แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - runwayhealty

หน้า: 1 2 3 [4]
55
  กระเจี๊ยบแดง ภาษาอังกฤษ Rosella, Jamaican Sorel, Roselle, Rozelle, Sorrel, Red Sorrel, Kharkade, Karkade, Vinuela, Cabitutu กระเจี๊ยบแดง ชื่อวิทยาศาสตร์ Hibiscus sabdariffa Linn. จัดอยู่ในวงศ์ฝ้ายหรือวงศ์ MALVACEAE เช่นเดียวกับกระเจี๊ยบเขียว ครอบฟันสี ชบา ปอกะบิด พลับพลา โพทะเล หญ้าขัด หญ้าขัดใบยาว หญ้าขัดใบป้อม และหญ้าขัดหลวง สมุนไพรกระเจี๊ยบแดง ยังมีชื่อท้องถิ่นอื่นๆ อีกเช่น ผักเก็งเค็ง, ส้มเก็งเค็ง, ส้มตะเลงเครง (ตาก), ใบส้มม่า (ระนอง), แกงแคง (เชียงใหม่), ส้มปู (แม่ฮ่องสอน), แบลมีฉี่ (กะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน), แต่เพะฉ่าเหมาะ (กะเหรี่ยงแดง), ปร่างจำบู้(ปะหล่อง), กระเจี๊ยบ, ส้มเก็ง ส้มพอเหมาะ (ภาคเหนือ), ส้มพอดี (ภาคอีสาน), กระเจี๊ยบแดง, กระเจี๊ยบเปรี้ยว (ภาคกลาง), ส้มพอ ส้มพอเหมาะ เป็นต้น มีถิ่นกำเนิดในประเทศซูดาน อินเดีย มาเลเซีย และประเทศไทย โดยในประเทศไทยมีแหล่งผลิตที่สำคัญ ได้แก่ จังหวัดลพบุรี สระบุรี อุตรดิตถ์ กาญจนบุรี และฉะเชิงเทรา



สรรพคุณของกระเจี๊ยบแดง B2B6 Plus

 กลีบเลี้ยงของดอก หรือกลีบที่เหลือที่ผล ใช้เป็นยาลดไขมันในเส้นเลือด และในการช่วย[^_^] โดยมีการทดลองกับกระต่ายที่มีไขมันสูง แล้วพบว่าระดับไครกลีเซอไรด์ คอเลสเตอรอล และระดับไขมันเลว (LDL) ลดลง และมีปริมาณของไขมันชนิดดี (HDL) เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ความรุนแรงของการอุดตันหลอดเลือดแดงใหญ่จากหัวใจก็น้อยลงกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับสารสกัดกระเจี๊ยบแดงอีกด้วย (ผล,เมล็ด,น้ำกระเจี๊ยบแดง)
 สรรพคุณของดอกกระเจี๊ยบแดง ช่วยละลายไขมันในเส้นเลือด (ดอก)
 เมล็ด ใช้เป็นยาบำรุงธาตุ บำรุงกำลัง (เมล็ด,น้ำกระเจี๊ยบแดง,ยอดและใบ)
 ช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
 ช่วยรักษาโรคเบาหวาน (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
 ช่วยลดความดันโลหิต โดยไม่มีผลร้ายแต่อย่างใด โดยมีรายงานการวิจัยทางคลินิกพบว่าในวันที่ 12 หลังผู้ป่วยได้รับชาชงกระเจี๊ยบแดงทุกวัน ค่าความดันโลหิตเมื่อหัวใจบีบตัวและคลายตัวลดลง 11.2% และ 10.7% ตามลำดับเมื่อเทียบกับวันแรก และ 3 วันหลังจากหยุดดื่มชาชงความความดันโลหิตทั้งสองค่าก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (น้ำกระเจี๊ยบแดง)
 สรรพคุณกระเจี๊ยบแดง เมล็ดช่วยบำรุงโลหิต (เมล็ด)
 ช่วยแก้เส้นเลือดตีบตัน ช่วยรักษาเส้นเลือดให้แข็งแรงและอ่อนนิ่มยืดหยุ่นได้ดี (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
 น้ำกระเจี๊ยบช่วยทำให้ความเหนียวข้นของเลือดลดลง (น้ำกระเจี๊ยบแดง)
 สรรพคุณของดอกกระเจี๊ยบแดง B2B6 Plus ช่วยรักษาโรคเส้นเลือดแข็งเปราะได้เป็นอย่างดี (น้ำกระเจี๊ยบแดง)
 ในอียิปต์มีการใช้ทั้งต้นของกระเจี๊ยบแดงนำมาต้มกินเพื่อเป็นยารักษาโรคหัวใจและโรคประสาท (ทั้งต้น)
 ช่วยแก้อาการคอแห้ง กระหายน้ำ (น้ำกระเจี๊ยบแดง,ผล)



