ขอบคุณมากๆๆ ครับ เเต่ผมไม่อยาก ซื้อ usb wirless อีก อ่ะครับ
พอจะมีวิธีเเก้ไขไหมครับ อยากใช้ผ่านสาย Lan ครับ

คือจุดประสงค์หลังผมจะ ดูหนัง Bru-lay

การเเก้ปัญหาของผมคิดว่าจะ ซื้อ สาย HDMI มาก่อน เพือเทส slot เเละการเชื่อมต่อด้วย เพือที่จะใช้ดูหนังไปก่อน
เเต่ถ้าเป็นไปได้ ก็ไม่อยาก จะ เปิด Notebook อีกเครืองเพือใช้อ่าน file เเล้วส่งผ่าน HDIM ไปเเสดงภาพ

ใจจิงอยากให้มัน ไปอ่านไฟล์ ในเครือง com หรือ notebook เเล้วก็ อ่านไฟล์เองครับ

อีกข้อนึงครับ คุณภาพ การอ่านไฟล์เอง กับอ่านไฟล์ โดย notebook เเล้วไป เเสดงผลที่ จอ LEDผ่าน component เลย จะ ต่างกันมากป่ะครับ

ส่วนการต่อ สายส่งสํญญาณภาพจาก computerไปที่ทีวี
ส่วนตัวผมเคยใช้ สาย RGB (10กว่า pin สายดั้งเดิมที่เราใช้ต่อกับ monitor ในการ์ดจอรุ่นเก่าๆครับ) ผลที่ได้ คุณภาพภาพใช้ได้ครับ

ส่วนที่ถามว่า คุณภาพต่างกันไหม ระหว่าง
1.computer ประมวลผล อ่าน ไฟล์ แล้ว ส่งภาพไปเล่นที่ LED (ผ่านสายRGB,Dvi,HDMI,Component,Composite)
2.แชร์ไฟล์จาก computer ผ่าน network (ผ่าน AllShare-DLNA เช่น LAN,wireless) แล้วใช้hardware+softwareหรือfirmwareของตัวทีวีประมวลผลอ่านไฟล์นั้นๆ

ก็ต้องแล้วแต่ hardware,software ของอุปกรณ์ที่ใช้อ่าน และ สื่อส่งข้อมูลไฟล์/สื่อสายสัญญาณมาที่จอภาพ ว่า ข้อไหนดีกว่ากันอ่ะครับ
ข้อ 1. ไฟล์จาก harddisk => softwareที่ใช้เล่นไฟล์ + cpu,ram,การ์ดจอ ของcomputer => สายสัญญาณภาพ(ผ่านสายRGB,Dvi,HDMI,Component,Composite) => จอLED/LCD
ข้อ 2. ไฟล์จาก harddisk => network(Lan/Wireless) => firmware/softwareที่ใช้เล่นไฟล์ + cpu,ram ของ ทีวี => จอLED/LCD

สรุปคือ แล้วแต่อุปกรณ์ของเราในแต่ละกรณี/แต่ละสถานที่ด้วยครับ ว่าความสามารถโดยรวมอันไหนดีกว่ากัน

ถ้าโดยความเห็นส่วนตัวที่เหมาะกับบ้านผม และ เท่าที่ลองต่อหลายๆแบบดู
แบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มี 2 แบบ คือ
ก. internal HDD => softwareที่ใช้เล่นไฟล์ + cpu,ram,การ์ดจอ ของcomputer => สายสัญญาณภาพ(ผ่านสายRGB,Dvi,HDMI,Component,Composite) => จอLED/LCD
กรณีนี้คือ จะเล่นไฟล์ใน notebook ครับ (ต้อง ยกnotebook มาวางใกล้ๆทีวี เท่าที่สายสัญญาณภาพจะยาวถึง)
เหตุผลเหมือนกับทีคุณ akerach บอก คือ ขี้เกียจ copy fileจากlaptop มาใส่ hdd อีกลูกที่เป็นexternal (หรือไม่ก็ ต้องถอด internal HDD มาใส่ External HDD case)
ข. external HDD => USB portของทีวี => firmware/softwareที่ใช้เล่นไฟล์ + cpu,ram ของ ทีวี => จอLED/LCD
ที่ใช้ external HDD เพราะ ปกติ ไฟล์หนังที่ผมได้มาจะมาจากการดาวน์โหลดครับ โดยใช้ Desktop PC โหลดบิท ทิ้งไว้ 1-2วัน แล้วค่อยนำไฟล์มาเปิด
ถ้าใช้ internal HDD ก็ไม่สะดวกในการย้ายไฟล์มาดูใกล้ๆทีวี (เช่น copy หรือ ถอดHDD)
และที่ไม่ใช้การแชร์ไฟล์ผ่าน network เพราะบ้านผมRouterกับทีวีอยู่คนละห้อง จะใช้สายแลนก็เกะกะ ระโยงระยาง จะใช้wireless สัญญาณก็ไม่แรงเพราะผ่านกำแพง
แต่ข้อเสียคือ firmware ของ ทีวี ศักยภาพด้อยกว่า computer/Hd player มากครับ โดยเฉพาะเรื่อง subtitle , ไม่สามารถอ่าน subtitle ที่ฝังมา(embedded) , ไม่สามารถอ่านไฟล์subtitle ที่เป็น bitmap format(.sub) , รองรับ subtitle ที่เป็น text format แค่บางตัว (.srt,.sub,.txt)

