เว็บบอร์ด LCDTVTHAILAND

ห้องซื้อขายแลกเปลี่ยน => ห้องซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนของจิปาถะ => ข้อความที่เริ่มโดย: ericcafofona ที่ สิงหาคม 08, 2023, 01:54:55 pm

หัวข้อ: รู้จักอุปกรณ์วัดระดับค่าออกซิเจน เครื่องวัดออกซิเจนสำหรับการแพทย์เป็นอย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: ericcafofona ที่ สิงหาคม 08, 2023, 01:54:55 pm
เครื่องวัดออกซิเจนสำหรับการแพทย์เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการวัดระดับค่าออกซิเจน (https://www.alco-tec.co.th/th/products/pulse-oximeter/)ในเลือดของผู้ป่วย ซึ่งมีความสำคัญในการประเมินสุขภาพและการติดตามผลของผู้ที่มีปัญหาทางระบบหายใจ โดยเครื่องวัดชนิดนี้สามารถใช้ได้ทั้งในโรงพยาบาล ห้องผ่าตัด ห้องICU และสถานที่ที่ต้องการติดตามสถานะของผู้ป่วยได้อย่างแม่นยำ
การวัดค่าออกซิเจนใช้หลักการของการส่งผ่านแสง โดยเครื่องวัดจะมีตัวเซ็นเซอร์ที่ส่งและรับแสง เมื่อแสงผ่านไปถูกกระทบกับโลหะชุบไขกระบวนการที่อาจเปลี่ยนแปลง จากนั้นเครื่องวัดจะประมวลผลข้อมูลแสงที่ได้รับ และแปลงเป็นค่าเปอร์เซ็นต์ของออกซิเจนในเลือด

การวัดค่าออกซิเจนให้ข้อมูลที่สำคัญให้แก่ทีมแพทย์ เพื่อช่วยในการตัดสินใจรับมือกับผู้ป่วย โดยสามารถตรวจสอบระดับค่าออกซิเจนขณะผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องกระทำกระบวณการหายใจหรือกระบวณการชีพพื้นฐาน การใช้เครื่องวัดค่าออกซิเจนสำหรับการแพทย์มีประโยชน์มากไม่ใช่เพียงแต่ให้ข้อมูลสำคัญ เช่น ติดตามการไหลข้างไม้อีกทั้งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะขาดออกซิเจน

การวัดค่าออกซิเจนหมายถึงกระบวนการที่ใช้เครื่องมือหรือเทคนิคต่าง ๆ เพื่อวัดปริมาณออกซิเจนที่มีในสารหรือสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ โดยเฉพาะในส่วนของลมหายใจของมนุษย์ การวัดค่าออกซิเจนสำคัญมากในการประเมินสุขภาพของบุคคล เช่นใช้ในการตรวจสุขภาพที่ผู้ป่วยและผู้ดูแลได้รับการตรวจหรือผู้ที่ได้อยู่ในสถาบันการแพทย์

โดยปกติแล้ว การวัดค่าออกซิเจนถูกทำโดยใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า เซ็นเซอร์ SpO2 (SpO2 sensor) หรือ Pulse Oximeter โดยตัว SpO2 sensor จะถูกติดไปบีบ้างบ้างไม่บีบ้างบนส่วนของร่างกายที่มีการไหลเวียนของเลือด เช่น นิ้วหัวแม่มือ หรือเท้า โดยอุปกรณ์จะส่งแสงตามค่าที่ถูกส่งไปให้ระบบตรวจจับค่าออกซิเจนในเลือด ผลการวัดค่าออกซิเจนใช้ในการประเมินสุขภาพของบุคคล เช่น ถ้าค่า SpO2 ตำกว่าปกติ อาจแสดงถึงปัญหาทางการหายใจ เช่นโรคที่ทำให้เลือดไม่ได้รับการขับถ่ายโอกาส (oxygenation) ได้อย่างพอเพียง
(https://i.postimg.cc/VvvQdLQ8/1-49.jpg)