 น้ำกระเจี๊ยบ สรรพคุณช่วยแก้อาการร้อนใน (น้ำกระเจี๊ยบแดง)
 ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
 ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ช่วยป้องกันหวัด เนื่องจากกระเจี๊ยบแดงมีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งเป็นสารสีแดงในกลุ่มเดียวกับที่พบในผลไม้อย่างบลูเบอร์รี่ แต่กระเจี๊ยบแดงจะมีสารชนิดนี้มากกว่าบลูเบอร์รี่ถึง 50%
 กระเจี๊ยบแดง BBWhite สรรพคุณช่วยลดไข้ (น้ำกระเจี๊ยบแดง)
 ดอกกระเจี๊ยบแดง สรรพคุณช่วยแก้อาการไอ (น้ำกระเจี๊ยบแดง,ใบ)
 ใบ ใช้เป็นยากัดเสมหะ ขับเมือกมันในลำคอ ให้ลงสู่ทวารหนัก (ใบ,ดอก)
 ช่วยรักษาและป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน เนื่องจากมีวิตามินซีในปริมาณที่สูงอยู่พอสมควร (น้ำกระเจี๊ยบ)
 ช่วยในการย่อยอาหาร ใช้เป็นยาระบาย ช่วยหล่อลื่นลำไส้ ทำให้อุจจาระนิ่มขึ้น (น้ำกระเจี๊ยบ,เมล็ด,ยอดและใบ)
 ในอียิปต์ มีการใช้ทั้งต้นนำมาต้นกินเป็นยา[^_^]เนื่องจากเป็นยาระบาย และยังช่วยฆ่าเชื้อในลำไส้ได้อีกด้วย (ทั้งต้น)
 ช่วยรักษาโรคกระเพาะ และลำไส้อักเสบ ด้วยการใช้ผลแห้งนำมาบดเป็นผง ใช้รับประทานครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วดื่มน้ำตามวันละ 3-4 ครั้ง (ผล)
 ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร B2B6 Plus ป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร (ผล)
 ใบกระเจี๊ยบแดง สรรพคุณช่วยแก้โรคพยาธิตัวจี๊ด หรือจะใช้ผลอ่อนนำต้มรับประทานติดต่อกัน 5-8 วัน หรือจะใช้ร่วมกับผสมในตำรับยาร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ หรือจะใช้ทั้งต้นใส่หม้อต้มกับน้ำ 3 ส่วน เคี่ยวไฟจนงวดให้เหลือ 1 ส่วน แล้วผสมกับน้ำผึ้งกึ่งหนึ่ง ใช้รับประทานวันละ 3 เวลา หรือจะรับประทานน้ำยาเปล่าๆ ก็ได้จนจนหมดน้ำยา (ใบ,ผล,ทั้งต้น)
 น้ำกระเจี๊ยบมีฤทธิ์ช่วยขับปัสสาวะ เป็นการช่วยลดความดันได้อีกทางหนึ่ง โดยมีรายงานวิจัยทางคลินิกว่า เมื่อให้ผู้ป่วยดื่มผงกระเจี๊ยบขนาด 3 กรัม ชงกับน้ำเดือด 1 ถ้วย ดื่มวันละ 3 ครั้ง นาน 7 วัน พบว่าได้ผลดีในการขับปัสสาวะ (น้ำกระเจี๊ยบแดง,เมล็ด,ยอดและใบ)
