เว็บบอร์ด LCDTVTHAILAND
ห้องซื้อขายแลกเปลี่ยน => ห้องซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนของจิปาถะ => ข้อความที่เริ่มโดย: pairwara ที่ ธันวาคม 20, 2023, 07:23:37 pm
-
หากท่านกำลังมองหาคำตอบในการรักษารอยสิวด้วยวิธีเลเซอร์รอยสิว โดยที่ไม่แน่ใจว่าจะช่วยให้รอยสิวที่ท่านกำลังเผชิญอยู่ได้ลดลงได้หรือไม่ วันนี้เรามีคำตอบให้ท่านได้เข้าใจถึงการรักษาด้วยเลเซอร์รอยสิวว่าจะมีกระบวนการในการรักษาได้อย่างไร มีการใช้เลเซอร์ชนิดใดได้บ้าง จะมีข้อมูลอย่างไรเรามาดูหัวข้อต่อไปกันเถอะ
รอยสิวคืออะไร ทำไมต้องถึงต้องเลือกเลเซอร์รอยสิวในการรักษา
ก่อนที่จะพูดการรักษาด้วยวิธีเลเซอร์รอยสิว (https://www.mvitaclinic.com/acne-mark-laser/) เรามาทำความเข้าใจของการเกิดรอยสิวคร่าวๆ เพื่อทำความเข้าใจถึงรอยสิว ว่าจะมีอะไรบ้าง รวมถึงสาเหตุของการเกิดรอยสิว มีด้วยกันดังนี้
สาเหตุที่ทำให้เกิดรอยสิว ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากกระบวนการซ่อมแซม - ฟื้นฟูร่างกายจากบาดแผลที่อาจจะเกิดจากการอักเสบ การอุดตันของสิว เมื่อไหร่ก็ตามที่กระบวนการซ่อมแซมเหล่านี้ได้เสร็จสิ้นจะทิ้งรอยไว้ โดยสามารถแบ่งชนิดของรอยที่ร่างกายได้ฟื้นฟู ดังต่อไปนี้
รอยแดงจากสิว ที่เรียกว่า Postinflamatory Erythema (PIE)
: เกิดจากการที่ร่างกายได้ผลิตต่อมไขมันมากเกินปกติ จนส่งผลให้ผิวหนังเกิดการอักเสบ หรือเกิดการอุดตันจนก่อให้เกิดสิว เมื่อร่างกายรับรู้ถึงความผิดปกติจึงเกิดกระบวนการซ่อมแซมร่างกาย ด้วยการลำเลียงเลือดไปหล่อเลี้ยงในบริเวณที่เกิดความผิดปกติ จนเกิดการขยายตัวจากหลอดเลือดส่งผลให้ผิวหนังบริเวณนั้นเป็นทิ้งรอยชมพูจนถึงแดงช้ำไว้บนผิวมากนั้นเอง
รอยดำจากสิว ที่เรียกว่า Post Inflammatory Hyperpigmentation (PIH)
: เกิดการอักเสบของชั้นผิวหนังเหมือนเช่นเดียวกับรอยแดงจากสิว รวมไปจนถึงการระคายเคืองในชั้นผิวหนังซึ่งได้กระตุ้นให้เกิดการผลิตเม็ดสีเมลานินที่เกิดกระบวนการผลิตมากขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้เกิดรอยดำในบริเวณนั้น หรือบางท่านเกิดจากแกะ – แคะสิวได้เช่นเดียวกัน
รอยหลุมสิว (Atrophic Scars)
เกิดจากความรุนแรงจากผิวที่อักเสบเป็นเวลาเนิ่นนานลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ ทำให้คอลลาเจนถูกทำลาย พร้อมกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการซ่อมแซมตนเอง พร้อมทั้งเกิดพังผืดยึดเกาะในเนื้อเยื่อชั้นผิว เมื่อซ่อมแซมจนผิวหนังยุบตัวลง และส่งผลให้ผิวหนังที่เคยเกิดการอักเสบไม่เรียบเนียนเหมือนปกติ
(https://img2.pic.in.th/pic/412e7afdc09925c4693f09bc490a125e.md.jpeg)
วิธีการรักษารอยสิวในปัจจุบัน มีวิธีใดบ้าง