แต่แบบที่น่าจะดีที่สุดในอุดมคติของผม คือ
ค.external HDD/Internal HDD => firmware/softwareที่ใช้เล่นไฟล์ + cpu,ram ของ HD Player => จอLED/LCD
เพราะ ไม่โหลดการทำงานของทีวีในการประมวลผลอ่านไฟล์ และ firmware ของ HD Player ก็อัพเดตบ่อยกว่า firmware ของทีวี
และไม่ต้องเปิดคอมพิวเตอร์เพื่ออ่านไฟล์ ซึ่งน่าจะกินไฟและย่นอายุการใช้งานมากกว่า เปิด HD Player ตัวเล็กๆตัวนึง
ผมแนะนำให้ใช้ external HDD เพื่อสะดวกในการเคลื่อนย้าย จากจุดที่เรา ใช้ download ไฟล์หนัง มาจุดที่ต่อ HD Player
แต่ในรายที่ซื้อ HDD พร้อมกับ ซื้อบริการ โหลดหนังมาให้ด้วยเลย ก็ สามารถใช้เป็น Internal HDD ใส่ใน HD Player ก็ได้ครับ
(แล้วแต่ รุ่น HD Player นะครับ บางรุ่นตัวเล็กๆ จะไม่มี slot ให้ใส่ HDD , ต้องใช้ external HDD อย่างเดียว)

แต่ก็แล้วแต่ผู้ใช้แต่ละท่านนะครับ ว่าจะเลือก ทีวี , คอมพิวเตอร์ หรือ Hd Player เป็นตัวอ่านไฟล์
คงต้องลองดูว่า อันไหนศักยภาพของการประมวลผลมากกว่า+การกินไฟน้อยกว่า+การอัพเดทsoftware/firmwareง่ายกว่า
เช่น คอมของท่านspecสุงมาก อ่านไฟล์ได้เนี๊ยบ และใช้สายส่งสัญญาณภาพคุณภาพดีๆ และไม่กลัวเรื่องการกินไฟ หรืออายุการใช้งานของคอมท่าน ก็ใช้คอมของท่านเป็นตัวอ่านไฟล์ย่อมดีกว่า ใช้ทีวีหรือHd playerอ่านไฟล์ แน่นอน

แต่สำหรับผม ณ ตอนนี้คิดว่า HD Player น่าจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุด แต่ก็ไม่แน่นะครับ หลังจากลองหามาใช้ซักตัวแล้ว อาจจะเปลี่ยนความคิดก็ได้ครับ
** เพราะในแง่ของการหาอัพเดท software เองในcomputerเรา ย่อมง่ายกว่า การรอผู้ผลิต ทั้งทีวีหรือHD Player ปล่อย firmware ตัวใหม่ออกมาให้เราแน่นอน
** แต่ถ้าเราจะต้องเปลี่ยนทั้ง cpu/mainboard/ram/VGA card ของcomputer เพื่อมาอ่านไฟล์หนังที่บิทเรตสูงๆHzสูงๆ ย่อมมีค่าใช้จ่ายมากกว่าและยากลำบากกว่า การซื้อ หรือ เปลี่ยนHD Player ตัวใหม่ (ราคาเริ่มต้นที่ 3,xxxบาท) อย่างแน่นอน (คงไม่ต้องพูดถึงการซื้อทีวีใหม่ในกรณีใช้ทีวีเป็นตัวอ่านไฟล์นะครับ)