 ช่วยรักษาโรคทางเดินปัสสาวะ นิ่วในไต แก้โรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ ลดอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบมีอาการปวดแสบ โดยใช้กระเจี๊ยบแห้งบดเป็นผงประมาณ 3 กรัม นำมาชงกับน้ำเดือด 1 ถ้วย ใช้ดื่มวันละ 3 ครั้ง ประมาณ 7 วัน หรือจนกว่าจะหาย ซึ่งจากรายงานการวิจับพบว่าผู้ป่วยที่ดื่มน้ำกระเจี๊ยบแดงขนาด 3 กรัม ชงกับน้ำเดือด 1 แก้ว ดื่มวันละ 3 ครั้ง เป็นระยะเวลา 1 ปี พบว่าผู้ป่วยกว่า 80% มีปัสสาวะที่ใสขึ้นกว่าเดิม และยังพบว่าปัสสาวะมีความกรดมากขึ้น จึงช่วยในการฆ่าเชื้อในทางเดินปัสสาวะได้เป็นอย่างดี (น้ำกระเจี๊ยบแดง,เมล็ด)
 ช่วยแก้อาการขัดเบา B2B6 Plus โดยใช้กลีบเลี้ยงของผลหรือกลีบรองดอกสีม่วงแดง นำมาตากแห้งแล้วบดให้เป็นผง นำมาใช้ครั้งละ 1 ช้อนชา (ประมาณ 3 กรัม) ใช้ชงกับน้ำเดือด 1 ถ้วย (ประมาณ 250 มิลลิลิตร) แล้วนำมาเฉพาะน้ำสีแดงใส วันละ 3 ครั้ง ดื่มติดต่อกันทุกวันจนกว่าอาการจะดีขึ้นและหายไป (น้ำกระเจี๊ยบแดง)
 ช่วยป้องกันโรคต่อมลูกหมากโต (น้ำกระเจี๊ยบแดง)
 ช่วยเพิ่มการหลั่งน้ำดีจากตับ และช่วยป้องกันไม่ให้ตับถูกทำลาย (น้ำกระเจี๊ยบแดง,เมล็ด)
 สรรพคุณดอกกระเจี๊ยบแดง ช่วยรักษาไตพิการ (น้ำกระเจี๊ยบแดง)
 กระเจี๊ยบแดง สรรพคุณทางยาเมล็ดช่วยแก้ดีพิการ (เมล็ด)
 กระเจี๊ยบแดงมีฤทธิ์ต้านการเกิดพิษต่อตับ และช่วยป้องกันตับจากการถูกทำลายจากสารพิษ โดยมีงานวิจัยในสัตว์ทดลองพบว่าสารสกัดด้วยน้ำ (Anthocyanins) และสาร Protocatechuic Acid ของกระเจี๊ยบแดง สามารถช่วยลดความเป็นพิษต่อตับจากสารพิษได้หลายชนิด (น้ำกระเจี๊ยบแดง)
 ใบใช้ตำพอกฝี หรือใช้ต้มน้ำเพื่อใช้ล้างแผลได้ (ใบ)
 ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของกระเจี๊ยบแดง ช่วยลดอาการบวม ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ยับยั้งเชื้อราอะฟลาท็อกซิน ไวรัสเริม ยับยั้งเนื้องอก ช่วยขับกรดยูริก คล้ายกล้ามเนื้อเรียบ และลดความเจ็บปวด
 สารสกัดจากลีบดอกของกระเจี๊ยบแดงมีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนในเพศหญิง บีบีไวท์ จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อสตรีวัยทองไม่มากก็น้อย (กลีบดอก)
 ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง โดยสารแอนโทไซยานินจากกระเจี๊ยบมีฤทธิ์ช่วยยับยั้งออกซิเดชั่นของไขมันเลส และยับยั้งกายตายของมาโครฟาจ โดยมีสาร Dp3-Sam ซึ่งเป็นแอนโทไซยานินชนิดหนึ่งที่มีฤทธิ์ช่วยกำจัดเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวในห้องทดลองได้ จึงมีผลในการช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งและอาจช่วยชะลอการลุกลามของมะเร็งบางชนิดได้ (น้ำกระเจี๊ยบแดง)