ในปัจจุบันมีวิธีการรักษารอยสิวด้วยหลากหลายวิธี แต่การรักษารอยแดง - รอยดำจากสิวจะต้องใช้ความสม่ำเสมอ และนานพอสมควรกว่ารอยแดง - รอยดำจากสิวจะหายไปอย่างเป็นปกติได้ ซึ่งวิธีรักษารอยสิวส่วนใหญ่จะเพียงแค่ช่วยให้รอยสิวดูจางลงเท่านั้น จะมีวิธีด้วยกันดังต่อไปนี้
วิธีการรักษารอยสิวในปัจจุบัน ได้แก่
- การรักษารอยสิวด้วยวิตามินซี : ในวิตามินซีจะมีคุณสมบัติในการช่วยเพิ่มให้ผนังหลอดเลือด เส้นเลือด มีความแข็งแรง ช่วยให้ร่องรอยสิวดูจางลงดีมากขึ้น
- วิธีรักษารอยสิวด้วยการผลัดเซลล์ผิว : จะเป็นการผลัดเซลล์ผิวชั้นบนให้ออกมา ทั้งยังช่วยผลัดเซลล์ผิวให้สามารถปรับปรุงโครงสร้างผิวให้ดีขึ้น พร้อมกับช่วยให้รอยสิวจางลง
- วิธีรักษารอยสิวด้วยสารสกัดจากใบบัวบก : สารใบบัวบกจะเป็นตัวช่วยที่สามารถลดการอักเสบ ที่เป็นสาเหตุในการกระตุ้นให้เกิดรอยสิวได้ ทั้งยังช่วยเพิ่ม / เสริม ความยืดหยุ่นของเส้นเลือดฝอย รวมทั้งผนังหลอดเลือดได้อีกด้วย
- วิธีรักษารอยสิวด้วย IPL (Intense Pulse Light ) : วิธี IPL จะเป็นการปล่อยคลื่นพลังงานความเข้มข้นสูง ที่ช่วยลดการขยายของหลอดเลือด / เส้นเลือดฝอยในบริเวณที่เกิดรอยแดงจากสิว เพื่อลดความแดงของรอยลง ซึ่งวิธีนี้จะต้องใช้ระยะเวลาในการทำการรักษาหลายครั้ง เนื่องจากมีข้อกำจัดในเรื่องการปล่อยคลื่นพลังงานที่ไม่สามารถตั้งค่าให้ปล่อยคลื่นที่สูงมากนั่นเอง
- วิธีการรักษาด้วยเลเซอร์ (ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ) : วิธีรักษาด้วยเลเซอร์รอยสิว จะมีหลายรูปแบบ ได้แก่ Pulsed dye laser , Long pulsed Nd:YAG , Diode laser, Copper Bromide laser เป็นต้น ซึ่งด้วยเครื่องมืออุปกรณ์เลเซอร์ที่มีความแตกต่างกันนี้เองที่สามารถตั้งค่าพลังงานคลื่นแสงสูงที่ใช้เลเซอร์รอยสิวได้ ส่งผลโดยตรงต่อเส้นเลือดฝอย / หลอดเลือดโดยตรง จึงสามารถช่วยรักษารอยสิวได้อย่างตรงจุดมากกว่าวิธีรักษาด้วย IPL (Intense Pulse Light ) นั้นเอง
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/-Postinflamatory-Erythema.md.jpeg)
ประโยชน์ของการรักษาด้วยเลเซอร์รอยสิว
ในปัจจุบันวิธีรักษารอยสิวด้วยการเลเซอร์รอยสิวมักจะเป็นตัวเลือกในการรักษาที่เป็นที่นิยมมาก เนื่องจากสามารถเห็นผลได้ไวขึ้นมากกว่าวิธีการรักษาในรูปแบบอื่น และการเลเซอร์รอยสิวจะมีข้อดีอย่างอื่นได้แก่
- เนื่องจากวิธีการรักษาด้วยเลเซอร์ เป็นการวิธีที่ใช้คลื่นแสงในการรักษาเข้าสู่ผิวหนังชั้นที่ลึกของผู้มีปัญหาในเรื่องรอยสิว จึงไม่ส่งผลข้างเคียงที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวชั้นบนได้ ทั้งยังไม่ก่อให้เกิดผื่นแพ้ต่อผิวหนังรวมทั้งไม่เพิ่มการอักเสบให้ผิวในบริเวณที่ได้รับการเลเซอร์รอยสิวอีกด้วย
