เว็บบอร์ด LCDTVTHAILAND
ห้องซื้อขายแลกเปลี่ยน => ห้องซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนของจิปาถะ => ข้อความที่เริ่มโดย: iamborfor ที่ กุมภาพันธ์ 14, 2025, 11:08:57 am
-
การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นหนึ่งในวิธีเสริมความงามที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะสามารถช่วยปรับรูปทรงปากให้ดูอวบอิ่ม มีมิติ และดูสมส่วนกับใบหน้าโดยไม่ต้องทำศัลยกรรม หากคุณกำลังสนใจฉีดฟิลเลอร์ปาก บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจรายละเอียดเกี่ยวกับฟิลเลอร์ปาก ตั้งแต่ประเภทของฟิลเลอร์ ระยะเวลาที่อยู่ได้ ราคา และข้อควรระวัง เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ
(https://storage.googleapis.com/vincent-storage-image-prod/img-banner-1726229865_66e42d6a12c76.webp)
ฟิลเลอร์ปากคืออะไร
ฟิลเลอร์ปาก (https://vincent.clinic/th/article/detail/88) คือ การฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่พบในร่างกายและสามารถสลายไปเองตามธรรมชาติ ฉีดลงในบริเวณริมฝีปากเพื่อปรับรูปทรงให้เป็นทรงปากที่ต้องการไม่ว่าจะเป็นทรงปากเชอร์รี่ ปากกระจับ ปากสายฝอ เพิ่มความอวบอิ่มให้กับริม หรือเติมเต็มร่องริมฝีปากให้เต็ม และยังสามารถยกมุมปากทำให้ใบหน้าดูเป็นมิตรมากขึ้นได้
(https://storage.googleapis.com/vincent-storage-image-prod/img-banner-1726227271_66e423479616b.webp)
ฉีดฟิลเลอร์ปากช่วยเรื่องอะไร
ฟิลเลอร์ปากสามารถช่วยเติมเต็ม แก้ปัญหาได้หลายอย่างดังนี้
- เพิ่มความอวบอิ่มและปรับทรงริมฝีปาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีริมฝีปากบางหรือไม่มีมิติ ช่วยให้ปากดูเต็มขึ้น ปรับทรงให้สมส่วน เช่น ปากกระจับหรือปากสายฝอ และทำให้ขอบปากชัดเจนขึ้น
- ลดร่องลึกและร่องริมฝีปาก เติมเต็มร่องลึกที่เกิดจากอายุมากขึ้นหรือพฤติกรรม เช่น การสูบบุหรี่ ช่วยให้ริมฝีปากดูเรียบเนียนขึ้น แก้ปัญหาทาลิปแล้วไม่สวย ทาลิปแล้วตกร่องได้ดี
- เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ริมฝีปากดูฉ่ำวาว มีความชุ่มชื้น ลดอาการปากแห้ง ลอกเป็นขุย
- ยกมุมปากให้ดูสดใสขึ้น เหมาะสำหรับคนที่มีมุมปากตก ทำให้หน้าดูเศร้าหรือดุ
- แก้ไขความไม่สมมาตรของริมฝีปาก สำหรับคนที่มีปากเบี้ยว หรือริมฝีปากสองข้างไม่เท่ากัน หรือปากบนปากล่างมีความหนาต่างกันเกินไปอยากให้เท่ากัน ฟิลเลอร์สามารถช่วยปรับให้ดูสมดุลมากขึ้น
ฟิลเลอร์ปากอันตรายไหม
ฟิลเลอร์ปากโดยทั่วไปถือว่าเป็นหัตถการที่ปลอดภัย หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในคลินิกที่ได้มาตรฐาน และใช้ฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) เช่น ฟิลเลอร์ที่ทำจาก ไฮยาลูโรนิก แอซิด (https://vincent.clinic/th/article/detail/106) (Hyaluronic Acid) ซึ่งสามารถสลายตัวเองตามธรรมชาติได้ อย่างไรก็ตาม หากทำโดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ หรือในคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อ การบวมผิดปกติ หรือการกระจายของฟิลเลอร์ไม่เป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจากการที่ฟิลเลอร์ถูกฉีดเข้าเส้นเลือด ซึ่งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรง เช่น การขาดเลือดไปเลี้ยงบริเวณปากหรือใบหน้าได้ ดังนั้นการเลือกคลินิกและแพทย์ที่มีประสบการณ์และมาตรฐานจึงสำคัญมากในการลดความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
(https://storage.googleapis.com/vincent-storage-image-prod/img-banner-1726227662_66e424ce4a4e6.webp)
ฟิลเลอร์ปากเหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ที่มีริมฝีปากบางและต้องการเพิ่มวอลลุ่ม
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงปากให้สมดุล
- ผู้ที่มีริ้วรอยรอบริมฝีปาก
- ผู้ที่ต้องการให้ใบหน้าดูโดดเด่นและมีเสน่ห์ขึ้น
ฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานแค่ไหน
ฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ เพราะแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติที่ไม่เหมือนกัน และพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละคน ฟิลเลอร์ที่ทำจาก ไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid - HA) ซึ่งเป็นสารที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ จะค่อยๆ ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
เพื่อให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ปากออกมาดีเป็นทรงสวย ไม่มีผลข้างเคียงหลัง ควรดูแลฟิลเลอร์ปากดังนี้
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสปากแรงๆ ควรหลีกเลี่ยงการขยี้ หรือการสัมผัสปากบ่อยๆ ในช่วง 24-48 ชั่วโมงหลังการฉีด เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่หรือไม่อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ
- หลีกเลี่ยงความร้อนสูง ห้ามใช้ซาวน่า อบไอน้ำ หรือการทำเลเซอร์ร้อนในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก เพราะความร้อนอาจทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วขึ้น
- งดการออกกำลังกายหนัก การออกกำลังกายที่มีการเคลื่อนไหวหรือแรงกระแทกสูง เช่น วิ่ง หรือการเล่นกีฬา ควรงดในช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังการฉีด
- ประคบเย็น หากมีอาการบวม สามารถใช้ผ้าประคบเย็นเบาๆ ที่บริเวณริมฝีปากในช่วง 24 ชั่วโมงแรกเพื่อลดบวมและฟื้นฟูได้เร็วขึ้น
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่สามารถส่งผลให้การรักษาฟิลเลอร์ช้าลง และทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วขึ้น ควรงดการสูบบุหรี่หลังการฉีด
- ไม่สัมผัสหรือกดดันบริเวณริมฝีปาก หลีกเลี่ยงการใช้ริมฝีปากในการพูดหรือเคี้ยวอาหารหนักๆ ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
- ทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ หากแพทย์ให้ยาหรือครีมบรรเทาอาการหลังการฉีด ควรทานหรือใช้ตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
- ระวังการเกิดรอยฟกช้ำ ถ้ามีรอยฟกช้ำหรือรอยบวมเล็กน้อย ควรหลีกเลี่ยงการนวดหรือกดทับบริเวณดังกล่าว จนกว่ามันจะหายไปเอง
ติดตามผลกับแพทย์ ควรไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผล และหากมีอาการผิดปกติหรือสงสัยสามารถปรึกษาแพทย์ได้ทันที
(https://storage.googleapis.com/vincent-storage-image-prod/img-banner-1726228734_66e428ff0b790.webp)
ฉีดฟิลเลอร์ปากราคาเท่าไร
ราคาฟิลเลอร์ปากโดยทั่วไปจะอยู่ในช่วงประมาณ 10,000 - 30,000 บาท โดยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยราคาฟิลเลอร์ปากจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ ฟิลเลอร์แบรนด์ดังมักมีราคาสูงกว่า ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ในการฉีด ประสบการณ์ของแพทย์ที่ทำการฉีด
ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ปากอาจพบผลข้างเคียง เช่น บวม และรอยฟกช้ำบริเวณที่ฉีด ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ชั่วคราวในระยะ 1-2 วันหลังจากการฉีด นอกจากนี้ยังอาจมีอาการ ปวดหรือระคายเคือง ในช่วงแรก ๆ ซึ่งจะหายไปเองเมื่อเวลาผ่านไป หากเกิดการฉีดผิดตำแหน่งอาจทำให้ ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ หรือ ไม่สมดุล ส่งผลให้ริมฝีปากดูไม่เป็นธรรมชาติหรือผิดรูป ในบางกรณีที่มีการฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด อาจเกิดอาการ เนื้อเยื่อตายจากการขาดเลือด หรือ การติดเชื้อ แต่ผลข้างเคียงเหล่านี้เกิดขึ้นน้อยมากหากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในคลินิกที่ได้มาตรฐาน
สรุป
การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงปากให้สวยงามขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยสามารถอยู่ได้นาน 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับประเภทของฟิลเลอร์และการดูแลหลังฉีด ราคาขึ้นอยู่กับยี่ห้อและปริมาณที่ใช้ หากสนใจฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