แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - Fern751

หน้า: 1 ... 255 256 [257] 258 259 ... 263
4609


เจอร์เกน คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ไม่พอใจการเล่นรุนแรงของนักเตะ เบิร์นลีย์ หลังเอาชนะไป 2-0 วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม ที่สนาม แอนฟิลด์ เรียกร้อง พรีเมียร์ ลีก ทบทวนการเปลี่ยนกฎ เพื่อปกป้องนักเตะ

ก่อนเริ่มฤดูกาล 2021-22 แต่ละสโมสรรับทราบตรงกันว่า ผู้ตัดสินจะไม่เป่านกหวีด กรณีเกิดการฟาวล์เล็กๆ น้อยๆ เพื่อไม่ให้เกมหยุดชะงักเกินความจำเป็น ส่งผลให้ ไมค์ ดีน กรรมการ ไม่ยอมควักใบเหลือง ถึงแม้ ทีมของ ชอน ไดช์ เสียฟรีคิก 12 ครั้ง

บิ๊กบอสชาวเยอรมัน เกิดอาการหัวเสียในจังหวะเล่นนอกเกมของ แอชลีย์ บาร์นส กับ คริส วูด คู่หูกองหน้า ทีมเยือน และตั้งข้อสงสัย การเปลี่ยนกฎนำไปสู่ผลเสียต่อการแข่งขัน

อดีตเทรนเนอร์ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ให้สัมภาษณ์ " หากคุณชอบเกมแบบนี้ เชิญดูมวยปล้ำเถอะ เราพร้อมเสมอสำหรับการแข่งขันตามกติกา และวันนี้ก็เช่นกัน คุณเห็นการแย่ง.ของ (แอชลีย์) บาร์นส และ (คริส) วูด กับ เวอร์จิล (ฟาน ไดจ์ก) และ โจเอล (มาติป) ผมไม่มั่นใจเต็มร้อยว่า ผู้ตัดสินทำถูกแล้ว"

"มันเหมือนเราย้อนเวลาสัก 10-15 กติกาก็เหมือนที่เป็นอยู่ แต่คุณไม่สามารถป้องกันสถานการณแบบนี้ เป้าหมายคือปล่อยให้เกมไหลลื่น แต่ไม่มีใครรู้ความหมายลึกซึ้ง นี่เป็นเกมฟุต.ที่ใครๆ อยากดู แต่มันอันตรายเกินไป"

"ผมชอบการตัดสินที่เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายรุก ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย แต่เราต้องยึดเงื่อนไขข้อหนึ่งว่า ต้องปกป้องผู้เล่น เราไม่สามารถปฏิเสธจุดนั้นได้" นายใหญ่วัย 54 ปี ทิ้งท้าย

4610


บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดแนวทางอำนวยความสะดวกให้กับภาคส่วนต่าง ๆ ภายใต้วิถีชีวิตรูปแบบใหม่ ได้แก่ บริการฝากส่งพัสดุที่บ้าน Pick up Service การจำหน่ายสินค้าของดีทั่วไทย จากแหล่งผลิตทั่วประเทศบนแพลตฟอร์ม Thailandpostmart.com การพัฒนารถขนส่งควบคุมอุณหภูมิ เพื่อรักษาคุณภาพสินค้า รวมถึงบริการส่งยาให้ถึงที่บ้านโดยที่ไม่ต้องไปโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนารูปแบบการสื่อสารและการขนส่งภายใต้การดำเนินชีวิตวิถีใหม่ที่มีทั้งความรวดเร็ว สามารถเข้าถึงทุกพื้นที่ รวมถึงการอำนวยความสะดวกภายใต้มาตรการความปลอดภัยที่ยังคงให้ความสำคัญในทุกขั้นตอน

นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ในช่วงการระบาดของเชื้อ COVID – 19 พฤติกรรมหลายรูปแบบของคนไทยเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะไลฟ์สไตล์ที่ต้องเปลี่ยนจากการทำกิจกรรมนอกบ้านมาสู่ในบ้าน เนื่องด้วยมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อจำกัดการรวมตัวและประกอบกิจกรรม ทำให้หลายๆ ธุรกิจต้องปรับแนวทางในการดำเนินงานและการให้บริการให้สอดรับกับวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) มากขึ้น

ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยในฐานะหน่วยงานด้านการขนส่งหลักของชาติ ได้มีการปรับแนวทางการอำนวยความสะดวกให้กับภาคเศรษฐกิจ ภาคสังคม และภาคประชาชนเช่นเดียวกัน โดยมีทั้งรูปแบบงานบริการสื่อสาร การขนส่ง รวมถึงระบบดิจิทัล ที่ทำให้ทุกภาคส่วนดำเนินกิจวัตรประจำวันในช่วงที่ต้องอยู่บ้านได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งประกอบด้วย

• ฝากส่งพัสดุได้ที่บ้านกับบริการ Pick up Service ซึ่งเป็นบริการรับฝากสิ่งของนอกสถานที่ ผ่านไลน์ @ThailandPost รองรับทั้งผู้ที่มีพัสดุจำนวนมาก หรือมีขนาดใหญ่ โดยไม่จำกัดจำนวนชิ้น และไม่คิดค่าเข้ารับสิ่งของ สามารถส่งได้ทั้งรายย่อยและรายใหญ่



• การจำหน่ายสินค้าของดีทั่วไทย จากแหล่งผลิตทั่วประเทศ ด้วยแพลตฟอร์ม Thailandpostmart.com ซึ่งเป็นช่องทางที่จะทำให้ผู้ใช้บริการเข้าถึงสินค้าอุปโภคบริโภค ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ตามฤดูกาล ของดีทั่วไทย สินค้าชุมชน ของใช้ในบ้าน และผลิตภัณฑ์ที่เป็นของดีของเด่น จากทั่วประเทศกว่า 17,000 รายการ นอกจากนี้ ยังได้ใช้ความโดดเด่นของช่องทางดังกล่าว ดำเนิน โครงการ “พี่ไปรฯ ชวนแปลงร่าง ทางรอดในยุคโควิด ชวนคนไทยขายของออนไลน์” เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ สามารถเข้าร่วมจำหน่ายสินค้าในเว็บไซต์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (ค่า GP) ซึ่งครอบคลุมสินค้าทุกประเภท รวมถึงกลุ่มสินค้าเพื่อผู้ป่วย COVID-19 ที่ต้องรักษาตัวเองที่บ้าน หรือ Home – Isolation

• บริการขนส่งควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain) ไปรษณีย์ไทยได้พัฒนารูปแบบการขนส่งดังกล่าว เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์อาหารสด อาหารทะเล ฯลฯ ให้สามารถคง ความสดใหม่ และลดการเสียหาย ด้วยรถที่มีศักยภาพในการควบคุมอุณหภูมิได้ถึง -18 องศาเซลเซียส ตอบโจทย์กับสินค้าประเภทอาหารสด ผลไม้ อาหารทะเล และอาหารแช่แข็ง ที่เริ่มมีการซื้อขายกัน บนช่องทางออนไลน์ในช่วงที่มีการจำกัดการเดินทางออกนอกพื้นที่ โดยมีสินค้าที่ได้รับความนิยม อาทิ แหนมเนือง หมูยอ กุ้ง เนื้อปลากะพง เนื้อวัว นอกจากนี้ยังได้เตรียมยกระดับประสิทธิภาพบริการขนส่งควบคุมอุณหภูมิร่วมกับพันธมิตรเอกชน เพื่อร่วมกันเสริมความเเข็งแกร่งและความครบวงจรเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้บริการให้มากยิ่งขึ้น ในเร็วๆ นี้

• บริการส่งยาให้ถึงที่บ้านโดยที่ไม่ต้องไปโรงพยาบาล เป็นการอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ป่วย ที่มีโรคประจำตัว โดยที่ไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาลเผชิญความเสี่ยงจากการรับยาตามนัดหมาย โดยจะจัดส่งถึงที่อยู่ผู้รับภายในวันทำการรุ่งขึ้น และสามารถตรวจสอบสถานะการจัดส่งได้ตลอด 24. ชม. ทางแอปพลิเคชัน Track&Trace หรือ www.thailandpost.co.th

4611


ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 225.96 จุดหรือ 0.65% ปิดที่ 35,120.08 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 35.87 จุดหรือ 0.81% ปิดที่ 4,441.67 จุด และดัชนีแนสแด็กบวก 172.88 จุด หรือ 1.19% ปิดที่ 14,714.66 จุด

ถึงแม้ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นในวันนี้ แต่เมื่อพิจารณาตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ดาวโจนส์ดิ่งลง 1.1% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลบ 0.8% และดัชนีแนสแด็กร่วงลง 1.2%

ทั้งนี้ นักลงทุนกังวลว่า เฟดจะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) เร็วกว่าที่คาดไว้ หลังจากที่รายงานการประชุมประจำเดือนก.ค.ของเฟดระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่เห็นพ้องที่จะเริ่มปรับลดวงเงินคิวอีในปีนี้

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

ปัจจุบัน เฟดซื้อพันธบัตรตามมาตรการคิวอีอย่างน้อย 120,000 ล้านดอลลาร์/เดือน โดยเฟดซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 80,000 ล้านดอลลาร์/เดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (เอ็มบีเอส) ในวงเงิน 40,000 ล้านดอลลาร์

นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค. โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินคิวอีในการประชุมดังกล่าว


ที่ผ่านมา การประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล ถือเป็นการประชุมที่ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยมีผู้ว่าการธนาคารกลาง รัฐมนตรีคลัง นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จากประเทศต่างๆทั่วโลก เดินทางเข้าร่วมการประชุม ขณะที่ไฮไลท์จะอยู่ที่การกล่าวปาฐกถาของประธานเฟดในขณะนั้นเพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟด และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ

สำหรับหัวข้อในการประชุมประจำปีนี้คือ “Monetary Policy Framework Review” โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะกล่าวสุนทรพจน์ในประเด็น “แนวโน้มเศรษฐกิจ”

ด้านนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟด สาขาดัลลัส กล่าวว่า เขากำลังจับตาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่จะมีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และเขาอาจปรับเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับนโยบายของเขา หากเศรษฐกิจมีการชะลอตัวลงอย่างมาก

“ขณะนี้ เดลตายังไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อกิจกรรมของผู้บริโภค เช่น การออกไปรับประทานอาหาร แต่กำลังส่งผลกระทบทำให้การกลับเข้าทำงานในสำนักงานต้องล่าช้าออกไป และกระทบความสามารถในการจ้างพนักงานเนื่องจากกังวลเกี่ยวกับการติดเชื้อ รวมทั้งอาจกระทบต่อภาคการผลิต” นายแคปแลนกล่าว

ก่อนหน้านี้ นายแคปแลนกล่าวว่า เฟดควรทำการประกาศในเดือนหน้าเกี่ยวกับไทม์ไลน์ในการปรับลดวงเงินคิวอีและเริ่มทำการปรับลด คิวอีในเดือนต.ค.

“ผมมีมุมมองว่า หากเศรษฐกิจปรับตัวตามที่ผมคาดการณ์ไว้ ผมก็จะสนับสนุนการประกาศแผนปรับลดคิวอีในการประชุมของเฟดในเดือนก.ย. และเริ่มลดคิวอีในเดือนต.ค.” นายแคปแลนกล่าว

นอกจากนี้ นายแคปแลน ยังระบุว่า เขาต้องการให้การปรับลดคิวอีดำเนินไปโดยใช้เวลาราว 8 เดือน ซึ่งหากเฟดยิ่งเริ่มปรับลดคิวอีได้เร็วเท่าใด ก็จะยิ่งช่วยให้เฟดมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการใช้ความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

4612


นายนพพล โพธิ์ขี ผู้จัดการส่วนพัฒนาธุรกิจและกลยุทธ์ ผู้บริหารโครงการยานยนต์ไฟฟ้า บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างพัฒนาการให้บริการช่วยเหลือ สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) เพื่อรองรับปริมาณรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้จากประสบการณ์ที่เป็นผู้ให้บริการทางยกระดับดอนเมือง ซึ่งเป็นทางหลวงสัมปทาน ที่ต้องคอยช่วยเหลือและให้บริการผู้ใช้ทางยกระดับมามากกว่า 30 ปี มีผู้ใช้บริการมากกว่า 1 แสนคันเป็นประจำทุกวัน โดยมีรถยนต์มาใช้บริการทางยกระดับหลายลักษณะ อาทิ รถยนต์ส่วนบุคคล รถบัสโดยสารสาธารณะ รถตู้ รถบรรทุกขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เป็นต้น

ดังนั้นหน่วยงานปฏิบัติการที่ให้บริการใกล้ชิดกับผู้ใช้ทางตลอดเวลา จึงมีความจำเป็นต้องมีการพัฒนาอยู่เสมอ ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา มีความเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีของรถยนต์จากการใช้พลังงานน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นพลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้น จากการที่ภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมและกระตุ้นการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต


ตามนโยบายการพัฒนาธุรกิจของบริษัทฯ เรามีนโยบาย 5 พ. ซึ่ง พ.ที่สำคัญนั้นก็มี พ. พัฒนาคน และ พ. พัฒนาเทคโนโลยี เพื่อตอบสนองการให้บริการผู้ใช้ทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเมื่อเทคโนโลยีมีความเปลี่ยนแปลง คนก็จะต้องมีการพัฒนาไปด้วย ซึ่งการเก็บข้อมูลมาระยะหนึ่ง

บริษัทพบว่ามีรายงานการเพิ่มขึ้นของปริมาณรถยนต์พลังงานไฟฟ้า มาใช้บริการทางยกระดับดอนเมืองโทล์ลเวย์ และมีเหตุการณ์รถยนต์ไฟฟ้าเกิดขัดข้องบนทางยกระดับของเรา ทำให้บริษัทฯ เริ่มวางแผนการให้บริการแก้ไขปัญหากับยานยนต์เหล่านั้นอย่างทันท่วงที เช่น แบตเตอรี่หมด เราจะช่วยเหลือผู้ใช้ทางอย่างไร การเคลื่อนย้ายยานพาหนะ ก็มีความแตกต่างกับรถยนต์สันดาปทั่วไป เนื่องจากตำแหน่งจัดวางเครื่องยนต์ก็แตกต่างกัน การตรวจสอบสภาพก่อนการช่วยเหลือ รวมถึงการให้บริการชาร์จไฟฟ้า รถแต่ละรุ่นก็มีความแตกต่างกัน

ดังนั้นจึงจำเป็นต้อง ศึกษาและวางแผนเพื่อรองรับ โดยภาครัฐเองมีนโยบายสนับสนุนและกระตุ้นการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า ตามห้างสรรพสินค้า โรงแรม คอนโดมิเนียม หรือแม้แต่สถานีให้บริการน้ำมันก็มีสถานีชาร์จไฟฟ้า ดังนั้นในอนาคตอันใกล้ก็เป็นที่แน่นอนว่า บนทางด่วนนั้นจะมีรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน อีกทั้งในปี 2562 ที่ผ่านมา

บริษัทฯ ก็ได้มีส่วนช่วยสนับสนุนนโยบายดังกล่าว โดยการมอบรางวัลสำหรับผู้ใช้ทางที่โชคดีในโครงการ Tollway Lucky Way “ใบเสร็จให้โชค” รางวัลที่ 1 เป็นการมอบรถยนต์ไฟฟ้า (รถยนต์ EV) ซึ่งก็เป็นการส่งเสริมการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ช่วยลดมลพิษทางอากาศอีกด้วย” 

 นายนพพล กล่าวว่า  ในช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการศึกษาเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก ได้ส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมในการออกไอเดียสำหรับการพัฒนาการทำงานของตนเอง ผ่านโครงการ “พนักงานนักพัฒนา” ภายใต้โครงการ “I Love DMT” ที่ให้พนักงานเสนอโครงการพัฒนางานที่เกิดจากการปฏิบัติงานของตนเองซึ่งเรื่องการให้บริการช่วยเหลือรถยนต์ไฟฟ้า โดยใช้ประสบการณ์การทำงานจริง ควบคู่กับการศึกษาดูงานและเรียนรู้จากบริษัทฯ ผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ไฟฟ้า นำมาผนวกเข้ากับประสบการณ์การทำงาน มาออกแบบโครงการ

จากผลการนำเสนอผลงานของพนักงาน ก็ได้ คู่มือการช่วยเหลือยานยนต์ไฟฟ้า การตรวจสภาพ การเคลื่อนย้ายยานยนต์ไฟฟ้า และอีกส่วนหนึ่งที่กำลังอยู่ระหว่างการหาพันธมิตรเพื่อร่วมกันให้บริการแก่รถยนต์ไฟฟ้า นั่นก็คือ การหาอุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้า ทั้งในรูปแบบเคลื่อนที่ (Mobile Charging)

สำหรับชาร์จไฟฟ้าชั่วคราวแบบ Quick Charge และการเคลื่อนย้ายรถยนต์ไฟฟ้าไปยังสถานีชาร์จไฟฟ้า ที่ให้บริการโดยพันธมิตร อีกทั้งการลงทุนติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าของบริษัท สำหรับช่วยเหลือยานยนต์ไฟฟ้าต่อไป และองค์ความรู้เหล่านี้บริษัทฯ ก็จะใช้ในการวางแผนปฏิบัติการ และพัฒนาการให้บริการให้ดีขึ้นไป อีกทั้งสามารถต่อยอดไปเป็นผู้ให้บริการสำหรับทางด่วนสายอื่นๆ ในอนาคตที่ต้อง ดำเนินการในลักษณะนี้ต่อไปอย่างแน่นอน 

4613


มาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ตรวจสอบสิทธิ์ www.sso.go.th เงินเยียวยาประกันสังคม ม.40 ม.39 ลูกจ้าง-นายจ้าง ม.33 มีรายละเอียดความคืบหน้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้ เสนออนุมัติวงเงิน 33,471 ล้านบาท เนื่องจากการประกาศเพิ่มจำนวนพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จาก 13 จังหวัด ก่อนจะเพิ่มอีก 16 จังหวัดเป็น 29 จังหวัด

โดยกรอบการเยียวยาที่จะนำไปจ่ายให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ซึ่งเป็นแรงงานอาชีพอิสระ หรือฟรีแลนซ์ สัญชาติไทย รายละ 5,000 บาท โดยโอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชน โดยใน 29 จังหวัด แบ่งออกเป็นผู้ประกันตน ม.39 จำนวน 1.4 ล้านคน และม.40 จำนวน 5.25 ล้านคน รวมทั้งสิ้น 6,694,200 คน