- การทำเลเซอร์รอยสิวจะเป็นการใช้คลื่นแสงจึงไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวด ทำให้ไม่มีแผลที่เปิดหรือเกิดขึ้นในบริเวณผิวที่ท่านทำการรักษา จึงไม่มีความเสี่ยงที่จะก่อรอยแผลใหม่ให้เกิดขึ้น พร้อมทั้งสามารถทำให้ท่านเห็นผลลัพธ์หลังจากเลเซอร์รอยสิวได้อย่างทันใจ และเมื่อหลังจากท่านได้รักษาด้วยเลเซอร์รอยสิว ท่านสามารถกลับไปดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ ไม่ต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นแต่อย่างใด
แต่อย่างไรก็ตามเมื่อมีข้อดีแล้ว การเลเซอร์ก็มีข้อเสียที่เกิดจากการรักษาด้วยวิธีเลเซอร์รอยสิว ได้แก่ บางท่านที่รักษาด้วยเลเซอร์อาจจะมีอาการบวมแดงหลังจากเลเซอร์ เนื่องจากบางท่านอาจจะมีชั้นผิวที่บอบบาง แต่โดยปกติหลังจากรักษาแล้วอาการบวมจะค่อยๆหายไป และในระหว่างการทำเลเซอร์บางท่านอาจจะเกิดความเจ็บปวดได้จากเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ในการทำเลเซอร์รอยสิวบางชนิดนั่นเอง
เลเซอร์รอยสิวเหมาะกับใครได้บ้าง ไปดูกัน
การเลือกวิธีการรักษาด้วยการเลเซอร์รอยสิว จะเป็นวิธีการที่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหารอยสิวเรื้อรังไม่หายเป็นปกติ หรือท่านที่มีความกังวลในการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการเรียน รวมถึงท่านที่ต้องทำงานด้วยการใช้ใบหน้า / ผิวพรรณที่น่าดึงดูดในการประกอบอาชีพ รวมถึงการเลเซอร์รอยสิวจะเหมาะกับท่านที่มีอาการดังต่อนี้
- สามารถช่วยรักษาท่านที่มีปัญหาที่ต้องการลบรอยสิว ทั้งจากรอยดำ รอยแดง รอยหลุมสิว ให้หายจากใบหน้า รวมถึงผิวหนังบริเวณข้างหลังของแต่ละท่านได้
- เหมาะสมสำหรับท่านที่ต้องการรักษาผิวให้ดูกระจ่างใสไร้ร่องรอย ดูเรียบเนียน ลดริ้วรอยจากรอยแผลเป็นจากการอักเสบของสิวที่พบเจอ รวมทั้งรอยจากหลุมสิวให้ดูจางลง
- เหมาะกับผู้ที่อยู่ในช่วงวัยรุ่น ด้วยปัญหาสิวที่มาจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนที่มีความแปรเปลี่ยนรวดเร็ว รวมถึงผู้ที่ผ่านการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ แต่ยังไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
- รวมถึงเหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยผ่านการฉายรังสีสู่ผิวหน้าในส่วนที่เป็นปัญหากังวลใจ
แต่อย่างไรก็ตามการรักษาด้วยวิธีเลเซอร์รอยสิว เพื่อความปลอดภัยของผู้ที่ต้องการรักษาปัญหารอยสิวไม่ให้พบเจอกับเหตุสุดวิสัยที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้นั้น การเลเซอร์รอยสิวจะไม่เหมาะกับท่านที่มีข้อห้ามดังต่อไปนี้
- สำหรับท่านที่คาดว่ากำลังตั้งครรภ์ รวมทั้งผู้ที่อยู่ในช่วงการให้นมบุตรไม่ควรเข้ารับการรักษาด้วยวิธีการเลเซอร์รอยสิว
