เว็บบอร์ด LCDTVTHAILAND
ห้องซื้อขายแลกเปลี่ยน => ห้องซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนของจิปาถะ => ข้อความที่เริ่มโดย: itopinter_111 ที่ สิงหาคม 24, 2017, 04:31:23 pm
-
(https://static1-velaeasy.readyplanet.com/www.disthai.com/images/content/original-1502872712796.jpg) (http://www.disthai.com/16653547/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%99)
สรรพคุณคุณประโยชน์ของลูทีน
ลูทีนและซีแซนทินเป็นแคโรทีนอยด์ที่สะสมอยู่บริเวณเรตินาของดวงตา ซึ่งเม็ดสีนี้จะปฏิบัติหน้าที่ปกป้องเรตินาและหน้าจอประสาทตาจากกรรมวิธีการ Oxidative Stress ซึ่งนั่นนับได้ว่าจะช่วยลดการเสี่ยงต่อการเป็นโรคหน้าจอประสาทตาเสื่อมได้ และลูทีน (lutein) และซีแซนทีน(zeaxanthin)ปฏิบัติหน้าที่เป็นสารต้านขบวนการออกซิเดชันเพื่อป้องกันเซลล์รับแสงสว่าง (photoreceptor cells) จากอันตรายจากอนุมูลอิสระที่เซลล์ทำขึ้นเพราะว่ามีปริมาณออกซิเจนสูง (oxygen tension) และก็จากการเช็ดกแสง นอกเหนือจากนี้ยังมั่นใจว่าสารประกอบทั้งคู่นี้มีหน้าที่ในการกรองแสงสีฟ้าที่เป็นคลื่นแสงที่มีพลังงานสูง คร่าวๆว่าจะสามารถกรองแสงสีฟ้าลงได้ถึง 40 % ก่อนที่จะแสงจะตกถึงแมคูลา ฉะนั้นจะสามารถลดสภาวะความเคร่งเครียดขบวนการออกซิเดชันต่อจอประสาทตาได้อย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ยิ่งไปกว่านั้นลูทีนยังทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในดวงตาของผู้คนอีกด้วย เพราะเหตุว่าดวงตาของเราจะมีสารอนุมูลอิสระอยู่เยอะๆ ซึ่งจะเป็นตัวทำลายเซลล์รับภาพและก็ทำให้มีการเกิดโรคที่มีปัญหาเกี่ยวกับจอประสาทตาในเด็กและคนแก่ได้ ลูทีนนับว่าเป็นสารอาหารที่มีความ สำคัญสำหรับในการคุ้มครองหน้าจอประสาทตา โดยลูทีนจะทำงานด้วยกันกับกรดไขมันดีเอชเอและเอเอซึ่งมีส่วนช่วยสำหรับในการเสริมสร้างวิวัฒนาการด้านการมองมองเห็นของเด็ก โดยดีเอชเอและเอเอ จะปฏิบัติภารกิจเสมือนเป็นหลอดไฟฟ้า ส่วนลูทีนจะปฏิบัติหน้าที่เหมือนเป็นสารฉาบหลอดไฟฟ้าไม่ให้เสื่อมเร็ว และนอกจากลูทีนจะพบได้บ่อยในดวงตาของคนเราแล้ว ยังเจอได้ในสมองในส่วนที่เกี่ยวกับการมองเห็นถึงปริมาณร้อยละ 66 จึงมั่นใจว่าลูทีน (http://www.disthai.com/16653547/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%99)มีส่วนช่วยสำหรับการรับภาพและส่งต่อไปยังสมองได้ดิบได้ดีขึ้นอีกด้วย
-
(https://cv.lnwfile.com/_/cv/_raw/1k/e1/cx.jpg)
กลไกการทำงานของลูทีน
สารลูทีนในเซลล์รับภาพของจอประสาทตานี้ จะทำหน้าที่สำคัญคือ คอยกรองแสงสีฟ้า ซึ่งเป็นอันตรายต่อจอประสาทตา และเป็นแสงที่หลีกเลี่ยงได้ยากเพราะมีอยู่ทั่วไปรอบๆ ตัวเรา ซึ่งทั้งแสงจากดวงอาทิตย์ แสงจากโทรทัศน์ แสงจากจอคอมพิวเตอร์ แสงจากหลอดไฟ เป็นต้น ลูทีนกับโรคต้อกระจก กลไลของลูทีน สามารถลด ป้องกัน หรือชะลอการเกิดต้อกระจกได้นั้น เป็นเพราะลดกลไกการเกิดความเสื่อมของโรคต้อกระจกโดยตรง