพและเสียงให้เหมาะสมกับที่เราต้องการครับ
ความแตกต่างของผลลัพธ์ที่ได้บางดีก็ขึ้นอยุ่กับความสามารถในการจำแนกของบุคคลนั้นๆด้วยครับ
บางคนแยกได้ชัดเจน บางคนเห็นความต่างน้อย หรือบางคนไม่เห็นความแตกต่างเลยก็มี
บางทีผมก็ยกอุปกรณ์ไปทดสอบที่บ้านเพื่อนๆคนอื่นด้วยครับ
ส่วนมากจะทดสอบสาย HDMI สองสามเส้น ให้เพื่อนดูภาพ โดยเปิด content เดียวกันประมาณ ๕ นาที
แล้วก็เปลี่ยนสาย จนครบทุกเส้น โดยที่ไม่บอกเพื่อนว่าสายเส้นไหนราคาเท่าไหร่ หรือยี่ห้ออะไร
ส่วนมากเพื่อนก็จะบรรยายบุคลิกของสายนั้นได้ออกมาตรงตามๆกัน
เส้นที่ผมเห็นว่าใช้แล้วสีจืด เพื่อนมันก็ก็บอกว่าเส้นนี้สีแม่งจืดมากๆ ไม่รู้จะดูไปทำไม ใช้แล้วไม่ชวนให้มองเลยงี้ ๕๕๕๕
ส่วนเพื่อนผมที่แยกความแตกต่างไม่ออกก็มีหลายคนครับ แต่ก็ยังคุยกันได้ดี
ผมกับเพื่อนก็ทดลองนั่นนี่เพิ่มเติมแล้วเพื่อนยังไม่เห็นต่างก็ขำกันไปว่า จะซื้อสายแพงๆมาทำไมเนี่ย ๕๕๕๕๕๕
มันเป็นเรื่องของศาสตร์และศิลป์ซึ่งแต่ละคนย่อมมีความเห็นต่างกันออกไปครับ
ถ้ามีเงินมาก ใช้ของแพงๆ ถึงไม่เห็นความแตกต่าง แต่ใช้แล้วมีความสุขก็ใช้ไปเถอะครับ
ถ้ามีเงินน้อย แต่เป็นคนที่สามารถเห็นความแตกต่างได้ชัดเจน ก็อย่าไปซื้อสายแพงเกินฐานะของตนเลยครับ
เลือกสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเรา ที่เราใช้แล้วมีความสุขนั่นแหละครับ คือ สิ่งที่ดีที่สุดแล้ว