ได้เเล้วครับ เดี่ยวคืนนี้กลับไป ลองก่อน จะ รายงานผลให้ทราบ คืนนี้ครับ

อีกประเด็จมีใครใช้ สาย HDMI เเล้ว ไปเเสดงภาพที่ LED บ้างครับ กระตุกกันป่าวครับ

ส่วนเรื่องกระตุก เมื่อใช้ สาย HDMI ที่เคยได้ยินมา น่าจะมีสองสาเหตุนะครับ
1. ความสามารถของ computer เราไม่พอสำหรับ ไฟล์นั้นๆ (cpu,ram,การ์ดจอ)
ทดสอบง่ายๆ ครับ ลองเปิด ไฟล์เดียวกันดูใน monitor คอมพิวเตอร์ ถ้ากระตุก ก็ น่าจะเป็นที่คอมเรานะครับ
(การ์ดจอรุ่นใหม่ๆจะ ต่อสายได้หลายแบบ ให้ลองสายหลายๆแบบต่อไป monitor ลองดูนะครับ)
2. ความสามารถของ สาย HDMI
ดูในคอม ไม่กระตุก พอต่อผ่านสายนี้ กระตุก ก็ง่ายเลยครับ น่าจะเป้นที่สาย บางคนคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับสายครับ
แต่ผมเพิ่งอ่านเจอในเว็บ http://forum.thaidvd.net (จำกระทู้ไม่ได้ ลอง search ดูละกันครับ) ว่า สายบางเวอร์ชั่นจะมีปัญหา พอลองเปลี่ยนสายก็ไม่กระตุกเลยครับ

มีใครเคยใช้ รุ่น LA40C530F1R บ้างครับ

รุ่นนี้มันอ่านไฟล์อะไรจาก USB ได้บ้างครับ
ถ้าผมซื้อ มาเล่นกับ PS3 จะเวิร์คมั้ยอ่ะครับ

ดูในคู่มือไม่มีบอกเร๋อครับ
อย่างในคู่มือของเจ้า UA46C6900 ของผมนะครับ จะมีตารางบอกไว้เลย

Thanks: ฝากรูป webhosting

ซื้อ HD Player ราคาไม่กี่พันจบครับไม่ต้องมากังวลเรื่อง Sub ให้ภาพที่สวยกว่า TV เล่นได้หลากหลายกว่า(ไฟล์ DAT เล่นไม่ได้เหมือนกัน) ไม่ทำงานหนักช่วยยืดอายุ TV

ใช่เลยครับ ซื้อทีวีได้ตั้งหลายหมื่น ซื้อ HD player เพิ่มอีกไม่กี่พันเอง T_T

อ้างจาก: nolevel ที่ ธันวาคม 03, 2010, 07:53:30 pm

อ้างจาก: Dogapong ที่ ธันวาคม 03, 2010, 04:06:08 pm

สวัสดีครับ มีเรื่องรบกวนถามชาว Samsung นิดนึงครับ
คือผมซื้อ LCD TV 32" มาครับ มีรู USB ดูหนัง HDef ได้อยู่ 1 รู แต่ปัญหาคือไฟล์ที่ผมโหลดๆ มาเปิดจะเปิดได้แค่ประมาณ 60-70% (ไฟล์ที่เปิดไม่ได้ระบบจะบอกว่าไม่รองรับ)

อยากจะถามว่าการ update firmware เป็น version ใหม่ 1011.1 ที่ปล่อยวันที่ 5 ต.ค. 53 จะช่วยแก้ไขปัญหาได้ไหมครับ
link นี้ http://www.samsung.com/th/consumer/tv-audio-video/television/lcd-tv/LA32C530F1RXXT/index.idx?pagetype=prd_detail&tab=support

 

ผมเห็นไฟล์ .DAT มันไม่ขึ้นให้กดเลยนะครับ ส่วนอื่นก็มีได้บ้างไม่ได้บ้าง ผมว่าสัก 80-85% อ่ะครับ 32C6900

แบบนี้คงต้องลงทุนซื้อ Media Box แล้วสิเนี่ย   

...
แต่เวลาเล่น mp3 ผ่าน usb แล้วจะปิดหน้าจอเปิดแต่เสียงไม่ได้ แล้วไม่ support file .DAT มันจะไม่เห็นไฟล์เลยครับ
...