ขณะที่ กลุ่มผู้ประกันตน ม.39 และม.40 ใน 13 จังหวัด จะได้รับเงินเยียวยารวม 2 เดือน โดย ครม.ได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงานไปทำรายละเอียดที่จะได้อีก 1 เดือน เสนอต่อการประชุมครม. ครั้งต่อไป

โดยตรวจสอบสิทธิ์ www.sso.go.th เงินเยียวยาประกันสังคมที่จะจ่ายให้แต่ละกลุ่มจะมีรายละเอียด และเงื่อนไขการจ่ายเงินแตกต่างกัน ดังนี้

ผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่ 16 จังหวัดประกอบด้วย กาญจนบุรี สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี อ่างทอง นครนายก ปราจีนบุรี ลพบุรี ระยอง สิงห์บุรี สระบุรี นครราชสีมา เพชรบูรณ์ ตาก มีอยู่ราว 3-4 แสนราย

ผู้ประกันตนมาตรา 40 ในพื้นที่ 13 จังหวัดประกอบด้วย กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา และ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และพระนครศรีอยุธยา (บางส่วนที่ชำระเงินสมทบก่อนวันที่ 3 ส.ค.64 ) จำนวน 4.2 ล้านราย

ผู้ประกันตนมาตรา 39 และ 40 ใน 16 จังหวัดประกอบด้วย กาญจนบุรี สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี อ่างทอง นครนายก ปราจีนบุรี ลพบุรี ระยอง สิงห์บุรี สระบุรี นครราชสีมา เพชรบูรณ์ ตาก

ขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิ์เงินเยียวยาประกันสังคม 

1.เข้าเว็บไซต์ www.sso.go.th หรือ คลิกที่นี่ 

2.เลือกตรวจสอบสถานะโครงการเยียวยาผู้ประกันตนตามกลุ่มของตน คือ 

- ตรวจสอบสถานะโครงการเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 33 สามารถตรวจสอบสิทธิได้ ที่นี่ 

- ตรวจสอบสถานะโครงการเยียวยานายจ้าง สามารถตรวจสอบสิทธิได้ ที่นี่

- ตรวจสอบสถานะโครงการเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 39 สามารถตรวจสอบสิทธิได้ ที่นี่

- ตรวจสอบสถานะสิทธิ์โครงการเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 40 สามารถตรวจสอบสิทธิได้ ที่นี่

3.กรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลัก และกรอกรหัสให้ตรงตามรูปที่กำหนด

4.จากนั้นกดค้นหา

5.ระบบจะแสดงผลการค้นหา พร้อมระบุจะอัปเดตข้อมูลล่าสุด ตามวันเวลาที่กำหนดอีกครั้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

‘ประกันสังคม’ ม.33 ม.39 ม.40 เช็คที่นี่วิธีผูกพร้อมเพย์รอเงินเยียวยาเข้า 5 พัน
เช็คเงิน 'เยียวยาประกันสังคม' ม.33 โอนเงิน 2,500 บาท พื้นที่สีแดงเข้ม 16 จังหวัด

ส่วนสาเหตุ ที่ตรวจสอบสิทธิ์ www.sso.go.th เงินเยียวยาประกันสังคม เข้าไปตรวจสอบในระบบ แต่กลับพบว่า ไม่ได้รับสิทธิ อาจจะมีสาเหตุ มาจาก ชื่อหรือนามสกุล ในระบบผู้ประกันตนมีตัวสะกดไม่ตรงกับบัตรประชาชน เพราะผู้ประกันตนอาจมีการเปลี่ยนชื่อภายหลัง หรือตอนสมัครมีการสะกดผิด สามารถเข้าระบบสมาชิกผู้ประกันตนได้ ที่นี่

ขณะเดียวกัน ล่าสุด ธนาคารกรุงไทย แจ้งผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา 40 โอน เงินเยียวยา ผ่านพร้อมเพย์ด้วยบัตรประชาชน ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวมทั้งหมด 29 จังหวัด เริ่ม 23 ส.ค. 64

สมัครพร้อมเพย์ผ่านแอปฯ KrungthaiNEXT หรือตู้ ATM/ATM+

วิธีการสมัคร

1. เลือกเมนู พร้อมเพย์
2. เลือกหมายเลข ที่ต้องการสมัคร พร้อมเพย์ รับเงินจากภาครัฐต้องผูกกับ หมายเลขบัตรประชาชนเท่านั้น
3. อ่านข้อกำหนดและ เงื่อนไข พร้อมทำ เครื่องหมายและ กด ยอมรับ
4. เลือกบัญชีที่ต้องการ ผูกกับหมายเลข พร้อมเพย์
5. ตรวจสอบ และ ยืนยันข้อมูล
6. สมัครสำเร็จ

โดยรายละเอียดการตรวจสอบสิทธิ์ www.sso.go.th เงินเยียวยาประกันสังคม สามารถแยกรายละเอียดได้ดังนี้ 

เงินเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 2,500 บาท เข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชน วันที่ 20 ส.ค.64 

เงินเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 39 จำนวน 5,000 บาท เข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชน วันที่ 23 ส.ค.64 

เงินเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 40 จำนวน 5,000 บาท เข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชน วันที่ 24 -26 ส.ค.64 โอนละวันละ 1.5 ล้านราย

เงินเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 39 และ 40 จำนวน 5,000 บาท เข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชน วันที่ 27 ส.ค.64

4614


หญิงสาวญี่ปุ่นติดเชื้อโควิดระหว่างตั้งครรภ์ หาโรงพยาบาลรับรักษาไม่ได้ คลอดก่อนกำหนดที่บ้าน สุดท้ายต้องสูญเสียลูกน้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลก

ว่าที่คุณแม่ในวัย 30 ปีตั้งครรภ์ได้ 29 สัปดาห์ อาศัยในจังหวัดชิบะ ใกล้กรุงโตเกียว เธอถูกพบว่าติดเชื้อโควิดเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม หน่วยงานสาธารณสุขประเมินอาการแล้วให้เธอพักรักษาตัวที่บ้าน

หลายวันต่อมา เธอพยายามร้องขอเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เพราะอายุครรภ์มากแล้ว และกังวลว่าอาการจะทรุดลงอย่างกะทันหัน ส่งผลต่อทารกในครรภ์ แต่ไม่มีโรงพยาบาลแห่งไหนยอมรับตัว

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม เธอปวดท้องและตกเลือด จึงเรียกรถพยาบาลเพื่อร้องขอให้ผ่าคลอดโดยด่วน แต่ไม่สามารถหาสถานพยาบาลที่จะรับเธอเข้ารักษาได้ เธอคลอดที่บ้านในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ทารกที่คลอดก่อนกำหนดเสียชีวิตหลังจากคลอดได้ไม่นาน



โรงพยาบาลปฏิเสธถึง 3 ครั้ง

ในวันที่มีอาการรู้สึกว่าจะคลอด หญิงสาวรายนี้พยายามติดต่อโรงพยาบาลหลายแห่ง แต่เธอถูกปฏิเสธถึง 3 ครั้ง แม้กระทั่งครั้งสุดท้ายที่เธอแจ้งว่าได้คลอดที่บ้านแล้ว ทารกยังหายใจอยู่ แต่โรงพยาบาลก็ยังปฏิเสธที่จะรับตัว

หน่วยงานสาธารณสุขในจังหวัดชิบะ ระบุว่า โรงพยาบาลที่รับผู้หญิงที่อยู่ใกล้คลอดและติดเชื้อไวรัสโควิด ต้องเตรียมการสำหรับการผ่าคลอด โดยต้องสามารถแยกตัวทารกได้โดยทันที ซึ่งหลายโรงพยาบาลไม่มีความพร้อมที่ทำเช่นนี้ได้ จึงต้องปฏิเสธที่จะรับตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาล



ผู้หญิงท้องติดเชื้อเพิ่มเท่าตัว ส่วนใหญ่ยังไม่ได้วัคซีน

สมาคมสูตินรีแพทย์แห่งญี่ปุ่นระบุว่า เฉพาะในกรุงโตเกียว ในเดือนกรกฎาคม มีผู้หญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อโควิด 98 คน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าถึงเท่าตัว แพทย์ระบุว่า ผู้หญิงตั้งครรภ์มีความเสี่ยงที่จะอาการทรุดหนักได้ง่าย และไม่สามารถใช้ยาบางชนิดเพื่อรักษาโควิดได้ จึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ

นอกจากนี้ ผู้หญิงตั้งครรภ์ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มที่ยังไม่ถึงคิวที่จะได้รับวัคซีน จึงยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น.

