เว็บบอร์ด LCDTVTHAILAND

ห้องซื้อขายแลกเปลี่ยน => ห้องซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนของจิปาถะ => ข้อความที่เริ่มโดย: mooky555 ที่ มิถุนายน 03, 2021, 03:35:11 pm

หัวข้อ: ระวัง ! โรคกรดไหลย้อน
เริ่มหัวข้อโดย: mooky555 ที่ มิถุนายน 03, 2021, 03:35:11 pm
     โรค กรดไหลย้อน (https://www.cigna.co.th/health-wellness/tip/กรดไหลย้อน) (gastroesophageal reflux disease: GERD) เป็นโรคที่เกิดขึ้นมาจากการไหลย้อนของสารคัดเลือกหลั่งในกระเพาะไม่ว่าจะเป็นกรดหรือแก๊สกลับไปที่หลอดอาหาร ซึ่งโดยปกติร่างกายมนุษย์เราจะมีการไหลย้อนของกรดในกระเพาะขึ้นไปในหลอดอาหารอยู่บ้างโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังรับประทานอาหาร แต่ว่าผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีจำนวนกรดที่ย้อนเพิ่มมากขึ้นหรือย้อนบ่อยมากกว่าคนที่ไม่เป็นโรค หรือหลอดของกินมีความไวต่อกรดมากขึ้นแม้ว่าจะมีจำนวนกรดที่ย้อนขึ้นไปไม่เกินกว่าธรรมดา

(https://www.cigna.co.th/sites/default/files/pictures/health-reflux-acids-header.jpg) (https://www.cigna.co.th/health-wellness/tip/กรดไหลย้อน)

     อาการสำคัญที่พบมากในโรคกรดไหลย้อน ได้แก่
ความรู้สึกแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ กลางทรวงอก ซึ่งมักกำเนิดหลังรับประทานอาหารเสร็จใหม่ๆ
     -ความรู้สึกเปรี้ยวหรือขมในปากแล้วก็คอ
     -มีอาหารย้อนขึ้นมาในปากและคอ
     -จุกเสียด แน่นท้องบริเวณลิ้นปี่
     นอกเหนือจากอาการเหล่านี้แล้ว โรคกรดไหลย้อนยังนำมาซึ่งการก่อให้เกิดอาการอื่นๆได้อีก ตัวอย่างเช่น
ลักษณะของการเจ็บทรวงอกที่ไม่ได้มีต้นเหตุจากโรคหัวใจ
     -เสียงแหบเรื้อรัง เสียงเปลี่ยนแปลง
     -ไอเรื้อรังโดยไม่มีต้นเหตุแจ่มชัด
     -กลืนติดขัดเสมือนมีก้อนจุกในคอ
     -อาการทางโพรงปาก ดังเช่นว่า ฟันผุ มีกลิ่นปาก
     -โรคหืดที่ไม่ตอบสนองต่อการดูแลและรักษาด้วยยาตามปกติ

     ความไม่ดีเหมือนปกติของหูรูดส่วนปลายหลอดอาหารที่ทำหน้าที่คุ้มครองปกป้องกรดไหลย้อนจากกระเพาะอาหารมีความดันของหูรูดต่ำหรือเปิดบ่อยมากกว่าคนธรรมดา ความไม่ดีเหมือนปกติกลุ่มนี้อาจเป็นเพราะเนื่องจากการดื่มแอลกอฮอล์ ดูดบุหรี่ และก็ยาบางจำพวก ตัวอย่างเช่น ยารักษาโรคอาการหอบหืดบางตัว
     ความแปลกในการบีบตัวของหลอดอาหาร ทำให้อาหารที่กินลงช้าหรือของกินที่ไหลย้อนขึ้นมาจากกระเพาะอาหารค้างอยู่ในหลอดอาหารเป็นเวลายาวนานกว่าปกติ
     ความแตกต่างจากปกติของการบีบตัวของกระเพาะอาหาร ทำให้ของกินค้างอยู่ในกระเพาะเป็นเวลานานกว่าปกติ ทำให้เพิ่มจังหวะการไหลย้อนของกรดจากกระเพาะสู่หลอดของกินมากเพิ่มขึ้น อาหารชนิดที่เป็นไขมันสูงและช็อกโกแลตจะทำให้กระเพาะอาหารบีบตัวน้อยลง
ความประพฤติสำหรับการดำรงชีพ เช่น ไปนอนทันทีหลังรับประทานอาหาร กินอาหารปริมาณมากในหนึ่งมื้อ ดูดบุหรี่ กินน้ำอัดลมหรือแอลกอฮอล์ ความเครียด
     -โรคอ้วน ทำให้เพิ่มแรงกดต่อกระเพาะอาหารแล้วก็ทำให้กรดไหลย้อนกลับ
     -การมีท้อง เนื่องมาจากฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นขณะตั้งท้องทำให้หูรูดหลอดของกินอ่อนแอลง รวมทั้งมดลูกที่ขยายตัวจะเพิ่มแรงกดต่อกระเพาะของกิน

     การวินิจฉัยโรคกรดไหลย้อน

     แนวทางในการซักประวัติและการตรวจร่างกายทั่วๆไป โดยปกติหมอจะวินิจฉัยโรคกรดไหลย้อนโดยใช้อาการของคนไข้เป็นหลัก ถ้าผู้เจ็บป่วยมีลักษณะทางหลอดของกินเข้าได้กับภาวการณ์กรดไหลย้อนสามารถวินิจฉัยโรคได้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการตรวจเสริมเติม
การตรวจเพิ่มเติม หากคนเจ็บปฏิบัติตามคำแนะนำหรือรับการดูแลรักษาพื้นฐานแล้วอาการไม่ดีขึ้นหรือมีลักษณะเตือนอื่นๆเช่น กลืนตรากตรำ กลืนเจ็บ อ้วกบ่อยๆหรือมีประวัติคลื่นไส้เป็นเลือด เจ็บท้องร้ายแรง ขี้ดำ มีอาการซีด เบื่อข้าว น้ำหนักลด บางทีอาจจึงควรได้รับการวิเคราะห์พิเศษเพิ่ม อย่างเช่น
     -การส่องกล้องทางเดินอาหาร
     -การเอกซเรย์กลืนสารทึบแสง
     -การตรวจทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์
     -การตรวจการบีบตัวของหลอดของกิน
     -การตรวจวัดความเป็นกรด-ด่างในหลอดของกิน

     โรคกรดไหลย้อนบางทีอาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เนื่องมาจากฤทธิ์ของกรดทำให้หลอดอาหารระคายเคืองกระทั่งอาจเกิดการอักเสบ เป็นแผลร้ายแรงจนถึงตีบ ทำให้กลืนอาหารได้ตรากตรำ รู้สึกเจ็บ นอกเหนือจากนั้นอาจก่อให้กำเนิดช่องทางเสี่ยงสำหรับในการเป็นมะเร็งหลอดของกิน แม้กระนั้นในตอนนี้ยังพบได้น้อยมาก

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.cigna.co.th/health-wellness/tip/กรดไหลย้อน (https://www.cigna.co.th/health-wellness/tip/กรดไหลย้อน)