และการที่แคโรทีนอยด์มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เพราะอนุมูลอิสระเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดต้อกระจก มีการวิจัยในกลุ่มผู้สูงอายุ ต่างๆ พบว่ากลุ่มที่มีระดับของลูทีนใน กระแสเลือดสูงจะมีความขุ่นของเลนส์ตาน้อยกว่า ซึ่งเป็นการวิจัยของจักษุแพทย์และผู้วิจัยสรุปว่า ลูทีนน่าจะลดการเกิดความเสื่อมของเลนส์ตาในผู้สูงอายุได้จริง ยังมีการวิจัยว่าการรับประทานลูทีนในปริมาณสูงเพิ่มความสามารถในการมองเห็นของผู้ป่วยที่เป็นต้อกระจกไปแล้ว การวิจัยนี้เป็นการวิจัยที่มีการออกแบบแผนการวิจัยมาอย่างดี และทาการทดลองเป็นเวลานานถึงสองปี ลูทีนกับโรคจุดรับภาพเสื่อม นอกจากลูทีน จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต้อกระจกแล้ว ยังพบว่ามีประโยชน์ในโรคจุดรับภาพเสื่อม ซึ่งมีหลายๆ การศึกษาสนับสนุนข้อมูลดังกล่าว โดยพบว่าถ้าปริมาณลูทีนในลูกตาลดน้อยลง จะพบความเสื่อมมากขึ้นในการเป็นโรคจุดรับภาพเสื่อมและความเสี่ยงในการเป็นโรคจุดรับภาพเสื่อมจะลดลง หากมีปริมาณลูทีนในเลือดสูงขึ้น แสดงให้เห็นว่า การบริโภคอาหารที่มีลูทีนสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้
-
(https://cv.lnwfile.com/_/cv/_raw/1k/e1/cx.jpg)
กลไกการทำงานของลูทีน
สารลูทีนในเซลล์รับภาพของจอประสาทตานี้ จะทำหน้าที่สำคัญคือ คอยกรองแสงสีฟ้า ซึ่งเป็นอันตรายต่อจอประสาทตา และเป็นแสงที่หลีกเลี่ยงได้ยากเพราะมีอยู่ทั่วไปรอบๆ ตัวเรา ซึ่งทั้งแสงจากดวงอาทิตย์ แสงจากโทรทัศน์ แสงจากจอคอมพิวเตอร์ แสงจากหลอดไฟ เป็นต้น ลูทีนกับโรคต้อกระจก กลไลของลูทีน สามารถลด ป้องกัน หรือชะลอการเกิดต้อกระจกได้นั้น เป็นเพราะลดกลไกการเกิดความเสื่อมของโรคต้อกระจกโดยตรง และการที่แคโรทีนอยด์มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เพราะอนุมูลอิสระเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดต้อกระจก มีการวิจัยในกลุ่มผู้สูงอายุ ต่างๆ พบว่ากลุ่มที่มีระดับของลูทีนใน กระแสเลือดสูงจะมีความขุ่นของเลนส์ตาน้อยกว่า ซึ่งเป็นการวิจัยของจักษุแพทย์และผู้วิจัยสรุปว่า ลูทีนน่าจะลดการเกิดความเสื่อมของเลนส์ตาในผู้สูงอายุได้จริง ยังมีการวิจัยว่าการรับประทานลูทีนในปริมาณสูงเพิ่มความสามารถในการมองเห็นของผู้ป่วยที่เป็นต้อกระจกไปแล้ว การวิจัยนี้เป็นการวิจัยที่มีการออกแบบแผนการวิจัยมาอย่างดี และทาการทดลองเป็นเวลานานถึงสองปี ลูทีนกับโรคจุดรับภาพเสื่อม นอกจากลูทีน จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต้อกระจกแล้ว ยังพบว่ามีประโยชน์ในโรคจุดรับภาพเสื่อม ซึ่งมีหลายๆ การศึกษาสนับสนุนข้อมูลดังกล่าว โดยพบว่าถ้าปริมาณลูทีนในลูกตาลดน้อยลง จะพบความเสื่อมมากขึ้นในการเป็นโรคจุดรับภาพเสื่อมและความเสี่ยงในการเป็นโรคจุดรับภาพเสื่อมจะลดลง หากมีปริมาณลูทีนในเลือดสูงขึ้น แสดงให้เห็นว่า การบริโภคอาหารที่มีลูทีนสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้