บีบีไวท์ ประโยชน์ของกระเจี๊ยบแดง

 กระเจี๊ยบมีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) และมีสารโพลีฟีนอล ซึ่งได้แก่ Protocatechuic Acid ที่มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยชะลอความแก่ และช่วยให้เส้นเลือดอ่อนนิ่มได้
 กระเจี๊ยบใช้ทำเป็นน้ำดื่มที่ช่วยทำให้ร่างกายสดชื่น เนื่องจากมีกรดซิตริกอยู่ด้วยน้ำกระเจี๊ยบแดง บีบีไวท์
 ใบอ่อนของกระเจี๊ยบใช้รับประทานเป็นผักได้ หรือจะนำมาใช้ทำแก้งส้มก็ได้ ให้รสเปรี้ยวกำลังดี และยังมีวิตามเอสูง (12,583 I.U. ต่อ 100 กรัม) ที่ช่วยบำรุงสายตาอีกด้วย
 กลีบเลี้ยงผลและกลีบดอกอุดมไปด้วยแคลเซียม ที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง



 กระเจี๊ยบแดง จัดเป็นพืชส่งออกโดยนำไปใช้เป็นส่วนผสมสำคัญสำหรับ Herbal Tea และใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร ใช้บริโภคภายในประเทศ ใช้ทำเป็นผลิตภัณฑ์ได้อย่างหลากหลาย เช่น ผลิตภัณฑ์ชาชง กระเจี๊ยบแดงอบแห้ง BB White กระเจี๊ยบแดงแคปซูล เครื่องดื่มต่างๆ ใช้ในอุตสาหกรรมสีผสมอาหาร หรือใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร ได้แก่ แยม เยลลี่ เบเกอรี่ ไอศกรีม ไวน์ น้ำหวาน ซอส เป็นต้น รวมไปถึงในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เช่น โลชั่น ครีมกระเจี๊ยบแดง เจลอาบน้ำ ครีมขัดผิว เป็นต้น
 น้ำต้มของดอกแห้งจะมีกรดผลไม้หรือ AHA อยู่หลายชนิดในปริมาณสูง จึงมีการนำมาผลิตเป็นเครื่องสำอางประเภทครีมหน้าใส
 เมนูดอกกระเจี๊ยบแดง เช่น แกงส้มดอกกระเจี๊ยบ ยำดอกกระเจี๊ยบ บีบีไวท์ แยมดอกกระเจี๊ยบ ดอกกระเจี๊ยบแช่อิ่ม กระเจี๊ยบกวน ชากระเจี๊ยบแดง น้ำกระเจี๊ยบแดง เป็นต้น
 ในแอฟริกาใต้มีการน้ำมันจากเมล็ดเป็นยารักษาแผลให้อูฐ
 นอกจากนี้ลำต้นของกระเจี๊ยบแดงยังสามารถนำมาทำเป็นเชือกปอได้อีกด้วย