4615


นายสาธิต วิทยากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วิกฤติการแพร่ระบาดโควิด-19ที่เกิดขึ้นเปรียบได้กับสงครามโลก เพราะทุกคนต่างได้รับผลกระทบอย่างหนัก การจะผ่านไปได้ต้องผนึกองค์กรความรู้ของสหวิชาชีพด้านการแพทย์ร่วมกัน ทั้งการแบ่งปันข้อมูล แชร์ริ่ง องค์ความรู้ เพราะการรักษาคนไข้หนึ่งคนจำเป็นต้องผสานความรู้ ความสามารถทั้งจากอายุรกรรม แพทย์ที่เชี่ยวด้านโรคปอด โรคไต หรือการติดเชื้อ และแพทย์ด้านระบาดวิทยา ซึ่งโรงพยาบาลปริ้นซ์เองมีการหารือร่วมกับโรงพยาบาลอื่น เพื่อทำการรักษาให้ได้ผลอย่างดีสุด

จุดพลุดิจิทัลแพลตฟอร์ม

นอกจากนี้ ในอนาคตจะได้เห็นก้าวกระโดดหรือ Jump Start ของการนำเอาเทคโนโลยีมาพัฒนาในอุตสาหกรรมทางการแพทย์หรืออุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ในหลายๆมิติ ซึ่งจะได้เห็นเวอร์ชั่ล ฮอทปิทอล และ ดิจิทัล เฮลท์แคร์ ซึ่งจะเกิดการใช้งานอย่างแพร่หลาย เพราะโควิด-19 เข้ามาเป็นตัวเร่ง ซึ่งจะเป็นโอกาสให้อุตสาหกรรมด้านสุขภาพจำเป็นต้องเร่งพัฒนาและปรับตัวอยู่เสมอ

“การทำ Home Isolation คือการดิสรัปชั่นการรักษาตัวในโรงพยาบาล 100% เพราะคนไข้ไม่ต้องมาพบหมอ แต่ใช้เทคโนโลยีในการปรึกษา ตรวจรักษาตลอด 14 วันที่ต้องกักตัว ใช้ระบบไอทีในการส่งยา ตรวจเชื้อผ่านแลป ตรงนี้เองคือโอกาสที่เราต้องมองว่าเมื่อจบโควิดหรือสถานการณ์คลี่คลายแล้วนั้น การประยุกต์ใช้ดิจิทัล แพลตฟอร์ม ด้านเฮลท์แคร์จะมีความสำคัญอย่างที่สุด”

ผนึกพาร์ทเนอร์เสริมแกร่ง

เขา กล่าวเสริมอีกว่า ในฐานะของโรงพยาบาลปริ้นซ์ที่มองเรื่องสุขภาพต้องผนึกกับเทคโนโลยีมาโดยตลอด โรงพยาบาลเองมีการวิจัยอาร์แอน์ดีในเรื่องดังกล่าว เพื่อจะพัฒนาตัวเองไปถึงการทำเฮลท์แคร์แพลตฟอร์ม 4.0 เกิดการประยุกต์ของเทคโนโลยีผ่านการบูรณาการในทุกๆด้านที่เกี่ยวข้อง เพราะเทรนด์ของดิจิทัล เฮลท์แคร์ของโลกเติบโตอย่างมาก มีการใช้เอไอในการอ่านฟิลม์ เอ็กซ์เรย์ มีการนำเอาเครื่องมือมาช่วยสนับสนุน

ดังนั้น กุญแจแห่งความสำเร็จ (Key Succes) ส่วนตัวมองว่า การพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญมาร่วมจะเป็นทางที่สร้างโอกาสให้เกิดความสำเร็จมากที่สุด ทั้งการทำพันธมิตรกับเด็กรุ่นใหม่ สตาร์ทอัพ เราอาจมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ แต่ในด้านความรู้เท่าทันเอไอ บลอกเชน แมชชีน เลิร์นนิ่ง อาจจะไม่ได้ชำนาญเท่าเด็กรุ่นใหม่ ตรงนี้คือสิ่งที่เรามองว่าจะเป็นกุญแจแห่งความสำเร็จ

“การทำธุรกิจในยุคใหม่การมองหาพาร์ทเนอร์ ชิพ ที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางมาเสริมให้กับองค์กรของเรา เป็นสิ่งที่ต้องรับเอามาปรับใช้ การโตได้หรืออยู่รอดในธุรกิจหากเราไม่เก่งเรื่องใดก็หาคนเก่งๆมาช่วยทำ”

นายสาธิต กล่าวอีกว่า นอกจากเรื่องการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้กับอุตสาหกรรมทางด้านสาธารณสุขแล้ว การปกป้องข้อมูลหรือเรื่องความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัวของคนไข้ก็เป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้ เพราะข้อมูลการรักษาพยาบาลก็มีความสำคัญอย่างมากไม่แพงข้อมูลส่วนบุคคลด้านๆอื่น

ปัจจุบัน โรงพยาบาลเองได้นำเอาคลาวด์ เทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลคนไข้ที่ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิดต้องมีการรักษาผ่านสมาร์ทโฟน หรือคอมพิวเตอร์ เพื่อไม่ให้เกิดภัยด้านไซเบอร์ ซิเคียวริตี้

4616


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตามนโยบายรัฐบาล โครงการ Phuket Sandbox ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 วันที่ 15 สิงหาคม 2564 พบว่า มีเที่ยวบินรวมจำนวน 292 เที่ยวบิน โดยมีสายการบิน ที่ทำการบินเข้าประเทศไทย ได้แก่ การบินไทย, สิงคโปร์แอร์ไลน์, เอมิเรตส์, กาตาร์แอร์เวย์, สายการบินเอทิฮัด เป็นต้น โดย มีผู้โดยสารขาเข้าสะสมรวมจำนวน 21,545 คน 

โดยเป็นผู้โดยใน Phuket Sandbox จำนวน 21,135 คน (ต่างชาติ 18,654 คน คนไทย 2,481 คน) 

ทั้งนี้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT รายงานว่า สายการบินที่ได้รับการจัดสรรเวลาการบิน ทำการบินจริงครบตามจำนวนเที่ยวบินที่รับการจัดสรรไม่มีการยกเลิกใดๆ โดยมีเส้นทางการบินมาจาก 17 เมือง ได้แก่ สิงคโปร์ 76 เที่ยวบิน ,โดฮา 34 เที่ยวบิน ,ดูไบ 28 เที่ยวบิน,อาบูดาบี 21 เที่ยวบิน,เทลอาวีฟ 15 เที่ยวบิน,กัวลาลัมเปอร์ 14 เที่ยวบิน,แฟรงเฟริ์ต 13 เที่ยวบิน,ลอนดอน 7 เที่ยวบิน,ซูริค 7 เที่ยวบิน ,ปารีส 7 เที่ยวบิน,โคเปเฮเกน 5 เที่ยวบิน ,ฮ่องกง 3. เที่ยวบิน ,พนมเปญ 2 เที่ยวบิน ,เวียงจันทน์ 1 เที่ยวบิน,ไทเป 1 เที่ยวบิน,ซาร์จาห์ 1 เที่ยวบิน,ย่างกุ้ง 1 เที่ยวบิน

สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศไปยัง Phuket Sandbox ในช่วงระหว่างวันที่ 5-17 สิงหาคม 2564 เป็นเส้นทางจากอู่ตะเภา-ภูเก็ต โดยพบว่ามีเที่ยวบินสะสม 18 เที่ยวบิน ผู้โดยสารสะสม 586 คน

4617


นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ BGC เปิดเผยว่า บริษัทตั้งงบลงทุนประมาณ 3,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายกำลังการผลิตของธุรกิจขวดแก้ว ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ให้แก่บริษัท รวมถึงเพื่อใช้ในการลงทุนธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่บริษัทมุ่งเติบโตในระยะต่อจากนี้แบ่งเป็นการก่อสร้างเตาหลอมแก้วแห่งใหม่ภายในโรงงานจังหวัดราชบุรี มูลค่าราว 1,600-1,800 ล้านบาท และ การขยายกำลังการผลิตในโรงงานจังหวัดปราจีนบุรี มูลค่าราว 700 ล้านบาท

โดยคาดว่าทั้ง 2 โรงงานจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2565 ก่อนจะเริ่มเดินเครื่องในช่วงต้นปี 2566 ซึ่งจะหนุนให้กำลังการผลิตขวดแก้วของบริษัทเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3,935 ตันต่อวัน จากปัจจุบันที่ 3,495 ตันต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นราว 12% ส่วนงบลงทุนอีกราว 180 ล้านบาท จะใช้ในการขยายกำลังการผลิตถุงบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อน กำลังการสูงสุด 50 ล้านเมตรต่อปี ผ่านบริษัท บีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (BGP) ที่เป็นบริษัทย่อย โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างวันที่ 1 ม.ค.2565 ก่อนจะเริ่มเดินเครื่องทดสอบช่วงปลายปี และเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในเดือน เม.ย.2566

ทั้งนี้ การลงทุนในธุรกิจบรรจุภัณฑ์เป็นการต่อยอดจากที่บริษัทเข้าซื้อ BGP ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายฟิล์มพลาสติก ฝาพลาสติก และขวด PET หลอดพรีฟอร์ม รวมถึงเข้าซื้อ บริษัท บางกอกบรรจุภัณฑ์ จำกัด (BVP) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบรรจุภัณฑ์กระดาษ โดยเริ่มรับรู้รายได้ครั้งแรกในเดือน เม.ย.2564 ที่ผ่านมา และเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายระยะ 5 ปีของบริษัท (2564-2568) ที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนรายได้ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ให้มาอยู่ที่ 50% จากปัจจุบันรายได้ธุรกิจแก้วอยู่ที่ 83.1% บรรจุภัณฑ์อื่นๆ 12.8% และพลังงาน 4.1%

สำหรับแผนการดำเนินในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 บริษัทตั้งเป้าหมายขยายการส่งออกให้เพิ่มขึ้นแตะ 10% ของยอดขายภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 7% ลดลงจากในอดีต โดยเป็นผลจากสถานการณ์โควิด-19 ที่กดดันความต้องการใช้ในตลาดต่างประเทศ และสถานการณ์การเมืองในเมียนมา อย่างไรก็ดี บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ผ่านการกระตุ้นยอดขายในสหรัฐเพิ่มเติม ซึ่งเป็นตลาดที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) จากการสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติที่ 15-16%

