โรค กรดไหลย้อน (https://www.cigna.co.th/health-wellness/tip/กรดไหลย้อน) (gastroesophageal reflux disease: GERD) เป็นโรคที่เกิดขึ้นมาจากการไหลย้อนของสารคัดเลือกหลั่งในกระเพาะไม่ว่าจะเป็นกรดหรือแก๊สกลับไปที่หลอดอาหาร ซึ่งโดยปกติร่างกายมนุษย์เราจะมีการไหลย้อนของกรดในกระเพาะขึ้นไปในหลอดอาหารอยู่บ้างโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังรับประทานอาหาร แต่ว่าผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีจำนวนกรดที่ย้อนเพิ่มมากขึ้นหรือย้อนบ่อยมากกว่าคนที่ไม่เป็นโรค หรือหลอดของกินมีความไวต่อกรดมากขึ้นแม้ว่าจะมีจำนวนกรดที่ย้อนขึ้นไปไม่เกินกว่าธรรมดา
(https://www.cigna.co.th/sites/default/files/pictures/health-reflux-acids-header.jpg) (https://www.cigna.co.th/health-wellness/tip/กรดไหลย้อน)
อาการสำคัญที่พบมากในโรคกรดไหลย้อน ได้แก่
ความรู้สึกแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ กลางทรวงอก ซึ่งมักกำเนิดหลังรับประทานอาหารเสร็จใหม่ๆ
-ความรู้สึกเปรี้ยวหรือขมในปากแล้วก็คอ
-มีอาหารย้อนขึ้นมาในปากและคอ
-จุกเสียด แน่นท้องบริเวณลิ้นปี่
นอกเหนือจากอาการเหล่านี้แล้ว โรคกรดไหลย้อนยังนำมาซึ่งการก่อให้เกิดอาการอื่นๆได้อีก ตัวอย่างเช่น
ลักษณะของการเจ็บทรวงอกที่ไม่ได้มีต้นเหตุจากโรคหัวใจ
-เสียงแหบเรื้อรัง เสียงเปลี่ยนแปลง
-ไอเรื้อรังโดยไม่มีต้นเหตุแจ่มชัด
-กลืนติดขัดเสมือนมีก้อนจุกในคอ
-อาการทางโพรงปาก ดังเช่นว่า ฟันผุ มีกลิ่นปาก
-โรคหืดที่ไม่ตอบสนองต่อการดูแลและรักษาด้วยยาตามปกติ
ความไม่ดีเหมือนปกติของหูรูดส่วนปลายหลอดอาหารที่ทำหน้าที่คุ้มครองปกป้องกรดไหลย้อนจากกระเพาะอาหารมีความดันของหูรูดต่ำหรือเปิดบ่อยมากกว่าคนธรรมดา ความไม่ดีเหมือนปกติกลุ่มนี้อาจเป็นเพราะเนื่องจากการดื่มแอลกอฮอล์ ดูดบุหรี่ และก็ยาบางจำพวก ตัวอย่างเช่น ยารักษาโรคอาการหอบหืดบางตัว
ความแปลกในการบีบตัวของหลอดอาหาร ทำให้อาหารที่กินลงช้าหรือของกินที่ไหลย้อนขึ้นมาจากกระเพาะอาหารค้างอยู่ในหลอดอาหารเป็นเวลายาวนานกว่าปกติ
ความแตกต่างจากปกติของการบีบตัวของกระเพาะอาหาร ทำให้ของกินค้างอยู่ในกระเพาะเป็นเวลานานกว่าปกติ ทำให้เพิ่มจังหวะการไหลย้อนของกรดจากกระเพาะสู่หลอดของกินมากเพิ่มขึ้น อาหารชนิดที่เป็นไขมันสูงและช็อกโกแลตจะทำให้กระเพาะอาหารบีบตัวน้อยลง
ความประพฤติสำหรับการดำรงชีพ เช่น ไปนอนทันทีหลังรับประทานอาหาร กินอาหารปริมาณมากในหนึ่งมื้อ ดูดบุหรี่ กินน้ำอัดลมหรือแอลกอฮอล์ ความเครียด
-โรคอ้วน ทำให้เพิ่มแรงกดต่อกระเพาะอาหารแล้วก็ทำให้กรดไหลย้อนกลับ
-การมีท้อง เนื่องมาจากฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นขณะตั้งท้องทำให้หูรูดหลอดของกินอ่อนแอลง รวมทั้งมดลูกที่ขยายตัวจะเพิ่มแรงกดต่อกระเพาะของกิน
การวินิจฉัยโรคกรดไหลย้อน
แนวทางในการซักประวัติและการตรวจร่างกายทั่วๆไป โดยปกติหมอจะวินิจฉัยโรคกรดไหลย้อนโดยใช้อาการของคนไข้เป็นหลัก ถ้าผู้เจ็บป่วยมีลักษณะทางหลอดของกินเข้าได้กับภาวการณ์กรดไหลย้อนสามารถวินิจฉัยโรคได้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการตรวจเสริมเติม
การตรวจเพิ่มเติม หากคนเจ็บปฏิบัติตามคำแนะนำหรือรับการดูแลรักษาพื้นฐานแล้วอาการไม่ดีขึ้นหรือมีลักษณะเตือนอื่นๆเช่น กลืนตรากตรำ กลืนเจ็บ อ้วกบ่อยๆหรือมีประวัติคลื่นไส้เป็นเลือด เจ็บท้องร้ายแรง ขี้ดำ มีอาการซีด เบื่อข้าว น้ำหนักลด บางทีอาจจึงควรได้รับการวิเคราะห์พิเศษเพิ่ม อย่างเช่น
-การส่องกล้องทางเดินอาหาร
-การเอกซเรย์กลืนสารทึบแสง
-การตรวจทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์
-การตรวจการบีบตัวของหลอดของกิน
-การตรวจวัดความเป็นกรด-ด่างในหลอดของกิน
โรคกรดไหลย้อนบางทีอาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เนื่องมาจากฤทธิ์ของกรดทำให้หลอดอาหารระคายเคืองกระทั่งอาจเกิดการอักเสบ เป็นแผลร้ายแรงจนถึงตีบ ทำให้กลืนอาหารได้ตรากตรำ รู้สึกเจ็บ นอกเหนือจากนั้นอาจก่อให้กำเนิดช่องทางเสี่ยงสำหรับในการเป็นมะเร็งหลอดของกิน แม้กระนั้นในตอนนี้ยังพบได้น้อยมาก
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.cigna.co.th/health-wellness/tip/กรดไหลย้อน (https://www.cigna.co.th/health-wellness/tip/กรดไหลย้อน)