56
ลามาล่า สวยได้ไม่ต้องพึ่งเข็ม ครีมพิษผึ้งเปรียบเสมือนการทำโบท๊อกซ์ด้วยวิธีธรรมชาติ นี่คือทางเลือกที่สุดฮิดและดีที่สุดสำหรับคนที่ต้องการผิวหน้าเต่งตึงแต่กลัวเจ็บสำหรับคนที่ต้องการผิวเต่งตึง อ่อนเยาว์ ลดริ้วรอยโดยไม่ต้องการศัลยกรรม



ประโยชน์ของพิษผึ้ง LAMALA
- นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า พิษจากเหล็กไนของผึ้งช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ซึ่งทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น และไม่คล้ำเสียเพราะแดดเผา
- ครีม พอกหน้าและครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของพิษจากผึ้ง เป็นเครื่องสำอางที่นิยมในหมู่คนดังมาหลายปีแล้ว ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมนี้ได้มีวางขายแล้วที่นิวซีแลนด์หลังจากมีการ วิจัยมานานถึง 12 ปี เป็นผลงานของนักวิทยาศาสตร์


จากผลการวิจัยพบว่า พิษในเหล็กในของผึ้งสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และ อิลาสตินในผิวหนัง ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้ผิวดูเต่งตึง เยาว์วัย
- ครีมพิษผึ้ง ยังมีส่วนผสมที่สำคัญ คือ Manuka Honey (น้ำผึ้งที่เก็บได้จากต้นพุ่มมานูก้าจากประเทศนิวซีแลนด์) มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและแบคทีเรีย ที่เหนือกว่าน้ำผึ้งทั่วไป สามารถช่วยทำให้กระบวนการการผลัดเซลล์ผิวเป็นไปอย่างอ่อนโยน พร้อมทั้งปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ ได้ดีอีกด้วย
- Shea Butter ในตัว ครีมพิษผึ้ง จะทำหน้าที่เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ช่วยกักเก็บน้ำช่วยให้ผิวเรียบเนียน นุ่ม และชุ่มชื่นอยู่ตลอดเวลา

ครีมพิษผึ้ง LAMALA ทำงานยังไง
- พิษผึ้ง (Bee Venom) ที่ผสมอยู่ในเนื้อครีมจะเข้าไปทำให้ผิวหนังรู้สึกเหมือนโดนผึ้งต่อยเบาๆ (แต่ไม่เจ็บนะคะแค่หลอกผิวเราเฉยๆ) ซึ่งจะกระตุ้นให้ผิวหนังสร้างคอลลาเจนและ อิลาสตินอย่างเป็นธรรมชาติ จึงทำให้ผิวพรรณดูเต่งตึงเรียบเนียน ริ้วรอยลบเลือนลง

ครีมพิษผึ้ง LAMALA เห็นผลเร็วแค่ไหน
- ริ้วรอยจะเริ่มลบเลือน โดยผลลัพธ์ที่ได้จากครีมพิษผึ้ง ยังเป็นแบบ Cumulative กล่าวคือ ยิ่งใช้นานยิ่งเห็นผลมากขึ้นเรื่อยๆ



ส่วนประกอบ ครีมพิษผึ้ง LAMALA;
- New Zealand Bee Venom, Manuka Honey, Manuka Oil, Shea Butter, Cocoa Butter, Lavender Oil, Beta Carotene, Jojoba Seed Oil, Vitamin B3, Niacinamide, Vitamin E Tocopherol Acetate, Vitamin B5 Calcium d-Pantothenate, Vitamin C, Ascorbic Acid


วิธีใช้ ครีมพิษผึ้ง LAMALA
- ครีมพิษผึ้ง สามารถใช้ได้เป็นทั้งครีมและมาส์กในตัวเดียวกัน

ถ้าใช้เป็นครีม:
ตอนเช้า: ทา ครีมพิษผึ้ง ในปริมาณเล็กน้อยให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ตามด้วย มอยส์เจอร์ไรเซอร์ตามปกติ
ตอนเย็น: ทา ครีมพิษผึ้ง ในปริมาณที่มากกว่าตอนเช้าให้ทั่วใบหน้าและลำคอ และปล่อยทิ้งไว้