ทั้งนี้ ปัจจุบันตลาดที่ส่งออกสูงสุดเรียงลำดับจากมากไปน้อย ได้แก่ กลุ่มประเทศรอบบ้าน (CLMV) 62% ประเทศสหรัฐ 28% กลุ่มประเทศยุโรป 5% และกลุ่มประเทศโอเชียเนีย 4%


ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 คาดว่าจะเติบโตประมาณ 11% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ใกล้เคียงกับครึ่งแรกของปี 2564 ภายใต้เงื่อนไขที่สถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบันไม่มีความรุนแรงไปมากกว่านี้ และตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2564 แตะ 1.35 หมื่นล้านบาท โดยมาจากธุรกิจขวดแก้ว 1.1-1.2 หมื่นล้านบาท กลับไปอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2562 ก่อนเกิดโควิด-19 ส่วนที่เหลือมาจากการรับรู้รายได้ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ และคาดว่ากำไรจะเติบโตใกล้เคียงกับปีก่อน เพราะถูกกดดันจากต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้น

นายศิลปรัตน์ กล่าวว่า บริษัทยังเดินหน้าศึกษาการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) อย่างต่อเนื่อง โดยมีการพูดคุยในไปป์ไลน์อยู่หลายราย ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์ที่สามารถต่อยอดกับขวดแก้วของบริษัทได้ เพื่อสร้างโซลูชั่นและบริการที่ครบวงจรแก่ลูกค้า อย่างไรก็ดี คาดดีลการซื้อขายแรกจะยังไม่แล้วเสร็จภายในปี 2564 เนื่องจากมีอุปสรรคจากการระบาของโควิด-19

4618


ไอสต็อค (iStock) เอาใจคนไทย เปิดให้สามารถค้นหาด้วยวลีภาษาไทยเช่น ‘ชาไทย’, ‘ดอกบัว’ และ ‘กรุงเทพมหานคร’ ได้แล้ว หลังจากที่รายการคำศัพท์ของ iStock ได้รับการแปลให้เป็นภาษาท้องถิ่นอย่างเต็มรูปแบบ

แกรนท์ ฟาร์ฮอลล์ (Grant Farhall) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ iStock กล่าวว่าทุกภาษาล้วนมีบางคำหรือวลีที่ยากต่อการแปลเป็นภาษาอังกฤษอยู่เสมอ เช่นเดียวกับภาษาไทย บริษัทจึงพิจารณาความหมายโดยนัยที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมของวลียอดนิยมต่าง ๆ ในประเทศไทยอย่างถี่ถ้วน และได้บรรจุวลีเหล่านี้ไว้ในรายการคำศัพท์ของ iStock การเล่าเรื่องด้วยภาพนั้นถือเป็นส่วนสำคัญในการสื่อสารแบบดิจิทัลและการสื่อสารผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ในประเทศไทย สิ่งนี้ก่อให้เกิดการใช้งานรูปถ่ายและวิดีโอลิขสิทธิ์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้ธุรกิจไทยสามารถสร้างแรงดึงดูดในช่องทางโซเชียลมีเดียยอดนิยมต่าง ๆ ได้อย่างสร้างสรรค์ยิ่งกว่าเดิม

“ประเทศไทยเป็นตลาดที่เติบโตอย่างรวดสำหรับ iStock เรามุ่งมั่นที่จะเจาะตลาดในประเทศไทยให้ลึกยิ่งกว่าเดิม เพื่อทำให้ธุรกิจไทยสื่อสารกับลูกค้าของตนเองอย่างมีประสิทธิภาพได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยราคาที่จับต้องได้มากกว่าเดิม ซึ่งขั้นตอนต่อไปของเราก็คือการนำเสนอประสบการณ์ที่ปรับให้เข้ากับท้องถิ่นยิ่งกว่าเดิมผ่านการสนับสนุนและการวิเคราะห์ด้านภาษา”

iStock นิยามตัวเองเป็นผู้ให้บริการด้านการสื่อสารทางภาพในราคาที่จับต้องได้ สำหรับเหล่านักสร้างสรรค์, ผู้ประกอบการ, นักศึกษา และธุรกิจขนาดย่อมต่าง ๆ นั้นได้ประกาศเปิดตัวเว็บไซต์ iStock ภาษาไทยในวันนี้ การนำเสนอบริการใหม่นี้สืบเนื่องมาจากการใช้รูปถ่ายและวิดีโอของธุรกิจไทยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการเพิ่มขึ้นของเหล่าบริษัทการสื่อสารทางภาพในเอเชีย

“iStock ได้รับฟังเสียงของลูกค้าและตระหนักถึงความจำเป็นในการพัฒนาการให้บริการในรูปแบบภาษาท้องถิ่นของบริษัท เพื่อทำให้ลูกค้าในประเทศไทยสามารถค้นหาภาพถ่ายสต็อก, คลิปวิดีโอ และองค์ประกอบด้านการออกแบบต่าง ๆ ได้ด้วยการใช้คำหรือวลีภาษาไทย ธุรกิจไทยจะได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่าเดิมขณะทำการค้นหาภาพและวิดีโอระดับมืออาชีพจาก iStock ด้วยการให้บริการเครื่องมือค้นหาที่ใช้งานได้ด้วยภาษาไทยอย่างแท้จริง“ แถลงการณ์ระบุ

นอกจากความสามารถด้านภาษาแล้ว บริษัทระบุว่าฟังก์ชันการค้นหายังได้รับการปรับปรุงเพื่อให้รายงานผลลัพธ์ได้ตามรูปแบบการใช้งานของประเทศ การปรับปรุงเหล่านี้ทำให้ลูกค้า iStock นับหลายพันรายในประเทศไทยสามารถค้นหาองค์ประกอบงานสร้างสรรค์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับงานต่าง ๆ ได้ง่ายกว่าที่เคยเป็นมาจากรูปถ่าย, วิดีโอ และภาพประกอบพรีเมี่ยมนับล้าน

ปัจจุบัน iStock นำเสนอภาพถ่ายสต็อก, วิดีโอ และภาพประกอบกว่า 135 ล้านรายการจากกลุ่มคนต่าง ๆ และให้บริการด้วยการคิดค่าบริการที่เรียบง่ายและจับต้องได้ iStock ที่อาศัยความเชี่ยวชาญด้านภาพของ Getty Images นั้นได้ช่วยให้เหล่านักสร้างสรรค์กับธุรกิจทั้งขนาดเล็กและใหญ่รายต่าง ๆ สามารถสร้างการสื่อสารที่งดงามได้ตามงบประมาณของตนเอง

เมื่อนับรวมการเปิดตัวครั้งนี้ iStock ได้รองรับ 18 ภาษานอกเหนือจากภาษาอังกฤษในขณะนี้ ซึ่งภาษาต่าง ๆ ที่รองรับนั้นได้แก่: เช็ก, ฝรั่งเศส, อิตาเลียน, เยอรมัน, สเปน, โปรตุเกส (โปรตุเกส), โปรตุเกส (บราซิล), โปแลนด์, รัสเซีย, ญี่ปุ่น, เกาหลี, ดัตช์, สวีเดน, ตุรกี, อินโดนีเซีย, เวียดนาม และจีนตัวเต็ม (ฮ่องกง).

4619
 
 
ข้าวอินทรีย์ (Organic Rice) ข้าวปลอดสารสุรินทร์ เป็นข้าวที่ได้จากการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นวิธีการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีหรือสารสังเคราะห์ต่างๆ เป็นต้นว่า ปุ๋ยเคมี สารควบคุมการเจริญเติบโต สารควบคุมและกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้าวในทุกขั้นตอนการผลิตและในระหว่างการเก็บรักษาผลผลิต หากมีความจำเป็นแนะนำให้ใช้วัสดุจากธรรมชาติ และสารสกัดจากพืชที่ไม่มีพิษต่อคนหรือไม่มีสารพิษตกค้างปนเปื้อนในผลผลิต ในดินและในน้ำ ในขณะเดียวกันก็เป็นการรักษาสภาพแวดล้อม ทำให้ได้ผลิตผลขายข้าวอินทรีย์, กลุ่มข้าวอินทรีย์ที่มีคุณภาพดีและปลอดภัย ส่งผลให้ผู้บริโภคมีสุขอนามัยและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นข้าวแฟร์เทรด (Organic Rice) เป็นข้าวที่ได้จากการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นวิธีการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีหรือสารสังเคราะห์ต่างๆ เป็นต้นว่า ปุ๋ยเคมี สารควบคุมและสารกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้าวในทุกขั้นตอนการผลิตและในระหว่างการเก็บรักษาผลผลิต หากมีความจำเป็นแนะนำให้ใช้วัสดุจากธรรมชาติ และสารสกัดจากพืชที่ไม่มีพิษต่อคนหรือไม่มีสารพิษตกค้างปนเปื้อนในผลผลิต ในดินและในน้ำ ในขณะเดียวกันก็เป็นการรักษาสภาพแวดล้อม ทำให้ได้ผลิตผล ข้าวปลอดสารเคมีสุรินทร์ที่มีคุณภาพดีและปลอดภัย ส่งผลให้ผู้บริโภคมีสุขอนามัยและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
 
       ประเภทของข้าวอินทรีย์
   1. ข้าวอินทรีย์รับรองมาตรฐาน Certified Organic เป็นระบบการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีป้องกันศัตรูพืช มีการขอรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์จากหน่วยงานอิสระ โดยมีทั้งภาครัฐ เอกชนและหน่วยงานจากต่างประเทศ มีตราสัญลักษณ์ติดที่ผลิตภัณฑ์ และจะต้องมีการตรวจเพื่อต่ออายุใบรับรองทุกปี
 