- ไม่เหมาะกับท่านที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ ผู้ที่มีโรคผิวหนัง (ผิวหนังเกิดอาการติดเชื้อ) , ผู้ที่มีเป็นผื่นจากภูมิแพ้ , ผู้ที่มีการอักเสบของสิว สิวที่มีลักษณะเป็นหนองในบริเวณใบหน้า - หลัง ท่านควรรักษาสิวให้หายก่อนเข้าใช้บริการเลเซอร์รอยสิว , ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน , ผู้ที่มีโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง และรวมถึงผู้ที่มีบาดแผล / แผลสดใบบริเวณผิวหนังที่ต้องการรักษาด้วยวิธีเลเซอร์รอยสิว พร้อมทั้งผู้มีแผลผ่าตัดไม่ครบ 6 เดือน ไม่ควรเข้าใช้เลเซอร์รอยสิว
(https://img2.pic.in.th/pic/4723b3ed2a183add1dc5ca503a74be46.md.jpeg)
วิธีกำจัดรอยสิวด้วยวิธีเลเซอร์รอยสิว มีกี่รูปแบบ
วิธีเลเซอร์เพื่อลดรอยสิวให้หายไปจากผิวหน้า หรือผิวบริเวณหลังจะมีด้วยวิธีการรักษาด้วยกัน คร่าวๆ เพื่อให้ท่านสามารถเห็นภาพได้ดังนี้ ดังนี้
- วิธีเลเซอร์หลอดเลือด ( Vascular Laser ) จะเป็นการรักษาด้วยการปล่อยคลื่นแสงเข้าสู่หลอดเลือด เพื่อให้หลอดเลือดที่เกิดขยายตัวในบริเวณดังกล่าวที่คลื่นแสงปล่อยไปเกิดการสลายตัว เนื่องจากหลอดเลือดที่เกิดการขยายตัวในบริเวณนั้น จนเป็นต้นเหตุที่ก่อให้เกิดรอยแดงจากสิวได้นั้นเอง เครื่องมือที่ใช้ในการเลเซอร์รอยสิวได้แก่ วีบีม( Vbeam Laser ),โปรเยลโลเลเซอร์( Proyellow laser) หรือ Long Pulsed Nd:YAG Laser , Dual Yellow Laser เป็นต้น
- วิธีเลเซอร์เม็ดสี (Pigment Laser) เป็นเลเซอร์รอยสิวในการรักษารอยดำจากสิวได้ดี ที่จะเน้นไปทำลายเม็ดสีเมลานินให้ถูกทำลาย เพราะเม็ดสีเมลานินจะตัวเป็นตัวกระตุ้นให้สร้างการผลิตเม็ดสีจนก่อให้เกิดรอยดำบนบริเวณที่รักษาตัวหายจากเกิดการอักเสบของสิวในบริเวณดังกล่าวได้ เครื่องเลเซอร์รอยสิวที่ใช้ ได้แก่ Q switched nd yag laser, พิโค่เลเซอร์ ( PicoSecond Laser )
วิธีเลเซอร์รอยสิวเพื่อปรับสภาพผิวชนิดที่ไม่มีแผล ((Non-Ablative Laser) จะเป็นเลเซอร์ที่ช่วยปรับสภาพผิวให้เกิดการกระตุ้นให้เกิดเซลล์ชั้นผิวใหม่มากขึ้น ขับเม็ดสีเก่าส่วนเกินออกไป ซึ่งเครื่องเลเซอร์ชนิดนี้จะช่วยในเรื่องของการลดรอยดำของสิวได้ค่อนข้างดี แต่ไม่เหมาะกับผู้มีรอยหลุมสิว เพราะจะไม่ช่วยให้เกิดการกรอของผิวชั้นบนออกไปนั้นเอง เครื่องเลเซอร์ชนิดได้แก่ Fraxel dual laser และ LaseM
สรุป
ท่านจะเห็นได้ว่าวิธีการรักษารอยด้วยเลเซอร์รอยสิว จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้ท่าน แก้ปัญหารอยสิวที่ท่านกังวลได้อย่างตรงจุด จนสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำได้อย่างมีความมั่นใจมากขึ้น ก่อนการเลือกทำหัตถการทุกครั้งท่านควรศึกษาข้อมูลที่ท่านต้องเข้าใจ พร้อมทั้งศึกษาผลลัพธ์ หรือเหตุสุดวิสัยที่อาจเกิดขึ้น เพื่อสามารถช่วยให้พิจารณาก่อนทำหัตถการต่างๆได้อย่างรอบคอบถี่ถ้วนนั่นเอง