ถ้าใช้เป็นมาส์ก
- ทา ครีมพิษผึ้ง ให้ทั่วใบหน้าแล้วทิ้งไว้ 20 นาทีก่อนล้างออก เช้าและเย็น
- ทำความสะอาดใบหน้าและลำคอ หลังจากนั้นทา ครีมพิษผึ้ง ให้ทั่วใบหน้าและลำคอ เช้าและเย็น



วิธีการเก็บรักษา ครีมพิษผึ้ง:
- เก็บ ครีมพิษผึ้ง ในที่เย็นและพ้นแสงแดด


ข้อควรระวัง:
- ห้ามใช้ ครีมพิษผึ้ง นี้ในผู้ที่มีอาการแพ้เหล็กในผึ้ง
- ห้ามทา ครีมพิษผึ้ง ในบริเวณที่เป็นแผลหรือผิวหนังที่บวมพอง

ข้อแนะนำ:
- ในการใช้ ครีมพิษผึ้ง ครั้งแรก ถ้ายังไม่แน่ใจว่าแพ้หรือเปล่าให้ลองทา ครีมพิษผึ้ง ในปริมาณเล็กน้อยบนส่วนใดส่วนหนึ่งบนใบหน้า ทิ้งไว้ 20 นาที ถ้าผิวรู้สึกระคายเคืองอย่าใช้นะคะแสดงว่าแพ้ ระหว่างทาครีมบนผิวหน้าอาจรู้สึกตึงๆหน้านั่นแสดงว่า

57
วิตามินซี หรือ กรดแอล-แอสคอร์บิก หรือ แอล-แอสคอร์เบต เป็นวิตามินที่ละลายได้ในน้ำ D10 Plus ร่างกายไม่สามารถที่จะสร้างขึ้นเองได้ จึงจำเป็นต้องได้รับจากการรับประทานเข้าไป วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยเพิ่มภูมิชีวิตได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถป้องกันและรักษาการอักเสบอันเนื่องมาจากแบคทีเรียและ ไวรัส ได้ แหล่งของวิตามินซีในอาหาร วิตามินซีพบมากในผัก และผลไม้สดต่างๆ ผักที่พบมาก ได้แก่ ดอกกะหล่ำ กะปล่ำปม ขึ้นฉ่าย ต้นหอม ถั่วลันเตา ใบเผือก ใบมันสำปะหลัง ใบมะระจีน ผักกาดขาว ผักกาดเขียวปลี ผักโขม D10 Plus ผักคะน้า ผักชี ผักบุ้ง มะรุม ยอดมะม่วง และ ยอดมะละกอ เป็นต้น

D10 Plus ผลไม้ที่มีวิตามินซีมาก ได้แก่ เชอรี ส้มต่างๆ มะนาว ฝรั่ง มะขามป้อม มะขามเทศ มะละกอ ส้มโอ และ สตรอเบอรี เป็นต้น



 ในน้ำนมและเนื้อสัตว์ต่างๆ มีวิตามินซีน้อยมาก ในน้ำนมคนที่แม่ได้รับอาหารสมบูรณ์มีวิตามินซีมากกว่า น้ำนมวัว 4-6 เท่า


D10 Plus ประโยชน์ Vitamin C

1.เป็นตัวสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นเส้นใยทำหน้าที่เชื่อมเนื้อเยื่อต่างๆ ไว้ด้วยกัน ทั้งยังเป็นตัวสร้างกระดูก ฟัน เหงือก และเส้นเลือด
2.ช่วยให้แผลสดและแผลไฟไหม้หายเร็วขึ้น
3.ช่วยให้การดูดซึมธาตุเหล็กดีขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างเม็ดเลือดทางอ้อม
4.ช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ (Mutation)
5.ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคนอนหลับตายในกรณีเด็กอ่อน (SIDS: Sudden Infant Death Syndrome)
6.ช่วยแก้โรคเลือดออกตามไรฟัน D10 Plus
7.ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด ดีเท็น พลัส
8.ช่วยคลายเครียด
9.การฉีดด้วยวิตามินซีปริมาณสูง อาจช่วยหยุดยั้งโรคมะเร็งได้ โดยวิตามินอาจเข้าทำปฏิกิริยาทางเคมีในเซลล์ มะเร็ง ให้กลายเป็นกรดขึ้น ทำให้เนื้อร้ายชะงักและน้ำหนักลดไปได้