   2. ข้าวอินทรีย์ระยะปรับเปลี่ยน In-conversion เป็นข้าวที่อยู่ในช่วงระยะเวลาที่เริ่มทำเกษตรอินทรีย์ในปีแรกก่อนจะได้รับการรับรองผลผลิตว่าเป็นเกษตรอินทรีย์ โดยระยะปรับเปลี่ยนเป็นการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและความอุดมสมบูรณ์ของดิน
 
   3. ข้าวอินทรีย์แบบยังไม่รับรอง Non Certified เป็นการปลูกข้าวอินทรีย์แบบพึ่งตนเอง ส่วนใหญ่เป็นการทำเกษตรแบบพื้นบ้านหรือปลูกในระบบผสมผสานหรือในไร่หมุนเวียน ไม่มีการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานใดๆ เกษตรกรกลุ่มนี้อาจเป็นกลุ่มที่ทำการผลิตเพื่อบริโภคในครัวเรือนและนำผลผลิตส่วนเกินมาจำหน่ายผ่านระบบตลาดท้องถิ่น ทั้งนี้อาจมีการรับรองกันเองในระบบกลุ่มหรือชุมชน ข้าวorganic ข้าวเพื่อสุขภาพ คือ ข้าวที่ได้จากการผลิตภายใต้ระบบการผลิตข้าวอินทรีย์ซึ่งมีการจัดการการผลิตข้าวที่เกื้อกูลต่อระบบนิเวศรวมถึงความหลากหลายทางชีวภาพ เน้นใช้วัสดุธรรมชาติ ไม่ใช้วัตถุดิบสังเคราะห์และมีการจัดการกับผลิตภัณฑ์โดยเน้นการแปรรูปด้วยความระมัดระวังเพื่อรักษาสภาพการเป็นข้าวอินทรีย์และคุณภาพที่สำคัญของผลิตภัณฑ์ข้าวอินทรีย์ 
ขั้นตอนการผลิตข้าวอินทรีย์  ข้าวสุขภาพส่งทั่วไทย ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทได้แก่
ข้าวอินทรีย์วิถีพื้นบ้าน
เป็นระบบการผลิต  กลุ่มข้าวอินทรีย์ส่งทั่วไทย ที่ไม่ใช้สารเคมีทางการเกษตรทุกชนิด เช่น ปุ๋ยเคมี สารควบคุมการเจริญเติบโตสารควบคุมและกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรคแมลงและสัตว์ศัตรูข้าวตลอดจนสารเคมีที่ใช้รมเพื่อป้องกันกำจัดแมลงศัตรูข้าวในโรงเก็บ การผลิตข้าวอินทรีย์นอกจากจะทำให้ผลผลิตข้าวมีคุณภาพ ปลอดภัยจากสารพิษแล้วยังเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นการพัฒนาการเกษตรแบบยั่งยืน
ข้าวอินทรีย์มาตรฐานสากล
การผลิตข้าวอินทรีย์มาตรฐานสากล มีกระบวนการผลิตการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตภัณฑ์อินทรีย์ และห้ามใช้สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุ์หรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุ์ในกระบวนการผลิตและแปรรูปข้าวอินทรีย์ ซึ่งผู้ผลิตและผู้ประกอบการต้องผฏิบัติตามเพื่อให้ได้รับการรับรอง มีขั้นตอนการปฏิบัติเป็นลำดับขั้น ดังนี้
1.เกษตรกรจะต้องมีการปฏิบัติตามข้อกำหนดในการผลิตข้าวอินทรีย์ (  การปลูกข้าวอินทรีย์ )
2.เกษตรกรจัดทำบันทึกขั้นตอนการใช้ปัจจัยการผลิต โดยแสดงแหล่งที่มาและปริมาณการใช้
3.สมัครขอรับรองต่อกรมการข้าว เกษตรกรต้องแสดงข้อมูลต่อไปนี้
- ประวัติการใช้พื้นที่
- ประวัติการใช้สารเคมี และผลการวิเคราะห์สารพิษตกค้างในดินและน้ำ (ถ้ามี)
- แผนที่และแผนผังแปลงนาที่ขอการรับรองและพื้นที่ข้างเคียง
- แผนการผลิตในทุกขั้นตอน
- บันทึกขั้นตอนการใช้ปัจจัยการผลิต
- บันทึกกิจกรรมในแปลงนา และข้อมูลอื่นๆ

 นาข้าวอินทรีย์  ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ต้นข้าวอินทรีย์ 277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
Facebook :https://www.facebook.com/Hor.Organic
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิค
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิออร์แกนิค
3. ข้าวปะกาอำปึลเพื่อสุขภาพ   #ข้าวพื้นถิ่นสุรินทร์
4.  ข้าวกล้องอินทรีย์ผสมหลายสายพันธุ์จังหวัดสุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออร์แกนิค
6.ข้าวมะลินิลอินทรีย์สุรินทร์
7. ข้าวไรซ์เบอร์รี่ปลอดสารพิษ

ข้าว Hor พร้อมขายแล้วที่ Shopee & Lazada
https://shopee.co.th/hor.boutique
https://www.lazada.co.th/shop/horboutique/

#ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์
#ข้าวออแกนิคสุรินทร์
#ข้าวออแกนิกสุรินทร์
#ข้าวอินทรีย์สุรินทร์
#ข้าวคุณภาพสุรินทร์
 

 
 

4620


ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย และ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไนอาก้า อินโดนีเซีย ร่วมให้บริการชำระเงินผ่าน QR Code ระหว่างประเทศไทยและประเทศอินโดนีเซีย ตอกย้ำยุทธศาสตร์ของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ในการก้าวเป็น ‘a Digital-led with ASEAN Reach’

ภายใต้ความร่วมมือระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารกลางอินโดนีเซีย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เป็น 1 ใน 3 ธนาคารที่ได้รับความไว้วางใจในระดับภูมิภาคอาเซียนให้เป็นผู้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการชำระดุล (Settlement Bank) ของประเทศไทย ในการชำระเงินผ่าน QR Code ระหว่างประเทศไทยและอินโดนีเซีย โดยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จะเริ่มให้บริการเดือนกันยายน 2564  

คนไทยที่เดินทางไปอินโดนีเซีย สามารถใช้ CIMB THAI Digital Banking แอปพลิเคชันหลักของธนาคารบนมือถือ จ่ายเงินผ่าน QR Code ที่อินโดนีเซีย โดยสแกน QRIS (Quick Response Code Indonesian Standard) ซึ่งเป็น QR มาตรฐานของประเทศอินโดนีเซีย ขณะที่คนอินโดนีเซียที่เดินทางมาไทยสามารถใช้ OCTO Mobile แอปของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไนอาก้า ชำระสินค้าที่ไทย โดยสแกน Thai QR Code  เพิ่มความสะดวกสบายให้ทั้งนักท่องเที่ยวและร้านค้า เพราะปัจจุบัน การชำระเงินผ่าน QR Code เป็นวิธีการชำระและรับเงินได้ทันที มีประสิทธิภาพ ช่วยลูกค้าปลอดภัยเพราะไม่ต้องพกเงินสด และประหยัดค่าธรรมเนียมต่างๆ อาทิ ค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ

นายพอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า “การชำระเงินข้ามพรมแดนผ่าน QR Code ระหว่างไทย-อินโดนีเซีย เป็นการเปิดช่องทางใหม่ในอาเซียน ประเทศที่ 2 แล้วของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ที่เข้าไปมีส่วนร่วม และเป็นอีกก้าวสำคัญในการเชื่อมโยงการชำระเงินในอาเซียนให้กว้างยิ่งขึ้น เราตื่นเต้นที่จะได้เห็นคนอาเซียนเชื่อมโยงกันใกล้ชิด ผ่านการชำระเงินของผู้บริโภครายย่อยและร้านค้าแบบเรียลไทม์ เราหวังให้ภูมิภาคของเราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ได้โดยเร็ว และอาเซียนกลับมาเปิดประเทศกันได้อีกครั้ง” นายพอล วอง กล่าว

Mr. Tigor M. Siahaan, President Director & Chief Executive Officer, PT Bank CIMB Niaga Tbk เปิดเผยว่า “การขยายตัวของการชำระเงินด้วย QR Code ในอาเซียนสะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการบูรณาการทางการเงินระดับภูมิภาคผ่านนวัตกรรมดิจิทัลที่มองไปข้างหน้า และเป็นความภาคภูมิใจที่ ซีไอเอ็มบี ไนอาก้า ซีไอเอ็มบี ไทย และสมาชิกอื่นๆ ของกลุ่มซีไอเอ็มบีได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อให้บริการลูกค้าของเราได้ดียิ่งขึ้นทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน”

ทั้งนี้ เมื่อเดือนมิถุนายน 2564 ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ได้รับเลือกให้เป็นผู้ให้บริการ QR payment ระหว่างประเทศไทย และมาเลเซีย จากความร่วมมือระหว่างธนาคารกลางมาเลเซีย และธนาคารแห่งประเทศไทย
อนึ่ง กลุ่มซีไอเอ็มบี มีเครือข่ายครบทั้ง 10 ประเทศอาเซียน ทั้งการเป็นสาขาเต็มรูปแบบ สำนักงานตัวแทน และเครือข่ายธุรกิจ ตลอดจนผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เชื่อมโยงความเป็นอาเซียน อาทิ BizChannel@CIMB Mobile app ที่ให้ลูกค้าธุรกิจสามารถบริหารจัดการทุกบัญชี CIMB ทั่วอาเซียนได้ในแอปเดียว สำหรับลูกค้ารายย่อยผู้ถือบัตรเดบิต ของกลุ่มซีไอเอ็มบี สามารถกดเงินข้ามประเทศผ่านตู้ ATM ของกลุ่มซีไอเอ็มบีโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม

4621


ไชน่าเดลี (17 ส.ค.) - อ้างรายงานสื่อการเงินจีน อี้ไฉว่า เซี่ยงไฮ้ เมืองหลวงทางการเงินของจีน ครองอันดับ 1 เมืองพลังบริโภคของประเทศในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

รายงานฯ ระบุว่า ยอดขายปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคในเซี่ยงไฮ้อยู่ที่ 9.04 แสนล้านหยวน ในครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้น 30.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี

สำนักสถิติของเมืองฯ ระบุว่าสินค้าอุปโภคบริโภคมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการเติบโตของการบริโภค

การขายปลีกทองคำ เงิน และเครื่องประดับเพิ่มขึ้น 72.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนเครื่องสำอางและอุปกรณ์สื่อสารเพิ่มขึ้น 24% และ 19.2% ตามลำดับในแต่ละปี

ด้วยยอดขายปลีกสินค้าอุปโภคบริโภครวม 7.22 แสนล้านหยวนในครึ่งปีแรก กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีนคว้าอันดับสองในรายการ เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบเป็นรายปี

สภาพจำกัดจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้การบริโภคได้กลายเป็นกลไกหลักในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนอย่างมีประสิทธิภาพ เศรษฐกิจของจีนจะยังคงฟื้นตัวต่อไป และคาดว่าจะสามารถปลดปล่อยศักยภาพการบริโภคได้มากขึ้นอีก

สำหรับ 10 อันดับเมืองการบริโภคของจีนในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ตามลำดับคือ เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง ฉงชิ่ง กวางโจว เฉิงตู เซินเจิ้น ซูโจว หนานจิง หังโจว และอู่ฮั่น

4622


นายอังกูร ศรีกัลยาณบุตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Marketing Officer บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ยังคงมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับผู้บริโภคมีความกังวลและใส่ใจในสุขภาพของตนเองและครอบครัวเพิ่มมากขึ้น ไทยประกันชีวิตจึงพร้อมมอบบริการพิเศษเพื่อดูแลผู้เอาประกันภัยอย่างรอบด้านในทุกสถานการณ์ ตามนโยบายการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเป็นทุกคำตอบของชีวิต หรือ Life Solutions  ภายใต้แนวคิดการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง หรือ Customer Centric

โดยมอบบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับสมาชิกไทยประกันชีวิต INFINITE เพื่อดูแลสุขภาพ และสร้างความอุ่นใจให้กับผู้เอาประกันภัย ได้แก่ บริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เบื้องต้นฟรี ด้วยชุด RT PCR Test ได้ที่บ้าน จาก Europ Assistance สำหรับสมาชิกไทยประกันชีวิต INFINITE ระดับ PLATINUM, บริการรถรับ-ส่งเพื่อเดินทางไปโรงพยาบาล พร้อมผู้ช่วยส่วนตัว เพื่อไปตรวจสุขภาพ หรือรับวัคซีน (Health-Transfer Service) สำหรับสมาชิกไทยประกันชีวิต INFINITE ระดับ PLATINUM และ GOLD

ขณะเดียวกันสมาชิกไทยประกันชีวิต INFINITE ระดับ PLATINUM และ GOLD ยังได้สิทธิ์รับเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว Jumper รุ่น JPD-500D ฟรี โดยสามารถรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิตได้จนถึง 31 ธันวาคม 2564 ซึ่งผู้เอาประกันภัย 1 ท่านจะได้รับ 1 สิทธิ์ตลอดแคมเปญ

นอกจากนี้ ยังมอบบริการพิเศษเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เอาประกันภัย และลดความเสี่ยงจากการเดินทางออกนอกบ้าน ได้แก่ บริการ Premium Food Delivery จาก White Glove Delivery รับฟรีเซ็ตอาหารระดับพรีเมี่ยมที่คัดสรรมาจาก 16 ร้านชั้นนำ มูลค่า 1,000 บาท สำหรับสมาชิกไทยประกันชีวิต INFINITE ทุกระดับ รวมถึงโค้ดส่วนลดค่าอาหาร จาก White Glove Delivery มูลค่า 200 บาท สำหรับสมาชิกไทยประกันชีวิต INFINITE ทุกระดับ และสมาชิกไทยประกันชีวิต ULTIMATE


ทั้งนี้ สิทธิพิเศษการตรวจหาเชื้อโควิด-19, บริการรถรับ-ส่งไปโรงพยาบาล และบริการ Premium Food Delivery จะให้บริการผู้เอาประกันภัยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ, นนทบุรี, ปทุมธานี และสมุทรปราการ ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่สีแดงเข้ม ซึ่งผู้เอาประกันภัยสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ต่างๆ ได้ผ่านแอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต ที่เมนูสิทธิพิเศษ ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2564 หรือจนกว่าสิทธิ์จะครบตามที่กำหนด

 ไทยประกันชีวิต Privilege  เป็นสิทธิพิเศษที่มากกว่าการประกันชีวิตสำหรับผู้เอาประกันภัยของบริษัทฯ แบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ ไทยประกันชีวิต INFINITE, ไทยประกันชีวิต ULTIMATE และไทยประกันชีวิต PRIME โดยพิจารณาตามเบี้ยประกันภัยที่ชำระต่อปีรวมทุกกรมธรรม์ สำหรับกรมธรรม์ประเภทรายบุคคลที่มีผลบังคับ ทั้งนี้ ผู้เอาประกันภัยจะได้ระดับสมาชิกทันทีโดยไม่ต้องสมัคร เพื่อรับการดูแลอย่างรอบด้าน ผ่านสิทธิพิเศษและกิจกรรมที่หลากหลายและครอบคลุม ทั้งด้านสุขภาพ บันเทิง ท่องเที่ยว ส่วนลดจากร้านค้า รวมถึงบริการพิเศษอีกมากมาย โดยไม่ต้องสะสมคะแนน

4623


นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เปิดเผยว่า สำหรับแผนการเพิ่มทุนมูลค่า  30,000 ล้านบาท  เพื่อรองรับการเติบโตใน 5 ปีข้างหน้า (ปี 2564-2568 )หนุนกำลังการผลิตที่10,000 เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอน คาดว่าแล้วเสร็จได้ภายในต้นปี2565

ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศหลายโครงการ ขนาดกำลังผลิตเกิน 100 เมกะวัตต์ขึ้นไป โดยขณะนี้มี 2  ดีล ทีี่มีความชัดเจน คาดสรุปหรือปิดดีลอย่างน้อย 1 ดีลในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในประเทศ คาดใช้เงินลงทุนราว 4,000-5,000 ล้านบาท 

ส่วนอีก 1 ดีล คาดปีดดีลได้ในกลางปี 2565 เป็นโครงการลงทุนโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ในต่างประเทศ ทั้งพลังงานทดแทนและก๊าซธรรมชาติ คาดใช้เงินลงทุนค่อนข้างมาก จึงจำเป็นต้องใช้เงินเพิ่มทุนดังกล่าว และยังใช้เวลาเจรจรพอสมควร

“แผนขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าในต่างประเทศสอดคล้องกับแผน 5 ปี มุ่งขยายโครงการโรงไฟฟ้าในอาเซียนและเอเชียแปซิฟิก เรา สนใจลงทุนเพิ่มเติมในไต้หวันและเกาหลีใต้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา จากปัจจุบันได้ลงทุนในเวียดนาม ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ แล้ว”   


ขณะที่งบลงทุนในปีนี้และปีหน้า บริษัทเตรียมไว้ปีละ ่ 15,000 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทยังมีวงเงินกู้จากสถาบันการเงินอีกราว 40,000-45,000 ล้านบาท และสามารถระดมทุนออกหุ้นกู้ในและต่างประเทศ ในจังหวะที่เหมาะสมได้อีก พร้อมรองรับการลงทุนในช่วงดังกล่าว 

สำหรับงบลงทุนปีนี้ที่ 15,000ล้านบาท เป็นลงทุนในโครงการเดิม 8,000 ล้านบาท และโครงการใหม่ 7,000 ล้านบาท โดยครึ่งหลังปีนี้ยังเหลืออีกราว 9,560 ล้านบาท ไว้รองรับการลงทุนโครงการใหม่และเดินหน้าโครงการลงทุนที่มีอยู่ ทั้งโรงไฟฟ้า และไม่ใช่โรงไฟฟ้า 

"ธุรกิจระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ธุรกิจเกี่ยวเนื่องพลังงาน และธุรกิจด้านสุขภาพ กำลังขับเคลื่อนโครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษาให้ไปสู่การร่วมทุนและดำเนินการเชิงพาณิชย์อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการร่วมทุนนวัตกรรมด้านไฟฟ้ากับกลุ่ม กฟผ.โครงการจัดตั้งโรงงานผลิตชีวมวลอัดแท่งในประเทศและสปป. ลาว ด้านสุขภาพขยายการลงทุนร่วมกับ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC เป็นต้น" 