ขอแชร์ประสบการณ์นะครับ UA46C6900

เรื่องแรก เรื่อง ไฟล์VCD (.DAT)
เท่าที่ผมลองเล่นไฟล์หนัง โดยใช้ External HDD(บางครั้งก็ใช้Flash drive) ต่อทาง usb นะครับ
พวกfile VCD (.DAT) เครื่องจะไม่ support ครับ คือ มองไม่เห็นชื่อไฟล์เลย (ซึ่งก็ตรงตามคู่มือบอก ว่าไม่ support ไฟล์.DAT)
แต่VCDบางเรื่อง(ส่วนใหญ่จะRipมา) จะมีไฟล์นามสกุล.mpg (ซึ่งในคู่มือบอกว่า support codecs MPEG (.MPG)) ซึ่งเครื่องก็มองเห็นและเล่นได้ปกติ
ดังนั้น ผมก็เลยลองเปลี่ยนนามสกุลดูครับ เช่น AVSEQ01.DAT ==> AVSEQ01.mpg
ก็ได้ผลครับ ตัวเครื่องจะมองเห็นไฟล์ และสามารถเล่นได้ปกติครับ
ลองดูกับหลายๆเรื่องแล้วก็ไม่มีปัญหาครับ
ถ้าให้เดา คงเพราะว่าVCD (.DAT) จริงๆคือ เป็นไฟล์ encode มาด้วย codecs mpeg เหมือนไฟล์.mpg
แต่ด้วยระบบของเครื่องเล่นVCD จึงต้องมีชื่อไฟล์อยู่ในรูป AVSEQxx และ นามสกุล.DAT มั้งครับ เครื่องเล่นVCDถึงจะอ่านได้
ดังนั้นแค่เปลี่ยน นามสกุลให้มันมองเห็น LED/LCD ของพวกเราก็จะสามารถเล่นไฟล์นั้นๆได้แล้วล่ะครับ

อีกเรื่องคือ ไฟล์Hi-Def (.mkv)
1.audio หรือ เสียงพากย์ (เท่าที่ลองด้วย ไฟล์เดียวกัน ที่มีหลายเสียงพากย์ให้เลือกนะครับ)
- ถ้าเล่นผ่านช่องทาง USB จะสามารถเลือกเสียงพากย์ได้ (โดยขณะเล่นไฟล์ กดTool แล้วเลือก"ภาษา")
- แต่เล่นผ่าน AllShare (file sharing ทาง network) จะไม่สามารถเลือกเสียงได้ครับ มันจะเลือกเสียงพากย์ลำดับแรกให้อัติโนมัติ (กด Tool แล้ว ไม่มีหัวข้อให้เลือก "ภาษา")
2.subtitle หรือ คำบรรยายใต้ภาพ
ในคู่มือจะบอกไว้เลยครับ ว่า support format ไหนบ้าง (เช่น .srt .ssa .sub ...)
(ตัวUA46C6900 ของผมนี้ จะ support เฉพาะ format ที่เป็นตัวอักษร , ไม่ support ซับที่อยู่ในรูป รูปภาพ)
ซึ่งส่วนใหญ่ไฟล์ที่เราโหลดกันมาไว้ในharddiskนั้น จะเป็นซับประเภทรูปภาพ ที่ฝังอยู่ในfile.mkv fileเดียวเพื่อความสะดวก
เมื่อใช้ดูใน computer (ที่มีการลง codecs ไว้ครบถ้วน) ส่วนใหญ่จะไม่มีปัญหา
วิธีแก้ไขคือ ต้อง หา file subtitle ที่เป็น format text มาเพิ่มครับ แล้วนำมาเปลี่ยนชื่อไฟล์ ให้เหมือนกับไฟล์mkvของเรา และเอาไปไว้ใน folder เดียวกัน
(เช่น เรามี avatar2010.mkv อยู่แล้ว ... และสามารถหา avatar_sub_thai.srt มาได้ ให้เราเปลี่ยนชื่อเป็น avatar2010.srt ครับ)
พอเราเปิดไฟล์ ด้วย LED/LCD ของเรา ก็จะมีsubtitle นั้นๆ ขึ้นมาอัติโนมัติครับ
นอกจากนั้นยังสามารถปรับรายละเอียดบางอย่างได้ด้วยครับ เช่น การ sync , Encode (โดยขณะเล่นอยู่ กด Tool แล้วเลือก ตั้งค่าคำบรรยายใต้ภาพ)
ปล.แต่ปัญหาคือ เราจะไปหาsubtitle thai ที่เป็น text format จากไหนล่ะ ?? ตอนนี้ที่ผมรู้จัก ก็แค่ที่เดียวครับ www.thaisubtitle.com
ซึ่งหนังบางเรื่อง จะยังไม่มีคนแปลหรือ แปลยังไม่สมบูรณ์ครับ แต่ก็ยังดีที่มี subtitle eng ให้อ่านแทนน่ะครับ
ถ้าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ มีเว็บอื่นๆ ก็แนะนำมาได้ครับ

ปล.2 ส่วน file หนังชนิดอื่นๆ ก็ ตามที่เพื่อนๆพี่ๆในบอร์ดได้โพสมาบ้างแล้วนะครับ คือ แล้วแต่ spec ของ LED/LCD เราว่า support ไฟล์อะไรบ้าง
ถ้าจะให้ support เยอะจริงๆ ก็ .... Media box หรือ HD Player ครับ เพราะมีการปรับรุ่น ออกรุ่นใหม่ๆเยอะกว่าครับ ฟังก์ชั่นจึงน่าจะ ครอบคลุมมากกว่าครับ