ผลไม้วิตามินซี สูง ดีเท็นพลัส

1.มะขามป้อม
2.มะปรางดิบ

3.ฝรั่ง
4.มะปราง



5.ขนุน
6.มะละกอสุก
7.มะขามหวาน
8.ส้มโอ
9.แตงไทย
10.แตงโม

 ข้อควรระวังก็คือ วิตามินซีจะสลายได้ง่ายเมื่อสัมผัสกับอากาศ แสง โลหะ น้ำ หรือความร้อน ดังนั้น D10 Plus เพื่อให้ได้วิตามินครบถ้วนจึงควรให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอนในการเตรียมและปรุงอาหาร ดีเท็น พลัส เช่น ล้างให้เรียบร้อยก่อนหั่นและอย่าแช่ผลไม้ทิ้งไว้ในน้ำนานๆ หากจะคั้นน้ำก็ควรคั้นแล้วรับประทานทันทีไม่ตั้งทิ้งหรือแช่ตู้เย็นเก็บไว้ แต่ถ้าจะเก็บจริงๆ ก็อย่าให้เกิน 2 วัน

58
★oVi Salmon Colla SOP1500+ (รกปลาแซลมอน)★ ขาวใส หน้าเด็ก ตึงกระชับ หน้าเด้ง สวย ให้ผิวขาวอมชมพู เด้ง กว่าคอลลาเจน 10 เท่า SOP1500+ ประกอบด้วย สารสกัดจากรังไข่ปลาแซลม่อน (Salmon Ovary Peptide) หรือ ที่ประเทศญี่ปุ่นเรียกว่า สารสกัดจากรกปลาแซลมอน

ราคา oVi Salmon Colla SOP1500+
รกปลาแซลมอน 1 กล่อง ราคากล่องล่ะ 250บาท

เปิดบิล 1000 บาท ราคากล่องละ 240บาท
เปิดบิล 3000 บาท ราคากล่องละ 235บาท
เปิดบิล 5000 บาท ราคากล่องละ 220บาท


โอวี่ แซลมอน คอลล่า เลขที่ อย. 24-1-20541-1-0016



วิธีการสั่งซื้อสินค้า VampireBeauty.com

Tel/Line : 0930631661 , 0804989998
Website : http://www.vampirebeauty.com
Facebook : http://www.facebook.com/VampireBeauty
Messages : https//www.facebook.com/messages/vampirebeauty
GooglePlus : https://plus.google.com/+VampireBeauty

★ประโยชน์ของ SALMON OVARY PEPTIDE (SOP) หรือ SALMON PLACENTA หรือ รกปลาแซลมอน★

ประโยชน์ของ SOP มีดังนี้
• กระตุ้นให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวขาวใสแบบธรรมชาติ
• เพิ่มการรักษาดุลยภาพของร่างกาย ผ่านทางระบบไหลเวียนโลหิต ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และผิวพรรณ
• ช่วยทำให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น จึงช่วยให้ขอบตาหายคล่ำ
• กระและริ้วรอยลดลงเนื่องจากกระบวนการผลิตเม็ดสีลดลง
• ปกป้องสภาพผิวไม่ให้แห้งกร้านสร้างความกระชับให้กับผิวหน้า ดูเต่งตึงขึ้น
• กระตุ้นการสมานเซลล์ผิว และช่วยเร่งการสมานแผลต่างๆรวมทั้งแผลเป็นไห้หายเร็วขึ้น
• เพิ่มความสดใสให้กับผิวที่แห้งกร้านจากแสงแดด และ UV
• กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว เพื่อให้ผิวเต่งตึงแบบวัยเยาว์