นายกิจจา กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังคาดดีต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกที่กำไรพุ่ง 72%  โดยครึ่งปีหลังในแง่ของรายได้พยายามบริหารจัดการ โรงไฟฟ้าที่มีอยู่ให้พร้อมจ่ายไฟให้มากที่สุด  ถ้าโรงไฟฟ้าพร้อมจ่ายผลตอบแทนก็เป็นไปตามเป้า จึงเชื่อมั่นว่าที่ตั้งไว้จะเป็นไปตามเป้าหรือมากกว่าเป้าหมาย เพราะครึ่งปีแรกยังทำได้ดีกว่าเป้าหมายค่อนข้างมาก             

ขณะที่กำลังผลิตในปีนี้มั่นใจว่าเป็นไปตามเป้าวางไว้ที่ 8,874เมกะวัตต์ จากครึ่งปีแรกทำได้แล้ว 8,290.34 เมกะวัตต์  และปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 7,053เมกะวัตต์ คาดครึ่งปีหลังนี้จะ COD เพิ่มอีก 160 เมกะวัตตต์ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมเรียว อินโดนีเซีย และโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนาม ที่จะ COD ในไตรมาส 4ปีนี้ รวมสิ้นปีจะมีโรงไฟฟ้า COD แล้ว 7,213เมกะวัตต์ 

4624


แม้จะยังไม่ได้รับอิสรภาพอย่างสมบูรณ์แต่ล่าสุด “บริตนีย์ สเปียร์ส” ก็น่าจะได้หลุดจากการควบคุมดูแลของ “เจมี สเปียร์ส” พ่อของเธอซะที เมื่อฝ่ายผู้เป็นพ่อได้ประกาศตัดสินใจยุติการทำหน้าที่ผู้ดูแลตามกฎหมายของลูกสาว หลังมีกระแสกดดันจากทุกฝ่าย

ข่าวดังกล่าวได้รับการยืนยันจากเอกสารทางกฎหมายที่ระบุว่า เจมี สเปียร์ส ต้องการที่จะออกจากตำแหน่งและยืนยันว่า เขาจะขอเปลี่ยนผ่านหน้าที่ให้กับผู้ดูแลคนใหม่ต่อไป หลังเขาทำหน้าที่นี้มาตั้งแต่ปี 2008

โดยการตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังแฟน ๆ ได้พยายามกดดัน เพื่อเรียกร้อง สภาพให้กับศิลปินเจ้าของฉายา “เจ้าหญิงแห่งวงการเพลงป๊อป” ด้วยโครงการ #FreeBritney ซึ่งพวกเขามองว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมา บริตนีย์ สเปียร์ส ถูกคนรอบตัวใช้อำนาจของกฎหมายเอาเปรียบเธอมานาน

อย่างไรก็ตาม เจมี สเปียร์ส ก็ยังยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง และเชื่อว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ที่เขาต้องยอมสละนาที ก็เพราะรู้สึกว่าตัวเองได้กลายเป็นเป้าโจมตี โดยไม่มีเหตุมีผลจากสาธารณชน

สุดท้ายแล้วเขาจึงมองว่าการยุติหน้าที่เป็นผู้ดูแล น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกสาวในขณะนี้



อย่างไรก็ตามแหมแม้ตัวเองจะไม่ได้ทำหน้าที่แล้วผู้เป็นพ่อก็ยังเชื่อว่าลูกกสาวยังมีภาวะทางอารมณ์ที่ไม่มั่นคง และยังคงต้องการผู้ดูแลที่จะคอยจัดการเรื่องต่างๆในชีวิตให้ต่อไป ซึ่งเขาก็พร้อมที่จะส่งผ่านหน้าที่ให้กับผู้ดูแลคนใหม่

นอกจากนั้นเขายังกล่าวว่าแม้ตนจะไม่ได้ทำหน้าที่ผู้ดูแลตามกฎหมายแล้ว แต่เขาก็ คือพ่อของลูกตลอดไป จึงจะรักเธอโดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ แล้วจะทำทุกอย่าง ให้ดีที่สุดเพื่อเธอ เหมือนเดิม

ฝ่ายทนายความของ บริตนีย์ ได้แสดงความเห็นว่าทั้งฝ่ายเขารู้สึกยินดี กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ทีมกฎหมายของก็ยังรู้สึกผิดหวังที่คู่กรณียังคงใส่ความ และให้ข่าวโจมตีต่อไป ทีมกฎหมายยังมองว่า เจมี สเปียร์ส ควรจะเลิกถ่วงเวลา และออกจากตำแหน่งไปทันทีในตอนนี้ด้วยซ้ำไป และทีมทนายจะยังคงสืบสวนหาหลักฐาน เกี่ยวกับพฤติกรรมที่ เจมี สเปียร์ส สูบเงินจากลูกสาวไปหลายล้าน เหรียญสหรัฐ ฯ ในตลอด 13 ปี ที่ผ่านมาต่อไปด้วย

ตลอดปีที่ผ่านมา บริตนีย์ สเปียร์ส ได้พยายามต่อสู้เพื่ออิสรภาพของตัวเอง แล้วเพิ่งให้ข่าวว่าเธออาจจะไม่กลับขึ้นเวทีคอนเสิร์ตอีกแล้ว ถ้าต้องใช้ชีวิตภายใต้การบงการของคนอื่นแบบนี้

4625


ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,514.34 จุด ลดลง 1.96 จุด หรือ -0.06% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,806.11 จุด ลดลง 171.04 จุด หรือ -0.61% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 26,365.19 จุด ลดลง 26.43 จุด หรือ -0.10%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเช้านี้ สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2/2564 ขยายตัว 1.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากที่หดตัวลง 3.7% ในไตรมาส 1 โดยตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ของญี่ปุ่นขยายตัวได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวเพียง 0.7%


ทั้งนี้ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดนั้น เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการอุปโภคบริโภคและการใช้จ่ายด้านทุนของญี่ปุ่นเริ่มฟื้นตัวขึ้น หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

เช็คสถิติ 'ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล' ออกงวด 16 ส.ค. ย้อนหลัง 10 ปี 'หวย16/8/64'
ยอด 'โควิด-19' วันนี้ น่าห่วง! พบติดเชื้อเพิ่ม 21,157 ราย เสียชีวิต 182 ราย ไม่รวม ATK อีก 803 ราย
'โควิดติดเชื้อวันนี้' ชลบุรี 1,223 เสียชีวิตอีก 9 ราย จับตาสถานที่ทำงานยอดพุ่ง
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์กังวลว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกนั้น อาจขยายตัวไม่มากนักในไตรมาส 3 ปีนี้ หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศใช้มาตรการฉุกเฉินเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในหลายพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายภาคครัวเรือน

4626


วันนี้ (16 ส.ค.)​ นายสัคศิษฐ์ มุ่งการ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.ตราด เผยถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด -​19 ระลอก 3 ว่าได้ส่งผลต่อธุรกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างหนัก โดยเฉพาะ​การท่องเที่ยวบนเกาะช้าง ที่ในวันนี้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงมากถึง 90% 

ส่วนที่เหลือแค่เพียง 10 % ล้วนเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติทีอาศัยอยู่ในประเทศไทย และลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยบางส่วนเท่านั้น

ขณะที่ค่าใช้จ่ายและต้นทุนของผู้ประกอบการ​โรงแรมยังคงมีเท่าเดิม จนทำให้โรงแรมขนาดเล็ก และรีสอร์ทบางแห่ง รวมทั้งโฮมสเตย์ ต้องปิดตัวไปแล้วกว่า 40% ส่วนที่ปิดอยู่ก็มีนักท่องเที่ยวเพียง 10-20 คนเท่านั้น



" แม้ในวันนี้จะมีชาวตราด ที่ติดเชื้อโควิด-19 เพียง1,340 คน แต่ด้วยมาตรการของ ศบค.ซึ่งผู้ประกอบการ​ท่องเที่ยวต้องปฎิบัติ​อย่างเคร่งครัดในหลายด้านก็ทำให้ได้รับผลกระทบตามไปด้วย และล่าสุดสภอุาตสาหกรรมท่องเที่ยวจ.ตราด จึงได้ว ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ หามาตรการเพื่อฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยวให้ลักลับคืนมาให้ได้เร็วที่สุด "

โดยเฉพาะในวันนี้ที่ธุรกิจท่องเที่ยวใน อ. เกาะช้างได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการที่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ ส่วนนักท่องเที่ยวไทยแม้จะเดินทางท่องเที่ยวได้แต่ก็ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของ ศบค.

“ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.ตราด พยายามที่ผลักดันให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและสาธารณสุขจังหวัด เร่งสนับสนุนการฉีดวัคซีนในพื้นที่ อ.เกาะช้าง ให้ได้เกิน 70% ซึ่งก็ได้รับการตอบรับแล้ว ขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็จะได้หาวัคซีนเพิ่มจากหน่วยงานอื่นๆซึ่งก็ได้รับมาแล้วอย่างชิโนฟาร์ม"



นอกจากนั้นผู้กอบการยังได้สำรวจจำนวนประชากรแฝงทั้งกลุ่มแรงงานต่างด้าว ชาวต่างชาติ และชาวไทยที่เข้ามาทำงานในพื้นที่เพื่อจะได้สร้างระบบ”SHA PLASE”ของเกาะช้าง รองรับการเปิดการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้ เพื่อให้สอดรับกับโครงการ”พัทยา มูฟออนน์”อีกด้วย
 

หน้า: 1 ... 255 256 [257] 258 259 ... 263