(https://bslclinic.co.th/wp-content/uploads/2021/10/bslclinic-acne-treatments-feature-img-58.jpg)
เคยสงสัยกันไหมว่าการที่เราเป็นสิวนั้น ควรจะรักษาคลินิกแบบไหนดีที่จะไม่มีการเลี้ยงไข้สิว ให้เราซื้อโปรแกรมอยู่ตลอด ๆ ในความเป็นจริงหากคุณต้องการหาคลินิกรักษาสิว (https://bslclinic.co.th/patient-stories/working-women-hormonal-acne/) ควรจะศึกษาของมูล และดูรีวิวของแต่ละที่ให้มั่นใจ เพื่อที่จะได้เข้าใจถึงกระบวนการรักษา และผลลัพธ์ที่คาดว่าเราควรจะได้รับจากการรักษาในครั้งนี้ วันนี้เราจะแชร์เทคนิคการเลือกคลินิกสิวแบบไหน ที่จะตอบโจทย์ปัยหาสิว ให้หายได้ในระยะยาว และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพผิวของเราอีกด้วย
1. รักษาโดยหมอผิวหนัง
หากคุณเจอคลินิกที่ใช่ สิ่งแรกที่ควรสอบถามเลยนั้นก็คือ การรักษาได้ถูกดูแลโดยแพทย์ผิวหนังไหม เพราะแพทย์เหล่านี้จะเข้าใจโครงสร้างของผิว และสาเหตุของการเกิดสิวที่แท้จริง ช่วยให้การรักษาออกมาตรงจุดมากขึ้น เมื่อการรักษาสิวถูกรักษาที่สาเหตุแล้วนั้น การเกิดสิวใหม่ในอนาคตก็จะลดลงไปอีกด้วย
2. คลินิกมีประสบการณ์การรักษาคลินิกมีประสบการณ์การรักษา
ในส่วนนี้จะบอกถึงความชำนาญในการแก้ไขปัญหาสิวของคุณได้ เช่นมีประสบการณ์การรักษาสิวมากว่า 35 ปี จะทำให้เราเชื่อมั่นได้ถึงคุณภาพของกระบวนการรักษา ความแม่นยำในการวิเคราะห์ผิวหน้าของคนไข้ หรือแม้กระทั้งเทคนิคการรักษาที่จะทำให้ผิวของคุณนั้นปราศจากสิวได้ในระยะยาว
3. มีรีวิวการรักษาของคนไข้
ลองศึกษาภาพก่อนและหลังการรักษาของแต่ละคลินิกดูว่า มีมากน้อยแค่ไหน มีคนไข้ตัวเป็นๆ มารักษาบ้างไหม และผลการรักษานั้นใช้เวลา และได้ผลลัพธ์อย่างไร ก็จะช่วยในการตัดสินใจได้เป็นอย่างมาก เพราะหากมีรีวิวจากผู้รักษาจริงเยอะๆ ก็จะบ่งบอกถึงความเชี่ยวชาญในการรักษาของที่นั้นได้รับการตอบรับจากคนไข้ที่มารักษาสิวเป็นอย่างดี
(https://bslclinic.co.th/wp-content/uploads/2021/10/bslclinic-acne-treatments-feature-img-59.jpg)
4. มีการบริการที่จริงใจของพนักงาน
การให้บริการที่จริงใจไม่ว่าจะเป็นทั้งแอดมินผู้ตอบคำถาม พนักงานต้อนรับที่คอยให้ข้อมูลความรู้แนะนำการแก้ไขปัญหา โดยเราสามารถปรึกษาปัญหาสิวที่เราเป็นกับคนเหล่านี้ก่อนได้ เพราะด่านแรกคือพนักงานทุกคนต้องมีความเข้าใจในปัญหาของคนไข้ก่อนถึงจะแนะนำคอร์สการรักษาที่เหมาะสมกับคุณได้อย่างเฉพาะเจาะจงนั้นเอง
5. ระยะเวลาการรักษาที่เหมาะสม
พอถึงเรื่องระยะเวลาหลายคนมักจะเข้าใจว่าหากรักษาให้สิวหายได้ไวที่สุด คลินิกนั้นจะไม่เลี้ยงไข้ เช่น 1 วีคก็หายได้แล้ว แต่ในความเป็นจริงสิวไม่สามารถหายได้ไวขนาดนั้น หากไม่ถูกสารอันตรายอย่างสเตียรอยด์มากระตุ้นให้สิวยุบลง แต่หลังจากนั้นสิวก็กลับมาขึ้นใหม่เหมือนเดิม
ดังนั้นระยะเวลาที่เหมาะสมกับการรักษาสิวที่ดีที่สุดคือ 3 เดือน หมายความว่า หากคุณเข้าทำการรักษาที่ใดที่หนึ่งแล้วนั้น จะต้องเห็ผลการเปลี่ยนแปลงของสิวว่ามันยุบ มันหายไปได้ใน 3 เดือนอย่างชัดเจน โดยส่วนใหญ่แพทย์จะรักษาสิวจากสาเหตุของการเกิดสิว จึงทำให้สิวที่เป็นนั้นไม่ได้หายไปในทีเดียวในการรักษา เพราะอาจจะเกิดอันตรายต่อผิวได้ แต่หมอผิวหนังจะเน้นการรักษาที่ปลอดภัยต่อคนไข้ให้มากที่สุด เพื่อที่จะลดปัญหาผิวอย่างเช่น รอยดำ รอยแดง หรือแผลเป็นหลุมสิว และยังช่วยให้ผิวมีสุขภาพที่ดี แข็งแรงขึ้นได้ในระยะยาว
นี่ก็เป็น 5 วิธีง่ายๆ ที่สามารถศึกษากันได้ก่อนการรักษาสิว ว่าควรจะเลือกคลินิกแบบไหนให้เหมาะสมกับปัญหาผิวของคุณ หากเลือกถูกที่สิวที่เป็นอยู่ก็จะดีขึ้น และลดการเกิดสิวใหม่ได้ แต่หากเลือกผิดพลาดไป อาจจะต้องเสียทั้งทรัพย์ และกำลังใจในการรักษาต่อไปเลยที่เดียว
แชร์ประสบการณ์การรักษาสิว คลิก:
https://bslclinic.co.th/patient-stories/working-women-hormonal-acne/ (https://bslclinic.co.th/patient-stories/working-women-hormonal-acne/)