แนะนำการรับประทาน oVi Salmon Colla : ผสมในน้ำเย็นทานเวลาท้องว่าง เช้าและก่อนนอน (สารสกัดแบบผง)

 OVI SALMON COLLA SOP1500+ คือ SOP คือ Salmon Ovary Peptide ประกอบด้วยสารสกัดจากรังไข่ปลาแซลมอน (Salmon Ovary Peptide) หรือ ที่ประเทศญี่ปุ่น เรียกว่า สารสกัดจากรกปลาแซลมอน (Salmon Placenta) 100% ซึ่งจะมีสารที่มีประโยชน์ต่อมนุษย์ และโปรตีนมากกว่า 20 ชนิดรวมถึงเอมไซม์ในการสร้างชีวิต กว่าพันชนิดและมีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงาน oVi Salmon Colla ของ Growth Factor สามารถช่วยในเรื่องผิวพรรณ ริ้วรอย เติมน้ำในผิวและเพิ่มความยีดหยุ่นให้กับผิวรวมถึงกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด รวมถึงการปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกายด้วยเรียกได้ว่า สวย Prefect


oVi Salmon Colla เลขที่ อย. 24-1-20541-1-0016




  oVi Salmon Colla ประกอบด้วยสารสกัดจากรังไข่ปลาแซลมอน (Salmon Ovary Peptide) หรือ ที่ประเทศญี่ปุ่น เรียกว่า สารสกัดจากรกปลาแซลมอน (Salmon Placenta) 100% ซึ่งจะมีสารที่มีประโยชน์ต่อ มนุษย์ และโปรตีนมากกว่า 20 ชนิดรวมถึงเอมไซม์ในการสร้างชีวิตกว่าพันชนิดและมีส่วนช่วยกระตุ้น การทำงานของ Growth Factor สามารถช่วยในเรื่องผิวพรรณ ริ้วรอย เติมน้ำในผิวและเพิ่มความ ยืดหยุ่นให้กับผิวรวมถึงกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดรวมถึงการปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกายด้วย เรียกได้ว่า สวย Prefect ควรทานวันละ 1 ซองก่อนนอน


ประโยชน์ของ oVi Salmon Colla Salmon Placenta (SOP)

  ปกป้องสภาพผิวไม่ให้แห้งกร้านสร้างความกระชับให้กับผิวหน้าดูเต่งตึงขึ้น, เพิ่มการรักษาดุลยภาพของร่างกาย ผ่านทางระบบไหลเวียนโลหิต ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และผิวพรรณ, กระตุ้นให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวขาวใสแบบธรรมชาติ, ช่วยทำให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น จึงช่วยให้ขอบตาหายคล้ำ, กระและริ้วรอยลดลงเนื่องจากกระบวนการผลิตเม็ดสีลดลง, เพิ่มความสดใสให้กับผิวที่แห้งกร้านจากแสงแดด และ UV, กระตุ้นการสมานเซลล์ผิว และช่วยเร่งการสมานแผลต่างๆรวมทั้งแผลเป็นให้หายเร็วขึ้น, กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว เพื่อให้ผิวเต่งตึงเหมือนผิวเด็ก[/pre]


วิธีรับประทาน Ovi Salmon Colla SOP1500+ สารสกัดจากรกปลาแซลมอน ชงดื่มในน้ำสะอาดอุณหภูมิปกติหรือน้ำเย็น 1 แก้ว ประมาณ 150 มล. วันละ 1 คร้ังก่อนนอน กรณีเร่งด่วน ดื่มเพิ่ม ก่อนอาหารเช้า อีก 1 แก้ว


หน้า: 1 2 3 [4]